: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 14 (50%)

ทันทีที่อิงอรุณออกจากบริษัท แพรวเพชรก็ถอนใจอย่างโล่งอก เพราะ ‘ลูกค้า’ พิเศษที่เธอนัดไว้กำลังจะมาประชุมด้วยในอีกไม่ถึงสิบนาทีนี่แล้ว!

“คุณตัดสินใจถูกต้องแล้วละ ที่ตกลงใจทำตามที่ฉันต้องการ นี่ค่ะเช็คค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ สำหรับเรื่องสัญญาคอร์สอบรมพนักงาน ปรเมศวร์เทรดดิ้งจะติดต่อมาพรุ่งนี้นะคะ” สาวิตรียิ้มอ่อน พลางเลื่อนเช็คเงินสดมาให้แพรวเพชร

หญิงสาวฝืนยิ้ม แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นว่าหม่อมดวงกมลมีสีหน้าอึดอัดเพียงใดกับกิริยาอันเข้าข่าย ‘ปากหวานก้นเปรี้ยว’ ของสหาย แพรวเพชรรับเช็คมาตรวจรายละเอียดแล้วพับเก็บใส่สมุด แรกทีเดียวเธอโทร.ไปปฏิเสธการรับงานด้วยตัวเอง และหลีกเลี่ยงการรับสายของสาวิตรี ทำให้ฝ่ายนั้นฝากข้อความไว้นับร้อยด้วยถ้อยคำซ้ำๆ

‘ฉันไม่ใช่คนมีความอดทนมากนักหรอกนะ’

เธอคงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป ถ้าไม่ใช่เพราะอิงอรุณบ่นว่าสัญญาของปรเมศวร์เทรดดิ้งซึ่งกำลังจะลงนาม จู่ๆคู่สัญญาก็ขอเลื่อนการเซ็นสัญญาออกไปไม่มีกำหนด เป็นเหมือนสัญญาณที่สาวิตรีบอกเธอกลายๆว่ารับไม่ได้กับคำปฏิเสธ

แม้อึดอัดใจ แต่ในฐานะของคนที่ถูกต้อนมาจนสุดทาง หญิงสาวทำได้เพียงเดินหน้าชนกับทุกเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทก็ไม่มีทางถอยแล้ว มัดจำที่ได้รับจากสาวิตรีก่อนหน้าถูกผันไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัทเกือบหมดแล้ว

เธอรู้ว่าอิงอรุณไม่มีวันยอมทำงานประหลาดเช่นนี้ จึงตัดสินใจว่าจะดูแลลูกค้ารายนี้ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นไปได้ หุ้นส่วนจะไม่มีวันรู้เรื่องการจับคู่ยุ่งๆนี่เลย แต่ถ้าเกิดถูกจับได้ แพรวเพชรก็หวังว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น ณ จุดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว

“ตามที่คุยกัน เพชรจะจัดการให้ลูกชายคุณสาวิตรีพบผู้หญิงที่คุณเลือกหนึ่งครั้ัง แล้วจบงานแค่ตรงนั้น เราเข้าใจตรงกันนะคะ”

“ค่ะ ได้แค่นั้นก่อนก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว” สาวิตรีพยักหน้าเป็นต่อ เป็นกิริยาที่ขัดตาคนมองจนแทบอยากลุกขึ้นร้องกรี๊ดแล้ววิ่งหนีไปให้พ้นสายตา

“งั้นเพชรจะไม่อ้อมค้อมนะคะ ใครคือผู้หญิงที่คุณสาวิตรีเลือกไว้ให้ลูกชายคะ” หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่เห็นกิริยานั้น เสตั้งคำถามเข้าเรื่องแทน

“หม่อมราชวงศ์อินทุอรวี ชยาธร ทายาทคนเดียวของวังชยาธร ลูกสาวของหม่อมดวงกมลค่ะ” สาวิตรีประกาศอิ่มเอม

แพรวเพชรอดไม่ได้ที่จะหันไปสังเกตปฏิกิริยาของหม่อมดวงกมล ก็พบว่าฝ่ายนั้นยิ้มแย้มไม่เต็มปากนัก มองจากสีหน้าเดาแทบไม่ออกเลยว่าหม่อมรู้สึกอย่างไรกับการจับคู่ครั้งนี้ ช่างวางตัวได้งดงาม น่าชื่นชมสมเป็นบุคคลในราชสกุลจริงๆ

“คุณหญิงอินทุอรวีที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของณัฐภัทรคอร์ปฯใช่ไหมคะ” แพรวเพชรพึมพำหนักใจ โลกกลมจนหัวเราะไม่ออกจริงๆ เพราะอินทุอรวีเพิ่งเสนอตัวกับอิงอรุณจะเข้ามาช่วยคิวปิดแอสซิสแทนซ์บริหารการเงินเมื่อไม่นานมานี้เอง นั่นทำให้เธอค้นประวัติผู้หญิงคนนี้ด้วยความอยากรู้ และต้องทึ่งเมื่อพบกว่าสตรีผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ทั้งความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในแวดวงการเงินที่สะสมจากการทำงานในสหรัฐอเมริกา ทันทีที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยและสมัครเข้าร่วมงานกับณัฐภัทรคอร์ปอเรชั่น อินทุอรวีรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นขั้นแรก และเพียงไม่กี่ปีต่อมา ราชนิกุลสาวก็ก้าวขึ้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อซึ่งเป็นงานถนัดที่สุด!

“ใช่แล้วค่ะ คุณหญิงรวีเป็นผู้บริหารระดับสูงของณัฐภัทรคอร์ป และมีแนวโน้มว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองซีอีโอข้ามไปดูแลธนาคารสินพาณิชย์เร็วๆนี้ ล่าสุดก็เพิ่งได้รับโหวตเป็นนักธุรกิจหญิงหน้าใหม่ไฟแรงของนิตยสารเบสต์สิเนสวีแมนด้วย ฉันเชื่อว่าคุณหญิงรวีเหมาะกับลูกชายของฉันที่สุด” สาวิตรีจับจองหน้าที่ตอบคำถามไว้เหนียวแน่น

“คุณหญิงรวีทั้งสวย เก่ง มั่นใจ ทันสมัย หัวใหม่ แล้วก็เปรี้ยวไม่เบา ลูกชายคุณสาวิตรีชอบผู้หญิงสไตล์นี้เหรอคะ” เธอลองเชิง

สาวิตรีเปิดกระเป๋าหยิบรูปขนาดโปสต์การ์ดออกมาวางบนโต๊ะ “นี่ค่ะ สาวัช ปรเมศวร์ ลูกชายของฉัน เขาทั้งหล่อ ดูดี การศึกษาก็สูงขนาดนั้น คุณหญิงรวีต้องชอบเขาแน่นอน”

แม้จะนึกขันที่สาวิตรีพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจตอบให้ตรงคำถาม แต่สิ่งที่ทำให้แพรวเพชรหูผึ่งก็คือชื่อบุตรชายของสาวใหญ่นั่นเอง “สาวัช ปรเมศวร์ เขาเป็นอาจารย์อยู่ที่...ใช่ไหมคะ” เธอออกชื่อวิทยาลัยนานาชาติสังกัดมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังย่านชานเมือง

ครั้นได้ยินคำตอบว่าสิ่งที่คาดไม่ผิดแน่แล้ว แพรวเพชรจึงหยิบรูปขึ้นมาพิจารณาทีละรายละเอียด นี่น่ะหรือ...วิทยากรจอมหยิ่งของอิงอรุณ นี่ไม่ใช่แค่โลกกลมแล้ว แต่มันยังทั้งแคบทั้งเล็กจนน่ารังเกียจอีกด้วย!

ชายหนุ่มในรูปสวมเสื้อไหมพรมเนื้อบางสีน้ำเงินสดทับเชิ้ตขาวทำให้เขาแลสดใส มีชีวิตชีวา ขัดกับสีหน้าเรียบเฉยนิ่งขรึม อิริยาบถที่เขากอดอกยืนพิงเสาโรมันบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวปิดกั้นตัวเองและเข้าถึงได้ยาก การที่เขาไม่มองกล้อง แต่ก้มหน้าเล็กน้อยคล้ายกำลังครุ่นคิด แสดงว่าเป็นคนเข้มแข็ง หนักแน่น กล้าสู้หน้ากับปัญหา พร้อมเผชิญหน้ากับอุปสรรคเสมอ

แพรวเพชรเคาะนิ้วลงบนรูป รำพึง “คนที่ยืนเอนพิงตามสบาย แต่กลับดูมั่นคงแบบนี้ เป็นบุคลิกของคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง วิธีก้มหน้านิดๆแบบนั้น แสดงว่าเข้าสังคมไม่เก่ง จึงต้องเอาท่าทางเข้มแข็งอื่นๆมาปกป้องความรู้สึกแท้จริง ดูเหมือนเขาจะเป็นคนมีบุคลิกขัดแย้งในตัวเองนะคะ”

“คุณรู้เรื่องพวกนี้ได้จากการแค่ดูรูปเหรอ เงินของฉันดูเหมือนจะคุ้มค่ากว่าที่คิดนะคะ” สาวิตรีอุทานทึ่งๆ

“มันเป็นแค่ลักษณะกว้างๆเท่านั้นเองค่ะ ว่าแต่เพชรพูดใกล้เคียงความจริงไหมคะ” ถึงจะหมั่นไส้กับคำพูดอวดรวยของอีกฝ่าย แต่แพรวเพชรก็ท่องไว้ในใจซ้ำๆว่า ‘ลูกค้าๆ อดทนไว้เพชรเอ๋ย จำไว้ว่าลูกค้าคือพระเจ้า!’

“ใช่เลยค่ะ เขาเก็บตัว แต่ก็ยึดมั่นใจความคิดของตัวเองเสมอ” สาวิตรีเอ่ยถึงบุตรชายด้วยน้ำเสียงแปลกๆ!

“งั้นเพชรจะอธิบายขั้นตอนการทำงานให้คุณสาวิตรีและหม่อมดวงกมลเข้าใจคร่าวๆนะคะ เนื่องจากเคสนี้เป็นกรณีพิเศษซึ่งเพชรไม่สามารถสัมภาษณ์คนโสดด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นคงต้องขอข้อมูลจากทั้งคุณสาวิตรีและหม่อมดวงกมล เกี่ยวกับอุปนิสัย ความชอบ งานอดิเรก ทัศนคติแบบคร่าวๆ รวมถึงตารางงานของทั้งคู่ด้วย เพชรจะได้เอามาลองเทียบดูว่าสองคนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะพบกันในสถานการณ์แบบไหนบ้าง เริ่มจากคุณหญิงรวีก่อนดีไหมคะ”

หม่อมดวงกมลยิ้มเขินๆ จนสาวิตรีทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอละม้ายหมดความอดทนแล้ว นางชิงหันไปหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งจากกระเป๋าออกมาส่งให้กามเทพสาวแทน “เบสต์สิเนสวีแมนเคยสัมภาษณ์คุณหญิงรวีตอนที่ได้รับโหวตให้เป็นนักธุรกิจหญิงยอดเยี่ยมประจำปีค่ะ ละเอียดเชียว ไปถ่ายทำสกู๊ปที่วังชยาธรด้วย นี่น่าจะช่วยได้นะคะ”

แพรวเพชรรับนิตยสารมาวางข้างตัว พลิกแค่พอผ่านตา เพราะเธอรู้รายละเอียดพวกนั้นหมดแล้ว “เพชรขอใช้เวลาศึกษาก่อนนะคะ ได้ความยังไงแล้วจะแจ้งอีกที ส่วนเรื่องของลูกชายคุณสาวิตรี...”

“คุณจ้างนักสืบสืบหารายละเอียดพวกนั้นเอาเองได้เลยค่ะ ฉันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง”

แพรวเพชรกะพริบตาปริบๆด้วยความงุนงง “ทำไมต้องทำอย่างนั้นคะ เพชรว่าถ้าเป็นความเห็นจากคนใกล้น่าจะทำให้เข้าใจเขาได้ง่ายกว่า”

“ฉันสั่งให้ทำยังไง ก็ทำอย่างนั้นเถอะค่ะ อย่าถามให้มากเรื่องเลย ฉันไม่อยากตอบ” สาวิตรีเบะปาก เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์

เสี้ยววินาทีแรกแพรวเพชรควบคุมความหงุดหงิดไม่ทัน เธอจึงเผลอชักสีหน้าโดยไม่ตั้งใจ ชะรอยหม่อมดวงกมลคงเห็นชัดตา ผู้อาวุโสผู้แสนนุ่มนวลจึงรีบไกล่เกลี่ยประนีประนอม

“ลูกชายสาเขาไปอเมริกาเรียนต่อตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาทำความสนิทสนมกับแม่เท่าไหร่ อีกอย่างลูกชายก็ไม่ค่อยใกล้ชิดแม่เหมือนลูกสาวอยู่แล้ว”

“ค่ะ งั้นเพชรจะจัดการเรื่องนี้เอง” แพรวเพชรถอนใจ เสยกมือขึ้นดูนาฬิกา “ไม่ทราบว่าคุณสาวิตรีและหม่อมมีคำถามเพิ่มเติมไหมคะ”

กิริยานั้นเป็นใครก็ต้องอ่านออกว่าเป็นการตัดบทและบอกลาอย่างสุภาพ สตรีอาวุโสทั้งคู่จึงลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงยิ้มแย้ม สาวิตรียังคงยึดหัวหาดเป็นกระบอกเสียงตั้งแต่ต้นจนจบ “ไม่มีแล้วค่ะ งั้นเรากลับเลยละกัน แล้วฉันจะรอฟังความคืบหน้านะคะ ไปกันเถอะค่ะหม่อม”

แพรวเพชรพนมมือแสดงความขอบคุณ ยิ้มให้ลูกค้า สุดท้ายจึงเป่าปากพรูอย่างหนักใจ ความท้าทายที่เธอไม่ต้องการสักนิด กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!






อาคารจอดรถของสำนักงานใหญ่ณัฐภัทรคอร์ปอเรชันแคบไปถนัดตา เมื่อรถจอดแน่นเต็มพื้นที่ สาวัชชะลอรถสอดส่ายสายตาตลอดสองข้างทางเพื่อหาช่องว่าง พลันรถคันหนึ่งในช่องจอดก็สะดุดตาเขาเข้าเสียก่อน ออดี้สีขาวชนิดขับเคลื่อนสี่ล้อมีให้เห็นบนท้องถนนไม่มากนัก ยิ่งทะเบียนรถเลขเรียงกันเช่นนี้เห็นครั้งเดียวก็จำได้ ไม่แปลกที่เขาหวนนึกถึงเจ้าของรถคันนี้เพียงแค่มองมันแวบเดียว ยายจอมยุ่งนั่น...อิงอรุณ! โลกกลมอะไรขนาดนั้น เช้าเชิญเจ้าหล่อนไปสำนักงานรับของกำนัลคืน หวังว่าบ่ายนี้เขาคงไม่ต้องเจอผู้หญิงคนนั้นที่ตึกนี้อีกหรอกนะ

สาวัชมาถึงก่อนเวลานัดเกือบยี่สิบนาที ชายหนุ่มจึงฆ่าเวลาตรงร้านกาแฟชั้นล่างของสำนักงาน ครั้นใกล้เวลา ชายหนุ่มพับปกหนังปิดจอเครื่องแทบเลต เดินไปรอลิฟต์ขึ้นอาคาร เขาเห็น ‘เธอ’ ในวินาทีแรกเพียงประตูลิฟต์เปิดกว้าง!

อิงอรุณกำลังก้มหน้า ขมวดคิ้วมุ่น ดุจกำลังคิดหนักเรื่องบางอย่างอยู่

ชายหนุ่มหมุนตัวหันหลังโดยอัตโนมัติ หัวใจเต้นโครมครามกลัวอีกฝ่ายเห็นเขา สาวัชคอยจนเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังเป็นจังหวะค่อยๆห่างออกไปแล้ว จึงผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งใจ

พลัน...สาวัชกลับนึกได้ ทำไมเขาต้องหลบหน้ายายนั่นด้วยนะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย บ้าชะมัด!

อารมณ์หงุดหงิดติดตามเขามาถึงชั้นยี่สิบแปด เมื่อมาพบกับผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อซึ่งมาร์ฯ นัดหมายให้ สาวัชแปลกใจนิดหน่อยยามพบว่าผู้ที่รอเขาอยู่เป็นหญิงสาว ไม่ใช่สาวใหญ่หรือหนุ่มวัยกลางคนดังคาด

“อินทุอรวี ชยาธร ค่ะ” เจ้าของห้องยืนอยู่ตรงโซฟา แนะนำตัวด้วยน้ำเสียงมาดมั่น รัศมีของความเชื่อมั่นเปล่งพลังจากเนื้อตัวเธอชัดเจน

สาวัชมอบนามบัตรให้อีกฝ่าย แนะนำตัวสั้นๆ แล้วมุ่งตรงสู่ประเด็นทันที ชายหนุ่มเปิดเครื่องแท็บเล็ตให้หญิงสาวดู “นี่เป็นมูลค่าทรัพย์สินที่ผมถือครองอยู่ ณ ปัจจุบัน ผมอยากใช้ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อเป็นวงเงินสัก...”

สาวัชเคยได้ยินมาว่าธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้ราวหกสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าหลักประกัน และตัวเลขที่เขาบอกก็นับว่าน้อยมากๆ ความเป็นไปได้ที่คำขอของเขาจะผ่านนั้นมีสูงมาก

“นี่คือแผนการลงทุนของผมครับ ผมกำลังสนใจหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯเป็นพิเศษ และต้องการทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการลงทุน” ชายหนุ่มเปิดไฟล์เอกสารอีกฉบับหนึ่ง อธิบายรายละเอียดของการเข้าซื้อและแผนการทำกำไรจาก ‘หุ้น’ ที่เขาวางไว้ให้อีกฝ่ายฟังพอสังเขป

“นี่ถ้าทราบก่อนว่าเรื่องที่คุณสาวัชต้องการปรึกษาเป็นเรื่องนี้ คงไม่ต้องเสียเวลากันทั้งคู่ คงต้องโทษเป็นความผิดของดิฉันเองที่บกพร่องในเรื่องการสื่อสาร เบื้องต้นต้องเรียนก่อนว่าดิฉันดูแลสินเชื่อขององค์กร ไม่ใช่สินเชื่อส่วนบุคคล” อินทุอรวีจิ้มนิ้วลงบนแฟ้มที่วางเป็นระเบียบอยู่บนโต๊ะกระจก เขาเผลอมองตามตามสัญชาติญาณ

“ดิฉันจะแนะนำเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ให้ติดต่อคุณสาวัชดีกว่านะคะ แต่ถ้าถามดิฉัน ต้องเรียนตามตรงว่ากรณีของคุณสาวัช ดิฉันคาดว่าธนาคารคงไม่อนุมัติวงเงินค่ะ ในต่างประเทศ หุ้นหรือตราสารหนี้สามารถใช้ค้ำประกันการขอสินเชื่อได้ แต่ในประเทศไทย ธนาคารยังไม่ยอมรับกับระบบนี้ เพราะราคาหุ้นแปรผันได้ทุกวัน มันเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าไม่แน่นอน ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อก็ต่อเมื่อธนาคารเห็นว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้เท่านั้นค่ะ”

“นามสกุลของผม ไม่ช่วยอะไรเลยหรือ” เขาหยั่งเชิงด้วยน้ำเสียงผยอง ทว่าลึกที่สุดในใจกลับอดนึกชิงชังตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่อยากวิ่งหนีความเป็นปรเมศวร์มาโดยตลอด แต่ในยามเข้าตาจน เขากลับคว้าเรื่องนี้มาใช้เป็นข้ออ้างโดยมิพักลังเลใจเลย

แทนคำตอบ อินทุอรวีกลับหัวเราะเบาๆ “สงสัยช่วงนี้ดิฉันจะทำบุญมาดี มีแต่คนนามสกุลใหญ่ๆมาขอกู้เงิน”

สาวัชเหลียวไปมองแฟ้มที่อินทุอรวีวางมือทาบไว้ด้วยความเอะใจ แฟ้มบางๆเล่มนั้นหน้าปกเป็นสีชมพูอ่อนเข้าเล่มด้วยสันกระดูกงูสีแดง น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นรายละเอียดอื่นซึ่งถูกมือเจ้าของห้องบังไว้

“ในกรณีของผม คุณมีคำแนะนำไหมครับ”

“คุณสาวัชใช้สลิปเงินเดือนขอกู้น่าจะง่ายกว่า เรายืดหยุ่นให้ได้สูงสุดที่สามสิบเท่าของรายได้ค่ะ”

“ผมเพิ่งลาออกจากมหาวิทยาลัย กลับไปทำงานที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งได้ไม่ถึงเดือนเลย”

“แย่หน่อยค่ะ นั่นไม่เป็นผลดีเลย แต่...บางทีเจ้าหน้าที่สินเชื่อบุคคลอาจให้คำแนะนำที่ดีกว่าดิฉันนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้กำลังใจ พร้อมกับลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะ

สาวัชรีบฉวยโอกาสนั้นอ่านรายละเอียดบนแฟ้มสีชมพูอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

‘แผนธุรกิจของคิวปิดแอสซิสแทนซ์’ คือชื่อแฟ้ม และสิ่งที่สะดุดตาเขาก็คือรูปกามเทพตัวน้อยบนปกนั่น!
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาพบอิงอรุณตรงหน้าลิฟต์ ผู้หญิงคนนั้นมาทำเรื่องขอสินเชื่อกับอินทุอรวีนี่เอง

ผู้อำนวยการสาวกลับมานั่งที่เดิม โดยวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงตรงหน้าเขา “นี่ชื่อผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อบุคคลของสำนักงานใหญ่ค่ะ เมื่อกี้ดิฉันโทร.เช็กให้แล้ว ผู้จัดการว่างอยู่พอดี ถ้าคุณสาวัชสะดวก เชิญพบเขาเลยดีไหมคะ”

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับกระดาษแผ่นนั้นมาสอดใส่กระเป๋าเสื้อสูทด้านใน ชั่งใจอย่างหนักว่าจะถามต่อดีหรือไม่ แต่แล้วความอยากรู้ก็เป็นฝ่ายชนะ เขาโยนหินถามทางอย่างแนบเนียน “จะมีใครทำเรื่องน่าอายแบบผมอีกไหมเนี่ย ขอสินเชื่อแต่ธนาคารไม่อนุมัติ สงสัยนามสกุลผมคงใหญ่ไม่พอ”

“ถ้าดิฉันประเมินแล้วพบว่าความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอกู้มีไม่มากพอ ต่อให้มีชื่ออยู่ในทำเนียบเศรษฐีของฟอร์บส์ เราก็จำเป็นต้องปฏิเสธค่ะ”

ไม่ว่าอินทุอรวีจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ประโยคนั้นตีความได้ว่าอินทุอรวีไม่อนุมัติวงเงินกู้ให้อิงอรุณ! เพราะบิดาของอิงอรุณมีชื่อติดอันดับเศรษฐี ๕๐๐ คนแรกของโลกซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ!

สาวัชก้มศีรษะนิดๆ “ผมเข้าใจวิธีการทำงานของธนาคารแล้วครับ ขอบคุณมากที่สละเวลาให้ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณอินทุอรวีด้วยครับ”

“หวังว่าณัฐภัทรคอร์ปอเรชันจะมีโอกาสได้รับใช้คุณสาวัชนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นยืนเป็นเชิงบอกว่าจบการสนทนาเพียงเท่านั้นเช่นกัน

เลขาฯของอินทุอรวีมาส่งเขาถึงหน้าลิฟต์ พร้อมกับบอกทางไปยังฝ่ายสินเชื่อบุคคลตามที่เจ้านายสั่งการ รอจนเขาเข้าลิฟต์ไปแล้ว ฝ่ายนั้นจึงแยกกลับไป ชายหนุ่มคอยจนประตูลิฟต์ปิดสนิท แล้วค่อยดึงโทรศัพท์มือถือมากดเลือกหมายเลขจากสมุดโทรศัพท์ เพื่อโทร.ออก ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเมื่อวางสายเขาเป่าลมพรูจากปากอย่างโล่งอก!





: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :


หยุดยาวผ่านไปแล้ว
เพื่อนๆไปเที่ยวไหนกันมาบ้างค้า
มาเล่าให้สิริณฟังบ้างจิ
ส่วนสิริณกลัวคนเยอะ
เลยอยู่บ้านเขียนนิยายนี่แหละค่ะ
ฟินอยู่กับพระนางไปวันๆ 55555




สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 พ.ค. 2559, 17:20:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ค. 2559, 17:23:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 1427





<< ตอนที่ 13 (100%)   ตอนที่ 14 (100%) >>
wane 4 พ.ค. 2559, 06:40:27 น.
พระเอกจะกู้เงินมาทำอะไรเนี่ย


Zephyr 9 พ.ค. 2559, 19:04:44 น.
โทรไปไหนนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account