: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 20 (50%)

เมื่อริสากลับไปยังห้องทำงานของรองกรรมการผู้จัดการ เธอสั่งการทนายของบริษัทเสียงขรึม สีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจดูเคร่งเครียดจนน่ากลัว “ตรวจสอบประวัติการเงินของสาวัช ปรเมศวร์ ให้ที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดการเข้าถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์”

“ทำไมต้องทำอย่างนั้นครับ” ธนภูมิฉงน

“เขารู้รายละเอียดการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เยอะเกินไป เหมือนคนที่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์เป็นอย่างดี และที่สำคัญ...” ริสาเลื่อนกระดาษแผ่นหนึ่งไปตรงหน้าชายหนุ่ม “เขาเขียนนี่มาวางให้ฉันก่อนออกจากห้องประชุม”

ธนภูมิอ่านข้อความนั้นแล้วขมวดคิ้ว “เขาเสนอให้ว่าจ้างบริษัทประเมินราคาหุ้นของปรเมศวร์เทรดดิ้งทำไมครับ”

“เขาคงคิดว่าเราก็ควรรู้มูลค่าหุ้นของเราว่ามันมากหรือน้อยกว่าที่ซูเปอร์โคลาประเมิน” ริสาไตร่ตรอง “ข้อเสนอของเขาน่าสนใจ คุณหาชื่อบริษัทประเมินให้ฉันสักสองสามแห่งสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าด้วยแผนงาน ยอดขายและสินทรัพย์ปัจจุบัน ราคาที่เหมาะสมจริงๆของหุ้นพีอาร์เอ็มควรอยู่ที่กี่บาท”

“ผมจะทำรายงานเกี่ยวกับคุณสาวัช และจัดหารายชื่อบริษัทประเมินมาวางไว้ให้บนโต๊ะภายในวันพรุ่งนี้” ธนภูมิชั่งใจชั่วครู่จึงเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ในเมื่อเรารู้ว่าราคาหุ้นจะไปถึงยี่สิบเก้าบาท คุณก็น่าจะทยอยเก็บหุ้นพีอาร์เอ็มนะครับ”

“จะให้ฉันช้อนหุ้นไว้ขายซูเปอร์โคลาเหรอ ฉันไม่ได้ซื้อตัวคนวงในไว้เพื่อเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก” ริสาปราม “กำไรน่ะใครก็อยากได้ แต่มันไม่คุ้มกับการที่เราต้องเสียบริษัทและอำนาจบริหารให้ทางสเปนหรอกนะ ยังไงฉันก็ต้องยับยั้งการเทคโอเวอร์ของซูเปอร์โคลาให้ถึงที่สุด”

“ปัญหาก็คือเราขาดสภาพคล่อง ถ้ามีแหล่งทุนหนุนหลัง เราน่าจะปักหลักแลกหมัดกับซูเปอร์โคลาได้ดีกว่านี้”

“ฉันนัดคุณชนวีร์ไว้แล้ว ถ้าณัฐภัทรคอร์ปฯยอมให้การสนับสนุนด้านการเงิน หมากเกมนี้อาจจบแบบพลิกล็อกก็ได้”

ธนภูมิยืนตัวตรง “คุณริสานัดไว้วันไหนครับ ผมจะได้จัดเตรียมงบการเงินย้อนหลังของปรเมศวร์เทรดดิ้ง รวมถึงแผนการตลาดตลอดปีหน้าของเราไว้ให้”

“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ไปเจรจาตามหน้าที่รองซีอีโอของปรเมศวร์เทรดดิ้ง แต่จะไปขอร้องณัฐภัทรคอร์ปฯในฐานะเพื่อนของคุณรินรดา ณัฐภัทร” ริสาเอ่ยถึงสหายของเธอซึ่งเป็นภรรยาของประธานกรรมการบริหารธนาคารในเครือณัฐภัทรคอร์ปอเรชันซึ่งเป็นกลุ่มการเงินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “ด้วยราคาหุ้นในตลาดตอนนี้ ถ้าเรามีวงเงินสักพันแปดร้อยล้าน ซื้อหุ้น ๔๒% ได้สบายๆเลย รวมกับที่ครอบครัวปรเมศวร์มีอยู่แล้วอีก ๙% ซูเปอร์โคลาก็ทำเทนเดอร์ไม่สำเร็จละ”

“ผมเข้าใจครับ เพราะตราบใดที่เรายังไม่เซ็นสัญญาการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฉบับใหม่กับซูเปอร์โคลา ไพ่ในมือเราก็ยังไม่ดีพอที่จะขอให้ณัฐภัทรคอร์ปฯปล่อยกู้ตามช่องทางปกติ ทางเดียวที่มีก็คือใช้สายสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อน”

ริสาก้มศีรษะครุ่นคิด “คุณเคยให้ใครประเมินมูลค่าของอาคารโภไคยทาวเวอร์บ้างไหม”

“มีแต่ราคาประเมินคร่าวๆเมื่อสองปีก่อน ตกอยู่ในราวสองพันสามร้อยล้าน ครับ” ธนภูมิตอบแล้วชะงัก สีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น “คุณริสาจะเอาไปค้ำกับแบงก์หรือครับ”

หญิงสาวส่ายศีรษะ “ฉันกำลังคิดถึงการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์โดยการตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างหาก ทุกวันนี้ผลตอบแทนจากอาคารโภไคยทาวเวอร์จัดอยู่ในขั้นดีมาก ถ้าเราเอาอาคารสำนักงานตั้งเป็นกองทุนอสังหาฯ เสนอขายให้นักลงทุน ระดมทุนเข้ามาแทนการกู้แบงก์ ก็น่าจะต่อกรกับซูเปอร์โคลาได้สมน้ำสมเนื้อนะ”

“ขั้นตอนการจัดตั้งกองทุนอสังหาฯเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาราวสี่เดือนกว่าจะได้เงินเข้ามาคงไม่ทันหรอกครับ อีกอย่างซูเปอร์โคลามีแผนทำเทนเดอร์ในอีกสามเดือนข้างหน้า ถึงตอนนั้นราคาหุ้นของพีอาร์เอ็มในตลาดคงขึ้นไปอยู่ในระดับเกือบๆยี่สิบเก้าบาทแล้ว ระดมทุนเข้ามาสองพันสามร้อยล้านเราคงได้หุ้นมาแค่ ๒๙-๓๐% รวมกับที่มีในมือตอนนี้ ๙ เปอร์เซ็นต์ ก็เป็น ๓๙% ไม่เพียงพอสำหรับการครอบครองอำนาจบริหาร”

“คุณธนภูมิกับทีมงานลองศึกษารายละเอียดการจัดตั้งกองทุนอสังหาฯให้ฉันที ถึงจะขอพบในฐานะเพื่อน แต่ฉันก็อยากมีอะไรติดมือไปเจรจากับณัฐภัทรคอร์ปฯบ้าง เราอาจยังพอมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ก็ได้”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายโบกมือเป็นเชิงบอกว่าจบการสนทนาเพียงเท่านั้น ธนภูมิจึงค้อมศีรษะหมุนกายออกจากห้อง ความหดหู่จากการประชุมที่ผ่านมาเปลี่ยนแปรเป็นฮึกเหิม ทางออกของริสาอาจไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด แต่เขาเชื่อมั่นว่าด้วยสองมือของผู้หญิงเก่งและแกร่งคนนี้ ปรเมศวร์เทรดดิ้งจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน แถมยังเป็นไปอย่างดีด้วย!






แยกกับวัชระกลับมานั่งทำงานได้ไม่ทันไร สาวัชก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความฉงนเมื่อได้ยินพนักงานแจ้งทางโทรศัพท์ว่า “มีแขกมาขอพบคุณสาวัชค่ะ”

“อิงเองค่ะคุณสาวัช” เสียงแจ้วดังมาตามสายชัดเจน บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงไม่แค่ยื่นหน้ามาพูด แต่น่าจะดึงกระบอกโทรศัพท์ไปจากมือประชาสัมพันธ์เลยมากกว่า

“คุณสาวัชบอกน้องเขาหน่อยสิคะ ว่าอนุญาตให้อิงเข้าไปข้างในได้เลย”

สาวัชถอนใจ จำต้องทำตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง ชั่วไม่ถึงห้านาที อิงอรุณก็มาปรากฏกายที่ห้อง ชายหนุ่มจับตามองการเดินของเธออย่างสังเกตสังกา พลันหงุดหงิดเมื่อเห็นหญิงสาวโหย่งเท้าทิ้งน้ำหนักที่ขาข้างเดียว อีกข้างกระเผลกเร็วๆ

“ขายังเจ็บอยู่ เดินมาทำไม”

“ก็มาหาคุณสาวัชน่ะสิคะ”

“ผมจำได้ว่าไม่ได้เชิญคุณมาที่ออฟฟิศนะ”

“ก็เมื่อเช้าอิงลืมรองเท้าไว้บนรถคุณไงคะ”

“แล้วยังไง กลัวผมเอาไปโยนทิ้งเหรอ”

“ม่ายช่ายค่า” เธอลากเสียงตีหน้าทะเล้น เสมองซ้ายขวา “ที่นี่เขาไม่มีน้ำท่ามาต้อนรับแขกหรือคะ”

โชคดีที่สาวัชห้ามตัวเองทัน มิเช่นนั้นเขาคงเผยอยิ้มกับท่าทางละม้ายเด็กห้าขวบของอีกฝ่าย “คุณแค่มาเอารองเท้าคืนไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องดื่มน้ำหรอกมั้ง”

“คุณสาวัชอย่าตระหนี่กับแขกสิคะ” อิงอรุณถือวิสาสะทิ้งตัวนั่งตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะ “อีกอย่างอิงเดินมาไกลพอสมควร แอบเจ็บแผลนิดนึงเหมือนกันนะเนี่ย ขอพักก่อนแป๊บนึงไม่ได้เหรอคะ”

“ผมต้องทำงาน”

“อิงก็นั่งอยู่เฉยๆนี่คะ ไม่ได้รบกวนเวลาทำงานของคุณสักหน่อย” เธอแสร้งยกข้อมือขึ้นดูเวลา “แต่เอ๊ะ! นี่มันเลิกงานแล้วนะคะ ไหนๆอิงก็จะไปขอรับรองเท้าคืนที่รถคุณสาวัชอยู่แล้ว ยังไงรบกวนคุณไปส่งอิงที่บ้านด้วยได้ไหมคะ”

“คุณอิงอรุณ ผมเป็นคนขับรถของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”

“แหม...เรียกซะใจร้ายเลย แค่ขอติดรถไปด้วยเอง รัฐบาลบอกว่าเราต้องรวมพลังหารสองนะคะ เคยฟังเพลงนี้ไหมคะ ไปด้วยกันๆๆ ถ้าไปด้วยกัน น้ำมันก็ไม่เปลือง สองคนสองคันเยอะปาย...” เธอครางเพลงหงุงหงิงแปลงเนื้อเพลงเองตามใจชอบ ดวงตาแพรวพราวระยิบระยับล้อเลียน

สาวัชพับแฟ้มเลื่อนไปวางข้างๆ แล้วสบตาหญิงสาวจริงจัง “วิทยากรคุณก็มีแล้ว ทำไมยังต้องมาวุ่นวายกับผมอีก”

“อิงไม่ได้วุ่นวายสักหน่อย”

“นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไง แต่สำหรับผม คุณยุ่ง คุณวุ่นวาย”

“ไม่เป็นวิทยากรให้อิงก็พอเข้าใจนะคะ แต่แหม...เป็นเพื่อนก็ไม่ได้เหรอคะ”

“คุณเคยบอกเองว่ามีเพื่อนน้อยเพราะต้องเลือกคบคน เพราะฉะนั้นก็อย่าจัดผมเป็นเพื่อนเลย ผมไม่มีคุณสมบัติเพียงพอหรอก”

“คุณเกลียดการเข้าสังคมและการมีเพื่อนหรือคะ”

“ไม่ต้องมาวิเคราะห์ผม” เขาดักคอด้วยสีหน้ารู้ทัน

อิงอรุณเป่าปากพรู ยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นระดับไหล่เป็นเชิงบอกว่ายอมแพ้ “โอเคค่ะ จากนี้อิงจะไม่มาวุ่นวาย ไม่มายุ่งหรือรบกวนคุณอีกแล้ว ถ้าที่ผ่านมาทำให้รำคาญใจก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ”

ทั้งที่ควรโล่งใจ จู่ๆสาวัชกลับใจแป้วอย่างบอกไม่ถูก เขาเสจัดระเบียบของบนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว ครั้นนึกได้จึงลุกพรวดขึ้นยืน “ผมจะกลับละ”

“งั้นอิงขอแค่ไปรับรองเท้าคืนก็แล้วกันค่ะ”

ชายหนุ่มอึกอัก ความรู้สึกต่อสู้กันในใจ สุดท้ายก็โพล่งไปอย่างอดไม่ได้ “แล้วคุณจะกลับยังไง”

“รถอิงยังอยู่ในลานจอดของออฟฟิศค่ะ อิงไม่อยากทิ้งไว้ตากแดดหลายวัน อย่างมากก็ขับกลับเอง ไม่มีอะไรเกินความพยายามหรอกค่ะ”

“เดี๋ยวแผลก็ฉีกอีกหรอก” ขาขวาเจ้าปัญหาเจ็บอย่างนั้น เจ้าหล่อนจะขับรถยังไง ดีไม่ดีคงเจ็บซ้ำไปกันใหญ่

“ยังไงก็ต้องแวะไปให้หมอล้างแผลอยู่แล้ว ถ้าฉีกอีก ก็ฉีดยาอีก ไม่ยากหรอกค่ะ” อิงอรุณลุกขึ้นยืนบ้างเช่นกัน “เราไปกันเลยดีไหมคะ”

“รองเท้านั่น ต้องรีบใช้หรือเปล่า” เขาอ้อมแอ้มถาม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

“ไม่หรอกค่ะ” อิงอรุณยิ้มบางๆ “มันก็แค่ข้ออ้างที่อิงใช้เพื่อมาพบคุณเท่านั้นเอง”

สาวัชงันไปเสี้ยววินาที ถ้อยคำของหญิงสาวเกือบจะปักลงตรงกลางใจแล้ว มันเฉี่ยวหัวใจเขาไปไม่ถึงองคุลี แต่กระนั้นก็ทำให้เขาเสียศูนย์อยู่ดี “ข้ออ้างมาพบผม?”

“เวลาคุยกับคุณสาวัช อิงสนุกดี ก็เลยตีขลุมเอาเองว่าคุณก็คงคิดคล้ายๆกัน ถึงจะแสดงออกต่างกันก็เถอะ แต่ในเมื่อคุณยืนกรานว่าอิงรบกวนชีวิตคุณ อิงก็จะจัดระเบียบความคิดของตัวเองใหม่ เลิกตีความที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงซะที”

สนุกดี! นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดว่าจะได้ยินด้วยซ้ำ ปกติคนที่อยู่กับเขามักจะมีอารมณ์อยู่ไม่กี่แบบ เบื่อหน่าย รำคาญ เกร็ง อึดอัด และอีกหลากหลายความรู้สึกในทางลบ อะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่สนุก!

หากอิงอรุณเป็นพินอคคิโอ ป่านนี้จมูกเธอคงยาวเป็นฟุตแล้ว

“คุณก็แค่เห็นว่าผมแปลกกว่าคนอื่นรอบตัวเท่านั้นเอง”

หญิงสาวส่ายหน้า “ถ้าคุณคิดแบบนั้นแล้วสบายใจ ก็เชิญตามสบายเถอะค่ะ”

ดูเถิด! เจ้าหล่อนยกคำพูดเขามาใช้ซ้ำได้ไม่ผิดเลยแม้แต่คำเดียว

อิงอรุณลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเก้งก้างเห็นชัดว่ายังทิ้งน้ำหนักที่ขาข้างเจ็บไม่ถนัด “ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป พรุ่งนี้คุณช่วยเอารองเท้าติดมาด้วยนะคะ อิงจะให้เด็กมารับคืน ขอบคุณที่ช่วยเหลือหลายๆครั้งที่ผ่านมา แล้วก็ขอโทษอีกทีถ้าทำให้รำคาญใจ ลาละค่ะ” เธอค้อมศีรษะนิดๆแล้วเดินไปที่ประตูโดยไม่อาวรณ์อ้อยสร้อย

“เดี๋ยว!” สาวัชโพล่งออกไปก่อนจะทันห้ามตัวเอง

อิงอรุณยืนนิ่งๆไม่หันกลับมาสักนิด

“อยากเอารถกลับบ้านใช่ไหม ผมขับให้เอง”

เธอเบือนหน้ามาอย่างเชื่องช้า คลี่รอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้า “ขอบคุณค่ะ”

สาวัชผ่อนลมหายใจออกแผ่วเบา ไม่รู้ตัวสักนิดว่าโล่งอก ทั้งยังไม่กล้ายอมรับว่าลึกๆแล้วเขากลัวอิงอรุณจะบอกปัดความปรารถนาดีของเขาเพียงใด!







: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :


ตอนที่ 20 นี่พระนางแหย่กันเต็มๆ
ฉากหน้าก็ฟินกันต่อนะคะ
เกาะหน้าจอเอาว้ายยยยยย อิอิ



@พอใจ : ใช่ว่าพี่สาวจะโง่ค่ะพอใจ
นางเริ่มระแคะระคายแล้วเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าใครจะเปิดไพ่ก่อนเนอะ อิอิ

ส่วนเรื่องคนที่แม่อิงอยากได้เป็นลูกเขย
มันเป็นประเด็นหลักของเรื่องนะคะ
ถ้าบอกแบบนี้จะโดนพอใจค้อนไหมอะ
คือว่า...เฉลยหน้าสุดท้าย 5555



@sumitt777 : ว้าวๆๆๆ ถ้าบอกว่าเดาถูกเป๊ะเนี่ย
จะถือว่าสิริณสปอยล์ปะคะ อิอิ
แต่รับรองว่าถึงเดาถูก แต่ก็ถูกแค่บางส่วน
ยังมีเรื่องให้ตกลึงซ่อนอยู่อีกนะเออ
(สิริณยักคิ้วยิ้มทะเล้น ล้อเลียนคุณสุมิตต์ ฮาๆๆ)



@Zephyr : จุดเปลี่ยนมีแน่ค่ะ
ตอนนี้เริ่มมีแววของจุดเปลี่ยนมานานละนา
แต่ต้องสังเกตดีๆ สิริณหยอดมาหลายตอนแล้ววววว อิอิ



@Kim : ลุ้นกันหนุกๆเนอะ
อ้อ...คุณคิมส่งที่อยู่ทางกล่องจดหมายให้เวย์ทีค่ะ
อยากส่งของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆไปให้ ^^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ค. 2559, 20:23:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ค. 2559, 20:23:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1384





<< ตอนที่ 19 (100%)   ตอนที่ 20 (100%) >>
Zephyr 26 พ.ค. 2559, 21:08:52 น.
มันกะดูมีเค้าลางน่ะ
แต่เราอดรู้สึกจึกๆกับนิสัยนางเอก แบบ
เฮ้ออออออออออออออออออออ เพลีย


พอใจ 26 พ.ค. 2559, 21:57:43 น.
นั่น!!เจ๊สารี่ เอ๊ย!! ริสา เริ่มให้พวกตรวจสอบน้องชายต่างแม่ของตัวเองแล้ว นางจะข่มน้องตัวเองไปถึงไหนนะ แต่ก็อย่างว่านะคะ คนเคยใหญ่เคยคุมทุกอย่างถ้าอยู่ๆน้องมาฮุบเอาในส่วนที่ตัวเองเคยยืนอยู่ก็คงทำใจลำบากแน่เลยค่ะ ส่วนหนูอิงนี่อยู่ๆ ก็บุกไปหาผู้ชายเลยนะคะ แต่เค้าชอบ555 เพราะถ้าจะให้ดร.บุกคงได้แก่กันไปข้าง ส่วนดร.ผู้ไม่รู้ใจตัวเอง รักษาฟอร์มเชอะๆ สุดท้ายพอเค้าเหมือนจะไม่สนใจตัว ก็เก๊กฟอร์มนิดนีงแต่ก็ยอมศิโรราบอยู่ดี แอบสะใจเล็กๆค่ะ5555 ปูลู คุณสิริณเล่นสปอยล์ไว้ว่าเรื่องแม่อิงอยากได้ลูกเขยอยู่หน้าสุดท้าย ตะลึงพรึงเพริดเลยค่ะ 55555


sumitt777 26 พ.ค. 2559, 22:46:24 น.
โอ้ว..แค่นี้ก็ฟิน แว๊ว รอฉากต่อไปค่ะ ช่างรู้ใจรีดเดอร์ จริง ๆ ค่ะ จุ๊บบบบบ ^__^


arixiah 27 พ.ค. 2559, 01:20:02 น.
ไม่เข้าใจว่านางเอกคิดอะไรอยู่
จริงๆจะเม้นท์ตั้งแต่ตอนที่อยู่ร.พ.แล้วค่ะ
คือนางมีคนที่นางตั้งใจจะแต่งงานแล้ว แต่กลับตั้งใจมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆพระเอก
ถึงจะไม่ได้รักอีกคน แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้เลย
พระเอกเริ่มเปิดใจนางแล้วนะคะ ถ้ารู้ว่านางเอกกำลังจะแต่งงาน คงผิดหวังน่าดู


Kim 27 พ.ค. 2559, 08:37:46 น.
อ่านตอนนี้แล้วสงสารพระเอกยังไงไม่รู้ เหมือนถูกนางเอกปั่นหัว คนมีปมด้อยน่ะจริงจังจริงใจนะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 27 พ.ค. 2559, 22:17:20 น.
แหม่ๆ ลุ้นๆ ใจให้กระชุ่มกระชวยยยยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account