กามเทพล้อมรัก (จบแล้วค่า)
เมื่อกามเทพพาให้เขาและเธอมาเจอกันโดยบังเอิญ

กระเป๋าเธอและเขาสลับกัน ทำให้เธอมาทวงของเธอคืน

ถ้ามันจะผิด ก็ผิดที่เขาดันเป็นทายาทของบริษัทคู่แข่ง ที่ไม่ว่าอย่างไร พ่อของเธอก็ไม่ยอมรับ

และเขาเองก็เช่นกันพ่อของเขาก็ไม่มีวันยอมรับลูกสาวคนที่เป็นคู่แข่งกันหรอก

แต่เรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น ทุกอย่างมันกลายเป็นกับดักของกามเทพขี้แกล้ง

ล้อมหัวใจคนที่ไม่ควรรักกันให้มาอยู่ใกล้กัน และรักกันในที่สุด
Tags: กามเทพ คู่กัด รักหวานแหวว

ตอน: ตอนที่ 2 - 100%

ตอนที่ 2 - 100%


ร้านอาหารญี่ปุ่นที่รามิลพาหญิงสาวมานั้นมีห้องหับเป็นส่วนตัว ทั้งคู่นั่งตรงข้ามกับโดยมีโต๊ะไม้ และหม้อไฟกั้นกลาง พร้อมอาหารญี่ปุ่นอีกสองสามอย่างวางอยู่ แต่หญิงสาวในชุดสีชมพูก็แทบไม่แตะอาหารเลยทั้งที่เธอหิวมาก

อมลรดาถอนหายใจเป็นสิบรอบ เธอทั้งเครียดทั้งกลัว

“รามิล ตำรวจเขาจะเรียกตัวเดียร์ไปคุยเมื่อไหร่" อมลรดาทำลายความเงียบลง เพราะรามิลบอกให้เธอกินข้าวก่อนค่อยคุยเรื่องที่ค้างไว้

“รอสรุปหลักฐานอีกนิดล่ะมั้ง อย่าคิดหนีล่ะ ถ้าหนีผมก็ช่วยคุณไม่ได้นะ"

รามิลเงยหน้าจากจานอาหารมองวงหน้าหวานที่เศร้าสร้อย ไม่เห็นเหมือนคนที่เถียงเขาฉอด ๆ ในห้องทำงานเขาเลย รามิลไม่ได้รู้สึกชอบมาดพยศมากกว่ามาดจ๋อย แต่แบบนี้ก็ดูจะสลดเกินไปหน่อยนะ

“อย่าเครียดไปก่อนสิ ผมบอกแล้วไงผมช่วยคุณได้ ... ในระยะเวลาหนึ่ง"

“ระยะเวลาหนึ่ง หมายความว่ายังไง" อมลรดาหน้าเสีย

“ก็ต้องรีบหาตัวคนร้ายให้เจอ คุณก็จะรอดพ้นข้อหาที่คุณโดนอยู่ไง" ร่างสูงตอบก่อนจะเริ่มตักปลาแซลมอนจากหม้อไฟใส่ชามส่งให้เธอ

“กินเยอะ ๆ กินให้เสร็จแล้วค่อยมาคุยกัน ... ถ้ากินไม่หมด ผมไม่คุยนะบอกก่อน" เขาเริ่มขู่เธอเสียงขรึมอีกแล้ว

อมลรดาถอนหายใจอีกรอบ แม้จะมองเขาตาขุ่นเขียวแต่ก็ต้องทำตามที่เขาสั่ง กระทั่งอาหารหมดไปจากโต๊ะ เหลือเพียงถ้วยชาเขียวร้อน และผลไม้หลังอาหารคนละจาน

“ตอนนั้นที่คุณเจอลุงวสันต์โดนตีหัว คุณบอกว่าคุณเห็นอะไรนะ" รามิลถามพลางตัดเมลอนจิ้มใส่ปาก

“กล่องสายฉีดดับเพลิงสีแดง ๆ มันอยู่ด้านหลังที่ลุงคนนั้นล้ม เลือดนองเต็มพื้นเลยนะรามิล" อมลรดาพยายามนึกเพิ่มอีก

“ตู้เก็บสายดับเพลิงมันมีทุกชั้น แต่จากมุมที่คุณเห็น ที่บอกว่ามีเงาขายาว ๆ ของคนนั่น มันทำให้ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ใกล้ลุงวสันต์เลย ก็แปลว่าคุณไม่ใช่ฆาตกรแน่นอน" รามิลพูดด้วยแววตามั่นใจมาก

อมลรดาไม่เข้าใจแต่รามิลกลับอมยิ้ม เขารู้จักทางในตึกแทบทุกมุม ก็วิ่งเล่นตึกนั้นมาตั้งแต่เด็กนี่นา!

“เพราะคุณวิ่งมาเจอผมประตูด้านหลังห้องทำงานของผม ตรงนั้นกับที่ที่คาดเดาว่าลุงวสันต์ถูกทำร้ายมันมีกระจกกั้นอยู่ ถ้าคุณพอจะจำได้ มันต้องมีกระจกกั้นอยู่"

“ใช่แล้ว เดียร์ก็ว่ามันมีกระจกใส มีระแนงสีดำระหว่างกระจกสองบาน ระแนงนั่นมันเชื่อมไปอีกตึก แสดงว่าเดียร์ไม่ได้อยู่ใกล้คนโดนทุบหัวจริง ๆ สินะ " อมลรดาเริ่มนึกออกอีกนิดแล้ว ความตกใจทำให้เธอลืมไปหลายอย่างทีเดียว!

“ตึกที่คุณเห็นระแนงเชื่อมมันคือตึกท่ีจอดรถ และระแนงที่มีไว้กันแดดของทางเชื่อมระหว่างตึกทำงานกับตึกที่ีจอดรถนั่นถ้าคุณอยู่ตรงที่ลุงวสันต์โดนตีหัว จากจุดนั้นมันวิ่งมาทางที่เราเจอกันไม่ได้หรอก ไม่มีทางเลยยกเว้นต้องลงไปชั้นล่างแล้วมาขึ้นลิฟท์ตัวที่ผมพาคุณลงไป ... มาคิดดูแล้ว คุณอาจจะซวยที่เข้าไปเวลานั้นพอดีมากกว่า"

รามิลวาดผังให้หญิงสาวดูง่าย ๆ บนกระดาษเช็ดปากด้วยปากกาที่เขาพกติดตัวเสมอ อมลรดาพยักหน้าอย่างนึกออก

“แต่ถึงจะพูดแบบนั้น พวกเขาก็คงไม่เชื่อเดียร์อยู่ดี ไม่มีพยานสักคน นอกจากคุณนี่รามิล" อมลรดารู้สึกปวดหัวกับทางตันที่เธอพบอีกครั้ง

คนฟังกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือเสียก่อน รามิลหน้าขรึมไปอย่างเห็นได้ชัดหลังจากอ่านข้อความ

“เรากลับกันเถอะ ผมจะไปส่งคุณที่สินสราญ" รามิลกดกริ่งบนโต๊ะเรียกพนักงานมาคิดเงินค่าอาหาร

“มื้อนี้เราแชร์กันนะ" อมลรดาบอกเมื่อเห็นเขาหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าสตางค์

“ไม่ต้องหรอก ผมเลี้ยงก็ได้ ผมชวนคุณมานี่" รามิลวางบัตรลงบนถาดรับเงินที่พนักงานสาวในชุดญี่ปุ่นวางบนโต๊ะ

“ไม่ได้ ! จะเลี้ยงทำไม เราอายุเท่ากัน อีกอย่างก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย"

หญิงสาวยืนกรานคำเดิม เธอดึงบิลจากพนักงานมาดูราคา จัดการหารครึ่ง ส่งธนบัตรยื่นให้ชายหนุ่มเสร็จสรรพ

“ฉันจ่ายเลขกลม ๆ ส่วนที่ขาดไม่กี่สิบบาทคุณก็เลี้ยง โอเคมั้ย ... ฉันไม่มีเศษน่ะ"

“สิ่งที่แตกต่างกันคือผมทำงานแล้ว แต่คุณเพิ่งทำงานวันแรกไง กวางน้อย" รามิลยอมให้เธอจ่ายด้วยก็ได้ เขาและหญิงสาวเดินออกจากห้องส่วนตัวไปยังประตูทางออกของร้าน

“แต่ฉันก็มีรายได้อยู่นะ ไม่ได้อยู่เฉย ๆ แบมือขอเงินพ่อสักหน่อย" อมลรดาแหงนหน้าเถียงคนตัวสูงกว่าหน้าตาจริงจัง เธอรับสอนภาษาอังกฤษผ่านอินเตอร์เน็ต มีคนเรียนกับเธอพอสมควรเลยล่ะ

"แล้วก็อย่ามาเรียกเดียร์ว่ากวางด้วย!”

รามิลพยักหน้ารับรู้ ลองเรียกอีกแบบดูซิ

“เหรอ ... งั้นเปลี่ยนเป็น งานสนุกมั้ยที่รัก"

“ห้ามเรียกที่รัก!” อมลรดาเสียงแหลมปรี๊ดใส่กับความกวนประสาทของเขา

“อ้าว! ก็บอกว่าชื่อแปลว่า ที่รัก ไม่ใช่เหรอ ... ฮึ โอเค ผมไม่แกล้งเดียร์แล้ว ... ทำงานวันแรกสนุกไหม" เขากระตุกยิ้ม เมื่อรู้สึกว่าการเย้าแหย่หญิงสาวให้โกรธนี่ก็สนุกดีพิลึก

คงเพราะน้องสาวแต่งงานไปแล้ว รามิลก็เหงาหูไปพักใหญ่ เพิ่งจะได้มาสนุกกับการแกล้งใครสักคนนี่ล่ะ

“แน่นอน สนุกมาก ราบรื่นสุด ๆ เลย"

อมลรดาโกหกทั้งเพ เธอแสนจะเบื่อกับการอ่านข้อมูลมหาศาลต่างหาก แต่เรื่องอะไรจะบ่นให้รามิลฟังล่ะ

“แสดงว่าสินสราญก็จะมีคนเก่งมาทำงานเพิ่มขึ้นสินะ ผมคงต้องขยันกว่าเดิมแล้วสิ" รามิลเลิกคิ้วสูง ริมฝีปากหยักของเขายิ้มน้อย ๆ ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือแค่หลอกข่มขวัญคู่แข่งกันแน่

แต่อมลรดาก็ติดกับไปเรียบร้อยแล้วล่ะ!

“โอ๊ย! ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องรีบหรอกคุณ ... ฉันเพิ่งเริ่มนะ คุณอย่าเพิ่งเร่งสปีดสิ ขอเวลาสองเดือนก่อนค่อยขยันกว่านี้ได้ไหม"

“สองเดือนนานไปนะ สองอาทิตย์ก็พอ" รามิลส่ายหน้าจริงจังมาก

“สองอาทิตย์พอที่ไหนล่ะ” หญิงสาวบ่นเบา ๆ

“เดียร์!” เสียงเรียกชื่อเธอจากรามิลดังประสานพร้อม ๆ กับเสียงร้องตกใจของอมลรดาที่ดังขึ้นเพียงเสี้ยวเดียวก็ถูกเขาปิดปากจนพูดอะไรไม่ได้ เมื่ออมลรดาถูกมือหนาของรามิลฉุดจนร่างเธอปลิวไปอยู่ในอ้อมแขนเขา

รามิลกอดเอวเธอแน่น ขณะที่อีกมือปิดปากไม่ให้เธอหลุดเสียงร้องใด ๆ ออกมา แล้วยังออกแรงกดศีรษะเธอจนใบหน้าแนบไปกับอกกว้างอีก

หญิงสาวยืนนิ่งเพราะตกใจมาก แต่พอได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงผ่านเสื้อเชิ้ต และเนื้อแน่น ๆ ของรามิล เธอก็ตื่นเต้นกว่าเดิม!

“รามิล คุณทำอะไร"

แต่รามิลไม่สนใจเธอ เขาเอาแต่จ้องไปยังมอเตอร์ไซด์ชุดดำที่จอดแอบอยู่หลังต้นไม้ แล้วกำลังลักลอบถ่ายรูปเขากับอมลรดามากกว่า !!

ทั้งคู่ยังยืนอยู่หน้าประตูร้านอาหารญี่ปุ่น เพียงลงบันไดไปก็จะได้ขึ้นรถยนต์ซึ่งจอดรถอยู่ แต่รามิลก็ไม่แน่ใจว่าคนที่แอบถ่ายได้รูปเขากับอมลรดาไปแล้วหรือยัง เหตุผลที่แอบถ่ายรูปคืออะไร ... เขาควรกันไว้ก่อนจะดีกว่า

“อยู่นิ่ง ๆ อยู่แบบนี้อย่าหันออกไปนะ" รามิลก้มลงกระซิบบอกเธอ

“ทำไม" อมลรดาเงยหน้าถามเสียงสั่นและแผ่วเบาเพราะอาการตื่นเต้น หน้าตาร้อนวูบวาบกับความใกล้ชิด โชคดีที่เขาสูงกว่าเธอ เมื่อเขาก้มลงมา จมูกเลยไม่ชนกัน!

“มีคนแอบถ่ายรูปเราสองคน ... เดียร์กอดผมแล้วปิดหน้าไว้ ... ไม่งั้นถ้ารูปเราสองคนหลุดไป พรุ่งนี้คุณกับผมต้องเคลียร์ข่าวยาวแน่ ... ไม่ใช่แค่ข่าวสิ พ่อด้วย พ่อเราต้องถามเราเยอะแน่นอนเลยล่ะ"




“คัพเค้กอร่อยไหมคะ พี่ดรีม" ดวงตากลมโตบนวงหน้ารูปหัวใจกระพริบถาม ขนตาแพยาวที่เป็นของแท้ของจริงงามงอนยิ่งทำให้ดวงตากลมหวานกว่าสิ่งไหน ๆ บนโลกนี้ แล้วยังรอยยิ้มกว้างจริงใจนั่นอีก

ดรัณถามตัวเองว่าเขาไม่ตกหลุมรักเจ้าของคนตัวหวานที่ชอบขนมหวานตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อนได้อย่างไร

พริมาเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนมัธยมปลายด้วยกัน อ่อนกว่าดรัณสองปี ตอนเขาเรียนมัธยมหก พริมาเพิ่งมัธยมสี่ การได้รู้จักผ่านเพื่อนที่เป็นพี่สาวคนสนิทของพริมา ทำให้ทั้งคู่คุยกันสนิทกันได้ง่าย

ตอนนั้นที่เจอครั้งสองครั้งก็ว่าน่ารักดี เขาจำได้ว่าพริมาให้ของขวัญตอนเขาเรียนจบด้วย

สงสัยมันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ใช่ก็ได้ แต่ตอนนี้ก็ไม่สายไปหรอกถ้าเขาจะหลงรักหลงใหลหญิงสาวตรงหน้า

“ทั้งอร่อย ทั้งหวานเลยครับ" ดรัณตักเค้กใส่ปาก ตาก็เอาแต่จ้องมองเจ้าของเสียงหวานสะท้านใจเขา

“หวานไปหรือคะ คราวก่อนที่เจอพี่ดรีมที่บริษัทพี่รามิล พี่ดรีมบอกว่ารสหวานไปหน่อย พรีมเลยปรับสูตรใหม่" พริมา หญิงสาวหน้าหวานตากลมอายุยี่สิบสามปีที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีถามชายหนุ่มรุ่นพี่

เธอจบช้ากว่าเพื่อนหนึ่งปีเพราะไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศมา และตอนนี้พริมาก็กำลังว่างงาน เธอวางแผนจะไปลงเรียนคอร์สทำขนมหวานอย่างเอาจริงเอาจัง รวมถึงมีความต้องการอยากเป็นเชฟทำขนมหวานที่ประสบความสำเร็จ

“ขนมไม่หวานมากหรอกครับ แต่น้องพรีมต่างหากที่ทำให้พี่ดรีมรู้สึกว่าโลกของพี่ดรีมหวานกว่าเดิม"

“พี่ดรีมน่ะ! พูดอะไรก็ไม่รู้" พริมาบิดตัวเขิน เธอทำเป็นหยิบกระดาษเช็ดปากจากกระเป๋าสะพายยื่นให้เขากลบเกลื่อนอาการเขิน

ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ที่สวนหย่อมเล็ก ๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลบริษัทของดรัณมากนัก พริมาขอนัดเจอเพื่อนำขนมคัพเค้กที่ปรับสูตรแล้วมาให้ดรัณชิม ก็ดรัณบอกเองว่าจะช่วยชิมของเธอจนกว่าจะวางขายได้

“เช็ดให้พี่ดรีมหน่อยสิน้องพรีม พี่ดรีมมองหน้าตัวเองไม่เห็นนี่นา" ดรัณอ้อน จนคนตัวเล็กกว่าหน้าแดงแป๊ด

“ก็ได้ค่ะ พี่ดรีมยื่นหน้ามาหน่อยสิคะ"

เขาทำตามที่เธอบอก วงหน้าที่เปื้อนยิ้มขยับมาจนเกือบถึงหน้าหญิงสาว พริมาค่อย ๆ ซับกระดาษที่มุมปากชายหนุ่ม อากาศก็ว่าร้อนแล้ว พอเห็นหน้าดรัณใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้หน้าร้อนมากขึ้น

“หมดแล้วค่ะ" พริมาดึงมือตัวเองคืน รู้สึกเหมือนเธออยู่ในความฝันเลย ถึงเธอจะเคยปลื้มดรัณสมัยมัธยม หากพอดรัณเรียนจบก็ไม่ได้พบหน้ากันอีก แม้ดรัณจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับพี่สาวที่เธอสนิทมากก็ตาม

แต่อาทิตย์ก่อน อยู่ ๆ พริมาที่ไปขอให้พี่รามิลชิมขนมแล้วพบความผิดหวังว่าพี่รามิลต้องออกไปธุระ ช่วยเธอชิมไม่ได้ พริมาก็เอาขนมและหัวใจห่อเหี่ยวกลับบ้าน ขณะเดินไปยังรถยนต์ที่เธอขับมา ความไม่ระมัดระวังทำให้เธอชนกับดรัณอย่างแรง กล่องคัพเค้กหล่นคว่ำกับพื้น เธอจะหงายหลังก้นกระแทกพื้นแต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงไว้ได้ทัน หากก็พากันล้มทับกันอยู่ดี

เธอหล่นลงไปบนตัวของเขา และพอเงยหน้าเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร พริมาก็จำเขาได้!

'พี่ดรีม!'

พริมาแปลกใจว่าทำไมดรัณถึงไปอยู่บริษัทพี่รามิลได้ ดรัณก็ให้คำตอบว่าเขามีธุระที่นั่น และกำลังจะกลับแล้ว พริมาเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัว และเชื่อคนง่าย รวมถึงอีกฝ่ายคือดรัณที่ทำให้เธอใจเต้นแรงอยู่แล้ว เธอเลยไม่ถามอะไรเขาอีก

และดรัณก็ช่วยชิมขนมที่หน้าคว่ำเละอย่างไม่รังเกียจอีก

'สงสารขนมออกนะครับ น้องพรีมก็ตั้งใจทำใช่ไหม พี่ดรีมช่วยชิมให้ก็ได้ไม่เป็นไรหรอก' ดรัณบอกอย่างใจดี

'หวานไปหน่อย กลิ่นก็แรงไปนิด แต่เนื้อขนมปังอร่อยแล้วนะ ไว้ถ้าทำอีกก็ให้พี่ดรีมชิมได้นะครับ' เขาชิมจนหมดสี่ชิ้น พริมาทั้งปลื้มทั้งประทับใจเขา มีการแลกเบอร์โทรศัพท์กับชื่อของโปรแกรมสนทนากัน ดรัณเขาทักเธอมา และโทรศัพท์หาเธอทุกหัวค่ำเลย

หญิงสาวสงสัยว่าเขาคิดอะไรกับเธอหรือเปล่านะ

“น้องพรีม" เสียงของดรัณปลุกให้พริมาตื่นจากความคิดตัวเอง มามองหน้าเขา "คิดอะไรอยู่ครับ แอบคิดถึงใครคนอื่นหรือเปล่า"

เพราะเขาหรี่ตาถามอย่างสงสัย ปลายเสียงเหมือนคนผิดหวัง ทำให้พริมารีบส่ายหน้าไว ๆ

“เปล่านะคะ พรีมก็คิดถึงพี่ดรีมนั่นแหละค่ะ อุ๊ย!” พริมาตกใจที่เธอตอบตรงไปหน่อย แต่ก็โล่งใจเมื่อดรัณยิ้มให้

“จริงหรือครับ คิดถึงพี่ดรีมหรือ ดีใจจังเลย"

“ดีใจหรือคะ" พริมาถามกลับอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าทำไมเขาถึงดีใจ

“ครับ ... พี่เป็นคนตรง ๆ นะ มีอะไรก็อยากบอกให้น้องพรีมรู้ ... พี่ดรีมชอบน้องพรีมนะครับ"

สิ้นเสียงทุ้มนุ่มของเขา ราวกับลมจะหยุดพัด เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บก็เงียบไป ได้ยินแค่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นรัวและแรง พริมาหยิกแก้มตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ฝันไป

“โอ๊ย เจ็บ" พริมาเจ็บแปลว่าไม่ได้ฝันไปสินะ! หากพริมาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี “พี่ดรีมชอบพรีมหรือคะ"

เขาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มสว่างไสว

“แต่น้องพรีมค่อย ๆ คิดก็ได้ว่าจะรับพี่ดรีมเป็นแฟนหรือเปล่า ค่อย ๆ ดูพี่ดรีมไปนะครับ ... เดี๋ยวพี่ดรีมต้องกลับไปทำงานต่อแล้วล่ะ"

ดรัณช่วยพริมาเก็บกล่องใส่ขนมเค้กที่หมดเกลี้ยง ก่อนจะเดินไปส่งพริมาที่รถยนต์กระป๋องสีชมพูคันเล็ก ๆ หลายวันมานี้เขาไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลย ถึงจะออกไปวิ่งที่สวนหน้าบ้านตอนเช้าทุกวัน ดรัณก็ยังหลอนว่ากางเกงคับขึ้นทั้ง ๆ ที่ก็ยังใส่ได้สบายเหมือนเดิม

“พี่ดรีมจะโทรหาตอนหัวค่ำนะครับ ขับรถดี ๆ นะครับน้องพรีม พี่ดรีมเป็นห่วง"

“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ดรีม" พริมาย่นคอเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือของดรัณวางลงบนเรือนผมยาว ๆ ของเธอ ซึ่งพอเขายกมือออก เธอก็รีบขึ้นรถแล้วขับจากไป

ดรัณเอาแต่ยืมยิ้มเหมือนคนบ้า ทั้งที่ท้องแน่นไปหมด หากรอยยิ้มของคนบ้าที่กำลังมีความรักก็ถูกขัดจังหวะเมื่อทโญโทรหาเขาเพื่อตามตัวกลับไปทำงาน!





สิ่งที่รามิลหวาดกลัวก็เกิดขึ้นจริง

ราวสิบเอ็ดโมงเช้า เขาเดินออกจากห้องทำงานทางประตูหลัง ลงลิฟท์มาที่รถยนต์อย่างรวดเร็ว หนุ่มตาสีฟ้าถือแทบเล็ตไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็กดโทรศัพท์หาหญิงสาวชุดชมพูคนในภาพเดียวกับเขา เขาไม่นึกถึงเสื้อนอกที่พาดอยู่ตรงพนักเก้าอี้ทำงานด้วยซ้ำ ทำให้เขามีเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอมเทากับกางเกงทำงานสีดำเท่านั้น

“เดียร์อยู่ไหน คุณเห็นข่าวหรือยัง" รามิลถามอย่างรีบร้อนทันทีที่อมลรดารับสาย

“เดียร์มากินข้าวกับเพื่อน ข่าวอะไรเหรอ" อมลรดายังไม่รู้เรื่องจริง ๆ เสียงพูดคุยจอแจที่ดังแทรกมาในโทรศัพท์ทำให้รามิลรู้ว่าหญิงสาวน่าจะอยู่ข้างนอก ไม่น่าอยู่ที่บริษัทพ่อของเธอ

“อยู่ไหน บอกมาเร็ว ๆ อย่าช้า ไม่อย่างนั้นคุณแย่แน่ เดียร์" รามิลไม่ได้ขู่ เพราะเขาเองก็รีบหนีพ่อเขาเหมือนกัน!

อมลรดาไม่เข้าใจคนในสายเลย แต่ก็ยอมบอกที่อยู่ของเธอให้เขา รามิลก็สั่งน้ำเสียงเด็ดขาด

“หาร้านกาแฟเงียบ ๆ ที่นั่นรอผม เดี๋ยวผมไปหา"




ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง รามิลก็มานั่งอยู่ตรงหน้าเธอในร้านกาแฟร้านหนึ่งซึ่งบรรยากาศเงียบเชียบอย่างที่เขาต้องการ เลือกมุมส่วนตัวในการพูดคุยกัน

เขาส่งแทบเล็ตให้เธอดูข่าวที่ทำให้เขาต้องรีบตามหาตัวหญิงสาว วันนี้อมลรดาสวมเสื้อสีเหลืองแขนกุด กระโปรงสั้นเข้ารูปสีขาว ผมยาวดัดเป็นลอนรับกับใบหน้าสวยหวาน เธอวางกระเป๋าหนังยี่ห้อแพงสีดำไว้บนโซฟาข้างตัว

“นี่มันรูปเดียร์นี่ แล้วก็คุณ!” เธอตาโต อ้าปากสีส้มนิด ๆ ค้าง เมื่อในแท็บเล็ตมีรูปเธอในชุดสีชมพูกำลังเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นกับรามิล แน่นอนพอกลับออกมาก็คือภาพเธอกับเขากอดกัน!

ภาพหลายภาพบ่งบอกชัดว่าเป็นเธอและเขา ใต้ภาพยังเป็นเนื้อข่าวเนื้อหาแซวว่าอาจจะมีการควบรวมอำนาจของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะทายาททั้งสองแอบพบคบหากัน ถึงกับกอดกันไม่ปิดบัง!

“เดียร์ ผมพลาดเอง ผม ...” รามิลถอนหายใจ เขาหลับตาลง ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น "ผมขอโทษนะที่ผมคิดผิดที่ทำให้คุณโดนถ่ายรูปบ้า ๆ พวกนี้"

“พวกเขาต้องการอะไร" อมลรดาถามอย่างไม่เข้าใจ

“ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ข่าวมันไปทั่วแล้ว พ่อผมเห็นแล้วด้วย พ่อคุณล่ะ"

รามิลยังไม่เจอพ่อเขาก็จริง แต่น้องสาวก็เป็นสายข่าวรายงานให้เขารู้จนเขาหนีพ่อออกมากได้ก่อนนี่แหละ พ่อภีมมีท่าทางไม่พอใจมากทีเดียวจนเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะโดนอะไรจากพ่อบ้าง!

แม้ปกติภีมวัชช์จะไม่ใช่พ่อที่ดุ แถมยังใจดีมากอีกต่างหาก รับฟังเขาทุกเรื่องทุกอย่าง หากรามิลก็ยังไม่พร้อมจะเจอหน้าพ่อเขาเวลานี้

“พ่อฉันไม่อ่านข่าวพวกนี้หรอก แต่อาทิวล่ะก็ไม่แน่ น้องดรีมอีก" อมลรดาหน้าเสียเหมือนคนจะร้องไห้ เพราะถ้าอาน่านทิวา คนสนิทของพ่อเธอเห็น พ่อเธอก็คงรู้ในไม่ช้านี้แน่ ๆ ส่วนดรัณ เธอขอให้ดรัณงานเยอะจนไม่สนใจข่าวพวกนี้เถอะ!

“แต่ถ้ารู้ ต้องแย่แน่เลย พ่อเดียร์ดุมากเลยนะ" คนเป็นลูกสาวย่อมรู้ดีกว่าใคร

“ผมเคยได้ยินมาอยู่ว่าพ่อคุณดุ" รามิลก็รู้มาบ้าง เขาเคยเห็นอนล บิดาของหญิงสาวผ่านตาตามงานสังคมต่าง ๆ แม้จะอายุเกือบหกสิบ แต่ก็ยังดูดี อ่อนกว่าอายุจริง และมีหน้าตาน่าเกรงขามจนเขาแค่มองยังรู้สึกเกร็งเลย

ทั้งสองมองหน้ากันก็ได้แต่ถอนหายใจ กระทั่งถูกรบกวนจากคนที่เดินเข้ามาทักทาย

“รามิล นั่นรามิลใช่ไหม"

ใครบางคนเดินเข้ามาทัก อมลรดาและรามิลเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นผู้หญิงผมยาว รูปร่างดี หน้าตาสวยเชียวล่ะ

“เอมี่" รามิลเรียกชื่อหญิงสาวในเดรสรัดรูปที่เข้ามาทักอย่างแปลกใจ อมลรดาจึงรู้ว่าทั้งคู่รู้จักกัน แล้วเธอก็กลายเป็นคนนอกไปทันที

“รามิลจริงด้วย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เมื่อวานรอยด์บอกว่าส่งข้อความบอกรามิลแล้วว่ารอยด์กับเอมี่จะกลับไทย นี่รามิลไม่ได้รับข้อความหรือ" เอมี่ เพื่อนสาวสมัยเรียนปริญญาโทของรามิลยิ้มหวานให้หยาดเยิ้ม

“เอ่อ ก็ได้อยู่ แต่พอดียุ่ง ๆ เลยลืมไปเลย" รามิลตอบทั้งที่สีหน้ายังงุนงงอยู่

“คุณคุยกับเพื่อนเถอะ ฉันว่าฉันขอตัวก่อนดีกว่านะ" อมลรดาไม่อยากอยู่เป็นส่วนเกิน เผื่อชายหนุ่มและคนรู้จักอยากจะคุยกันมากกว่านี้

“ไม่ต้อง! นั่งลงก่อนเดียร์ รามิลอยากให้เดียร์นั่งก่อน" รามิลรีบยกมือห้าม ทำให้อมลรดาที่ขยับลุกนั้นนั่งลงอย่างเดิม จับจ้องชายหนุ่มอย่างแปลกใจกับปลายเสียงที่คล้ายกับจะขอร้องเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอมี่ต่างหากที่มารบกวน ... ไว้นัดกินข้าวกันนะรามิล ชวนแฟนไปด้วยล่ะ" เอมี่ปรายตามองหญิงสาวที่รามิลรั้งไว้เมื่อเอ่ยคำว่าแฟนออกมา

“ไม่ใช่ ...” อมลรดาจะเถียง แต่ไม่ทันรามิลที่ตอบอีกฝ่ายไปก่อน

“ได้ ไว้จะพาแฟนไป ... ฝากทักทายรอยด์ด้วยนะ" รามิลยิ้มให้ โดยไม่สนตาวาว ๆ ของคนที่โดนคิดว่าเป็นแฟนเขา

"โอเค ... ไว้พบกันใหม่นะคะ" เอมี่หันมาร่ำลาอมลรดาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรแท้ ๆ แต่ทำไมคนฟังกลับรู้สึกเหมือนได้รับสาสน์ท้าชอบกล

ร่างระหงของเอมี่จากไปแล้ว แต่รามิลรู้ดีว่าเขาก็มีปัญหารอให้แก้อยู่อีก

“ใครแฟนรามิล" อมลรดาถามเสียงเข้ม ดวงตากลมขุ่นขึ้งจนถ้ามีมีดอยู่ในมือคงฆ่าเขาได้

“คุณไม่ใช่ก็เงียบ ๆ ไป" รามิลตวัดสายตาไปมองอย่างอื่นที่ไม่ใช่หน้าบึ้งตึงของอมลรดา กระทั่งเขาทนไม่ไหว ต้องเคลียร์ชัด ๆ

"นี่ ... ผมพยายามช่วยให้คุณหลุดจากข้อหาฆ่าคนตาย แถมยังต้องมาโดนถ่ายรูปบ้า ๆ เป็นข่าวนี่อีก แค่เงียบ ๆ รับสมอ้างช่วยผมไม่ได้เลยหรือ"

“มันไม่ใช่เรื่องช่วยกันง่าย ๆ ไหม แฟนนะคะแฟน"

คนฟังหงุดหงิดก็ใช่ แต่ก็จริงอย่างที่เขาพูด เธอฮึ่มฮั่มในอกแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี เพราะท่าทางแม่เอมี่อะไรนั่นคงเข้าใจไปแบบนั้นแล้ว

“แล้วเวลาโดนอ้างแบบนี้คนมันก็ตกใจกันทั้งนั่นล่ะ ... นั่นแฟนเก่าคุณล่ะสิ อยากเอาฉันไปเย้ยเหรอว่ามีแฟนใหม่ที่สวยกว่า อี๋มกว่า และสดกว่า" แววตาขุ่นเริ่มประกายความวับวาวเมื่อยกตัวเองข่มหญิงสาวคนเมื่อครู่ได้

รามิลมองหน้าคนหลงตัวเอง และไล่สายตาลงมายังจุดที่โดดเด่นทะลุมิติ เขาก็ยิ้มมุมปาก พลางยักไหล่ตอบ

“เอมี่ไม่ใช่แฟนเก่าผม สำหรับเรื่องสวยอึ๋มสด ถ้าคิดแบบนั้นแล้วทำให้คุณสบายใจก็ตามใจเถอะ ... คัพดีนี่ อย่างเอมี่มีไม่ถึงคุณหรอกนะเดียร์จ๋า"

“รามิล!” อมลรดาถลึงตาใส่คนยิ้มกวนโมโห หน้าก็ร้อน และอายเพราะเขาล้อปมด้อยของเธอ

"พอเถอะ ขี้เกียจทะเลาะ เราต้องไปจัดการเรื่องภาพในข่าวก่อน" รามิลเบ้ปาก ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงแล้ว

“ยังไง จ่ายเงินปิดปากหรือ" อมลรดานึกถึงวิธีการปิดข่าวที่เคยได้ยินมา แต่รามิลกลับขมวดคิ้วใส่เธอ ราวกับเธอพูดอะไรผิดมหันต์

“ไปพบพ่อผมก่อน พ่อช่วยเราได้แน่นอน" ร่างสูงขยับลุก ขณะถูกตั้งคำถามจากร่างบางที่งุนงง ตามเขาไม่ทัน

“ทำไมต้องพบพ่อรามิลก่อนล่ะ แล้วพบที่ไหน"

คนตอบชักสีหน้าอย่างรำคาญ

“ก็ต้องบริษัทโชควรารัตน์น่ะสิ ไปสินสราญคงได้เจอพ่อผมหรอกนะ มาเร็ว เสียเวลา"

รามิลดึงแขนของหญิงสาวที่ชักช้าให้เดินตาม ซึ่งเขาและเธอไม่รู้สึกตัวเลยว่าถูกแอบถ่ายอีกครั้งแล้ว!




อมลรดาเคยได้ยินว่าภีมวัชช์ พ่อของรามิลเป็นคนเก่ง ไม่รู้ว่าเก่งขนาดไหน แต่ที่แน่ ๆ คือ พ่อของรามิลใจดีกว่าพ่อของเธอ การไปขอความช่วยเหลือจากภีมวัชช์คือทางเลือกที่ดีที่สุด

“พ่อคุณจะไม่ไล่ตะเพิดเดียร์ออกมาจากห้องจริง ๆ นะ" อมลรดาถามเมื่อเขาขับรถพาเธอมาถึงบริษัทโชควรารัตน์แล้ว

“ไม่ไล่หรอก พ่อผมใจดี แค่อย่าทำให้หงุดหงิดเท่านั้น"

รามิลเดินนำหญิงสาวผ่านประตูเข้าอาคารด้วยทางธรรมดา แถมยังเป็นโถงชั้นล่างอีก เวลานี้มีพนักงานเดินผ่านไปผ่านมา และบางส่วนก็คงจำเธอได้เลยซุบซิบนินทากัน

“รามิล ทำไมคุณไม่ขึ้นไปทางลับคุณล่ะ" เธอเขย่าแขนอีกฝ่ายถาม พลางหลบหน้าลงเมื่อมีคนมองมาทางเธอ

“ไม่ต้องหลบแล้ว ข่าวมันออกมาขนาดนี้ หนีไม่รอดแล้วคุณ มาเถอะ" เขาปลดมือบางจากแขนมาจับไว้ เพื่อดึงให้เธอเดินต่อ

“คุณหลอกฉันหรือเปล่า" อมลรดาจะดึงมือออกจากมือเขาเพราะเริ่มลังเลใจ แต่เขากลับจับมือเธอแน่นกว่าเดิม ยังไม่ทันจะได้คุยต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือของอมลรดาก็ดังขึ้น

และดังขึ้นพร้อม ๆ กับมือถือของรามิลด้วย

“ว่าไงน้องดรีม ... ว่าไงนะ! ป๊ะป๋าเห็นข่าวพี่แล้ว?" ดวงตากลมเบิกกว้าง เงยมองหน้าสบตารามิลที่มีอาการไม่ต่างกัน คงมีใครสักคนรายงานข่าวให้เขารู้เช่นกัน

ทั้งคู่ยังไม่ทันวางโทรศัพท์มือถือลง จากจุดที่รามิลและอมลรดายืนอยู่นั้นสามารถมองเห็นคนคุ้นตาเดินผ่านประตูกระจกบริษัทโชควรารัตน์เข้ามาด้านใน

ไม่ใช่เท่านั้น รามิลตวัดตาไปตามเสียงฮือฮาเบา ๆ ที่ดังขึ้นด้านหลัง ก็เห็นพ่อของเขาเดินออกมากจากลิฟท์เช่นกัน

อมลรดา หรือแม้แต่รามิล ที่ว่ารู้ทางในตึกดีกว่าใครก็หนีไม่พ้น แม้จะมีคนคาบข่าวมาบอกก่อนก็ตาม

ภีมวัชช์ เจ้าบ้านหยุดยืนรอราวกับรับรู้การมาถึงแขกคนสำคัญ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ อนล สิริสราญ ผู้บริหารบริษัทคู่แข่งจะมาเยี่ยมเยือน ร่างสูงสง่าของอนลพร้อมคนสนิทเดินผ่านประตูเข้ามาอย่างไม่สนใจสายตาใครทั้งสิ้น


จบตอนที่ 2 -100%



ป๊ะป๋ามาแล้ว

อะหุ ๆ

ไม่ได้เจอกันนาน นับตั้งแต่เปิดศึกแย่งหญิงสมัยยังหนุ่ม ๆ 55555 บอกเลยงานนี้รามิลคอเกือบขาดค่ะ!



คุณ konhin - ลุงไปดีแล้ว เหลือแต่เดียร๋ที่ต้องมารับกรรม ซวยจริง ๆ 555

คุณ แว่นใส - แพนเขายังโอเคอยู่ แต่ตอนหน้านี่คอตกเลย สงสารหนุ่มกะทะนิดหน่อย 5555

คุณ สเลเต - เดียร์ยังทำตัวเองได้อีกเยอะค่ะ รามิลเลยต้องปวดหัวไปกับนาง ^^ แต่พระเอกเรื่องนี้ไม่โอ๋นะคะ อีกนานกว่าจะโอ๋ ๆ เดียร์ 5555

คุณ Zephyr - กะทะเขาคู่กับตะหลิวค่ะ เอ้ย! ไม่ใช่ เขามีคู่ค่า แต่ไว้รอดูคู่ของกะทะน้า เป็นคู่ซึนของเรื่องค่ะ ยิ่งกว่าคู่พระนางอีก 555 และตอนนี้พี่รามิลยิ่งกว่าประเจิดประเจ้ออีกค่ะ กอดหมับ ๆ แล้วก็เจอป๋าโหดบุกถิ่นเลย เอิ๊กกกกก มาลุ้นกันค่ะว่าจะโดนหมัดเสยบ้างไหม


พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า





ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 มี.ค. 2559, 00:21:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ต.ค. 2559, 22:28:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1486





<< ตอนที่ 1 - เจ้าชายตาสีฟ้า VS กวางน้อย   ตอนที่ 3 - จีบกันอีกแล้ว :P >>
ร้อยวจี 7 มี.ค. 2559, 10:53:41 น.
เอากับเขาสิ อย่างนี้เรียกเสือสองตัวมาอยู่ในถ้ำเดียวกันได้ไหมเนี่ย


แว่นใส 7 มี.ค. 2559, 18:34:23 น.
ใครวางแผนนะ


แกะดำ 7 มี.ค. 2559, 22:15:44 น.
เฮ้ พี่ดรีมคะ อะไรจะรุกเร็วปานกามนิตหนุ่มขนาดนั้น 55




สเลเต 7 มี.ค. 2559, 23:27:31 น.
น้องพรีมจะรับมือความร้ายกาจของพี่ดรีมไหวป่ะเนี่ย ใสซื่อขนาดนี้


konhin 7 มี.ค. 2559, 23:38:32 น.
หึๆ ซวยแล้วสิ พ่อกับพ่อมาเจอกัน มีลูกสองคนกำลังจะโดนจัดการพร้อมๆกัน ฮ่าๆๆ


Zephyr 10 มี.ค. 2559, 18:06:05 น.
เอ้ รึจะเป็นแผนพ่อๆกันนะ
แบบสงบศึกใต้โต๊ะอย่างเนียนๆ 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account