เพียงขวัญ (สนพ.Princess)
ประก๊าศประกาศ
"เพียงขวัญ" ได้ฤกษ์วางแผงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 นี้นะคะ

ราคา 230 บาท
สนใจสมารถสั่งซื้อได้ที่ www.satapornbooks.com

ส่วนใครอยากจะอ่านตัวอย่างเพื่อเป็นการตัดสินใจติดตามอ่านที่นี่ได้นนะคะ ลงให้อ่าน 70% หรือประมาณ 24 ตอน
และเนื้อเรื่องที่จะอัพในครั้งนี้เป็นเนื้อเรื่องที่ผ่านการรีไรท์เหมือนในรูปเล่มเลยนะคะ




ด้วยความที่มารดาอยากได้ลูกสาว เพียงขวัญ เลยได้รับการเลี้ยงดูเหมือนหญิงในร่างชาย นอกจากเรื่องชื่อแล้ว ใบหน้าของเขาก็หวานจนสาวๆ ยังต้องอาย และที่สำคัญ ชายหนุ่มยังรับช่วงต่อธุรกิจร้านเวดดิงสตูดิโอจากผู้เป็นมารดาอีกด้วย คงเป็นเรื่องยากที่จะมีใครเข้าใจว่าเขานั้นแมนร้อยเปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกัน ปราณปริยา ซึ่งช้ำรักจากว่าที่เจ้าบ่าวที่เพิ่งสารภาพว่าเป็นเกย์ เมื่อเพื่อนรักบอกว่าจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบได้เพียงเดือนเดียว แถมแฟนของเพื่อนดันสนิทกับผู้ชายหน้าหวานอย่างเพียงขวัญเสียอีก ยุทธการจับผิดผู้ชายแอ๊บแมนจึงเริ่มขึ้นทันที

เมื่อโดนหญิงสาวจับผิดทุกฝีก้าวขนาดนี้ ชายหนุ่มหน้าหวานอย่างเขาจะทำเช่นไรถึงจะพ้นจากข้อหานี้


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ติดตาม ติชมผลงานหรือพูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ รดามณี-ไหมขวัญ นะคะ (รออยู่น้าาาา)

https://www.facebook.com/%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5-%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D-384857278252407/
Tags: เพียงขวัญ,ไหมขวัญ,รดามณี,เกศมณี,มายา,นิยายรัก,โรแมนติก,แมย,เกย์,เข้าใจผิด,พริ้นเซส,สถาพร

ตอน: ตอนที่ 19 สงครามของหญิงแท้กับหญิงเทียม 50%

สิบเก้า

สงครามของหญิงแท้กับหญิงเทียม



ตั้งแต่วันนั้นที่ได้พูดคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองหรือเปล่า สรัลรู้สึกว่าการดำรงชีวิตราบรื่นขึ้น เขามีความสุขมากขึ้น ดารินทร์กับเวธน์ก็คืนดีกันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนปราณปริยาก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขาค่อนข้างมาก พี่ชายทั้งสามโดยเฉพาะพีรณัฐ ที่รู้ถึงที่มาของบาดแผลในใจของปราณปริยาก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า

“พี่ว่าแกถอยห่างจากคุณป่านดีกว่า ถ้าเกิดไม่จริงจัง เดี๋ยวจะทำเขาเจ็บปวด หน้าตาอย่างแกนี่เขาต้องคิดว่าเพราะแกเป็นเกย์แหงๆ” พีรณัฐเตือนน้องชายด้วยความจริงใจ แต่ใครจะไม่รู้ว่านั่นคือการเขี่ยศัตรูออกจากเส้นทางการจีบหญิงของตัวเอง

“พี่ดีตายละ พูดอย่างนี้กะจะสวมรอยแทนละสิ” พีรดนย์บอกอย่างรู้ทัน เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพี่ชายหันมาถลึงตาใส่

“แล้วนายกับคุณป่านคบกันถึงขั้นไหนแล้วล่ะ” พี่ใหญ่ถามเสียงเรียบ

“ไม่ได้คบ แค่เจอกันเพราะเขามาเป็นเพื่อนคุณอ้อน หลังจากนั้นก็เจอกันบ้างแล้วแต่โอกาส”

“ไม่ได้คบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไรในกอไผ่นี่” พีรณัฐที่รู้สันดานพื้นฐานทั่วไปของผู้ชายดี เพราะยึดตามมาตรฐานของตัวเอง

“ไม่มี้”

“ปฏิเสธเสียงสูง พยายามไม่หลบสายตาแบบฝืนๆ” แล้วก็เป็นพีรณัฐที่เอ่ยถึงปฏิกิริยาของน้องเล็กขึ้นเป็นคนแรก หลังจากที่หรี่ตามองอย่างจับผิด

“ไร้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ กะพริบตาปริบๆ กัดปาก ลุ้นว่าที่พูดไปคนอื่นจะเชื่อหรือไม่” ตามด้วยพีรดนย์ที่เสริมต่อ

“นายโกหก” สุดท้ายก็เป็นพี่ใหญ่อย่างพีรทัตที่เอ่ยปากสรุป เป็นผลให้คนที่สนใจปราณปริยาอยู่เป็นทุนเดิมอย่างพีรณัฐถึงกับโอดครวญ

“โหยยย...อะไรวะ นี่อย่าบอกนะว่าแก...เรียบร้อยแล้ว”

“แค่จูบ”

สุดท้ายเขาก็เผลอหลุดปากเอ่ยออกไปจนได้ ไม่อย่างนั้นก็คงต้องโดนต้อนจนหลุดปากอยู่ดี ก็พี่ๆ ของเขารู้จักเขาดีขนาดนี้นี่นา

เมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้เขาจึงโดนพีรณัฐกับพีรดนย์ซักไซ้ใหญ่ ส่วนพีรทตนั้นก็ได้แต่เอ่ยเตือนว่า

“อย่าทำเป็นเล่นไป ไม่จริงจังก็รีบถอยเสียตอนนี้ ไม่งั้นนายโดนพี่ชายเขาอัดแน่”



หลังเขากลับมาจากส่งปราณปริยาที่บ้าน บุพการีซึ่งยังนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ก็กวักมือเรียก ก่อนที่เขาจะเดินเลี่ยงหนีขึ้นห้อง และไม่ต้องเดาก็รู้ว่าท่านจะคุยเรื่องอะไร

“ลูกจีบหนูป่านอยู่หรือเปล่า” นั่นเป็นคำแรกที่มารดาถาม และรอฟังคำตอบด้วยสายตาที่คาดหวัง จนสรัลอดถอนหายใจหนักๆ ไม่ได้

“ทำไมครับ”

“ก็สงสัยไง ดูหนูป่านเขาสนอกสนใจในตัวลูกดีนะ”

“สนสิครับ ก็เขาคิดว่าผมกำลังจะไปแย่งว่าที่สามีของเพื่อนสนิทเขานี่ครับ”

“อย่างนี้นี่เอง งั้นแม่ก็คิดไปเองน่ะสิ” คุณฟ้าทำสีหน้าเซ็งๆ ระคนผิดหวัง ก่อนจะปรายตามองลูกชาย แล้วจู่ๆ สายตาที่ผิดหวังก็ทอประกาย

“แต่สำหรับลูกแม่ว่าแม่ไม่ได้รู้สึกและคิดไปเองใช่ไหม ว่าลูกต้องสนใจหรือแคร์หนูป่านอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ลากเขามาหาพ่อกับแม่ถึงบ้านหรอก จริงไหม”

“เอ่อ...ผมไม่ได้...” สรัลยังไม่ทันจะอ้าปากแก้ตัว มารดาก็เอ่ยแย้งขึ้นเสียก่อนอย่างรู้ทัน

“อย่ามาอ้างว่าเพราะหนูอ้อนกับตาเวธน์ ล่าสุดที่เราพาแฟนมาที่บ้านกี่ปีแล้วนะคุณ” คุณฟ้าหันไปถามสามีซึ่งนั่งฟังเป็นอย่างดี

“นานมากแล้ว จำไม่ได้”

“ว่าไงจ๊ะ” นางหันมาคะยั้นคะยอจะเอาคำตอบจากปากลูกชาย

“ก็ไม่รู้สิครับ ผมง่วงแล้ว ขอตัวไปอาบน้ำนอนนะครับ” สรัลตัดบทแล้วรีบลุกเดินขึ้นห้องไป ก่อนที่จะโดนมารดาซักไซ้มากกว่านี้ วันนี้แค่โดนพี่ๆ ซักก็จะแย่อยู่แล้ว นี่ยังจะมาโดนมารดาซักอีก

แต่ถึงอย่างนั้นคุณฟ้าก็ยังตะโกนขู่เล็กๆ ไล่หลังลูกชายว่า

“ถ้าลูกไม่จีบ แม่จะยุตาณัฐให้จีบซะเลย”

“เชื่อเถอะครับว่าถ้าเป็นคุณป่าน ยังไงพี่ณัฐก็แพ้ผมชัวร์”

นั่นเป็นการหลุดปากครั้งที่สองในรอบวัน และเพียงไม่กี่วันเรื่องเหล่านี้ก็หลุดไปถึงหูของเวธน์กับดารินทร์ ไม่ต้องสงสัยใครให้ยุ่งยาก ต้องเป็นมารดาของเขาแน่ๆ นอกจากจะโดนคนในครอบครัวเพ่งเล็งแล้ว ยังต้องมาโดนดารินทร์ที่รักเพื่อนอย่างปราณปริยามากๆ จับตาดูพร้อมกับขู่ว่า

“ถ้าคุณทำให้เพื่อนฉันเสียใจ ฉันเอาคุณตายแน่ คุณก็ด้วย” คำขู่นั้นยังเผื่อแผ่ไปถึงเวธน์ ทำไมทุกคนถึงได้สนใจชีวิตเขานักหนา แต่ก็เอาเถอะถือว่าทุกคนหวังดีก็แล้วกัน

“สวัสดีครับคุณสุ”

“สวัสดีค่ะ คุณขวัญคะ ของคุณขวัญค่ะ”

สรัลซึ่งทักทายสุดารัตน์ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์เหมือนทุกวันกำลังจะเดินผ่านไป พนักงานก็เรียกเอาไว้พลางโชว์กล่องของขวัญชิ้นเล็กผูกโบหรูหรา แล้วยื่นมันให้เจ้านายหนุ่มพร้อมด้วยรอยยิ้มล้อเลียนเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา

คนที่ได้รับของขวัญชิ้นหรูถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินกลับมารับของขวัญที่ไม่รู้ว่าเป็นชิ้นที่เท่าไร พลิกไปพลิกมา ก่อนจะแกะดูตรงเคาน์เตอร์เสียเลย แล้วก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าคนส่งมาให้คือใครเหมือนเดิม

“คุณสุไม่ทราบจริงๆ หรือครับว่าของใคร”

“ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ถามเด็กส่งของก็บอกว่าไม่รู้ เขามีหน้าที่ส่งอย่างเดียว คุณขวัญไม่ชอบหรือคะ” สุดารัตน์ถามพลางมองเข็มกลัดเนกไทหรูในกล่องกำมะหยี่สีกรมท่า

“ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แค่อยากรู้ว่าใคร ดูสิการ์ดสักใบก็ไม่มี จะขอบคุณก็ทำไม่ได้”

“คุณขวัญไม่สงสัยใครเป็นพิเศษหรือคะ”

“ถามเขาไปแล้ว ตั้งแต่ได้ช่อดอกไม้มาครั้งแรก แต่เขาปฏิเสธ ก็เลยไม่รู้ว่าใคร”

หลังจากปราณปริยาปฏิเสธ เขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นใคร แล้วทำไปเพื่ออะไร ถ้าให้ด้วยใจเสน่หาก็ต้องกล้าที่จะเปิดเผยตัวสิ นี่เล่นส่งแบบนี้เขาจะรู้ได้อย่างไร เขาทำงานเกี่ยวกับเวดดิงนะ...ไม่ใช่นักสืบ

ขณะที่สรัลกับสุดารัตน์มัวแต่จับจ้องของขวัญชิ้นใหม่ เสียงทักทายที่ดังมาพร้อมกับเจ้าตัวที่ถลาเข้ามากอดต้นแขนของสรัลจนเจ้าตัวสะดุ้ง “สวัสดีครับคุณสรัล เจอตัวจนได้”

“สวัสดีครับ มาแต่เช้าเลยนะครับ มีอะไรให้ทางร้านรับใช้ครับวันนี้” พอรู้ว่าคนที่จู่โจมไม่ใช่ใครที่ไหน มิคกี้ อดีตลูกค้าที่เพิ่งยกเลิกงานแต่งงานเมื่อไม่นานมานี้ สรัลก็ทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มแห้งๆ พลางคิดว่าไม่น่ายืนคุยตรงนี้นานเลย

“แหม พูดเป็นทางการเชียว” บอกเสียงเง้างอดให้งอนแต่พองาม “มาทวงสัญญาไงครับ”

“สัญญา?” คนโดนทวงสัญญาทำหน้างงๆ หันไปมองสุดารัตน์แล้วถามด้วยสายตาเป็นเชิงว่ารู้ไหมว่าสัญญาอะไร ลูกจ้างสาวรีบส่ายหน้าหวือ

“ขี้ลืมจนน่าตีจริงๆ ก็สัญญาว่าจะพามิคไปเลี้ยงข้าวยังไงล่ะครับ ตอบแทนที่มิคพาคนรู้จักมาใช้บริการเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ” ไม่พูดเปล่า มือขาวใหญ่แถมยังเรียวสวยเพราะได้รับการบำรุงอย่างดีก็ตีเข้าที่ต้นแขนของสรัลเบาๆ แล้วตบท้ายด้วยการบีบกล้ามเนื้อแขนที่ถูกเสื้อปิดไว้เบาๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะขยายความต่อเมื่อคนผิดสัญญายังทำหน้าเหมือนจำไม่ได้

“คุณสรัลบอกว่าสองมื้อ มื้อแรกคุณเลี้ยงมิคไปแล้ว ส่วนอีกมื้อมิครอให้คุณติดต่อกลับก็ไม่เห็นติดต่อไปสักที วันนี้เลยบุกมาทวงสัญญาคุณสรัลถึงที่แต่เช้า มาสายๆ คุณก็ไม่อยู่ร้าน ขอเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ให้ มีแต่เบอร์ร้าน ติดต่อทีไรคุณก็ไม่อยู่ทุกที” มิคกี้บ่นพลางมองค้อนสุดารัตน์ที่เขามาที่ร้านหรือโทร. มาหาสรัลทีไร หล่อนก็พูดอยู่แค่ ‘คุณสรัลไม่อยู่ค่ะ’

“อ๋อ...ผมขอโทษจริงๆ ครับ ต้นเดือนนี้จะมีงานเวดดิงแฟร์ ผมเลยลุยเตรียมงานยุ่งจนลืมไปเลยว่านัดคุณมิคเอาไว้ งั้นเอ่อ...เที่ยงนี้เจอกันที่ร้าน Delicious แล้วกันนะครับ” เขาตั้งใจนัดอีกฝ่ายที่ร้าน Delicious Restaurant ของปราณปริยา

“ดูคุณจะชอบร้านนี้เป็นพิเศษนะครับ ไปร้านนี้ประจำเลย” สรัลแค่ยิ้มๆ ไม่ได้บอกไปว่าแต่ก่อนไปเพราะชอบอาหารและบรรยากาศที่ร้าน แต่ทุกวันนี้ไปเพราะลูกสาวเจ้าของร้านมากกว่า คิดพลางยกกล่องของขวัญขึ้นมาดูเล่นๆ ถ้าของขวัญของกำนัลทุกอย่างเป็นของปราณปริยาก็คงจะดีไม่น้อยเลย

“อุ๊ย! ของขวัญน่ารักจังเลยนะครับ” ว่าพลางชะโงกหน้ามามองอย่างสนใจ “ขอโทษนะครับที่ละลาบละล้วง แฟนซื้อให้หรือครับ” แม้น้ำเสียงจะเหมือนล้อเลียน แต่ใครจะรู้ว่ามิคกี้กำลังรอคำตอบที่จะหลุดจากปากของสรัลอย่างจดจ่อเลยทีเดียว

“อ๋อ เปล่าหรอกครับ มีคนใจดีไม่ประสงค์จะออกนามฝากมาให้น่ะครับ”

“มีแบบนี้ด้วย สงสัยจะหลงเสน่ห์คุณสรัลเข้าให้แล้วมั้ง” มิคกี้ที่เปิดยิ้มกว้างอย่างยินดีกับคำตอบที่ได้รับเอ่ยล้อเสียงสดใส

“นั่นเป็นเรื่องที่น่าดีใจว่าไหมล่ะครับ”

“คุณชอบอะไรแบบนี้?” เหมือนหาแนวทางที่จะเข้าหาชายหนุ่ม

“ก็ลึกลับ น่าค้นหาดีครับ”

“ไม่คิดว่าคุณจะชอบ” มิคกี้เอ่ยเบาๆ ด้วยสายตาแพรวพราว

“สีสันของชีวิตน่ะครับ นี่ก็เริ่มจะสายแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ มีงานที่ต้องเคลียร์อีกหลายอย่าง มีอะไรติดต่อคุณสุได้เลย ตอนเที่ยงเจอกันครับ” พูดจบเจ้าของร่างสูงก็ผละออกไปพร้อมด้วยรอยยิ้ม ปล่อยให้คนที่คิดว่าตามตัวชายหนุ่มได้แล้วต้องมองตามด้วยท่าทีฮึดฮัด

“งานยุ่งตลอดเลย” บ่นพลางสะบัดหน้ามาหาสุดารัตน์ที่ยิ้มรอ

“เธอรู้ไหมใครส่งของขวัญให้คุณสรัลน่ะ” เขาถามสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้

“ไม่ทราบค่ะ”

“แล้วเธอคิดว่าใคร” ถามต่อคล้ายกับชวนคุยหวังให้อีกฝ่ายออกความเห็นนิดๆ ถึงความเป็นได้ของเจ้าของของขวัญที่สรัลได้รับ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือสักเท่าไร

“ไม่ทราบค่ะ”

“โอ๊ย! อะไรก็ไม่ทราบๆ เป็นพนักงานประสาอะไรเนี่ย อารมณ์เสีย” เขาบ่นก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากร้านอย่างหัวเสีย โดยมีสุดารัตน์ที่หัวเสียย่นจมูกตามหลังพร้อมกับเสียงบ่น

“เชอะ! ฉันก็อารมณ์เสียเพราะหล่อนเหมือนกันแหละย่ะ มาถามโน่นนี่อยู่ได้ ลูกจ้างนะยะ ไม่ใช่เมียเจ้าของร้าน”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สั่งซื้อรูปเล่มได้ที่เวบสำนักพิมพ์สถาพร หรือตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือช่วงนี้มีงานหนังสือก็ฝากนิยายเรื่อง เพียงขวัญ ไว้พิจารณาด้วยนะคะ ปีนี้ไม่ได้ไปเหมือนเคย ใครผ่านไปเจออยาลืมแชะภาพมาฝากกันด้วยนะคะ ^^

E-book ดาวโหลดได้ที่เวบ MEB นะคะ




เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2559, 15:09:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2559, 15:09:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1021





<< ตอนที่ 18 ผิดที่ไม่ไว้ใจ 100%   ตอนที่ 19 สงครามของหญิงแท้กับหญิงเทียม 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account