: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 15 (33%)
เช้าวันจันทร์ในสัปดาห์ต่อมา ณ ห้องรับแขกตึกใหญ่บ้านปรเมศวร์ ดารณีซึ่งเพิ่งกลับจากปฏิบัติธรรมกำลังนั่งหลังตรงอยู่ที่โซฟา สีหน้าเรียบเฉย ปรายตามองสามีทิ้งตัวลงข้างกายด้วยท่าทีปั้นปึ่ง เย็นชา
“เห็นเด็กบอกว่าลื้ออยากพบ มีอะไรก็ว่ามา” เกือบสี่สิบปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา ธนาใช้คำพูดห้วนสั้นกับเธอเสมอ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะแสดงความห่วงใย อาทร หรือรักใคร่ฉันสามีภรรยา เช่นที่เขากระทำกับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’!
“ฉันได้ยินจากทนายว่าเฮียจะโอนหุ้นให้สาวัชหรือคะ”
“ไม่ใช่ธุระของลื้อ” เขาบอกปัดอย่างไม่ไยดี...เช่นเคย
“ทำไมจะไม่ใช่ แค่ที่เฮียให้ไอ้ลูกเมียน้อยนั่นใช้นามสกุลปรเมศวร์ก็มากเกินพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่เฮียต้องยกหุ้นให้มันเลย”
“อั๊วเป็นพ่อของลูกสามคนก็ต้องมีความยุติธรรม อั๊วมีหน้าที่มอบต้นทุนชีวิตให้ลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนแล้ว ว่าจะไขว่คว้าอะไรให้ตัวเองได้มากแค่ไหน ลื้ออย่าให้ท้ายลูกผิดๆไปเลย”
“สรุปว่าเฮียยืนกรานจะยกหุ้นให้สาวัชใช่ไหมคะ”
“ไม่มีเหตุผลที่อั๊วต้องเปลี่ยนใจ ถ้าธุระของลื้อมีแค่นี้ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว” ธนาเอ่ยจบก็ลุกออกจากห้อง
ดารณีมองห้องว่างเปล่า พลางทอดถอนใจด้วยความกังวล แต่แล้ว...
“ท่าทางคุณนายใหญ่เครียดๆ มีอะไรที่ดิฉันพอจะช่วยได้ไหมคะ” สาวิตรีซึ่งคงเข้ามาในห้องเงียบเชียบ ถามเสียงอ่อน ฟังเผินๆคล้ายห่วงใย แต่สีหน้านั้นกลับไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นไว้เลย
“ใครอนุญาตให้เธอเข้ามาในนี้” ดารณีเสียงแข็ง หน้าตึง
“ไม่ต้องให้ใครอนุญาตหรอกค่ะ นี่บ้านสามีฉัน ฉันจะไปไหนมาไหนก็ได้ นี่ฉันก็แค่บังเอิญเดินผ่านมา ได้ยินเสียงคนถอนใจ ก็เลยนึกเป็นห่วง”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ต้องการ ออกไป! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ” ดารณีตะคอก หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เสแสร้ง! ดัดจริตทำทั้งนั้น!
“ดิฉันเป็นห่วงคุณนายใหญ่จริงๆนะคะ” สาวิตรีสำทับเสียงหวาน แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยประกายสะใจ
“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป๊” ดารณีหวีดเสียงแหลมด้วยความโกรธ สูญเสียความควบคุมโดยสิ้นเชิง
เสียงตึงตังดังมาแต่ไกล เพียงเสี้ยววินาทีถัดมา ริสาก็ปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตูพร้อมทั้งโผเข้าไปหามารดาทันที เธอประคองดารณีไว้ พึมพำบอก “หม่าม้าคะ หม่าม้าหายใจเข้าลึกๆค่ะ”
จากนั้นหันมาตวาดใส่สาวิตรี “ยังยืนทำอะไรอยู่อีก ออกไปสิ”
สาวิตรียกมุมปากขึ้นเพียงเสี้ยววินาที แล้วก็แสร้งทำตัวสั่น ลนลานรับคำ ยอบตัวถอยหลังจนถึงประตู แล้วจึงหมุนกายเลี่ยงไปอย่างรวดเร็ว
ริสากำมือแน่นข่มความโกรธเกลียดชังลงในใจด้วยความยากเย็น เธอได้สติรู้ตัวก็ตอนที่มารดาแตะมือเย็นชื้นบนแก้ม พึมพำเสียงเครือ “หม่าม้าขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้ลื้อต้องโตมาในสภาพแบบนี้”
หญิงสาวประคองมารดาที่สงบลงแล้วเข้ามากอดเพื่อซ่อนแววตาจากคนเป็นแม่ สีหน้าหมายมาดอาฆาตขณะย้ำกับตัวเองซ้ำๆในใจ เธอจะไม่ให้อภัยคนที่ทำให้มารดาต้องใช้ชีวิตอยู่บนเจ็บปวดเช่นนี้เด็ดขาด ใครที่ทำอะไรกับเธอไว้ เตรียมชดใช้ความผิดของตัวเองได้เลย ไม่ช้าหรอก คนพวกนั้นต้องเสียใจที่เหยียบย่ำความรักของดารณี สัญญา!
ณ ห้องรับแขกของบ้านเทพวรสิงห์ ผู้เป็นประมุขของบ้านนั่งอยู่บนโซฟากำลังประกอบชิ้นส่วนปืนรีวอลโวที่เพิ่งเช็ดทำความสะอาดเข้าที่ เขาเหลือบตาขึ้นตวัดไปยังประตูเมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรก ครั้นเห็นบุตรชายก้าวพ้นเงาประตูเข้ามา จึงก้มลงหยิบผ้าชุบน้ำมันกันสนิมมาเช็ดปืนต่อ
“เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาหายไปไหนมา ไม่เห็นหน้าเห็นตา” เขาถามลอยๆ
“ไปช่วยงานอิงที่บริษัทครับ” พันเทพถือตะกร้าหวายจัดไม้ใบหลากหลายชนิดมาวางบนโต๊ะ จากนั้นจึงนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆ “ผมอยากมากราบขอโทษคุณพ่อครับ”
“ขอโทษ?” ศักดิ์สิทธิ์มีสีหน้าประหลาดใจชั่วครู่ ก่อนแปรเป็นผยองลำพองในวินาทีถัดมา “ในที่สุดแกก็รู้แล้วสิ ว่าควรทำตัวยังไง”
พันเทพก้มหน้า ไหล่ไหวแรง น้ำเสียงที่เอ่ยประโยคถัดมาพร่าสั่น บอกความพ่ายแพ้สิ้นเชิง “ผมจะเสนอตัวเข้าไปเป็นผู้บริหารของสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชัน และค่อยๆถ่ายโอนอำนาจในการบริหารทั้งหมดมาอยู่ที่ผมให้เร็วที่สุด”
ศักดิ์สิทธิ์โยนผ้าชุบน้ำมันกันสนิมลงบนโต๊ะ หัวเราะก้องด้วยความพึงใจ หลังจากดื้อรั้นหัวแข็ง ทำเป็นกินอุดมการณ์ต่างข้าวอยู่นาน ในที่สุดลูกชายหน้าโง่ก็โอนอ่อนตามความต้องการของเขาเสียที การ ‘สั่งสอน’ มันไปคราวก่อนนับว่าได้ผลจริงๆ!
“ไม่เลวนี่ แล้วแกจะทำยังไง ไอ้สุพจน์ถึงจะเชื่อว่าแกไม่ได้หวังสมบัติของมัน” ศักดิ์สิทธิ์ถามพลางหมุนลูกโม่และบรรจุกระสุนใส่รังเพลิงช้าๆ
“ผมจะเรียนคุณพ่ออิงว่าขัดแย้งกับพ่อเพราะยืนกรานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมบัติใดๆของอิงทั้งนั้น และผมก็จะไม่ยอมย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ แต่จะไปอยู่ที่เรือนหอแทน พ่อโกรธมากก็เลยไล่ผมออกจากบ้าน ด้วยวิธีนี้คุณพ่ออิงน่าจะเชื่อว่าผมยอมขัดใจกับพ่อแต่จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับสมบัติของอิงเด็ดขาด”
“แกฉลาดเหมือนกันนี่” ศักดิ์สิทธิ์หรี่ตานิดๆ
พันเทพพยักพเยิดไปยังตะกร้าไม้ใบ “พ่อจะรับคำขอโทษของผมไว้ใช่ไหมครับ”
“แกเอาไปวางไว้บนโต๊ะฉันโน่น ไว้ตรงนี้เดี๋ยวความชื้นมาโดนปืนฉันขึ้นสนิมหมด” เขาสั่งอย่างอารมณ์ดี คอยจนลูกชายนำตะกร้าไปวางที่โต๊ะทำงาน จัดองศาจนพอใจและกลับมาสมทบแล้ว ศักดิ์สิทธิ์จึงให้หน้าเรียกพันเทพมานั่งใกล้ๆดังเดิม “ฉันจะทำให้คำพูดของแกมีน้ำหนักมากขึ้น แค่บอกว่าเราขัดแย้งกันจนฉันบันดาลโทสะและไล่แกออกจากบ้านมันเลื่อนลอยเกินไป ฉันจะทำให้มันเชื่อคำพูดของแกสุดใจเลย ว่าฉันโกรธแกมากแค่ไหนที่แกขัดคำสั่งฉัน แต่แกไม่ฟังคำสั่งของฉัน ยืนกรานจะไปอยู่ที่เรือนหอนั่นให้ได้ ฉันก็เลยต้องสั่งสอนแกให้หลาบจำ”
เพียงขาดคำศักดิ์สิทธิ์ก็ยกมือที่ถือปืนขึ้นจ่อตรงต้นแขนบุตรชาย รอยยิ้มเกรียมปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อเขาเหนี่ยวไกลั่นกระสุน...
เปรี้ยง! พันเทพสะดุ้งสุดตัว ผงะหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น
“พ่อ!” ชายหนุ่มอุทานด้วยความตกตะลึง รู้สึกถึงอาการเจ็บหนึบที่ต้นแขน เขาก้มลงมองมือตัวเองซึ่งยกขึ้นกุมแผลอัตโนมัติ เลือดสดๆไหลรินจากปากแผลจนแขนเสื้อเปียกชุ่มไปหมด
“ถึงฉันจะยิงแก แต่แกก็ยังยืนกรานว่าจะไปอยู่ที่เรือนหอ ไม่ยอมเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ และจะไม่ยุ่งกับสมบัติของอิงอรุณเด็ดขาด ฉันก็เลย...” ศักดิ์สิทธิ์จ่อปืนที่ขาเขาและลั่นไกอีกคำรบ
เปรี้ยง! หยดน้ำตาร้อนๆรินจากหางตาพันเทพ
“สุดท้ายแกก็เลยยื่นคำขาดกับฉันว่านัดเดียวที่จะบังคับให้แกทำอย่างที่ฉันต้องการได้ ก็คือที่หัวใจเท่านั้น ฉันไม่อยากเสี่ยงกับลูกบ้าของแกอีก ถึงยอมวางมือกับเรื่องนี้ ทั้งที่ฉันไม่เต็มใจเลยสักนิดเดียว อย่างนี้ต่างหาก...ถึงจะน่าเชื่อถือกว่าไอ้เรื่องที่แกสร้างขึ้น”
ศักดิ์สิทธิ์ยกปืนขึ้นเป่าควันที่ลอยอยู่บางๆตรงปลายกระบอก แล้วหันปากกระบอกปืนมาจ่อศีรษะบุตรชาย เอ่ยยิ้มๆด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจ
“ฉันมอบหลักฐานที่ดีที่สุดให้แกแล้ว ใช้มันให้คุ้มค่าละ หวังว่าแกจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังอีกนะพันเทพ!”
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@ konhin : ไม่สปอยล์ค่ะ (ทั้งที่คันปากยิบๆ 5555)
ต้องตามอ่านกันต่อ
แล้วจะรู้ว่าทำไมสุพจน์อนุญาตให้พันเทพแต่งงานกับลูกสาวตัวเองงงงงงง
@ wane : เรื่องที่พระเอกไปกู้เงินมาซื้อหุ้น
ไม่ได้โผล่มาแบบลุ่นๆคับพ้ม
เดี๋ยวตอนต่อๆไปจะค่อยๆแง้มออกมาเรื่อยๆค่ะ
ถ้าถึงตอนนั้นแล้วยังดูไม่สมเหตุสมผลอีก
คุณ wane สะกิดบอกเลยนะคะ
สิริณจะได้ไปแก้ในต้นฉบับที่จะตีพิมพ์ :D
ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นความเห็นที่เลิฟจริงๆ
ชอบนักอ่านแบบเน้ๆๆๆๆๆ <3 <3 <3
@ พอใจ : งั่มๆๆ แทะแขนคุณพอใจ
คอมเม้นต์นี้อ่านแล้ว หวานจับใจคนเขียนเลย
คือแบบปลื้มปริ่ม ปีติ ดีใจ หน้าบาน ตัวบานเลย (ได้ข่าวว่าอันหลังไม่เกี่ยว 555)
นี่เป็นความคิดเห็นที่เป็นจุดหมายอันดับต้นๆของการเป็นนักเขียนของสิริณเลยนะ
ขอบคุณมากค่ะ นี่ยิ้มมาตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน
จนถึงตอนนี้ อ่านซ้ำกี่ทีก็ยังยิ้มไม่หุบเลยยยยย
นักอ่านท่านไหนอยากสงเคราะห์นักเขียนขี้เห่อ
ก็มาช่วยๆกันคอมเม้นต์ว่าชอบเรื่องนี้ตรงไหนหน่อยจิคะ
55555 ขอกันดื้อๆอย่างนี้เลยวุ้ย!
“เห็นเด็กบอกว่าลื้ออยากพบ มีอะไรก็ว่ามา” เกือบสี่สิบปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา ธนาใช้คำพูดห้วนสั้นกับเธอเสมอ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะแสดงความห่วงใย อาทร หรือรักใคร่ฉันสามีภรรยา เช่นที่เขากระทำกับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’!
“ฉันได้ยินจากทนายว่าเฮียจะโอนหุ้นให้สาวัชหรือคะ”
“ไม่ใช่ธุระของลื้อ” เขาบอกปัดอย่างไม่ไยดี...เช่นเคย
“ทำไมจะไม่ใช่ แค่ที่เฮียให้ไอ้ลูกเมียน้อยนั่นใช้นามสกุลปรเมศวร์ก็มากเกินพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่เฮียต้องยกหุ้นให้มันเลย”
“อั๊วเป็นพ่อของลูกสามคนก็ต้องมีความยุติธรรม อั๊วมีหน้าที่มอบต้นทุนชีวิตให้ลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนแล้ว ว่าจะไขว่คว้าอะไรให้ตัวเองได้มากแค่ไหน ลื้ออย่าให้ท้ายลูกผิดๆไปเลย”
“สรุปว่าเฮียยืนกรานจะยกหุ้นให้สาวัชใช่ไหมคะ”
“ไม่มีเหตุผลที่อั๊วต้องเปลี่ยนใจ ถ้าธุระของลื้อมีแค่นี้ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว” ธนาเอ่ยจบก็ลุกออกจากห้อง
ดารณีมองห้องว่างเปล่า พลางทอดถอนใจด้วยความกังวล แต่แล้ว...
“ท่าทางคุณนายใหญ่เครียดๆ มีอะไรที่ดิฉันพอจะช่วยได้ไหมคะ” สาวิตรีซึ่งคงเข้ามาในห้องเงียบเชียบ ถามเสียงอ่อน ฟังเผินๆคล้ายห่วงใย แต่สีหน้านั้นกลับไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นไว้เลย
“ใครอนุญาตให้เธอเข้ามาในนี้” ดารณีเสียงแข็ง หน้าตึง
“ไม่ต้องให้ใครอนุญาตหรอกค่ะ นี่บ้านสามีฉัน ฉันจะไปไหนมาไหนก็ได้ นี่ฉันก็แค่บังเอิญเดินผ่านมา ได้ยินเสียงคนถอนใจ ก็เลยนึกเป็นห่วง”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ต้องการ ออกไป! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ” ดารณีตะคอก หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เสแสร้ง! ดัดจริตทำทั้งนั้น!
“ดิฉันเป็นห่วงคุณนายใหญ่จริงๆนะคะ” สาวิตรีสำทับเสียงหวาน แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยประกายสะใจ
“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป๊” ดารณีหวีดเสียงแหลมด้วยความโกรธ สูญเสียความควบคุมโดยสิ้นเชิง
เสียงตึงตังดังมาแต่ไกล เพียงเสี้ยววินาทีถัดมา ริสาก็ปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตูพร้อมทั้งโผเข้าไปหามารดาทันที เธอประคองดารณีไว้ พึมพำบอก “หม่าม้าคะ หม่าม้าหายใจเข้าลึกๆค่ะ”
จากนั้นหันมาตวาดใส่สาวิตรี “ยังยืนทำอะไรอยู่อีก ออกไปสิ”
สาวิตรียกมุมปากขึ้นเพียงเสี้ยววินาที แล้วก็แสร้งทำตัวสั่น ลนลานรับคำ ยอบตัวถอยหลังจนถึงประตู แล้วจึงหมุนกายเลี่ยงไปอย่างรวดเร็ว
ริสากำมือแน่นข่มความโกรธเกลียดชังลงในใจด้วยความยากเย็น เธอได้สติรู้ตัวก็ตอนที่มารดาแตะมือเย็นชื้นบนแก้ม พึมพำเสียงเครือ “หม่าม้าขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้ลื้อต้องโตมาในสภาพแบบนี้”
หญิงสาวประคองมารดาที่สงบลงแล้วเข้ามากอดเพื่อซ่อนแววตาจากคนเป็นแม่ สีหน้าหมายมาดอาฆาตขณะย้ำกับตัวเองซ้ำๆในใจ เธอจะไม่ให้อภัยคนที่ทำให้มารดาต้องใช้ชีวิตอยู่บนเจ็บปวดเช่นนี้เด็ดขาด ใครที่ทำอะไรกับเธอไว้ เตรียมชดใช้ความผิดของตัวเองได้เลย ไม่ช้าหรอก คนพวกนั้นต้องเสียใจที่เหยียบย่ำความรักของดารณี สัญญา!
ณ ห้องรับแขกของบ้านเทพวรสิงห์ ผู้เป็นประมุขของบ้านนั่งอยู่บนโซฟากำลังประกอบชิ้นส่วนปืนรีวอลโวที่เพิ่งเช็ดทำความสะอาดเข้าที่ เขาเหลือบตาขึ้นตวัดไปยังประตูเมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรก ครั้นเห็นบุตรชายก้าวพ้นเงาประตูเข้ามา จึงก้มลงหยิบผ้าชุบน้ำมันกันสนิมมาเช็ดปืนต่อ
“เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาหายไปไหนมา ไม่เห็นหน้าเห็นตา” เขาถามลอยๆ
“ไปช่วยงานอิงที่บริษัทครับ” พันเทพถือตะกร้าหวายจัดไม้ใบหลากหลายชนิดมาวางบนโต๊ะ จากนั้นจึงนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆ “ผมอยากมากราบขอโทษคุณพ่อครับ”
“ขอโทษ?” ศักดิ์สิทธิ์มีสีหน้าประหลาดใจชั่วครู่ ก่อนแปรเป็นผยองลำพองในวินาทีถัดมา “ในที่สุดแกก็รู้แล้วสิ ว่าควรทำตัวยังไง”
พันเทพก้มหน้า ไหล่ไหวแรง น้ำเสียงที่เอ่ยประโยคถัดมาพร่าสั่น บอกความพ่ายแพ้สิ้นเชิง “ผมจะเสนอตัวเข้าไปเป็นผู้บริหารของสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชัน และค่อยๆถ่ายโอนอำนาจในการบริหารทั้งหมดมาอยู่ที่ผมให้เร็วที่สุด”
ศักดิ์สิทธิ์โยนผ้าชุบน้ำมันกันสนิมลงบนโต๊ะ หัวเราะก้องด้วยความพึงใจ หลังจากดื้อรั้นหัวแข็ง ทำเป็นกินอุดมการณ์ต่างข้าวอยู่นาน ในที่สุดลูกชายหน้าโง่ก็โอนอ่อนตามความต้องการของเขาเสียที การ ‘สั่งสอน’ มันไปคราวก่อนนับว่าได้ผลจริงๆ!
“ไม่เลวนี่ แล้วแกจะทำยังไง ไอ้สุพจน์ถึงจะเชื่อว่าแกไม่ได้หวังสมบัติของมัน” ศักดิ์สิทธิ์ถามพลางหมุนลูกโม่และบรรจุกระสุนใส่รังเพลิงช้าๆ
“ผมจะเรียนคุณพ่ออิงว่าขัดแย้งกับพ่อเพราะยืนกรานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมบัติใดๆของอิงทั้งนั้น และผมก็จะไม่ยอมย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ แต่จะไปอยู่ที่เรือนหอแทน พ่อโกรธมากก็เลยไล่ผมออกจากบ้าน ด้วยวิธีนี้คุณพ่ออิงน่าจะเชื่อว่าผมยอมขัดใจกับพ่อแต่จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับสมบัติของอิงเด็ดขาด”
“แกฉลาดเหมือนกันนี่” ศักดิ์สิทธิ์หรี่ตานิดๆ
พันเทพพยักพเยิดไปยังตะกร้าไม้ใบ “พ่อจะรับคำขอโทษของผมไว้ใช่ไหมครับ”
“แกเอาไปวางไว้บนโต๊ะฉันโน่น ไว้ตรงนี้เดี๋ยวความชื้นมาโดนปืนฉันขึ้นสนิมหมด” เขาสั่งอย่างอารมณ์ดี คอยจนลูกชายนำตะกร้าไปวางที่โต๊ะทำงาน จัดองศาจนพอใจและกลับมาสมทบแล้ว ศักดิ์สิทธิ์จึงให้หน้าเรียกพันเทพมานั่งใกล้ๆดังเดิม “ฉันจะทำให้คำพูดของแกมีน้ำหนักมากขึ้น แค่บอกว่าเราขัดแย้งกันจนฉันบันดาลโทสะและไล่แกออกจากบ้านมันเลื่อนลอยเกินไป ฉันจะทำให้มันเชื่อคำพูดของแกสุดใจเลย ว่าฉันโกรธแกมากแค่ไหนที่แกขัดคำสั่งฉัน แต่แกไม่ฟังคำสั่งของฉัน ยืนกรานจะไปอยู่ที่เรือนหอนั่นให้ได้ ฉันก็เลยต้องสั่งสอนแกให้หลาบจำ”
เพียงขาดคำศักดิ์สิทธิ์ก็ยกมือที่ถือปืนขึ้นจ่อตรงต้นแขนบุตรชาย รอยยิ้มเกรียมปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อเขาเหนี่ยวไกลั่นกระสุน...
เปรี้ยง! พันเทพสะดุ้งสุดตัว ผงะหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น
“พ่อ!” ชายหนุ่มอุทานด้วยความตกตะลึง รู้สึกถึงอาการเจ็บหนึบที่ต้นแขน เขาก้มลงมองมือตัวเองซึ่งยกขึ้นกุมแผลอัตโนมัติ เลือดสดๆไหลรินจากปากแผลจนแขนเสื้อเปียกชุ่มไปหมด
“ถึงฉันจะยิงแก แต่แกก็ยังยืนกรานว่าจะไปอยู่ที่เรือนหอ ไม่ยอมเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ และจะไม่ยุ่งกับสมบัติของอิงอรุณเด็ดขาด ฉันก็เลย...” ศักดิ์สิทธิ์จ่อปืนที่ขาเขาและลั่นไกอีกคำรบ
เปรี้ยง! หยดน้ำตาร้อนๆรินจากหางตาพันเทพ
“สุดท้ายแกก็เลยยื่นคำขาดกับฉันว่านัดเดียวที่จะบังคับให้แกทำอย่างที่ฉันต้องการได้ ก็คือที่หัวใจเท่านั้น ฉันไม่อยากเสี่ยงกับลูกบ้าของแกอีก ถึงยอมวางมือกับเรื่องนี้ ทั้งที่ฉันไม่เต็มใจเลยสักนิดเดียว อย่างนี้ต่างหาก...ถึงจะน่าเชื่อถือกว่าไอ้เรื่องที่แกสร้างขึ้น”
ศักดิ์สิทธิ์ยกปืนขึ้นเป่าควันที่ลอยอยู่บางๆตรงปลายกระบอก แล้วหันปากกระบอกปืนมาจ่อศีรษะบุตรชาย เอ่ยยิ้มๆด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจ
“ฉันมอบหลักฐานที่ดีที่สุดให้แกแล้ว ใช้มันให้คุ้มค่าละ หวังว่าแกจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังอีกนะพันเทพ!”
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@ konhin : ไม่สปอยล์ค่ะ (ทั้งที่คันปากยิบๆ 5555)
ต้องตามอ่านกันต่อ
แล้วจะรู้ว่าทำไมสุพจน์อนุญาตให้พันเทพแต่งงานกับลูกสาวตัวเองงงงงงง
@ wane : เรื่องที่พระเอกไปกู้เงินมาซื้อหุ้น
ไม่ได้โผล่มาแบบลุ่นๆคับพ้ม
เดี๋ยวตอนต่อๆไปจะค่อยๆแง้มออกมาเรื่อยๆค่ะ
ถ้าถึงตอนนั้นแล้วยังดูไม่สมเหตุสมผลอีก
คุณ wane สะกิดบอกเลยนะคะ
สิริณจะได้ไปแก้ในต้นฉบับที่จะตีพิมพ์ :D
ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นความเห็นที่เลิฟจริงๆ
ชอบนักอ่านแบบเน้ๆๆๆๆๆ <3 <3 <3
@ พอใจ : งั่มๆๆ แทะแขนคุณพอใจ
คอมเม้นต์นี้อ่านแล้ว หวานจับใจคนเขียนเลย
คือแบบปลื้มปริ่ม ปีติ ดีใจ หน้าบาน ตัวบานเลย (ได้ข่าวว่าอันหลังไม่เกี่ยว 555)
นี่เป็นความคิดเห็นที่เป็นจุดหมายอันดับต้นๆของการเป็นนักเขียนของสิริณเลยนะ
ขอบคุณมากค่ะ นี่ยิ้มมาตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน
จนถึงตอนนี้ อ่านซ้ำกี่ทีก็ยังยิ้มไม่หุบเลยยยยย
นักอ่านท่านไหนอยากสงเคราะห์นักเขียนขี้เห่อ
ก็มาช่วยๆกันคอมเม้นต์ว่าชอบเรื่องนี้ตรงไหนหน่อยจิคะ
55555 ขอกันดื้อๆอย่างนี้เลยวุ้ย!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ค. 2559, 16:43:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ค. 2559, 16:43:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 1303
<< ตอนที่ 14 (100%) | ตอนที่ 15 (100%) >> |

พอใจ 9 พ.ค. 2559, 17:16:39 น.
เป็นกำลังใจให้คุณสิริณสร้างสรรค์ผลงานแบบนี้เรื่อยๆนะคะ. และก็อย่างที่บอกค่ะเป็นนิยายที่เดาทางไม่ถูกว่าตอนต่อไปเรื่อยๆจะเป็นยังไง น่าลุ้นตลอดค่ะ อย่างเช่นตอนนี้ พันเทพยังโดนพ่อแท้ๆของตัวเองยิงเข้าให้ ทำไมเลือดเย็นได้ขนาดนี้ สงสารพันเทพสุดๆเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณสิริณสร้างสรรค์ผลงานแบบนี้เรื่อยๆนะคะ. และก็อย่างที่บอกค่ะเป็นนิยายที่เดาทางไม่ถูกว่าตอนต่อไปเรื่อยๆจะเป็นยังไง น่าลุ้นตลอดค่ะ อย่างเช่นตอนนี้ พันเทพยังโดนพ่อแท้ๆของตัวเองยิงเข้าให้ ทำไมเลือดเย็นได้ขนาดนี้ สงสารพันเทพสุดๆเลยค่ะ



Zephyr 9 พ.ค. 2559, 19:19:43 น.
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อะไรเนี่ย นึกว่าจะยอมดีกันแล้ว
พันเทพมาแปลกๆให้พ่ออีก ตกลงมาวางยาพ่อตัวเองใช่ไหม
แต่เอ้ยยยยย โดนยิงสองครั้งขนาดนี้
แม่งเอ้ย เอาให้ตายเลยป่ะ
พ่อใจร้าย เหี้ยมโหดมากกกกกกก
เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อะไรเนี่ย นึกว่าจะยอมดีกันแล้ว
พันเทพมาแปลกๆให้พ่ออีก ตกลงมาวางยาพ่อตัวเองใช่ไหม
แต่เอ้ยยยยย โดนยิงสองครั้งขนาดนี้
แม่งเอ้ย เอาให้ตายเลยป่ะ
พ่อใจร้าย เหี้ยมโหดมากกกกกกก

นักอ่านเหนียวหนึบ 9 พ.ค. 2559, 19:35:34 น.
เห้ยยยยยยยยยย คือไม่ได้ล็อกอินอ่านไง เลยอดเม้นท์ อดไลค์ แต่ตอนนี้มันแฝงตัวอ่านไม่ไหวล้าววววว
นี่พ่อป้ะ ถามจริง หรือเด็กเก็บมาเลี้ยงอะ เอาจริง!!!!
คือบับ เป็นนักวางแผนที่เหี้ยมโหดโฉดสุดขั้ว นี่ถ้าบอกว่าพ่อลูกกันจริงเนี่ย ไม่รับนะ ไม่เชื่อขาดใจ ส่วนเจ้สาคะ!!!!! จะร้ายเอาไรคะ เค้าเกลียดกันทั้งบ้าน อิเสี่ยนี่ก็รักไปได้ไงอะ ทนอยู่กันมานานมากกกกกก สงสารแรงงง
เห้ยยยยยยยยยย คือไม่ได้ล็อกอินอ่านไง เลยอดเม้นท์ อดไลค์ แต่ตอนนี้มันแฝงตัวอ่านไม่ไหวล้าววววว
นี่พ่อป้ะ ถามจริง หรือเด็กเก็บมาเลี้ยงอะ เอาจริง!!!!
คือบับ เป็นนักวางแผนที่เหี้ยมโหดโฉดสุดขั้ว นี่ถ้าบอกว่าพ่อลูกกันจริงเนี่ย ไม่รับนะ ไม่เชื่อขาดใจ ส่วนเจ้สาคะ!!!!! จะร้ายเอาไรคะ เค้าเกลียดกันทั้งบ้าน อิเสี่ยนี่ก็รักไปได้ไงอะ ทนอยู่กันมานานมากกกกกก สงสารแรงงง

konhin 9 พ.ค. 2559, 22:55:22 น.
เอ่อออออออออออออออ พูดไม่ออก พ่อจริงป่ะ??
เอ่อออออออออออออออ พูดไม่ออก พ่อจริงป่ะ??

wane 10 พ.ค. 2559, 07:41:00 น.
พระเอกมีแม่เป็นนางร้ายอ่ะ น่ามาจับคู่กับพ่อพันเทพ ร้ายสูสีกันเลย
พระเอกมีแม่เป็นนางร้ายอ่ะ น่ามาจับคู่กับพ่อพันเทพ ร้ายสูสีกันเลย