ใยรัก...ลวงจันทร์
'ปภาวิน' ประสบเหตุการณ์ร้ายแรงในคืนหนึ่ง
'วราลี' คือที่พึ่งเดียวของเขา
แต่ทว่า แม้เขาจะเป็นถึงว่าที่ทายาท สืบทอดกิจการบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ตาม สิ่งเดียวที่หญิงสาวรับรู้ในตอนนี้คือปภาวินเป็นผอ-สระอี-ผี ! แถมยังเป็นผีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ลามกขั้นเทพด้วย เขาคอยตามตื้อหล่อนไม่เลิกรา เพียงเพราะแค่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างหล่อนก็เท่านั้น
วราลีต้องช่วยพาวิญญาณหนุ่มอย่างปภาวินกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด โดยที่หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น...ภายใต้ความเคียดแค้นพยาบาทที่ยังคงถูกซุกซ่อน…
มีใครบางคนรอวันเอาคืน !
'วราลี' คือที่พึ่งเดียวของเขา
แต่ทว่า แม้เขาจะเป็นถึงว่าที่ทายาท สืบทอดกิจการบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ตาม สิ่งเดียวที่หญิงสาวรับรู้ในตอนนี้คือปภาวินเป็นผอ-สระอี-ผี ! แถมยังเป็นผีเจ้าเล่ห์เพทุบาย ลามกขั้นเทพด้วย เขาคอยตามตื้อหล่อนไม่เลิกรา เพียงเพราะแค่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างหล่อนก็เท่านั้น
วราลีต้องช่วยพาวิญญาณหนุ่มอย่างปภาวินกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด โดยที่หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้น...ภายใต้ความเคียดแค้นพยาบาทที่ยังคงถูกซุกซ่อน…
มีใครบางคนรอวันเอาคืน !
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 1---75%
บทที่ 1 (ต่อ)
วรเมธรีบเก็บหนังสือเรียนกับอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่กระเป๋า เขามีนัดกับพี่สาวไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลเหมือนเช่นทุกเย็นเลยจะไปรอที่ห้องเรียนห้องข้างๆ ทุกครั้งหลังเลิกเรียนวราลีมักมาคุมนักเรียนห้องตัวเองทำความสะอาดห้อง วราลีเป็นครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่อยู่ห้องสี่ ขณะที่วรเมธเป็นนักเรียนห้องห้า
"เฮ้ย นั่นไง น้องครูวราลีออกมาโน่นแล้ว"
นักเรียนชายตัวโย่งสามคนเดินกร่างมาตามทางเดินหน้าห้องเรียนจากอีกฟากหนึ่งของอาคาร
วรเมธจากที่กำลังจะเดินมาหน้าห้องเรียนที่วราลีเป็นครูประจำชั้น ถึงกับเบิกตาโพลงราวเห็นผี จำได้แม่นว่าเป็นพวกกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่จอมอันธพาลซึ่งอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้า ร้อนถึงวรเมธต้องหันหลังให้ ตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ไวเท่านักเรียนรุ่นพี่พวกนั้น
"จะไปไหนไอ้เมธ" หนึ่งในนั้นก้าวขวาง
วรเมธตัวแข็งทื่อ เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตา ก็ครั้งสุดท้ายที่เจอ วรเมธถูกพวกนี้แกล้งอัดบอลใส่ เนื่องจากไม่พอใจที่วราลีเอาเรื่องที่พวกมันแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำไปฟ้องครูประจำชั้น แต่วรเมธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
"จำได้มั้ยว่าคราวที่แล้วพวกฉันพูดไว้ว่าไง...พวกฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าให้คุมความประพฤติพี่สาวแกให้ดีๆ กับอีแค่พวกฉันไม่เข้าเรียน พี่สาวแกเป็นแค่ครูภาษาไทย สะเออะมายุ่งอะไรกับพวกฉันนักหนา"
"ผะ...ผมไม่รู้เรื่อง พวกพี่ปล่อยผมไปเถอะ"
"ปล่อยเรอะ!" รุ่นพี่กระชากคอเสื้อวรเมธเข้าหา คนถูกกระชากคอเสื้อตกใจเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย แววตาของคนพวกนั้นทั้งดุดันและเต็มไปด้วยความโกรธแค้นจนวรเมธตัวสั่นเทิ้ม ได้แต่เงียบกริบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
"โธ่โว้ย!"
อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นผลักวรเมธกระเด็นชิดข้างฝา อาการไม่หือไม่อือนั้น คนหมายมั่นจะเอาเรื่องเกิดรู้สึกสมเพชเวทนาขึ้นมาแทน
"วันหลังถ้าพี่สาวแกยังมายุ่งเรื่องของพวกฉันอีก แกนั่นแหละที่จะซวย จำไว้!"
"มีอะไรกัน"
เสียงครูผู้ชายดังลอยมาแต่ไกล ครูณัฐพล...ครูประจำชั้นของวรเมธนั่นเอง เขามาตรวจเวรทำความสะอาดห้องตามปกติ พวกนักเรียนรุ่นพี่เห็นเท่านั้นก็ยอมผละจากวรเมธ หากไม่วายยังหันมาทำท่าปาดคอขู่ทิ้งท้าย แล้วเดินผ่านครูณัฐพลไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็นอะไรรึเปล่าวรเมธ”
ครูณัฐพลเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
วรเมธยังคงมองตามหลังนักเรียนรุ่นพี่ไปอย่างระแวงๆ หันไปก้มเก็บกระเป๋านักเรียนตัวเอง หารู้ไม่ว่าครูณัฐพลสังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดนั้น มองตามไล่หลังเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นไปเช่นกัน เมื่อครู่นี้ดูก็รู้ว่าพวกนั้นก็แค่รีบหลบออกไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับเขา ไม่ได้มีความเกรงกลัวเขาสักนิด
"เด็กพวกนี้ไม่ไหวจริงๆ" ครูณัฐพลส่ายหน้า “คราวก่อนเพิ่งถูกครูวราลีเรียกไปตักเตือนหยกๆ”
"พี่ลี...เอ่อ...ครูวราลีเรียกพี่ๆ เขาไปตักเตือนด้วยเหรอครับ" วรเมธสนใจขึ้นมาทันที
ครูณัฐพลครางรับในลำคอ พูดแล้วก็เหนื่อยใจในพฤติกรรมของเด็กนักเรียนกลุ่มนั้น
"ก็วันที่มีประชุมหมวดวิชาภาษาไทยนั่นแหละ ครูเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นมารอครูวราลีเขาอยู่หน้าห้อง สงสัยคงโดดเรียนคาบครูวราลีอีกตามเคยเลยเรียกมาตักเตือนตามประสา"
วรเมธลำดับไล่เรียงเรื่องราวตามที่ครูณัฐพลเล่า ใช่...วราลีสอนภาษาไทยห้องรุ่นพี่พวกนั้น แถมเมื่อกี้พวกมันต่อว่าเขาด้วยที่ปล่อยให้วราลีมายุ่งเรื่องที่พวกมันโดดเรียน
"อ้าว ครูวราลีมาพอดี" ครูณัฐพลเหลือบสายตาไปเห็นครูวราลีเดินตรงมาทางห้องเรียนพอดีเลยเอ่ยบอกน้องชายของครูสาว
คาบสุดท้ายวราลีมีสอนอาคารฝั่งตรงข้าม เนื่องจากรูปทรงของอาคารเรียนเป็นอักษรภาษาอังกฤษตัวยู มีสนามฟุตบอลคั่นกลาง กว่าครูสาวจะเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนกลับมายังอาคารฝั่งนี้ได้ไม่นึกว่าจะบังเอิญได้เจอครูณัฐพล ชะงักงัน
ครูณัฐพลส่งยิ้มให้ครูสาวทักทายตามมารยาทเพราะเห็นว่าเป็นครูภาษาไทยด้วยกัน ครูสาวถึงกับมองค้าง ชายหนุ่มร่างสันทัดตรงหน้าคงไม่รู้ตัวว่ามาดสุภาพบุรุษ สุขุมนุ่มลึกของเขานั้นบวกกับรอยยิ้มที่เขามอบให้ทำให้ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแบบไทยๆ ของเขาเปล่งออร่าหลงใหลชวนมองยิ่งนัก
ครูณัฐพลเดินหายเข้าไปในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ทับห้าแล้ว...หญิงสาวคงยืนเหม่อละเมอเพ้อฝันถึงชายหนุ่มในสเปคไปไกลกว่านี้ ถ้าไม่หันไปเห็นน้องชายทำท่าจะเดินผละไปทางอื่น
“เดี๋ยวสิเมธ” พี่สาวรีบเรียกรั้งไว้
วราลีสงสัยจะถามน้องชายเพราะเห็นคุยอยู่กับครูณัฐพลก่อนหน้านี้ แต่แล้วต้องชะงักไปอีกรอบเพราะน้องชายจู่ๆ ก็เล่นหันขวับมามองด้วยสายตาขุ่นเคือง สีหน้าบอกบุญไม่รับชอบกล
วรเมธยังโมโหค้างจากที่เพิ่งถูกรุ่นพี่ขู่อาฆาตก็จริง แต่ที่มากกว่านั้นคือเพิ่งรู้เรื่องพี่สาวจากครูณัฐพล ถ้าตามที่ครูณัฐพลเล่า วันที่วราลีประชุมก็คือวันเดียวกับที่มารดาเข้าโรงพยาบาล วรเมธยังจำความรู้สึกตัวเองในวันนั้นได้ดีว่าเป็นห่วงมารดาแทบขาดใจ...แต่พี่สาวกลับมัวไปจัดการอันธพาลพวกนั้นเนี่ยนะ!
"พี่เสร็จแล้วก็ไปเจอผมหน้าโรงเรียนแล้วกัน" วรเมธบอกพี่สาวแค่นั้นก็ผละไปดื้อๆ
*********************
โผล่มาต่อให้แล้ว อิอิ แต่มีข่าวดีคือ เดี๋ยวช่วงค่ำๆ รันมาต่อให้อีกจนจบบทที่ 1 นะคะ เป็นของขวัญหลังจากที่ช่วงสงกรานต์หยุดยาวกันไป ^O^ รอติดตามกันได้จ้า
วรเมธรีบเก็บหนังสือเรียนกับอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่กระเป๋า เขามีนัดกับพี่สาวไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลเหมือนเช่นทุกเย็นเลยจะไปรอที่ห้องเรียนห้องข้างๆ ทุกครั้งหลังเลิกเรียนวราลีมักมาคุมนักเรียนห้องตัวเองทำความสะอาดห้อง วราลีเป็นครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่อยู่ห้องสี่ ขณะที่วรเมธเป็นนักเรียนห้องห้า
"เฮ้ย นั่นไง น้องครูวราลีออกมาโน่นแล้ว"
นักเรียนชายตัวโย่งสามคนเดินกร่างมาตามทางเดินหน้าห้องเรียนจากอีกฟากหนึ่งของอาคาร
วรเมธจากที่กำลังจะเดินมาหน้าห้องเรียนที่วราลีเป็นครูประจำชั้น ถึงกับเบิกตาโพลงราวเห็นผี จำได้แม่นว่าเป็นพวกกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่จอมอันธพาลซึ่งอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้า ร้อนถึงวรเมธต้องหันหลังให้ ตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ไวเท่านักเรียนรุ่นพี่พวกนั้น
"จะไปไหนไอ้เมธ" หนึ่งในนั้นก้าวขวาง
วรเมธตัวแข็งทื่อ เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตา ก็ครั้งสุดท้ายที่เจอ วรเมธถูกพวกนี้แกล้งอัดบอลใส่ เนื่องจากไม่พอใจที่วราลีเอาเรื่องที่พวกมันแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำไปฟ้องครูประจำชั้น แต่วรเมธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
"จำได้มั้ยว่าคราวที่แล้วพวกฉันพูดไว้ว่าไง...พวกฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าให้คุมความประพฤติพี่สาวแกให้ดีๆ กับอีแค่พวกฉันไม่เข้าเรียน พี่สาวแกเป็นแค่ครูภาษาไทย สะเออะมายุ่งอะไรกับพวกฉันนักหนา"
"ผะ...ผมไม่รู้เรื่อง พวกพี่ปล่อยผมไปเถอะ"
"ปล่อยเรอะ!" รุ่นพี่กระชากคอเสื้อวรเมธเข้าหา คนถูกกระชากคอเสื้อตกใจเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย แววตาของคนพวกนั้นทั้งดุดันและเต็มไปด้วยความโกรธแค้นจนวรเมธตัวสั่นเทิ้ม ได้แต่เงียบกริบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
"โธ่โว้ย!"
อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นผลักวรเมธกระเด็นชิดข้างฝา อาการไม่หือไม่อือนั้น คนหมายมั่นจะเอาเรื่องเกิดรู้สึกสมเพชเวทนาขึ้นมาแทน
"วันหลังถ้าพี่สาวแกยังมายุ่งเรื่องของพวกฉันอีก แกนั่นแหละที่จะซวย จำไว้!"
"มีอะไรกัน"
เสียงครูผู้ชายดังลอยมาแต่ไกล ครูณัฐพล...ครูประจำชั้นของวรเมธนั่นเอง เขามาตรวจเวรทำความสะอาดห้องตามปกติ พวกนักเรียนรุ่นพี่เห็นเท่านั้นก็ยอมผละจากวรเมธ หากไม่วายยังหันมาทำท่าปาดคอขู่ทิ้งท้าย แล้วเดินผ่านครูณัฐพลไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็นอะไรรึเปล่าวรเมธ”
ครูณัฐพลเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
วรเมธยังคงมองตามหลังนักเรียนรุ่นพี่ไปอย่างระแวงๆ หันไปก้มเก็บกระเป๋านักเรียนตัวเอง หารู้ไม่ว่าครูณัฐพลสังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดนั้น มองตามไล่หลังเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นไปเช่นกัน เมื่อครู่นี้ดูก็รู้ว่าพวกนั้นก็แค่รีบหลบออกไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับเขา ไม่ได้มีความเกรงกลัวเขาสักนิด
"เด็กพวกนี้ไม่ไหวจริงๆ" ครูณัฐพลส่ายหน้า “คราวก่อนเพิ่งถูกครูวราลีเรียกไปตักเตือนหยกๆ”
"พี่ลี...เอ่อ...ครูวราลีเรียกพี่ๆ เขาไปตักเตือนด้วยเหรอครับ" วรเมธสนใจขึ้นมาทันที
ครูณัฐพลครางรับในลำคอ พูดแล้วก็เหนื่อยใจในพฤติกรรมของเด็กนักเรียนกลุ่มนั้น
"ก็วันที่มีประชุมหมวดวิชาภาษาไทยนั่นแหละ ครูเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นมารอครูวราลีเขาอยู่หน้าห้อง สงสัยคงโดดเรียนคาบครูวราลีอีกตามเคยเลยเรียกมาตักเตือนตามประสา"
วรเมธลำดับไล่เรียงเรื่องราวตามที่ครูณัฐพลเล่า ใช่...วราลีสอนภาษาไทยห้องรุ่นพี่พวกนั้น แถมเมื่อกี้พวกมันต่อว่าเขาด้วยที่ปล่อยให้วราลีมายุ่งเรื่องที่พวกมันโดดเรียน
"อ้าว ครูวราลีมาพอดี" ครูณัฐพลเหลือบสายตาไปเห็นครูวราลีเดินตรงมาทางห้องเรียนพอดีเลยเอ่ยบอกน้องชายของครูสาว
คาบสุดท้ายวราลีมีสอนอาคารฝั่งตรงข้าม เนื่องจากรูปทรงของอาคารเรียนเป็นอักษรภาษาอังกฤษตัวยู มีสนามฟุตบอลคั่นกลาง กว่าครูสาวจะเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนกลับมายังอาคารฝั่งนี้ได้ไม่นึกว่าจะบังเอิญได้เจอครูณัฐพล ชะงักงัน
ครูณัฐพลส่งยิ้มให้ครูสาวทักทายตามมารยาทเพราะเห็นว่าเป็นครูภาษาไทยด้วยกัน ครูสาวถึงกับมองค้าง ชายหนุ่มร่างสันทัดตรงหน้าคงไม่รู้ตัวว่ามาดสุภาพบุรุษ สุขุมนุ่มลึกของเขานั้นบวกกับรอยยิ้มที่เขามอบให้ทำให้ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแบบไทยๆ ของเขาเปล่งออร่าหลงใหลชวนมองยิ่งนัก
ครูณัฐพลเดินหายเข้าไปในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ทับห้าแล้ว...หญิงสาวคงยืนเหม่อละเมอเพ้อฝันถึงชายหนุ่มในสเปคไปไกลกว่านี้ ถ้าไม่หันไปเห็นน้องชายทำท่าจะเดินผละไปทางอื่น
“เดี๋ยวสิเมธ” พี่สาวรีบเรียกรั้งไว้
วราลีสงสัยจะถามน้องชายเพราะเห็นคุยอยู่กับครูณัฐพลก่อนหน้านี้ แต่แล้วต้องชะงักไปอีกรอบเพราะน้องชายจู่ๆ ก็เล่นหันขวับมามองด้วยสายตาขุ่นเคือง สีหน้าบอกบุญไม่รับชอบกล
วรเมธยังโมโหค้างจากที่เพิ่งถูกรุ่นพี่ขู่อาฆาตก็จริง แต่ที่มากกว่านั้นคือเพิ่งรู้เรื่องพี่สาวจากครูณัฐพล ถ้าตามที่ครูณัฐพลเล่า วันที่วราลีประชุมก็คือวันเดียวกับที่มารดาเข้าโรงพยาบาล วรเมธยังจำความรู้สึกตัวเองในวันนั้นได้ดีว่าเป็นห่วงมารดาแทบขาดใจ...แต่พี่สาวกลับมัวไปจัดการอันธพาลพวกนั้นเนี่ยนะ!
"พี่เสร็จแล้วก็ไปเจอผมหน้าโรงเรียนแล้วกัน" วรเมธบอกพี่สาวแค่นั้นก็ผละไปดื้อๆ
*********************
โผล่มาต่อให้แล้ว อิอิ แต่มีข่าวดีคือ เดี๋ยวช่วงค่ำๆ รันมาต่อให้อีกจนจบบทที่ 1 นะคะ เป็นของขวัญหลังจากที่ช่วงสงกรานต์หยุดยาวกันไป ^O^ รอติดตามกันได้จ้า
สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2559, 14:49:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2559, 14:49:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 835
<< บทที่ 1---50% | บทที่ 1---100% >> |
Zephyr 22 เม.ย. 2559, 19:13:45 น.
น้องงอนซะละ
น้องงอนซะละ
สรัน 28 เม.ย. 2559, 20:06:49 น.
55555 งอนมากๆเดี๋ยวจับนายเมธตัดหางปล่อยวัดเลย แฮ่
55555 งอนมากๆเดี๋ยวจับนายเมธตัดหางปล่อยวัดเลย แฮ่