: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 18 (33%)
งานว็อตช์เฟสติวัลจัดขึ้นยังลานอีเวนต์ฮอล์ ณ ห้างหรูกลางกรุง ราวขึงเชือกกำมะหยี่สีแดงสลับโซ่สีทองกั้นอาณาบริเวณไว้เป็นเอกเทศอนุญาตให้เข้าเฉพาะแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้น หลังผ่านโต๊ะลงทะเบียนจึงเป็นพรมแดงทอดเข้าสู่จุดถ่ายรูปซึ่งมีสื่อมวลชนคอยทำข่าวอยู่หนาตา พื้นหลังของเวทีเป็นแผงกำมะหยี่สีดำติดตัวอักษรสีทองเป็นชื่องาน ยกพื้นเวทีสูงครึ่งเมตรเชื่อมต่อกับรันเวย์ปูพรมแดงยาวหกเมตรทอดผ่านพื้นที่เกือบหนึ่งในสาม สองฟากของรันเวย์คือเก้าอี้วางเรียงหันหน้าเข้าหาแนวทางเดินของผู้แสดงแบบนาฬิกา ห่างออกไปรอบนอกสุดเกือบขอบของพื้นที่เป็นแท่นสูงครอบกระจกนิรภัยจัดแสดงนาฬิการุ่นเด่นๆ เคียงกันคือเคาน์เตอร์นาฬิกาแยกตามตราสินค้ากระจายทั่วพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าเลือกชมโดยไม่แออัด
ชายหนุ่มรูปร่างสูงสวมกั๊กสูทเข้ารูปสีดำทับเสื้อยืดขาว ตัวนอกสุดเป็นแจ็คเก็ตสูทแบบลำลองสีเทาอมเขียวเข้าคู่กับสแลคสีเดียวกัน ผมตัดสั้นใส่เจลหวีตั้งขึ้นเปิดหน้าผากอวดดวงหน้ากระจ่างและไรเขียวตามแนวคาง ดวงตาคม จมูกโด่ง และริมฝีปากที่รับกันพอดีทำให้ผู้คนรอบข้างลอบพิจารณาเขาด้วยความสนใจ มองภายนอกเขาเหมือนหลุดมาจากนิตยสารแฟชันสักเล่มมากกว่า แทนที่จะสนใจนาฬิกาซึ่งจัดแสดงอยู่ในงาน เขากลับกวาดตาไปรอบตัวคล้ายกำลังหาใครบางคน คิ้วเข้มทั้งคู่ขมวดมุ่น ขณะสีหน้าบอกชัดถึงความหงุดหงิดไม่พอใจ
‘เลิกงานแล้วรีบออกจากออฟฟิศกันนะ จะได้ไปเชียร์พี่อิงเดินแบบที่งานว็อตช์เฟสติวัล’
ขณะรับประทานอาหารกลางวันตามลำพังที่ศูนย์อาหารในอาคาร เสียงพนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ก็นัดแนะกันดังแว่วมาให้ได้ยินโดยบังเอิญ แม้ชายหนุ่มจะพยายามปัดเรื่องนั้นทิ้งนับครั้งไม่ถ้วน แต่มันกลับยังคงรบกวนใจเขาอย่างบอกไม่ถูก และนั่นคือเหตุผลที่เขาอยู่ที่นี่...ตอนนี้!
ผู้หญิงคนนั้นไม่บ้าก็คงเสียสติไปแล้ว ได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น อย่าว่าแต่เดินแบบเลย ขนาดเดินธรรมดา เขาก็มั่นใจว่ามันต้องทั้งเจ็บทั้งปวดและระบมจนแทบทนไม่ได้ ไหนยังจะวัคซีนกันบาดทะยักอีก ใครก็รู้ว่าหลังฉีดวัคซีนคนส่วนใหญ่มักมีไข้และปวดบริเวณที่ฉีด ยายตัวยุ่งนั่นดันทุรังจนน่าโมโหจริงๆ!
สาวัชเตร่ไปแถวเวทีเพื่อถามหาอิงอรุณ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่านางแบบกำลังแต่งตัวอยู่และไม่สะดวกออกมาพบ เขาจึงฆ่าเวลาด้วยการเดินชมนาฬิกาที่จัดแสดงอยู่รอบๆแทน
ชายหนุ่มอ่านแผ่นพับที่นำเสนอนาฬิกาเรือนเด่นและไปชมของจริงตามตู้ด้วยความสนใจ ทว่าความสงบก็เป็นของเขาไม่นาน เพราะคู่รักหนุ่มสาววัยทำงานคู่หนึ่งเข้ามายืนเกาะตู้ข้างๆ ชี้ชวนกันเลือกนาฬิกาเสียงดังแทบคับเคาน์เตอร์ ชายหนุ่มเหลือบตาตำหนิหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เขากวาดตารอบตู้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดหลุดเร้นจากความสนใจ แล้วจึงเดินไปยังตู้ถัดไปแทน ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเพียงคล้อยหลัง คู่รักสุดสวีตกลับพูดคุยด้วยเสียงระดับธรรมดาทั้งยังลอบสบตากันอย่างสมใจ
โลกของเขาเป็นปกติสุขได้ไม่กี่นาทีก็ต้องพบผู้หญิงคนหนึ่งกำลังตำหนิบริกรเสิร์ฟเครื่องดื่มขวางทางอยู่ระหว่างเดินไปยังเคาน์เตอร์ถัดมา เขาจึงเลี่ยงไปทางอื่น ตัดสินใจมุ่งไปยังแท่นโชว์นาฬิกาซึ่งค่อนข้างว่างอยู่แทน
ในงานแสดงนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิร์ลด์ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาเห็นภาพข่าวว่าของโฆรุ่มซึ่งเป็นแบรนด์โปรดเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ แค่เห็นรูปก็สนใจแล้ว เมื่อเรือนจริงถูกนำมาแสดงถึงที่ ชายหนุ่มย่อมไม่พลาดโอกาสไปสัมผัส
สาวัชยังไปไม่ถึงแท่นสูงโชว์นาฬิกา สายตาก็สะดุดกับสุภาพสตรีซึ่งยืนอยู่ตรงตู้จัดแสดงเสียก่อน เธอผู้นั้นแต่งกายด้วยเสื้อเกาะอกผ้าไหมสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขายาวสีกรมท่าแนบรูปร่างเพรียว รองเท้าแคชชูส์ยิ่งเน้นให้สูงสง่าโดดเด่นราวกับไฟทุกดวงกำลังสาดแสงไปที่เธอ
สาวัชก้าวเนิบๆเข้าไปยืนหน้าแท่นโชว์ ไม่สนใจหญิงสาวผู้ยืนอยู่ก่อนสักนิด สายตาของเขาจับจ้องไปยังตู้กระจก พิจารณานาฬิกาภายในด้วยความชื่นชม นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแอดไมรัลส์คัพในปี ค.ศ.๑๙๖๐ โฆรุ่มไม่เคยทำให้สาวกผิดหวังเลย คราวนี้ก็เช่นกัน ตัวเรือนนาฬิกาสวยสง่ากว่าที่คาด ขนาดมองผ่านตู้กระจกยังเห็นชัดว่ามันมีเอกลักษณ์และโดดเด่นจนแทบลืมหายใจ ชายหนุ่มเหลือบดูราคาและลูบปลายคางครุ่นคิด สุดท้ายจึงให้สัญญาณพนักงานทำการจองและชำระด้วยบัตรเครดิตโดยมิพักลังเล!
“เอลังก์เง่ออุนโซฮ์เน่อ(A. Lange & Söhne) รุ่นลังเง่อเธอร์ตี้วัน (Lange 31)” เสียงสุภาพสตรีเอ่ยลอยๆ
สาวัชหันไปสบตาเธอด้วยความฉงน พลันเขาก็จำผู้หญิงคนนี้ได้ทันที “คุณอินทุอรวี สวัสดีครับ”
“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่เลยนะคะ” หญิงสาวทักทาย พลางชี้ข้อมือของเขาอย่างสุภาพ “ขอโทษที่ทำให้ตกใจค่ะ ดิฉันกำลังตื่นเต้น เพราะเพิ่งมีโอกาสได้เห็นลังเง่อเธอร์ตี้วันใกล้ๆวันนี้เอง”
สาวัชหรี่ตาเล็กน้อย ยกข้อมือตัวเองขึ้นพิจารณา แล้วเบือนหน้าไปมองหญิงสาวตรงๆ
อินทุอรวียกข้อมือขึ้นเสมอใบหน้า ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยด้วยกิริยาถือตัว “ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพราะจะหาเรื่องชวนคุยกับคุณหรอกค่ะ บังเอิญดิฉันชอบโฆรุ่มน่ะ”
เธอสวมนาฬิการุ่นเดียวกับที่สาวัชเคยเห็นอิงอรุณสวม แต่สาวัชไม่เอ่ยอะไร ไม่ถามต่อ ไม่ชวนคุย เขาทำเพียงแค่ก้มศีรษะเป็นเชิงขออภัย
“ท่าทางคุณไม่ชอบคุยเรื่องมโนสาเร่ ดีนะเนี่ยที่คุณไม่ได้ทำหน้าหยิ่งๆ แล้วบอกดิฉันตรงๆว่าไม่อยากพูดเรื่องส่วนตัวให้คนแปลกหน้าฟัง”
“คุณอาจจะเดาถูกก็ได้”
อินทุอรวียักไหล่ไม่ใส่ใจ เธอบุ้ยปากไปยังตู้แสดงนาฬิกาแล้วตั้งคำถาม “คุณใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เซ็นบัตรเครดิตราคาเกินครึ่งล้านแบบไม่ลังเลเลย เป็นแฟนพันธุ์แท้ของโฆรุ่มเหมือนกันหรือคะ”
เขาไม่ตอบ ใช้สายตาเป็นเชิงตั้งคำถามกลับไปที่หญิงสาวคล้ายๆ ‘จะรู้ไปทำไม’
“ดิฉันก็ชอบโฆรุ่มค่ะ เพราะมันเป็นนาฬิกาไม่กี่ยี่ห้อที่เปลือยให้เห็นกลไก ชิ้นส่วนเล็กๆที่มารวมกันอย่างพิถีพิถันแบบนี้ มักทำให้เราได้หยุดคิดเสมอว่าสิ่งยิ่งใหญ่ มักมาจากของเล็กๆ”
วิธีคิดของหญิงสาว เป็นเหตุผลเดียวกับที่เขาชอบนาฬิกาแบรนด์นี้ แต่เขาไม่คิดบอกเธอหรอก
“ขอบคุณที่แชร์ความคิดเห็นครับ ผมเสร็จธุระตรงนี้แล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” เสียงดนตรีดังเป็นสัญญาณบอกว่าพิธีเปิดกำลังจะเริ่มขึ้นพอดี เขาจึงเดินดุ่มไปยังด้านข้างเวทีซึ่งจัดเก้าอี้วางเรียงหันหน้าเข้าหารันเวย์อย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่าคนที่มองตามหลังจะรู้สึกอย่างไร ก็แค่คนรู้จักธรรมดาๆอีกคนนึงในชีวิต!
เก้าอี้ทุกตัวในแถวหน้าสุดหรือที่เรียกว่าฟร้อนต์โรว์มีหมายเลขกำกับตรงกับในบัตรเชิญ เขาได้ที่นั่งตรงเกือบสุดปลายรันเวย์ เป็นจุดที่ดีที่สุด และสามารถเห็นผู้แสดงแบบรวมถึงนาฬิกาได้ชัดเจน
หลังพิธีเปิดซึ่งเป็นไปอย่างหรูหรา แต่กระชับ เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มขึ้นรอบด้าน พร้อมกับที่บรรดานางแบบนายแบบทั้งมืออาชีพและรับเชิญทยอยออกจากหลังเวทีก้าวขึ้นสู่รันเวย์
คอยไม่นานอิงอรุณก็ปรากฏตัวจากด้านขวาของเวที ฝั่งซ้ายเป็นนักแสดงหนุ่มรูปหล่อที่ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างพร้อมกับยกแขนตั้งศอก หญิงสาวคล้องแขนอีกฝ่ายหมับ และฝ่ายชายก็ใช้มือข้างที่ว่างวางทาบทับมืออิงอรุณแขนเสื้อถกขึ้นอวดนาฬิกาอย่างแนบเนียน มองผาดๆดูเป็นคู่รักสวีตหวานจนน่าอิจฉา
อิงอรุณเท้ามือซ้ายที่เอวก้าวเนิบมาดมั่น เธอเฉิดฉายในชุดเดรสลูกไม้สีทองเข้ารูป ซับด้านในเป็นเกาะอกสีครีม ชายกระโปรงระอยู่เหนือเข่าเล็กน้อย ตัวเสื้อลูกไม้สูงชิดคอ ขณะแขนทรงกระบอกแนบเนื้อยาวเลยศอกเล็กน้อย ปักประดับคริสตัลสีทองเป็นดอกไม้กระจายทั่งทั้งตัวสะท้อนแสงไฟเป็นประกายระยิบ เผยให้เห็นผิวเนื้อเพียงวับแวมแต่ก็แลสุุภาพ เข็มขัดสีทองคาดที่บั้นเอวเน้นทรวดทรงชัดเจน ขณะแคชชูส์สีครีมสูงจนน่ากลัวเสริมให้หญิงสาวแลเพรียวสะโอดสะองยิ่งขึ้น
หญิงสาวรวบผมข้างหนึ่งเปิดหูซึ่งสวมต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวเรียบแต่หรู ที่คอและข้อมือไม่สวมสายสร้อยใดๆทั้งสิ้น นาฬิกาที่เธอสวมแสดงแบบคือ ยูลิสนาร์แดง (Ulysse Nardin) คลาสสิโค อเมริโก เวสปุชชี (Classico Americo Vespucci)
ในงานพรมแดงเช่นนี้ ชุดที่ขโมยซีนได้ส่วนมากมักจะเป็นสีดำหรือขาวเปิดโชว์เนื้อหนังตามสไตล์เซเลบริตี้ แต่อิงอรุณกลับสามารถสะกดทุกสายตาให้มองตามเธอได้ทั้งที่ชุดแบบเรียบ สีไม่ฉูดฉาด ทั้งยังมิดชิดที่สุดบนเวที!
เครื่องแต่งกายของเธอขับให้นาฬิกาสายหนังจระเข้สีดำเด่นขึ้นอย่างมีชั้นเชิง ตัวเรือนเป็นทองคำขาวเรียบๆ หน้าปัดเขียนสีลงยาจำลองรูปเรือรบโบราณนาม อเมริโก เวสปุชชี กำลังแล่นในน้ำ โดยมีท้องฟ้าสีฟ้าอมน้ำเงินเป็นพื้นหลัง เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันมีเพียง ๓๐ เรือนทั่วโลกซึ่งผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเรือรบที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งกองทัพเรืออิตาลี ราคาในต่างประเทศอยู่ที่สี่หมื่นเหรียญ ไม่ต้องคิดเลยว่าเมื่อบวกภาษีแล้ว ราคาขายในเมืองไทยจะอยู่ที่เท่าไร!
เมื่อเดินมาจนสุดรันเวย์ อิงอรุณโปรยยิ้มอ่อนหวานไร้ที่ติ ยกมือซ้ายมาแตะแก้มขวา ศีรษะเชิดนิดๆ วางท่าสง่างาม ส่วนนายแบบของเธอก็ละมือที่กุมมือคู่ควง ยกกำปั้นขวาไขว้ขึ้นแทบอกชี้หมัดไปทางบ่าซ้าย
สาวัชมองใบหน้าของหญิงสาวเพื่อหาความผิดปกติ ก็พบว่าเธอโปรยยิ้มอ่อนหวานเจิดจ้าไปทั่วๆ ไม่มีร่องรอยทรมานจากอาการบาดเจ็บสักนิด เขาหงุดหงิดตัวเองขึ้นมากะทันหันที่นึก ‘ห่วง’ ไม่เข้าเรื่อง ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เธอสุขสบายดี ออกจะชื่นบานกว่าตอนเป็นปกติด้วยซ้ำ ชายหนุ่มกำสูจิบัตรในมือ ความรู้สึกประหลาดในใจระรานจนเขาไม่สนใจกับการแสดงที่เหลือ ชายหนุ่มผลุนผลันลุกจากที่นั่งและเบียดผู้ร่วมงานซึ่งแออัดอยู่รอบนอกของรันเวย์จนพ้นจากบริเวณนั้น และมุ่งตรงไปยังทางออกโดยมิพักลังเล
สาวัชจึงไม่มีโอกาสได้เห็นว่าเมื่อไม่มีมือของนายแบบปิดไว้ มือข้างขวาของอิงอรุณกำลังกำท่อนแขนอีกฝ่ายแน่นยึดเขาไว้สุดแรง จิกนิ้วลงในเสื้อสูทจนเห็นเป็นรอยกดชัดเจน!
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@พอใจ : บ่องตงนะเคอะคุณพอใจ
อ่านเม้นต์คุณพอใจทุกที เค้าหัวเราะเสียงดังอะ
อารายจะเมนต์ได้อร่อยขนาดน้านนนนน
คือแบบสะใจได้แซ่บสะท้านทรวงทุกเม็ด 555
ส่วนเรื่องไปงานไหม...ตอนนี้คงได้เห็นแล้วอ่ะเนอะ
ว่าอีตาดอกเตอร์ขี้ซึนของเรา ใจแข็งได้ไม่ตลอดรอดฝั่งหร้อกกกก อิอิ
ป.ล. เค้าคิดไม่ถึงอะ เรื่องให้นางเอกหกล้มขายหน้า
จะว่าไปก็เกร๋นะ แหม่ๆๆ เสียดาย
จะกลับแก้ดีไหมนะ 55555
@Zephyr : คุณขา...กอดสองที หอมแก้มซ้ายขวาซ้ายอีกสามที
ขอบคุณค่ะที่ช่วยกันกด "ชอบตอนนี้" ให้คุณสาวัชกะอิงอรุณ
ถ้าบอกว่าดราฟต์แรก
สิริณเขียนให้สาวิตรีเงียบๆจ๋อยๆเป็นแม่ตามขนบนิยายไทย
จะเชื่อไหมคะ 5555
พอกลับมาอ่านใหม่ มันไม่จี๊ดเลย ก็เลยแก้ใหม่ทั้งเรื่องนี่ล่ะค่ะ
(ถึงเขียนสองปีไงคะ กร๊ากกกกก)
แม่สาวัชนี่ บอกเลย...อ่านไปเรื่อยๆมีเซอร์ไพร้ส์นะเออ
ขนาดสิริณเขียนเอง รู้เรื่องอยู่แล้ว
ยังเช็ดน้ำตาไม่ทันเร้ยยยยยย อิอิ
ขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆ
ไม่ว่าจะเม้นต์ อ่านเฉยๆ หรือกดชอบตอนนี้
คือแค่เห็นฟีดแบกนี่ คนเขียนหายเหนื่อยจริงๆ มีกำลังใจสุดๆ
เดี๋ยวหนังสือพิมพ์เสร็จ
สิริณจะเอามา "จับสลาก" แจกให้เพื่อนๆในเว็บเลิฟแน่นอน
stay tune ไว้นะเคอะ <3 <3 <3
ชายหนุ่มรูปร่างสูงสวมกั๊กสูทเข้ารูปสีดำทับเสื้อยืดขาว ตัวนอกสุดเป็นแจ็คเก็ตสูทแบบลำลองสีเทาอมเขียวเข้าคู่กับสแลคสีเดียวกัน ผมตัดสั้นใส่เจลหวีตั้งขึ้นเปิดหน้าผากอวดดวงหน้ากระจ่างและไรเขียวตามแนวคาง ดวงตาคม จมูกโด่ง และริมฝีปากที่รับกันพอดีทำให้ผู้คนรอบข้างลอบพิจารณาเขาด้วยความสนใจ มองภายนอกเขาเหมือนหลุดมาจากนิตยสารแฟชันสักเล่มมากกว่า แทนที่จะสนใจนาฬิกาซึ่งจัดแสดงอยู่ในงาน เขากลับกวาดตาไปรอบตัวคล้ายกำลังหาใครบางคน คิ้วเข้มทั้งคู่ขมวดมุ่น ขณะสีหน้าบอกชัดถึงความหงุดหงิดไม่พอใจ
‘เลิกงานแล้วรีบออกจากออฟฟิศกันนะ จะได้ไปเชียร์พี่อิงเดินแบบที่งานว็อตช์เฟสติวัล’
ขณะรับประทานอาหารกลางวันตามลำพังที่ศูนย์อาหารในอาคาร เสียงพนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ก็นัดแนะกันดังแว่วมาให้ได้ยินโดยบังเอิญ แม้ชายหนุ่มจะพยายามปัดเรื่องนั้นทิ้งนับครั้งไม่ถ้วน แต่มันกลับยังคงรบกวนใจเขาอย่างบอกไม่ถูก และนั่นคือเหตุผลที่เขาอยู่ที่นี่...ตอนนี้!
ผู้หญิงคนนั้นไม่บ้าก็คงเสียสติไปแล้ว ได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น อย่าว่าแต่เดินแบบเลย ขนาดเดินธรรมดา เขาก็มั่นใจว่ามันต้องทั้งเจ็บทั้งปวดและระบมจนแทบทนไม่ได้ ไหนยังจะวัคซีนกันบาดทะยักอีก ใครก็รู้ว่าหลังฉีดวัคซีนคนส่วนใหญ่มักมีไข้และปวดบริเวณที่ฉีด ยายตัวยุ่งนั่นดันทุรังจนน่าโมโหจริงๆ!
สาวัชเตร่ไปแถวเวทีเพื่อถามหาอิงอรุณ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่านางแบบกำลังแต่งตัวอยู่และไม่สะดวกออกมาพบ เขาจึงฆ่าเวลาด้วยการเดินชมนาฬิกาที่จัดแสดงอยู่รอบๆแทน
ชายหนุ่มอ่านแผ่นพับที่นำเสนอนาฬิกาเรือนเด่นและไปชมของจริงตามตู้ด้วยความสนใจ ทว่าความสงบก็เป็นของเขาไม่นาน เพราะคู่รักหนุ่มสาววัยทำงานคู่หนึ่งเข้ามายืนเกาะตู้ข้างๆ ชี้ชวนกันเลือกนาฬิกาเสียงดังแทบคับเคาน์เตอร์ ชายหนุ่มเหลือบตาตำหนิหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เขากวาดตารอบตู้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดหลุดเร้นจากความสนใจ แล้วจึงเดินไปยังตู้ถัดไปแทน ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเพียงคล้อยหลัง คู่รักสุดสวีตกลับพูดคุยด้วยเสียงระดับธรรมดาทั้งยังลอบสบตากันอย่างสมใจ
โลกของเขาเป็นปกติสุขได้ไม่กี่นาทีก็ต้องพบผู้หญิงคนหนึ่งกำลังตำหนิบริกรเสิร์ฟเครื่องดื่มขวางทางอยู่ระหว่างเดินไปยังเคาน์เตอร์ถัดมา เขาจึงเลี่ยงไปทางอื่น ตัดสินใจมุ่งไปยังแท่นโชว์นาฬิกาซึ่งค่อนข้างว่างอยู่แทน
ในงานแสดงนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิร์ลด์ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาเห็นภาพข่าวว่าของโฆรุ่มซึ่งเป็นแบรนด์โปรดเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ แค่เห็นรูปก็สนใจแล้ว เมื่อเรือนจริงถูกนำมาแสดงถึงที่ ชายหนุ่มย่อมไม่พลาดโอกาสไปสัมผัส
สาวัชยังไปไม่ถึงแท่นสูงโชว์นาฬิกา สายตาก็สะดุดกับสุภาพสตรีซึ่งยืนอยู่ตรงตู้จัดแสดงเสียก่อน เธอผู้นั้นแต่งกายด้วยเสื้อเกาะอกผ้าไหมสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขายาวสีกรมท่าแนบรูปร่างเพรียว รองเท้าแคชชูส์ยิ่งเน้นให้สูงสง่าโดดเด่นราวกับไฟทุกดวงกำลังสาดแสงไปที่เธอ
สาวัชก้าวเนิบๆเข้าไปยืนหน้าแท่นโชว์ ไม่สนใจหญิงสาวผู้ยืนอยู่ก่อนสักนิด สายตาของเขาจับจ้องไปยังตู้กระจก พิจารณานาฬิกาภายในด้วยความชื่นชม นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแอดไมรัลส์คัพในปี ค.ศ.๑๙๖๐ โฆรุ่มไม่เคยทำให้สาวกผิดหวังเลย คราวนี้ก็เช่นกัน ตัวเรือนนาฬิกาสวยสง่ากว่าที่คาด ขนาดมองผ่านตู้กระจกยังเห็นชัดว่ามันมีเอกลักษณ์และโดดเด่นจนแทบลืมหายใจ ชายหนุ่มเหลือบดูราคาและลูบปลายคางครุ่นคิด สุดท้ายจึงให้สัญญาณพนักงานทำการจองและชำระด้วยบัตรเครดิตโดยมิพักลังเล!
“เอลังก์เง่ออุนโซฮ์เน่อ(A. Lange & Söhne) รุ่นลังเง่อเธอร์ตี้วัน (Lange 31)” เสียงสุภาพสตรีเอ่ยลอยๆ
สาวัชหันไปสบตาเธอด้วยความฉงน พลันเขาก็จำผู้หญิงคนนี้ได้ทันที “คุณอินทุอรวี สวัสดีครับ”
“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่เลยนะคะ” หญิงสาวทักทาย พลางชี้ข้อมือของเขาอย่างสุภาพ “ขอโทษที่ทำให้ตกใจค่ะ ดิฉันกำลังตื่นเต้น เพราะเพิ่งมีโอกาสได้เห็นลังเง่อเธอร์ตี้วันใกล้ๆวันนี้เอง”
สาวัชหรี่ตาเล็กน้อย ยกข้อมือตัวเองขึ้นพิจารณา แล้วเบือนหน้าไปมองหญิงสาวตรงๆ
อินทุอรวียกข้อมือขึ้นเสมอใบหน้า ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยด้วยกิริยาถือตัว “ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพราะจะหาเรื่องชวนคุยกับคุณหรอกค่ะ บังเอิญดิฉันชอบโฆรุ่มน่ะ”
เธอสวมนาฬิการุ่นเดียวกับที่สาวัชเคยเห็นอิงอรุณสวม แต่สาวัชไม่เอ่ยอะไร ไม่ถามต่อ ไม่ชวนคุย เขาทำเพียงแค่ก้มศีรษะเป็นเชิงขออภัย
“ท่าทางคุณไม่ชอบคุยเรื่องมโนสาเร่ ดีนะเนี่ยที่คุณไม่ได้ทำหน้าหยิ่งๆ แล้วบอกดิฉันตรงๆว่าไม่อยากพูดเรื่องส่วนตัวให้คนแปลกหน้าฟัง”
“คุณอาจจะเดาถูกก็ได้”
อินทุอรวียักไหล่ไม่ใส่ใจ เธอบุ้ยปากไปยังตู้แสดงนาฬิกาแล้วตั้งคำถาม “คุณใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เซ็นบัตรเครดิตราคาเกินครึ่งล้านแบบไม่ลังเลเลย เป็นแฟนพันธุ์แท้ของโฆรุ่มเหมือนกันหรือคะ”
เขาไม่ตอบ ใช้สายตาเป็นเชิงตั้งคำถามกลับไปที่หญิงสาวคล้ายๆ ‘จะรู้ไปทำไม’
“ดิฉันก็ชอบโฆรุ่มค่ะ เพราะมันเป็นนาฬิกาไม่กี่ยี่ห้อที่เปลือยให้เห็นกลไก ชิ้นส่วนเล็กๆที่มารวมกันอย่างพิถีพิถันแบบนี้ มักทำให้เราได้หยุดคิดเสมอว่าสิ่งยิ่งใหญ่ มักมาจากของเล็กๆ”
วิธีคิดของหญิงสาว เป็นเหตุผลเดียวกับที่เขาชอบนาฬิกาแบรนด์นี้ แต่เขาไม่คิดบอกเธอหรอก
“ขอบคุณที่แชร์ความคิดเห็นครับ ผมเสร็จธุระตรงนี้แล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” เสียงดนตรีดังเป็นสัญญาณบอกว่าพิธีเปิดกำลังจะเริ่มขึ้นพอดี เขาจึงเดินดุ่มไปยังด้านข้างเวทีซึ่งจัดเก้าอี้วางเรียงหันหน้าเข้าหารันเวย์อย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่าคนที่มองตามหลังจะรู้สึกอย่างไร ก็แค่คนรู้จักธรรมดาๆอีกคนนึงในชีวิต!
เก้าอี้ทุกตัวในแถวหน้าสุดหรือที่เรียกว่าฟร้อนต์โรว์มีหมายเลขกำกับตรงกับในบัตรเชิญ เขาได้ที่นั่งตรงเกือบสุดปลายรันเวย์ เป็นจุดที่ดีที่สุด และสามารถเห็นผู้แสดงแบบรวมถึงนาฬิกาได้ชัดเจน
หลังพิธีเปิดซึ่งเป็นไปอย่างหรูหรา แต่กระชับ เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มขึ้นรอบด้าน พร้อมกับที่บรรดานางแบบนายแบบทั้งมืออาชีพและรับเชิญทยอยออกจากหลังเวทีก้าวขึ้นสู่รันเวย์
คอยไม่นานอิงอรุณก็ปรากฏตัวจากด้านขวาของเวที ฝั่งซ้ายเป็นนักแสดงหนุ่มรูปหล่อที่ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างพร้อมกับยกแขนตั้งศอก หญิงสาวคล้องแขนอีกฝ่ายหมับ และฝ่ายชายก็ใช้มือข้างที่ว่างวางทาบทับมืออิงอรุณแขนเสื้อถกขึ้นอวดนาฬิกาอย่างแนบเนียน มองผาดๆดูเป็นคู่รักสวีตหวานจนน่าอิจฉา
อิงอรุณเท้ามือซ้ายที่เอวก้าวเนิบมาดมั่น เธอเฉิดฉายในชุดเดรสลูกไม้สีทองเข้ารูป ซับด้านในเป็นเกาะอกสีครีม ชายกระโปรงระอยู่เหนือเข่าเล็กน้อย ตัวเสื้อลูกไม้สูงชิดคอ ขณะแขนทรงกระบอกแนบเนื้อยาวเลยศอกเล็กน้อย ปักประดับคริสตัลสีทองเป็นดอกไม้กระจายทั่งทั้งตัวสะท้อนแสงไฟเป็นประกายระยิบ เผยให้เห็นผิวเนื้อเพียงวับแวมแต่ก็แลสุุภาพ เข็มขัดสีทองคาดที่บั้นเอวเน้นทรวดทรงชัดเจน ขณะแคชชูส์สีครีมสูงจนน่ากลัวเสริมให้หญิงสาวแลเพรียวสะโอดสะองยิ่งขึ้น
หญิงสาวรวบผมข้างหนึ่งเปิดหูซึ่งสวมต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวเรียบแต่หรู ที่คอและข้อมือไม่สวมสายสร้อยใดๆทั้งสิ้น นาฬิกาที่เธอสวมแสดงแบบคือ ยูลิสนาร์แดง (Ulysse Nardin) คลาสสิโค อเมริโก เวสปุชชี (Classico Americo Vespucci)
ในงานพรมแดงเช่นนี้ ชุดที่ขโมยซีนได้ส่วนมากมักจะเป็นสีดำหรือขาวเปิดโชว์เนื้อหนังตามสไตล์เซเลบริตี้ แต่อิงอรุณกลับสามารถสะกดทุกสายตาให้มองตามเธอได้ทั้งที่ชุดแบบเรียบ สีไม่ฉูดฉาด ทั้งยังมิดชิดที่สุดบนเวที!
เครื่องแต่งกายของเธอขับให้นาฬิกาสายหนังจระเข้สีดำเด่นขึ้นอย่างมีชั้นเชิง ตัวเรือนเป็นทองคำขาวเรียบๆ หน้าปัดเขียนสีลงยาจำลองรูปเรือรบโบราณนาม อเมริโก เวสปุชชี กำลังแล่นในน้ำ โดยมีท้องฟ้าสีฟ้าอมน้ำเงินเป็นพื้นหลัง เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันมีเพียง ๓๐ เรือนทั่วโลกซึ่งผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเรือรบที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งกองทัพเรืออิตาลี ราคาในต่างประเทศอยู่ที่สี่หมื่นเหรียญ ไม่ต้องคิดเลยว่าเมื่อบวกภาษีแล้ว ราคาขายในเมืองไทยจะอยู่ที่เท่าไร!
เมื่อเดินมาจนสุดรันเวย์ อิงอรุณโปรยยิ้มอ่อนหวานไร้ที่ติ ยกมือซ้ายมาแตะแก้มขวา ศีรษะเชิดนิดๆ วางท่าสง่างาม ส่วนนายแบบของเธอก็ละมือที่กุมมือคู่ควง ยกกำปั้นขวาไขว้ขึ้นแทบอกชี้หมัดไปทางบ่าซ้าย
สาวัชมองใบหน้าของหญิงสาวเพื่อหาความผิดปกติ ก็พบว่าเธอโปรยยิ้มอ่อนหวานเจิดจ้าไปทั่วๆ ไม่มีร่องรอยทรมานจากอาการบาดเจ็บสักนิด เขาหงุดหงิดตัวเองขึ้นมากะทันหันที่นึก ‘ห่วง’ ไม่เข้าเรื่อง ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เธอสุขสบายดี ออกจะชื่นบานกว่าตอนเป็นปกติด้วยซ้ำ ชายหนุ่มกำสูจิบัตรในมือ ความรู้สึกประหลาดในใจระรานจนเขาไม่สนใจกับการแสดงที่เหลือ ชายหนุ่มผลุนผลันลุกจากที่นั่งและเบียดผู้ร่วมงานซึ่งแออัดอยู่รอบนอกของรันเวย์จนพ้นจากบริเวณนั้น และมุ่งตรงไปยังทางออกโดยมิพักลังเล
สาวัชจึงไม่มีโอกาสได้เห็นว่าเมื่อไม่มีมือของนายแบบปิดไว้ มือข้างขวาของอิงอรุณกำลังกำท่อนแขนอีกฝ่ายแน่นยึดเขาไว้สุดแรง จิกนิ้วลงในเสื้อสูทจนเห็นเป็นรอยกดชัดเจน!
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@พอใจ : บ่องตงนะเคอะคุณพอใจ
อ่านเม้นต์คุณพอใจทุกที เค้าหัวเราะเสียงดังอะ
อารายจะเมนต์ได้อร่อยขนาดน้านนนนน
คือแบบสะใจได้แซ่บสะท้านทรวงทุกเม็ด 555
ส่วนเรื่องไปงานไหม...ตอนนี้คงได้เห็นแล้วอ่ะเนอะ
ว่าอีตาดอกเตอร์ขี้ซึนของเรา ใจแข็งได้ไม่ตลอดรอดฝั่งหร้อกกกก อิอิ
ป.ล. เค้าคิดไม่ถึงอะ เรื่องให้นางเอกหกล้มขายหน้า
จะว่าไปก็เกร๋นะ แหม่ๆๆ เสียดาย
จะกลับแก้ดีไหมนะ 55555
@Zephyr : คุณขา...กอดสองที หอมแก้มซ้ายขวาซ้ายอีกสามที
ขอบคุณค่ะที่ช่วยกันกด "ชอบตอนนี้" ให้คุณสาวัชกะอิงอรุณ
ถ้าบอกว่าดราฟต์แรก
สิริณเขียนให้สาวิตรีเงียบๆจ๋อยๆเป็นแม่ตามขนบนิยายไทย
จะเชื่อไหมคะ 5555
พอกลับมาอ่านใหม่ มันไม่จี๊ดเลย ก็เลยแก้ใหม่ทั้งเรื่องนี่ล่ะค่ะ
(ถึงเขียนสองปีไงคะ กร๊ากกกกก)
แม่สาวัชนี่ บอกเลย...อ่านไปเรื่อยๆมีเซอร์ไพร้ส์นะเออ
ขนาดสิริณเขียนเอง รู้เรื่องอยู่แล้ว
ยังเช็ดน้ำตาไม่ทันเร้ยยยยยย อิอิ
ขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆ
ไม่ว่าจะเม้นต์ อ่านเฉยๆ หรือกดชอบตอนนี้
คือแค่เห็นฟีดแบกนี่ คนเขียนหายเหนื่อยจริงๆ มีกำลังใจสุดๆ
เดี๋ยวหนังสือพิมพ์เสร็จ
สิริณจะเอามา "จับสลาก" แจกให้เพื่อนๆในเว็บเลิฟแน่นอน
stay tune ไว้นะเคอะ <3 <3 <3
สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 พ.ค. 2559, 20:18:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 พ.ค. 2559, 20:22:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 1270
<< ตอนที่ 17 (100%) | ตอนที่ 18 (66%) >> |
พอใจ 17 พ.ค. 2559, 21:34:53 น.
อ๊ายยยย หมัานไพ่อดร.ซึนๆคนนี้จัง ทำเป็นงอนเค้าที่เค้าไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดให้เห็น คุณดร.ขราาา คนจะมาเดินแบบ เค้าก็ต้องทำหน้าที่ของเค้าให้ดีที่สุดสิคะ ถึงแม้ภายในจะเจ็บเกินทนก็ตาม เดินแบบทั้งทีให้ทำหน้าโอ๊ยๆก็ใช่ที่นะค๊าาา. งอนอะไรไม่เข้าเรื่องนะคะดร.ขราาา อุตส่าห์มาหาเค้าถึงที่ไม่รอคุยกับเค้าซักคำ เก๊กฟอร์มไปเถอะ อิงประกาศแต่งงานเมื่อไหร่น้ำตาตกในแน่ (เพี้ยงง!!อย่านะ เค้าประชดดร.ซึน เฉยๆ 555).
อ๊ายยยย หมัานไพ่อดร.ซึนๆคนนี้จัง ทำเป็นงอนเค้าที่เค้าไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดให้เห็น คุณดร.ขราาา คนจะมาเดินแบบ เค้าก็ต้องทำหน้าที่ของเค้าให้ดีที่สุดสิคะ ถึงแม้ภายในจะเจ็บเกินทนก็ตาม เดินแบบทั้งทีให้ทำหน้าโอ๊ยๆก็ใช่ที่นะค๊าาา. งอนอะไรไม่เข้าเรื่องนะคะดร.ขราาา อุตส่าห์มาหาเค้าถึงที่ไม่รอคุยกับเค้าซักคำ เก๊กฟอร์มไปเถอะ อิงประกาศแต่งงานเมื่อไหร่น้ำตาตกในแน่ (เพี้ยงง!!อย่านะ เค้าประชดดร.ซึน เฉยๆ 555).
พอใจ 17 พ.ค. 2559, 21:36:25 น.
ว๊าย!! พิมพ์ผิดหน่อยนึงบรรทัดแรก หมั่นไส้นะคะหมั่นไส้ พิมพ์อะไรไปนั่น หม้านไพ่ พอใจงง555
ว๊าย!! พิมพ์ผิดหน่อยนึงบรรทัดแรก หมั่นไส้นะคะหมั่นไส้ พิมพ์อะไรไปนั่น หม้านไพ่ พอใจงง555
นักอ่านเหนียวหนึบ 18 พ.ค. 2559, 00:52:14 น.
โธ่ๆๆๆๆๆๆ ไอเราก็นึกว่านั่งตรงนั้นแล้วจะได้ร้บสาวน้อยตกเวทีไรงี้ โว๊ะ ใจร้อนรีบไปหนายยยยยยย ด็อกนี่ ไม่รู้เรื่องเลย
โธ่ๆๆๆๆๆๆ ไอเราก็นึกว่านั่งตรงนั้นแล้วจะได้ร้บสาวน้อยตกเวทีไรงี้ โว๊ะ ใจร้อนรีบไปหนายยยยยยย ด็อกนี่ ไม่รู้เรื่องเลย
konhin 18 พ.ค. 2559, 02:02:59 น.
หึๆๆ มันต้องเข้าใจผิดกันบ้างสิ
หึๆๆ มันต้องเข้าใจผิดกันบ้างสิ
Zephyr 18 พ.ค. 2559, 12:20:35 น.
เหม่ เฮ้ยยยย สำรวจกะให้มั้งตัวสิด๊อก
นี่อะไรมองแต่หน้ากะรอยยิ้ม ไม่มองตรงอื่นเล้ยยย
รึรอยยิ้มเธอทำหึงหน้ามืด ไม่สนใจจะมองต่ำลงมา
ความเฉลียวหายโหม้ดดดด เมื่ออยู่กะอิงสินะ หึ
งอนเอง หึงเอง เดี๋ยวกะหายเอง เชื่อดิ
ว่าที่ภรรยายังไม่รู้เรื่องใดๆ 555
เหม่ เฮ้ยยยย สำรวจกะให้มั้งตัวสิด๊อก
นี่อะไรมองแต่หน้ากะรอยยิ้ม ไม่มองตรงอื่นเล้ยยย
รึรอยยิ้มเธอทำหึงหน้ามืด ไม่สนใจจะมองต่ำลงมา
ความเฉลียวหายโหม้ดดดด เมื่ออยู่กะอิงสินะ หึ
งอนเอง หึงเอง เดี๋ยวกะหายเอง เชื่อดิ
ว่าที่ภรรยายังไม่รู้เรื่องใดๆ 555