: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 16 (50%)

วันจันทร์เป็นวันที่สาวัชชอบน้อยที่สุดในสัปดาห์ บรรดาผู้อำนวยการที่ต้องสอนงานเขามักทำสีหน้าระอาประหนึ่งว่าเขากำลังรบกวนเวลาอันมีค่าของคนเหล่านั้น บางคนถึงกับเปรยทีเล่นทีจริงว่ากำลังทำเรื่องที่เสียเวลาเปล่า เพราะอย่างไรเสียผู้ที่ทุกคนให้ความเชื่อมั่นเห็นพ้องว่าสมควรก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คือริสา!

และวันนี้บิดาก็ทำให้มันเป็นวันจันทร์ที่แย่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อท่านถ่ายทอดคำสั่งมาทางโทรศัพท์ตอนใกล้ๆเลิกงานว่า

“หกโมงเย็นวันนี้ไปพบเตี่ยที่ห้องอาหารเซี่ยงไฮ้ โรงแรมคีรีธาราด้วยนะ เตี่ยมีเรื่องคุยด้วย” สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำได้จึงมีเพียงเก็บของออกจากสำนักงานทันทีที่นาฬิกาดิจิทัลบนโต๊ะบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาสามสิบนาที

เขาทิ้งสายตาอยู่ตรงนาฬิกานานกว่าปกติเล็กน้อย วันนี้...ไม่มีของขวัญจากอิงอรุณ และเชื่อแน่ว่าจากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้วอย่างแน่นอนเช่นกัน

ชายหนุ่มปล่อยให้ตัวเองใจลอยแค่เสี้ยววินาทีก็สลัดศีรษะแรงๆ ตั้งสติย้ำกับตัวเอง ดีแล้ว! ไม่ต้องมายุ่งมาเกี่ยวข้องกันอีก

เพราะไม่อยากเสี่ยงกับการจราจร สาวัชจึงเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าซึ่งมีสถานีอยู่ห่างจากหน้าอาคารสำนักงานไปไม่ถึงร้อยเมตรแทน ขณะผ่านป้ายหยุดรถประจำทางไปเพียงสองก้าว สาวัชก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากด้านหลัง เสียง...ที่เดาได้ทันว่าเป็นเสียงใคร

สาวัชถอนหายใจหันกลับมาด้วยความเบื่อหน่าย และก็เป็นดังคาด อิงอรุณอยู่ห่างออกไปเกือบห้าสิบเมตรกำลังเดินแกมวิ่งมาหาเขา ทันใดนั้นเอง ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันหนึ่งที่แล่นชะลออยู่ไม่ห่างจากหญิงสาวกลับยื่นมือไปคว้ากระเป๋าที่อิงอรุณคล้องอยู่ตรงข้อพับแขนแล้วกระชากอย่างแรง พร้อมกับเร่งเครื่องเพื่อแล่นหนี

อาจเพราะความตกใจ อิงอรุณจึงงอแขนแน่นยึดตัวเองไว้เพราะกลัวตก แทนที่คนร้ายจะได้ไปเฉพาะกระเป๋า มันจึงรั้งท่อนแขนหญิงสาวลากร่างเล็กกะทัดรัดติดไปด้วย อิงอรุณกรีดร้องขวัญเสีย เช่นเดียวกับบรรดาฝูงชนที่รอรถประจำทางอยู่ต่างก็หวีดร้องด้วยความตกใจ

ขณะสาวัชตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก มอเตอร์ไซค์รับจ้างกลุ่มใหญ่บริเวณนั้นกรูออกจากวิน คนวิ่งนำคว้ากระถางต้นไม้ใกล้มือขว้างใส่ล้อหน้าของรถคนร้ายจนเสียหลักล้ม คนขับขี่กระเด็นตกรถ โชคดีที่การจราจรไม่คล่องตัวนัก กระนั้นรถยนต์ที่แล่นตามมาด้านหลังก็ยังต้องเหยียบห้ามล้อตัวโก่ง เสียงยางบดพื้นถนนดังกรีดลงในโสตของผู้คนละแวกนั้นจนแตกตื่น

พี่วินช่วยกันล้อมจับคนร้าย ส่วนชายหนุ่มพุ่งผ่านฝูงชนเข้าไปหาอิงอรุณด้วยความเร็วที่เขาเองยังแปลกใจ กระนั้นเขาก็ยังช้ากว่าหญิงกลางคนร่างท้วมสวมผ้ากันเปื้อนซึ่งทิ้งรถเข็นขายผลไม้วิ่งตุ้บตั้บเข้าไปดูอาการคนเจ็บทันท่วงที นางปัดขากางเกงขาดรุ่งริ่งออกตรวจแผลทะมัดทะแมง แล้วบ่นพึมพำ

“โดนลากมาตั้งหลายเมตร ขาสวยๆถลอกปอกเปิกเยินหมดเลยลูก ตายแล้ว เลือดเต็มเลย โดนเศษอะไรบนถนนบาดเข้าเนี่ย เอ้า ใครมีผ้าสะอาดๆไหม เอามาห้ามเลือดหน่อยเร้ว”

บรรดาไทยมุงซึ่งเข้าประจำที่อย่างรวดเร็วช่วยกันเปิดกระเป๋าค้นหาของที่แม่ค้าผลไม้สั่งเป็นพัลวัน

“ในกระเป๋าหนูมีผ้าเช็ดหน้าค่ะ” อิงอรุณใช้มือสั่นระริกปลดล็อกกระเป๋าควานหาผ้าสีขาวเนื้อนิ่มปักลวดลายเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสีฟ้าโดยมีเส้นประโค้งสีเดียวกันลากเป็นเส้นเดี่ยวออกมาส่งให้พยาบาลจำเป็น

“ผ้าเช็ดหน้าหนูสวยจริง เสียดาย” ปากบ่นเช่นนั้น แต่มืออวบอูมหยาบกร้านกลับเคลื่อนไหวคล่องแคล่วรับผ้าเช็ดหน้ามากดบาดแผลแน่นๆแล้วค้างอยู่เช่นนั้น

“สงสัยมีแผลโดนบาดนะ เลือดออกเยอะเลย รีบไปโรงพยาบาลดีกว่านะหนู ป้าว่าอย่างนี้ต้องเย็บถึงจะเอาอยู่”

“หนูไม่เป็นไรค่ะป้า” อิงอรุณปฏิเสธเสียงสั่น ยิ้มทั้งที่เห็นได้ชัดว่าฝืดฝืนเต็มที

“เลือดออกขนาดนี้ยังจะบอกไม่เป็นอะไรอีก” ป้าคงรับมือลูกหลานมาเยอะ จึงเอ็ดหญิงสาวเสียงแข็ง

“หนูไม่เจ็บจริงๆนะคะ” อิงอรุณดื้อแพ่ง แต่น้ำตากลับไหลพราก มือเล็กๆปาดเช็ดน้ำตา ปากก็ย้ำพร่ำบอก “มันแค่ดูน่ากลัวเอง แต่ไม่เจ็บเลย”

ชายหนุ่มแหวกกลุ่มคนเข้าไปยืนค้ำศีรษะอยู่เบื้องหน้าคนเจ็บ อิงอรุณเงยขึ้นมาเบิกตากว้างมองเขาด้วยสีหน้าซีดเผือดสลับแดงก่ำบอกยากว่าอับอายหรือยินดี

“คุณสาวัช...” เสียงรำพึงนั้นแผ่วเบาเจือสะอื้น แต่เขาก็ได้ยินอยู่ดี

“ใครก็ได้เรียกแท็กซี่ให้ที พาหนูเขาไปโรงพยาบาลก่อน” ป้าเงยขึ้ันสั่งไทยมุง ซึ่งก็มีคนกุลีกุจอวิ่งไปช่วยเรียกรถให้ตามคำสั่ง ทว่า...

“ไม่มีแท็กซี่ไปเลยป้า มันบอกว่าต้องไปส่งรถ” แค่สิ้นประโยค ไทยมุงก็ด่ากันขรม

“ผมพาไปเอง เดี๋ยวผมไปเอารถที่ตึกลงมา” สาวัชเสนอตัว

พยาบาลจำเป็นตวัดตามองเขาอย่างประเมิน ทั้งยังตั้งท่ากางปีกปกป้องอิงอรุณเต็มที่ “ไม่เอาหรอก ผู้ชายพายเรือ ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เกิดพาแม่หนูนี่ไปที่อื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจะทำยังไง”

สาวัชชักสีหน้า ไม่เคยมีใคร ‘กล้า’ หมิ่นหยามเขาเช่นนี้ ที่สำคัญต่อหน้าธารกำนัลเสียด้วย!

“เขาเป็นเพื่อนหนูเองค่ะป้า” อิงอรุณรีบอธิบาย

“อ้าว รู้จักกันเหรอ ก็ได้ๆ งั้นคุณไปเอารถมา เอ้า! หนูกดแผลไว้นะ เดี๋ยวป้าจะประคองไปนั่งสบายๆ” นางจับมืออิงอรุณไปกดทับผ้าเช็ดหน้าเพื่อห้ามเลือด จากนั้นเข้าประชิดตัวคนเจ็บดึงมือเธอไปวางแปะบนบ่าตัวเองช่วยประคองให้เธอลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณค่ะป้า ป้าปล่อยเลยก็ได้ หนูยืนไหวค่ะ” อิงอรุณลดมือตัวเองจากบ่าแข็งแรง ทว่าเพียงคนเป็นหลักปล่อยมือ ผู้หญิงตัวเล็กก็ซวนเซ มองก็รู้ว่าขาข้างที่บาดเจ็บคงไม่มีแรงประคองตัวเอง

สาวัชผวาเข้าไปรับอิงอรุณไว้โดยอัตโนมัติ มือซ้ายอ้อมหลังไปยึดไหล่ซ้าย ส่วนมือขวาคว้าต้นแขนขวารั้งหญิงสาวไว้มิให้ร่วงลงไปกองกับพื้นอีกหน

“ขอบคุณค่ะคุณสาวัช แต่อิงยืนเองได้” เธอพยายามขืนตัวออกห่าง ซึ่งเป็นกิริยาที่เขาคิดว่า...น่าชื่นชม ผู้หญิงที่วางตัวดีกับเพศตรงข้ามแม้ขณะบาดเจ็บ แสดงว่ายามปกติ เธอคงถือตัวยิ่งกว่านี้เสียอีก

สาวัชกึ่งลากกึ่งประคองบังคับอิงอรุณไปนั่งตรงเก้าอี้ในป้ายหยุดรถประจำทาง

“เอ่อ...คุณสาวัชมีธุระหรือเปล่าคะ อิงเกรงใจ ไม่อยากรบกวน”

ชายหนุ่มเหลือบมองขาอิงอรุณ มองผาดๆตอนเกิดเหตุเขาคาดว่าคงเป็นแค่แผลถลอก แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เสียแล้ว รอยกรีดด้านข้างหน้าแข้งยาวเกือบสามนิ้วที่เห็นเมื่อกี้ บัดนี้มีเลือดไหลโซมจนชุ่มย้อมผ้าเช็ดหน้าสีขาวจนแดงฉาน อาจเพราะเจ้าตัวออกแรง จึงทำให้เลือดยิ่งออกมาก

หากเป็นยามปกติ เขาคงฉวยคำปฏิเสธของเธอเป็นเหตุผลในการเดินจากไป แต่นี่...ชายหนุ่มมั่นใจว่าต่อให้ทิ้งอิงอรุณไว้ตรงนี้ แต่ภาพบาดแผลของเธอคงติดตาค้างอยู่ในใจเขาอีกนาน ยิ่งกว่านั้นเขาก็ไม่อยากไปตามนัดที่บิดาสั่งอยู่แล้ว มันจึงสมเหตุสมผลและสมควรที่สุดที่เขาควรยืนกราน...

“รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมมา”

อิงอรุณหน้าแหย แต่ก็ยอมพยักหน้าโดยดี เขาเห็นคนเจ็บก้มลงไปกดมือที่แผลเพื่อห้ามเลือดอยู่ชั่วอึดใจ สุดท้ายจึงควักผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านในพับทแยงให้เป็นสามเหลี่ยม แล้วย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าอิงอรุณ ดึงมือเธอออกใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองพันทับผ้าผืนแรก แล้วมัดปลายทั้งสองข้างติดกับค่อนข้างแน่นเพื่อให้เลือดหยุดไหล

“อิงเกรงใจ เดี๋ยวจะทำรถคุณเปื้อน ขับรถอิงไปดีกว่าไหมคะ นี่ค่ะกุญแจ” อิงอรุณยื่นมือมาตรงหน้า

สาวัชสบตาคนเจ็บนิ่งๆ สายตาทุกคู่จากรอบด้านจ้องมาคล้ายลุ้นรอคำตอบ สุดท้ายเขาจึงถอนใจ เอื้อมไปรับของจากมือหญิงสาว

เสียงปรบมือดังเบาๆไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด ชายหนุ่มมองคนเจ็บด้วยสายตาบอกความรำคาญ ผู้หญิงคนนี้สติดีหรือเปล่าเนี่ย หิ้วกระเป๋าใบละหลายแสนมาเดินข้างถนน ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนละเกือบห้าพันห้ามเลือด และยัง ‘กล้า’ ไว้ใจเขาถึงขนาดนี้!

ตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ดอกเตอร์หนุ่มรู้สึกประดักประเดิดเคอะเขินที่สุดในชีวิต เมื่อสายตาทุกคู่มองตามเขาจนเหลียวหลังขณะเดินผ่านอาคารโภไคยทาวเวอร์ไปยังลานจอดรถของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ซึ่งอยู่ถัดไป ในมือ...ไม่ใช่แค่กุญแจรถ แต่เป็นหูหิ้วกระเป๋าถือใบสีฟ้าของอิงอรุณ!






: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :


@พอใจ : มาแล้วๆๆ เอาฉากกุ๊กกิ๊กมาเสิร์ฟละ
แต่ก็นะ...พระเอกปากหนักซึนขนาดนี้
จะให้กุ๊กกิ๊กระดับมาตรฐานคงไม่ได้
อ่านกันแล้ววันนี้ ฟรุ้งฟริ้งพอไหมคะ 55555

อ่ะๆๆ ไม่สะใจใช่ปะ
พรุ่งนีั้ยังมีฉากต่อเนื่องอีกฉากค่ะ
มาดูคนขี้เก๊กปากแข็งกันไปให้สุดทางกันต่อนะ 55555




@konhin : อิงอรุณดื้อจนน่าจับมาตีเนอะ
กะแม่กะพ่อยังออกฤทธิ์ เพียงเพราะจะยึดความเชื่อของตัวเองเป็นใหญ่
ไม่แปลกที่อิงอรุณเอาแต่ใจจนสาวัชนึกอยากดัดหลัง
ปกติสิริณว่าคนเราก็มีโหมดแบบนี้นะ
เพียงแต่ว่าจะแสดงออกมากแค่ไหน
กับดื้อได้สุดทางหรือเปล่าเท่านั้นเอง




@นักอ่านเหนียวหนึบ : พิมพ์สนิทออกมาน้อย
แต่ส่งผลกับตัวเรื่องแทบทุกครั้งนะคะ บอกเลย 555555
นางผู้นี้ไม่เน้นปริมาณ แต่จัดคุณภาพแบบคับแก้วค่ะ
เป็นตัวละครที่เขียนแล้วสิริณรักนางนะ
คือนางก็รักพันเทพของนางอะ
พันเทพจะพูดไง พิมพ์สนิทก็ไม่สนใจ
ใครดูถูกยังไง ก็ไม่แคร์อีกต่างหาก มั่นคงดีจริงๆ

ส่วนที่อิงอรุณโดนล้วงลับตับแตกแบบไม่รู้ตัว
บอกเลย...ผงเข้าตาตัวเอง เขี่ยไม่ออกทุกคนค่ะ
ก็เหมือนนักจิตวิทยาไงคะ
มีโอกาสมีปัญหาทางจิตมากกว่าคนทั่วไปอิ๊กกกก อิอิ





สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ค. 2559, 17:19:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ค. 2559, 17:21:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1193





<< ตอนที่ 15 (100%)   ตอนที่ 16 (100%) >>
konhin 11 พ.ค. 2559, 20:33:53 น.
อิงกำลังช๊อคแน่ๆ


พอใจ 11 พ.ค. 2559, 21:17:52 น.


พ่อเจ้าประคุณสาวัชถึงกับตกใจ อึ้งทึ่งเสียวอยู่นั่น กว่าจะขี่ม้าขาวฝ่าวงได้ลุ้นเหลือเกินค่ะ5555 ทำอะไรไม่ค่อยถูกแถมยังเก๊กซิมไว้จนหยดสุดท้าย แอบกลัวเตี่ยของสาวัชระเบิดลงจังค่ะ


wane 12 พ.ค. 2559, 06:19:06 น.
ตอนนี้ คุงป้าขายผลไม้เป็นตัวเด่นเลย .... อ่านฉากนี้แล้วชอบจัง ...ไม่ได้ชอบที่อิงเจ็บตัวนะคะ แต่ชอบที่ทุกคนกระตือรือร้นช่วยเหลือคนเจ็บทั้งๆ ที่ตนเองไม่รู้จัก ... ไม่ใช่เป็นแค่ไทยมุง


Zephyr 12 พ.ค. 2559, 23:29:14 น.
เอ้า นางโดนฉก แต่กลายเป็นมีโอกาสเข้าใจสาวัชละ


นักอ่านเหนียวหนึบ 12 พ.ค. 2559, 23:30:54 น.
รักอ้ะ รักไทยมุง 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account