รหัสรัก...รหัสหัวใจ
อิงลดา หญิงสาวที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ได้รับของขวัญประหลาดเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดวงตาสีฟ้า มีชื่อเล่นแปลว่าน้ำแข็ง เขาบอกตัวตัวเองเป็นของขวัญ แต่สำหรับเธอ คิดว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ในคราบปีศาจร้ายที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากกว่า เพราะเพียงเริ่มได้รู้จักกัน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปแบบที่เจ้าตัวไม่เคยคิดมาก่อน
Tags: สิรินดา, รหัสรักรหัสหัวใจ, นิยายรัก
ตอน: 9: เรื่องบังเอิญ
ฉันเดินตามร่างสูงออกจากห้องแล็ป พอพ้นบริเวณตึกวิจัย เป็นสวนหย่อมขนาดเล็กที่มีพรรณไม้ยืนต้น และไม้ล้มลุกประเภทไม้ดอกหลายชนิด บริเวณพื้นดินด้านล่างปูด้วยหญ้าที่ถูกตัดแต่งจนเรียบเนียนราวกับสนามกล์อฟ กลางสวนมีต้นไม้ต้นใหญ่ราวสองคนโอบ ตอนนี้ต้นของมันแทบจะไร้ใบ ปลายกิ่งทุกด้านกลายเป็นสีม่วง จากตอกไม้กลีบบางดอกเล็กๆ ที่กาะกันแน่น และใล่ลงมาเป็นสายราวกับสายฝน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันไม่คุ้นเคยสำหรับฉัน
ดอกไม้ทำให้ฉันหยุด และเงยมองขึ้นไปสำรวจความงามในแต่ละกิ่งก้านของมันอย่างละเอียด
"มันชื่อดอกฟูจิ"
"ชื่อเหมือนภูเขาไฟ" ฉันตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากช่อดอกไม้สีม่วงละลานตานั่น
"ภูเขาไฟลูกนั้นดับไปแล้ว" อีกฝ่ายพูด "ถ้าคุณหมายถึงลูกที่อยู่ที่เกาะญี่ปุ่น ดอกไม้นี่ก็เหมือนกัน มันมาจากญี่ปุ่น แต่เกือบสุญพันธุ์เพราะน้ำท่วมใหญ่เมื่อสิบกว่าปีก่อน โชคดีที่ยังพอหาต้นไม้ และเนื้อเยื่อของมันมาพัฒนาพันธุ์ใหม่ได้"
ฉันมองกลีบดอกไม้บางเบาที่เกลื่อนอยู่บนพื้น "โลกอนาคตนี่ดีจังเลยนะ อยากได้อะไรก็สร้างได้ แม้กระทั่ง..." ฉันหยุด มองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มหันหลัง เดินไปหยุดยืนใกล้ๆ สระน้ำเล็กๆ ที่มีปลาคราฟว่ายเวียนอยู่สองสามตัว เขาเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงยืน ก้มมองลงไปนิ่งๆ
ฉันเดินไปหยุดอยู่เบื้องหลังของเขา เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายคนนี้เพอร์เพคเกินไป ไหล่กว้าง หุ่นดี หน้าตาดี ...และนิสัยดี จนไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาที่เกิดขึ้นบนโลก ถ้าเป็นโลกในอดีตที่ฉันจากมา แต่ในโลกปัจจุบันของเขา เรื่องแบบนี้อาจจะง่ายมาก เพราะศัลยกรรม และนวัตกรรมเกี่ยวกับความสวยงามคงก้าวไกลกว่ามากนัก
"ชวนออกมาทำไม"
"..."
ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ
"ผมพลาดไม่คิดว่าคุณจะเข้าระบบฐานข้อมูลประวัติส่วนตัวของผมได้"
อ้อ การที่เขานิ่งเงียบมาตลอดบ่าย ไม่่พูดจากับใคร และจู่ๆ ก็วางงาน ชวนฉันออกมาเดินเล่น บอกเพื่อนๆ ว่าต้องการพักสมอง เป็นเพราะเรื่องที่เขาเห็นหน้าจอเครื่องไอบุ๊กของตัวเองว่าฉันเปิดดูอะไรอยู่
"ผมคิดว่าผมล็อคทุกระบบแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผมได้ แต่ลืมไปว่า..."
"การเข้าด้วยวิธีเบสิคที่สุดแบบยุคของฉัน มันทำให้...เข้าถึงข้อมูลพวกนั้นได้"
คนหันหลังอยู่พยักหน้า "เรามีระบบป้องกันสารพัด แต่ลืมวิธีการสามัญที่สุดไป เราไม่คิดว่าร้อยปีนี้จะมีคนทำแบบนี้ได้ ... แต่ในยุคของคุณ การเข้ารหัสด้วยวิธีนี้เป็นปกติที่สุด ใช่ไหม"
ฉันพยักหน้า
ไอแซคหันกลับมา ฉันเห็นแววตากังวลของเขา ... ซึ่งฉันไม่เข้าใจ
"ผมขอร้อง" ชายหนุ่มเดินเข้ามาหา จับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ "คุณอิง ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหม"
หน้าตาของคนใกล้ตัวซีเรียสมาก และถ้าเดาไม่ผิด ฉันเห็นแววตาเศร้าลึกๆ ในนั้นด้วย ... ไม่เข้าใจเลย ในเมื่อในโลกยุคใหม่นี้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ แล้วทำไม เขาต้องสนใจด้วยว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร
"ไม่มีใครรู้ เอ่อ เรื่องนี้เลยเหรอ..."
คนร่างสูงส่ายหน้า "ไม่...แม้แต่นาธาน เพื่อนที่เรียนกับผมมาหลายปี มันเป็นความลับระหว่างพ่อกับผม มานานแล้ว"
มนุษย์ในโลกร้อยปีข้างหน้ามีความสามารถจริงๆ ฉันคิดในใจ และมองสำรวจใบหน้าสมบูรณ์แบบนั้นอย่างจริงจัง แววตา สีผิว ทุกอย่างมัน...
"พ่อ ทำให้ผมเติบโตได้ ทำอะไรได้แบบคนทั่วไป..และ...อย่ามองผมแบบนั้น" ชายหนุ่มมองเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นแววตาทึ่งๆ ของฉัน
ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน สิ่งหนึ่งที่ฉันสัมผัสได้จากผู้ชายคนนี้คือ เขาเป็นคนดี ถึงแม้จะปากร้าย อารมณ์ร้ายเป็นบางที แต่พื้นฐานแล้วเขาเป็นคนดีมากๆ คนหนึ่ง
ฉันไม่เคยรู้สึกสักนิดว่าเขาจะไม่ใช่...
"ทำไม ในยุคนี้ สมัยนี้ เรื่องแบบนี้มันน่าจะเป็นเรื่องธรรมดานี่นา"
"มันก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่...ผมเป็นรุนแรกที่เหมือนมนุษย์มากที่สุด แม้กระทั่งจิตใจ"
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่เก้าอี้ และทรุดตัวลงนั่ง นั่นทำให้ฉันต้องเดินตาม และนั่งลงข้างๆ
“ผมไม่อยากเป็นตัวประหลาด ไม่อยากถูกตั้งคำถาม ไม่อยากถูกทดสอบ" คำนั้นเบา แต่ก็กระทบเข้ากับ ใจ ของฉันอย่างจัง
"ไอแซค ไอแซค นายอยู่ไหน" เสียงนาธานขัดขึ้นมา ร่างท้วมๆ ของคนพูดก้าวออกมาจากมุมตึก "อยู่นี่เอง โทรศัพท์ก็ไม่เอามา ท่านโปรเฟรสเซอร์เรียกหานายแน่ะ สงสัยมีอะไรให้ช่วย"
ไอแซคลุกขึ้น "ได้ๆ เดี่๋ยวไป ฝากนายพาคุณอิงไปหาอะไรดื่มหน่อยสิ ว่าจะพาไป พอดีคุยกันเพลิน"
ตาของเราสบตากัน ฉันอยากเอ่ยอะไรมากกว่านั้น แต่อีกฝ่ายเบือนหน้าไปทางอื่นเสียก่อน
นาธานอมยิ้มแบบมีเลศนัย "อะไรกัน คุยกันที่โลกโน้นยังไม่พออีกเหรอ"
ฉันไม่ตอบ "ไปเถอะนาธาน กำลังคอแห้งอยู่พอดี"
ไอแซคเดินจากไปแล้ว นาธานพาฉันเดินตัดสนามไปยังร้านเครื่องดื่มเล็กๆ ใกล้สวน ในร้านไม่มีพนักงาน เราเพียงเลือกจากเมนูที่อยู่หน้าร้าน รอ และเครื่องดื่มเย็นจัด สีสวย ก็พร้อมเสริฟ ในสามนาที
"อร่อยไหม"
"ค่ะ"
"ผลงานของเจ้าไอแซคมันล่ะ"
ฉันขมวดคิ้ว "จริงหรือคะ เขาเรียนด้าน ชีวฟิกสข์ ไม่ใช่เหรอคะ"
"ครับ แต่นี้เป็นงานอดิเรกของมัน ไอแซคฝันว่าจะให้มีอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้อาหารที่ออกมาจากเครื่องอัตโนมัติ มีรสชาติที่ดีมากพอๆ กับที่ทำเองจากคนที่เก่งที่สุดเท่าที่หาข้อมูลได้"
น่าสนใจมาก...ชักอยากรู้จักให้มากกว่านี้แล้วสิ
ดอกไม้ทำให้ฉันหยุด และเงยมองขึ้นไปสำรวจความงามในแต่ละกิ่งก้านของมันอย่างละเอียด
"มันชื่อดอกฟูจิ"
"ชื่อเหมือนภูเขาไฟ" ฉันตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากช่อดอกไม้สีม่วงละลานตานั่น
"ภูเขาไฟลูกนั้นดับไปแล้ว" อีกฝ่ายพูด "ถ้าคุณหมายถึงลูกที่อยู่ที่เกาะญี่ปุ่น ดอกไม้นี่ก็เหมือนกัน มันมาจากญี่ปุ่น แต่เกือบสุญพันธุ์เพราะน้ำท่วมใหญ่เมื่อสิบกว่าปีก่อน โชคดีที่ยังพอหาต้นไม้ และเนื้อเยื่อของมันมาพัฒนาพันธุ์ใหม่ได้"
ฉันมองกลีบดอกไม้บางเบาที่เกลื่อนอยู่บนพื้น "โลกอนาคตนี่ดีจังเลยนะ อยากได้อะไรก็สร้างได้ แม้กระทั่ง..." ฉันหยุด มองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มหันหลัง เดินไปหยุดยืนใกล้ๆ สระน้ำเล็กๆ ที่มีปลาคราฟว่ายเวียนอยู่สองสามตัว เขาเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงยืน ก้มมองลงไปนิ่งๆ
ฉันเดินไปหยุดอยู่เบื้องหลังของเขา เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายคนนี้เพอร์เพคเกินไป ไหล่กว้าง หุ่นดี หน้าตาดี ...และนิสัยดี จนไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาที่เกิดขึ้นบนโลก ถ้าเป็นโลกในอดีตที่ฉันจากมา แต่ในโลกปัจจุบันของเขา เรื่องแบบนี้อาจจะง่ายมาก เพราะศัลยกรรม และนวัตกรรมเกี่ยวกับความสวยงามคงก้าวไกลกว่ามากนัก
"ชวนออกมาทำไม"
"..."
ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ
"ผมพลาดไม่คิดว่าคุณจะเข้าระบบฐานข้อมูลประวัติส่วนตัวของผมได้"
อ้อ การที่เขานิ่งเงียบมาตลอดบ่าย ไม่่พูดจากับใคร และจู่ๆ ก็วางงาน ชวนฉันออกมาเดินเล่น บอกเพื่อนๆ ว่าต้องการพักสมอง เป็นเพราะเรื่องที่เขาเห็นหน้าจอเครื่องไอบุ๊กของตัวเองว่าฉันเปิดดูอะไรอยู่
"ผมคิดว่าผมล็อคทุกระบบแล้ว ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผมได้ แต่ลืมไปว่า..."
"การเข้าด้วยวิธีเบสิคที่สุดแบบยุคของฉัน มันทำให้...เข้าถึงข้อมูลพวกนั้นได้"
คนหันหลังอยู่พยักหน้า "เรามีระบบป้องกันสารพัด แต่ลืมวิธีการสามัญที่สุดไป เราไม่คิดว่าร้อยปีนี้จะมีคนทำแบบนี้ได้ ... แต่ในยุคของคุณ การเข้ารหัสด้วยวิธีนี้เป็นปกติที่สุด ใช่ไหม"
ฉันพยักหน้า
ไอแซคหันกลับมา ฉันเห็นแววตากังวลของเขา ... ซึ่งฉันไม่เข้าใจ
"ผมขอร้อง" ชายหนุ่มเดินเข้ามาหา จับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ "คุณอิง ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหม"
หน้าตาของคนใกล้ตัวซีเรียสมาก และถ้าเดาไม่ผิด ฉันเห็นแววตาเศร้าลึกๆ ในนั้นด้วย ... ไม่เข้าใจเลย ในเมื่อในโลกยุคใหม่นี้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ แล้วทำไม เขาต้องสนใจด้วยว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร
"ไม่มีใครรู้ เอ่อ เรื่องนี้เลยเหรอ..."
คนร่างสูงส่ายหน้า "ไม่...แม้แต่นาธาน เพื่อนที่เรียนกับผมมาหลายปี มันเป็นความลับระหว่างพ่อกับผม มานานแล้ว"
มนุษย์ในโลกร้อยปีข้างหน้ามีความสามารถจริงๆ ฉันคิดในใจ และมองสำรวจใบหน้าสมบูรณ์แบบนั้นอย่างจริงจัง แววตา สีผิว ทุกอย่างมัน...
"พ่อ ทำให้ผมเติบโตได้ ทำอะไรได้แบบคนทั่วไป..และ...อย่ามองผมแบบนั้น" ชายหนุ่มมองเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นแววตาทึ่งๆ ของฉัน
ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน สิ่งหนึ่งที่ฉันสัมผัสได้จากผู้ชายคนนี้คือ เขาเป็นคนดี ถึงแม้จะปากร้าย อารมณ์ร้ายเป็นบางที แต่พื้นฐานแล้วเขาเป็นคนดีมากๆ คนหนึ่ง
ฉันไม่เคยรู้สึกสักนิดว่าเขาจะไม่ใช่...
"ทำไม ในยุคนี้ สมัยนี้ เรื่องแบบนี้มันน่าจะเป็นเรื่องธรรมดานี่นา"
"มันก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่...ผมเป็นรุนแรกที่เหมือนมนุษย์มากที่สุด แม้กระทั่งจิตใจ"
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่เก้าอี้ และทรุดตัวลงนั่ง นั่นทำให้ฉันต้องเดินตาม และนั่งลงข้างๆ
“ผมไม่อยากเป็นตัวประหลาด ไม่อยากถูกตั้งคำถาม ไม่อยากถูกทดสอบ" คำนั้นเบา แต่ก็กระทบเข้ากับ ใจ ของฉันอย่างจัง
"ไอแซค ไอแซค นายอยู่ไหน" เสียงนาธานขัดขึ้นมา ร่างท้วมๆ ของคนพูดก้าวออกมาจากมุมตึก "อยู่นี่เอง โทรศัพท์ก็ไม่เอามา ท่านโปรเฟรสเซอร์เรียกหานายแน่ะ สงสัยมีอะไรให้ช่วย"
ไอแซคลุกขึ้น "ได้ๆ เดี่๋ยวไป ฝากนายพาคุณอิงไปหาอะไรดื่มหน่อยสิ ว่าจะพาไป พอดีคุยกันเพลิน"
ตาของเราสบตากัน ฉันอยากเอ่ยอะไรมากกว่านั้น แต่อีกฝ่ายเบือนหน้าไปทางอื่นเสียก่อน
นาธานอมยิ้มแบบมีเลศนัย "อะไรกัน คุยกันที่โลกโน้นยังไม่พออีกเหรอ"
ฉันไม่ตอบ "ไปเถอะนาธาน กำลังคอแห้งอยู่พอดี"
ไอแซคเดินจากไปแล้ว นาธานพาฉันเดินตัดสนามไปยังร้านเครื่องดื่มเล็กๆ ใกล้สวน ในร้านไม่มีพนักงาน เราเพียงเลือกจากเมนูที่อยู่หน้าร้าน รอ และเครื่องดื่มเย็นจัด สีสวย ก็พร้อมเสริฟ ในสามนาที
"อร่อยไหม"
"ค่ะ"
"ผลงานของเจ้าไอแซคมันล่ะ"
ฉันขมวดคิ้ว "จริงหรือคะ เขาเรียนด้าน ชีวฟิกสข์ ไม่ใช่เหรอคะ"
"ครับ แต่นี้เป็นงานอดิเรกของมัน ไอแซคฝันว่าจะให้มีอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้อาหารที่ออกมาจากเครื่องอัตโนมัติ มีรสชาติที่ดีมากพอๆ กับที่ทำเองจากคนที่เก่งที่สุดเท่าที่หาข้อมูลได้"
น่าสนใจมาก...ชักอยากรู้จักให้มากกว่านี้แล้วสิ
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2559, 22:01:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ต.ค. 2559, 20:39:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 2105
<< 8: โลกอนาคต | 10 : เรื่องเล่า ผ่านกาลเวลา >> |
konhin 3 พ.ค. 2559, 02:50:24 น.
ลงชื่อค่าาาาาาาา คิดถึงเรื่องนี้จัง
ลงชื่อค่าาาาาาาา คิดถึงเรื่องนี้จัง
kraten 3 พ.ค. 2559, 19:38:23 น.
รอคอยมานานแสนนาน...
รอคอยมานานแสนนาน...
Zephyr 9 พ.ค. 2559, 19:38:19 น.
อ้าว ตกลงนางกะเป็นหุ่นยนต์จริงๆ
แง แต่วิธีเข้าแบบเบสิกคืออะไรกะน
จิ้มจากหน้าจอไปเรื่อยๆรึป่าวนะ
อ้าว ตกลงนางกะเป็นหุ่นยนต์จริงๆ
แง แต่วิธีเข้าแบบเบสิกคืออะไรกะน
จิ้มจากหน้าจอไปเรื่อยๆรึป่าวนะ