ความรัก...สีหมอก
Tags: ความรัก...สีหมอก,อิง,เอย,แก้วกุดั่น,กรรณิการ์,พัสสน,ก้องภพ
ตอน: บทที่ 28
บทที่ 28
สามวันหลังจากนั้น สองสาวพี่น้องก็เตรียมออกจากบ้านรับอรุณเพื่อไปใช้ชีวิตกันตามลำพัง
แม้เจ็บปวดกับความจริงที่รับรู้และปวดร้าวกับการก้าวออกมาจากชีวิตของคนที่เธอรัก แต่แก้วกุดั่นก็ยิ้มได้ทั้งน้ำตาแม้ไม่รู้ว่าชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
อย่างน้อย เขาก็คงห่วงเธอ
หญิงสาวยิ้ม พยายามยึดเหนี่ยวความคิดนั้นไว้เป็นพลังใจหากวันข้างหน้าต้องเจอกับความเจ็บปวดและท้อแท้
แต่คงดีกว่านี้หากเขาจะอยู่รอส่งเธอเป็นครั้งสุดท้าย
นับจากคืนนั้น คืนที่ความจริงกระจ่าง ก้องภพก็เหมือนหายไปจากชีวิตของเธอ ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ไหนและไม่ว่าใครก็ติดต่อเขาไม่ได้ กระทั่งเมื่อวานเมื่อทนายส่วนตัวของเขานำเช็คมาให้เธอที่บ้านพร้อมกับข้อความที่ได้รับการถ่ายทอดมาอีกที
“คุณก้องให้ผมนำเช็คใบนี้มาให้ แล้วฝากบอกว่าคุณสามารถไปจากบ้านนี้ได้ทุกเมื่อที่คุณปรารถนา”
“แล้วคุณก้องจะกลับมาเมื่อไรคะ”
ตอนนั้นเธอถามออกไปด้วยความหวัง อย่างน้อยขอให้ได้พบเขาอีกสักครั้ง แต่แสงแห่งความหวังก็ดับวูบ
“คุณก้องจะกลับต่อเมื่อคุณออกไปจากที่นี่แล้ว”
แก้วกุดั่นยิ้มอีกครั้งอย่างสุขแกมเศร้าเมื่อหวนนึกถึงตัวเลขเจ็ดหลักที่ระบุในเช็ค มันมากพอที่เธอกับน้องจะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
ค่าตัวของเธอสูงเอาการ
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ แต่กลับมีหยดน้ำตกลงมากระทบบนเสื้อที่เตรียมพับใส่กระเป๋า นั่นเหมือนทำให้เจ้าตัวหมดความอดทนจนต้องซบหน้าลงกับตัวเสื้อที่หยิบขึ้นมา จากนั้นก็ปลดปล่อยทุกความเจ็บปวดและขมขื่นออกมากับน้ำตาที่ร่วงริน
ทว่า เย็นวันนั้นยังไม่ทันที่แก้วกุดั่นจะพากรรณิการ์ออกไปเผชิญชีวิตกันตามลำพัง ใครคนหนึ่งก็มาปรากฏตัว
“คุณจะพาเอยไปไหน”
แก้วกุดั่นกระพริบตาปริบ ๆ แวบแรกยังตั้งตัวไม่ติดกับคนที่โผล่เข้ามาราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ตั้งเค้า หากเมื่อเห็นกรรณิการ์ซึ่งกำลังเดินตามหลัง ทำให้พอเดาได้
“คุณพอลโทร. หาเอยค่ะ พอเอยบอกว่าจะไปอยู่ที่อื่น คุณพอลก็...”
กรรณิการ์รีบบอกเมื่อเห็นสายตาที่พี่สาวมองมา ถึงเดาได้ว่าแก้วกุดั่นไม่โกรธแต่จากสายตายิ้ม ๆ นั้นก็ทำให้ขัดเขินจนต้องตวัดตามองคนที่เป็นต้นเหตุ
ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ชิงวางหูแล้วแปบเดียวก็มาโผล่ที่นี่
“ผมเป็นห่วงเอย”
คำบอกร้อนรนนั้นยิ่งเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าของแก้วกุดั่น ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าของกรรณิการ์มีสีแดงระเรื่อ
อาจด้วยความห่วงบวกร้อนใจ เมื่อเห็นแก้วกุดั่นเอาแต่ยิ้ม พัสสนจึงโพล่งข้อเสนออย่างที่คิดไว้มาตลอดทาง
“ผมจะหาที่อยู่ให้คุณกับเอยเอง”
สองวันหลังจากสองสาวพี่น้องออกไปจากบ้านรับอรุณ ก้องภพก็กลับมาบ้านตัวเอง
ชายหนุ่มปฏิเสธอาหารเย็นที่แม่บ้านใหญ่เสนอจากนั้นขึ้นไปหมกตัวอยู่ในห้องนอน แล้วเฝ้าคิดถึงคนที่จากไป
“เพราะตอนนี้ ฉันไม่ต้องการตัวแทนแล้วเหมือนกัน”
เมื่อนึกคำพูดสุดท้ายที่บอกกับแก้วกุดั่น ก้องภพก็หลับตาลงเพราะหวังว่าอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการที่ภาพของเธอผุดขึ้นจากความทรงจำ
“ปล่องอิงไป...นะคะ”
คำร้องขอพร้อมน้ำตาของเธอไม่ต่างจากหลักฐานชี้บอกว่าที่ผ่านมาแก้วกุดั่นต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขา
“เธอ...คงเกลียดฉันมากเลยสินะ”
คำถามของเขาที่ไม่ได้รับคำตอบ ยิ่งยืนยันว่าเธอต้องเจ็บปวดมากมายเพราะความเห็นแก่ตัวของเขา
วูบนั้น ประโยคที่เคยอ่านเจอจากที่ไหนสักแห่งก็ผุดขึ้นเหมือนจะซ้ำเติมหัวใจให้ยิ่งรวดร้าว
ความเห็นแก่ตัวอาจทำให้ได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่มีวันได้ก็คือหัวใจของคน
สิ่งที่ไม่มีวันได้ก็คือหัวใจของคน
ชายหนุ่มทวนในใจก่อนแค่นยิ้ม
ที่ผ่านมา เขาทำร้ายทำลายแก้วกุดั่นก็เพียงเพื่อให้ได้สมใจตัวเอง ใช้เธอตอบสนองความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึก ไม่เคยหยุดคิดว่าเธอจะเจ็บช้ำมากแค่ไหน
เขามันเห็นแก่ตัว สมควรแล้วที่จะไม่มีวันได้หัวใจของใคร
แม้นึกสมน้ำหน้าตนเอง แต่หัวใจก็เหมือนอยากอุทธรณ์จนแสดงออกด้วยการบีบรัด ความปวดแปลบที่รู้สึกทำให้ก้องภพยิ่งนึกหยัน
เพิ่งรู้ เวลาอยากได้หัวใจใครสักคนในวันที่สายเกินไป มันจะเจ็บปวดหัวใจถึงเพียงนี้
ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากุมอกด้านซ้าย เหมือนอยากให้แน่ใจว่ายังมีหัวใจอยู่
เพราะความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่า...ทั้งที่ยังมีลมหายใจแต่หัวใจเหมือนถูกใครควักเอาไปแล้ว
สองเดือนต่อมา
เมื่อเห็นรถยนต์คันคุ้นตาแล่นมาจอดที่ริมรั้ว กรรณิการ์ก็ผละจากชานระเบียงหน้าบ้านที่ก่อนหน้านี้เดินกลับไปกลับมา แล้วรีบเดินตัวปลิวตรงไปยังประตูรั้ว
“คุณพอล ทำไมมาช้าจังคะ”
เด็กสาวพูดพลางเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้ามาด้านใน
“นี่คุณพอลรีบที่สุดแล้วนะ”
พัสสนบอก ไม่ติดใจกับการถูกต่อว่าเข้าใจดีว่ากรรณิการ์กำลังร้อนใจ หลังจากหันมองไปรอบ ๆ จึงตั้งคำถาม
“แล้วอิงอยู่ไหน”
“อยู่ข้างในค่ะ แต่พี่อิงดูอาการไม่ค่อยดีเลย เอย...กลัวจัง”
“คุณพอลอยู่นี่ ไม่มีอะไรต้องกลัว”
กรรณิการ์ยิ้มออก รู้สึกราวกับผู้ชายตรงหน้าถ่ายทอดพลังมาให้จนหัวใจเริ่มอุ่น หลังจากก่อนหน้านั้นหัวใจเหมือนเย็นเฉียบจากความกลัวและกังวลกับอาการของแก้วกุดั่น
หลายวันมานี้พี่สาวของเธอไม่สบาย จากวันแรกที่เอาแต่นอนซมกินอะไรไม่ลงกระทั่งถูกเธอคะยั้นคะยอให้กินอะไรบ้างเพราะไม่อยากให้ท้องว่างก็ปรากฏว่าอาเจียนออกมาจนหมด ทำให้เธอทั้งตกใจและเป็นห่วง แต่ไม่ว่าจะขอร้องให้ไปหาหมอสักเท่าไรพี่สาวของเธอก็เอาแต่ปฏิเสธ
กระทั่งเช้านี้ เมื่อแก้วกุดั่นอาเจียนอย่างหนัก ความเป็นห่วงและกังวลทำให้กรรณิการ์ทนไม่ไหวต้องยอมขัดใจพี่สาวด้วยการโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เป็นที่พึ่งให้กับเธอมาตลอดนับตั้งแต่ก้าวออกมาจากบ้านรับอรุณ
เริ่มจากการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ที่ได้มาจากการเสนอให้ของเขา แม้ตอนแรกเกิดการโต้เถียงเล็ก ๆ เพราะพี่สาวของเธอยืนกรานว่าไม่ขอรับฟรี กว่าจะตกลงกันได้ถึงแม้ด้วยความไม่เต็มใจนักของชายหนุ่มก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
จากนั้น ถึงแม้แทบทุกวันพัสสนจะพาตัวเองมาเป็นแขกประจำบ้าน แต่ทุกครั้งเขามักซื้อข้าวของติดไม้ติดมือมาเสมอ ไม่สนใจแม้ถูกแก้วกุดั่นออกปากห้ามหลายครั้งหลายหนเพราะความเกรงใจ
จนถึงตอนที่ตกใจคิดอะไรไม่ออกกับอาการของแก้วกุดั่นที่ดูหนักขึ้น ใบหน้าของคนคนหนึ่งกลับผุดขึ้นแทบทันทีราวกับจะยืนยันคำพูดของเขาก่อนหน้านั้นในวันที่พาเธอกับพี่สาวเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่หลังนี้
“จำไว้นะเอย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้นึกถึงคุณพอลเป็นคนแรก แล้วคุณพอลจะรีบมาทันที”
และตอนนี้ เขาก็พิสูจน์แล้วว่าทำได้อย่างที่พูด
ด้วยความเต็มตื้นระคนโล่งอกเด็กสาวจึงเอื้อมมือไปดึงแขนชายหนุ่มเอาไว้ แล้วออกปาก
“คุณพอล ขอบคุณมากนะคะ”
ราวกับพัสสนตั้งตัวไม่ติดจนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ครู่ หากไม่นานชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างจนดวงตาสีน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อตอบกลับเสียงนุ่ม
“ขอเปลี่ยนจากขอบคุณเป็นจูบหวาน ๆ แทนได้ไหม”
ปฏิกิริยาที่ได้รับจากการร้องขอคือกำปั้นเล็กที่ทุบลงมาบนอกเบา ๆ จนชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนอาศัยความว่องไวขโมยหอมแก้มเด็กสาวไปหนึ่งฟอด
“คุณพอล!”
เด็กสาวทำตาโต ก่อนง้างมือขึ้นเตรียมฟาดคนฉวยโอกาสแต่อีกฝ่ายก็เหมือนนกรู้เมื่อรีบหลบฉากเข้าไปในตัวบ้านหากไม่วายทิ้งท้ายเสียงหัวเราะให้คนฟังนึกเจ็บใจ
“ยินดีด้วยค่ะ คุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว”
สำหรับแก้วกุดั่นแล้ว ผลตรวจที่ได้ฟังจากปากของแพทย์หญิงให้ความรู้สึกเหมือนเห็นฟ้าผ่าตอนกลางวัน
ในที่สุดสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจก็กลายเป็นจริง
หญิงสาวเอามือลูบท้อง วูบนั้นอุปทานไปว่าสัมผัสได้ถึงอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังขยับตัวจนส่งผลให้น้ำตาซึม
ความรักของเธอ
แก้วกุดั่นรำพึงในใจ หากความคิดล่องลอยไปถึงค่ำคืนที่ก้องภพใช้เธอเป็นที่สนองอารมณ์
ชีวิตน้อย ๆ คงถือกำเนิดในคืนนั้น
น้ำตาจากความร้าวรานจวนเจียนหยาดหยดเมื่อนึกถึงค่ำคืนนั้น
ทั้งที่การกระทำของเขามีแต่ความรุนแรงและทำให้เจ็บปวด แต่ขณะเดียวกันกลับสร้างสิ่งงดงามเอาไว้ให้
แม้เขาไม่มีวันเป็นของเธอ แต่ลูกจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว
หญิงสาวตัดสินใจ ยามนั้นทั้งสุขและเศร้าคละเคล้ากันจนแยกไม่ออก
สำหรับเขา ลูกอาจถือกำเนิดจากการที่เขาใช้เธอเป็นที่ระบายความใคร่ แต่สำหรับเธอ...ลูกคนนี้เกิดขึ้นเพราะความรักทั้งหมดที่มีในหัวใจ
--------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุก LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
Zephyr : ตีคนแต่งเลยค่ะโทษฐานทำให้ขัดใจ 555
ปิ่นนลิน : ใช่ค่ะ แต่บางทีการพูดตรง ๆ ก็ทำให้เจ็บได้ไม่แพ้กัน...เน๊อะ
สามวันหลังจากนั้น สองสาวพี่น้องก็เตรียมออกจากบ้านรับอรุณเพื่อไปใช้ชีวิตกันตามลำพัง
แม้เจ็บปวดกับความจริงที่รับรู้และปวดร้าวกับการก้าวออกมาจากชีวิตของคนที่เธอรัก แต่แก้วกุดั่นก็ยิ้มได้ทั้งน้ำตาแม้ไม่รู้ว่าชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
อย่างน้อย เขาก็คงห่วงเธอ
หญิงสาวยิ้ม พยายามยึดเหนี่ยวความคิดนั้นไว้เป็นพลังใจหากวันข้างหน้าต้องเจอกับความเจ็บปวดและท้อแท้
แต่คงดีกว่านี้หากเขาจะอยู่รอส่งเธอเป็นครั้งสุดท้าย
นับจากคืนนั้น คืนที่ความจริงกระจ่าง ก้องภพก็เหมือนหายไปจากชีวิตของเธอ ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ไหนและไม่ว่าใครก็ติดต่อเขาไม่ได้ กระทั่งเมื่อวานเมื่อทนายส่วนตัวของเขานำเช็คมาให้เธอที่บ้านพร้อมกับข้อความที่ได้รับการถ่ายทอดมาอีกที
“คุณก้องให้ผมนำเช็คใบนี้มาให้ แล้วฝากบอกว่าคุณสามารถไปจากบ้านนี้ได้ทุกเมื่อที่คุณปรารถนา”
“แล้วคุณก้องจะกลับมาเมื่อไรคะ”
ตอนนั้นเธอถามออกไปด้วยความหวัง อย่างน้อยขอให้ได้พบเขาอีกสักครั้ง แต่แสงแห่งความหวังก็ดับวูบ
“คุณก้องจะกลับต่อเมื่อคุณออกไปจากที่นี่แล้ว”
แก้วกุดั่นยิ้มอีกครั้งอย่างสุขแกมเศร้าเมื่อหวนนึกถึงตัวเลขเจ็ดหลักที่ระบุในเช็ค มันมากพอที่เธอกับน้องจะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
ค่าตัวของเธอสูงเอาการ
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ แต่กลับมีหยดน้ำตกลงมากระทบบนเสื้อที่เตรียมพับใส่กระเป๋า นั่นเหมือนทำให้เจ้าตัวหมดความอดทนจนต้องซบหน้าลงกับตัวเสื้อที่หยิบขึ้นมา จากนั้นก็ปลดปล่อยทุกความเจ็บปวดและขมขื่นออกมากับน้ำตาที่ร่วงริน
ทว่า เย็นวันนั้นยังไม่ทันที่แก้วกุดั่นจะพากรรณิการ์ออกไปเผชิญชีวิตกันตามลำพัง ใครคนหนึ่งก็มาปรากฏตัว
“คุณจะพาเอยไปไหน”
แก้วกุดั่นกระพริบตาปริบ ๆ แวบแรกยังตั้งตัวไม่ติดกับคนที่โผล่เข้ามาราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ตั้งเค้า หากเมื่อเห็นกรรณิการ์ซึ่งกำลังเดินตามหลัง ทำให้พอเดาได้
“คุณพอลโทร. หาเอยค่ะ พอเอยบอกว่าจะไปอยู่ที่อื่น คุณพอลก็...”
กรรณิการ์รีบบอกเมื่อเห็นสายตาที่พี่สาวมองมา ถึงเดาได้ว่าแก้วกุดั่นไม่โกรธแต่จากสายตายิ้ม ๆ นั้นก็ทำให้ขัดเขินจนต้องตวัดตามองคนที่เป็นต้นเหตุ
ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ชิงวางหูแล้วแปบเดียวก็มาโผล่ที่นี่
“ผมเป็นห่วงเอย”
คำบอกร้อนรนนั้นยิ่งเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าของแก้วกุดั่น ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าของกรรณิการ์มีสีแดงระเรื่อ
อาจด้วยความห่วงบวกร้อนใจ เมื่อเห็นแก้วกุดั่นเอาแต่ยิ้ม พัสสนจึงโพล่งข้อเสนออย่างที่คิดไว้มาตลอดทาง
“ผมจะหาที่อยู่ให้คุณกับเอยเอง”
สองวันหลังจากสองสาวพี่น้องออกไปจากบ้านรับอรุณ ก้องภพก็กลับมาบ้านตัวเอง
ชายหนุ่มปฏิเสธอาหารเย็นที่แม่บ้านใหญ่เสนอจากนั้นขึ้นไปหมกตัวอยู่ในห้องนอน แล้วเฝ้าคิดถึงคนที่จากไป
“เพราะตอนนี้ ฉันไม่ต้องการตัวแทนแล้วเหมือนกัน”
เมื่อนึกคำพูดสุดท้ายที่บอกกับแก้วกุดั่น ก้องภพก็หลับตาลงเพราะหวังว่าอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการที่ภาพของเธอผุดขึ้นจากความทรงจำ
“ปล่องอิงไป...นะคะ”
คำร้องขอพร้อมน้ำตาของเธอไม่ต่างจากหลักฐานชี้บอกว่าที่ผ่านมาแก้วกุดั่นต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขา
“เธอ...คงเกลียดฉันมากเลยสินะ”
คำถามของเขาที่ไม่ได้รับคำตอบ ยิ่งยืนยันว่าเธอต้องเจ็บปวดมากมายเพราะความเห็นแก่ตัวของเขา
วูบนั้น ประโยคที่เคยอ่านเจอจากที่ไหนสักแห่งก็ผุดขึ้นเหมือนจะซ้ำเติมหัวใจให้ยิ่งรวดร้าว
ความเห็นแก่ตัวอาจทำให้ได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่มีวันได้ก็คือหัวใจของคน
สิ่งที่ไม่มีวันได้ก็คือหัวใจของคน
ชายหนุ่มทวนในใจก่อนแค่นยิ้ม
ที่ผ่านมา เขาทำร้ายทำลายแก้วกุดั่นก็เพียงเพื่อให้ได้สมใจตัวเอง ใช้เธอตอบสนองความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึก ไม่เคยหยุดคิดว่าเธอจะเจ็บช้ำมากแค่ไหน
เขามันเห็นแก่ตัว สมควรแล้วที่จะไม่มีวันได้หัวใจของใคร
แม้นึกสมน้ำหน้าตนเอง แต่หัวใจก็เหมือนอยากอุทธรณ์จนแสดงออกด้วยการบีบรัด ความปวดแปลบที่รู้สึกทำให้ก้องภพยิ่งนึกหยัน
เพิ่งรู้ เวลาอยากได้หัวใจใครสักคนในวันที่สายเกินไป มันจะเจ็บปวดหัวใจถึงเพียงนี้
ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากุมอกด้านซ้าย เหมือนอยากให้แน่ใจว่ายังมีหัวใจอยู่
เพราะความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่า...ทั้งที่ยังมีลมหายใจแต่หัวใจเหมือนถูกใครควักเอาไปแล้ว
สองเดือนต่อมา
เมื่อเห็นรถยนต์คันคุ้นตาแล่นมาจอดที่ริมรั้ว กรรณิการ์ก็ผละจากชานระเบียงหน้าบ้านที่ก่อนหน้านี้เดินกลับไปกลับมา แล้วรีบเดินตัวปลิวตรงไปยังประตูรั้ว
“คุณพอล ทำไมมาช้าจังคะ”
เด็กสาวพูดพลางเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้ามาด้านใน
“นี่คุณพอลรีบที่สุดแล้วนะ”
พัสสนบอก ไม่ติดใจกับการถูกต่อว่าเข้าใจดีว่ากรรณิการ์กำลังร้อนใจ หลังจากหันมองไปรอบ ๆ จึงตั้งคำถาม
“แล้วอิงอยู่ไหน”
“อยู่ข้างในค่ะ แต่พี่อิงดูอาการไม่ค่อยดีเลย เอย...กลัวจัง”
“คุณพอลอยู่นี่ ไม่มีอะไรต้องกลัว”
กรรณิการ์ยิ้มออก รู้สึกราวกับผู้ชายตรงหน้าถ่ายทอดพลังมาให้จนหัวใจเริ่มอุ่น หลังจากก่อนหน้านั้นหัวใจเหมือนเย็นเฉียบจากความกลัวและกังวลกับอาการของแก้วกุดั่น
หลายวันมานี้พี่สาวของเธอไม่สบาย จากวันแรกที่เอาแต่นอนซมกินอะไรไม่ลงกระทั่งถูกเธอคะยั้นคะยอให้กินอะไรบ้างเพราะไม่อยากให้ท้องว่างก็ปรากฏว่าอาเจียนออกมาจนหมด ทำให้เธอทั้งตกใจและเป็นห่วง แต่ไม่ว่าจะขอร้องให้ไปหาหมอสักเท่าไรพี่สาวของเธอก็เอาแต่ปฏิเสธ
กระทั่งเช้านี้ เมื่อแก้วกุดั่นอาเจียนอย่างหนัก ความเป็นห่วงและกังวลทำให้กรรณิการ์ทนไม่ไหวต้องยอมขัดใจพี่สาวด้วยการโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เป็นที่พึ่งให้กับเธอมาตลอดนับตั้งแต่ก้าวออกมาจากบ้านรับอรุณ
เริ่มจากการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ที่ได้มาจากการเสนอให้ของเขา แม้ตอนแรกเกิดการโต้เถียงเล็ก ๆ เพราะพี่สาวของเธอยืนกรานว่าไม่ขอรับฟรี กว่าจะตกลงกันได้ถึงแม้ด้วยความไม่เต็มใจนักของชายหนุ่มก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
จากนั้น ถึงแม้แทบทุกวันพัสสนจะพาตัวเองมาเป็นแขกประจำบ้าน แต่ทุกครั้งเขามักซื้อข้าวของติดไม้ติดมือมาเสมอ ไม่สนใจแม้ถูกแก้วกุดั่นออกปากห้ามหลายครั้งหลายหนเพราะความเกรงใจ
จนถึงตอนที่ตกใจคิดอะไรไม่ออกกับอาการของแก้วกุดั่นที่ดูหนักขึ้น ใบหน้าของคนคนหนึ่งกลับผุดขึ้นแทบทันทีราวกับจะยืนยันคำพูดของเขาก่อนหน้านั้นในวันที่พาเธอกับพี่สาวเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่หลังนี้
“จำไว้นะเอย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้นึกถึงคุณพอลเป็นคนแรก แล้วคุณพอลจะรีบมาทันที”
และตอนนี้ เขาก็พิสูจน์แล้วว่าทำได้อย่างที่พูด
ด้วยความเต็มตื้นระคนโล่งอกเด็กสาวจึงเอื้อมมือไปดึงแขนชายหนุ่มเอาไว้ แล้วออกปาก
“คุณพอล ขอบคุณมากนะคะ”
ราวกับพัสสนตั้งตัวไม่ติดจนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ครู่ หากไม่นานชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างจนดวงตาสีน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อตอบกลับเสียงนุ่ม
“ขอเปลี่ยนจากขอบคุณเป็นจูบหวาน ๆ แทนได้ไหม”
ปฏิกิริยาที่ได้รับจากการร้องขอคือกำปั้นเล็กที่ทุบลงมาบนอกเบา ๆ จนชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนอาศัยความว่องไวขโมยหอมแก้มเด็กสาวไปหนึ่งฟอด
“คุณพอล!”
เด็กสาวทำตาโต ก่อนง้างมือขึ้นเตรียมฟาดคนฉวยโอกาสแต่อีกฝ่ายก็เหมือนนกรู้เมื่อรีบหลบฉากเข้าไปในตัวบ้านหากไม่วายทิ้งท้ายเสียงหัวเราะให้คนฟังนึกเจ็บใจ
“ยินดีด้วยค่ะ คุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว”
สำหรับแก้วกุดั่นแล้ว ผลตรวจที่ได้ฟังจากปากของแพทย์หญิงให้ความรู้สึกเหมือนเห็นฟ้าผ่าตอนกลางวัน
ในที่สุดสิ่งที่เธอสังหรณ์ใจก็กลายเป็นจริง
หญิงสาวเอามือลูบท้อง วูบนั้นอุปทานไปว่าสัมผัสได้ถึงอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังขยับตัวจนส่งผลให้น้ำตาซึม
ความรักของเธอ
แก้วกุดั่นรำพึงในใจ หากความคิดล่องลอยไปถึงค่ำคืนที่ก้องภพใช้เธอเป็นที่สนองอารมณ์
ชีวิตน้อย ๆ คงถือกำเนิดในคืนนั้น
น้ำตาจากความร้าวรานจวนเจียนหยาดหยดเมื่อนึกถึงค่ำคืนนั้น
ทั้งที่การกระทำของเขามีแต่ความรุนแรงและทำให้เจ็บปวด แต่ขณะเดียวกันกลับสร้างสิ่งงดงามเอาไว้ให้
แม้เขาไม่มีวันเป็นของเธอ แต่ลูกจะเป็นของเธอเพียงคนเดียว
หญิงสาวตัดสินใจ ยามนั้นทั้งสุขและเศร้าคละเคล้ากันจนแยกไม่ออก
สำหรับเขา ลูกอาจถือกำเนิดจากการที่เขาใช้เธอเป็นที่ระบายความใคร่ แต่สำหรับเธอ...ลูกคนนี้เกิดขึ้นเพราะความรักทั้งหมดที่มีในหัวใจ
--------------------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับทุก LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
Zephyr : ตีคนแต่งเลยค่ะโทษฐานทำให้ขัดใจ 555
ปิ่นนลิน : ใช่ค่ะ แต่บางทีการพูดตรง ๆ ก็ทำให้เจ็บได้ไม่แพ้กัน...เน๊อะ
พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2559, 20:32:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2559, 20:32:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 1257
<< บทที่ 27 | บทที่ 29 >> |
konhin 22 เม.ย. 2559, 21:14:42 น.
อ้าว จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย
อ้าว จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย
wane 23 เม.ย. 2559, 04:22:15 น.
ปิ่นนลิน 24 เม.ย. 2559, 11:50:55 น.
อ้าววว รีบมารับเมียกะลูกเลย คุณก้องง
อ้าววว รีบมารับเมียกะลูกเลย คุณก้องง
LAM 26 เม.ย. 2559, 10:15:52 น.
ชอบมากค่ะ
ชอบมากค่ะ
Zephyr 9 พ.ค. 2559, 18:05:36 น.
ว้าว สิ่งนี้จะเปลี่ยนใจคุณพ่อมั้ยนะ
ว้าว สิ่งนี้จะเปลี่ยนใจคุณพ่อมั้ยนะ