: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 21 (100%)
อิงอรุณลูบหน้า ราวกับเช็ดเอาความรู้สึกประหลาดที่วุ่นวายอยู่ในใจออกไปด้วย เธอคงหมกมุ่นมากจึงไม่ได้ยินกระทั่งเสียงโทรศัพท์
“พี่อิงคะ โทรศัพท์ดังตั้งหลายหนแล้ว ไม่รับหรือคะ” เลขาฯยื่นหน้าเข้ามาถาม
“อ้อ พอดีพี่คิดเรื่องงานอยู่น่ะ” เจ้าของห้องปัดเรื่องสาวัชจากใจ พยายามวางมาดสบายๆแล้วกดรับสาย
“เราเองนะอิง มีข่าวดีกับข่าวร้ายอยากฟังอันไหนก่อน” แพรวเพชรเสียงสดใสฟังแทบไม่ออกว่าเมื่อวานเจ็บหนัก
เธอโล่งใจ หัวเราะเบาๆแล้วเลือกข่าวดี
“เมื่อวานที่ปวดท้องไม่ใช่เมนส์มาหรอก แต่หมอบอกว่าเราท้อง”
“ไม่เห็นจะน่ามีข่าวร้ายเลย นี่มันเรียกว่าข่าวดีสุดๆต่างหาก” เธอโวยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและยินดีไปด้วย แพรวเพชรผ่านเรื่องทุกข์ เสียน้ำตามามากแล้ว ถึงเวลาที่ฟ้าจะตอบแทนให้เธอได้เจอแต่เรื่องราวที่เป็นสุขเสียที หลังถามไถ่ถึงสุขภาพของว่าที่คุณแม่และคำแนะนำจากแพทย์จนพอใจแล้ว อิงอรุณจึงเย้า “ฟังข่าวดีแล้วมีความสุขเป็นบ้าเลย เก็บข่าวร้ายไว้ก่อนเหอะ ไว้ค่อยบอกวันหลัง”
แพรวเพชรหัวเราะแห้งๆ สุดท้ายจึงตะกุกตะกัก “หมอให้เราเบดเรสต์อย่างน้อยสองสัปดาห์ ระหว่างนี้ เราไม่เข้าบริษัทนะ”
“หา!” อิงอรุณผงะ “แล้วงานของเพชรล่ะ”
อีกฝ่ายเงียบไปครู่ใหญ่จึงรำพึงเสียงเบา “เราจะพยายามไม่ให้บกพร่องต่อหน้าที่ เดี๋ยวจะคุยกับกุ้งอีกทีว่าจะทำยังไง เรื่องประชุมคงทำวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เอา เอกสารก็จะให้เมสเซนเจอร์รับส่งทุกเช้า ส่วน...”
“พอเลย” อิงอรุณปราม น้ำเสียงโรยๆของเพื่อนตอกย้ำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองช่างใจแคบ ใจดำ และไร้เมตตา “หมอให้พักก็พักไปเหอะ ที่บริษัทนี่เราจัดการเอง”
“จริงนะอิง” แพรวเพชรเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นกระตือรือร้นในพริบตา
“จริงสิ” อิงอรุณบิดริมฝีปากด้วยความขัดใจ นึกโกรธตัวเองที่ใจแข็งกับแพรวเพชรไม่ได้เลย แต่ได้ยินเพื่อนรักทำเสียงจ๋อยอย่างนั้น ใครจะไปใจร้ายได้ลงคอ
แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ! อิงอรุณเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างครุ่นคิด
“เพชรนี่ร้ายนักนะ” หญิงสาวทั้งขันทั้งฉิวระคนกัน เธอเสียรู้หุ้นส่วนจนได้ อีกฝ่ายใช้จิตวิทยาจงใจทำให้เธอรู้สึกผิด
แพรวเพชรหัวเราะร่วนบอกชัดถึงความผาสุข “ขอบใจมากนะเพื่อนรัก”
“ไม่ต้องมารักอิงเลย” อิงอรุณสะบัดเสียง
“ฝากบริษัทแค่สองอาทิตย์เอง ไม่เห็นต้องทำเสียงแหวขนาดนั้นเลย” แพรวเพชรยังแหย่เธอต่อเนื่อง
“อย่างอื่นก็ดูแลแทนได้หรอก แต่อิงไม่เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยกามเทพ จู่ๆจะให้มาจัดการงานส่วนนี้ อิงคงปวดหัวน่าดู”
“ไม่หรอกน่า เวลาอยู่บริษัท หลักๆก็ให้กุ้งกับน้องๆดูแลกันไป จะยากหน่อยก็ตอนออกนอกสถานที่เท่านั้นเอง เพราะคนไม่พอ อิงอาจต้องลงหน้างานเอง” แพรวเพชรหยุดคิด “เริ่มที่วันเสาร์นี้เลยละกัน คอร์สพิพิธภัณฑ์ที่อิงภูมิใจนำเสนอนั่นไง แค่ดูแลลูกค้าขึ้นรถ จัดที่นั่ง พอลงรถก็จับกลุ่ม เปลี่ยนห้องจัดแสดงทีค่อยเปลี่ยนกลุ่มที ขึ้นรถสรุปแล้วก็กลับบริษัท งานเบาสบายสุดๆละเนี่ย ยิ่งมีกุ้งไปช่วยด้วยก็ยิ่งง่าย เอาเป็นว่าจากนี้ไปอิงก็ค่อยๆฝึกการเป็นผู้ช่วยกามเทพไปทีละนิด ให้กุ้งคอยประกบ เวลาเจอเหตุเฉพาะหน้าก็แก้กันไป ไม่ยากหรอก สู้ๆนะ เรามั่นใจว่าอิงทำได้แน่ๆ”
ถ้อยคำให้กำลังใจที่แพรวเพชรย้ำเสียงหนักประกอบ ทำให้อิงอรุณเค้นรอยยิ้มออกมาได้ “อิงต้องทำได้แน่ มันจะยากสักแค่ไหนกันเนอะ”
“ว่างเมื่อไหร่ ขนเพื่อนๆมาเยี่ยมกันบ้างนะ เราเบื่อมาก บอกเลย” แพรวเพชรบ่นตอนท้าย
“เทพไปลพบุรีตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยังไม่กลับเลย ส่วนคู่รักที่ไปบาหลีนั่นเห็นว่าประชุมยาวถึงอาทิตย์หน้าเลย เหลือแต่เรานี่แหละ ถ้ายังไงเย็นนี้จะแวะไปหาละกัน”
“เจ็บขาอย่างนั้น อิงจะขับรถไหวเหรอ”
“สบายมาก เรามีสารถีพิเศษ” อิงอรุณหัวเราะคิก เล่ารายละเอียดอุบัติเหตุให้แพรวเพชรฟังอย่างชื่นมื่น
“รถอิงขึ้นลงยาก เอารถเราไปใช้แทนดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องอึดอัดใจด้วยไง อิงเคยบอกว่าคุณสาวัชเย็นชา หน้านิ่งๆไร้อารมณ์นี่ ต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน เดี๋ยวอิงก็ประสาทกินแย่” แพรวเพชรท้วงด้วยน้ำเสียงวิตก
“เพชรไม่ต้องห่วงอิงหรอก ไปห่วงคุณสาวัชแทนดีกว่า เขาน่ะถูกอิงแหย่อิงแกล้งจนเสียศูนย์ไปแล้วมั้ง”
แพรวเพชรอือออเสียงเบา อิงอรุณไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่เพื่อนกังวล เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เธอกำลังพูดโดยสิ้นเชิง!
ณ ห้องประธานบริหารสำนักงานใหญ่สยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชั่น สุพจน์มองผู้ที่เพิ่งโขยกเขยกเข้ามาด้วยสายตาครุ่นคิด ครั้นอีกฝ่ายทำความเคารพ บุรุษอาวุโสก็คลี่ยิ้มใจดีไว้บนใบหน้า “ทำไมไม่พักอีกสักหน่อย แผลยังไม่หายดีเลยนี่”
“ดีขึ้นมากแล้วครับ” พันเทพค้อมศีรษะ ยอบตัวไปนั่งคอยที่ชุดโซฟารับแขกตามที่เจ้าถิ่นพยักพเยิดสั่ง
สุพจน์หยิบแฟ้มเอกสารติดมือมานั่งยังเก้าอี้ข้างๆ เปิดฉากสนทนาทันที “พ่ออยากให้เทพมาเริ่มงานที่สยามดริ๊งค์ฯวันจันทร์นี้เลย เทพสะดวกไหม พ่อจะได้ให้คนเตรียมออฟฟิศไว้ให้ เทพต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ไม่ครับคุณพ่อ แค่ที่คุณพ่อเมตตาผมขนาดนี้ ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เทพกำลังจะมาเป็นลูกชายอีกคนนึงของพ่อ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก เดี๋ยวพ่อจะให้เลขาฯจัดการเรื่องทำบัตรเครดิต นามบัตร และงานเอกสารอื่นๆรอไว้เลย ตอนเทพมาเริ่มงานจะได้ไม่ฉุกละหุก” ท่านคอยจนพันเทพเงยขึ้นสบตา แล้วจึงยิ้มปรานี “เอาละเรื่องงานจบแล้ว มาคุยเรื่องสำคัญกันบ้าง”
ชายหนุ่มมองท่านด้วยสายตาแสดงความสงสัย
“ก็เรื่องพิธีหมั้นหมายกับงานแต่งของเทพกับอิงยังไงละ พ่อไม่ใช่คนถือฤกษ์ยามอะไร เพราะฉะนั้นวันหมั้นพ่อก็ขอใช้ฤกษ์สะดวกละกัน เทพคงไม่ถือสานะ พ่ออยากจัดงานที่บ้านเทียมสุบรรณเป็นการภายใน เชิญแขกเฉพาะที่สนิทๆ เท่าที่ตรวจตารางนัดดูแล้ว ปลายเดือนหน้าน่าจะเหมาะที่สุด เทพลองไปปรึกษาท่านนายพลดูละกันว่าเลือกวันไหน พ่อจะให้เลขาฯเตรียมเรื่องสถานที่เอาไว้ เรื่องรายละเอียดของงาน อิงกับเทพจัดการตามที่ต้องการได้เลย พ่อเป็นเจ้าภาพให้เอง
“ส่วนงานแต่งก็ใช้ฤกษ์ที่คุณหญิงแม้นมาศบอกมา พ่อไม่ขัดข้อง สำหรับค่าใช้จ่ายจัดงาน แขกของพ่อคงเยอะพอควร เพราะฉะนั้นก็ฝากไปเรียนท่านนายพลเลยว่าพ่อขอรับหน้าเสื่อดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดอีกเหมือนกัน”
สุพจน์มองเห็นแววละอายจากดวงตาของคนอายุน้อยกว่าชัดเจน บุรุษชราวางหน้านิ่งๆไม่แสดงความรู้สึก ขณะเลื่อนแฟ้มเอกสารไปวางตรงหน้าเขา “ที่เทพขอร้องพ่อไว้ตอนพ่อออกจากโรงพยาบาล พ่อจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขของพ่อ ไม่ใช่ของเทพ พ่อหวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”
พันเทพรับแฟ้มไปเปิดอ่านและทำความเข้าใจอยู่ครู่ใหญ่
“เทพขอให้พ่อทำหนังสือข้อตกลงก่อนแต่งงาน ว่าเทพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของอิงไม่ว่าจะได้มาก่อนหรือหลังแต่งงานก็ตาม ซึ่งพ่อขอเพิ่มเงื่อนไขที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัวสักหน่อย ที่พ่อต้องทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของอิงอรุณ หลังการแต่งงานหากน้องอิงเสียชีวิตไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม สมบัติทั้งหมดที่อยู่ในชื่อของอิงอรุณจะตกเป็นของการกุศล ด้วยวิธีนี้ท่านนายพลจะไม่ได้ประโยชน์จากการทำร้ายลูกสาวของพ่อ หวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”
ชายหนุ่มก้มศีรษะนิดๆ “แค่ที่ได้บารมีของบ้านเทียมสุบรรณคุ้มครองชีวิตผมไว้ ก็เป็นพระคุณมากแล้วครับพ่อ ผมไม่ต้องการทรัพย์สมบัติของอิงแม้แต่บาทเดียว เงื่อนไขที่คุณพ่อเพิ่มเข้ามา ผมเห็นด้วยและยอมรับได้ครับ”
สุพจน์ตบบ่าชายหนุ่ม “พ่อไม่เอาเปรียบเทพขนาดนั้นหรอก นอกจากเงินเดือนในตำแหน่งซีเอ็มโอแล้ว พ่อจะให้กองทุนของครอบครัวจัดสรรเงินให้เทพใช้อีกส่วนนึง ซึ่งเงินจากกองทุนนั่นจะเริ่มโอนเข้าบัญชีเทพทุกเดือนหลังการแต่งงาน!”
สำนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ในช่วงเย็นคลาคล่ำเป็นพิเศษด้วยลูกค้าที่มาเข้าคอร์สทำกิจกรรมหลังเลิกงาน วันนี้บริษัทฯเชิญวิทยากรมาสอนเรื่องการทำเทียนเจล เทียนหอม และเทียนแฟนซี เพราะแพรวเพชรยังคงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล อิงอรุณจึงต้องรับหน้าที่ควบคุมความเรียบร้อยแทน
หนุ่มโสดสาวโสดทุกคนมีป้ายชื่อระบุหมายเลขสมาชิก หลังจับสลากจับคู่เรียบร้อยแล้ว ทุกโต๊ะจะได้รับอุปกรณ์เพื่อช่วยกันทำตามที่วิทยากรแนะนำหน้าห้อง กิจกรรมอันต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และความประณีตช่วยให้หนุ่มสาวใกล้ชิดและเรียนรู้กันและกันได้ง่ายขึ้น
ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีจนมาถึงช่วงท้าย ขณะทุกคนกำลังชื่นชมผลงานที่ทำเสร็จแล้ว อิงอรุณก็เปิดเข้ามาในห้องเวิร์คชอป ในมือถือไมโครโฟนมาประกาศด้วยสีหน้ายินดี “อิงมีใครบางคนอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักค่ะ” เธอผายมือไปทางประตู แล้วหนุ่มสาวคู่หนึ่งก็ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างผู้ช่วยกามเทพสาว “สมาชิก F๑๑๒ และ M๓๐๘ ค่ะ”
เสียงปรบมือดังก้องขณะฝ่ายหญิงรับไมโครโฟนไปถือไว้
“นาตอนงค์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนนะคะ” หญิงสาวรูปร่างสูง ค่อนข้างอวบ ผิวขาวผ่อง โปรยยิ้มจนตาหยีพร้อมกับทักทายเสียงสั่นนิดๆ เธอเล่าประวัติส่วนตัวสั้นๆ “ครั้งแรกที่นาตได้ยินชื่อบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์จากข่าวสังคมคือหนึ่งปีที่แล้ว บอกตามตรงว่าพอรู้ว่าบริษัทนี้ให้บริการอะไร นาตขำ คิดไว้ก่อนเลยว่าชีวิตนี้ไม่มีวันใช้บริการจำพวกนี้เด็ดขาด แต่อาอี๊...คุณน้าของนาตน่ะค่ะ ท่านแอบมาสมัครใช้บริการพร้อมทั้งจ่ายเงินทั้งหมดให้ล่วงหน้า พอนาตรู้ก็มาขอเงินคืนค่ะ ทายสิคะว่านาตได้เงินคืนไหม”
คนฟังส่ายหน้ากันเป็นแถว
“อ้าวๆๆ เห็นอิงกับเพชรหน้าเงินขนาดนั้นเลยเหรอค้า” อิงอรุณโอดครวญเรียกเสียงหัวเราะจากคนฟังได้กราวใหญ่
นาตอนงค์ส่ายศีรษะ “ผิดค่ะ คุณอิงกับเพชรยินดีคืนเงินให้นาตเต็มจำนวน โดยมีข้อแม้คือนาตต้องไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทหนึ่งครั้ง ไม่ต้องทายก็เดาได้ใช่ไหมว่านาตตกลง เป็นข้อตกลงอะไรก็ไม่รู้นาตมีแต่ได้เปรียบ ใครจะพลาดเนอะ”
เสียงปรบมือดังเกรียวกราว นาตอนงค์จึงเอ่ยต่อ “นั่นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้นาตได้เจอผู้ชายคนนี้” เธอคว้าข้อมือดึงคนข้างตัวมาใกล้ๆ “นาตซื้อคอร์สเดือนละหน รวมห้าคอร์ส เหมือนฟ้าเห็นใจเลยค่ะ ยิ่งเจอกันแต่ละครั้งก็ยิ่งรู้ว่าพี่เขาชอบทุกอย่างเหมือนนาต คุณเพชรเลยเสนอให้เราเปิดโปรไฟล์ให้อีกฝ่ายดูแล้วแนะนำชื่อจริงให้กัน จากนั้นก็ให้ผู้ช่วยกามเทพจัดเดตกับเขา แล้วก็นี่ล่ะค่ะ...” หญิงสาวยกมือซ้ายที่สวมแหวนเพชรขึ้นอวดทุกคน “นาตกำลังจะแต่งงานค่ะ”
เสียงเฮดังลั่นห้อง ทุกสีหน้ามีแต่รอยยิ้มดุจวาดหวังว่าในอีกไม่นานจะมีเรื่องราวดีๆเช่นนี้เกิดกับตัวเองบ้าง
“ขอบคุณผู้ช่วยกามเทพทุกคนที่ทำให้นาตมีวันนี้นะคะ นาตเชื่อแล้วละค่ะ ที่คุณเพชรกับคุณอิงบอกว่าในความรักเราไม่ต้องการจิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้สนิทเสมอไป อาจมีเหลื่อมบ้างขาดบ้าง ขอแค่เราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่อึดอัดและมีความสุขก็พอแล้ว เพราะคนทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ เราคงไม่สามารถคาดหวังให้ภาพความรักของเราสมบูรณ์แบบได้เช่นกัน”
หญิงสาวก้มศีรษะแล้วส่งไมโครโฟนให้คนรัก ชายหนุ่มรับมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
“ลับฟ้าครับ สมาชิกหมายเลขเอ็มสามศูนย์แปด ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยเชื่อเรื่องบริษัทจัดหาคู่นี่เลย บอกตัวเองเสมอว่าผมไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น มาครั้งแรกก็เพราะเพื่อนผมอยากมาสมัครสมาชิก เลยลากผมมาด้วย คุณอิงกับคุณเพชรคงมีสาลิกาลิ้นทองดี ฟังที่คุณอิงคุณเพชรอธิบายเกี่ยวกับบริษัทจบปุ๊บ ผมก็สมัครเป็นสมาชิกทันทีแบบไม่ต้องหยุดคิด” เขายิ้มโปรยเสน่ห์ เหลียวมาสบตาคนข้างกายด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม เรียกเสียงวี้ดว้ายจากสาวๆได้อีกคำรบ
ลับฟ้าหัวเราะเบาๆ “ยิ่งได้รู้จักและใช้บริการที่คิวปิดแอสซิสแทนซ์นานเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้ว่าถ้าผมมัวแต่ก้มหน้าลงด้วยอคติของตัวเอง โลกทั้งใบก็จะหมุนผ่านผมไป และบางทีผมอาจจะพลาดสิ่งที่ตัวเองรอคอยมาตลอดทั้งชีวิตก็ได้ ขอบคุณคิวปิดแอสซิสแทนซ์ครับที่สอนให้ผมเข้าใจว่าการเปิดโอกาสให้ตัวเอง สำคัญมากแค่ไหน”
นาตอนงค์รับไมโครโฟนจากคู่หมั้นอีกครั้ง “งานแต่งนาตจัดปลายปีนะคะ ถ้าเพื่อนๆในห้องนี้ มีคนควงไปงานด้วยแล้วละก็ นาตขอเชิญด้วยนะคะ แล้วนาตจะมาอัพเดทให้ทราบข่าวกันเป็นระยะ ขอบคุณค่ะ”
เสียงปรบมือ เป่าปาก ล้อเลียนดังระงม เพียงนาตอนงค์วางไมโครโฟน สมาชิกในห้องก็ทยอยลุกขึ้นมาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นการใหญ่
อิงอรุณยืนยิ้มกริ่มภาคภูมิใจอยู่ที่หน้าห้อง เธอกวาดสายตาไปรอบๆแล้วก็สะดุดกึก เมื่อพบว่าด้านหลังสุดตรงใกล้ๆประตู มีใครคนหนึ่งยืนหน้านิ่งขรึม ดวงตาคมปลาบมองตรงมาที่เธอ คงเป็นอุปาทานที่ทำให้หญิงสาวคิดว่าเขากำลัง...ยิ้ม
หญิงสาวกะพริบตางุนงง และก่อนจะทันรู้ตัว อิงอรุณก็ส่งยิ้มคืนกลับไป อ่อนหวาน...นุ่มนวลปานเดียวกัน
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@Zephyr : ครูสอนเขียนนิยายบอกว่าตัวละครเอกต้องมีพัฒนาการค่ะ
เพราะฉะนั้นตอนจบอิงอรุณก็ต้องน่ารักขึ้นอ่ะนะ
ความรักทำให้คนเปลี่ยนไป 55555
ส่วนเรื่องนาฬิกา แอบสารภาพว่าเป็นความชอบส่วนตัวของคนเขียนค่ะ
พอดีเห็นว่าตัวเรื่อง โทนของนิยายก็เอื้อ
เลยหยิบมาใส่ลงไปเป็นกิมมิคนึงด้วย
ทีแรกในฉบับตีพิมพ์มีบรรยายหน้าตานาฬิกานะคะ
แต่ต้นฉบับยาวพอดู บ.ก.เลยขอให้ทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกบ้าง
บอกตามตรงว่าแอบดีใจนะคะที่คุณ Zephyr ไปหารูปดู
Corum Golden Bridge ที่นางเอกสวม มันสวยมากค่ะ
ถ้าจะซื้อจริงๆ เรือนนี้แนะนำเลย 55555
@Pat : พี่ ดร. ก็ต้องน่ารักขึ้นตามสเต็ปอ่ะค่ะ
เค้าว่าคนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึงด้วยนะ แฮ่...
@พอใจ : เดี๋ยวมีเฉลยเรื่องดารณียาวๆเลยค่ะ
ไม่ต้องรอหน้าสุดท้ายด้วย
แค่บทก่อนสุดท้ายเอ๊ง เย้ย! ไม่ใช่ๆ 5555
เดี๋ยวพอเฉลยนะ พอใจจะอึ้ง
บอกไม่ถูกไปเลยว่าจะสงสารดารณีดีไหม อิอิ
ส่วนนาฬิกาของนางเอก ก็มีเฉลยเช่นกันค่ะ
ติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะเออ มีอะไรให้ยิ้มกันอีกเยอะ
(และมีอะไรให้อยากเขวี้ยงหมอนใส่สิริณด้วย 555)
@konhin : เขียนๆไป บางทีสิริณก็มึนไปกับสองคนนี้นะคะ
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองกันสักทีเนี้ยยยย
@Sumitt777 : พี่ ดร. นี่แกทำบุญมาดี
คนอ่านเอาใจช่วยดีจัง อิอิ
ขอบคุณที่รักและเอ็นดูสาวัชนะค้าาา :D
“พี่อิงคะ โทรศัพท์ดังตั้งหลายหนแล้ว ไม่รับหรือคะ” เลขาฯยื่นหน้าเข้ามาถาม
“อ้อ พอดีพี่คิดเรื่องงานอยู่น่ะ” เจ้าของห้องปัดเรื่องสาวัชจากใจ พยายามวางมาดสบายๆแล้วกดรับสาย
“เราเองนะอิง มีข่าวดีกับข่าวร้ายอยากฟังอันไหนก่อน” แพรวเพชรเสียงสดใสฟังแทบไม่ออกว่าเมื่อวานเจ็บหนัก
เธอโล่งใจ หัวเราะเบาๆแล้วเลือกข่าวดี
“เมื่อวานที่ปวดท้องไม่ใช่เมนส์มาหรอก แต่หมอบอกว่าเราท้อง”
“ไม่เห็นจะน่ามีข่าวร้ายเลย นี่มันเรียกว่าข่าวดีสุดๆต่างหาก” เธอโวยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและยินดีไปด้วย แพรวเพชรผ่านเรื่องทุกข์ เสียน้ำตามามากแล้ว ถึงเวลาที่ฟ้าจะตอบแทนให้เธอได้เจอแต่เรื่องราวที่เป็นสุขเสียที หลังถามไถ่ถึงสุขภาพของว่าที่คุณแม่และคำแนะนำจากแพทย์จนพอใจแล้ว อิงอรุณจึงเย้า “ฟังข่าวดีแล้วมีความสุขเป็นบ้าเลย เก็บข่าวร้ายไว้ก่อนเหอะ ไว้ค่อยบอกวันหลัง”
แพรวเพชรหัวเราะแห้งๆ สุดท้ายจึงตะกุกตะกัก “หมอให้เราเบดเรสต์อย่างน้อยสองสัปดาห์ ระหว่างนี้ เราไม่เข้าบริษัทนะ”
“หา!” อิงอรุณผงะ “แล้วงานของเพชรล่ะ”
อีกฝ่ายเงียบไปครู่ใหญ่จึงรำพึงเสียงเบา “เราจะพยายามไม่ให้บกพร่องต่อหน้าที่ เดี๋ยวจะคุยกับกุ้งอีกทีว่าจะทำยังไง เรื่องประชุมคงทำวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เอา เอกสารก็จะให้เมสเซนเจอร์รับส่งทุกเช้า ส่วน...”
“พอเลย” อิงอรุณปราม น้ำเสียงโรยๆของเพื่อนตอกย้ำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองช่างใจแคบ ใจดำ และไร้เมตตา “หมอให้พักก็พักไปเหอะ ที่บริษัทนี่เราจัดการเอง”
“จริงนะอิง” แพรวเพชรเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นกระตือรือร้นในพริบตา
“จริงสิ” อิงอรุณบิดริมฝีปากด้วยความขัดใจ นึกโกรธตัวเองที่ใจแข็งกับแพรวเพชรไม่ได้เลย แต่ได้ยินเพื่อนรักทำเสียงจ๋อยอย่างนั้น ใครจะไปใจร้ายได้ลงคอ
แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ! อิงอรุณเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างครุ่นคิด
“เพชรนี่ร้ายนักนะ” หญิงสาวทั้งขันทั้งฉิวระคนกัน เธอเสียรู้หุ้นส่วนจนได้ อีกฝ่ายใช้จิตวิทยาจงใจทำให้เธอรู้สึกผิด
แพรวเพชรหัวเราะร่วนบอกชัดถึงความผาสุข “ขอบใจมากนะเพื่อนรัก”
“ไม่ต้องมารักอิงเลย” อิงอรุณสะบัดเสียง
“ฝากบริษัทแค่สองอาทิตย์เอง ไม่เห็นต้องทำเสียงแหวขนาดนั้นเลย” แพรวเพชรยังแหย่เธอต่อเนื่อง
“อย่างอื่นก็ดูแลแทนได้หรอก แต่อิงไม่เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยกามเทพ จู่ๆจะให้มาจัดการงานส่วนนี้ อิงคงปวดหัวน่าดู”
“ไม่หรอกน่า เวลาอยู่บริษัท หลักๆก็ให้กุ้งกับน้องๆดูแลกันไป จะยากหน่อยก็ตอนออกนอกสถานที่เท่านั้นเอง เพราะคนไม่พอ อิงอาจต้องลงหน้างานเอง” แพรวเพชรหยุดคิด “เริ่มที่วันเสาร์นี้เลยละกัน คอร์สพิพิธภัณฑ์ที่อิงภูมิใจนำเสนอนั่นไง แค่ดูแลลูกค้าขึ้นรถ จัดที่นั่ง พอลงรถก็จับกลุ่ม เปลี่ยนห้องจัดแสดงทีค่อยเปลี่ยนกลุ่มที ขึ้นรถสรุปแล้วก็กลับบริษัท งานเบาสบายสุดๆละเนี่ย ยิ่งมีกุ้งไปช่วยด้วยก็ยิ่งง่าย เอาเป็นว่าจากนี้ไปอิงก็ค่อยๆฝึกการเป็นผู้ช่วยกามเทพไปทีละนิด ให้กุ้งคอยประกบ เวลาเจอเหตุเฉพาะหน้าก็แก้กันไป ไม่ยากหรอก สู้ๆนะ เรามั่นใจว่าอิงทำได้แน่ๆ”
ถ้อยคำให้กำลังใจที่แพรวเพชรย้ำเสียงหนักประกอบ ทำให้อิงอรุณเค้นรอยยิ้มออกมาได้ “อิงต้องทำได้แน่ มันจะยากสักแค่ไหนกันเนอะ”
“ว่างเมื่อไหร่ ขนเพื่อนๆมาเยี่ยมกันบ้างนะ เราเบื่อมาก บอกเลย” แพรวเพชรบ่นตอนท้าย
“เทพไปลพบุรีตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยังไม่กลับเลย ส่วนคู่รักที่ไปบาหลีนั่นเห็นว่าประชุมยาวถึงอาทิตย์หน้าเลย เหลือแต่เรานี่แหละ ถ้ายังไงเย็นนี้จะแวะไปหาละกัน”
“เจ็บขาอย่างนั้น อิงจะขับรถไหวเหรอ”
“สบายมาก เรามีสารถีพิเศษ” อิงอรุณหัวเราะคิก เล่ารายละเอียดอุบัติเหตุให้แพรวเพชรฟังอย่างชื่นมื่น
“รถอิงขึ้นลงยาก เอารถเราไปใช้แทนดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องอึดอัดใจด้วยไง อิงเคยบอกว่าคุณสาวัชเย็นชา หน้านิ่งๆไร้อารมณ์นี่ ต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน เดี๋ยวอิงก็ประสาทกินแย่” แพรวเพชรท้วงด้วยน้ำเสียงวิตก
“เพชรไม่ต้องห่วงอิงหรอก ไปห่วงคุณสาวัชแทนดีกว่า เขาน่ะถูกอิงแหย่อิงแกล้งจนเสียศูนย์ไปแล้วมั้ง”
แพรวเพชรอือออเสียงเบา อิงอรุณไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่เพื่อนกังวล เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เธอกำลังพูดโดยสิ้นเชิง!
ณ ห้องประธานบริหารสำนักงานใหญ่สยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชั่น สุพจน์มองผู้ที่เพิ่งโขยกเขยกเข้ามาด้วยสายตาครุ่นคิด ครั้นอีกฝ่ายทำความเคารพ บุรุษอาวุโสก็คลี่ยิ้มใจดีไว้บนใบหน้า “ทำไมไม่พักอีกสักหน่อย แผลยังไม่หายดีเลยนี่”
“ดีขึ้นมากแล้วครับ” พันเทพค้อมศีรษะ ยอบตัวไปนั่งคอยที่ชุดโซฟารับแขกตามที่เจ้าถิ่นพยักพเยิดสั่ง
สุพจน์หยิบแฟ้มเอกสารติดมือมานั่งยังเก้าอี้ข้างๆ เปิดฉากสนทนาทันที “พ่ออยากให้เทพมาเริ่มงานที่สยามดริ๊งค์ฯวันจันทร์นี้เลย เทพสะดวกไหม พ่อจะได้ให้คนเตรียมออฟฟิศไว้ให้ เทพต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ไม่ครับคุณพ่อ แค่ที่คุณพ่อเมตตาผมขนาดนี้ ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เทพกำลังจะมาเป็นลูกชายอีกคนนึงของพ่อ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก เดี๋ยวพ่อจะให้เลขาฯจัดการเรื่องทำบัตรเครดิต นามบัตร และงานเอกสารอื่นๆรอไว้เลย ตอนเทพมาเริ่มงานจะได้ไม่ฉุกละหุก” ท่านคอยจนพันเทพเงยขึ้นสบตา แล้วจึงยิ้มปรานี “เอาละเรื่องงานจบแล้ว มาคุยเรื่องสำคัญกันบ้าง”
ชายหนุ่มมองท่านด้วยสายตาแสดงความสงสัย
“ก็เรื่องพิธีหมั้นหมายกับงานแต่งของเทพกับอิงยังไงละ พ่อไม่ใช่คนถือฤกษ์ยามอะไร เพราะฉะนั้นวันหมั้นพ่อก็ขอใช้ฤกษ์สะดวกละกัน เทพคงไม่ถือสานะ พ่ออยากจัดงานที่บ้านเทียมสุบรรณเป็นการภายใน เชิญแขกเฉพาะที่สนิทๆ เท่าที่ตรวจตารางนัดดูแล้ว ปลายเดือนหน้าน่าจะเหมาะที่สุด เทพลองไปปรึกษาท่านนายพลดูละกันว่าเลือกวันไหน พ่อจะให้เลขาฯเตรียมเรื่องสถานที่เอาไว้ เรื่องรายละเอียดของงาน อิงกับเทพจัดการตามที่ต้องการได้เลย พ่อเป็นเจ้าภาพให้เอง
“ส่วนงานแต่งก็ใช้ฤกษ์ที่คุณหญิงแม้นมาศบอกมา พ่อไม่ขัดข้อง สำหรับค่าใช้จ่ายจัดงาน แขกของพ่อคงเยอะพอควร เพราะฉะนั้นก็ฝากไปเรียนท่านนายพลเลยว่าพ่อขอรับหน้าเสื่อดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดอีกเหมือนกัน”
สุพจน์มองเห็นแววละอายจากดวงตาของคนอายุน้อยกว่าชัดเจน บุรุษชราวางหน้านิ่งๆไม่แสดงความรู้สึก ขณะเลื่อนแฟ้มเอกสารไปวางตรงหน้าเขา “ที่เทพขอร้องพ่อไว้ตอนพ่อออกจากโรงพยาบาล พ่อจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขของพ่อ ไม่ใช่ของเทพ พ่อหวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”
พันเทพรับแฟ้มไปเปิดอ่านและทำความเข้าใจอยู่ครู่ใหญ่
“เทพขอให้พ่อทำหนังสือข้อตกลงก่อนแต่งงาน ว่าเทพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของอิงไม่ว่าจะได้มาก่อนหรือหลังแต่งงานก็ตาม ซึ่งพ่อขอเพิ่มเงื่อนไขที่ใจร้ายและเห็นแก่ตัวสักหน่อย ที่พ่อต้องทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของอิงอรุณ หลังการแต่งงานหากน้องอิงเสียชีวิตไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม สมบัติทั้งหมดที่อยู่ในชื่อของอิงอรุณจะตกเป็นของการกุศล ด้วยวิธีนี้ท่านนายพลจะไม่ได้ประโยชน์จากการทำร้ายลูกสาวของพ่อ หวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”
ชายหนุ่มก้มศีรษะนิดๆ “แค่ที่ได้บารมีของบ้านเทียมสุบรรณคุ้มครองชีวิตผมไว้ ก็เป็นพระคุณมากแล้วครับพ่อ ผมไม่ต้องการทรัพย์สมบัติของอิงแม้แต่บาทเดียว เงื่อนไขที่คุณพ่อเพิ่มเข้ามา ผมเห็นด้วยและยอมรับได้ครับ”
สุพจน์ตบบ่าชายหนุ่ม “พ่อไม่เอาเปรียบเทพขนาดนั้นหรอก นอกจากเงินเดือนในตำแหน่งซีเอ็มโอแล้ว พ่อจะให้กองทุนของครอบครัวจัดสรรเงินให้เทพใช้อีกส่วนนึง ซึ่งเงินจากกองทุนนั่นจะเริ่มโอนเข้าบัญชีเทพทุกเดือนหลังการแต่งงาน!”
สำนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ในช่วงเย็นคลาคล่ำเป็นพิเศษด้วยลูกค้าที่มาเข้าคอร์สทำกิจกรรมหลังเลิกงาน วันนี้บริษัทฯเชิญวิทยากรมาสอนเรื่องการทำเทียนเจล เทียนหอม และเทียนแฟนซี เพราะแพรวเพชรยังคงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล อิงอรุณจึงต้องรับหน้าที่ควบคุมความเรียบร้อยแทน
หนุ่มโสดสาวโสดทุกคนมีป้ายชื่อระบุหมายเลขสมาชิก หลังจับสลากจับคู่เรียบร้อยแล้ว ทุกโต๊ะจะได้รับอุปกรณ์เพื่อช่วยกันทำตามที่วิทยากรแนะนำหน้าห้อง กิจกรรมอันต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และความประณีตช่วยให้หนุ่มสาวใกล้ชิดและเรียนรู้กันและกันได้ง่ายขึ้น
ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีจนมาถึงช่วงท้าย ขณะทุกคนกำลังชื่นชมผลงานที่ทำเสร็จแล้ว อิงอรุณก็เปิดเข้ามาในห้องเวิร์คชอป ในมือถือไมโครโฟนมาประกาศด้วยสีหน้ายินดี “อิงมีใครบางคนอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักค่ะ” เธอผายมือไปทางประตู แล้วหนุ่มสาวคู่หนึ่งก็ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างผู้ช่วยกามเทพสาว “สมาชิก F๑๑๒ และ M๓๐๘ ค่ะ”
เสียงปรบมือดังก้องขณะฝ่ายหญิงรับไมโครโฟนไปถือไว้
“นาตอนงค์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนนะคะ” หญิงสาวรูปร่างสูง ค่อนข้างอวบ ผิวขาวผ่อง โปรยยิ้มจนตาหยีพร้อมกับทักทายเสียงสั่นนิดๆ เธอเล่าประวัติส่วนตัวสั้นๆ “ครั้งแรกที่นาตได้ยินชื่อบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์จากข่าวสังคมคือหนึ่งปีที่แล้ว บอกตามตรงว่าพอรู้ว่าบริษัทนี้ให้บริการอะไร นาตขำ คิดไว้ก่อนเลยว่าชีวิตนี้ไม่มีวันใช้บริการจำพวกนี้เด็ดขาด แต่อาอี๊...คุณน้าของนาตน่ะค่ะ ท่านแอบมาสมัครใช้บริการพร้อมทั้งจ่ายเงินทั้งหมดให้ล่วงหน้า พอนาตรู้ก็มาขอเงินคืนค่ะ ทายสิคะว่านาตได้เงินคืนไหม”
คนฟังส่ายหน้ากันเป็นแถว
“อ้าวๆๆ เห็นอิงกับเพชรหน้าเงินขนาดนั้นเลยเหรอค้า” อิงอรุณโอดครวญเรียกเสียงหัวเราะจากคนฟังได้กราวใหญ่
นาตอนงค์ส่ายศีรษะ “ผิดค่ะ คุณอิงกับเพชรยินดีคืนเงินให้นาตเต็มจำนวน โดยมีข้อแม้คือนาตต้องไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทหนึ่งครั้ง ไม่ต้องทายก็เดาได้ใช่ไหมว่านาตตกลง เป็นข้อตกลงอะไรก็ไม่รู้นาตมีแต่ได้เปรียบ ใครจะพลาดเนอะ”
เสียงปรบมือดังเกรียวกราว นาตอนงค์จึงเอ่ยต่อ “นั่นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้นาตได้เจอผู้ชายคนนี้” เธอคว้าข้อมือดึงคนข้างตัวมาใกล้ๆ “นาตซื้อคอร์สเดือนละหน รวมห้าคอร์ส เหมือนฟ้าเห็นใจเลยค่ะ ยิ่งเจอกันแต่ละครั้งก็ยิ่งรู้ว่าพี่เขาชอบทุกอย่างเหมือนนาต คุณเพชรเลยเสนอให้เราเปิดโปรไฟล์ให้อีกฝ่ายดูแล้วแนะนำชื่อจริงให้กัน จากนั้นก็ให้ผู้ช่วยกามเทพจัดเดตกับเขา แล้วก็นี่ล่ะค่ะ...” หญิงสาวยกมือซ้ายที่สวมแหวนเพชรขึ้นอวดทุกคน “นาตกำลังจะแต่งงานค่ะ”
เสียงเฮดังลั่นห้อง ทุกสีหน้ามีแต่รอยยิ้มดุจวาดหวังว่าในอีกไม่นานจะมีเรื่องราวดีๆเช่นนี้เกิดกับตัวเองบ้าง
“ขอบคุณผู้ช่วยกามเทพทุกคนที่ทำให้นาตมีวันนี้นะคะ นาตเชื่อแล้วละค่ะ ที่คุณเพชรกับคุณอิงบอกว่าในความรักเราไม่ต้องการจิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้สนิทเสมอไป อาจมีเหลื่อมบ้างขาดบ้าง ขอแค่เราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่อึดอัดและมีความสุขก็พอแล้ว เพราะคนทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ เราคงไม่สามารถคาดหวังให้ภาพความรักของเราสมบูรณ์แบบได้เช่นกัน”
หญิงสาวก้มศีรษะแล้วส่งไมโครโฟนให้คนรัก ชายหนุ่มรับมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
“ลับฟ้าครับ สมาชิกหมายเลขเอ็มสามศูนย์แปด ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยเชื่อเรื่องบริษัทจัดหาคู่นี่เลย บอกตัวเองเสมอว่าผมไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น มาครั้งแรกก็เพราะเพื่อนผมอยากมาสมัครสมาชิก เลยลากผมมาด้วย คุณอิงกับคุณเพชรคงมีสาลิกาลิ้นทองดี ฟังที่คุณอิงคุณเพชรอธิบายเกี่ยวกับบริษัทจบปุ๊บ ผมก็สมัครเป็นสมาชิกทันทีแบบไม่ต้องหยุดคิด” เขายิ้มโปรยเสน่ห์ เหลียวมาสบตาคนข้างกายด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม เรียกเสียงวี้ดว้ายจากสาวๆได้อีกคำรบ
ลับฟ้าหัวเราะเบาๆ “ยิ่งได้รู้จักและใช้บริการที่คิวปิดแอสซิสแทนซ์นานเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้ว่าถ้าผมมัวแต่ก้มหน้าลงด้วยอคติของตัวเอง โลกทั้งใบก็จะหมุนผ่านผมไป และบางทีผมอาจจะพลาดสิ่งที่ตัวเองรอคอยมาตลอดทั้งชีวิตก็ได้ ขอบคุณคิวปิดแอสซิสแทนซ์ครับที่สอนให้ผมเข้าใจว่าการเปิดโอกาสให้ตัวเอง สำคัญมากแค่ไหน”
นาตอนงค์รับไมโครโฟนจากคู่หมั้นอีกครั้ง “งานแต่งนาตจัดปลายปีนะคะ ถ้าเพื่อนๆในห้องนี้ มีคนควงไปงานด้วยแล้วละก็ นาตขอเชิญด้วยนะคะ แล้วนาตจะมาอัพเดทให้ทราบข่าวกันเป็นระยะ ขอบคุณค่ะ”
เสียงปรบมือ เป่าปาก ล้อเลียนดังระงม เพียงนาตอนงค์วางไมโครโฟน สมาชิกในห้องก็ทยอยลุกขึ้นมาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นการใหญ่
อิงอรุณยืนยิ้มกริ่มภาคภูมิใจอยู่ที่หน้าห้อง เธอกวาดสายตาไปรอบๆแล้วก็สะดุดกึก เมื่อพบว่าด้านหลังสุดตรงใกล้ๆประตู มีใครคนหนึ่งยืนหน้านิ่งขรึม ดวงตาคมปลาบมองตรงมาที่เธอ คงเป็นอุปาทานที่ทำให้หญิงสาวคิดว่าเขากำลัง...ยิ้ม
หญิงสาวกะพริบตางุนงง และก่อนจะทันรู้ตัว อิงอรุณก็ส่งยิ้มคืนกลับไป อ่อนหวาน...นุ่มนวลปานเดียวกัน
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
@Zephyr : ครูสอนเขียนนิยายบอกว่าตัวละครเอกต้องมีพัฒนาการค่ะ
เพราะฉะนั้นตอนจบอิงอรุณก็ต้องน่ารักขึ้นอ่ะนะ
ความรักทำให้คนเปลี่ยนไป 55555
ส่วนเรื่องนาฬิกา แอบสารภาพว่าเป็นความชอบส่วนตัวของคนเขียนค่ะ
พอดีเห็นว่าตัวเรื่อง โทนของนิยายก็เอื้อ
เลยหยิบมาใส่ลงไปเป็นกิมมิคนึงด้วย
ทีแรกในฉบับตีพิมพ์มีบรรยายหน้าตานาฬิกานะคะ
แต่ต้นฉบับยาวพอดู บ.ก.เลยขอให้ทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกบ้าง
บอกตามตรงว่าแอบดีใจนะคะที่คุณ Zephyr ไปหารูปดู
Corum Golden Bridge ที่นางเอกสวม มันสวยมากค่ะ
ถ้าจะซื้อจริงๆ เรือนนี้แนะนำเลย 55555
@Pat : พี่ ดร. ก็ต้องน่ารักขึ้นตามสเต็ปอ่ะค่ะ
เค้าว่าคนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึงด้วยนะ แฮ่...
@พอใจ : เดี๋ยวมีเฉลยเรื่องดารณียาวๆเลยค่ะ
ไม่ต้องรอหน้าสุดท้ายด้วย
แค่บทก่อนสุดท้ายเอ๊ง เย้ย! ไม่ใช่ๆ 5555
เดี๋ยวพอเฉลยนะ พอใจจะอึ้ง
บอกไม่ถูกไปเลยว่าจะสงสารดารณีดีไหม อิอิ
ส่วนนาฬิกาของนางเอก ก็มีเฉลยเช่นกันค่ะ
ติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะเออ มีอะไรให้ยิ้มกันอีกเยอะ
(และมีอะไรให้อยากเขวี้ยงหมอนใส่สิริณด้วย 555)
@konhin : เขียนๆไป บางทีสิริณก็มึนไปกับสองคนนี้นะคะ
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองกันสักทีเนี้ยยยย
@Sumitt777 : พี่ ดร. นี่แกทำบุญมาดี
คนอ่านเอาใจช่วยดีจัง อิอิ
ขอบคุณที่รักและเอ็นดูสาวัชนะค้าาา :D
สิริณ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2559, 20:11:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2559, 20:11:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 1230
| << ตอนที่ 21 (50%) | ตอนที่ 22 (100%) >> |
พอใจ 31 พ.ค. 2559, 20:48:56 น.
อ้าวหนูอิง โดนเพื่อนสนิทสาวทิ้งให้คุมบริษัทคนเดียว จะไปรอดมั้ยคะเนี่ย เอ๊ะๆๆ แล้วใครกันน๊าาาาา มาแอบยืนดูอยู่ อยากให้เป็นคุณดร. หน้ามนคน(เหมือนจะ)ซื่อจังค่ะ
แล้วมายืนดูทำไมนะ
อ้าวหนูอิง โดนเพื่อนสนิทสาวทิ้งให้คุมบริษัทคนเดียว จะไปรอดมั้ยคะเนี่ย เอ๊ะๆๆ แล้วใครกันน๊าาาาา มาแอบยืนดูอยู่ อยากให้เป็นคุณดร. หน้ามนคน(เหมือนจะ)ซื่อจังค่ะ
แล้วมายืนดูทำไมนะ 
Zephyr 31 พ.ค. 2559, 23:02:14 น.
ใครมายืนน้อออออออออออออออออออ
คิดว่าน่าจะสาวัช แต่ๆๆๆๆๆๆ
ปิ๊งงงงงงงงงง พันเทพ ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่น
เอ รึถูกนะ
เคอ่ะ นางต้องน่ารักขึ้นเนาะ สองอาทิตย์นี่คงจะช่วยไรบ้าง
นาฬิกา ราคาเลือดสาดมากค่ะ
ใครมายืนน้อออออออออออออออออออ
คิดว่าน่าจะสาวัช แต่ๆๆๆๆๆๆ
ปิ๊งงงงงงงงงง พันเทพ ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่น
เอ รึถูกนะ
เคอ่ะ นางต้องน่ารักขึ้นเนาะ สองอาทิตย์นี่คงจะช่วยไรบ้าง
นาฬิกา ราคาเลือดสาดมากค่ะ
konhin 1 มิ.ย. 2559, 04:10:12 น.
หึๆๆ มองหาทางไปของคู่เอกไม่เจอ ยังไม่รู้ตัวว่ารัก คนหนึ่งก็กำลังจะแต่งงานวางแผนซะยกใหญ่แล้ว จะไปรู้ตัวกันตอนไหน
หึๆๆ มองหาทางไปของคู่เอกไม่เจอ ยังไม่รู้ตัวว่ารัก คนหนึ่งก็กำลังจะแต่งงานวางแผนซะยกใหญ่แล้ว จะไปรู้ตัวกันตอนไหน
sumitt777 1 มิ.ย. 2559, 06:23:42 น.
ชวนให้ลุ้น& ติดตามมากกค่ะ รออยู่ทุกวัน นะคะ PLS.
ชวนให้ลุ้น& ติดตามมากกค่ะ รออยู่ทุกวัน นะคะ PLS.
นักอ่านเหนียวหนึบ 1 มิ.ย. 2559, 10:22:49 น.
โอยๆๆๆๆๆๆๆ อยากทำบริษัทแบบนี้บ้างงงงงงง อมยิ้มไปกับคู่ของลับฟ้ากะเจ้สาวอวบเลย 555
โอยๆๆๆๆๆๆๆ อยากทำบริษัทแบบนี้บ้างงงงงงง อมยิ้มไปกับคู่ของลับฟ้ากะเจ้สาวอวบเลย 555
