: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 5 (50%)
ริสา ปรเมศวร์ สะพายกระเป๋าไว้บนบ่าข้างหนึ่ง อีกมือหิ้วกระเป๋าเอกสาร เมื่อลงบันไดมาถึงชั้นล่าง เธอส่งของในมือให้คนรับใช้นำไปไว้ที่รถ ส่วนตัวเองเข้าไปสมทบกับครอบครัวในห้องอาหาร เพียงกวาดตารอบโต๊ะ หญิงสาวก็ขมวดคิ้วถามสาวใช้ใกล้ตัว “หม่าม้าล่ะ”
“คุณผู้หญิงไปปฏิบัติธรรมที่สิงห์บุรีค่ะ ออกเดินทางตั้งแต่ตีห้าแล้ว”
ริสาพยักหน้าพร้อมกับโบกมือให้อีกฝ่ายพ้นจากห้อง เธอมองสำรับอาหารเช้าซึ่งจัดไว้สำหรับห้าที่ พลันมือก็เผลอกำแน่นกดกลั้นความรู้สึกเกลียดชังไว้อย่างยากเย็น
“อ้าว...ทำไมมีลื้อคนเดียวล่ะอาหยง” เสียงบิดาทักทายด้วยชื่อจีนที่เรียกกันเฉพาะคนในบ้านดังมาจากด้านหลัง
“แล้วอาฮกไปไหน”
“ยังไม่ตื่นเลยค่ะ เห็นว่าเมื่อวานเพื่อนๆมาจากเมืองนอก เลยไปฉลองกันยกใหญ่ กลับดึกน่ะค่ะ”
“เมื่อไหร่มันจะโตสักที เที่ยวเล่นเป็นเด็กๆตลอด สุขภาพก็ไม่ใช่ว่าดีนัก” ธนาส่ายหน้าระอา “แล้วลื้อล่ะ ตื่นเช้าเชียว”
“วันนี้หยงมีประชุมทั้งวันเลยค่ะ” หญิงสาวหมุนกายไปประคองแขนพาบิดามานั่งประจำที่
“เรื่องต่อสัญญากับซูเปอร์โคลาไปถึงไหนแล้ว”
“บ่ายนี้หยงจะวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้บริหารที่สเปนค่ะ ได้ความยังไงจะมารายงานเตี่ยอีกทีนะคะ”
“ดีๆๆ ให้สาวัชเข้าประชุมด้วยสิ อีจะได้เรียนรู้งาน ประเด็นนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว ช่วยกันคิดหลายคนดีกว่าหัวเดียว”
“สาวัชเพิ่งมาทำงานได้วันเดียวเองนะคะ เขาอาจจะยัง...”
“เตี่ยต้องให้ลื้อสอนเหรอว่าควรใช้คนยังไง” ธนาย้อนเสียงตึง
“ถ้าเตี่ยสั่งอย่างนี้ เดี๋ยวหยงเรียกเขาเข้าประชุมด้วยก็ได้ค่ะ” หญิงสาวจำใจรับคำ กดข่มความไม่พอใจภายใน
ธนาพยักหน้ารับรู้ สีหน้าเคร่งขรึม “อั๊วฝากด้วยนะ สาวัชเป็นคนฉลาด ใช้อีให้คุ้มค่าล่ะ”
“เตี่ยไม่ต้องห่วงค่ะ รับรองว่าหยงจะ ‘ใช้’ สาวัชให้สมกับความสามารถของเขาแน่นอน” ริสาวางมือที่กำลังปรุงข้าวต้ม ยกมุมปากขึ้น ดวงหน้ามีร่องรอยหมายมาด
“จากนี้ไปลื้อควรค่อยๆถ่ายงานในมือให้สาวัชได้แล้ว”
“ทำไมต้องทำอย่างนั้นคะ” หรือท่านคิดจะเกษียณตัวเอง มอบตำแหน่งซีอีโอให้เธอ แล้วเลื่อนสาวัชขึ้นมานั่งเก้าอี้ปัจจุบันของเธอ
“อายุลื้อก็ไม่น้อยแล้ว ควรจะแต่งงานแต่งการเสียที” ธนายิ้มนิดๆ “จำเจ็กพ้งได้ไหม ลูกชายเขายังโสด เตี่ยว่าเหมาะกับลื้อ ไว้จะนัดให้ไปดูตัวนะ”
“แต่ว่าเตี่ยคะ หยงยังไม่อยากแต่งงาน อย่าบังคับหยงไปดูตัวได้ไหมคะ”
ธนาแทบไม่สนใจฟังสิ่งที่เธอเอ่ย เพราะเขาหันไปทางประตูห้องทันทีที่ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งดังมาแต่ไกลพร้อมกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ฉมโชยมาตามลม บุรุษชราแต้มยิ้มไว้รอรับผู้มาใหม่อย่างเอาใจ เพียง ‘สองแม่ลูก’ เดินตามกันเข้ามาในห้องอาหาร สาวิตรีตรงเข้ามาเกาะบ่าธนาด้วยกิริยาแช่มชื่น อ่อนหวาน
“มาแล้วหรือสา หิวไหม”
ธนากับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ทักทายกันหนุงหนิง ริสากำช้อนกระเบื้องแน่นเพื่อระงับความรู้สึก เธอก้มหน้าสูดหายใจลึก แล้วจึงเงยขึ้นขึงตามอง ‘คนลูก’ ที่ตามหลังมาห่างๆ สาวัชก้มศีรษะทักทายเธออย่างนอบน้อมแล้วนั่งประจำที่เงียบๆ
“เอ้า อาหยง ลื้อมีเรื่องจะคุยกับสาวัชไม่ใช่เหรอ” เมื่อเธอยังนิ่ง บิดาก็ชงเอง
“วันนี้เจ้มีประชุมกับซูเปอร์โคลาตอนบ่ายสอง เข้าประชุมด้วยนะ” ริสาจำใจเอ่ยลอยๆ ขณะเสใช้ช้อนคนข้าวต้มช้าๆ
“ครับ”
“มีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็ปรึกษาเจ้ลื้อนะสาวัช อีกหน่อยพอลื้อแต่งงาน มีความพร้อมในทุกด้าน อั๊วจะแต่งตั้งให้ลื้อเป็นประธานบริหารและซีอีโอแทนอั๊ว”
“เตี่ยครับ ผมว่าคุณหยงเหมาะกับตำแหน่งนี้มากกว่า...”
ปัง! ธนาทุบโต๊ะขัดจังหวะ สีหน้าบอกชัดว่าพื้นเสีย มือชี้หน้าบุตรชายกำหราบเสียงกร้าว แววตาดุดัน “อั๊วไม่ได้ให้ลื้อออกความเห็น”
“ขอโทษครับเตี่ย” ชายหนุ่มก้มหน้าถอนใจ จึงไม่เห็นว่าริสากำลังมองไปด้วยสายตาเคียดแค้นเกลียดชัง!
มีเพียงคนเดียวที่เห็นสายตาคู่นั้นชัดเจน...สาวิตรี!
บรรยากาศในห้องประชุมผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่บริษัทปรเมศวร์เทรดดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในช่วงบ่ายค่อนข้างอึมครึม ไฟในห้องเปิดสว่าง ผืนผ้าใบขึงแทนกระดานหน้าห้องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์ค้างไว้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอันประกอบด้วยผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทั้งสายงานธุรกิจ การตลาด การผลิต บัญชี และฝ่ายกฎหมายนั่งประจำที่พร้อมพรัก ริสาเข้ามาในห้องก่อนเวลานัดเล็กน้อย เธอก้มศีรษะทักทายผู้อาวุโสส่วนใหญ่ ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อเห็นผู้ที่นั่งอยู่ตรงมุมด้านไกลสุดตรงปลายโต๊ะอีกด้านหนึ่ง
ดวงตาเรียวเฉียงวาวจ้า มือกำแน่นจิกเล็บลงในเนื้อพยายามระงับโทสะสุดความสามารถ ควบคุมตัวเองไปนั่งยังหัวโต๊ะด้วยความเยือกเย็น แล้วเริ่มการประชุมทันที
“ก็อย่างที่ทุกคนทราบ ซูเปอร์โคลาแจ้งขอปรับขึ้นราคาค่าหัวเชื้อน้ำหวานในไตรมาสหน้า ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เรารับไม่ได้ ทุกวันนี้เราต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งน้ำเชื่อม เชื้อเพลิง ค่าขนส่ง รวมถึงค่าแรงคนงาน แต่กลับเพิ่มราคาขายสินค้าของเราไม่ได้ ถ้าซูเปอร์โคลาขอขึ้นค่าหัวเชื้ออีก จากที่มาร์จิ้นเราบางอยู่แล้ว มันอาจกลายเป็นเข้าเนื้อ เพราะฉะนั้นหัวข้อหลักในการเจรจาวันนี้ก็คือเราต้องบีบให้ทางนั้นยืนราคาเดิม”
นิติกรของบริษัทเสริมว่า “นอกจากนี้ต้องไม่ลืมเรื่องการต่อสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในเมืองไทยด้วยครับ ทางสเปนยื้อเรื่องนี้มานานแล้ว ผมว่าเราควรสรุปให้จบเร็วที่สุดด้วย”
“มาช่วยกันภาวนาละกัน หวังว่าการเจรจาจะสำเร็จและเป็นผลดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย” ริสาเอ่ยขรึมๆ
ริสาปรายตามองไปทางปลายโต๊ะ เห็น ‘น้องชาย’ กำลังจดยิกๆใส่สมุดตรงหน้า หญิงสาวเม้มปากกลืนกลั้นความไม่พอใจ จากนั้นหันไปทางพนักงานซึ่งประจำอยู่ตรงคอมพิวเตอร์ “ฉันพร้อมแล้ว เชื่อมต่อไปที่สเปนได้เลย”
ไฟในห้องหรี่ลง เพียงชั่วครู่เครื่องฉายก็แสดงภาพจากวิดีโอปลายทางไปบนผืนผ้าใบ ผนังห้องประชุมทางสเปนเป็นสีแดงสลับโลโก้ตัวอักษรสีขาว ชาวต่างชาติที่ประจำอยู่รอบโต๊ะประชุมมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้เมืองไทย
ริสาทักทายถามสารทุกข์สุกดิบตามมารยาท จากนั้นมุ่งตรงเข้าสู่หัวข้อโดยไม่อ้อมค้อม ทั้งสองฝ่ายยกเหตุผล และกราฟต่างๆมาแสดงตอบโต้กันอย่างดุเดือด
เป็นที่รู้กันว่า โคคาโคลาและเป็ปซี่ผลัดกันถือครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดน้ำอัดลมแทบทุกประเทศในโลก โดยซูเปอร์โคลาไม่เคยแทรกเป็นยาดำได้เลย เป็นแค่คู่แข่งที่ถูกทิ้งห่างอยู่แสนไกล แต่มีเพียงแห่งเดียวในโลกซึ่งซูเปอร์โคลาคือน้ำดำที่ขายดีที่สุดถือครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึงหกสิบสามเปอร์เซนต์เหนือกว่าโค้กและเป็ปซี่รวมกัน นั่นก็คือ...ประเทศไทย!
ยอดขายรวมของธุรกิจน้ำอัดลมในประเทศไทยมีมูลค่ากว่าสี่หมื่นเก้าพันล้านบาทต่อปี ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงไม่แปลกที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในประเทศไทยเป็นลูกรักของบริษัทแม่ที่สเปน ทั้งยังถูกนำโครงสร้างบริษัทและแนวทางการบริหารไปใช้เป็นกรณีศึกษาเพื่อขยายตลาดในประเทศอื่นๆตามแบบอีกด้วย
แม้จะเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในประเทศ แต่สถานการณ์ของปรเมศวร์เทรดดิ้งก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด เกือบสี่สิบปีก่อนเมื่อกำลังการผลิตของโรงงานที่จังหวัดนครราชสีมาไม่เพียงพอ บิดาของธนาจึงนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ระดมทุนเพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินเพิ่มยังจังหวัดระยองและสร้างโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเพิ่มอีกแห่ง กระนั้นเพราะขนาดของโรงงานอันใหญ่โตทำให้ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เม็ดเงินซึ่งเคยหมุนเวียนในระบบหายไปเกินครึ่ง และนั่นคือครั้งแรกที่ซูเปอร์โคลาต้องเข้ามาอุ้มปรเมศวร์เทรดดิ้งด้วยการเทเงินลงทุนมาช่วยเหลือ แลกกับการถือหุ้นในบริษัท ๑๖.๖๕%
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและวิกฤตค่าเงินช่วงปี ๒๕๔๐ ทำให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งซวนเซอีกครั้ง เป็นผลให้ไม่มีกระทั่งเงินจ่ายค่าหัวเชื้อน้ำหวาน ซูเปอร์โคลาสเปนเสนอความช่วยเหลือด้วยการยกหนี้บางส่วนให้ ยืดระยะเครดิต และจัดสรรเงินมาลงทุนเพิ่ม พร้อมกับตั้งบริษัทซูเปอร์โคลา(ไทยแลนด์)ขึ้นมาถือหุ้นพีอาร์เอ็มอีก ๒๔.๙%เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นสัดส่วนที่ซูเปอร์โคลาถือหุ้นพีอาร์เอ็มอยู่ที่ ๔๑.๕๕% ขณะครอบครัวปรเมศวร์มีหุ้นรวมกันเหลือเพียงเก้าเปอร์เซ็นต์!
เกือบสองชั่วโมงที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้กัน ทางสเปนดึงหมากอีกตัวลงมาในเกมด้วยการข่มขู่ “หากเมืองไทยไม่ยอมให้เราขึ้นค่าหัวเชื้อน้ำหวาน การต่อสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในประเทศไทยที่กำลังจะหมดลง อาจล่าช้ากว่ากำหนดนะ”
“ซูเปอร์โคลาเคยต่อสัญญาให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งล่วงหน้าสิบแปดเดือน แต่รอบนี้คุณรอจนสัญญาจะหมดอยู่ปลายปีนี่ละ ยังจะมีอะไรล่าช้าไปกว่านี้อีกเหรอ” ริสายิ้มหยัน และแสดงความเด็ดขาดด้วยการประกาศเสียงกร้าว “ฉันยืนกรานคำเดิม ให้ซูเปอร์โคลายืนราคาค่าหัวเชื้อให้เราต่อไปอีกอย่างน้อยสองไตรมาส ถ้าคุณไม่ตกลง ปรเมศวร์เทรดดิ้งจะกันงบประมาณสั่งซื้อหัวเชื้อน้ำหวานไว้แค่สามพันล้านเท่าปีที่ผ่านมา ซื้อได้เท่าไหนก็เท่านั้น ปิดการประชุมได้ละ” เธอหันไปให้สัญญาณเจ้าหน้าที่เทคนิค ซึ่งตัดการเชื่อมต่อทันที
แสงไฟในห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง ริสาหน้าเคร่ง คิ้วขมวดมุ่นหันไปทางผู้รับผิดชอบ “ประมาณการณ์ได้ไหมคะว่าถ้าเราลดกำลังการผลิตลงเท่าตามจำนวนหัวเชื้อที่สั่งได้ จะกระทบยอดขายมากแค่ไหน”
ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและฝ่ายการตลาดหยิบเครื่องแท็บเล็ตมากดคำนวณและปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด เพียงชั่วครู่ก็ได้คำตอบ “ระยะแรกคงยังไม่กระทบ แต่ภายในหนึ่งไตรมาสซูเปอร์โคลาบางส่วนจะหายจากตลาดราวหกถึงเจ็ดเปอร์เซ็นต์ โค้กกับเป็ปซี่อาจถือโอกาสนี้เอาสินค้าเข้าวางแทน ตรงนั้นต่างหากที่เราต้องกังวล”
ริสาถอนหายใจ เพ่งมองมือที่กำลังหมุนปากกาอย่างหนักใจ บรรยากาศในห้องเงียบกริบ อึดอัดจนแทบระเบิด
“เราจะรอดูท่าทีของซูเปอร์โคลาอีกสักพัก ภายในอาทิตย์หน้าถ้ายังไม่มีคำตอบ ก็ให้ถือว่าฝั่งโน้นยืนยันราคาใหม่” เธอสั่งการผู้รับผิดชอบการเงินของบริษัท “กำชับเด็กจัดซื้อไว้ด้วยนะคะ ลดปริมาณสั่งซื้อลง ยอดเงินเท่าเดิม ได้ของเท่าไหร่ก็เท่านั้น เราต้องแสดงให้ซูเปอร์โคลาเห็นว่าเราจริงจังกับคำพูดของเรา ขอให้เรื่องที่ประชุมกันวันนี้อยู่แค่ในห้องนะคะ ห้ามแพร่งพรายให้คนนอกรู้เด็ดขาด วันนี้เลิกประชุมกันแค่นี้ค่ะ”
สาวัชมองพี่สาวด้วยสายตาแสดงความนับถือ เขาลุกขึ้นค้อมศีรษะนิดๆไปทางที่ริสานั่งอยู่ ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเห็นหรือไม่ แล้วเดินตามผู้บริหารส่วนใหญ่ออกจากห้องประชุม
ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมง เขาฟังข้อเสนอของทางสเปน และลองคาดเดาคำตอบโต้ไว้ในใจ แต่ก็พบว่าไม่มีคำไหนตรงหรือใกล้เคียงกับที่ริสากระทำเลยสักครั้ง หญิงสาวเขี้ยว คมและนิ่งจนน่ากลัว เขามั่นใจว่ามีนักธุรกิจน้อยมากที่กล้าต่อกรกับผู้หญิงเก่งคนนี้!
สาวัชเหลียวกลับไปมองริสาซึ่งกำลังพยักหน้าขรึมๆอธิบายคำสั่งกับคนรอบข้างอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มออกจากห้องประชุม พลางนึกโล่งใจ
โชคดีจริงๆที่คนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะคือริสา ไม่ใช่เขา!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
“คุณผู้หญิงไปปฏิบัติธรรมที่สิงห์บุรีค่ะ ออกเดินทางตั้งแต่ตีห้าแล้ว”
ริสาพยักหน้าพร้อมกับโบกมือให้อีกฝ่ายพ้นจากห้อง เธอมองสำรับอาหารเช้าซึ่งจัดไว้สำหรับห้าที่ พลันมือก็เผลอกำแน่นกดกลั้นความรู้สึกเกลียดชังไว้อย่างยากเย็น
“อ้าว...ทำไมมีลื้อคนเดียวล่ะอาหยง” เสียงบิดาทักทายด้วยชื่อจีนที่เรียกกันเฉพาะคนในบ้านดังมาจากด้านหลัง
“แล้วอาฮกไปไหน”
“ยังไม่ตื่นเลยค่ะ เห็นว่าเมื่อวานเพื่อนๆมาจากเมืองนอก เลยไปฉลองกันยกใหญ่ กลับดึกน่ะค่ะ”
“เมื่อไหร่มันจะโตสักที เที่ยวเล่นเป็นเด็กๆตลอด สุขภาพก็ไม่ใช่ว่าดีนัก” ธนาส่ายหน้าระอา “แล้วลื้อล่ะ ตื่นเช้าเชียว”
“วันนี้หยงมีประชุมทั้งวันเลยค่ะ” หญิงสาวหมุนกายไปประคองแขนพาบิดามานั่งประจำที่
“เรื่องต่อสัญญากับซูเปอร์โคลาไปถึงไหนแล้ว”
“บ่ายนี้หยงจะวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้บริหารที่สเปนค่ะ ได้ความยังไงจะมารายงานเตี่ยอีกทีนะคะ”
“ดีๆๆ ให้สาวัชเข้าประชุมด้วยสิ อีจะได้เรียนรู้งาน ประเด็นนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว ช่วยกันคิดหลายคนดีกว่าหัวเดียว”
“สาวัชเพิ่งมาทำงานได้วันเดียวเองนะคะ เขาอาจจะยัง...”
“เตี่ยต้องให้ลื้อสอนเหรอว่าควรใช้คนยังไง” ธนาย้อนเสียงตึง
“ถ้าเตี่ยสั่งอย่างนี้ เดี๋ยวหยงเรียกเขาเข้าประชุมด้วยก็ได้ค่ะ” หญิงสาวจำใจรับคำ กดข่มความไม่พอใจภายใน
ธนาพยักหน้ารับรู้ สีหน้าเคร่งขรึม “อั๊วฝากด้วยนะ สาวัชเป็นคนฉลาด ใช้อีให้คุ้มค่าล่ะ”
“เตี่ยไม่ต้องห่วงค่ะ รับรองว่าหยงจะ ‘ใช้’ สาวัชให้สมกับความสามารถของเขาแน่นอน” ริสาวางมือที่กำลังปรุงข้าวต้ม ยกมุมปากขึ้น ดวงหน้ามีร่องรอยหมายมาด
“จากนี้ไปลื้อควรค่อยๆถ่ายงานในมือให้สาวัชได้แล้ว”
“ทำไมต้องทำอย่างนั้นคะ” หรือท่านคิดจะเกษียณตัวเอง มอบตำแหน่งซีอีโอให้เธอ แล้วเลื่อนสาวัชขึ้นมานั่งเก้าอี้ปัจจุบันของเธอ
“อายุลื้อก็ไม่น้อยแล้ว ควรจะแต่งงานแต่งการเสียที” ธนายิ้มนิดๆ “จำเจ็กพ้งได้ไหม ลูกชายเขายังโสด เตี่ยว่าเหมาะกับลื้อ ไว้จะนัดให้ไปดูตัวนะ”
“แต่ว่าเตี่ยคะ หยงยังไม่อยากแต่งงาน อย่าบังคับหยงไปดูตัวได้ไหมคะ”
ธนาแทบไม่สนใจฟังสิ่งที่เธอเอ่ย เพราะเขาหันไปทางประตูห้องทันทีที่ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งดังมาแต่ไกลพร้อมกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ฉมโชยมาตามลม บุรุษชราแต้มยิ้มไว้รอรับผู้มาใหม่อย่างเอาใจ เพียง ‘สองแม่ลูก’ เดินตามกันเข้ามาในห้องอาหาร สาวิตรีตรงเข้ามาเกาะบ่าธนาด้วยกิริยาแช่มชื่น อ่อนหวาน
“มาแล้วหรือสา หิวไหม”
ธนากับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ทักทายกันหนุงหนิง ริสากำช้อนกระเบื้องแน่นเพื่อระงับความรู้สึก เธอก้มหน้าสูดหายใจลึก แล้วจึงเงยขึ้นขึงตามอง ‘คนลูก’ ที่ตามหลังมาห่างๆ สาวัชก้มศีรษะทักทายเธออย่างนอบน้อมแล้วนั่งประจำที่เงียบๆ
“เอ้า อาหยง ลื้อมีเรื่องจะคุยกับสาวัชไม่ใช่เหรอ” เมื่อเธอยังนิ่ง บิดาก็ชงเอง
“วันนี้เจ้มีประชุมกับซูเปอร์โคลาตอนบ่ายสอง เข้าประชุมด้วยนะ” ริสาจำใจเอ่ยลอยๆ ขณะเสใช้ช้อนคนข้าวต้มช้าๆ
“ครับ”
“มีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็ปรึกษาเจ้ลื้อนะสาวัช อีกหน่อยพอลื้อแต่งงาน มีความพร้อมในทุกด้าน อั๊วจะแต่งตั้งให้ลื้อเป็นประธานบริหารและซีอีโอแทนอั๊ว”
“เตี่ยครับ ผมว่าคุณหยงเหมาะกับตำแหน่งนี้มากกว่า...”
ปัง! ธนาทุบโต๊ะขัดจังหวะ สีหน้าบอกชัดว่าพื้นเสีย มือชี้หน้าบุตรชายกำหราบเสียงกร้าว แววตาดุดัน “อั๊วไม่ได้ให้ลื้อออกความเห็น”
“ขอโทษครับเตี่ย” ชายหนุ่มก้มหน้าถอนใจ จึงไม่เห็นว่าริสากำลังมองไปด้วยสายตาเคียดแค้นเกลียดชัง!
มีเพียงคนเดียวที่เห็นสายตาคู่นั้นชัดเจน...สาวิตรี!
บรรยากาศในห้องประชุมผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่บริษัทปรเมศวร์เทรดดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในช่วงบ่ายค่อนข้างอึมครึม ไฟในห้องเปิดสว่าง ผืนผ้าใบขึงแทนกระดานหน้าห้องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์ค้างไว้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอันประกอบด้วยผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทั้งสายงานธุรกิจ การตลาด การผลิต บัญชี และฝ่ายกฎหมายนั่งประจำที่พร้อมพรัก ริสาเข้ามาในห้องก่อนเวลานัดเล็กน้อย เธอก้มศีรษะทักทายผู้อาวุโสส่วนใหญ่ ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อเห็นผู้ที่นั่งอยู่ตรงมุมด้านไกลสุดตรงปลายโต๊ะอีกด้านหนึ่ง
ดวงตาเรียวเฉียงวาวจ้า มือกำแน่นจิกเล็บลงในเนื้อพยายามระงับโทสะสุดความสามารถ ควบคุมตัวเองไปนั่งยังหัวโต๊ะด้วยความเยือกเย็น แล้วเริ่มการประชุมทันที
“ก็อย่างที่ทุกคนทราบ ซูเปอร์โคลาแจ้งขอปรับขึ้นราคาค่าหัวเชื้อน้ำหวานในไตรมาสหน้า ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เรารับไม่ได้ ทุกวันนี้เราต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งน้ำเชื่อม เชื้อเพลิง ค่าขนส่ง รวมถึงค่าแรงคนงาน แต่กลับเพิ่มราคาขายสินค้าของเราไม่ได้ ถ้าซูเปอร์โคลาขอขึ้นค่าหัวเชื้ออีก จากที่มาร์จิ้นเราบางอยู่แล้ว มันอาจกลายเป็นเข้าเนื้อ เพราะฉะนั้นหัวข้อหลักในการเจรจาวันนี้ก็คือเราต้องบีบให้ทางนั้นยืนราคาเดิม”
นิติกรของบริษัทเสริมว่า “นอกจากนี้ต้องไม่ลืมเรื่องการต่อสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในเมืองไทยด้วยครับ ทางสเปนยื้อเรื่องนี้มานานแล้ว ผมว่าเราควรสรุปให้จบเร็วที่สุดด้วย”
“มาช่วยกันภาวนาละกัน หวังว่าการเจรจาจะสำเร็จและเป็นผลดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย” ริสาเอ่ยขรึมๆ
ริสาปรายตามองไปทางปลายโต๊ะ เห็น ‘น้องชาย’ กำลังจดยิกๆใส่สมุดตรงหน้า หญิงสาวเม้มปากกลืนกลั้นความไม่พอใจ จากนั้นหันไปทางพนักงานซึ่งประจำอยู่ตรงคอมพิวเตอร์ “ฉันพร้อมแล้ว เชื่อมต่อไปที่สเปนได้เลย”
ไฟในห้องหรี่ลง เพียงชั่วครู่เครื่องฉายก็แสดงภาพจากวิดีโอปลายทางไปบนผืนผ้าใบ ผนังห้องประชุมทางสเปนเป็นสีแดงสลับโลโก้ตัวอักษรสีขาว ชาวต่างชาติที่ประจำอยู่รอบโต๊ะประชุมมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้เมืองไทย
ริสาทักทายถามสารทุกข์สุกดิบตามมารยาท จากนั้นมุ่งตรงเข้าสู่หัวข้อโดยไม่อ้อมค้อม ทั้งสองฝ่ายยกเหตุผล และกราฟต่างๆมาแสดงตอบโต้กันอย่างดุเดือด
เป็นที่รู้กันว่า โคคาโคลาและเป็ปซี่ผลัดกันถือครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดน้ำอัดลมแทบทุกประเทศในโลก โดยซูเปอร์โคลาไม่เคยแทรกเป็นยาดำได้เลย เป็นแค่คู่แข่งที่ถูกทิ้งห่างอยู่แสนไกล แต่มีเพียงแห่งเดียวในโลกซึ่งซูเปอร์โคลาคือน้ำดำที่ขายดีที่สุดถือครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึงหกสิบสามเปอร์เซนต์เหนือกว่าโค้กและเป็ปซี่รวมกัน นั่นก็คือ...ประเทศไทย!
ยอดขายรวมของธุรกิจน้ำอัดลมในประเทศไทยมีมูลค่ากว่าสี่หมื่นเก้าพันล้านบาทต่อปี ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงไม่แปลกที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในประเทศไทยเป็นลูกรักของบริษัทแม่ที่สเปน ทั้งยังถูกนำโครงสร้างบริษัทและแนวทางการบริหารไปใช้เป็นกรณีศึกษาเพื่อขยายตลาดในประเทศอื่นๆตามแบบอีกด้วย
แม้จะเป็นผู้นำตลาดน้ำดำในประเทศ แต่สถานการณ์ของปรเมศวร์เทรดดิ้งก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด เกือบสี่สิบปีก่อนเมื่อกำลังการผลิตของโรงงานที่จังหวัดนครราชสีมาไม่เพียงพอ บิดาของธนาจึงนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ระดมทุนเพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินเพิ่มยังจังหวัดระยองและสร้างโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเพิ่มอีกแห่ง กระนั้นเพราะขนาดของโรงงานอันใหญ่โตทำให้ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เม็ดเงินซึ่งเคยหมุนเวียนในระบบหายไปเกินครึ่ง และนั่นคือครั้งแรกที่ซูเปอร์โคลาต้องเข้ามาอุ้มปรเมศวร์เทรดดิ้งด้วยการเทเงินลงทุนมาช่วยเหลือ แลกกับการถือหุ้นในบริษัท ๑๖.๖๕%
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและวิกฤตค่าเงินช่วงปี ๒๕๔๐ ทำให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งซวนเซอีกครั้ง เป็นผลให้ไม่มีกระทั่งเงินจ่ายค่าหัวเชื้อน้ำหวาน ซูเปอร์โคลาสเปนเสนอความช่วยเหลือด้วยการยกหนี้บางส่วนให้ ยืดระยะเครดิต และจัดสรรเงินมาลงทุนเพิ่ม พร้อมกับตั้งบริษัทซูเปอร์โคลา(ไทยแลนด์)ขึ้นมาถือหุ้นพีอาร์เอ็มอีก ๒๔.๙%เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นสัดส่วนที่ซูเปอร์โคลาถือหุ้นพีอาร์เอ็มอยู่ที่ ๔๑.๕๕% ขณะครอบครัวปรเมศวร์มีหุ้นรวมกันเหลือเพียงเก้าเปอร์เซ็นต์!
เกือบสองชั่วโมงที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้กัน ทางสเปนดึงหมากอีกตัวลงมาในเกมด้วยการข่มขู่ “หากเมืองไทยไม่ยอมให้เราขึ้นค่าหัวเชื้อน้ำหวาน การต่อสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซูเปอร์โคลาในประเทศไทยที่กำลังจะหมดลง อาจล่าช้ากว่ากำหนดนะ”
“ซูเปอร์โคลาเคยต่อสัญญาให้ปรเมศวร์เทรดดิ้งล่วงหน้าสิบแปดเดือน แต่รอบนี้คุณรอจนสัญญาจะหมดอยู่ปลายปีนี่ละ ยังจะมีอะไรล่าช้าไปกว่านี้อีกเหรอ” ริสายิ้มหยัน และแสดงความเด็ดขาดด้วยการประกาศเสียงกร้าว “ฉันยืนกรานคำเดิม ให้ซูเปอร์โคลายืนราคาค่าหัวเชื้อให้เราต่อไปอีกอย่างน้อยสองไตรมาส ถ้าคุณไม่ตกลง ปรเมศวร์เทรดดิ้งจะกันงบประมาณสั่งซื้อหัวเชื้อน้ำหวานไว้แค่สามพันล้านเท่าปีที่ผ่านมา ซื้อได้เท่าไหนก็เท่านั้น ปิดการประชุมได้ละ” เธอหันไปให้สัญญาณเจ้าหน้าที่เทคนิค ซึ่งตัดการเชื่อมต่อทันที
แสงไฟในห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง ริสาหน้าเคร่ง คิ้วขมวดมุ่นหันไปทางผู้รับผิดชอบ “ประมาณการณ์ได้ไหมคะว่าถ้าเราลดกำลังการผลิตลงเท่าตามจำนวนหัวเชื้อที่สั่งได้ จะกระทบยอดขายมากแค่ไหน”
ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและฝ่ายการตลาดหยิบเครื่องแท็บเล็ตมากดคำนวณและปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด เพียงชั่วครู่ก็ได้คำตอบ “ระยะแรกคงยังไม่กระทบ แต่ภายในหนึ่งไตรมาสซูเปอร์โคลาบางส่วนจะหายจากตลาดราวหกถึงเจ็ดเปอร์เซ็นต์ โค้กกับเป็ปซี่อาจถือโอกาสนี้เอาสินค้าเข้าวางแทน ตรงนั้นต่างหากที่เราต้องกังวล”
ริสาถอนหายใจ เพ่งมองมือที่กำลังหมุนปากกาอย่างหนักใจ บรรยากาศในห้องเงียบกริบ อึดอัดจนแทบระเบิด
“เราจะรอดูท่าทีของซูเปอร์โคลาอีกสักพัก ภายในอาทิตย์หน้าถ้ายังไม่มีคำตอบ ก็ให้ถือว่าฝั่งโน้นยืนยันราคาใหม่” เธอสั่งการผู้รับผิดชอบการเงินของบริษัท “กำชับเด็กจัดซื้อไว้ด้วยนะคะ ลดปริมาณสั่งซื้อลง ยอดเงินเท่าเดิม ได้ของเท่าไหร่ก็เท่านั้น เราต้องแสดงให้ซูเปอร์โคลาเห็นว่าเราจริงจังกับคำพูดของเรา ขอให้เรื่องที่ประชุมกันวันนี้อยู่แค่ในห้องนะคะ ห้ามแพร่งพรายให้คนนอกรู้เด็ดขาด วันนี้เลิกประชุมกันแค่นี้ค่ะ”
สาวัชมองพี่สาวด้วยสายตาแสดงความนับถือ เขาลุกขึ้นค้อมศีรษะนิดๆไปทางที่ริสานั่งอยู่ ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเห็นหรือไม่ แล้วเดินตามผู้บริหารส่วนใหญ่ออกจากห้องประชุม
ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมง เขาฟังข้อเสนอของทางสเปน และลองคาดเดาคำตอบโต้ไว้ในใจ แต่ก็พบว่าไม่มีคำไหนตรงหรือใกล้เคียงกับที่ริสากระทำเลยสักครั้ง หญิงสาวเขี้ยว คมและนิ่งจนน่ากลัว เขามั่นใจว่ามีนักธุรกิจน้อยมากที่กล้าต่อกรกับผู้หญิงเก่งคนนี้!
สาวัชเหลียวกลับไปมองริสาซึ่งกำลังพยักหน้าขรึมๆอธิบายคำสั่งกับคนรอบข้างอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มออกจากห้องประชุม พลางนึกโล่งใจ
โชคดีจริงๆที่คนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะคือริสา ไม่ใช่เขา!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
สิริณ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.พ. 2559, 16:25:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มี.ค. 2559, 16:16:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 1356
| << ตอนที่ 4 (100%) | ตอนที่ 5 (100%) >> |
Zephyr 25 ก.พ. 2559, 22:35:51 น.
อืม นายสาวัชจะรอดไหมนะ
ต้องเคี่ยวกรำอย่างมาก
กว่าจะลากเขี้ยวได้จดพื้น
อืม นายสาวัชจะรอดไหมนะ
ต้องเคี่ยวกรำอย่างมาก
กว่าจะลากเขี้ยวได้จดพื้น