~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 36 .. เป้าหมายจู่โจม




เชดส์แยกตัวจากศรตฤณไปแล้ว หลังจากสปีดโบ๊ทเร่งเครื่องขับเคลื่อนลอยลำลับตาไปได้ไม่นาน ดังที่พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้า เพราะเชื่อแน่ว่าไม่ช้าไม่นาน ‘คนของท่าน’ ในบทบาทผู้ล่าจะมาถึง

แต่ที่ยังไม่รู้คือ คน ๆ นั้น เป็น ใคร

ศรตฤณแตะบริเวณบั้นเอวของตน ตรงนั้นมีฟิกซ์เบลดหรือมีดใบตายเล่มใหม่อำพรางแยบยล หากง่ายต่อการใช้งาน ...

งานที่ต้องขุดทักษะประดามีทั้งหมด อย่างน้อยก็เพื่อให้ข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

ชายหนุ่มไม่ต้องส่องกระจกให้เสียเวลา ก็รู้ได้ว่าหน้าตาของเขาพกความเคร่งเครียดเต็มพิกัด

ในสถานการณ์ไม่ปกติท่ามกลางความมืดมิด ไม่ว่าอย่างไร มันย่อมแฝงไว้ด้วยอันตรายเสมอ

ศรตฤณใช้ฝ่ามือทั้งสองยกขึ้นมาลูบหน้า ปลายนิ้วที่แตะหว่างคิ้ว รับรู้ได้ว่ามันมุ่นเข้าหาแทบจะชิดกัน กล้ามเนื้อแกร่งเกร็งไปทุกส่วน

สัญชาตญาณนักสู้ของเขา ... ถูกปลุกขึ้นแล้ว

แต่ละนาทีผ่านไปเหมือนค่อยคืบค่อยคลาน ไม่อาจรู้ได้เลยว่า เชดส์พ้นจากรัศมีหาดไร่เลย์ถึงอ่าวนางหรือยัง

‘หมอศิง’ คนนั้น จะไปถึงที่หมายโดยปลอดภัยหรือไม่ แต่อย่างน้อย ก็ยังมีหนุ่มหน้าอ่อนท่าทางคล่องแคล่วเหมือนพวกนักกีฬาที่ชื่อ รัศมิทัต ติดตามไปด้วย คงไม่น่าห่วงมากนัก

ผิดกับอีกทางที่ศรตฤณต้องให้ความเชื่อใจแก่เพลิงกัลป์กว่าครั้งใด ... เพราะเชื่อว่า ชายหนุ่มคนนี้น่าจะปกป้องหลานสาวของเขา ได้ดีกว่าตนเองในช่วงวิกฤต

ความกังวลดูจะทำให้สมาธิของหนุ่มสองเชื้อชาติกระเซ็นกระสาย จึงพยายามรวบรวมมันอีกครั้ง กระทั่ง รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างภายนอกวิลล่าที่พัก

จากที่เขารู้ หากอยู่นอกเหนือจากเวลาทำงานที่กำหนด พนักงานของรีสอร์ทแห่งนี้ จะไม่มายุ่มย่ามวุ่นวายกับลูกค้า จนกว่าจะมีการติดต่อหรือร้องขอ

ดังนั้น เสียงฝีเท้าคล้ายการสำรวจโดยรอบที่กระทบโสตประสาท ต่อให้แผ่วเบาปานใด ย่อมแสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว

เสียงคลื่นซัดสาดจากแนวชายหาด ยังถูกความเงียบครอบงำกลืนกลบเสียจนชายหนุ่มที่อยู่ที่นี่เพียงคนเดียว เหมือนจะได้ยินเสียงชีพจรของตัวเอง

ศรตฤณค่อยขยับกายในความมืดสืบเท้าเข้าใกล้ประตู ถึงมันออกจะดูงี่เง่า แต่เขาก็อยากรู้นักว่า ข้างนอกนั่น มีอะไร หรือใครอยู่กันแน่

“แน่ใจนะ ?”

คำถามย้ำแบบกระซิบแต่เขาก็ยังพอได้ยิน เป็นน้ำเสียงทุ้มต่ำของผู้ชาย บอกได้ว่ากำลังแสดงความไม่แน่ใจ แล้วก็มีอีกเสียงตอบกลับ ที่แปลความหมายก้ำกึ่งเป็นการชักชวน หรือเชิงไล่ให้ล่วงหน้าไปก่อน

“ไปเถอะ”

เสียงผู้หญิง ?



ศรตฤณนิ่วหน้าในห้องที่ดับไฟมืดสนิท แต่ข้างนอกยังมีแสงสลัวจากการตามไฟรอบบริเวณวิลล่า

ไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงคล้ายเครื่องยนต์ของพาหนะทางน้ำ ก่อนจะค่อยจางห่างออกไป

ฉับพลัน เขาก็คิดได้ว่า พวกมัน ... ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อาจจะกำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางเดียวกับที่มัสลินล่วงหน้าไปได้ไม่นาน

หัวใจของศรตฤณกระตุกวูบ สลับเต้นกระหน่ำไปกับความคิดทันที และเขาก็ลืมเสียสนิทว่า หากเขาเปิดประตูบานนี้ออกไป จะต้องพบเจออะไรบ้าง

ความเป็นห่วงมัสลิน ทำให้ศรตฤณผลุนผลันกระชากลูกบิด เปิดประตูอย่างไม่สนใจเหตุผลอื่นใด นอกจากต้องหาทางติดต่อกับเพลิงกัลป์ให้ได้ ... โดยเร็วที่สุด

“ผู้หญิงคนนั้น ... กำลังจะไปไหนคะ ... ซายน์”

ประโยคราบเรียบเอ่ยถึงบุคคลที่สาม กับการเรียกชื่อศรตฤณด้วยน้ำเสียงคุ้นเคยจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มที่พรวดพราดผ่านประตูออกมาชะงักไป

ศรตฤณคิดถูกแค่ครึ่งเดียว ... คือ เสียงผู้หญิงที่ได้ยินก่อนหน้า แต่อีกครึ่ง เขาคิดว่า เธอจากไปแล้ว

นั่นยังไม่เท่ากับคิดไม่ถึงว่า คนที่ยังอยู่ ... แถมยืนอยู่เบื้องหลังของเขา จะเป็นคนที่รู้จัก ... อย่างลึกซึ้ง

“เพชรงาม”

ชายหนุ่มเตรียมใจกับการเผชิญหน้ากับใครก็ได้ ... ทุกคน

แต่ชื่อที่เพิ่งเอ่ยออกมา ก็ทำให้เขาประมวลผลและสรุปได้แล้วว่า หญิงสาวที่เขาตีสนิทแต่แรก ไม่ธรรมดากว่าที่ประเมินไว้ ... มาก

“ค่ะ ... ฉันเอง”

เจ้าของชื่อยอมรับเสียงเรียบ ซึ่งเขาเองยังเดาไม่ออกว่า เธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่

ศรตฤณกวาดสายตาโดยรอบ จนมั่นใจว่าตอนนี้ มีเพียงเขาและเธอ ... สองคน เท่านั้น จึงค่อย ๆ หันหลังกลับมาทางเพชรงาม ที่เพิ่งสังเกตว่า เธอยืนในมุมมืดอับแสง

“คุณไม่ใช่เลขา ฯ ธรรมดา ๆ ... จริง ๆ”

“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะคะ ซายน์”

ริมฝีปากเคลือบรสที่ชายหนุ่มจดจำ ไร้รอยยิ้มเหมือนยามออเซาะอ่อนหวาน น้ำเสียงที่ได้ยินก็ดูเย็นชา ช่างแตกต่างจากยามออดอ้อนเร่าร้อน ... ครั้งเคยแนบชิด

“อะ ... นาคินทร์ส่งคุณมาสินะ”

ศรตฤณเลี่ยงการเรียกชื่อ ‘อนาคิน’ ที่เคยรู้จัก แล้วก็สำนึกได้ในนาทีนี้ว่า เขาประเมิน ‘เพื่อนเก่า’ ต่ำเกินไป

“เขาต้องการอะไร ... เก็บผม งั้นเหรอ”

“เก่งนี่คะ ... ฉันไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมพอฉันมาถึง ถึงได้พบคุณแค่คนเดียว”

หญิงสาวพูดพลางขยับกาย สาวเท้าก้าวออกมาจากมุมนั้น ทำให้เขาเห็นชุดที่เธอสวมใส่ ว่ามันรัดกุมและเหมาะแก่การพรางตัวแค่ไหน

การแต่งกายเช่นนี้ พาให้ชายหนุ่มหวนนึกถึง คราวที่เธออยู่ในสภาพเปื้อนเปรอะเมื่อสัปดาห์ก่อน ถึงแม้เขาจะใช้ทุกวิธี ทุกความช่ำชองอย่างไร สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบจากเธอ

ศรตฤณพยายามปัดความคิดอันหลากหลาย แต่ความรู้สึกต่าง ๆ กลับถาโถมไม่หยุดยั้ง

“คุณจะทำยังไงกับผมล่ะ”

“ขอแค่คำตอบ ... ผู้หญิงคนนั้น ที่ชื่อ มัสลิน ... กำลังจะไปไหน”

เพชรงามยืนกรานคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งคนฟังก็คาดเดาไม่ได้ว่า เธอต้องการอะไรจากหลานสาวของเขา หรือว่า คำเตือนที่เชดส์ได้รับจาก ‘ท่าน’ ซึ่งมี ‘คนของท่าน’ เป็นแหล่งข่าวแหล่งข้อมูล

“ซายน์ ... ระวัง !”

พูดไม่ทันขาดคำ เพชรงามก็โถมตัวเข้าหาศรตฤณ น้ำหนักบวกจังหวะที่ปะทะ แรงพอจะทำให้ร่างทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกัน

ชายหนุ่มอาศัยความชำนาญ ใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับร่างคนที่เอาตัวกระแทกหลบวิถีกระสุน ที่เขาไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ร่องรอยปรากฏเป็นหลักฐานตรงผนังห้อง ใกล้มุมที่หญิงสาวยืนอยู่

“บ้าจริง ...”

เพชรงามสบถ ดวงตางดงามของเธอดูแข็งกร้าว ขณะเพ่งตรงฝ่าความมืด มองหาตัวการที่เห็นพวกเธอเป็นเป้า ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่อยู่ใต้ร่างจะมีสีหน้าเช่นไร

“คุณแน่ใจหรือว่า มีแต่ผม ... ที่กำลังจะถูกเก็บ”

เสียงกระซิบถามของศรตฤณคงราวกับจี้ลงกลางใจเพชรงาม เพราะแวบหนึ่งที่เธอเหลือบมองเขา ก่อนจะพลิกตัวเลื่อนลงจากเบาะรองมีชีวิต

“เขารู้ตัวแล้ว ... อย่างที่คิดไว้จริง ๆ”

“หมายความว่าไง”

“ถ้า ‘เรา’ รอดไปได้ ... คุณจะได้คำตอบ”

การโต้คารมเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น แต่เป็นครั้งแรกที่ศรตฤณรู้สึกได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่เพชรงามคนที่ได้รู้จัก และพอจะเดาได้ในวินาทีนั้นว่า ‘ท่าน’ ของเชดส์ ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวของนาคินทร์จากใคร

“คุณนี่เอง”

ต่อให้ความสว่างที่มีจะเป็นแค่แสงสลัว แต่การพยายามเคลื่อนไหวของพวกเขา ย่อมตกเป็นเป้านิ่งได้ง่าย การที่ใครก็ตามกล้าโจมตีแบบอุกอาจ คิดได้ไม่ยากเลยว่า นักสังหารมืออาชีพมาเอง

“ผมจะล่อมันไปที่สะพาน”

ศรตฤณบอกแค่นั้น แม้อาจจะดูเสี่ยงไปสักหน่อย แต่เพชรงามถือเป็นพยานบุคคลคนสำคัญไป ที่เขาต้องปกป้องให้ได้ ซึ่งก็ไม่ต่างกับความรู้สึกในใจว่า อยากปกป้องเธออย่างไม่ต้องหาเหตุผล เช่นกัน






เพลิงกัลป์ไม่รู้ว่า บังคิดจะสามารถพาสปีดโบ๊ทลำนี้ หลุดรอดจากการติดตามของเรือชนิดเดียวกันได้หรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่เขารู้ ... ทุกคนต้องไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

แม้ว่า ‘ที่หมาย’ เดิมที่ตั้งใจ อาจจำต้องเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

“บังคิด ... อีกกี่นาที จะถึงหน้าหาดอุทยานท้ายเกาะ”

มัสลินที่ก้มหลบตามคำสั่งของเพลิงกัลป์ ถึงกับเงยหน้ามองเมื่อได้ยินคำถามของเขา ความสงสัยกอปรกับความขัดแย้งบดเบียดกันในความคิด แล้วคนถูกถามก็ตอบออกมา

“ถ้าเราโชคดีไม่เจอคลื่นลมแรงเหมือนตอนมา ไม่เกินชั่วโมงครับนายหัว”

“ฉันอยากรู้ว่า พวกมันตามเรามาทำไม ... มันต้องการอะไรกันแน่”

เพลิงกัลป์บอกกับบังคิด ขณะหันด้านข้างให้ผู้โดยสารอีกคน จึงไม่ได้สนใจว่า เธอกำลังจับตาและตั้งใจฟังเขาอยู่

อาจจะเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้อง เขาหันกลับมามองมัสลินทันที ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่า ... ตั้งคำถามอย่างที่กำลังสงสัย

“ทำไม ... เราต้องไปที่อุทยานคะ ... แล้วที่ว่าจะไปตรัง ...”

“เปลี่ยนแผน”

เพลิงกัลป์ตอบสั้น สั้นเสียจนมัสลินนึกฉุน จนเกิดเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ให้ปรากฏบนใบหน้าของเธอ อดค้านการกระทำของเขาไม่ได้

“แต่คุณรับปากกับคุณเชดส์ ...”

“ฉันเคยพูดแบบนั้นด้วยหรือ”

มัสลินเม้มปากแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน ซ้ำท่าทียียวนกวนประสาทคล้ายยิ้มเยาะนั่นอีก แต่ก่อนที่ความคิดของหญิงสาวจะเตลิดไปไกล เพลิงกัลป์ก็ไขข้อข้องใจให้ฟัง

“เธอคิดว่าเราจะไปถึงโดยสวัสดิภาพ ทั้งที่มี ‘ใครก็ไม่รู้’ กำลังขับเรือไล่หลังเรามางั้นหรือ”

ชายหนุ่มระบายลมหายใจหนัก ๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คิดอย่างไรกับ ‘ยัยเด็กอวดดี’ ตรงหน้า ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด คงได้มีการอบรมกันมากกว่านี้

“นายหัว ... ผมว่ามันแปลก ๆ นะครับ”

บังคิดดึงเพลิงกัลป์ให้กลับมาจดจ่อกับปัจจุบัน เขาจึงละความสนใจจากมัสลินชั่วคราว แต่ก็หลังจากที่ขึงตาคมบอกความเข้มงวดใส่เธอ เป็นการปรามทางอ้อมไปครั้งหนึ่ง

“มีอะไร”

“พวกมันตามเรามาก็จริง ... แต่เหมือนจงใจเว้นระยะห่างยังไงก็ไม่รู้ครับ”

“มันต้องการอะไร ... กันแน่”

ผู้บริหารหนุ่มแห่งรู้คพึมพำอย่างใช้ความคิด แล้วปรายสายตามาทางมองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนมาหยุดนิ่งที่หญิงสาวคนเดียวในเรือเร็วลำนี้

“หรือว่า ... มัสลิน ...”

เพลิงกัลป์เรียกชื่อเธอเสียงดัง เมื่อทบทวนทุกคำพูดของเชดส์ ที่ว่า

... ขอให้นึกถึงความปลอดภัยของคุณลินิน ...

“ถึงเวลาที่เธอต้องบอกความจริง ... บอกทุกอย่างให้ฉันรู้ ก่อนที่เราจะแย่ไปกว่านี้”

น้ำเสียงและถ้อยคำที่เอ่ยช่างดุดัน และกังวานก้องเรือไปทั้งลำ พร้อมกับการเคลื่อนที่เข้ามาประชิดตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็ว จนเธอไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะความตกใจ

“อะ ... อะไรคะ จะให้ฉันบอกอะไร”

“บอกมาว่า เธอเกี่ยวข้องกับซายน์ ... นายศรตฤณนั่นยังไง แล้วเขาเกี่ยวข้องยังไงกับเชดส์”

เพลิงกัลป์คาดคั้นมัสลินถึงคนที่เขาไม่เคยไว้ใจ แต่กับอีกฝ่ายกลับตรงกันข้าม ... เพียงเพราะเธอให้ความสนิทสนม และไว้วางใจผู้ชายคนนั้นมาก จนทำให้เขารู้สึกแปลกใจ พอ ๆ กับแปลกใจตัวเองที่รู้สึกไม่ชอบใจในสิ่งที่เธอปฏิบัติ ... มันแตกต่างกับที่เธอปฏิบัติต่อเขาอย่างสิ้นเชิง

มัสลินนิ่งอึ้งสมองปั่นป่วนกับคำถามของเพลิงกัลป์ เธอจะตอบเขาได้อย่างไร ในเมื่อรับปากศรตฤณไว้แล้วว่า จะยังไม่บอกใครเรื่องสถานะและความสัมพันธ์ระหว่างกัน

“ไม่ ... ไม่มีอะไร แค่รู้จักกัน ... แค่นั้น”

“มัสลิน ... บอก ความ จริง ฉันมา”

เพลิงกัลป์เน้นย้ำทีละคำ เขามั่นใจว่า มัสลินกับศรตฤณไม่ใช่แค่ ‘คนรู้จักกัน’ ธรรมดา ๆ และถ้าเขารู้ความเกี่ยวข้องของสองคนนี้ ก็อาจจะทำให้พอจะคาดเดาอะไรได้มากกว่านี้

ถ้าทำได้อย่างที่คิด เขาอยากกระชากตัวเธอเข้ามา แล้วจับเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน เผื่อว่า ความจริงที่ต้องการ จะหลุดจากปากออกมาบ้าง

ความจริง ... ซึ่งอาจเกี่ยวโยงกับการที่พวกเขากำลังถูกติดตามอยู่ในเวลานี้ ก็เป็นได้





นาคินทร์นั่งบนเก้าอี้บุหนังตัวใหญ่เอนกายพิงพนัก ท่าทางผ่อนคลายสบายอกสบายใจ ในมือของเขามีภาพถ่ายบุคคลที่น่าสนใจอยู่ในนั้นมากกว่า ๒ คน

และ ๑ ใน ๕ คือ คนที่นาคินทร์ ‘เคย’ รู้จักเป็นอย่างดี

“นายจะตามก้นฉันไปถึงไหน หืม ... เรมี ซิลวาน”

หนุ่มใหญ่รำพึงพลางเหยียดยิ้มให้คนที่เอ่ยถึง แม้เขาจะได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ทว่า เงาที่ทอดอยู่เบื้องหลัง มันกลับดำมืดและอันตรายเกินกว่าจะหันหลังไปง่าย ๆ

เหมือนที่เคยหันหลังให้กับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ... อินเตอร์โพล

การก้าวเข้ามาในเส้นทางสายนี้ สิ่งที่ยากที่สุดมีเพียง การไว้ใจ และเชื่อใจใคร และถ้าหากจะต้องไว้วางใจใครสักคน คน ๆ นั้น ก็มีแค่ตัวเขาเอง

นาคินทร์เลื่อนสายตามายังหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม เธอยืนอยู่ข้าง ๆ หรือที่ถูกควรเรียกว่า ยืนติดกับ ‘อดีตคู่หู’ ของเขาเลยทีเดียว

“ลินิน หลานสาวของนาย ... ที่ฉันประทับใจตอนนั้น เธอยังเด็กมาก แต่ถ้าเป็นมัสลินในตอนนี้ ... ฉันขอก็แล้วกัน”

สายตาของนาคินทร์กวาดไปทั่วภาพ ... ไม่มีใครที่เขาพลาดการสืบประวัติ แม้แต่คนเดียว

เพลิงกัลป์ อาณารักษ์ ... เจ้าของรู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปา บุตรชายอดีตนายทหารเรือนอกราชการ เจ้าของธุรกิจโรงแรม ที่สุดท้ายก็ต้องขายหุ้นให้เพื่อนรุ่นน้อง

เชดส์ ... เจ้าของร้านขายของที่ระลึก เปิดร้านแค่บังหน้า อำพรางตัวตนในคราบหนุ่มเร้กเก้ดีเจประจำผับ ทั้งที่ความจริงเป็นถึง พ.ต.ต.เชษฐ์ ฤทธา นายตำรวจสายสืบที่ไม่ยอมนั่งโต๊ะประจำตำแหน่ง

ส่วนคนสุดท้าย ... นายแพทย์ศิงขริน ไวทยาวัตร เพื่อนสนิทของเพลิงกัลป์ ถึงจะยังไม่แน่ใจว่า มารวมกลุ่มได้อย่างไร แต่มันจะต้องเกี่ยวข้องกับ ‘งาน’ ของเขาที่เชดส์กำลังไล่ตามกลิ่นแน่นอน

และขณะที่ผู้บริหารสูงสุดในอาณาจักร คิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี กำลังพิจารณาบุคคลทั้ง ๕ อยู่ที่นี่ ป่านนี้คนของเขาที่ส่งไปไร่เลย์ นอกจากเพชรงาม คงจัดการเก็บกวาดตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว

รวมถึงเพชรงาม ... ซึ่งเป็นตัวล่อให้เรมี ซิลวาน มาติดกับ เพราะเข้าใจว่า เธอจะเป็นเบาะแสให้สาวมาถึงตัวเขาได้

เมื่อใครหมดประโยชน์ ก็ต้องกำจัดทิ้ง ... แค่นั้น

นาคินทร์ฉีกยิ้มกว้าง รับอรุณรุ่งที่กำลังมาเยือน แสงแห่งวันใหม่จะสาดส่องช่วยกลบเงาทะมึน ซุกซ่อนไว้ในที่ของมัน

ก็แล้วใครล่ะ ที่จะได้เห็นความดำมืดเบื้องหลังชัดเจน

ไม่มี !












****************************************






โปรดติดตามตอนต่อไป ...



ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และขอขอบคุณทุกไลค์กำลังใจฮะ


คุณkaelek : วันนี้ไม่เท่าไหร่ฮะ ... บังคับกัน แค่นั้นเอ๊ง .... (อาจมีใครตกทะเลก่อนถึงฝั่ง ก็ เป็น ได้ ) ... ขอบคุณ คุณkaelek ฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 เม.ย. 2559, 12:47:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2559, 12:47:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1171





<< ใยเส้นที่ 35 .. แยกย้าย   ใยเส้นที่ 37 .. พลิกผัน >>
kaelek 24 เม.ย. 2559, 19:00:52 น.
มาแล้ว ค่อยคลายปมแล้ว... ที่ไม่ชอบให้ลินินสนิทกะคนอื่น มันหึงชิมะ นายไฟ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account