: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 14 (100%)

พันเทพลูบหน้าด้วยอาการคล้ายตัวลอยๆเหมือนอยู่ในความฝัน ถ้อยคำที่พูดคุยกับสุพจน์ เทียมสุบรรณ ยังดังก้องอยู่ในหูซ้ำๆ ย้ำให้ยิ่งมั่นใจว่าเขามิได้จินตนาการเหตุการณ์นั้นขึ้นเอง เขากลับไปพักที่บ้านอีกหนึ่งคืน แล้วบ่ายวันรุ่งขึ้นก็ไหว้วานกีรติมาส่งยังสำนักงานคิวปิดแอสซิสแทนซ์ แพรวเพชรกระดี๊กระด๊ายินดีที่เห็นเขา ทั้งพูดคุยกัน สอบถามอาการกันวุ่นวาย รอพักใหญ่อิงอรุณจึงกลับจากประชุมข้างนอก และเพียงเห็นเขา เพื่อนรักและว่าที่คู่หมั้นก็โวยเสียงลั่นด้วยข้อหาหัวแข็ง ทั้งยังบ่นกระปอดกระแปดไม่รู้แล้วที่เขาดื้อดึงจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลด้วยตนเอง

“เทพดีขึ้นแล้ว อิงก็เลิกบ่นเหอะน่า คนเจ็บฟังแล้วใจเสียพิลึก” แพรวเพชรช่วยชีวิตเขาด้วยการปรามหุ้นส่วน

พันเทพมองผู้หญิงทั้งสองคนด้วยความซาบซึ้ง “ขอบใจทั้งสองคนนะที่เป็นห่วง”

“ถ้าไม่ห่วงเพื่อน แล้วจะให้ไปห่วงใครล่ะ” แพรวเพชรย้อนถาม จากนั้นเหลียวดูเวลา “อุ๊ย! เราต้องไปรับลูกแล้ว เอางี้...ไว้นัดเม้าธ์มอยกันนะ” หญิงสาวไม่รอฟังคำตอบ แต่หมุนตัวออกจากห้องทำงานของอิงอรุณไปทันที

เจ้าของห้องไขมู่ลี่เปิดเป็นช่องให้คนข้างนอกมองเข้ามาได้ชัดเจน เพื่อป้องกันคำครหา แล้วจึงงับประตูเข้าด้วยกันเพื่อจะได้พูดคุยกันเป็นส่วนตัวขึ้น หญิงสาวรินน้ำส้มจากตู้เย็นขนาดเล็กในห้องมาวางให้พันเทพ แล้วนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ลูบแขนเขาอย่างปลอบโยน

“หมดเคราะห์หมดโศกซะทีนะเทพ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงกับเรื่องอันตรายอีกนะ อิงตกใจหมดเลย”

“โฮ้ย! ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว” เขาทำเสียงตื่นเต้นเกินจริง เป็นผลให้คนฟังหัวเราะร่วน ตีแขนข้างดีของเขารัวๆ

“ปากดีจริงๆ วันโน้นนี่ยังกับเป็นคนละคนเลยนะ” อิงอรุณขึงตาใส่ด้วยความหมั่นไส้ “ว่าแต่นี่เทพมายังไงเนี่ย”

“วานเพื่อนมาส่งที่หน้าออฟฟิศอิงนี่แหละ”

“อ้าว...แล้วทำไมเพื่อนเทพไม่เข้ามาด้วยล่ะ หรือว่าเขาไม่อยากเจอหน้าอิง” อิงอรุณบ่นอุบ

“ไม่มีเหตุผลที่กี้ไม่อยากเจอหน้าอิงสักหน่อย เขามีธุระต่อน่ะ ก็เลยต้องรีบไป”

“ใจดีจังนะ ขนาดมีธุระ แต่ก็ยังอุตส่าห์แวะมาส่งเทพก่อน” คนพูดเย้าล้อเลียน

“แล้วไม่ดีหรือไง เราจะได้ไม่ต้องไปตกระกำลำบากให้คุณหนูอิงอรุณเป็นห่วงยังไงละขอรับ” ชายหนุ่มหัวเราะ กุมมือเล็กๆที่อยู่บนแขนเขาแล้วบีบแผ่วเบา หูฟังเสียงว่าที่คู่หมั้นบ่นแกมประชดไปเรื่อย ทว่าสมองกลับปล่อยใจไปยังสาเหตุที่ทำให้เขาปลอดโปร่งใจได้มากเพียงนี้ บทสนทนาที่เจรจากับสุพจน์ ณ ห้องทำงานของผู้อาวุโสยังดังก้องอยู่ในหู

‘ระหว่างที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลคราวนี้ทำให้พ่อได้หยุดคิด ว่าหากพ่อตายไปวันนี้พรุ่งนี้ อิงกับแม่จะเป็นสองคนที่ลำบากที่สุด ไม่ใช่แค่ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งมหาศาลของชีวิต ทั้งเรื่องที่บ้านแล้วก็ที่บริษัทด้วย ถึงสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่นักลงทุนย่อมต้องเกิดความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจว่าทิศทางของบริษัทจะไปทางไหนต่อ ความภาคภูมิใจที่คุณทวดของอิงสร้างมาจากหยาดเหงื่อแรงงานย่อมต้องสั่นคลอนและเกิดผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นราธิปเองก็ประกาศชัดแล้วว่าจะหันไปทำงานการเมืองเต็มตัว ตอนนี้...พ่อบอกตามตรงว่ามองไม่เห็นใครเลยที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกรรมการบริหารของสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชัน’

สุพจน์เอ่ยช้าชัดถ้อยชัดคำ คล้ายกำลังเรียบเรียงคำพูดเหล่านั้นในสมองและถ่ายทอดให้เขาเข้าใจ บุรุษชราชี้ท่อนแขนของเขา สีหน้ามีร่องรอยเห็นใจ ‘อิงกับแม่เล่าให้พ่อฟังแล้วว่าเทพบาดเจ็บ ถึงเทพไม่รับออกมาตรงๆ แต่พ่อคิดว่าพอจะเดาได้นะ ว่าใครทำให้เทพเป็นอย่างนี้’

คนพูดถอนใจ ขณะเขาตัวแข็งราวถูกสาป วันแรกที่เกิดเหตุจู่ๆอิงอรุณก็พูดทำนองว่าระแคะระคายถึงตัวคนทำร้ายเขา มาวันนี้เทียมสุบรรณคนพ่อก็ย้ำด้วยข้อความทำนองเดียวกันอีกคำรบ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะยอมรับว่าสุพจน์เลี้ยงดูอิงอรุณได้ดีเหลือเกิน หญิงสาวฉลาด ช่างคิดวิเคราะห์ และไหวพริบดีอย่างหาตัวจับยาก!

‘พ่อยอมรับนะเทพ ว่าใจนึงก็รับไม่ได้กับการลงไม้ลงมือกันอย่างนี้ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัว แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง คนที่ทำอย่างนี้กับเทพ แสดงว่าเขาเชื่อมั่นในอำนาจของตัวเองสุดๆ และนั่นทำให้พ่อยิ่งเบาใจว่าเขามีอำนาจมากพอที่สามารถปกป้องอิงกับแม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น อำนาจของเขายังจะช่วยหนุนหลังสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เทพจะว่าพ่อเห็นแก่ตัว พ่อก็ยอมรับ แต่พ่อมั่นใจว่า...คนที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ สามารถรับประกันความสงบสุขและความปลอดภัยของคนที่พ่อรักและบริษัทที่พ่อภูมิใจได้แน่นอน’

ยิ่งฟังพันเทพก็ยิ่งประหลาดใจ ดูเหมือนทิศทางของบทสนทนานี้ จะเป็นไปในทางตรงข้ามกับที่เขาคาดไว้จนอาจสุดฟากฟ้าเลยก็ว่าได้ เขานึกว่าสุพจน์จะขอให้เขาออกจากวังวนชีวิตของครอบครัวเทียมสุบรรณเสียอีก

‘ถ้าสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือเงิน พ่อบอกเลยว่านั่นไม่ใช่ปัญหาของพ่อ พ่อไม่ได้หาเงินเพื่อเก็บไว้ชื่นชมกับตัวเลขในบัญชี พ่อมีเงินไว้เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะซื้อความปลอดภัย ซื้อความสุข ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อทำให้ชีวิตของพ่อและครอบครัวดีขึ้นได้ และถ้าหากว่าวันนี้พ่อต้องใช้เงิน เพื่อซื้อหลักประกันว่าอำนาจของคนคนหนึ่งจะคุ้มครองอิงอรุณ แม่ของอิง สยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชัน และรวมถึงนราธิปได้ พ่อก็ไม่เสียดายเงินที่จะต้องจ่ายไปเลยแม้แต่นิดเดียว’

‘คุณพ่อหมายความว่า...’ เขาไม่กล้าเติมคำลงในช่องว่างของตัวเองด้วยซ้ำ ด้วยไม่อาจหยั่งน้ำใจของคู่สนทนาได้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

‘พ่ออยากให้เทพหมั้นกับอิงให้เร็วที่สุด’

อากัปกิริยาของเขาคงทำให้คนอาวุโสกว่าเข้าใจไม่ยากว่ากำลังประหลาดใจ เพราะท่านชี้แขนของเขา แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงปรานี

‘ให้นี่เป็นครั้งเดียวที่มีเหตุการณ์แบบนี้นะ พ่อไม่เสียดายถ้าต้องใช้เงิน ต่อให้ต้องใช้ทั้งหมดที่พ่อมีก็ตาม แต่พ่อเสียใจที่ปล่อยให้ลูกหลานของพ่อต้องเจอเรื่องแบบนี้ เพื่อตัดปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอีก พ่ออยากให้เทพหมั้นกับอิงให้เร็วที่สุด ระหว่างนี้ก็เตรียมตัวแต่งงานตามเดิมไปด้วย เพียงเท่านี้เราก็จะวินๆกันทุกฝ่าย ไม่มีใครต้องเจ็บตัวด้วย

‘นอกจากนี้พ่ออยากให้เทพมาช่วยงานที่สยามดริ๊งค์คอร์ปฯ ลูกชายพ่อไปเล่นการเมืองแล้ว ส่วนลูกสาวก็ดื้ออยากเป็นนักจับคู่ มาช่วยพ่อหน่อยเถอะ เพราะวันหน้าเมื่อพ่อไม่อยู่ บริษัทก็ต้องเป็นของอิงกับนรา ในฐานะว่าที่สามี เทพควรเริ่มต้นเข้ามาส่วนร่วมในทรัพย์สินของอิงได้แล้ว’

พันเทพสะอึก รู้สึกถึงกระบอกตาร้อนผ่าว ก้อนแข็งๆตื้อขึ้นมาจุกอยู่ในคอ สุพจน์เมตตาเขามากเหลือเกิน บางทีอาจมากกว่าความรักที่พ่อบังเกิดเกล้ามีให้เขาด้วยซ้ำ!

ชายหนุ่มทรุดตัวลงคุกเข่าและกราบแทบเท้าสุพจน์อีกครั้ง ฝืนกลั้นรอยสะอื้นเปล่งเสียงอย่างยากเย็น ‘ขอบคุณครับคุณพ่อ ผมสัญญาว่าต่อให้ต้องปกป้องอิงด้วยชีวิต ผมก็จะทำให้ได้ ขอบคุณครับที่คุณพ่อเชื่อมั่นในตัวผม’

บิดาของอิงอรุณส่ายศีรษะ ‘ไม่ต้องถึงกับปกป้องด้วยชีวิตหรอก มีวิธีอีกมากที่เทพปกป้องอิงได้ โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ’

เพียงเขาเงยขึ้นสบตาผู้อาวุโสด้วยสายตาฉงน สุพจน์ก็เลื่อนกล่องหนังใบใหญ่กว่ากล่องไม้ขีดเล็กน้อยมาตรงหน้า ‘แค่ช่วยรับนี่ไว้ แล้วใช้มันให้เกิดประโยชน์ที่สุดก็พอ’

พันเทพหยิบกล่องมาเปิดดู เขาสบตาอีกฝ่ายซึ่งกำลังมองมาเขม็ง

สุพจน์ผงกศีรษะคล้ายยืนยันความต้องการของตน พร้อมกับยืนยันคำเดิม ‘พ่อฝากอิงด้วยนะเทพ’

พันเทพแต้มยิ้มบนใบหน้าอย่างอดไม่ได้ เขาไม่มีวันลืมความไว้วางใจที่ยิ่งใหญ่ของบุรุษหมายเลขหนึ่งแห่งอาณาจักรเครื่องดื่มสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันแน่นอน

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว มีอะไรดีๆหรือเปล่า บอกกันบ้างสิ” เสียงเย้าแหย่ของอิงอรุณ ปลุกเขาจากภวังค์

“เราขอโทษนะอิง เรื่องที่พูดตอนเราฟื้นน่ะ จากนี้ไปต่อให้ต้องเจอเรื่องแย่กว่านั้นอีกกี่ร้อยกี่พันเท่า เราก็จะไม่พูดเรื่องเลิกกันอีกเด็ดขาด”

“เหมาะแล้ว ควรแล้ว ต่อไปถ้าพูดเรื่องเลิกกันอีก ก็เลิกไปเลย ไม่ใช่แค่เลิกเป็นแฟนนะ เลิกเป็นเพื่อนไปด้วย” อิงอรุณประกาศยิ้มแย้ม แต่เพียงครู่เดียว หญิงสาวก็แปรเป็นนิ่วหน้าแทน

“มีอะไรหรือเปล่า” พันเทพสังเกตเห็นทันที

หญิงสาวทำท่าตัดใจ รีบพลิกมือเป็นฝ่ายกุมมือเขาไว้แทน “เทพ...ที่พ่อเจ็บคราวนี้ ไม่ใช่ว่าจู่ๆก็เป็นขึ้นมาเองหรอกนะ แม่บอกว่าพ่อเป็นอย่างนั้น หลังจากที่คุณพ่อเทพมาเจรจาเรื่องสินสอดพร้อมกับ...เอาปืนมาวางขู่”

พันเทพกำมือแน่นโดยอัตโนมัติ เขาเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพ่อเป็นต้นเหตุที่ทำให้สุพจน์เข้าโรงพยาบาล เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวบานปลายไปไกลถึงเพียงนี้ “เราขอโทษจริงๆนะอิง”

“ขอโทษทำไม เทพไม่ได้ทำผิดสักหน่อย” เพราะอิงอรุณช่างเข้าอกเข้าใจอย่างนี้ ในกลุ่มเพื่อนทั้งหมด เขาจึงสนิทใจและรักเธอที่สุด

“แม่อิงคงไม่คิดอย่างนั้น”

“คิดหรือไม่คิดก็ไม่มีผลหรอก ทุกคนอาจเห็นว่าแม่เป็นคนบงการทุกเรื่องในครอบครัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พ่อออกโรง แม่ก็ยอมยกให้พ่อเป็นคนตัดสินใจเสมอ”

“อิงพูดจริงเหรอ” พันเทพยินดี หากเปรมิกายกหน้าที่การตัดสินใจให้สามีจริง เขาซึ่งได้รับคำอนุญาตจากบุรุษอาวุโสแล้ว ย่อมโล่งใจเป็นที่สุด เพราะเท่ากับอุปสรรคบนเส้นทางชีวิตของเขากับอิงอรุณถูกขจัดไปแล้ว

“เคยเห็นอิงเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นหรือไง”

“งั้นอิงก็สบายใจได้ เพราะคุณพ่ออิงอนุญาตให้เราจัดงานแต่งกันตามกำหนดเดิม”

“เทพพูดจริงเหรอ” อิงอรุณตาโต ตื่นเต้น

“เคยเห็นเราเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นหรือไง”

“ล้อเลียนนะ เดี๋ยวเหอะ” อิงอรุณหัวเราะคิก ตีแขนข้างดีของเขาแก้เก้อ

“ในเมื่อพ่ออิงไฟเขียว ไว้เราหายแล้ว ไปดูเรือนหอกันนะ”

“หืม? เรือนหอเหรอ” สีหน้าอิงอรุณประหลาดใจ คงเพราะเขาไม่เคยแย้มเรื่องนี้ให้ฟังเลย

“ใช่ แม่มีที่อยู่สุขุมวิทแปลงนึง ยกให้เรานานแล้ว เราสร้างบ้านไว้ ตอนนี้ใกล้เสร็จละ เราเลยกะจะตกแต่งไว้เป็นเรือนหอไปเลย อิงคิดว่ายังไงล่ะ”

“ก็ดีน่ะสิ ว่าแต่...เขียนแบบบ้านสวยหรือเปล่าเนี่ย ไม่เอาบ้านโล่งๆมีแต่โต๊ะตู้เก้าอี้แล้วจบนะ อิงไม่ใช่พวกมินิมัลลิสต์” ตอนท้ายเธอเบ้หน้า เอ่ยถึงการตกแต่งประเภทจุลนิยมที่เน้นความเรียบ ง่าย ไม่รกรุงรัง

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ก็...สวยละน่า” เขาตบกระเป๋า “ไม่รู้เอาโทรศัพท์ไปทิ้งไว้ไหน ไม่งั้นจะให้ดูรูป เราว่าอิงต้องชอบแน่ๆ” เขาหันรีหันขวาง แล้วลุกไปยังโต๊ะทำงานของอิงอรุณ “ขอกระดาษหน่อยนะ จะวาดให้ดู”

ชายหนุ่มเห็นกระดาษปึกหนึ่งอยู่ใต้แฟ้ม จึงหยิบแฟ้มเลื่อนไปข้างๆ แล้วดึงกระดาษแผ่นนั้นมาพลิกดู เห็นมันว่างเปล่า จึงเอื้อมไปที่โถหน้าจอคอมพิวเตอร์ดึงปากกาแท่งหนึ่งมาถือไว้ ขณะจะหมุนตัวกลับนั่นเอง เขาก็เอะใจหันกระดาษด้านที่มีข้อความมาอ่านอีกครั้ง “ทำไมมีชื่อดอกเตอร์สาวัช ปรเมศวร์ บนกระดาษนี่ด้วยล่ะอิง”

หญิงสาวเบ้ปาก บ่นหน้ายุ่ง “กระดาษนั่นอิงเอามารีไซเคิลน่ะ ทีแรกพิมพ์รายละเอียดคอร์สของบริษัทไว้ ดอกเตอร์สาวัชที่เทพถาม เป็นวิทยากรที่อิงเชิญมาน่ะ”

“หืม? พี่วัชกลับมาเมืองไทยแล้วเหรอ” พันเทพทำหน้าแปลกใจ

“พี่วัช?” อิงอรุณเสียงสูง “นี่เทพรู้จักดอกเตอร์สาวัชด้วยเหรอ”

“อ้าว! ไปเชิญมาเป็นวิทยากรประสาอะไร นี่อิงไม่รู้เหรอว่าพี่วัชเป็นรุ่นพี่เราสมัยเรียนอยู่คอนเนคติกัต เราเรียนเอ็มเศรษฐศาสตร์ ส่วนพี่วัชเรียนพีเอชดี สาขาประวัติศาสตร์เน้นทางด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา พี่วัชน่ะเก่งขนาดที่ศาสตราจารย์ยังยอมรับเลยนะ”

“นี่เทพจะบอกว่าคุณสาวัชจบจากเยลเหรอ สุดยอดอะ”

“เราก็จบจากเยล ไม่สุดยอดบ้างเหรอ”

“คุณชายนี่เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจได้อยู่แล้วไงจ๊ะ แหมๆๆ”

พันเทพหัวเราะหึๆ ชูกระดาษในมือขึ้นอีกครั้ง “รู้ไหมตอนอยู่ที่โน่น พี่วัชไม่เอามนุษย์คนไหนเลย ไม่มีสังคม ไม่คบคนไทย ใครไปขอความช่วยเหลืออะไร เขาเซย์โนตลอด อิงเก่งมากเลยนะ ที่เชิญพี่เขามาเป็นวิทยากรได้น่ะ มีสาลิกาลิ้นทองดีจากวัดไหนเหรอ พาเราไปลงบ้างสิ”

“โน...” อิงอรุณเบ้ปาก ก่อนจะนึกได้ว่าเคยมีคนเคยบอกว่า ‘ไม่ชอบพวกพูดไทยคำอังกฤษคำ’ เลยเปลี่ยนเป็น “ม่ายช่ายเลย อิงก็ถูกปฏิเสธมาเหมือนกันแหละ”

“มีคนกล้าขัดใจคุณหนูอิงอรุณด้วยเหรอ” พันเทพทำหน้าตื่นเต้นเกินจริง เห็นได้ชัดว่าจงใจล้อเลียน

“ไม่ใช่แค่ขัดใจนะ คุณสาวัชเขายังบอกด้วยว่าถ้าอิงไม่แก้ไขชื่อเขาออกจากเอกสารของบริษัท เขาจะแจ้งความข้อหาแอบอ้างทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง”

“โอ้โห! จัดเต็มมาก คุณหนูกริ้วเลยสิ”

อิงอรุณพยักหน้า “ที่สุดอะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราผิดจริง”

“แล้วอิงทำยังไงกับวิทยากรล่ะ”

“ก็หาวิทยากรมาแทนไง ไม่เห็นจะยากเลย”

“ไปหามาจากไหนเหรอ คนที่จะดีเทียบเท่าพี่วัชน่ะหายากนะ บอกเลย”

“โชคดีมากเลย ทีแรกก็นึกว่าต้องยกเลิกคอร์สนี้แล้วนะ แต่เมื่อกี้นี้เอง ระหว่างขับรถกลับมาออฟฟิศ มีอาจารย์คนนึงโทร.มาเสนอตัวเป็นวิทยากรให้ เพราะรู้มาว่าอิงกำลังหาอยู่ อิงลองค้นกูเกิ้ลดูละ ปรากฏว่าเขาเป็นคนเก่งแล้วก็ดังระดับโลกเชียวนะ บังเอิญจริงๆที่ท่านเดินทางมาเมืองไทยช่วงนี้พอดี อิงก็เลยตัดสินใจเรียนเชิญท่านมาแทนน่ะ”

“ถือว่าโชคดีนะ ที่แก้ปัญหาได้”

“ใช่ โชคดี ถ้าไม่ได้ศาสตราจารย์ราเชนทร์ คิวปิดแอสซิสแทนซ์คงแย่แน่ๆ”

“ชื่อราเชนทร์เหรอ คนอินเดียหรือเปล่าเนี่ย”

“ใช่ เทพเดาเก่งจัง ฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยเหรอ ศาสตราจารย์ราเชนทร์ ซิงห์ เป็นคนอินเดียจริงๆแหละ แต่เขาเกิดและโตที่เมืองไทย ฟังพูดอ่านเขียนภาษาไทยชัดเปรียะเลย”

พันเทพส่งยิ้มให้กำลังใจเพื่อนรัก ทว่าซ่อนความประหลาดใจไว้ภายใน ราเชนทร์ ซิงห์ คนนี้ จะใช่ราเชนทร์ ซิงห์ คนเดียวกับที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ของสาวัชที่เยลหรือเปล่านะ!






: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :



คุณ wane ขา...
สาวัชจะกู้เงินมาซื้อหุ้นสยามดริ๊งค์ฯค่ะ
ไหนๆก็รู้ข่าววงในมาทั้งทีว่าผู้บริหารเข้า รพ.
ข่าวหลุดเมื่อไหร่ หุ้นลงแน่นอน
นักลงทุนที่ดีต้องจัดหุ้นเข้าพอร์ตกันหน่อยค่ะ 55555
ในตอนที่แล้วมีบอกไว้บรรทัดนึง (บอกไว้เยอะมากย่ะยัยสิริณ!) :P



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2559, 16:21:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2559, 16:23:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1255





<< ตอนที่ 14 (50%)   ตอนที่ 15 (33%) >>
konhin 4 พ.ค. 2559, 22:36:03 น.
โอ๊ะ คุณพ่อเปิดทางซะงั้น (แอบคิดในใจ ว่าเป็นแผนอะไรหรือเปล่า)


wane 5 พ.ค. 2559, 03:25:39 น.
พระเอกแอบช่วยเนียนๆ นะเนี่ย แอบเป็นห่วงเค้าอะดิ อิอิ
ปล. 1 คุงพ่ออิงคิดแปลกดี ...บอกไม่ถูกว่าคิดถูกหรือผิด ..รู้แต่ว่าถ้าแม่ของอิงรู้ คงบ้านแตกแน่ๆ ความเห็นไม่ตรงกัน
ปล.2 เรื่องพระเอกไปกู้เงิน เพื่อมาจะทุ่มซื้อหุ้นที่ไม่แน่ใจว่าจะลงจริงหรือป่าว มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ


พอใจ 5 พ.ค. 2559, 21:20:13 น.
มีเงื่อนงำขึ้นเรื่อยๆนะคะ ลุ้นต่อไป ก็ยังจับทางไม่ถูกว่าพระนางจะมาบรรจบกันได้อย่างไร สุดยอดค่ะ


Zephyr 9 พ.ค. 2559, 19:14:07 น.
อึ้ยยยย ขัดใจ พี่วัชช่วยทำไมคะ แง้ๆๆๆ
เรายังอยากแกล้งนางต่อ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account