บรรณาการรักซาตาน (ล่ามรัก CEO ร้าย) พลอยวรรณกรรม Inlove Book
เขาล่อลวงเธอด้วยมนตราแห่งปรารถนา แต่สุดท้ายก็ได้รู้
หาใช่เขาที่เป็นผู้คุมเกมเสน่หานี้ไม่

Tags: เฮคเตอร์,อันนา,ล่ามรัก CEO ร้าย,อีวอนน์,คลินตัน

ตอน: Chapter 4 บทสัมภาษณ์ 2.2

อาจเป็นเพราะไม่คุ้นกับสถานที่ก็ได้ กว่าอันนาจะนอนหลับก็เกือบตีสี่ แล้วพอตื่นขึ้นมาเธอก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเมื่อคืนมัวแต่ใจเต้นและพะวงถึงแต่เจ้าของบ้าน

อันนาทอดถอนใจอย่างอ่อนเหนื่อย พลางกวาดตามองสำรวจรอบๆ เมื่อคืนเธอไม่ค่อยได้สนใจสภาพห้องพักของตัวเองมากนัก ดังนั้นเมื่อตอนนี้มีสติอยู่กับตัวเต็มที่เธอจึงได้พบกับความหรูหราที่แทบทำให้คิดว่ากำลังฝันไป

ห้องนอนห้องนี้กึ่งไม้กึ่งปูน สีขาวของผนังปูนตัดกับพื้นและฝ้าเพดานที่เป็นไม้ดูรับกันดี พื้นไม้ที่ตั้งเตียงยกระดับสูงกว่าพื้นหินอ่อนราวๆสามสิบเซนติเมตรกินพื้นที่หนึ่งในสาม เช่นเดียวกับฝ้าเพดานสองในสามเป็นสีขาวแยกเป็นสัดส่วนการใช้งานเด่นชัด ทางด้านซ้ายติดกระจกตั้งชุดโซฟาสีหม่น พื้นบริเวณนั้นปูพรม ข้างๆวางรูปปั้นสีขาวจำลองเทพแห่งกรีกโรมันตามลวดลายและเส้นสายลงสีทองเงาวับ ด้านหน้าเป็นโต๊ะกระจกใส วางแจกันดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนรูปทรงกลมๆเหมือนถ้วยส่งกลิ่นหอมฟุ้ง

แสงอาทิตย์ส่องลอดรำไรผ่านม่านไหมชั้นสองที่เป็นสีน้ำเงินเข้มบางๆเข้ามา ส่วนม่านหนาหนักอีกชั้นนั้นถูกผูกรวบไว้เรียบร้อยแล้ว อันนาผุดลุกขึ้นจากเตียงที่มีเครื่องนอนสีขาวห่อหุ้มร่างกายของเธอไว้

ชุดนอนของเธอเป็นเสื้อยืดตัวใหญ่ยาวคลุมเข่า นักข่าวสาวมองรอบตัวอย่างชื่นชมและตรงไปทางมุมโซฟา ตรงนั้นผนังกระจกสีหม่นส่องให้เห็นห้องน้ำหินอ่อน เธอเลื่อนเปิดบานประตูกระจก ในห้องน้ำพื้นหินอ่อนลายริ้วสีเทาเมื่อเท้าแตะลงไปให้สัมผัสเย็นสบาย ขวามือของเธอเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และที่สะท้อนเงาของเธออยู่ตอนนี้คือผนังกระจกของส่วนอาบน้ำ มือเรียวเอื้อมไปเลื่อนเปิดออกก่อนก้าวเข้าไป

ห้องอาบน้ำที่ใช้กระจกเงากั้นอีกทีด้านในแบ่งเป็นสองส่วน อ่างจากุชชี่เย้ายวนให้เธอลงไปนอนแช่ แต่เพราะเวลาที่ไม่เอื้อเท่าไหร่นัก ทำให้อันนาเดินเข้าไปถอดเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวด้านหลังของตู้อาบน้ำ เธอกลับออกมาในชุดคลุมสีขาว ก่อนก้าวเข้าไปในตู้อาบน้ำแล้วเปลื้องออกเผยเรือนร่างอรชร

สายน้ำจากชาวเวอร์ให้ความสดชื่นแก่เนื้อตัว วิวด้านนอกให้ความสบายและรื่นรมย์แก่จิตใจ นักข่าวสาวฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จัดการอาบน้ำสระผมซะหอมฟุ้งด้วยเครื่องประทินโฉมแบรนด์ดังที่จัดเตรียมไว้

เกือบครึ่งชั่วโมง เธอก็กลับออกมาในชุดเดรสยาวแขนกุดพิมพ์ลาย เส้นผมละเอียดราวกับไหมเธอผูกมันไว้ง่ายๆด้วยผ้าผูกผมสีเหลืองสดใส ดวงหน้านวลผ่องแอร่มจับตา ผิวเนื้อเนียนละมุนนั้นนอกจากครีมกันแดดแล้วก็คือแป้งเด็ก ส่วนริมฝีปากอิ่มทาแค่ลิปสติกไร้สีเพื่อให้ชุ่มชื้นเท่านั้น

อันนาจัดการเก็บของใส่กระเป๋าเดินทาง วันนี้หลังได้สัมภาษณ์ไม่ก็ถ่ายรูปเฮคเตอร์เล็กน้อย เธอจะขอตัวไปบ้านญาติของอีเดน แม้เมื่อคืนจะโทรศัพท์ไปบอกก่อนหน้านี้แล้ว แต่เธอก็ยังอยากไปให้ถึงที่นั่นก่อนค่ำอยู่ดี

เพื่ออะไรน่ะหรือ ก็เผื่อว่าจะได้นอนเต็มอิ่มสักตื่นน่ะซี และที่สำคัญ หาดทรายสวยๆกับน้ำทะเลใสๆ มันเร่งให้เธออยากกระโจนลงไปในนั้น อันนาดำนำแบบสน็อกเกิ้ลได้ และเธอคิดว่าถ้าอากาศดีและไม่มืดค่ำเกินไปนัก เธอจะลงไปทักทายโลกใต้น้ำสักหน่อย!

นักข่าวสาวก้าวออกจากห้องน้ำในเวลาหนึ่งชั่วโมงถัดมา เธอกลับมาเก็บที่นอนให้เรียบร้อยด้วยความเคยชิน และเดินไปเลื่อนเปิดม่านออก มือเรียวเลื่อนเปิดประจกออกไปยังระเบียงด้านนอก ดวงอาทิตย์กลมโตโผล่ขึ้นมาให้เห็น ท้องน้ำเป็นประกายมลังเมลืองสวยจับตา มีเรือยอชต์หลายลำทอดสมอกางใบเรืออยู่ห่างออกไป

อันนามองภาพตรงหน้าอย่างชื่นชม เธอทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ชายหาดรูปทรงคล้ายรองเท้าแตะหนึ่งในสามตัวที่วางอยู่ตรงนั้น พื้นฟูกหนานุ่มน่านอนทำให้เธอเลื่อนลูบมือไปมาอย่างพึงใจ ซ้ายมือเป็นทางเดินไปจรดที่อ่างน้ำวนนอกตัวบ้านขนาดเล็ก เธอชะเง้อคอมองอย่างสนใจ ก่อนหันกลับมาสำรวจด้านขวาดูบ้างและ... นิ่งไป

เฮคเตอร์ในชุดกางเกงขาสั้นกับเชิ้ตสีขาวแบะอกมองเห็นขนหน้าอกรำไรกำลังเดินตรงมา เธอเพิ่งรู้ระเบียงด้านนอกนี้เชื่อมกันทั้งหมด เขาสอดมือลงในกระเป๋ากางเกง ตามองไปยังวิวแม่น้ำเบื้องหน้า ริมฝีปากคลี่ยิ้มนิดๆ

แม่ช่วย! หล่อระเบิ้ดระเบ้อเล้ย!!

“ไฮ อันนา” เขาทักเมื่อเดินเข้ามาหยุดลงตรงหน้าเธอ นักข่าวสาวเงยหน้ามอง นัยน์ตายังมีแววเคลิบเคลิ้มจนมหาเศรษฐีหนุ่มพออกพอใจ และเฮคเตอร์ยังไม่วายกดหัวเธอให้หลงลงไปในปลักเสน่ห์ของตน ด้วยการทรุดลงนั่งยอง มือใหญ่หนายื่นออกมาตรงหน้า คลี่ยิ้มมหาเสน่ห์เพื่อพิฆาตแม่เหยื่อตัวน้อย

“แม่ตุ๊กตาตัวน้อย วันนี้คุณน่ารักมาก”

อันนาไม่รู้ตัวว่ายื่นมือออกไปหาเขา กระทั่งถูกจูบแผ่วเบาลงตรงหลังมือแล้วนั่นแหละ

“เอ่อ ขอบคุณค่ะ แต่ถ้าคุณทักว่าวันนี้ฉันน่าเกลียดนั่นต่างหากที่จะทำให้ฉันตกใจ”

แม่โว้ย! ยัยคนนี้นี่!!

มหาเศรษฐีหนุ่มหัวเราะเบาๆ เขาดึงมือเล็กฉุดให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ก่อนเบี่ยงตัวผายมือไปยังด้านที่เขาเดินจากมาอย่างเชื้อเชิญ อันนาแสร้งถอนสายบัว แล้วออกเดินนำด้วยท่วงท่านางพญา จนได้ยินเสียงหัวเราะขลุกขลักในลำคอดังมาจากด้านหลังนั่นแหละ จึงได้หยุดรอเพื่อจะเดินไปพร้อมกันกับเขา

“เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากค่ะมิสเตอร์เกลนนอน”

เธอเอ่ยบอกและยิ้มสดใส แต่เฮคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น หญิงสาวหัวเราะและรีบแก้คำ

“เฮคเตอร์” เขายักไหล่ เธอจึงพูดต่อ “ที่นี่สวยมากจริงๆ ฉันถามได้ไหมคะ ทำไมคุณถึงคิดเอาศิลปะแบบบาโรกมาผสมกับอาร์ทเดโค มันดูแบบ... น่าทึ่งมาก ภาพฝาผนังกับพวกรูปปั้นแนวเทพนิยายแบบนี้ มันดูขัดกันมากๆ แต่ก็ลงตัวได้อย่างน่าประหลาดจริงๆ”

“เบบี๋” เขาแสร้งย่นคิ้วนิ่วหน้า “คุณจะเริ่มสัมภาษณ์ผมตอนนี้เลยหรือ”

“โถ” อันนาบอกกลั้วหัวเราะ “ฉันแค่อยากรู้ค่ะเฮคเตอร์ มันสวยและแปลกมากจริงๆ”

“ในเมื่อไม่เกี่ยวกับงาน” เขาเอ่ยและหยุดยืนหันมามองเธอก่อนเราจะเลี้ยวลงบันได ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เธอกับมหาเศรษฐีหนุ่มหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขา “แล้วถ้าผมตอบ คุณจะให้... อะไรตอบแทน”

“คุณงกจังเลย”

เขายิ้มกับท่าย่นจมูกของนักข่าวสาว

“ผมเป็นนักธุรกิจนี่ แล้วอีกอย่าง... ที่ผมยอมให้คุณค้างที่นี่เป็นคนแรกเลยรู้ไหมเพราะอะไร”

“เพราะอะไรล่ะคะ” อันนากะพริบตาถามออกไป เฮคเตอร์รวบมือของเธอขึ้นมาในทันทีทันใดและจูบลงแผ่วๆที่หลังมือ หญิงสาวหน้าแดงก่ำ หัวใจเธอเต้นระทึกเมื่อฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งละขึ้นมาประคองที่ข้างแก้ม

“คุณถามผมหลายคำถามแล้วนะ ฉะนั้นเพื่อความเท่าเทียม ต้องมี... สิ่งแลกเปลี่ยน”

เขาหลุบตามองริมฝีปากมันวาว

“จูบหนึ่งครั้ง แลก... กับหนึ่งคำถาม ตกลงนะอันนา”

“เอ่อ...” ข้อตกลงฟังดูแต่... เธอพูดไม่ออก ใบหน้าเขาโน้มลงใกล้กว่าเดิม และ...

“อ๊ะ! ว้าวที่นี่มีชายหาดด้วย!”

คนกำลังโน้มหน้าลงมาหมายมอบจูบให้หลุดขำ เมื่อหญิงสาวเบือนหน้าหนีและรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

“อันนา” แต่ชายหนุ่มไม่ยอมและบังคับกึ่งประคองใบหน้าของเธอให้หันมามองเขา “คุณไม่รู้เลยหรือว่าทำไมผมถึงยอมให้คุณมาที่นี่ ทูนหัว... คุณจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แบบนี้ไม่ได้นะ”

“ฉัน...” เธอหลุบตาลงมองแผงอกกว้างตรงหน้า “มันเร็วไป... เราเพิ่งรู้จักกัน”

“มันไม่เร็วไปหรอก” เฮคเตอร์กระซิบแนบผิวแก้ม “เรื่องแบบนี้ มันใช้แค่ความรู้สึกก็พอ” เขาจูบลงกับผิวแก้มนุ่มนิ่ม หญิงสาวตัวสะท้านและตัดสินใจเงยขึ้นสบกับตาคู่คม “เรารู้สึกเหมือนกันไม่ใช่เหรออันนา ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน ตั้งแต่คืนนั้นที่เราได้สบตากัน”

เฮคเตอร์หมายถึงปรารถนาในเสน่หาแห่งเรือนร่างของกันและกัน

อันนาเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่เรียกว่ารัก หัวใจของเธอ หัวใจของเขา

“คุณรู้สึกเหมือนกันหรือคะ” เธอกระซิบทวนถามเสียงแผ่ว

แต่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ดันทำให้ทุกอย่างมันผิดเพี้ยน

“แน่นอนอันนา ทำไมผมจะไม่รู้สึกล่ะ” ริมฝีปากสองคู่คลอเคลีย อันนาหน้าแดงก่ำเธอรู้สึกว่าตัวเองเผยอริมฝีปากรอรับจูบจากเขาเมื่อเฮคเตอร์แนบเรียวปากลงมา ทว่า... เขากลับผละออกห่างและกดจูบลงบนมุมปากของเธอแทน

“ฉัน แต่... เฮคเตอร์คะ เราต่างกันเกินไป”

เธอเลียริมฝีปาก รู้สึกว่ามันแห้งผากจนน่าตกใจ

“ทูนหัว... แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้น” เขาหัวเราะ “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับอะไรเลยนอกจากเรา”

สิ้นเสียงเขาก็จัดการปิดกั้นคำถามที่จะตามต่อมาจากเธอ อันนาหลับตาลงและครั้งนี้จูบที่สามทำให้เธอตัวเบาจนเหมือนกับจะลอยได้ หญิงสาวโอบมือไปรอบลำคอแข็งแกร่งเพื่อยึดไว้ให้เป็นหลัก เขาเลื่อนมือลงไปโอบประคองเอวของเธอและดึงให้แนบชิดกับสะโพกเขา ปลายเท้าเรียวเขย่งขึ้นเพื่อรับจูบลึกล้ำแสนหวาน เอนร่างนุ่มนิ่มแนบชิดกับเรือนกายแข็งแกร่งอย่างเต็มอกเต็มใจยิ่ง

ท่ามกลางสายลม ท้องน้ำ และพระอาทิตย์เป็นพยาน

ความสัมพันธ์อันบิดเบี้ยว ซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!



ความวุ่นวายใน นิว นีเดอแลนด์ ทริบูน ยังคงเหมือนกับทุกวัน เหล่าผู้คนที่เหลือในออฟฟิศซึ่งรอ ‘ข่าว’ จากคนที่ออกไปตามหาใช่ว่าจะว่างงาน นิตยสารที่เพิ่งเปิดตัวใหม่กำลังรอที่จะวางแผง มีจำนวนทั้งหมดสามเล่ม ซึ่งในนั้นมีเนื้อหาให้ต้องรีบทำมากมายก่อนที่จะถึงกำหนดวางแผงในปลายเดือนนี้

ประตูห้องของอีเดนถูกเปิดออก มองเข้าไปจะเห็นชายเจ้าของห้องกำลังชื่นอกชื่นใจกับรายได้ของอาทิตย์ที่แล้ว ที่พุ่งยิ่งกว่าอาทิตย์ก่อน หลังข่าว ‘หลุด’ ออกไปว่า นิว นีเดอแลนด์ ทริบูน ได้สิทธิพิเศษสัมภาษณ์ เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน

เซบาสเตียนกับแคทเธอรีนคือคนที่เดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้าของสำนักพิมพ์ นักข่าวสาวสายสังคมหน้ายู่ ในขณะที่ช่างภาพหนุ่มยิ้มร่า เขาปิดประตูลงแผ่วเบาแล้วต้องชะงักกึก ก่อนเลิกคิ้วขึ้นเมื่อแคทเธอรีนหมุนตัวกลับมาประจันหน้า หญิงสาวทำหน้าทำตาอย่างกับจะฆ่าเขาให้ได้

“อะไร” คนพูดยักไหล่ มือสองข้างแบออก และ... หน้าเป็นที่สุด!

“แซม-ม-ม-ม”

หญิงสาวลากเสียงยาวแต่กดให้เบา

“ฉันมีงานปาร์ตี้งี่เง่าของพวกไฮโซในระยะนี้เป็นสิบ และมีงานสังคมสำคัญที่นักธุรกิจในนิวยอร์กจะต้องมารวมตัวกันเพราะประธานาธิบดีจะมาร่วมงานด้วยในอีกสองอาทิตย์หน้า และ... ถ้านายยังไม่รู้นะ ฉันมีคอลัมน์ที่ต้องรับผิดชอบแทนอันนาอีกห้าคอลัมน์ รู้ใช่ไหม”

เขาพยักหน้ารับและแคทเธอรีนก็ปรี๊ดแตก เธอพยายามยืดตัวให้สูงเพื่อจะไม่ต้องแหงนหน้ามองและยกมือขึ้นเท้าสะเอวเพื่อทำให้ตัวใหญ่ขึ้น ถึงมันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม

เพราะเธอก็เหมือนอึ่งอ่างที่กำลังพยายามทำตัวให้เท่ากับช้าง

“และนั่นก็หมายความว่าฉันไม่มีเวลาไปไมแอมี่กับนาย ใครใช้ให้นายไปเสนออีเดนว่าฉันเป็นคนที่จะไปด้วย ให้ตายเถอะ นายเป็นห่วงอันนา ฉันก็เป็นห่วง แต่... งานที่กำลังจะทับฉันตายเนี่ย ทำให้ฉันหายใจแทบไม่ได้อยู่แล้ว แล้วจะให้ฉันเอาเวลาไหนไปไมแอมี่ไม่ทราบยะ!”

“ก็อีเดนบอกแล้ว ให้เธอรีบเคลียร์คอลัมน์ในนิตยสารล่วงหน้า ส่วนงานข่าวในคอลัมน์หนังสือพิมพ์ให้คนอื่นรับไป” คนฟังกลอกตาไปมาและร้องเหอะ

“นั่นหมายถึงอาทิตย์หน้าที่ฉันจะต้องไปกับนาย แต่อาทิตย์นี้ล่ะ เดี๋ยวนะ ห้าคอลัมน์... แล้วงานรายวันอีกล่ะ จะไม่ให้ฉันนอนเลยหรือยังไงแซม นายมันเป็นช่างภาพนี่ ไม่เข้าใจพวกนักข่าวอย่างฉันหรอก!”

หญิงสาวถอนหายใจเฮือก และหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่มหน้ายุ่ง เธอยกมือขึ้นกอดอก

“เฮ้ๆ ไม่เอาน่าแคท” ตากล้องหนุ่มเดินจากด้านหลังมาด้านหน้านักข่าวสาว

“น่านะ ขอล่ะ ช่วยทีแคทเธอรีน เอ้า! ผมทำงานตัวเองเสร็จแล้วสัญญาจะเป็นคนขับรถและตากล้องให้เธอ จนกว่าเธอจะพอใจ เธอมีงานที่ไหน ต้องสัมภาษณ์ใคร หรืออยู่ตรวจบรู๊ฟดึกแค่ไหนผมช่วยเต็มที่เอ้า!” เขาทำหน้าละห้อย “แต่ขอละ แคท ก็อย่างที่เธอพูด อีเดนหวงอันนามาก ถ้าผมไปคนเดียวน่ะอย่าหวัง แต่ถ้ามีเธอ... เข้าใจใช่ไหม”

แคทเธอรีนสะบัดหน้าหนี ยังกรุ่นๆไม่หายแต่สุดท้ายก็ยอมแพ้

“จำไว้... นายติดหนี้ฉัน และอย่าลืมที่สัญญาล่ะ”

เซบาสเตียนยิ้มกว้างจนตาหยี และคนมองก็อดจะยิ้มตอบไม่ได้

“คืนนี้ มิดเดิ้ลทาวน์มีงานเลี้ยงครบรอบยี่สิบปีมอร์แกนกรุ๊ป งานเริ่มตอนสองทุ่มแต่ต้องไปให้ถึงก่อนตอนหนึ่งทุ่ม สามทุ่มที่แอลิแกนซ์กับงานฉลองแต่งงานของลูกสาวมิสเตอร์เคย์แมน ห้าทุ่มต้องไปให้ทันงานเลี้ยงฉลองหมั้นอย่างไม่เป็นทางการของวิสลีย์ นอร์แมน และ... ฉันต้องกลับมาปั่นต้นฉบับที่ออฟฟิศนี่จนกว่าจะเข้าแท่นพิมพ์”

ช่างภาพหนุ่มทำหน้าเบื่อโลก แคทเธอรีนจึงหัวเราะเสียงใส เธอยักไหล่บ้าง

“ช่วยไม่ได้นะพ่อหนุ่ม หกโมงเย็นไปรับฉันที่อพาร์ตเมนต์ด้วยแล้วกัน”

นิ้วเรียวของนักข่าวสาวเชยคางของช่างภาพหนุ่มขึ้น เซบาสเตียนยิ้มแห้งๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะขึ้นพร้อมกัน และบรรยากาศระหว่างทั้งสองที่ดูพิเศษนั้น ก็ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นที่เห็นหยุดมองพร้อมกับอมยิ้ม


=====================================================================>>>>

ดีค้า พาเฮคเตอร์กับอันนามาส่งค่ะ ^^

คุณแว่นใส ผู้ชายมีน้อย กรุณาใช้สอยอย่างประหยัดค่ะ 555
คุณsai 555 ตะละคนเริ่มเผยด้านร้ายละค่ะ แต่งานนี้ยัยอันจะรอดไหมหรือเจ็บหนัก หรือใครกันแน่ที่ต้องเจ็บมาลุ้นกันต่อตอนหน้านะคะ อิๆ
คุณZephyr เฟอร์รี่จัง 5555 อิมเมจนางมาจากปารีส ฮิลตันนะ เห็นนางแล้วคิดถึงเฟอร์บี้จริงจัง กร๊ากกกกกกกก ระวังๆๆจะอิจจนไฟลุกพรึ่บพั่บ เตรียมผ้าซับน้ำหมากไว้ด้วยนะ แอร๊ยยยยยยยยยย

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ

ส่วนสำหรับวันนี้ หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ ^^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.พ. 2559, 20:09:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.พ. 2559, 20:09:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1497





<< Chapter 4 บทสัมภาษณ์ 1.2   Chapter 5 คลื่นปรารถนา 1.2 >>
แว่นใส 9 ก.พ. 2559, 20:36:57 น.
เรื่องกำลังจะเริ่มเนอะ


Zephyr 10 ก.พ. 2559, 00:47:08 น.
มาม่ากำลังจะมาแล้ว
เพราะความปลาบปลื้มไม่ดูตาม้าตาเรือของยายอันนาเลย
นางเอ้ย ทำความเข้าใจกะเค้าหน่อยจ้า
ให้ความรักข้างเดียวของนางบังตาจริงๆ
สงสารดีมั้ยนะ


sai 10 ก.พ. 2559, 07:43:03 น.
เฮ้อออออ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account