คืนค่ำร่ำพิศวาส
สองผีพี่น้อง เลวิส... แวมไพร์(ผีดูดเลือด) ลมเหนือ... ผีเฮี้ยน! อยู่ตึกผีสิง VS กาฬวาร... เด็กสาวยากจนเป็นสาวพรหมจรรย์ มีพลังจิตบริสุทธิ์ เธอช่วยพวกเขากลับเป็นมนุษย์ กลายเป็นเพื่อนบริสุทธิ์ใจต่อกัน สองพี่น้องต่างบิดาแต่รักกันมาก เวลาผ่านไปเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ได้เจอเธออีกหนต่างหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน...เลือกรักไม่ได้หนึ่งหญิงสองชาย (อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน)
Tags: หวานแหวว, ซึ้ง, รักแฟนตาซี, ไตรติมา, ผี, แวมไพร์, ตลก, หล่อ, โรแมนติค,

ตอน: ตอน 19


............ในห้องนอนลมเหนือ เลวิสเข้ามานอนด้วย

‘เฮ้อ... คิดแล้วท้อ... เลวิส... ถึงขนาดลงทุนเรียนทำอาหาร เรียนภาษาไทย ทุ่มเทให้คนรักอย่างที่เราสู้ไม่ได้ แม้กระทั่งความหล่อที่เคยมั่นใจว่าตัวเราเองหน้าตาดีกว่าผู้ชายทั่วไป แต่เลวิสรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้เรา แล้วอย่างนี้ระหว่างเรากับเลวิส ในอนาคตเธอจะรักใครนะกาฬ’

ลมเหนือครุ่นคิดเหมือนจะหมดหวังในความรัก คงสู้พี่ชายไม่ได้ทั้งที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของกาฬวารด้วยการจดทะเบียนสมรสแล้ว เห็นแต่แววตาหมองของตน ขณะยืนส่องกระจกเงาบานใหญ่ที่ติดอยู่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้า

“นี่แน่ะ ยืนเหม่อ... คิดอะไรบอกมา” เลวิสแอบย่องเข้ามาทางด้านหลัง เล่นจั๊กจี้จี๋เอว ทำเอาผู้เป็นน้องหัวร่องอหาย

“ฮะ ฮะ ฮะ... ฉันกำลังคิดถึงกาฬอยู่ ไม่รู้ในอนาคตกาฬจะรักใครระหว่างฉันกับนาย” ลมเหนือพูดตามตรง

“ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นคู่แข่งทางความรัก เพราะกาฬไม่มีใจกับนาย แต่สำหรับฉันบางครั้งกาฬมีใจให้ ฉันรู้ในตอนที่ฉันอ่านใจคนอื่นได้”

“แปลว่าฉันไม่มีความหวังเลยใช่ไหม” ลมเหนือออกปากถามไปในใจนั้นโหวงเหวง

“ฉันแนะนำนายควรเตรียมใจไว้ตั้งแต่ตอนนี้ นายกับกาฬอาจเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป”

“ถ้าอย่างนั้นฉันควรค้นหาใครสักคนที่รักฉันและฉันรัก เป็นคนรักแท้จริงของฉัน” รู้สึกว่าสักวันต้องหาที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ...ใครสักคน ไม่อยากทนหม่นเหงาเศร้าและไม่มีใครให้รัก

“นายคิดถูกแล้วฮคคุ นายต้องหารักแท้ของนาย คนแห่งโชคชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นคู่ครองของนายเท่านั้น ส่วนฉันไม่ต้องหา... เพราะว่าฉันพบแล้ว กาฬคือตัวจริงของฉัน ฉันหาแค่ประสบการณ์ชีวิตเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีสำหรับกาฬของฉัน” เลวิสจิตใจมุ่งมั่นแน่วแน่และมั่นใจ กาลเวลาผ่านไปความรักนั้นจะสานต่อให้ฝันเป็นจริง



............เลวิสเดินทางกลับไปอยู่บ้านเก่ากับยูชิยะ ประเทศอเมริกา

“พ่อครับ ผมกลับมาแล้ว คิดถึงพ่อนะครับ กลับมาคราวนี้ผมขออยู่ด้วย”

“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ...ลูกรัก” ยูชิยะเอ่ยเรียบ ๆ ทั้งที่ดีใจ ลูกชายกลับคืนสู่บ้าน แต่เขาไม่ได้เอ่ยบอกไป

“ผมกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพราะฮคคุจะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยปีหน้า แม่คงส่งมาเรียนต่อที่นี่”

“ไม่อยากแพ้น้องว่างั้นเถอะ รักผู้หญิงคนเดียวกัน เลยต้องแข่งขันกันอย่างนี้แหละ”

“พ่ออ่านใจผมอีกละ ความจริงฮคคุไม่ได้รักผู้หญิงคนเดียวกับผม” เลวิสว่า พลางส่ายหน้าเหมือนจะเบื่อ...

“เปล่า... พ่อไม่ได้อ่านใจเลวิสคนเดียว พ่ออ่านใจฮคคุด้วยต่างหาก” ยูชิยะเฉลยบอกไปในสิ่งที่ลูกชายคาดไม่ถึง เขาอยากให้ลูกรู้สึกตัวว่าถูกเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยความรักห่วงใยของพ่อที่มีต่อลูก

“หา! พ่อไปอ่านใจฮคคุตั้งแต่ตอนไหน พ่ออยู่ถึงอเมริกานี่”

“เมื่อไม่นานมานี้ พ่อแอบตามไปดูลูกถึงบ้านมิลินที่เมืองไทย บินแวบ ๆ ไปดูมาแล้ว”

“โอ้โฮ... สุดยอดคุณพ่อแวมไพร์” เลวิสยิ้ม กล่าวชื่นชมพ่อของเขา

“พ่อรู้... ลูกไม่ใช่แวมไพร์แล้ว เพราะดื่มเลือดของเด็กสาวคนนั้น เอาเถอะ... ไม่เป็นไร พ่อจะไม่ฝืนใจลูก มีแต่จะดูแลลูกให้มีความสุขตลอดไป”



............ปีต่อมา เปิดเทอมแรกของนักศึกษามหาวิทยาลัย

“สวัสดีครับ ยูชิยะ...” ลมเหนือกล่าวทักทายผู้เป็นพ่อของพี่ชาย ทั้งในใจรู้สึกแปลกที่เห็นเขายังคงดูหนุ่มมากผิดปกติ ราวกับเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

“สวัสดีฮคคุ สบายดีไหม” ยูชิยะกล่าวทักทายด้วยไมตรี ไม่เคยนึกชิงชังเด็กซึ่งเป็นลูกคนละพ่ออย่างลมเหนือตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว เพราะคิดเสมอว่าเด็กคือผู้บริสุทธิ์ไม่มีความผิดใด จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ลมเหนืออายุสิบเก้าก็ยังเอ็นดูไม่เปลี่ยน แต่สัจจะธรรมคือ... เขาไม่มีวันรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกของตัวเองอยู่ดี

“สบายดีครับ ยูชิยะดูไม่เปลี่ยนไปเลยอย่างกับหนุ่มวัยรุ่น”

“ฉันเหมือนหนุ่มอายุยี่สิบทั้งปีทั้งชาตินั่นแหละ ฮคคุมาที่นี่มีธุระอะไร”

“ผมมาหาเลวิส”

“เข้ามาในบ้านก่อนสิ” ยูชิยะกล่าวเชิญ ลมเหนือเดินเข้ามาในบ้าน จึงเจอหน้าพี่ชาย

“ฮคคุ... ทำไมแม่ต้องเช่าหอให้นายอยู่ต่างหาก น่าจะให้มาอยู่บ้านฉัน” เลวิสถามทันที น้ำเสียงดีใจที่ได้เจอน้องชาย พลางโอบกอดคอ แม้ห่างกันนานปีเจอกันแต่ละทียังใกล้ชิดสนิทสนมประสาพี่น้อง

“ไม่รู้สิเลวิส แม่บอกอยากให้ฉันเรียนรู้การอยู่คนเดียวบ้าง และอยากให้ฉันพึ่งตัวเองได้”

“ฉันกับพ่อยินดีต้อนรับนายนะฮคคุ ถ้ามีนายมาอยู่กับเรา บ้านเราคงสนุกครึกครื้น ฉันอยากให้นายมาอยู่ด้วยนะ”

“ฉันเหมือนกัน เวลามีนายอยู่ด้วย ฉันสนุกจริง ๆ ฉันก็อยากอยู่กับนาย”

“ถ้าอย่างนั้น... ฉันจะพูดกับแม่” เลวิสว่า แล้วโทรศัพท์ทางไกลไปคุยกับแม่ของเขา

“แม่ครับ ให้ฮคคุมาอยู่กับผมที่บ้านไม่ได้เหรอ ผมอยากให้ฮคคุมาอยู่ด้วยกัน จะได้ไม่ต้องเช่าหอให้เปลืองเงิน”

“แม่บอกหลายครั้งแล้วไงว่าอยากให้เหนือเข้มแข็ง เรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเอง” คุณมิลินอธิบายให้ลูกชายคนโตฟัง

“แม่ครับ ถ้ามาอยู่บ้านผมก็เรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเองได้ ช่วยกันทำงานบ้าน ทำกับข้าวกินด้วยกัน ยังได้เป็นเพื่อนเล่นกันด้วย ผมว่าให้ฮคคุอยู่หอคนเดียวอาจจะไม่ดีนะครับ”

“เอ๊ะ! ไม่ดียังไงเลวิส” คุณมิลินนึกเอะใจสงสัยจึงต้องถาม

“แม่ไม่รู้เหรอ ฮคคุน่ะเสน่ห์แรง สาว ๆ ชอบเยอะแยะ ให้มาอยู่คนเดียวเดี๋ยวอาจจะมีสาวมาขออยู่ด้วย เผลอ ๆ แม่อาจจะได้ลูกสะใภ้เพิ่มนะครับ ...แม่ว่าไหม”

“ถึงขนาดนั้น? เอ... ไม่ดีแน่ ถ้าอย่างนั้น...” คุณมิลินว่าท่าทีลังเลสับสน ในใจอดเป็นห่วงลูกชายคนเล็กไม่ได้ “แม่ขอคุยกับพ่อของลูกหน่อย ตอนนี้เขาอยู่ที่นั่นด้วยไหม”

“อยู่ที่นี่ด้วยครับ พ่อ... แม่จะคุยด้วย” เลวิสหันไปเรียกพ่อของเขา

“ไม่เคยได้ยินเสียงของคุณนานเลยนะครับมิลิน คุณสบายดีไหม” ยูชิยะพูดกับอดีตภรรยาที่ใจเขายังรักอยู่

“ฉันสบายดีค่ะ สาเหตุแท้จริงที่ฉันไม่ให้ฮคคุมาอยู่กับเลวิสที่บ้าน เพราะคุณ... รู้ไหมคะ” มิลินรีบพูดเรื่องลูก เกรงหัวใจตัวเองอ่อนไหวกับคนเคยรักที่กลายเป็นอดีตสามีไปแล้ว

“ผมรู้... คุณเป็นห่วงลูก เขาเป็นคนธรรมดารวมทั้งเลวิสด้วย เขาจะเป็นคนธรรมดาอยู่อย่างนั้น ผมไม่คิดจะฝืนใจลูก ลูกของทาคามิก็เหมือนกัน ผมจะไม่แตะต้องเขา” ยูชิยะพูดให้วางใจได้ เพราะรู้ใจคุณมิลินว่าคิดอย่างไร

“ฉันขอร้อง... ขอให้เขาเป็นคนธรรมดาตลอดไป คุณอย่าทำให้เขาเป็นเหมือนคุณ ทั้งเลวิสและลมเหนือ”

“เรื่องนั้นคุณมิลินไม่ต้องห่วง ผมรับปาก... จะไม่ทำให้เขาเป็นเหมือนผม”

“ถ้าอย่างนั้นฉันอนุญาตให้ฮคคุมาอยู่กับเลวิส คุณช่วยดูแลพวกเขาสองคนแทนฉันด้วยได้ไหมคะ”

“ได้สิ ด้วยความเต็มใจและยินดีอย่างยิ่ง” ยูชิยะรับปาก เขาไม่นึกรังเกียจลูกเลี้ยงต่างพ่อ เพราะเขาไม่มีความแค้นใดกับทาคามิ แม้จะเคยมีภรรยาคนเดียวกัน เพราะนั่นเป็นการเลือกตัดสินใจของมิลิน

ในที่สุด... คุณมิลินสั่งคืนห้องที่หอพักไป แล้วให้ลมเหนือย้ายมาอยู่บ้านยูชิยะกับเลวิส



............ไม่นานต่อมา จู่ ๆ คุณทาคามิล้มป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดอาการช็อก...

คุณมิลินโทรข้ามประเทศบอกข่าวการจากไปของผู้เป็นพ่อกับลูกชาย

“เหนือ... พ่อของลูก... ฮึก...” เสียงคุณมิลินสั่นเครือเจือสะอื้นในโทรศัพท์

“แม่เป็นอะไรเหมือนร้องไห้ มีเรื่องอะไรครับ” ลมเหนือเริ่มใจคอไม่ดี เอ่ยถามแม่ของเขา

“พ่อของลูก... เสียแล้ว ...กะทันหันเหลือเกิน แม่ทำใจไม่ได้ ฮือ ฮือ ฮือ...” ผู้เป็นแม่ถึงกับร้องไห้ออกมา

“จริงเหรอแม่ พ่อตายแล้ว...” ลมเหนือใจหาย... ได้รับข่าวบิดาป่วยกะทันหัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เรื่องเสียชีวิต... เขาเองคิดไม่ถึงเช่นกันว่ามันจะรวดเร็วเพียงนี้ ...ถึงกับนิ่งอึ้งงงงันไปหมด

“เหนือกลับเมืองไทยตอนนี้ได้ไหมลูก แม่อยากเจอลูกเหลือเกิน” คุณมิลินขอร้องให้ลูกชายกลับมาหา อย่างน้อยจะได้ช่วยเป็นกำลังใจปลอบใจในยามเสียใจอย่างนี้

“ได้ครับ ผมจะรีบเดินทางกลับเมืองไทย”



............เลวิส ลมเหนือ และยูชิยะเดินทางมาเมืองไทยเป็นการด่วน เพื่อมางานศพคุณทาคามิ

“ผมเสียใจด้วย คุณมิลิน” ยูชิยะกล่าว มองสบตากัน ไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายปี เขานั้นดีใจที่ได้เจอ

“ยูชิยะคุณไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยยังดูเหมือนวัยรุ่น รุ่นเดียวกับลูกของคุณด้วยซ้ำ ฉันสิร่วงโรยลงไปมาก มนุษย์ธรรมดาก็เป็นแบบนี้แหละ” คุณมิลินทักทายคนเคยเป็นสามี เมื่อก่อนเคยนึกหวาดกลัวเขาเหลือเกิน แต่วันนี้ในใจหมองเศร้าต่อการสูญเสียเกินกว่าจะหวั่นหวาดสิ่งใด

“ไม่เลย ผมมองเห็นความสวยของคุณเสมอ คุณยังคงสวยงามไม่เคยเปลี่ยนไป” เขาพร่ำชม ไม่เคยหยุดหวานกับคุณมิลิน แม้กาลเวลาผ่านไปนานเท่าใด ใจของเขายังคงไม่เคยลืมเลือนคนรักของเขาเลย

“ฉันมาช่วยงานคุณมิลิน ยังดีนะคะที่ลูกชายทั้งสองอุตส่าห์กลับมาเยี่ยมแม่ จะได้เป็นกำลังใจให้ยามทุกข์โศก” เจ๊เกียวเข้ามาแทรก เอ่ยทักทายในงานนี้ด้วย พร้อมยื่นซองใส่เงินช่วยงานตามธรรมเนียมไทยให้คุณมิลิน

“ขอบคุณที่มางานค่ะ เจ๊เกียว” คุณมิลินกล่าวต้อนรับแขกเพิ่งมาใหม่ แต่ยังละสายตาจากยูชิยะไม่ได้

“แหม... คนนี้ก็หล่อ บ้านคุณมิลินนี่มีแต่วัยรุ่นหนุ่มหล่อทั้งนั้นเลย คนนี้คงเป็นเพื่อนของลูกชายใช่ไหมคะ” เจอคำถามของเจ๊เกียว คุณมิลินนึกไม่ทัน ลังเลที่จะตอบ แต่ถ้าจะตอบตามความจริงนั่นยิ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

“ผมเป็นแฟนคนใหม่ของคุณมิลินครับ เพิ่งตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ...” ยูชิยะพูด พลางยิ้มมุมปากอยากยั่วแหย่ให้เจ๊เกียวตกใจเล่น ด้วยเห็นเป็นเรื่องสนุก!

เจ๊เกียวถึงกับอ้าปากค้าง...

คุณมิลินไม่รู้จะทำสีหน้าอย่างไร ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเจ๊เกียว นึกถึงเรื่องสมัยเก่า... เขานี้ตามความจริงเป็นแวมไพร์ที่ขี้เล่นอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน และถ่ายทอดนิสัยนั้นให้ลูกชายเสียด้วย

“เจ๊เกียว ขอบคุณนะครับที่มา เชิญเข้าไปนั่งข้างในได้เลยครับ” เลวิสมาช่วยไว้ได้ทัน ช่วยให้คุณมิลินไม่ต้องทำหน้าแบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แล้วพาเจ๊เกียวเดินเข้าไปหาที่นั่งมีเก้าอี้ว่างอยู่ด้านใน หลังจากนั้นจึงออกมาคุยกับมารดา

“พ่อของลูกนี่ร้ายจริงนะ ไปบอกเจ๊เกียวอย่างนั้น เจ๊แกตกตะลึงเลย”

“หึ หึ... แม่ครับ ผมว่าพ่อยังรักแม่อยู่นะครับ ไม่เชื่อมองตาพ่อสิ” เลวิสแกล้งเย้าแม่ของเขาเล่น เพื่อคลายความเศร้าโศก

“แม่ไม่มีอารมณ์ตลกด้วยนะจ๊ะ ยังอยู่ในงานศพ ช่วยพาพ่อของลูกเข้าไปนั่งข้างในด้วยเถอะ แม่จะรับแขกอยู่หน้างานนี่” คุณมิลินบอก เลวิสจึงต้องพายูชิยะเข้าไปหาเก้าอี้นั่งด้านใน

กาฬวารนั่งพับขาข้างรูปเคารพของคุณทาคามิ คอยจุดธูปส่งให้กับคนที่มาไหว้ขอขมา

“คุณเหนือ ...นี่ค่ะ” กาฬวารส่งธูปให้ ลมเหนือรับมา นั่งคุกเข่าไหว้หน้าโลงศพบิดาของเขา หลังจากปักธูปเสร็จแล้ว กาฬวารได้จับมือของเขาบีบเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ เมื่อเห็นดวงตาของลมเหนือคลอด้วยน้ำตา และกล่าวขอร้องด้วยเสียงเครือ

“ไปนั่งกับฉันได้ไหมกาฬ ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าพ่อ... จะจากไปเร็วขนาดนี้”

“ไปสิคะคุณเหนือ” กาฬวารลุกขึ้น และพาลมเหนือไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยกัน ยังคงกุมมือเขาไว้ในยามทุกข์โศกเช่นนี้

...หลังจากนั้นไม่นาน แขกคนสำคัญได้เดินทางมาถึง

“ฮคคุ คุณปู่คุณย่ามาจากญี่ปุ่นไปหาหน่อยสิ กาฬด้วยเป็นหลานสะใภ้จะได้ไปไหว้ทำความรู้จักกัน” คุณฮิงาชิมาตามตัวหลานชายและหลานสะใภ้

“คุณปู่คุณย่า...” ลมเหนือโค้งคำนับคุณคาโต้ และเข้าไปกอดคุณเรนะผู้เป็นคุณย่า แล้วสะอื้นร้องไห้ไปด้วยกัน

“น่าสงสารคุณเรนะ มีลูกชายอยู่คนเดียวแต่ต้องมาตายก่อนพ่อแม่” คุณนายจินตนาเอ่ยกับกาฬวาร ขณะนั่งข้างคุณเรนะ ส่วนคุณฮิงาชิลงนั่งโอบไหล่ปลอบใจคุณคาโต้ผู้เป็นเพื่อนสนิท

“กาฬมาไหว้คุณปู่คุณย่าของฮคคุสิ” คุณฮิงาชิบอก กาฬวารจึงเข้ามาไหว้ตามมารยาทแบบไทย

“ชื่อกาฬวาร เป็นหลานสะใภ้ แฟนของฮคคุนั่นแหละ” คุณฮิงาชิกล่าวแนะนำกับคุณเรนะและคุณคาโต้

“เคยเห็นแต่ในรูปถ่าย เลวิสกับฮคคุเคยคุยให้ฟัง” คุณเรนะเอ่ย

“เพิ่งเจอตัวจริง หน้าตาสวยดีนะ” คุณคาโต้พูดกับคุณฮิงาชิเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งกาฬวารยังฟังไม่รู้จึงได้แต่เงียบ...

“สวัสดีครับคุณปู่คุณย่า ผมเสียใจด้วยนะครับ” เลวิสเข้ามาโค้งคำนับคุณคาโต้และคุณเรนะ

“นั่นเลวิสพาใครมาด้วย หน้าตาเหมือนพ่อเราสมัยหนุ่ม” คุณคาโต้เอ่ยถาม เขาเคยรู้จักพ่อของเลวิสเมื่อสิบก่อน ทั้งคุณนายจินตนา คุณฮิงาชิ และคุณเรนะต่างเคยเจอเขามานานแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะเขายังดูเป็นหนุ่มวัยรุ่น จึงได้แต่มองกันเป็นตาเดียว

“สวัสดีครับ” ยูชิยะกล่าวสั้น ๆ แม้รู้จักทุกคนดี แต่ด้วยความน่าหวั่นกลัวตัวตนที่เขาเป็นนั้นไม่อาจเปิดเผย จึงไม่สามารถแสดงตัวจริงได้

กาฬวารมองดูยูชิยะ แล้วให้รู้สึกถูกชะตาเมื่อเขาจ้องมองมาที่เธอ

‘ผู้ชายคนนี้... หน้าเหมือนพ่อของเลวิสอย่างกับคนเดียวกัน เราเคยเห็นในรูปถ่าย แต่ดูเหมือนอายุจะพอ ๆ กับเลวิส เป็นเพื่อนกันอย่างนั้นเหรอ? หล่อมาก... ดวงตาสองชั้น ตาสวย... แบบผู้ชายในฝันของเรา’

“นี่กาฬแฟนผมนะครับ จะทำอะไร” เลวิสทำเสียงดุ เมื่อหันมาเห็นสายตาผู้เป็นพ่อที่มองจ้องตาผู้หญิงที่เขารัก ทำให้ผู้ใหญ่ในที่นั้นหันมาสนใจยูชิยะกันอีก

“เปล่านี่ที่มองเพราะเห็นว่าสวย” ยูชิยะพูดเนิบนาบ ชม้ายชายตามองอีกครั้ง แน่นอนแวมไพร์ผู้มีพลังสูงส่งอย่างเขามีหรือจะไม่รู้ใจสาวน้อยตรงหน้า เลวิสอดรนทนไม่ได้ จึงดึงแขนพ่อของเขาพาออกมาพูดคุยกันลำพังสองคนพ่อลูก

“พ่อห้ามนอกใจแม่ และห้ามแย่งแฟนผม” เลวิสพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด หึงหวงกาฬวารแม้กระทั่งกับพ่อของตน

“พ่อไม่ทำอย่างนั้นหรอก ที่พ่อยิ้มเพราะอ่านใจได้ว่าผู้ชายแบบที่กาฬวารชอบเป็นแบบพ่อนี่เอง แต่อย่าขี้หึงไปเลยน่าเลวิส พ่อกลับคิดว่าน่าจะปลุกกิเลสตัณหาในใจเธอให้มันฟุ้งซ่านขึ้นมามาก ๆ พลังความบริสุทธิ์จะได้ค่อยเสื่อมถอย น่าจะให้ผลดีกับเลวิสนะลูก” เขาพยายามอธิบายให้ลูกชายคิดตาม

“ผมไม่เข้าใจ”

“กาฬจะเป็นเพื่อนที่ดีของลูกและฮคคุตลอดไป เธอมีพลังจิตบริสุทธิ์ จะทำให้เธอรักใคร่พิศวาสเป็นเรื่องยากมาก”

“ใช่... ตอนผมเป็นแวมไพร์ ผมอ่านใจเธอได้อย่างนั้นเหมือนกัน” เลวิสยอมรับที่พ่อเขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง

“ถ้าทำให้พลังความบริสุทธิ์เสื่อมถอย ต่อไปลูกจะทำอะไรกับเธอมันก็ง่าย ง่ายสำหรับลูกไงเลวิส” ยูชิยะเฉลย ในใจนึกอยากช่วยเหลือลูกชายตนเสมอ



............บ้านโองาว่า ยูชิยะนอนห้องชั้นบนใกล้ห้องนอนคุณมิลิน ซึ่งเคยเป็นห้องของเลวิส คุณคาโต้และคุณเรนะ นอนในห้องชั้นล่าง ใกล้ห้องของคุณนายจินตนาและคุณฮิงาชิ ส่วนเลวิสไปนอนกับลมเหนือที่ตึกใหญ่ติดห้องพระ

“ถึงตอนนี้คุณยังกลัวผมอยู่อีกไหม” ยูชิยะอยู่ในอารมณ์สบายใจ เขาอ่านใจมิลินได้อยู่แล้ว แต่ถามเพื่อให้เธอพูดคุยโต้ตอบเขา คลายความเศร้าโศกลงไปบ้าง

“คุณจะทำร้ายฉันไหมล่ะคะ”

“ไม่เลยสักนิดแม้จะคิดก็ไม่เคยไม่ว่าเมื่อไหร่ ทั้งแต่ก่อนจนกระทั่งถึงตอนนี้” ยูชิยะบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“คงเพราะความเศร้ามีมากกว่า จนความกลัวลดน้อยไปเอง บางครั้งฉันนึกอยากตายตามทาคามิไป...”

“ชีวิตคุณยังต้องอยู่ต่อไปอย่างน้อยก็เพื่อคนสำคัญของคุณ ทั้งพ่อแม่และลูกชายทั้งสองคน อีกอย่างอยากให้คุณอยู่เพื่อผมด้วย ผมยังรักคุณอยู่ มิลิน” ส่งแววตาหวานซึ้งบอกความในใจ เขายังรักใคร่ในตัวเธอไม่สร่างซา

“ฉันไม่สาวไม่สวยเหมือนสมัยก่อนแล้วนะคะ” มิลินพูด เจียมตัวเจียมในสังขารของตัวเอง

“ถึงกาลเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน แต่ใจผมไม่เคยเปลี่ยนไป ผมยังรักคุณเสมอนะ” ยูชิยะยืนยันย้ำคำบอก

มิลินใจหวามไหว ให้ยืนนิ่งและนึกในใจ...

‘ความรักยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย... ที่จริงเรายังรักเขาอยู่เหมือนกัน’

ยูชิยะล่วงรู้ความคิดนั้นจึงโอบกอดเธอไว้ พรมจูบบนหน้าผากเบา ๆ เคล้าเคลียเลื่อนจูบลงมาถึงเรียวปาก

“ทำอะไรกัน ไม่งามเลยมิลิน นั่นเขาเป็นเพื่อนของลูกชายนะ” คุณนายจินตนาตำหนิบุตรสาว เมื่อได้มาเห็นเข้าพอดี แล้วเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร

“คุณแม่... มาได้ยังไง” มิลินถามผู้เป็นแม่ของตน แล้วออกจะละอายใจ...

“ฉันได้ยินเสียงคนคุยกันเบา ๆ เลยเดินขึ้นมาดูนะสิ ถึงได้เห็นกับตา... ทำตัวไม่เหมาะสมเลยนะมิลิน” คุณนายจินตนาส่ายหน้า ยังคงกล่าวโทษลูกสาวอยู่อีก

“ที่ทำไปเพราะผมชอบคุณมิลิน” ยูชิยะกล่าวกับคุณนายจินตนาตามตรง

“ไปกันใหญ่แล้ว เธอเป็นเพื่อนของเลวิส อายุรุ่นลูกรุ่นหลานของมิลิน ดูไม่เหมาะสมกันเลย”

“แต่ผมรักคุณมิลินจริง ๆ นะครับ ผมจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต ผมอยากแต่งงานกับเธอ” เขาพยายามยืนยัน

“ตายจริง... อายุขนาดเธอนี่อยากแต่งงาน? พ่อแม่อนุญาตหรือยัง ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ไม่ใช่หรือ จะมีปัญญามารับผิดชอบลูกสาวฉันได้ยังไง” คุณนายจินตนาพูดดูถูก ไม่เห็นดีเห็นงามด้วยเลย

“ผมโตเป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้ว รับผิดชอบได้ทั้งตัวคุณมิลินและลูก ๆ ของเธอด้วยเพราะผมมีงานทำ” ยูชิยะเถียงเสียงแข็ง

‘ถ้าคุณแม่ยายรู้ว่าเราคือ... ยูชิยะ คนเดียวกันกับคนก่อนคงไม่พูดเช่นนี้แน่ แต่บอกไม่ได้ไม่อยากให้ตื่นตกใจไปมากกว่านี้’

“ฉันอนุญาตให้แต่งงานกันไม่ได้ เพราะวัยต่างกันเหลือเกิน จะตอบคำถามคนอื่นยังไง อายชาวบ้านเขาจะว่ามีผัวเด็กรุ่นลูก แม่ว่ามันไม่ไหวนะมิลิน และคุณพ่อของลูกคงไม่ยอมรับด้วย”

“เสียงคุยกันดังเชียว เกิดเรื่องอะไรขึ้นฉันได้ยินไม่ถนัด” คุณฮิงาชิตามคุณนายจินตนาขึ้นมาถึงชั้นบน

“เด็กยูชิยะคนนี้เป็นเพื่อนของเลวิส บอกว่ารักมิลินและอยากแต่งงานด้วย”

“โอ้โฮ... นี่มันคนละรุ่นเลยนะ พ่อรับไม่ได้หรอกมิลิน ถ้าลูกจะรีบมีผัวใหม่ทั้งยังไม่เสร็จงานศพทาคามิ แถมเป็นเพื่อนของลูกชายอีก แบบนี้เลวิสคงรับไม่ได้เช่นกัน” คุณฮิงาชิพูดไปในทางเดียวกับคุณนายจินตนา

“ผิดแล้วครับคุณตา ผมสนับสนุนยูชิยะ ผมเห็นใจในความรักของเขา ผมคงต้องบอกความจริงกับคุณตาคุณยาย ความจริงยูชิยะคนนี้เป็นคนเดียวกันกับยูชิยะ เขาเป็นพ่อของผมตัวจริงครับ” เลวิสเข้ามาช่วยพูดให้พ่อของเขา

“เป็นไปไม่ได้! อายุขนาดนี้... ดูไม่น่าใช่” คุณฮิงาชิถึงกับอุทานด้วยความไม่เชื่อ!

“แหม... คุณตาคุณยายไม่รู้อะไร พ่อผมไปศัลยกรรมทำหน้าเด็ก เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ช่วยทำให้คนหนุ่มสาวกว่าอายุ ชะลอความชรา พ่อผมไปทำใบหน้ามาอย่างแพงมาก เลยได้ผลดีขนาดดูแทบไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะครับ เหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่น เดี๋ยวนี้คนอายุมากเขานิยมทำกันทั้งนั้น พ่อผมเป็นนักร้อง อาชีพแบบนี้ต้องใช้หน้าตาทำมาหากินด้วยครับคุณตา” เลวิสพยายามพูดให้เหตุผล แม้มันเหลือเชื่ออย่างไรก็ตาม

‘ถึงเป็นคำโกหก แต่ยังดีกว่าพูดความจริงอีกอย่างที่เหลือเชื่อ และทุกคนคงยิ่งรับไม่ได้’

“จริงเหรอ... ยูชิยะ” คุณนายจินตนาถามกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ

ยูชิยะล่วงรู้ความคิดทุกคนจึงรีบรับสมอ้าง

“จริงครับ ถ้าไม่เชื่อผมจะเล่าความหลังสักเรื่องให้ฟัง... ผมเคยให้ของขวัญวันเกิดตอนอายุเก้าขวบของเลวิส ผมให้หุ่นยนต์ บังเอิญวันนั้นพวกคุณก็ให้ของขวัญเลวิสเป็นหุ่นยนต์แต่คนละรุ่นกับผม นี่เป็นเรื่องในครอบครัวเรา พวกคุณสองคนจำได้ใช่ไหม”

“ใช่... จริงของยูชิยะฉันไม่ได้ความจำเสื่อมฉันจำได้ แล้วคุณนายจินตนาล่ะ” คุณฮิงาชิยอมรับในเรื่องราวก่อนเก่า

“ฉันจำได้เหมือนกันค่ะ นี่แสดงว่าเธอคือยูชิยะตัวจริง ถ้าเธอรักลูกสาวฉันต้องมาอยู่ด้วยกันที่นี่ ฉันไม่ให้มิลินย้ายไปอยู่กับเธอที่อเมริกา” คุณนายจินตนายอมรับ แต่ยังมีเงื่อนไขไม่อยากให้ลูกสาวไปห่างไกลพ่อแม่อีก

“พ่ออยู่กับแม่ที่นี่เถอะ ผมกับน้องจะอยู่อเมริกาจนกว่าจะเรียนจบ และปีนี้ผมอายุยี่สิบบรรลุนิติภาวะแล้ว พวกเราดูแลซึ่งกันและกันได้ครับ แต่ทางนี้อยากให้พ่ออยู่ดูแลแม่นะครับ” เลวิสบอก เพื่อตัดความห่วงกังวลให้พ่อของเขาได้สมหวังในความรัก




ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 เม.ย. 2559, 15:37:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 เม.ย. 2559, 15:37:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 917





<< ตอน 18   ตอน 20 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account