มนต์อักษรอ้อนรัก

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 18

บทที่ 18


เมื่อนาวิตาหายป่วยก็เป็นวันเดียวกับที่นินนาทกลับมาจากต่างประเทศ

“ขอบคุณครับที่ช่วยดูแลหนูนา”

ครองขวัญเพียงแต่ยิ้มรับ หัวใจเต็มตื้นจากการได้เห็นหน้าคนที่เธอเฝ้าคิดถึง

“อย่าเพิ่งกลับนะครองขวัญ ผมมีเรื่องอยากพูดด้วย”

“คงไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่บอกให้รีบกลับบ้านทันทีที่คุณกลับมา”

กอบบุญพูดแทรกสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่คิดถนอมน้ำใจใคร

นาวิตามองท่าทีอึดอัดระหว่างครองขวัญกับพี่ชายของตนครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเข้าช่วย

“คุณ...ฉันอยากไปเดินเล่น ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

ราวกับเกรงว่าแค่คำพูดคงไม่พอนาวิตาจึงบรรจงยิ้มหวานเต็มที่ จากนั้นอาศัยจังหวะที่กอบบุญยืนนิ่งขึงเหมือนคนเพิ่งถูกน็อกกลางอากาศจัดการลากชายหนุ่มออกไป

“เรื่องที่ผมบอกเมื่อวันก่อน คุณตัดสินใจได้หรือยัง”

ครองขวัญอึ้งไปครู่ รู้ว่านินนาทหมายถึงเรื่องไหน วูบนั้นข้อความล่าสุดที่ชายหนุ่มส่งมาให้เมื่อวันก่อนก็ผุดขึ้นจากความทรงจำ

ผมอยากได้คำตอบเรื่องของเรา แล้วก็หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจผม

“คุณนินคะ ขวัญ...”

ราวกับคิดว่าครองขวัญจะพูดในสิ่งที่ไม่อยากฟัง นินนาทจึงยื่นนิ้วชี้ไปทาบทับริมฝีปากของหญิงสาวพลางจับจ้องแน่วแน่เหมือนจะให้หัวใจของตนสะกดหัวใจอีกดวง

“ให้ผมเป็นคนดูแลคุณเถอะ”

“แต่...” ครองขวัญส่ายหน้าหนี คิดไม่ตก ถึงรู้ตัวว่าเผลอมอบใจให้เขาแต่ก็ไม่เคยคิดไกลถึงเรื่องแต่งงาน ยิ่งถ้าต้องแต่งแบบตกบันไดพลอยโจนก็ยากทำใจ

“ขวัญเข้าใจค่ะถ้ามีใครรู้เรื่องเราหายไปด้วยกัน คุณนินคงเสียชื่อเสียง แต่ขวัญไม่เห็นด้วยกับวิธีการกู้ชื่อด้วยการแต่งงาน”

“คุณเข้าใจผิดแล้วครองขวัญ ผมไม่ได้กลัวเสียชื่อ”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ขวัญ...แต่งงานกับคุณนินไม่ได้จริง ๆ”

ช่วงเวลาหลังจากนั้นยาวนานในความรู้สึกของครองขวัญ ถึงก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความในใจแต่ยังรับรู้ได้ว่าเป็นเป้าสายตาของนินนาท ราวกับว่าเขากำลังใช้กระแสจิตขุดค้นความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ก้นบึ้งของหัวใจเธอ

เนิ่นนาน กระทั่งได้ยินเสียงถอนหายใจของชายหนุ่ม วูบนั้นจึงนึกเอาว่าเขาคงถอดใจ แม้โล่งอกหากพื้นที่เกินกว่าครึ่งของหัวใจกลับเจ็บปวด

ขณะคิดว่าจะเดินจากตรงนั้นเพื่อหลบไปหามุมซับน้ำตา ครองขวัญก็อดสงสัยไม่ได้ว่าโลกหยุดหมุนไปแล้วหรือเปล่าในวินาทีที่ได้ยินคำพูดของนินนาท

“แล้วถ้าผมขอร้อง คุณจะแต่งงานกับผมได้ไหม”


ตลอดเวลาที่เดินตามสาวร่างเล็ก กอบบุญเพียงแต่ทอดตามองเงียบ ๆ จวบจนอีกฝ่ายหยุดเดินแล้วหันกลับมา

“ที่ลากผมออกมานี่ เพราะอยากเปิดทางให้พี่ชายของคุณอยู่กับไอ้ขวัญตามลำพังใช่ไหม”

นาวิตาอึ้งไปครู่กับการรู้ทันของกอบบุญ หากเจ้าตัวไม่พูดอะไรทำเพียงยิ้มแถมยังยิ้มหวานเต็มที่ราวกับหวังว่าใจคนมองจะโอนอ่อนไม่ถือโทษโกรธเคือง

กอบบุญเกือบเผลอยิ้มตอบ หากนาวิตาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เขาคงเอ็ดไปแล้วว่าอย่ามาทำเป็นเด็กดื้อตาใส หากด้วยเกรงว่าหญิงสาวจะได้ใจแล้วใช้วิธีการแบบนี้บ่อย ๆ ชายหนุ่มจึงปั้นหน้าขรึมเมื่อเอ่ยต่อเสียงดุ

“ไม่ต้องมายิ้ม”

ได้ผล รอยยิ้มขยายกว้างในทีแรกค่อย ๆ ลดขนาด แต่ตรงกันข้ามกับแววตาที่มองมาซึ่งยิ่งเพิ่มระดับการออดอ้อนจนเขารู้สึกถึงอาการสั่นคลอนของหัวใจ

“อย่ามามองแบบนี้”

ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าการอยู่ตามลำพังกับหญิงสาวเป็นผลดี ยิ่งเจ้าตัวทำเหมือนไม่สำเหนียกถึงอันตราย ยังเอาแต่มองเขาด้วยแววตาเว้าวอนไม่ต่างจากแมวเหมียวยามมองเจ้าของอย่างออดอ้อน

เป็นแมวไปซะเลยก็ดี เขาจะได้จับมาฟัดให้หนำใจ!

กอบบุญฮึ่มฮั่ม ในใจปั่นป่วนราวท้องทะเลยามแปรปรวนเมื่อคนที่เขานึกอยากสาปให้เป็นแมวกลับยิ่งเพิ่มระดับด้วยการมาแตะเนื้อต้องตัว

“คุณ...อย่าโกรธกันเลย ฉันแค่อยากให้พี่นินได้มีเวลาพูดคุยกับพี่ขวัญตามลำพัง”

ท่าทางงอนง้อนั้นทำให้กอบบุญต้องขบฟัน รู้สึกเหมือนใกล้ขาดออกซิเยนเข้าไปทุกขณะ ก่อนแข็งใจปลดมือเล็ก

“ผมจะกลับเข้าไปข้างใน ถ้าคุณอยากเดินเล่นก็ไปคนเดียว”

กัดฟันบอกอย่างคนไร้น้ำใจแล้ว กอบบุญก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางที่จากมา แต่ไม่วายถูกเซ้าซี้

“คุณ...ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถอะ...นะ”

ชายหนุ่มถอนหายใจแรง ๆ รู้ดีว่าความอดทนใกล้หมดลง ก่อนหันกลับไปประจันหน้าคนที่ดูเหมือนว่ายังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

“ได้!” กอบบุญตกปากรับคำเสียงเข้มพลางจับจ้องนาวิตาด้วยแววตาไม่ต่างจากแมวยามจดจ้องตะครุบหนู ก่อนยื่นข้อเสนอ “แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยน”

แวบแรกชายหนุ่มเห็นหญิงสาวชะงักงัน หากเพียงครู่ก็ยิ้มหวานราวกับจะทดสอบความอดทนของนักบุญ

“คุณอยากได้อะไรล่ะ”

กอบบุญมองสบแววตาสดใสและรอยยิ้มกระจ่างของนาวิตาแล้วอดไม่ได้ต้องนึกแช่งชักปิศาจที่แฝงอยู่ในจิตใจ

ไปซะเถอะ ไปจากที่ตรงนี้ ก่อนจะกลายร่างเป็นหมาป่า

ชายหนุ่มหลับตาราวกับภาพของหญิงสาวเป็นสิ่งบาดตาเกินกว่าจะทนมอง ทว่าในวินาทีที่รู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ ตรงแขนความอดทนอดกลั้นก็พังครืน

ยามลืมตาขึ้นมาปะทะกับแววตากลมโตที่มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ ชายหนุ่มก็คำรามในใจอย่างหมดความยับยั้งก่อนดึงหญิงสาวเข้ามาปะทะอก สานสบแววตาตื่นตะลึงของอีกฝ่ายเพียงเสี้ยวนาทีจากนั้นจึงก้มหน้าลงไปทำตามความต้องการ

เธอถูกจูบ!

นาวิตารู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุนในวินาทีที่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาจูบเธอ!

หญิงสาวยังตอกย้ำอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งงงงันและทำอะไรไม่ถูกกระทั่งรู้สึกว่าถูกบังคับให้เปิดรับลิ้นอุ่นที่แทรกซอนเข้ามา

วินาทีนั้น นาวิตาคิดว่ารู้แล้ว อาการของคนขาดอากาศหายใจเป็นเช่นไร คงไม่ต่างจากเธอในตอนนี้ที่ถูกช่วงชิงลมหายใจไปอย่างไม่ปราณี

กอบบุญทำเหมือนคนที่หลงทางอยู่ท่ามกลางทะเลทรายแล้วบังเอิญได้พบกับแหล่งน้ำ เมื่อทั้งตักตวงและดื่มกินอย่างลืมตัว ไม่ทันสำเหนียกว่าร่างเล็กในอ้อมกอดเริ่มอ่อนเปลี้ยทุกขณะ

จวบจนหนำใจ ชายหนุ่มจึงยอมผละออกแต่ยังแฝงความไม่เต็มใจ แต่จังหวะเดียวกันนั้นหญิงสาวก็หมดสติไปแทบทันที หมดโอกาสรับรู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง


********************************************


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ




ปิยะณัฏฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 เม.ย. 2559, 09:29:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 เม.ย. 2559, 09:29:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 861





<< บทที่ 17   บทที่ 19 >>
Zephyr 13 เม.ย. 2559, 18:02:24 น.
หนูนาเอ้ย ไม่สตรองเลยเธอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account