เล่ห์ร้ายร้าง
...ในชีวิตหนึ่งของผู้หญิงสักคน จะต้องทำกรรมมามากเพียงไหน จึงสามารถมีคู่ครองเช่นนี้ได้!...
ผู้หญิงอย่างชาลิกา ไม่ใช่นางเอกในนิยายที่จะภักดี หลงใหลกับผู้ชายห่วยๆ อย่างหัวปักหัวปำ
ถ้าพี่ไม่ชอบนางฟ้า...ชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
ผู้หญิงอย่างชาลิกา ไม่ใช่นางเอกในนิยายที่จะภักดี หลงใหลกับผู้ชายห่วยๆ อย่างหัวปักหัวปำ
ถ้าพี่ไม่ชอบนางฟ้า...ชาร์มก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นนางมาร
Tags: ร้าย นางมาร นักวิจัย ศัลยแพทย์ แค้นฝังหุ่น
ตอน: รักตัวเองให้มากกว่า
"ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 วงเล็บสี่ทับสองบอกว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถฟ้องหย่าได้เมื่อ สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี" ชาลิกาท่องได้ราวนักเรียนวิชากฎหมาย เธอจดจำมาตรานี้ได้ขึ้นใจในฐานะทางรอดเดียว ตั้งแต่วันที่เขาปฏิเสธคำขอหย่าของเธอ
ธนภพพาหญิงสาวมานั่งที่ร้านอาหารริมชายหาดกว้างไม่ไกลจากรีสอร์ท โต๊ะกระจกทรงสี่เหลี่ยมวางอาหารตั้งอยู่หน้าโซฟาหวายวงกลมหลังใหญ่ที่หันหน้ามองไปยังชายหาด เสียงคลื่นซัดกระทบฝั่งทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายชวนให้สบายใจ แต่เรื่องที่พูดถึงกลับทำให้ธนภพนั่งขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียดจนชาลิกาเงยน้ายิ้มบอก
"อย่าทำหน้ายุ่งสิคะ เรื่องไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ชาร์มคิดดีแล้วเหรอครับ"
หญิงสาวนิ่งไปครู่ ก่อนพยักหน้ารับ "ค่ะ...ชาร์มไม่อยากเจ็บเพราะการเฝ้ารอความรักจากเขาอีกแล้ว"
"ชาร์มแน่ใจเหรอ ผู้ชายสักคน จะแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเพื่ออะไร"
ชาลิกาขบริมฝีปาก ถอนใจเบา ๆ "ชาร์มก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ บางที...อาจเป็นเพราะชาร์มเป็นลูกสาวโพรเฟสเซอร์ชลิตอย่างที่แม่บอกก็ได้นะคะ"
ธนภพมองหน้าหญิงสาวอย่างอ่อนใจ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบราวจะดื่มกินความเศร้าและหยาดน้ำตาให้หายไป
เขาไม่รู้ว่าชาลิกาโตมาอย่างไร แต่มีเพียงคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าแม้ชาลิกาจะรักครอบครัวมากแค่ไหน แต่การเป็น 'ลูกสาวศาสตราจารย์ชลิต' คือกำแพงหนาที่หญิงสาวต้องการก้าวข้ามมากที่สุด เธออยากเป็นแค่ชาลิกา...ลูกสาวที่น่ารักของครอบครัวเท่านั้น
"ทำไมชาร์มถึงคิดอย่างนั้น"
"คำถามแรกที่เขาเห็นนามสกุลชาร์ม คือถามชาร์มว่า...คุณพ่อแนะนำให้มาที่นี่เหรอ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะเสียงขื่น "คงเพราะเขาดูถูกชาร์มแบบนี้มั้งคะ ชาร์มถึงพยายามให้เขาเห็นว่าชาร์มไม่ใช่พวกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นแล้วอาศัยบารมีพ่อไปวัน ๆ"
เพราะพยายามให้เขาเห็น ให้เขาหันมามอง และเมื่อเขาหันมา เธอก็เผลอยึดเอาสายตาที่เขามองเธอเป็นความสุข กอดเก็บไว้จนกลายเป็นความหลงที่เธอเข้าใจเอาเองว่าคือความรัก
"ชาร์มโง่จดทะเบียนกับเขาไปแล้ว ชาร์มจะไม่ยอมเป็นคนโง่ไปทั้งชีวิต" เธอเค้นเสียงบอก ดวงตาเป็นประกายวาวจัด
เพราะโซฟาทรงกลมหลังใหญ่ ทำให้ธนภพเลือกนั่งข้างหญิงสาว เวลานี้เขาไม่ลังเลเลยที่จะคว้ามือเธอไปกุมไว้หลวม ๆ อย่างปลอบโยน "ใจเย็น ๆ นะชาร์ม"
หญิงสาวคลี่ยิ้ม "ชาร์มเย็นมานานแล้วค่ะพี่ภพ ตั้งแต่วันที่กลับมาเมืองไทย ชาร์มก็รู้แล้ว...ชาร์มอาจจะหลงหรือรักเขา ชาร์มไม่รู้ แต่ชาร์มต้องรักตัวเองให้มากกว่า ไม่อย่างนั้นชาร์มจะไม่เหลือคุณค่าอะไรเลย"
"เขาทำอะไร ไม่ดีกับชาร์มหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย
"ไม่ใช่ทางกายภาพหรอกค่ะ" เธอคลี่ยิ้มบาง
"สำหรับชาร์ม...การนิ่งเฉย ไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความมั่นใจที่จะเดินด้วยกันก็คือการทำร้ายกันนั่นล่ะค่ะ"
ธนภพเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ "เขานอกใจหรือ"
ชาลิกาถอนใจ "ไม่ทราบค่ะ...เขาเป็นพวกต้องการความรักมาก คบคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่ก็บอกว่าเพื่อน" เธอแค่นหัวเราะ
"ชาร์มไม่รู้จริง ๆ ว่าเขานอนกับคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนหรือเปล่า" เธอเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่ธนภพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ
ชาลิกาดูราวไม่ใส่ใจผู้ชายคนนั้น แต่แววตารวดร้าวของเธอบอกเขาว่าเธอซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายในมากมาย
"ชาร์มไม่ชอบ...ตั้งแต่จดทะเบียนกัน เขาก็ทำให้ชาร์มไม่มั่นใจในตัวเขาตลอด"
"เขาทำอะไร"
หญิงสาวยังไม่ทันเอ่ยตอบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชาลิกาหยิบขึ้นมาดู หมายเลขที่ไม่คุ้นเคยปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ ก่อนกดรับสาย
"สวัสดีค่ะ..."
"อยู่ไหนครับ" เสียงที่ปลายสายทำให้เธอนิ่งงันไปนาน
"หัวหินค่ะ"
"ไปทำอะไร" ปลายสายตวัดเสียงอย่างเกเร เรียกรอยยิ้มบางบนริมฝีปากคนฟัง
"พี่วินทร์เอาเบอร์ใครมาโทรคะ" เธอเปลี่ยนเรื่อง ไม่ตอบคำถามเขา
"เบอร์พี่...สำหรับใช้ในไทย" ชายหนุ่มถอนใจยาว "จะไปเที่ยวทำไมไม่รอพี่ จะได้ไปพร้อมกัน"
เสียงอ่อนโยนของเขาทำให้ชาลิกากัดริมฝีปากเบา ๆ "ชาร์มอยากมาคนเดียว..."
คำตอบของเธอทำให้ปลายสายเงียบไปนาน ชาลิการู้ว่าเขาคงกำลังโกรธ แล้วเธอก็เผลอบอกเสียงเบา "ถ้าพี่วินทร์อยากพาชาร์มมา ไว้วันหลังก็แล้วกันนะคะ"
เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากให้เขาโกรธ มันเหนื่อยในหัวใจเมื่อเห็นสายตาเย็นชาและท่าทีห่างเหิน
"ชาร์ม...สนใจโรสไวน์ไหมครับ..." ธนภพจงใจเอ่ยถามข้างโทรศัพท์ที่แนบแก้มหญิงสาว
ชาลิกาเบิกตาโตขยับตัวออกห่าง ขึงตามองดุคนตรงหน้าที่ยักคิ้วให้เธอ
"อยู่กับใครครับ" ปลายสายเอ่ยถามทันที
ชาลิกานิ่งไปครู่ มองหน้าธนภพอย่างคาดโทษ ครุ่นคิดเพียงครู่ก็เอ่ยตอบเสียงเรียบ "รุ่นพี่ค่ะ"
"ผู้ชาย..."
"ค่ะ...พี่ภพเป็นรุ่นพี่สมัยมัธยม เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ชาร์มมาพัก"
เขาเงียบไปนาน ชาลิกาเองก็ไม่ได้อธิบายต่อ ความอึดอัดทำให้เธอเผลอถอนใจเบา ๆ ปลายสายจึงหลุดคำ
"ครับ...ดูแลตัวเองด้วยนะ"
"ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยได้เพียงคำเดียว เมื่อผู้ชายที่ปลายสายไม่ได้โกรธเคืองใส่ เพียงน้ำเสียงแผ่วคล้ายอ่อนแรงของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกผิดได้แล้ว
แม้จะพยายามเลิกรา แต่เธอก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา หากเขาจะโกรธก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การนิ่งเฉยและเอ่ยคำอย่างห่วงใยนั้นทำให้เธอเจ็บได้ดีกว่า
"แล้วเจอกันนะคะ...พี่คิดถึงชาร์มนะ" ความอ่อนโยนที่เธอเคยโหยหาเมื่อวันก่อนกลับคืนมาอีกครั้ง ชาลิกาเงยหน้ามองฟ้าซ่อนหยาดน้ำตาให้ไหลกลับไป
"ค่ะ...ชาร์มก็คิดถึงพี่วินทร์"
เธอวางโทรศัพท์ลงอย่างเหม่อลอย ธนภพมองหน้าหญิงสาวนิ่งพลางถอนใจ
"ชาร์มรักเขามาก" ชายหนุ่มบอกได้ทันที
หญิงสาวได้สติ เหยียดยิ้ม "ชาร์มต้องรักตัวเองให้มากกว่าค่ะ...ชาร์มต้องพยายาม"
ธนภพนิ่งไปครู่ ก่อนถาม "ลองดึงเขากลับมาไหม...ทำให้เขากลายเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ ในมือชาร์ม" ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อเอ่ยต่อ
"เหมือนที่ชาร์มทำกับพี่"
ชาลิกาหัวเราะ ส่ายหน้าช้า ๆ "บางทีสิ่งที่พลาดที่สุดของชาร์มคือการดึงเขามาใกล้เกินไปนี่ล่ะค่ะ ถ้าชาร์มไม่คบกับเขาอย่างคนรัก ไม่จดทะเบียนกับเขาเราคงเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้"
"เมื่อไรก็ตามที่เราเดินบนทางเดียวกัน มีพันธะต่อกันแล้ว ในทุกการกระทำที่ไม่หวังผลจากมิตรภาพก็กลายเป็นต้องการความรักตอบแทน..ชาร์มเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เกลียดผู้หญิงที่คอยเฝ้าหน้าจอโทรศัพท์รอข้อความตอบจากเขา คอยกดโทรศัพท์หาและหวาดกลัวทุกครั้งที่เขาไม่รับสาย มันงี่เง่าเกินไปค่ะ" ชาลิกาไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอรู้ว่าตัวเองมีค่าเกินกว่าจะยึดติดหรือเฝ้ารอสายตาของใคร
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง ก่อนหันมองรอบตัว "ไหนคะ โรสไวน์ที่พี่ภพบอกชาร์ม"
ธนภพยิ้ม เขารู้ว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว หมดเวลาสำหรับความอ่อนแอ
ชายหนุ่มหันไปโบกมือเรียกพนักงานประจำร้าน เปิดเมนูสั่งไวน์ให้หญิงสาว ก่อนเอียงคอมาบอก "ไถ่โทษที่พี่แกล้งชาร์มตะกี้"
"น้อมรับค่ะ..." เธอพยักหน้ารับ
------
สงสารชาร์มมี่ ยิ่งเขียนนางยิ่งฮาร์ดคอร์ เป็นงานที่เขียนยากมากเลยค่ะ
คุณคิมหันตุ์ : หนูชาร์มกลับมาแล้วค่ะ
คุณ sunflower : ดีใจที่ชอบค่ะ ตอนเขียนรู้สึกว่านางเป็นผู้หญิงประหลาดที่อ่อนไหวมาก ๆ แต่พอเขียนไปเรื่อย ๆ นางก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เจ็บเพราะรักนะคะ
คุณ sai : เอาแบบนั้นเลยเหรอคะ พี่วินทร์ยังไม่โผล่มาแก้ตัวเลยนะคะ
คุณ SaranyaW ; โหย...ใจคอจะไม่ให้โอกาสพี่วินทร์หน่อยหรือคะ
ปอลิง. ขออนุญาตฝาก จันทร์จอมใจ วางแผงแล้วกับพี่เมพทั่วราชอาณาจักรค่ะ ใครเคยรักเคยชอบเฮียเล้งกับหมิงเยว่ อย่าลืมนะคะ รักน้อย ๆ แต่รักกันนาน ๆ นะคะ
ปอลิง. อีกรอบ เรื่องนี้หวานน้อย ขมมาก ช่วยเป็นกำลังใจให้ชาร์มมี่ด้วยนะคะ
ธนภพพาหญิงสาวมานั่งที่ร้านอาหารริมชายหาดกว้างไม่ไกลจากรีสอร์ท โต๊ะกระจกทรงสี่เหลี่ยมวางอาหารตั้งอยู่หน้าโซฟาหวายวงกลมหลังใหญ่ที่หันหน้ามองไปยังชายหาด เสียงคลื่นซัดกระทบฝั่งทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายชวนให้สบายใจ แต่เรื่องที่พูดถึงกลับทำให้ธนภพนั่งขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียดจนชาลิกาเงยน้ายิ้มบอก
"อย่าทำหน้ายุ่งสิคะ เรื่องไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ชาร์มคิดดีแล้วเหรอครับ"
หญิงสาวนิ่งไปครู่ ก่อนพยักหน้ารับ "ค่ะ...ชาร์มไม่อยากเจ็บเพราะการเฝ้ารอความรักจากเขาอีกแล้ว"
"ชาร์มแน่ใจเหรอ ผู้ชายสักคน จะแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเพื่ออะไร"
ชาลิกาขบริมฝีปาก ถอนใจเบา ๆ "ชาร์มก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ บางที...อาจเป็นเพราะชาร์มเป็นลูกสาวโพรเฟสเซอร์ชลิตอย่างที่แม่บอกก็ได้นะคะ"
ธนภพมองหน้าหญิงสาวอย่างอ่อนใจ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบราวจะดื่มกินความเศร้าและหยาดน้ำตาให้หายไป
เขาไม่รู้ว่าชาลิกาโตมาอย่างไร แต่มีเพียงคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าแม้ชาลิกาจะรักครอบครัวมากแค่ไหน แต่การเป็น 'ลูกสาวศาสตราจารย์ชลิต' คือกำแพงหนาที่หญิงสาวต้องการก้าวข้ามมากที่สุด เธออยากเป็นแค่ชาลิกา...ลูกสาวที่น่ารักของครอบครัวเท่านั้น
"ทำไมชาร์มถึงคิดอย่างนั้น"
"คำถามแรกที่เขาเห็นนามสกุลชาร์ม คือถามชาร์มว่า...คุณพ่อแนะนำให้มาที่นี่เหรอ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะเสียงขื่น "คงเพราะเขาดูถูกชาร์มแบบนี้มั้งคะ ชาร์มถึงพยายามให้เขาเห็นว่าชาร์มไม่ใช่พวกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นแล้วอาศัยบารมีพ่อไปวัน ๆ"
เพราะพยายามให้เขาเห็น ให้เขาหันมามอง และเมื่อเขาหันมา เธอก็เผลอยึดเอาสายตาที่เขามองเธอเป็นความสุข กอดเก็บไว้จนกลายเป็นความหลงที่เธอเข้าใจเอาเองว่าคือความรัก
"ชาร์มโง่จดทะเบียนกับเขาไปแล้ว ชาร์มจะไม่ยอมเป็นคนโง่ไปทั้งชีวิต" เธอเค้นเสียงบอก ดวงตาเป็นประกายวาวจัด
เพราะโซฟาทรงกลมหลังใหญ่ ทำให้ธนภพเลือกนั่งข้างหญิงสาว เวลานี้เขาไม่ลังเลเลยที่จะคว้ามือเธอไปกุมไว้หลวม ๆ อย่างปลอบโยน "ใจเย็น ๆ นะชาร์ม"
หญิงสาวคลี่ยิ้ม "ชาร์มเย็นมานานแล้วค่ะพี่ภพ ตั้งแต่วันที่กลับมาเมืองไทย ชาร์มก็รู้แล้ว...ชาร์มอาจจะหลงหรือรักเขา ชาร์มไม่รู้ แต่ชาร์มต้องรักตัวเองให้มากกว่า ไม่อย่างนั้นชาร์มจะไม่เหลือคุณค่าอะไรเลย"
"เขาทำอะไร ไม่ดีกับชาร์มหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย
"ไม่ใช่ทางกายภาพหรอกค่ะ" เธอคลี่ยิ้มบาง
"สำหรับชาร์ม...การนิ่งเฉย ไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความมั่นใจที่จะเดินด้วยกันก็คือการทำร้ายกันนั่นล่ะค่ะ"
ธนภพเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ "เขานอกใจหรือ"
ชาลิกาถอนใจ "ไม่ทราบค่ะ...เขาเป็นพวกต้องการความรักมาก คบคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่ก็บอกว่าเพื่อน" เธอแค่นหัวเราะ
"ชาร์มไม่รู้จริง ๆ ว่าเขานอนกับคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนหรือเปล่า" เธอเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่ธนภพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ
ชาลิกาดูราวไม่ใส่ใจผู้ชายคนนั้น แต่แววตารวดร้าวของเธอบอกเขาว่าเธอซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายในมากมาย
"ชาร์มไม่ชอบ...ตั้งแต่จดทะเบียนกัน เขาก็ทำให้ชาร์มไม่มั่นใจในตัวเขาตลอด"
"เขาทำอะไร"
หญิงสาวยังไม่ทันเอ่ยตอบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชาลิกาหยิบขึ้นมาดู หมายเลขที่ไม่คุ้นเคยปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ ก่อนกดรับสาย
"สวัสดีค่ะ..."
"อยู่ไหนครับ" เสียงที่ปลายสายทำให้เธอนิ่งงันไปนาน
"หัวหินค่ะ"
"ไปทำอะไร" ปลายสายตวัดเสียงอย่างเกเร เรียกรอยยิ้มบางบนริมฝีปากคนฟัง
"พี่วินทร์เอาเบอร์ใครมาโทรคะ" เธอเปลี่ยนเรื่อง ไม่ตอบคำถามเขา
"เบอร์พี่...สำหรับใช้ในไทย" ชายหนุ่มถอนใจยาว "จะไปเที่ยวทำไมไม่รอพี่ จะได้ไปพร้อมกัน"
เสียงอ่อนโยนของเขาทำให้ชาลิกากัดริมฝีปากเบา ๆ "ชาร์มอยากมาคนเดียว..."
คำตอบของเธอทำให้ปลายสายเงียบไปนาน ชาลิการู้ว่าเขาคงกำลังโกรธ แล้วเธอก็เผลอบอกเสียงเบา "ถ้าพี่วินทร์อยากพาชาร์มมา ไว้วันหลังก็แล้วกันนะคะ"
เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากให้เขาโกรธ มันเหนื่อยในหัวใจเมื่อเห็นสายตาเย็นชาและท่าทีห่างเหิน
"ชาร์ม...สนใจโรสไวน์ไหมครับ..." ธนภพจงใจเอ่ยถามข้างโทรศัพท์ที่แนบแก้มหญิงสาว
ชาลิกาเบิกตาโตขยับตัวออกห่าง ขึงตามองดุคนตรงหน้าที่ยักคิ้วให้เธอ
"อยู่กับใครครับ" ปลายสายเอ่ยถามทันที
ชาลิกานิ่งไปครู่ มองหน้าธนภพอย่างคาดโทษ ครุ่นคิดเพียงครู่ก็เอ่ยตอบเสียงเรียบ "รุ่นพี่ค่ะ"
"ผู้ชาย..."
"ค่ะ...พี่ภพเป็นรุ่นพี่สมัยมัธยม เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ชาร์มมาพัก"
เขาเงียบไปนาน ชาลิกาเองก็ไม่ได้อธิบายต่อ ความอึดอัดทำให้เธอเผลอถอนใจเบา ๆ ปลายสายจึงหลุดคำ
"ครับ...ดูแลตัวเองด้วยนะ"
"ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยได้เพียงคำเดียว เมื่อผู้ชายที่ปลายสายไม่ได้โกรธเคืองใส่ เพียงน้ำเสียงแผ่วคล้ายอ่อนแรงของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกผิดได้แล้ว
แม้จะพยายามเลิกรา แต่เธอก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา หากเขาจะโกรธก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การนิ่งเฉยและเอ่ยคำอย่างห่วงใยนั้นทำให้เธอเจ็บได้ดีกว่า
"แล้วเจอกันนะคะ...พี่คิดถึงชาร์มนะ" ความอ่อนโยนที่เธอเคยโหยหาเมื่อวันก่อนกลับคืนมาอีกครั้ง ชาลิกาเงยหน้ามองฟ้าซ่อนหยาดน้ำตาให้ไหลกลับไป
"ค่ะ...ชาร์มก็คิดถึงพี่วินทร์"
เธอวางโทรศัพท์ลงอย่างเหม่อลอย ธนภพมองหน้าหญิงสาวนิ่งพลางถอนใจ
"ชาร์มรักเขามาก" ชายหนุ่มบอกได้ทันที
หญิงสาวได้สติ เหยียดยิ้ม "ชาร์มต้องรักตัวเองให้มากกว่าค่ะ...ชาร์มต้องพยายาม"
ธนภพนิ่งไปครู่ ก่อนถาม "ลองดึงเขากลับมาไหม...ทำให้เขากลายเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ ในมือชาร์ม" ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อเอ่ยต่อ
"เหมือนที่ชาร์มทำกับพี่"
ชาลิกาหัวเราะ ส่ายหน้าช้า ๆ "บางทีสิ่งที่พลาดที่สุดของชาร์มคือการดึงเขามาใกล้เกินไปนี่ล่ะค่ะ ถ้าชาร์มไม่คบกับเขาอย่างคนรัก ไม่จดทะเบียนกับเขาเราคงเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้"
"เมื่อไรก็ตามที่เราเดินบนทางเดียวกัน มีพันธะต่อกันแล้ว ในทุกการกระทำที่ไม่หวังผลจากมิตรภาพก็กลายเป็นต้องการความรักตอบแทน..ชาร์มเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เกลียดผู้หญิงที่คอยเฝ้าหน้าจอโทรศัพท์รอข้อความตอบจากเขา คอยกดโทรศัพท์หาและหวาดกลัวทุกครั้งที่เขาไม่รับสาย มันงี่เง่าเกินไปค่ะ" ชาลิกาไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอรู้ว่าตัวเองมีค่าเกินกว่าจะยึดติดหรือเฝ้ารอสายตาของใคร
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง ก่อนหันมองรอบตัว "ไหนคะ โรสไวน์ที่พี่ภพบอกชาร์ม"
ธนภพยิ้ม เขารู้ว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว หมดเวลาสำหรับความอ่อนแอ
ชายหนุ่มหันไปโบกมือเรียกพนักงานประจำร้าน เปิดเมนูสั่งไวน์ให้หญิงสาว ก่อนเอียงคอมาบอก "ไถ่โทษที่พี่แกล้งชาร์มตะกี้"
"น้อมรับค่ะ..." เธอพยักหน้ารับ
------
สงสารชาร์มมี่ ยิ่งเขียนนางยิ่งฮาร์ดคอร์ เป็นงานที่เขียนยากมากเลยค่ะ
คุณคิมหันตุ์ : หนูชาร์มกลับมาแล้วค่ะ
คุณ sunflower : ดีใจที่ชอบค่ะ ตอนเขียนรู้สึกว่านางเป็นผู้หญิงประหลาดที่อ่อนไหวมาก ๆ แต่พอเขียนไปเรื่อย ๆ นางก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เจ็บเพราะรักนะคะ
คุณ sai : เอาแบบนั้นเลยเหรอคะ พี่วินทร์ยังไม่โผล่มาแก้ตัวเลยนะคะ
คุณ SaranyaW ; โหย...ใจคอจะไม่ให้โอกาสพี่วินทร์หน่อยหรือคะ
ปอลิง. ขออนุญาตฝาก จันทร์จอมใจ วางแผงแล้วกับพี่เมพทั่วราชอาณาจักรค่ะ ใครเคยรักเคยชอบเฮียเล้งกับหมิงเยว่ อย่าลืมนะคะ รักน้อย ๆ แต่รักกันนาน ๆ นะคะ
ปอลิง. อีกรอบ เรื่องนี้หวานน้อย ขมมาก ช่วยเป็นกำลังใจให้ชาร์มมี่ด้วยนะคะ
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2559, 19:06:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2559, 19:06:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 1175
<< ชาร์มแต่งงานแล้วค่ะ! | การกลับมาของคนใจร้าย >> |
SaranyaW 1 พ.ค. 2559, 09:39:10 น.
อึดอัดแทนชาร์ม T_T เข้มแข็งไว้นะ มาต่อเร็วๆนะคะ ไม่เอาพระเอกนอกใจ หลายใจนะคะ ถ้าเป็นยังงั้นก็เลิกไปเลย
อึดอัดแทนชาร์ม T_T เข้มแข็งไว้นะ มาต่อเร็วๆนะคะ ไม่เอาพระเอกนอกใจ หลายใจนะคะ ถ้าเป็นยังงั้นก็เลิกไปเลย
pandepam 1 พ.ค. 2559, 12:28:20 น.
เป็นกำลังใจให้ชาร์มนะคะ รอตอนต่อไปน้าา ปล. อุดหนุนเฮียเรียบร้อยแล้ว ชอบมากเรยค่ะ ^^
เป็นกำลังใจให้ชาร์มนะคะ รอตอนต่อไปน้าา ปล. อุดหนุนเฮียเรียบร้อยแล้ว ชอบมากเรยค่ะ ^^
goszy 15 พ.ค. 2559, 12:39:07 น.
ลุ้นดีค่ะ รอตอนต่อไป
ลุ้นดีค่ะ รอตอนต่อไป