ความรัก...สีหมอก
Tags: ความรัก...สีหมอก,อิง,เอย,แก้วกุดั่น,กรรณิการ์,พัสสน,ก้องภพ
ตอน: บทที่ 31
บทที่ 31
ก้องภพคิดว่านาทีนั้นเขาคงเป็นอัมพาตไปแล้วเมื่อรู้สึกว่านอกจากจะขยับตัวไม่ได้ ก็ยังพูดไม่ได้อีก
แก้วกุดั่นท้อง!
ชายหนุ่มเอาแต่ทวนคำซ้ำไปมา ยามนั้นเหมือนทุกอย่างพร่าเลือนจนมองไม่เห็นแววตาที่สะท้อนความเจ็บช้ำของหญิงสาว
“อิงคิดว่าคุณก้องควรรู้ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าอิงจะขอให้คุณก้องรับผิดชอบ อิงก็แค่...” แก้วกุดั่นเงียบไปครู่เมื่อถูกขัดจากเม็ดน้ำตาที่กลิ้งลงมาเหมือนจะฟ้องความสะเทือนใจที่ได้รับจากความเฉยชาที่เห็น “อยากให้คุณก้องรู้ว่ากำลังจะมีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อเรียกคุณก้องว่า...พ่อ”
“อิง...”
ถึงตอนนี้ก้องภพจึงรู้ว่าเขายังมีเสียง แต่เพราะความรู้สึกนานาที่กำลังถาโถมทำให้เกิดปัญหาในการตอบโต้จนได้แต่นิ่งฟังคำพูดของแก้วกุดั่น
“แต่ถ้า...คุณก้องไม่ต้องการ ไม่อยากให้ลูกของอิงมีชื่อคุณก้องเป็นพ่อ อิงก็ไม่...”
คำพูดต่อจากนั้นขาดหายเมื่อแก้วกุดั่นถูกก้องภพดึงตัวเข้าไปกอด ร่างกายที่สั่นสะท้านของชายหนุ่มราวกับคนเจอเรื่องสะเทือนใจหรือหวั่นไหว
“พอเถอะอิง อย่าทำให้ฉันเกลียดตัวเองไปมากกว่านี้เลย”
น้ำเสียงในคำร้องขอนั้นถึงสั่นพร่าแต่ยังสะท้อนความอ่อนโยนและเจ็บปวดได้ในคราเดียวจนส่งผลให้คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง
ก้องภพยิ่งสะท้านใจเมื่อสบกับดวงตาที่คลอคลองไปด้วยหยาดน้ำของแก้วกุดั่น
เขามันดีแต่ทำให้เธอเจ็บปวดและเสียน้ำตา
ชายหนุ่มก้มลงจูบกลางหน้าผากหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกในใจ ยิ่งเจ็บปวดเมื่อเห็นเธอมองเขาด้วยแววตาเหมือนนึกไม่ถึงหรือไม่อยากเชื่อ
“ขอบใจ” ความตีบตันในลำคอทำให้ต้องเงียบไปครู่หากดวงตาไม่ละไปจากดวงหน้าของคนที่กำลังจะเป็นแม่ของลูก “แล้วก็ขอโทษที่ฉันทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจ”
“คุณก้อง”
ชายหนุ่มยิ้มทั้งที่เจ็บปวดเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวยิ่งรินไหล ก่อนยื่นมือออกไปปาดให้อย่างนุ่มนวล
“ที่ผ่านมา ฉันอาจเลวร้ายจนไม่คู่ควรกับสิ่งดี ๆ แต่...ฉันก็ยังไม่เลวจนถึงกับไม่ต้องการลูกของเราหรอกนะอิง”
ก้องภพยิ้มอีกครั้งก่อนบอกการตัดสินใจที่เขาควรคิดและทำมานานแล้ว
“แต่งงานกันนะ”
“คุณก้อง!”
“ขอให้ฉันได้ดูแลเธอกับลูก ให้ฉันได้ชดใช้ในสิ่งเลวร้ายที่เคยทำไว้ ฉันสัญญาว่าฉันจะเป็นสามีที่ดี จะเป็นพ่อที่ดีและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกของเรา”
ชายหนุ่มบอกแล้วก็นิ่งรอ แม้เดาว่าคงถูกปฏิเสธแต่ลึก ๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวัง
ขอแค่เธอยอมให้โอกาสเขา
ไม่นาน เขาก็ใจเต้นแรงเมื่อเห็นเธอยิ้ม ถึงเป็นรอยยิ้มเศร้า ๆ แต่ก็ทำให้เขาอุ่นใจขึ้นราวกับมีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา จวบจนกระทั่ง
“อิงไม่ต้องการ”
“อิง”
แก้วกุดั่นเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนมองแววตาที่สะท้อนความผิดหวัง วินาทีที่ก้องภพปล่อยเธอเป็นอิสระก็เหมือนถูกทดแทนด้วยลมหนาวจนมีผลให้น้ำเสียงที่พูดสั่นพร่า
“อิงบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้จะมาเรียกร้องความรับผิดชอบ อิงไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณก้อง”
ความเงียบที่ตามมานั้นยิ่งกดดันความรู้สึกของแก้วกุดั่นเมื่อยังแข็งใจไม่หันกลับไปมอง จึงไม่อาจหยั่งรู้ว่าก้องภพจับจ้องเธอด้วยแววตาและความนึกคิดเช่นไร เนิ่นนานในความรู้สึกเมื่อเธอหันไปมองเขาเพราะคำพูดที่ได้ยิน
“ไม่ต้องการอะไร แม้กระทั่งหัวใจของฉันอย่างนั้นหรือ”
“คุณก้อง”
ก้องภพทำไม่ได้แม้แต่ฝืนยิ้ม หัวใจปวดหนึบเมื่อนึกว่าเธอคงไม่ต้องการแม้กระทั่งหัวใจของเขาที่พร้อมนำไปวางให้ตรงแทบเท้า
“อยากรู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงยังมาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่อยากต้อนรับ”
ดวงตาสีดำเข้มหม่นแสงเมื่อคำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบ แต่นั่นไม่ทำให้ก้องภพถอดใจ
“เหตุผลเดียวที่ฉันยังไม่ยอมไปไหนก็เพราะฉันอยากอยู่ใกล้เธอ” ชายหนุ่มแค่นยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวเบิกตากว้างราวกับไม่อยากเชื่อ “แล้วที่ฉันขอโอกาสก็ไม่ใช่แค่อยากชดใช้ที่เคยทำร้ายเคยทำให้เธอเสียใจ แต่นั่นเป็นเพราะ...”
พูดแค่นั้นก้องภพก็เงียบอีกเมื่อถ้อยคำที่เคยบอกกับพัสสนในวันก่อนพลันผุดขึ้น แต่เพียงไม่นานเพราะแทบจะทันทีนั้นก็เหมือนได้ยินเสียงหัวใจร้องเตือน
ระหว่างคำว่า ‘รัก’ ที่ไม่ได้พูดออกไป กับ ‘ความรัก’ ที่ปล่อยให้หลุดมือ อย่างไหนทำให้เจ็บปวดได้มากกว่า
“เพราะหัวใจของฉันอยู่ตรงนี้”
แก้วกุดั่นปั่นป่วนไปทั้งใจราวกับข้างในกลายเป็นท้องทะเลที่กำลังสั่นคลอนจากระลอกคลื่นลูกใหญ่ ความสับสนว้าวุ่นทำให้ตื้อตัน คิดไม่ออกและไม่อยากคิด สิ่งที่ต้องการตอนนั้นมีเพียงข้อสรุปที่ชัดเจน
“คุณก้อง หมายความว่ายังไงคะ”
ได้ยินเสียงถอนหายใจที่ราวกับว่าเขากำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญ ครู่หนึ่งเธอจึงได้ยินคำพูดที่ทำให้ชาไปทั้งตัว
“ฉันรักเธอ”
ก้องภพอึ้งงัน นึกไม่ถึงว่าคำสารภาพของเขาจะทำให้แก้วกุดั่นยิ่งร้องไห้หนัก
“รักหรือคะ”
ชายหนุ่มนิ่วหน้ากับคำถามกลั้วหัวเราะเบา ๆ เริ่มไม่สบายใจกับปฏิกิริยาที่เห็น อดคิดไม่ได้ว่าหรือนี่เป็นผลจากการตั้งครรภ์ กระทั่งได้ยินคำพูดต่อมา
“คนที่คุณก้องรักคือแม่ชมนาด ไม่ใช่อิง!”
ก้องภพตื้อในอก วูบนั้นจุกเสียดจนเกือบพูดไม่ออก ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อถ่ายทอดความในใจ
“ฉันไม่ปฏิเสธว่าเคยคิดและพูดกับเธอว่าฉันรักชมนาด”
นาทีนั้น ก้องภพนึกอยากปิดตาเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นแววตาเจ็บช้ำของแก้วกุดั่น แต่เพราะใจหนึ่งไม่อยากละสายตา เขาจึงทนปวดใจด้วยการยังเฝ้ามองสีหน้าบอกความสะเทือนใจของเธอต่อไป
“ฉันยังยืนยันว่าที่ผ่านมา เคยคิดเสมอว่าชมนาดเป็นเหมือนภาพฝันที่ฉันไม่มีวันเอื้อมถึง ยิ่งรู้สึกไกลเกินเอื้อมก็ทำให้ฉันยิ่งอยากไขว่คว้า ดังนั้นฉันจึงเอาแต่ยึดติดกับชมนาด ไม่ยอมเปิดใจถึงมีผู้หญิงคนไหนผ่านเข้ามา จนกระทั่งพบกับเธอ...อิง”
ชายหนุ่มนิ่งไปครู่เมื่อวูบนั้นรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอุ่น ๆ กำลังไหลวนอยู่ภายในใจ นึกอยากดึงหญิงสาวเข้ามากอดอีกครั้งแต่ไม่มีความกล้าพอ
“ตั้งแต่ได้พบเธอ ความปรารถนาที่เคยมีกับชมนาดก็เหมือนยิ่งเพิ่มจนฉันคิดเอาเองว่า...ถ้าได้ตัวเธอมาทดแทน ความใฝ่ฝันที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจคงจางหาย เพราะการได้ตัวแทนที่มีหน้าตาเป็นพิมพ์เดียวกัน”
ความเจ็บปวดที่สะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดในแววตาของแก้วกุดั่น ก่อให้เกิดความรู้สึกขมปร่าในลำคอจนรู้สึกถึงความแห้งผาก คำพูดที่เอ่ยต่อจากนั้นจึงยากเย็นเหลือเกินกว่าจะเปล่งออกมา
“แต่...พอได้ตัวเธอจริง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่ฉันคิดไม่ถึง” ชายหนุ่มแค่นยิ้มอย่างนึกสมเพชระคนหยันตนเองเมื่อปล่อยใจหวนนึกถึงอดีต “ฉันไม่ปฏิเสธว่าฉันเก็บรูปชมนาดไว้ ตอนที่กลับมาเพื่อร่วมงานศพของพ่อ ฉันบังเอิญเจอรูปของชมนาดในห้องนอนของพ่อแล้วก็เลยเก็บเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้น มีหลายครั้งที่ฉันเฝ้ามองรูปของชมนาดทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นจากความใฝ่ฝันและความปรารถนา จนกระทั่งวันที่ฉันกลับมาและได้พบกับเธออีกครั้ง”
ก้องภพจับจ้องดวงหน้าอ่อนเยาว์นิ่งนาน ราวกับจะใช้สายตาของตนตรึงหญิงสาวเอาไว้
“ตั้งแต่คืนที่ฉันครอบครองเธอ ทุกอย่างเหมือนไปไกลเกินกว่าควบคุมได้ ความต้องการที่เคยคิดว่าเป็นเพราะชมนาดกลับดูเหมือนมีแต่เพิ่มขึ้น ทั้งที่ฉันได้เธอมาเติมเต็มแทนแต่กลับยิ่งต้องการเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนานวันฉันก็ยิ่งเห็นแก่ตัวเอาแต่จะบีบบังคับเธอเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่...ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรนะอิงที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันมีความสุขกับการมีเธอนอนอยู่เคียงข้างมากกว่าการเอาแต่นั่งมองรูปภาพของชมนาดเหมือนที่ผ่านมา และ...การได้กอดเธอเอาไว้มันทำให้อุ่นขึ้นในหัวใจ ไม่เหมือนเวลาเอาภาพของชมนาดมาแนบไว้ตรงอกข้างซ้ายแล้วให้ได้แค่ความรู้สึกว่างเปล่า”
ขณะมองตอบดวงตาสีนิลที่เหมือนมีมนต์สะกด แก้วกุดั่นทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่งฟังถ้อยคำที่เหมือนกลั่นออกมาจากหัวใจของก้องภพ
“คืนนั้น ตอนที่เธอเอาภาพชมนาดมาตั้งคำถามฉันยอมรับว่าตกใจมาก นั่นก็เพราะ...ฉันลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเอาภาพแม่ของเธอไปวางไว้ที่ไหน”
ถึงตอนนี้ น้ำตาของแก้วกุดั่นก็ร่วงหล่น แต่ไม่ใช่จากความร้าวรานใจเหมือนที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนกำลังมีเส้นใยบางเบาหากเหนียวแน่นกำลังรัดร้อยเศษเสี้ยวหัวใจที่เคยขาดวิ่นให้เข้ารูปเข้ารอย โดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำถามสุดท้ายของก้องภพ เธอก็ไม่อาจฝืนข่มความต้องการของหัวใจไว้ได้อีก
“ช่วยตอบฉันทีสิอิง ว่าถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าฉันรักแม่ของเธออยู่อีกหรือ”
วินาทีที่แก้วกุดั่นโผเข้ามาสวมกอดแล้วร่ำไห้ ถึงแม้เสียงสะอื้นนั้นฟังแล้วบาดใจเหลือเกิน แต่ก้องภพกลับยิ้มออก ยามจรดจมูกลงกับเรือนผมหอมกรุ่นของหญิงสาว แม้ตอนนั้นเหมือนมีบางอย่างมาปกคลุมจนทำให้มองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน หากในหัวใจกลับมีภาพของเธอประทับอยู่จนเขาเชื่อว่าถึงแม้ภายหน้าดวงตาของเขามีปัญหาจนไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีก แต่ในหัวใจภาพของแก้วกุดั่นจะติดตาตรึงใจเขาจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ขอโทษด้วยค่ะที่อาทิตย์ก่อนไม่ได้มาอัพ ช่วงนี้มีงานเร่งค่ะต้องรีบทำ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนไล่ออก 555 แต่รับรองว่าได้อ่านจนถึงตอนจบแน่ค่ะ ^__^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
konhin : ความรักมีพลังพอที่จะผ่านพ้นทุกปัญหาแน่ค่ะ ^^
wane : ขอบคุณแทนคุณก้องค่ะสำหรับการเอาใจช่วย ^^
LAM : ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^^
Zephyr : ถึงขนาดนี้แล้ว กำลังใจต้องมาค่ะ ^^
ก้องภพคิดว่านาทีนั้นเขาคงเป็นอัมพาตไปแล้วเมื่อรู้สึกว่านอกจากจะขยับตัวไม่ได้ ก็ยังพูดไม่ได้อีก
แก้วกุดั่นท้อง!
ชายหนุ่มเอาแต่ทวนคำซ้ำไปมา ยามนั้นเหมือนทุกอย่างพร่าเลือนจนมองไม่เห็นแววตาที่สะท้อนความเจ็บช้ำของหญิงสาว
“อิงคิดว่าคุณก้องควรรู้ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าอิงจะขอให้คุณก้องรับผิดชอบ อิงก็แค่...” แก้วกุดั่นเงียบไปครู่เมื่อถูกขัดจากเม็ดน้ำตาที่กลิ้งลงมาเหมือนจะฟ้องความสะเทือนใจที่ได้รับจากความเฉยชาที่เห็น “อยากให้คุณก้องรู้ว่ากำลังจะมีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อเรียกคุณก้องว่า...พ่อ”
“อิง...”
ถึงตอนนี้ก้องภพจึงรู้ว่าเขายังมีเสียง แต่เพราะความรู้สึกนานาที่กำลังถาโถมทำให้เกิดปัญหาในการตอบโต้จนได้แต่นิ่งฟังคำพูดของแก้วกุดั่น
“แต่ถ้า...คุณก้องไม่ต้องการ ไม่อยากให้ลูกของอิงมีชื่อคุณก้องเป็นพ่อ อิงก็ไม่...”
คำพูดต่อจากนั้นขาดหายเมื่อแก้วกุดั่นถูกก้องภพดึงตัวเข้าไปกอด ร่างกายที่สั่นสะท้านของชายหนุ่มราวกับคนเจอเรื่องสะเทือนใจหรือหวั่นไหว
“พอเถอะอิง อย่าทำให้ฉันเกลียดตัวเองไปมากกว่านี้เลย”
น้ำเสียงในคำร้องขอนั้นถึงสั่นพร่าแต่ยังสะท้อนความอ่อนโยนและเจ็บปวดได้ในคราเดียวจนส่งผลให้คนฟังน้ำตาร่วงอีกครั้ง
ก้องภพยิ่งสะท้านใจเมื่อสบกับดวงตาที่คลอคลองไปด้วยหยาดน้ำของแก้วกุดั่น
เขามันดีแต่ทำให้เธอเจ็บปวดและเสียน้ำตา
ชายหนุ่มก้มลงจูบกลางหน้าผากหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกในใจ ยิ่งเจ็บปวดเมื่อเห็นเธอมองเขาด้วยแววตาเหมือนนึกไม่ถึงหรือไม่อยากเชื่อ
“ขอบใจ” ความตีบตันในลำคอทำให้ต้องเงียบไปครู่หากดวงตาไม่ละไปจากดวงหน้าของคนที่กำลังจะเป็นแม่ของลูก “แล้วก็ขอโทษที่ฉันทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจ”
“คุณก้อง”
ชายหนุ่มยิ้มทั้งที่เจ็บปวดเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวยิ่งรินไหล ก่อนยื่นมือออกไปปาดให้อย่างนุ่มนวล
“ที่ผ่านมา ฉันอาจเลวร้ายจนไม่คู่ควรกับสิ่งดี ๆ แต่...ฉันก็ยังไม่เลวจนถึงกับไม่ต้องการลูกของเราหรอกนะอิง”
ก้องภพยิ้มอีกครั้งก่อนบอกการตัดสินใจที่เขาควรคิดและทำมานานแล้ว
“แต่งงานกันนะ”
“คุณก้อง!”
“ขอให้ฉันได้ดูแลเธอกับลูก ให้ฉันได้ชดใช้ในสิ่งเลวร้ายที่เคยทำไว้ ฉันสัญญาว่าฉันจะเป็นสามีที่ดี จะเป็นพ่อที่ดีและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกของเรา”
ชายหนุ่มบอกแล้วก็นิ่งรอ แม้เดาว่าคงถูกปฏิเสธแต่ลึก ๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวัง
ขอแค่เธอยอมให้โอกาสเขา
ไม่นาน เขาก็ใจเต้นแรงเมื่อเห็นเธอยิ้ม ถึงเป็นรอยยิ้มเศร้า ๆ แต่ก็ทำให้เขาอุ่นใจขึ้นราวกับมีแสงสว่างสาดส่องเข้ามา จวบจนกระทั่ง
“อิงไม่ต้องการ”
“อิง”
แก้วกุดั่นเบือนหน้าหนี ไม่อาจทนมองแววตาที่สะท้อนความผิดหวัง วินาทีที่ก้องภพปล่อยเธอเป็นอิสระก็เหมือนถูกทดแทนด้วยลมหนาวจนมีผลให้น้ำเสียงที่พูดสั่นพร่า
“อิงบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้จะมาเรียกร้องความรับผิดชอบ อิงไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณก้อง”
ความเงียบที่ตามมานั้นยิ่งกดดันความรู้สึกของแก้วกุดั่นเมื่อยังแข็งใจไม่หันกลับไปมอง จึงไม่อาจหยั่งรู้ว่าก้องภพจับจ้องเธอด้วยแววตาและความนึกคิดเช่นไร เนิ่นนานในความรู้สึกเมื่อเธอหันไปมองเขาเพราะคำพูดที่ได้ยิน
“ไม่ต้องการอะไร แม้กระทั่งหัวใจของฉันอย่างนั้นหรือ”
“คุณก้อง”
ก้องภพทำไม่ได้แม้แต่ฝืนยิ้ม หัวใจปวดหนึบเมื่อนึกว่าเธอคงไม่ต้องการแม้กระทั่งหัวใจของเขาที่พร้อมนำไปวางให้ตรงแทบเท้า
“อยากรู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงยังมาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่อยากต้อนรับ”
ดวงตาสีดำเข้มหม่นแสงเมื่อคำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบ แต่นั่นไม่ทำให้ก้องภพถอดใจ
“เหตุผลเดียวที่ฉันยังไม่ยอมไปไหนก็เพราะฉันอยากอยู่ใกล้เธอ” ชายหนุ่มแค่นยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวเบิกตากว้างราวกับไม่อยากเชื่อ “แล้วที่ฉันขอโอกาสก็ไม่ใช่แค่อยากชดใช้ที่เคยทำร้ายเคยทำให้เธอเสียใจ แต่นั่นเป็นเพราะ...”
พูดแค่นั้นก้องภพก็เงียบอีกเมื่อถ้อยคำที่เคยบอกกับพัสสนในวันก่อนพลันผุดขึ้น แต่เพียงไม่นานเพราะแทบจะทันทีนั้นก็เหมือนได้ยินเสียงหัวใจร้องเตือน
ระหว่างคำว่า ‘รัก’ ที่ไม่ได้พูดออกไป กับ ‘ความรัก’ ที่ปล่อยให้หลุดมือ อย่างไหนทำให้เจ็บปวดได้มากกว่า
“เพราะหัวใจของฉันอยู่ตรงนี้”
แก้วกุดั่นปั่นป่วนไปทั้งใจราวกับข้างในกลายเป็นท้องทะเลที่กำลังสั่นคลอนจากระลอกคลื่นลูกใหญ่ ความสับสนว้าวุ่นทำให้ตื้อตัน คิดไม่ออกและไม่อยากคิด สิ่งที่ต้องการตอนนั้นมีเพียงข้อสรุปที่ชัดเจน
“คุณก้อง หมายความว่ายังไงคะ”
ได้ยินเสียงถอนหายใจที่ราวกับว่าเขากำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญ ครู่หนึ่งเธอจึงได้ยินคำพูดที่ทำให้ชาไปทั้งตัว
“ฉันรักเธอ”
ก้องภพอึ้งงัน นึกไม่ถึงว่าคำสารภาพของเขาจะทำให้แก้วกุดั่นยิ่งร้องไห้หนัก
“รักหรือคะ”
ชายหนุ่มนิ่วหน้ากับคำถามกลั้วหัวเราะเบา ๆ เริ่มไม่สบายใจกับปฏิกิริยาที่เห็น อดคิดไม่ได้ว่าหรือนี่เป็นผลจากการตั้งครรภ์ กระทั่งได้ยินคำพูดต่อมา
“คนที่คุณก้องรักคือแม่ชมนาด ไม่ใช่อิง!”
ก้องภพตื้อในอก วูบนั้นจุกเสียดจนเกือบพูดไม่ออก ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อถ่ายทอดความในใจ
“ฉันไม่ปฏิเสธว่าเคยคิดและพูดกับเธอว่าฉันรักชมนาด”
นาทีนั้น ก้องภพนึกอยากปิดตาเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นแววตาเจ็บช้ำของแก้วกุดั่น แต่เพราะใจหนึ่งไม่อยากละสายตา เขาจึงทนปวดใจด้วยการยังเฝ้ามองสีหน้าบอกความสะเทือนใจของเธอต่อไป
“ฉันยังยืนยันว่าที่ผ่านมา เคยคิดเสมอว่าชมนาดเป็นเหมือนภาพฝันที่ฉันไม่มีวันเอื้อมถึง ยิ่งรู้สึกไกลเกินเอื้อมก็ทำให้ฉันยิ่งอยากไขว่คว้า ดังนั้นฉันจึงเอาแต่ยึดติดกับชมนาด ไม่ยอมเปิดใจถึงมีผู้หญิงคนไหนผ่านเข้ามา จนกระทั่งพบกับเธอ...อิง”
ชายหนุ่มนิ่งไปครู่เมื่อวูบนั้นรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอุ่น ๆ กำลังไหลวนอยู่ภายในใจ นึกอยากดึงหญิงสาวเข้ามากอดอีกครั้งแต่ไม่มีความกล้าพอ
“ตั้งแต่ได้พบเธอ ความปรารถนาที่เคยมีกับชมนาดก็เหมือนยิ่งเพิ่มจนฉันคิดเอาเองว่า...ถ้าได้ตัวเธอมาทดแทน ความใฝ่ฝันที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจคงจางหาย เพราะการได้ตัวแทนที่มีหน้าตาเป็นพิมพ์เดียวกัน”
ความเจ็บปวดที่สะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดในแววตาของแก้วกุดั่น ก่อให้เกิดความรู้สึกขมปร่าในลำคอจนรู้สึกถึงความแห้งผาก คำพูดที่เอ่ยต่อจากนั้นจึงยากเย็นเหลือเกินกว่าจะเปล่งออกมา
“แต่...พอได้ตัวเธอจริง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่ฉันคิดไม่ถึง” ชายหนุ่มแค่นยิ้มอย่างนึกสมเพชระคนหยันตนเองเมื่อปล่อยใจหวนนึกถึงอดีต “ฉันไม่ปฏิเสธว่าฉันเก็บรูปชมนาดไว้ ตอนที่กลับมาเพื่อร่วมงานศพของพ่อ ฉันบังเอิญเจอรูปของชมนาดในห้องนอนของพ่อแล้วก็เลยเก็บเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้น มีหลายครั้งที่ฉันเฝ้ามองรูปของชมนาดทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นจากความใฝ่ฝันและความปรารถนา จนกระทั่งวันที่ฉันกลับมาและได้พบกับเธออีกครั้ง”
ก้องภพจับจ้องดวงหน้าอ่อนเยาว์นิ่งนาน ราวกับจะใช้สายตาของตนตรึงหญิงสาวเอาไว้
“ตั้งแต่คืนที่ฉันครอบครองเธอ ทุกอย่างเหมือนไปไกลเกินกว่าควบคุมได้ ความต้องการที่เคยคิดว่าเป็นเพราะชมนาดกลับดูเหมือนมีแต่เพิ่มขึ้น ทั้งที่ฉันได้เธอมาเติมเต็มแทนแต่กลับยิ่งต้องการเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนานวันฉันก็ยิ่งเห็นแก่ตัวเอาแต่จะบีบบังคับเธอเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่...ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรนะอิงที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันมีความสุขกับการมีเธอนอนอยู่เคียงข้างมากกว่าการเอาแต่นั่งมองรูปภาพของชมนาดเหมือนที่ผ่านมา และ...การได้กอดเธอเอาไว้มันทำให้อุ่นขึ้นในหัวใจ ไม่เหมือนเวลาเอาภาพของชมนาดมาแนบไว้ตรงอกข้างซ้ายแล้วให้ได้แค่ความรู้สึกว่างเปล่า”
ขณะมองตอบดวงตาสีนิลที่เหมือนมีมนต์สะกด แก้วกุดั่นทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่งฟังถ้อยคำที่เหมือนกลั่นออกมาจากหัวใจของก้องภพ
“คืนนั้น ตอนที่เธอเอาภาพชมนาดมาตั้งคำถามฉันยอมรับว่าตกใจมาก นั่นก็เพราะ...ฉันลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเอาภาพแม่ของเธอไปวางไว้ที่ไหน”
ถึงตอนนี้ น้ำตาของแก้วกุดั่นก็ร่วงหล่น แต่ไม่ใช่จากความร้าวรานใจเหมือนที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนกำลังมีเส้นใยบางเบาหากเหนียวแน่นกำลังรัดร้อยเศษเสี้ยวหัวใจที่เคยขาดวิ่นให้เข้ารูปเข้ารอย โดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำถามสุดท้ายของก้องภพ เธอก็ไม่อาจฝืนข่มความต้องการของหัวใจไว้ได้อีก
“ช่วยตอบฉันทีสิอิง ว่าถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าฉันรักแม่ของเธออยู่อีกหรือ”
วินาทีที่แก้วกุดั่นโผเข้ามาสวมกอดแล้วร่ำไห้ ถึงแม้เสียงสะอื้นนั้นฟังแล้วบาดใจเหลือเกิน แต่ก้องภพกลับยิ้มออก ยามจรดจมูกลงกับเรือนผมหอมกรุ่นของหญิงสาว แม้ตอนนั้นเหมือนมีบางอย่างมาปกคลุมจนทำให้มองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน หากในหัวใจกลับมีภาพของเธอประทับอยู่จนเขาเชื่อว่าถึงแม้ภายหน้าดวงตาของเขามีปัญหาจนไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีก แต่ในหัวใจภาพของแก้วกุดั่นจะติดตาตรึงใจเขาจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ขอโทษด้วยค่ะที่อาทิตย์ก่อนไม่ได้มาอัพ ช่วงนี้มีงานเร่งค่ะต้องรีบทำ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนไล่ออก 555 แต่รับรองว่าได้อ่านจนถึงตอนจบแน่ค่ะ ^__^
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และ LIKE ที่มอบให้กันค่ะ
konhin : ความรักมีพลังพอที่จะผ่านพ้นทุกปัญหาแน่ค่ะ ^^
wane : ขอบคุณแทนคุณก้องค่ะสำหรับการเอาใจช่วย ^^
LAM : ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^^
Zephyr : ถึงขนาดนี้แล้ว กำลังใจต้องมาค่ะ ^^
พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2559, 11:09:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ค. 2559, 11:09:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 1353
<< บทที่ 30 | บทส่งท้าย >> |
konhin 14 พ.ค. 2559, 11:53:35 น.
ในที่สุด ดีนะที่เปิดใจคุยกัน
ในที่สุด ดีนะที่เปิดใจคุยกัน
Zephyr 15 พ.ค. 2559, 16:57:24 น.
เฮ่ออออออ ได้บอกสักที
เฮ่ออออออ ได้บอกสักที
ปิ่นนลิน 16 พ.ค. 2559, 00:25:54 น.
หวังว่าจะไม่ดราม่าอีกน้าาาา
หวังว่าจะไม่ดราม่าอีกน้าาาา
LAM 17 พ.ค. 2559, 10:13:29 น.
ในที่สุดก็เข้าใจกันซะที ลุ้นจนเหนีื่อยเลย กับมาอัพต่อเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังให้พันวลีเสมอค่ะ
ในที่สุดก็เข้าใจกันซะที ลุ้นจนเหนีื่อยเลย กับมาอัพต่อเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังให้พันวลีเสมอค่ะ
wane 20 พ.ค. 2559, 11:55:21 น.
เข้าใจกันซะที เย้!
เข้าใจกันซะที เย้!