: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 20 (100%)
ออดี้ขับเคลื่อนสี่ล้อจอดแน่นิ่งอยู่ท่ามกลางสี่แยกห่างจากสัญญาณไฟจราจรแค่ไม่ถึงสามสิบเมตรมาเกือบสิบห้านาทีแล้ว อิงอรุณหมุนคอขับไล่ความเมื่อยขบ พลางกวาดตามองไปนอกรถฆ่าเวลา
“อุ๊ย! ข้างทางมีข้าวเกรียบปากหม้อด้วย น่ากินจัง” เธอหันไปทางชายหนุ่มซึ่งทำหน้าที่สารถี “รถคงจะติดอีกนาน เดี๋ยวอิงลงไปซื้อมากินเล่นระหว่างรอดีกว่า รอแป๊บนึงนะคะ”
เอ่ยจบเธอก็ปลดเข็มขัดนิรภัย เอี้ยวตัวหมายจะใช้มือขวาดึงคันเปิดประตู พลันข้อมือก็ถูกล็อกไว้ด้วยคีมเหล็ก หญิงสาวมองไล่ไปตามท่อนแขนนั้นจนไปสุดที่ใบหน้าของคนขับ “คุณสาวัชดึงอิงไว้ทำไมคะ”
“จะบ้าหรือไง คุณเจ็บขาอยู่นะ เที่ยวเดินดุ่มลงไปข้างทางแบบนี้ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
“ก็ให้คุณสาวัชพาไปโรงพยาบาลอีกสิคะ ง่ายจะตาย”
“นั่งอยู่นี่แหละ”
“แต่อิงหิวนี่คะ”
“คุณอิงอรุณ คุณรู้จักคำว่าอดทนบ้างไหม”
อิงอรุณกลั้นยิ้ม พยักหน้า “รู้จักค่ะ แต่ไม่เคยต้องทำแบบนั้นเลย พ่อกับแม่อิงใจดี อิงอยากได้อะไรก็ต้องได้ทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องอดทนหรอกค่ะ” นั่นโม้เกินจริงไปหน่อย แต่ไม่สำคัญหรอก แหย่ให้สาวัชกริ้วได้ สนุกกว่าตั้งเยอะ ยิ่งตอนเขาทำหน้าพิพักพิพ่วนรับมือเธอไม่ถูก อิงอรุณก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะในการโต้เถียงยกนั้นๆแล้ว
“งั้นก็หัดซะ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย” แต่ยกนี้...เธอเพลี่ยงพล้ำแฮะ! เปลี่ยนเรื่องดีกว่า...
อิงอรุณเหลือบมองคนข้างๆ สิ่งที่เขาพูดบางเรื่องยังค้างคาอยู่ในใจ “ถามจริงๆนะ อิงเป็นตัวยุ่งวุ่นวาย ทำให้คุณรำคาญใจมากเลยหรือคะ”
“จะรู้ไปทำไม” การย้อนถามด้วยโทนเสียงมะนาวไม่มีน้ำแบบนี้ แทบไม่ต่างกับการยอมรับตรงๆ
“คุณว่าอิงจะปรับปรุงตัวเองได้ไหมคะ”
“คนไม่รู้จักอดทน คงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกมั้ง”
“แหม...ไม่ให้กำลังใจกันเลย” เธอทำปากยื่น ยู่หน้าใส่ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
“แล้วคุณจะอยากปรับปรุงตัวเองทำไม”
“ก็อิงอยากเป็นเพื่อนคุณสาวัชนี่คะ”
“เหตุผลล่ะ?”
“มีเพื่อนเป็นดอกเตอร์เท่จะตายนะคะ” มันเป็นความจริงแค่บางส่วนเท่านั้นแหละ ที่จริงแล้วเธอสงสารเขา อยากให้เขามีโลกที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน และคาดไม่ถึงบ้าง ขืนเอาแต่หน้ายุ่งทั้งปีทั้งชาติ มีหวังหน้าตาหล่อๆนี่คงแก่ก่อนวัยแหง
“พี่ชายคุณก็เป็นดอกเตอร์”
“ขืนแซวพี่ชายแบบนี้ อิงคงโดนดุแน่ๆ แต่คุณสาวัชใจดีกว่าพี่นรานี่คะ แหย่ได้”
ดวงตาคมตวัดมาสบสานกับเธอ แผ่รัศมีความโหดจากดวงตาทั้งคู่ “แหย่?”
“หมายถึงพูดคุย โต้แย้งกันน่ะค่ะ” อิงอรุณรีบแก้คำผิด เธอเผลอหลุดปากพูดความจริงไปได้ไงเนี่ย
สาวัชเสเบือนหน้ากลับไปทางท้องถนนอีกครั้ง เขาดูปกติเสียจนเธอเกือบเชื่อแล้ว ถ้าไม่สังเกตเห็นว่ามือทั้งคู่นั้นกำพวงมาลัยรถแน่น
อิงอรุณกล้าๆกลัวๆเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนเขา “คุณสาวัชโกรธอิงหรือคะ”
“เอามือออกไป” วาจาและน้ำเสียงเย็นชานั้นบอกได้ดีกว่าการยอมรับตรงๆเสียอีก
“อิงพูดอะไรผิดคะ บอกอิงสิ อิงจะได้ขอโทษ” หญิงสาวเร่งอธิบาย ลืมคิดไปว่าแค่ไม่ถึงชั่วโมงที่พบสาวัช เธอเอ่ยคำว่าขอโทษไปแล้วกี่ครั้ง
แม้จะจบการศึกษาด้านจิตวิทยาโดยตรง แต่อิงอรุณพบว่าปฏิกิริยาของผู้ชายคนนี้ยากแก่การคาดเดาและวิเคราะห์อย่างยิ่ง วินาทีที่แล้วเขายังต่อปากต่อคำกับเธออยู่เลย แค่นาทีถัดมา สาวัชกลับเปลี่ยนสู่โหมดน้ำแข็งขั้วโลกดื้อๆ ต้องมีอะไรกระตุ้นให้เขารู้สึกไม่ดีแน่ๆ
“คุณไม่ชอบที่อิงใช้คำว่าแหย่กับคุณหรือคะ”
“ผมไม่ใช่เด็ก”
“แค่พูดผิดหูนิดนึง ก็ไม่พอใจ แบบนี้ยิ่งกว่าเด็กอีกค่ะ”
เขาหันมามองเธอด้วยสายตาดุๆ ทำท่าเหมือนกำลังหาคำดุคำเอ็ดอยู่ในใจ
“อุ๊ย! ไฟเขียวแล้วค่ะ ออกรถกันดีกว่า” เธอทำสีหน้ากระตือรือร้นล้อเลียน
อิงอรุณหัวเราะคิกเมื่อเห็นชายหนุ่มเม้มปาก หน้าตาบึ้งตึง ขณะเคลื่อนรถช้าๆ เธอยื่นมือไปตรงหน้าเขา หมุนข้อมือแล้วฮัมเพลง “แต่ช้าแต่ เขาแห่ยายมา มาถึงศาลา เขาวางยายลง”
สาวัชเบือนหน้าหลบมือเธอ ทั้งยังหันมาขึงตาดุใส่อีกครั้ง
หญิงสาวไม่กลัว เธอยื่นมือไปตรงหน้าเขาอีกครั้ง ร้องเพลงต่อให้จบ “ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ ออระแร้ ออระชอน”
เขาปัดมือเธอออก ทั้งยังหันมาเอ็ดเสียงเขียว “อิงอรุณ!”
โครม! เสียงนั้นดังขึ้นจากด้านหลังของรถพร้อมกับแรงกระแทกรุนแรง โชคร้ายที่เธอปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อกี้ตอนจะลงไปซื้อขนมข้างทาง ทำให้อิงอรุณหน้าทิ่มศีรษะโขกกับคอนโซลด้านหน้า เธอหยัดตัวตรงมือคลำหน้าผากป้อยๆ ได้ยินสาวัชสบถเต็มสองหู ครั้นลอบสำรวจเขาด้วยปลายตาก็เห็นชายหนุ่มกำลังดูกระจกมองหลัง
“บ้าชะมัด! รถเราโดนคันหลังชน คุณโทร.แจ้งประกัน เดี๋ยวผมลงไปจัดการเอง” เขาสั่งหน้าเคร่ง ลงจากรถทันที
อิงอรุณถอนหายใจ โทร.เรียกเจ้าหน้าที่ประกันภัย แล้วสังเกตการณ์จากในรถพบว่าตำรวจจากป้อมตรงสี่แยกมาพ่นสเปรย์บนพื้นถนนแล้วอนุญาตให้คู่กรณีเคลื่อนรถจากพื้นที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ครั้นพนักงานบริษัทประกันภัยมาถึง สาวัชก็ไปสะสางรายละเอียดและเอกสารจนแล้วเสร็จ ตลอดเวลาเขาสั่งให้เธอทำแค่...
“คุณเจ็บขาอยู่ งั้นก็รอบนรถนี่แหละ อย่าทำให้มันยุ่งไปกว่าที่เป็นอยู่เลย” แน่ใจนะว่าประโยคนั้นคือความห่วงใยอะ!
เกือบสามสิบนาทีชายหนุ่มจึงกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้งในสภาพเหงื่อโซม เชิ้ตเปียกแนบแผ่นหลัง อิงอรุณเปิดฝาแล้วส่งขวดน้ำให้เขา สาวัชเหลือบมามองแวบเดียวแล้วรับน้ำไปดื่ม
“ทำไมเวลาเจอคุณถึงมีแต่เรื่องนะ” เขาเปรยลอยๆ
“นั่นสิคะ สงสัยดวงเราจะชงกัน” อิงอรุณชักเห็นด้วย
“คุณคงต้องให้คนรถเอามันไปเข้าศูนย์ซ่อมนะ เพราะท้ายยุบ กันชนหลังหลุด นี่ต้องเอาเชือกมัดไว้ชั่วคราว”
“ชนแรงมากเลยเหรอคะ”
“คุณถึงกับหัวโขกคอนโซล แรงไหมล่ะ”
อิงอรุณพยักหน้าแหยๆ เสียงอ่อย “เอารถเข้าศูนย์ อย่างนี้อิงก็ไม่มีรถใช้สิคะ”
ชายหนุ่มถอนหายใจ “ระหว่างที่รถคุณซ่อมอยู่ ผมจะรับส่งคุณเอง”
หากทำได้เธอคงหาไม้มาแคะหูเสียตรงนั้น “คุณสาวัชพูดจริงหรือคะ”
“ผมทำให้รถคุณถูกชน ก็ต้องรับผิดชอบ” เขาส่งขวดน้ำมาคืน แต่แทนที่จะวางมันใส่มือ ชายหนุ่มกลับยื่นขวดไปประคบหน้าผากเธอแทน “จับไว้”
อิงอรุณลมหายใจสะดุด เป็นอีกครั้งที่หัวใจเต้นระรัวด้วยจังหวะประหลาด เธอรีบยกมือขึ้นประคองขวดน้ำ ระมัดระวังมิให้มือแตะโดนกันแม้แต่น้อย จากหางตาเธอเห็นคนข้างๆเข้าเกียร์นำรถเคลื่อนจากที่อีกครั้ง
รถแล่นไปช้าๆตามจังหวะสัญญาณไฟจราจร ทว่าอิงอรุณไม่รับรู้สภาวการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นรอบตัว หัวใจเธอคล้ายตกหล่นอยู่ตรงที่เกิดเหตุ มันปลิววับหายไปเพราะแค่สิ่งเล็กน้อยที่ผู้ชายคนนี้ปฏิบัติต่อกัน
หญิงสาวก้มหน้า มือกดขวดน้ำแนบหน้าผาก ความเย็นจากขวดน้ำซึมซาบผ่านผิว เช่นเดียวกับรอยเย็นฉ่ำบางประการที่หยาดหยดลงในเนื้อหัวใจ...ทีละนิดๆโดยไม่รู้ตัว!
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@Zephyr : ขอความเป็นธรรมให้อิงอรุณด้วยค้าบบบบ
นางเป็นเด็กเอาแต่ใจอะ ปูพื้นมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว
อยากได้คนนี้เป็นเพื่อน ก็ต้องดันทุรังจนได้นั่นแหละ 5555
แต่เพราะอิงไม่เคยมีแฟนแบบคนรักจริงๆ
อิงก็เลยไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่ ตัวเองคิดกับสาวัชมากกว่าเพื่อน
กว่าจะรู้ตัวก็โน่น...มีเฉลยแหละค่ะ 55555
@พอใจ : พอใจเรียกริสาว่าพี่สารี่ บอกเลยสิริณเกือบพ่นน้ำใส่จอ
ขำพรวดเลย อารมณ์ดี ช่างแหย่อะไรเบอร์นั้นค้าาาาาา 5555
ส่วนสาเหตุที่ริสาสั่งตรวจสอบ ไม่ใช่เพราะจะข่มน้อง
แต่เป็นเพราะนางมีนิสัย รู้เขารู้เรา ค่ะ
เป็นนักธุรกิจที่ทำธุรกิจจริงๆ ก่อนจะรบ ต้องประเมินคู่ต่อสู้
เพื่อดูว่าควรรับไว้เป็นมิตรหรือศัตรู
สิริณชอบริสานะ ถึงนางนะร้าย แต่ก็เป็นนิสัยแบบปุถุชนดี อิอิ
ใจจริงอยากสปอยล์กว่านี้นะคะ กลัวพอใจตะลึงหนักกว่าเดิม กร๊ากกกก
@sumitt777 : นี่สิริณรู้ใจต่อเนื่องนะคะ จัดมาให้ยิ้มๆหวานๆกันยาวๆ
พี่ ดร. แกมีความปากแข็งที่ปิดไม่มิดโผล่หางมาตลอดแหละค่ะ ฮ่าๆๆ
@arixiah : จริงๆสองฉากในตอนที่ 20 นี่
ก็บอกเหตุผลการกระทำของอิงอรุณไว้พอสมควรนะคะ
อิงอรุณไม่เคยมีแฟนค่ะ ตลอดชีวิตเป็นสาวโสดอยู่ในกรอบเคร่งครัด
นางก็เลยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เป็นเพราะอะไร
ได้แต่บอกตัวเองว่าอยากช่วยสาวัชให้เจอคนรัก จะได้ไม่ต้องถูกสาวิตรีจับคู่ให้
หลอกตัวเองว่าอยากเป็นเพื่อนกับเขา อยากให้เขายิ้มผ่อนคลาย ชวนหัว
สงสัยสิริณยังเขียนไม่ละเอียดพอ
เลยทำให้คุณนักอ่านข้องใจกับพฤติกรรมของนางเอก
เดี๋ยวจะไปดูในต้นฉบับอีกทีค่ะ
เผื่อจะมีตรงไหนปรับให้คนอ่านเข้าใจการกระทำของเธอได้มากกว่านี้
ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ :D
สิริณรบกวนคุณ arixiah ส่งที่อยู่ให้ทางตู้จดหมายด้วยค่ะ
อยากส่งของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆไปขอบคุณ
อ่านละเอียด ติชมตั้งใจ รักอะ น่าร้ากกกกกก <3
“อุ๊ย! ข้างทางมีข้าวเกรียบปากหม้อด้วย น่ากินจัง” เธอหันไปทางชายหนุ่มซึ่งทำหน้าที่สารถี “รถคงจะติดอีกนาน เดี๋ยวอิงลงไปซื้อมากินเล่นระหว่างรอดีกว่า รอแป๊บนึงนะคะ”
เอ่ยจบเธอก็ปลดเข็มขัดนิรภัย เอี้ยวตัวหมายจะใช้มือขวาดึงคันเปิดประตู พลันข้อมือก็ถูกล็อกไว้ด้วยคีมเหล็ก หญิงสาวมองไล่ไปตามท่อนแขนนั้นจนไปสุดที่ใบหน้าของคนขับ “คุณสาวัชดึงอิงไว้ทำไมคะ”
“จะบ้าหรือไง คุณเจ็บขาอยู่นะ เที่ยวเดินดุ่มลงไปข้างทางแบบนี้ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
“ก็ให้คุณสาวัชพาไปโรงพยาบาลอีกสิคะ ง่ายจะตาย”
“นั่งอยู่นี่แหละ”
“แต่อิงหิวนี่คะ”
“คุณอิงอรุณ คุณรู้จักคำว่าอดทนบ้างไหม”
อิงอรุณกลั้นยิ้ม พยักหน้า “รู้จักค่ะ แต่ไม่เคยต้องทำแบบนั้นเลย พ่อกับแม่อิงใจดี อิงอยากได้อะไรก็ต้องได้ทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องอดทนหรอกค่ะ” นั่นโม้เกินจริงไปหน่อย แต่ไม่สำคัญหรอก แหย่ให้สาวัชกริ้วได้ สนุกกว่าตั้งเยอะ ยิ่งตอนเขาทำหน้าพิพักพิพ่วนรับมือเธอไม่ถูก อิงอรุณก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะในการโต้เถียงยกนั้นๆแล้ว
“งั้นก็หัดซะ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย” แต่ยกนี้...เธอเพลี่ยงพล้ำแฮะ! เปลี่ยนเรื่องดีกว่า...
อิงอรุณเหลือบมองคนข้างๆ สิ่งที่เขาพูดบางเรื่องยังค้างคาอยู่ในใจ “ถามจริงๆนะ อิงเป็นตัวยุ่งวุ่นวาย ทำให้คุณรำคาญใจมากเลยหรือคะ”
“จะรู้ไปทำไม” การย้อนถามด้วยโทนเสียงมะนาวไม่มีน้ำแบบนี้ แทบไม่ต่างกับการยอมรับตรงๆ
“คุณว่าอิงจะปรับปรุงตัวเองได้ไหมคะ”
“คนไม่รู้จักอดทน คงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกมั้ง”
“แหม...ไม่ให้กำลังใจกันเลย” เธอทำปากยื่น ยู่หน้าใส่ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
“แล้วคุณจะอยากปรับปรุงตัวเองทำไม”
“ก็อิงอยากเป็นเพื่อนคุณสาวัชนี่คะ”
“เหตุผลล่ะ?”
“มีเพื่อนเป็นดอกเตอร์เท่จะตายนะคะ” มันเป็นความจริงแค่บางส่วนเท่านั้นแหละ ที่จริงแล้วเธอสงสารเขา อยากให้เขามีโลกที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน และคาดไม่ถึงบ้าง ขืนเอาแต่หน้ายุ่งทั้งปีทั้งชาติ มีหวังหน้าตาหล่อๆนี่คงแก่ก่อนวัยแหง
“พี่ชายคุณก็เป็นดอกเตอร์”
“ขืนแซวพี่ชายแบบนี้ อิงคงโดนดุแน่ๆ แต่คุณสาวัชใจดีกว่าพี่นรานี่คะ แหย่ได้”
ดวงตาคมตวัดมาสบสานกับเธอ แผ่รัศมีความโหดจากดวงตาทั้งคู่ “แหย่?”
“หมายถึงพูดคุย โต้แย้งกันน่ะค่ะ” อิงอรุณรีบแก้คำผิด เธอเผลอหลุดปากพูดความจริงไปได้ไงเนี่ย
สาวัชเสเบือนหน้ากลับไปทางท้องถนนอีกครั้ง เขาดูปกติเสียจนเธอเกือบเชื่อแล้ว ถ้าไม่สังเกตเห็นว่ามือทั้งคู่นั้นกำพวงมาลัยรถแน่น
อิงอรุณกล้าๆกลัวๆเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนเขา “คุณสาวัชโกรธอิงหรือคะ”
“เอามือออกไป” วาจาและน้ำเสียงเย็นชานั้นบอกได้ดีกว่าการยอมรับตรงๆเสียอีก
“อิงพูดอะไรผิดคะ บอกอิงสิ อิงจะได้ขอโทษ” หญิงสาวเร่งอธิบาย ลืมคิดไปว่าแค่ไม่ถึงชั่วโมงที่พบสาวัช เธอเอ่ยคำว่าขอโทษไปแล้วกี่ครั้ง
แม้จะจบการศึกษาด้านจิตวิทยาโดยตรง แต่อิงอรุณพบว่าปฏิกิริยาของผู้ชายคนนี้ยากแก่การคาดเดาและวิเคราะห์อย่างยิ่ง วินาทีที่แล้วเขายังต่อปากต่อคำกับเธออยู่เลย แค่นาทีถัดมา สาวัชกลับเปลี่ยนสู่โหมดน้ำแข็งขั้วโลกดื้อๆ ต้องมีอะไรกระตุ้นให้เขารู้สึกไม่ดีแน่ๆ
“คุณไม่ชอบที่อิงใช้คำว่าแหย่กับคุณหรือคะ”
“ผมไม่ใช่เด็ก”
“แค่พูดผิดหูนิดนึง ก็ไม่พอใจ แบบนี้ยิ่งกว่าเด็กอีกค่ะ”
เขาหันมามองเธอด้วยสายตาดุๆ ทำท่าเหมือนกำลังหาคำดุคำเอ็ดอยู่ในใจ
“อุ๊ย! ไฟเขียวแล้วค่ะ ออกรถกันดีกว่า” เธอทำสีหน้ากระตือรือร้นล้อเลียน
อิงอรุณหัวเราะคิกเมื่อเห็นชายหนุ่มเม้มปาก หน้าตาบึ้งตึง ขณะเคลื่อนรถช้าๆ เธอยื่นมือไปตรงหน้าเขา หมุนข้อมือแล้วฮัมเพลง “แต่ช้าแต่ เขาแห่ยายมา มาถึงศาลา เขาวางยายลง”
สาวัชเบือนหน้าหลบมือเธอ ทั้งยังหันมาขึงตาดุใส่อีกครั้ง
หญิงสาวไม่กลัว เธอยื่นมือไปตรงหน้าเขาอีกครั้ง ร้องเพลงต่อให้จบ “ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ ออระแร้ ออระชอน”
เขาปัดมือเธอออก ทั้งยังหันมาเอ็ดเสียงเขียว “อิงอรุณ!”
โครม! เสียงนั้นดังขึ้นจากด้านหลังของรถพร้อมกับแรงกระแทกรุนแรง โชคร้ายที่เธอปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อกี้ตอนจะลงไปซื้อขนมข้างทาง ทำให้อิงอรุณหน้าทิ่มศีรษะโขกกับคอนโซลด้านหน้า เธอหยัดตัวตรงมือคลำหน้าผากป้อยๆ ได้ยินสาวัชสบถเต็มสองหู ครั้นลอบสำรวจเขาด้วยปลายตาก็เห็นชายหนุ่มกำลังดูกระจกมองหลัง
“บ้าชะมัด! รถเราโดนคันหลังชน คุณโทร.แจ้งประกัน เดี๋ยวผมลงไปจัดการเอง” เขาสั่งหน้าเคร่ง ลงจากรถทันที
อิงอรุณถอนหายใจ โทร.เรียกเจ้าหน้าที่ประกันภัย แล้วสังเกตการณ์จากในรถพบว่าตำรวจจากป้อมตรงสี่แยกมาพ่นสเปรย์บนพื้นถนนแล้วอนุญาตให้คู่กรณีเคลื่อนรถจากพื้นที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ครั้นพนักงานบริษัทประกันภัยมาถึง สาวัชก็ไปสะสางรายละเอียดและเอกสารจนแล้วเสร็จ ตลอดเวลาเขาสั่งให้เธอทำแค่...
“คุณเจ็บขาอยู่ งั้นก็รอบนรถนี่แหละ อย่าทำให้มันยุ่งไปกว่าที่เป็นอยู่เลย” แน่ใจนะว่าประโยคนั้นคือความห่วงใยอะ!
เกือบสามสิบนาทีชายหนุ่มจึงกลับขึ้นมาบนรถอีกครั้งในสภาพเหงื่อโซม เชิ้ตเปียกแนบแผ่นหลัง อิงอรุณเปิดฝาแล้วส่งขวดน้ำให้เขา สาวัชเหลือบมามองแวบเดียวแล้วรับน้ำไปดื่ม
“ทำไมเวลาเจอคุณถึงมีแต่เรื่องนะ” เขาเปรยลอยๆ
“นั่นสิคะ สงสัยดวงเราจะชงกัน” อิงอรุณชักเห็นด้วย
“คุณคงต้องให้คนรถเอามันไปเข้าศูนย์ซ่อมนะ เพราะท้ายยุบ กันชนหลังหลุด นี่ต้องเอาเชือกมัดไว้ชั่วคราว”
“ชนแรงมากเลยเหรอคะ”
“คุณถึงกับหัวโขกคอนโซล แรงไหมล่ะ”
อิงอรุณพยักหน้าแหยๆ เสียงอ่อย “เอารถเข้าศูนย์ อย่างนี้อิงก็ไม่มีรถใช้สิคะ”
ชายหนุ่มถอนหายใจ “ระหว่างที่รถคุณซ่อมอยู่ ผมจะรับส่งคุณเอง”
หากทำได้เธอคงหาไม้มาแคะหูเสียตรงนั้น “คุณสาวัชพูดจริงหรือคะ”
“ผมทำให้รถคุณถูกชน ก็ต้องรับผิดชอบ” เขาส่งขวดน้ำมาคืน แต่แทนที่จะวางมันใส่มือ ชายหนุ่มกลับยื่นขวดไปประคบหน้าผากเธอแทน “จับไว้”
อิงอรุณลมหายใจสะดุด เป็นอีกครั้งที่หัวใจเต้นระรัวด้วยจังหวะประหลาด เธอรีบยกมือขึ้นประคองขวดน้ำ ระมัดระวังมิให้มือแตะโดนกันแม้แต่น้อย จากหางตาเธอเห็นคนข้างๆเข้าเกียร์นำรถเคลื่อนจากที่อีกครั้ง
รถแล่นไปช้าๆตามจังหวะสัญญาณไฟจราจร ทว่าอิงอรุณไม่รับรู้สภาวการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นรอบตัว หัวใจเธอคล้ายตกหล่นอยู่ตรงที่เกิดเหตุ มันปลิววับหายไปเพราะแค่สิ่งเล็กน้อยที่ผู้ชายคนนี้ปฏิบัติต่อกัน
หญิงสาวก้มหน้า มือกดขวดน้ำแนบหน้าผาก ความเย็นจากขวดน้ำซึมซาบผ่านผิว เช่นเดียวกับรอยเย็นฉ่ำบางประการที่หยาดหยดลงในเนื้อหัวใจ...ทีละนิดๆโดยไม่รู้ตัว!
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@Zephyr : ขอความเป็นธรรมให้อิงอรุณด้วยค้าบบบบ
นางเป็นเด็กเอาแต่ใจอะ ปูพื้นมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว
อยากได้คนนี้เป็นเพื่อน ก็ต้องดันทุรังจนได้นั่นแหละ 5555
แต่เพราะอิงไม่เคยมีแฟนแบบคนรักจริงๆ
อิงก็เลยไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่ ตัวเองคิดกับสาวัชมากกว่าเพื่อน
กว่าจะรู้ตัวก็โน่น...มีเฉลยแหละค่ะ 55555
@พอใจ : พอใจเรียกริสาว่าพี่สารี่ บอกเลยสิริณเกือบพ่นน้ำใส่จอ
ขำพรวดเลย อารมณ์ดี ช่างแหย่อะไรเบอร์นั้นค้าาาาาา 5555
ส่วนสาเหตุที่ริสาสั่งตรวจสอบ ไม่ใช่เพราะจะข่มน้อง
แต่เป็นเพราะนางมีนิสัย รู้เขารู้เรา ค่ะ
เป็นนักธุรกิจที่ทำธุรกิจจริงๆ ก่อนจะรบ ต้องประเมินคู่ต่อสู้
เพื่อดูว่าควรรับไว้เป็นมิตรหรือศัตรู
สิริณชอบริสานะ ถึงนางนะร้าย แต่ก็เป็นนิสัยแบบปุถุชนดี อิอิ
ใจจริงอยากสปอยล์กว่านี้นะคะ กลัวพอใจตะลึงหนักกว่าเดิม กร๊ากกกก
@sumitt777 : นี่สิริณรู้ใจต่อเนื่องนะคะ จัดมาให้ยิ้มๆหวานๆกันยาวๆ
พี่ ดร. แกมีความปากแข็งที่ปิดไม่มิดโผล่หางมาตลอดแหละค่ะ ฮ่าๆๆ
@arixiah : จริงๆสองฉากในตอนที่ 20 นี่
ก็บอกเหตุผลการกระทำของอิงอรุณไว้พอสมควรนะคะ
อิงอรุณไม่เคยมีแฟนค่ะ ตลอดชีวิตเป็นสาวโสดอยู่ในกรอบเคร่งครัด
นางก็เลยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เป็นเพราะอะไร
ได้แต่บอกตัวเองว่าอยากช่วยสาวัชให้เจอคนรัก จะได้ไม่ต้องถูกสาวิตรีจับคู่ให้
หลอกตัวเองว่าอยากเป็นเพื่อนกับเขา อยากให้เขายิ้มผ่อนคลาย ชวนหัว
สงสัยสิริณยังเขียนไม่ละเอียดพอ
เลยทำให้คุณนักอ่านข้องใจกับพฤติกรรมของนางเอก
เดี๋ยวจะไปดูในต้นฉบับอีกทีค่ะ
เผื่อจะมีตรงไหนปรับให้คนอ่านเข้าใจการกระทำของเธอได้มากกว่านี้
ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ :D
สิริณรบกวนคุณ arixiah ส่งที่อยู่ให้ทางตู้จดหมายด้วยค่ะ
อยากส่งของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆไปขอบคุณ
อ่านละเอียด ติชมตั้งใจ รักอะ น่าร้ากกกกกก <3
สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ค. 2559, 08:15:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ค. 2559, 08:15:52 น.
จำนวนการเข้าชม : 1406
<< ตอนที่ 20 (50%) | ตอนที่ 21 (50%) >> |
Kim 27 พ.ค. 2559, 08:51:10 น.
มาแบบต่อเนื่องเลย เพิ่งไปเม้นท์ตอนที่แล้วและต่อตอนนี้เลย ต่อไปนี้มารับมาส่งอีกเอาเข้าไป พระเอกหัวหมุนแน่
มาแบบต่อเนื่องเลย เพิ่งไปเม้นท์ตอนที่แล้วและต่อตอนนี้เลย ต่อไปนี้มารับมาส่งอีกเอาเข้าไป พระเอกหัวหมุนแน่
Zephyr 27 พ.ค. 2559, 12:31:41 น.
คือ ไรท์ เราบอกเลยเราไม่ชอบคนนิสัยแบบอิงค่ะ
เอาแต่ใจไร้ขอบเขต ไม่รู้กาลเทศะ ไม่รู้เด็ก ผู้ใหญ่
ที่นางทำอยู่นี่ นี่คือน่ารักเหรอ
โคตรสมน้ำหน้าตอนนางหัวโขก
เรียนจิตวิทยาแล้วไง มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับใครก็ได้งั้นเหรอ
แถมพฤติกรรมมาทำเหมือนอ่อยสาวัชอีก
ถึงจะไม่รักพันเทพ แต่เราก็สงสารเค้านะ
แล้วสาวัช เหมือนคนอ่อนไหว มีปม
เกิดรู้ความจริงไรขึ้นมาคงเจ็บลึกเจ็บหนัก เจ็บยาว
คือ เราคคงอ่านจนจบละ สัญญา เราอยากรู้ว่านางจะเปลี่ยนนิสัยได้ตอนไหน ทำให้เราชอบนางเมื่อไร
ตอนนี้ อคติกับนางมาก อ่านไปสมน้ำหน้าไป
ปล อินเนอะ 555 แต่งเก่งนะเนี่ย
อ่านละอยากเข้าไปตบๆๆๆๆ นางด้วยความหมั่นไส้ซะหลายตอนละอ่ะ
คือ ไรท์ เราบอกเลยเราไม่ชอบคนนิสัยแบบอิงค่ะ
เอาแต่ใจไร้ขอบเขต ไม่รู้กาลเทศะ ไม่รู้เด็ก ผู้ใหญ่
ที่นางทำอยู่นี่ นี่คือน่ารักเหรอ
โคตรสมน้ำหน้าตอนนางหัวโขก
เรียนจิตวิทยาแล้วไง มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับใครก็ได้งั้นเหรอ
แถมพฤติกรรมมาทำเหมือนอ่อยสาวัชอีก
ถึงจะไม่รักพันเทพ แต่เราก็สงสารเค้านะ
แล้วสาวัช เหมือนคนอ่อนไหว มีปม
เกิดรู้ความจริงไรขึ้นมาคงเจ็บลึกเจ็บหนัก เจ็บยาว
คือ เราคคงอ่านจนจบละ สัญญา เราอยากรู้ว่านางจะเปลี่ยนนิสัยได้ตอนไหน ทำให้เราชอบนางเมื่อไร
ตอนนี้ อคติกับนางมาก อ่านไปสมน้ำหน้าไป
ปล อินเนอะ 555 แต่งเก่งนะเนี่ย
อ่านละอยากเข้าไปตบๆๆๆๆ นางด้วยความหมั่นไส้ซะหลายตอนละอ่ะ
sumitt777 27 พ.ค. 2559, 12:46:08 น.
เห็นด้วยกับ คุณZephyr ค่ะ แต่บางครั้งก็สงสารคุณหนูอิง ชีวิตนางดูเหมือนจะขาดๆเกินๆ ไงไม่ทราบ
ขอบอก รีดเดอร์อินกันมากกกกก ค่ะ ที่สุดขอบคุณนะคะมาแบบต่อเนื่อง
เห็นด้วยกับ คุณZephyr ค่ะ แต่บางครั้งก็สงสารคุณหนูอิง ชีวิตนางดูเหมือนจะขาดๆเกินๆ ไงไม่ทราบ
ขอบอก รีดเดอร์อินกันมากกกกก ค่ะ ที่สุดขอบคุณนะคะมาแบบต่อเนื่อง
konhin 27 พ.ค. 2559, 15:09:12 น.
อิงอาจจะคิดแค่ว่าอยากเป็นเพื่อน แต่การกระทำไปไกลแล้วนะคะ
อิงอาจจะคิดแค่ว่าอยากเป็นเพื่อน แต่การกระทำไปไกลแล้วนะคะ
arixiah 27 พ.ค. 2559, 16:24:17 น.
ขอบคุณที่ไรท์ยอมรับฟังความคิดเห็นของรีดเดอร์คนนี้ค่ะ
จะรอดูว่านางเอกจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่
แล้วจะรอดูว่านางจะเคลียร์พันธะกับพันเทพได้เมื่อไหร่
สู้ๆค่ะไรต์
ขอบคุณที่ไรท์ยอมรับฟังความคิดเห็นของรีดเดอร์คนนี้ค่ะ
จะรอดูว่านางเอกจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่
แล้วจะรอดูว่านางจะเคลียร์พันธะกับพันเทพได้เมื่อไหร่
สู้ๆค่ะไรต์
พอใจ 27 พ.ค. 2559, 18:16:50 น.
หนูอิงซนจนได้เรื่อง สาวัชจะคอยรับส่งเลย ฮิ้วววว!! แต่เดี๋ยวนี้สาวัชอ่อนลงไปเยอะเลยนะคะ เหมือนดุปรามอิงไปงั้น สุดท้ายก็ยอมช่วยนางตลอดๆ นางเอกอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง แ้วพ่อพระเอกของเราล่ะคะไรต์เตอร์ขราาา รู้ใจตัวเองรึยัง พอใจเดาว่าสาวัชนางคงรู้ใจตัวเองบ้างนิดหน่อย แต่ไม่อยากรับความจริงมากกว่า คิคิ
หนูอิงซนจนได้เรื่อง สาวัชจะคอยรับส่งเลย ฮิ้วววว!! แต่เดี๋ยวนี้สาวัชอ่อนลงไปเยอะเลยนะคะ เหมือนดุปรามอิงไปงั้น สุดท้ายก็ยอมช่วยนางตลอดๆ นางเอกอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง แ้วพ่อพระเอกของเราล่ะคะไรต์เตอร์ขราาา รู้ใจตัวเองรึยัง พอใจเดาว่าสาวัชนางคงรู้ใจตัวเองบ้างนิดหน่อย แต่ไม่อยากรับความจริงมากกว่า คิคิ
นักอ่านเหนียวหนึบ 27 พ.ค. 2559, 22:51:34 น.
คือเราว่าตอนหลังๆ นี้มันเป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกดีๆ ต่อกันแล้วอะนะ ทั้งนุ้งอิงทั้งด็อกสา เพียงแต่ทั้งสองคนต่างไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองกันทั้งคู่ คือมันหายากไง คนที่จะไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองมาเจอกัน เอ๊ะ หรือก็มีได้ทั่วไปนะ ??
คือเราว่าตอนหลังๆ นี้มันเป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกดีๆ ต่อกันแล้วอะนะ ทั้งนุ้งอิงทั้งด็อกสา เพียงแต่ทั้งสองคนต่างไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองกันทั้งคู่ คือมันหายากไง คนที่จะไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองมาเจอกัน เอ๊ะ หรือก็มีได้ทั่วไปนะ ??