ความรัก...สีหมอก
Tags: ความรัก...สีหมอก,อิง,เอย,แก้วกุดั่น,กรรณิการ์,พัสสน,ก้องภพ
ตอน: บทที่ 30
บทที่ 30
วันรุ่งขึ้น ทั้งแก้วกุดั่นและกรรณิการ์ต่างแปลกใจกับการปรากฏตัวของพัสสนที่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงลำพัง
“นี่ป้าอรุณี จะมาช่วยดูแลบ้านหลังนี้ แล้วนี่จุ๊บแจงหลานสาวป้าอรุณีก็จะมาคอยช่วยทำงานบ้าน ต่อไปถ้ามีอะไรอิงกับเอยให้ป้ากับจุ๊บแจงทำก็แล้วกัน”
“นี่มันอะไรกันคะ”
แก้วกุดั่นถามหลังจากตั้งตัวได้ ในขณะที่กรรณิการ์มีสีหน้างุนงง
“เอยชอบพูดว่าเป็นห่วงอิง ผมไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นกังวล”
คำบอกนั้นส่งผลให้แก้วกุดั่นหันไปมองคนถูกอ้างถึง แล้วจึงเห็นกรรณิการ์ทำตาปริบ ๆ
“แต่อิงกับน้องช่วยกันดูแลบ้านได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างคนหรอกค่ะ”
“คนพวกนี้ผมเป็นคนจ้างเอง”
หญิงสาวอึ้งไปครู่ ก่อนแย้ง
“งั้นยิ่งไม่ต้องค่ะ ถ้าอิงทำไม่ไหวอิงจะจ้างคนมาช่วยเอง”
“แต่ผมคิดว่ามีคนคอยช่วยดูแลมันน่าจะดีสำหรับทุกคน โดยเฉพาะ...ตัวของอิงเอง”
แก้วกุดั่นนิ่งงัน รู้สึกเหมือนมีนัยแฝงในคำพูดตอนท้าย ยิ่งมองตอบแววตาที่จับจ้องมานิ่ง ๆ ก็นึกระแวง
“เคยได้ยินไหมอิง ที่เขาว่า...ความลับไม่มีในโลก”
ถึงตอนนี้ หญิงสาวมั่นใจ เรื่องที่คิดว่าจะปกปิดเอาไว้อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง ตอนนี้มีคนล่วงรู้แล้ว
“คุณพอลรู้ได้ยังไงคะ”
เมื่อเหลือกันสองคน หลังจากอรุณีและจุ๊บแจงแยกย้ายเพื่อเอาข้าวของไปเก็บและกรรณิการ์ผละไปเตรียมตัวเพื่อจะออกไปพร้อมพัสสน แก้วกุดั่นก็ตั้งคำถามนั้น
คนถูกถามยักไหล่ ก่อนให้คำตอบ
“ผมให้คนไปสืบ เพราะสงสัยว่าอิงไม่น่าจะเป็นแค่โรคกระเพาะอย่างที่บอกกับเอย”
แก้วกุดั่นถอนหายใจ เธอน่าจะรู้...ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ใครจะหลอกได้
“แล้ว...” เงียบไปนิดก่อนที่หญิงสาวจะตั้งคำถามอย่างกังวล “คุณพอลได้พูดเรื่องนี้กับคุณก้องหรือเปล่าคะ”
“เปล่า”
คำตอบสั้น ๆ นั้นส่งผลให้คนฟังลอบถอนหายใจ ก่อนอึ้งในเวลาต่อมา
“ผมอยากให้อิงเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเขาเอง”
เมื่อพัสสนพากรรณิการ์ออกจากบ้านเพื่อไปส่งที่มหาวิทยาลัย แก้วกุดั่นก็กลับเข้ามาในห้องนอนแล้วนึกถึงเรื่องที่พูดกันก่อนหน้านั้น
“นายก้องควรมีสิทธิ์รู้ตัวว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน”
“แต่อิงกลัว ถ้าคุณก้องรู้แล้วจะมาเอาลูกไป ถ้าเป็นอย่างนั้นอิงคง...ทนไม่ได้”
ตอนนั้นเห็นเขานิ่งไปพักใหญ่ ราวกับกำลังนึกเรื่องบางอย่าง ก่อนพูดเหมือนจะปลอบใจเธอ
“นายก้องไม่ทำแบบนั้นแน่”
วินาทีนั้น แก้วกุดั่นรู้สึกเหมือนอยู่ในเขาวงกต จะให้เชื่อคำพูดของพัสสนแล้วบอกความจริงกับก้องภพเธอก็ไม่กล้าเสี่ยง แต่ถึงไม่พูด สักวันร่างกายของเธอก็ต้องฟ้องออกมา
โดยเฉพาะ ถ้าก้องภพยังมาที่บ้านหลังนี้ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้
สุดท้าย ความกดดันจนเหมือนหาทางออกไม่เจอก็ผลักดันคนที่กำลังอยู่ในสภาวะอ่อนไหวต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร่ำไห้ออกมาด้วยความรู้สึกอับจนหนทาง
“ทำไมคุณพอลถึงหาคนมาทำงานบ้านให้พี่อิงกับเอยคะ”
ขณะรถติดไฟแดง กรรณิการ์ก็หันไปตั้งคำถามกับผู้ทำหน้าที่ขับรถ เห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นเมื่อหันมาย้อนถามยิ้ม ๆ
“ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือที่มีคนมาทำงานให้ เอยกับอิงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง”
“แน่ใจหรือคะว่าเหตุผลมีแค่นั้นจริง ๆ”
ครั้งนี้พัสสนไม่ได้ตอบ ทำให้กรรณิการ์เชื่อว่าเขาต้องมีความลับบางอย่างปิดบัง เมื่อนึกถึงท่าทีแปลก ๆ ของแก้วกุดั่นตอนที่ลงมาเจอว่าทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ ก็ยิ่งปักใจ
วูบนั้น เด็กสาวนึกน้อยใจ
“เอยยังเด็กเกินไปที่จะรู้ใช่ไหมคะ คุณพอลถึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอก”
“เอย...” พัสสนทำท่าจะพูดต่อแต่ไม่ทัน
“เอยเคยอ่านเจอนะคะแล้วก็ชอบมากที่เขาบอกว่า... บางครั้ง ความรักอย่างเดียวไม่พอสำหรับการที่เราจะใช้ชีวิตกับใครสักคน เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความรัก”
เงียบกันไปครู่ ก่อนที่เด็กสาวจะเบือนหน้าหนีแล้วทำเป็นมองข้างทางผ่านกระจกด้านข้าง
พัสสนเริ่มนึกเสียใจที่ทำให้กรรณิการ์รู้สึกไม่ดี
“คุณพอลขอโทษ แต่...บางเรื่องคุณพอลก็พูดไม่ได้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของคุณพอล”
เมื่อเห็นเด็กสาวยังไม่ยอมหันกลับมา ชายหนุ่มก็ถอนหายใจ
“สมมุตินะ หากเป็นเอย ถ้าเอยมีเรื่องที่อยากเก็บไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครรู้ แต่ดันมีคนรู้แล้วเอาไปบอกกับคนที่เอยไม่อยากให้รู้มากที่สุด ถึงตอนนั้นเอยจะรู้สึกยังไง”
ถึงกรรณิการ์ยังเงียบไม่ยอมหันกลับมามอง แต่พัสสนก็เชื่อว่าเธอกำลังคิดตามคำพูดของเขา
“อย่าโกรธกันเลย อีกไม่นานเอยต้องได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้แน่”
ชายหนุ่มบอก จังหวะนั้นสัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ทำให้ได้แต่ถอนหายใจอีกครั้งแล้วขับเคลื่อนรถออกไปด้วยใจหนักอึ้ง
“เลิกโกรธคุณพอลเถอะนะ”
พัสสนยังพยายามงอนง้อ ไม่นึกโมโหสักนิดเมื่อคิดว่าหากลองกลับกันถ้ากรรณิการ์เป็นฝ่ายมีเรื่องปกปิด เขาคงไม่แค่น้อยใจแต่รับรองว่าได้ทำอะไรมากกว่าหันหน้าหนีแน่
“เอยบอกหรือคะว่าเอยโกรธคุณพอล”
น้ำเสียงสดใสของคนข้างตัวที่ยอมหันกลับมามอง แต่ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่แววตาเป็นประกายสุกใส ส่งผลให้ชายหนุ่มฮึ่มฮั่มกับตัวเองอยู่ในใจยามมองตอบเด็กสาวอย่างนึกหมายมาด
ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีของเขาบ้าง ถึงตอนนั้นจะแกล้งให้ต้องร้องขอความปรานีกันเลยเชียว!
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป แก้วกุดั่นก็ได้เจอก้องภพอีกครั้ง
ตอนแรกเมื่อรู้จากอรุณี แก้วกุดั่นเกือบบอกว่าให้เขากลับไปแต่ก็เปลี่ยนใจ กระนั้นยามประจันหน้ากันหญิงสาวก็ใจหายกับสภาพที่เหมือนซูบผอมไปของชายหนุ่มจนตั้งคำถามอย่างเป็นห่วง
“คุณก้องไม่สบายหรือเปล่าคะ”
คำถามนั้นทำให้ก้องภพยิ้ม ใจชื้นขึ้นเมื่อคิดว่ามองไม่ผิดที่เห็นวี่แววห่วงใยในดวงตาของแก้วกุดั่น
“นิดหน่อย” เงียบไปนิดชายหนุ่มก็ตั้งคำถามถึงเรื่องคาใจ “เธอจ้างคนมาทำงานบ้านแล้วหรือ”
“เปล่าค่ะ คุณพอลเป็นคนหามา”
ก้องภพอึ้งไป วูบนั้นนึกอิจฉาพัสสนนิด ๆ
“คุณก้องมาที่นี่อีกทำไมคะ”
“ฉัน...ทำให้เธอรำคาญมากหรือ”
ชายหนุ่มถามเสียงแหบ รู้สึกใจเสียเพราะคิดว่าถูกผลักไส
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวนิ่งไปครู่ ก่อนพูดต่อ “อิง...มีเรื่องอยากบอกคุณก้อง”
มีความแปลกใจวูบผ่านบนใบหน้าชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะได้ยินเขาถาม
“อะไรหรือ”
วูบนั้น คำพูดที่พัสสนเคยบอกไว้ก็ผุดขึ้นจากความทรงจำ
“นายก้องควรมีสิทธิ์รู้ตัวว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน”
เธอจะไม่หนีความจริง
แก้วกุดั่นบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ถึงเขามีสิทธิ์รู้ แต่ไม่มีสิทธิ์พรากลูกไปจากเธอ
แก้วกุดั่นสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ก่อนบอกเสียงเรียบทั้งที่หวั่นไหวเหลือเกินกับผลที่จะตามมา
“อิงท้องค่ะ”
-------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เอาตอนใหม่มาส่งค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
ปิ่นนลิน - กลัวว่าถึงบอกก็ยังไม่หวานอยู่ดี แบบว่าไม่ถนัดอะไรหวาน ๆ เอาซะเลย ถ้าได้ความหวานน่ารัก ๆ ซักครึ่งแบบในนิยายของปิ่นก็คงจะดีเนอะ 555
konhin - ถึงน่าสงสาร แต่ก็สาสมกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้นะคะ ^^
wane - หลังจากนี้คงไม่นิ่งแล้วค่ะ ควรรู้แล้วว่าแค่ละอายใจแต่ไม่ลงมือทำอะไร มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ^^
LAM - ก้องภพก็น่าหมั่นไส้จริง ๆ ล่ะค่ะ 555 ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้กันเสมอมาค่ะ ^^
วันรุ่งขึ้น ทั้งแก้วกุดั่นและกรรณิการ์ต่างแปลกใจกับการปรากฏตัวของพัสสนที่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงลำพัง
“นี่ป้าอรุณี จะมาช่วยดูแลบ้านหลังนี้ แล้วนี่จุ๊บแจงหลานสาวป้าอรุณีก็จะมาคอยช่วยทำงานบ้าน ต่อไปถ้ามีอะไรอิงกับเอยให้ป้ากับจุ๊บแจงทำก็แล้วกัน”
“นี่มันอะไรกันคะ”
แก้วกุดั่นถามหลังจากตั้งตัวได้ ในขณะที่กรรณิการ์มีสีหน้างุนงง
“เอยชอบพูดว่าเป็นห่วงอิง ผมไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นกังวล”
คำบอกนั้นส่งผลให้แก้วกุดั่นหันไปมองคนถูกอ้างถึง แล้วจึงเห็นกรรณิการ์ทำตาปริบ ๆ
“แต่อิงกับน้องช่วยกันดูแลบ้านได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างคนหรอกค่ะ”
“คนพวกนี้ผมเป็นคนจ้างเอง”
หญิงสาวอึ้งไปครู่ ก่อนแย้ง
“งั้นยิ่งไม่ต้องค่ะ ถ้าอิงทำไม่ไหวอิงจะจ้างคนมาช่วยเอง”
“แต่ผมคิดว่ามีคนคอยช่วยดูแลมันน่าจะดีสำหรับทุกคน โดยเฉพาะ...ตัวของอิงเอง”
แก้วกุดั่นนิ่งงัน รู้สึกเหมือนมีนัยแฝงในคำพูดตอนท้าย ยิ่งมองตอบแววตาที่จับจ้องมานิ่ง ๆ ก็นึกระแวง
“เคยได้ยินไหมอิง ที่เขาว่า...ความลับไม่มีในโลก”
ถึงตอนนี้ หญิงสาวมั่นใจ เรื่องที่คิดว่าจะปกปิดเอาไว้อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง ตอนนี้มีคนล่วงรู้แล้ว
“คุณพอลรู้ได้ยังไงคะ”
เมื่อเหลือกันสองคน หลังจากอรุณีและจุ๊บแจงแยกย้ายเพื่อเอาข้าวของไปเก็บและกรรณิการ์ผละไปเตรียมตัวเพื่อจะออกไปพร้อมพัสสน แก้วกุดั่นก็ตั้งคำถามนั้น
คนถูกถามยักไหล่ ก่อนให้คำตอบ
“ผมให้คนไปสืบ เพราะสงสัยว่าอิงไม่น่าจะเป็นแค่โรคกระเพาะอย่างที่บอกกับเอย”
แก้วกุดั่นถอนหายใจ เธอน่าจะรู้...ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ใครจะหลอกได้
“แล้ว...” เงียบไปนิดก่อนที่หญิงสาวจะตั้งคำถามอย่างกังวล “คุณพอลได้พูดเรื่องนี้กับคุณก้องหรือเปล่าคะ”
“เปล่า”
คำตอบสั้น ๆ นั้นส่งผลให้คนฟังลอบถอนหายใจ ก่อนอึ้งในเวลาต่อมา
“ผมอยากให้อิงเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเขาเอง”
เมื่อพัสสนพากรรณิการ์ออกจากบ้านเพื่อไปส่งที่มหาวิทยาลัย แก้วกุดั่นก็กลับเข้ามาในห้องนอนแล้วนึกถึงเรื่องที่พูดกันก่อนหน้านั้น
“นายก้องควรมีสิทธิ์รู้ตัวว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน”
“แต่อิงกลัว ถ้าคุณก้องรู้แล้วจะมาเอาลูกไป ถ้าเป็นอย่างนั้นอิงคง...ทนไม่ได้”
ตอนนั้นเห็นเขานิ่งไปพักใหญ่ ราวกับกำลังนึกเรื่องบางอย่าง ก่อนพูดเหมือนจะปลอบใจเธอ
“นายก้องไม่ทำแบบนั้นแน่”
วินาทีนั้น แก้วกุดั่นรู้สึกเหมือนอยู่ในเขาวงกต จะให้เชื่อคำพูดของพัสสนแล้วบอกความจริงกับก้องภพเธอก็ไม่กล้าเสี่ยง แต่ถึงไม่พูด สักวันร่างกายของเธอก็ต้องฟ้องออกมา
โดยเฉพาะ ถ้าก้องภพยังมาที่บ้านหลังนี้ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้
สุดท้าย ความกดดันจนเหมือนหาทางออกไม่เจอก็ผลักดันคนที่กำลังอยู่ในสภาวะอ่อนไหวต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร่ำไห้ออกมาด้วยความรู้สึกอับจนหนทาง
“ทำไมคุณพอลถึงหาคนมาทำงานบ้านให้พี่อิงกับเอยคะ”
ขณะรถติดไฟแดง กรรณิการ์ก็หันไปตั้งคำถามกับผู้ทำหน้าที่ขับรถ เห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นเมื่อหันมาย้อนถามยิ้ม ๆ
“ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือที่มีคนมาทำงานให้ เอยกับอิงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง”
“แน่ใจหรือคะว่าเหตุผลมีแค่นั้นจริง ๆ”
ครั้งนี้พัสสนไม่ได้ตอบ ทำให้กรรณิการ์เชื่อว่าเขาต้องมีความลับบางอย่างปิดบัง เมื่อนึกถึงท่าทีแปลก ๆ ของแก้วกุดั่นตอนที่ลงมาเจอว่าทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ ก็ยิ่งปักใจ
วูบนั้น เด็กสาวนึกน้อยใจ
“เอยยังเด็กเกินไปที่จะรู้ใช่ไหมคะ คุณพอลถึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอก”
“เอย...” พัสสนทำท่าจะพูดต่อแต่ไม่ทัน
“เอยเคยอ่านเจอนะคะแล้วก็ชอบมากที่เขาบอกว่า... บางครั้ง ความรักอย่างเดียวไม่พอสำหรับการที่เราจะใช้ชีวิตกับใครสักคน เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความรัก”
เงียบกันไปครู่ ก่อนที่เด็กสาวจะเบือนหน้าหนีแล้วทำเป็นมองข้างทางผ่านกระจกด้านข้าง
พัสสนเริ่มนึกเสียใจที่ทำให้กรรณิการ์รู้สึกไม่ดี
“คุณพอลขอโทษ แต่...บางเรื่องคุณพอลก็พูดไม่ได้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของคุณพอล”
เมื่อเห็นเด็กสาวยังไม่ยอมหันกลับมา ชายหนุ่มก็ถอนหายใจ
“สมมุตินะ หากเป็นเอย ถ้าเอยมีเรื่องที่อยากเก็บไว้คนเดียวไม่อยากให้ใครรู้ แต่ดันมีคนรู้แล้วเอาไปบอกกับคนที่เอยไม่อยากให้รู้มากที่สุด ถึงตอนนั้นเอยจะรู้สึกยังไง”
ถึงกรรณิการ์ยังเงียบไม่ยอมหันกลับมามอง แต่พัสสนก็เชื่อว่าเธอกำลังคิดตามคำพูดของเขา
“อย่าโกรธกันเลย อีกไม่นานเอยต้องได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้แน่”
ชายหนุ่มบอก จังหวะนั้นสัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ทำให้ได้แต่ถอนหายใจอีกครั้งแล้วขับเคลื่อนรถออกไปด้วยใจหนักอึ้ง
“เลิกโกรธคุณพอลเถอะนะ”
พัสสนยังพยายามงอนง้อ ไม่นึกโมโหสักนิดเมื่อคิดว่าหากลองกลับกันถ้ากรรณิการ์เป็นฝ่ายมีเรื่องปกปิด เขาคงไม่แค่น้อยใจแต่รับรองว่าได้ทำอะไรมากกว่าหันหน้าหนีแน่
“เอยบอกหรือคะว่าเอยโกรธคุณพอล”
น้ำเสียงสดใสของคนข้างตัวที่ยอมหันกลับมามอง แต่ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่แววตาเป็นประกายสุกใส ส่งผลให้ชายหนุ่มฮึ่มฮั่มกับตัวเองอยู่ในใจยามมองตอบเด็กสาวอย่างนึกหมายมาด
ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีของเขาบ้าง ถึงตอนนั้นจะแกล้งให้ต้องร้องขอความปรานีกันเลยเชียว!
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป แก้วกุดั่นก็ได้เจอก้องภพอีกครั้ง
ตอนแรกเมื่อรู้จากอรุณี แก้วกุดั่นเกือบบอกว่าให้เขากลับไปแต่ก็เปลี่ยนใจ กระนั้นยามประจันหน้ากันหญิงสาวก็ใจหายกับสภาพที่เหมือนซูบผอมไปของชายหนุ่มจนตั้งคำถามอย่างเป็นห่วง
“คุณก้องไม่สบายหรือเปล่าคะ”
คำถามนั้นทำให้ก้องภพยิ้ม ใจชื้นขึ้นเมื่อคิดว่ามองไม่ผิดที่เห็นวี่แววห่วงใยในดวงตาของแก้วกุดั่น
“นิดหน่อย” เงียบไปนิดชายหนุ่มก็ตั้งคำถามถึงเรื่องคาใจ “เธอจ้างคนมาทำงานบ้านแล้วหรือ”
“เปล่าค่ะ คุณพอลเป็นคนหามา”
ก้องภพอึ้งไป วูบนั้นนึกอิจฉาพัสสนนิด ๆ
“คุณก้องมาที่นี่อีกทำไมคะ”
“ฉัน...ทำให้เธอรำคาญมากหรือ”
ชายหนุ่มถามเสียงแหบ รู้สึกใจเสียเพราะคิดว่าถูกผลักไส
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวนิ่งไปครู่ ก่อนพูดต่อ “อิง...มีเรื่องอยากบอกคุณก้อง”
มีความแปลกใจวูบผ่านบนใบหน้าชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะได้ยินเขาถาม
“อะไรหรือ”
วูบนั้น คำพูดที่พัสสนเคยบอกไว้ก็ผุดขึ้นจากความทรงจำ
“นายก้องควรมีสิทธิ์รู้ตัวว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคน”
เธอจะไม่หนีความจริง
แก้วกุดั่นบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ถึงเขามีสิทธิ์รู้ แต่ไม่มีสิทธิ์พรากลูกไปจากเธอ
แก้วกุดั่นสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ก่อนบอกเสียงเรียบทั้งที่หวั่นไหวเหลือเกินกับผลที่จะตามมา
“อิงท้องค่ะ”
-------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เอาตอนใหม่มาส่งค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
ปิ่นนลิน - กลัวว่าถึงบอกก็ยังไม่หวานอยู่ดี แบบว่าไม่ถนัดอะไรหวาน ๆ เอาซะเลย ถ้าได้ความหวานน่ารัก ๆ ซักครึ่งแบบในนิยายของปิ่นก็คงจะดีเนอะ 555
konhin - ถึงน่าสงสาร แต่ก็สาสมกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้นะคะ ^^
wane - หลังจากนี้คงไม่นิ่งแล้วค่ะ ควรรู้แล้วว่าแค่ละอายใจแต่ไม่ลงมือทำอะไร มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ^^
LAM - ก้องภพก็น่าหมั่นไส้จริง ๆ ล่ะค่ะ 555 ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้กันเสมอมาค่ะ ^^

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2559, 19:54:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2559, 19:54:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 1338
<< บทที่ 29 | บทที่ 31 >> |

konhin 30 เม.ย. 2559, 23:35:46 น.
ความรักคู่นี้จะมีพอให้ผ่านปัญหาที่ก่อ/คิดเองมั้ยน้อ
ความรักคู่นี้จะมีพอให้ผ่านปัญหาที่ก่อ/คิดเองมั้ยน้อ

wane 3 พ.ค. 2559, 05:11:44 น.
เอาใจช่วยคุณก้องอยู่นะ ...อย่าเพิ่งช๊อกหล่ะ พอรู้ข่าวดี
เอาใจช่วยคุณก้องอยู่นะ ...อย่าเพิ่งช๊อกหล่ะ พอรู้ข่าวดี

LAM 3 พ.ค. 2559, 11:20:57 น.
เป็นกำลังใจให้คุณก้องกับพันวลีนะคะ กลับมาอัพต่อบ่อย ๆ นะ คนอ่านคิดถึง
เป็นกำลังใจให้คุณก้องกับพันวลีนะคะ กลับมาอัพต่อบ่อย ๆ นะ คนอ่านคิดถึง

Zephyr 9 พ.ค. 2559, 18:15:53 น.
เอ้ยยยยยยยยยยยยยยย
ตัดฉับตอนสำคัญ
อ้ากกกกกกกกกกกกก กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณก้องคงช็อค แต่น่าจะมีกำลังใจง้ออิงนะ
เอ้ยยยยยยยยยยยยยยย
ตัดฉับตอนสำคัญ
อ้ากกกกกกกกกกกกก กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณก้องคงช็อค แต่น่าจะมีกำลังใจง้ออิงนะ