คิวปิด...ตัวกวนป่วนรัก
เมื่อเทพคิวปิดถูกลดหน้าที่ให้เป็นแค่ ‘เทพเบ๊’ คิวปิดสาวจึงเร่งปฎิบัติกอบกู้ศักดิ์ศรี แต่ดันแผลงศรพลาด ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวตกหลุมรัก ‘พี่ชาย’ ของสาวคนรัก เรื่องป่วนๆ จึงเริ่มขึ้น !
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน 13

“ทำไมคุณถึงเป็น...แบบนี้” เจอเรื่องเหลือเชื่อกับตัวเองขนาดนี้ก็ทำเอาคนใจแข็งอย่างรักษิตพูดไม่ออกเหมือนกัน

เซเลน่าไม่ตอบ คิดอยากจะหายตัวหนีไปเลย จะได้ไม่ต้องบอกความลับของหล่อนกับใครแล้วค่อยหาทางกลับมาแก้ไขปัญหาใหม่ แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับทำให้หล่อนไม่กล้าหายไปจากตรงนี้ราวกับกลัวว่าจะไม่ได้กลับมาพบเขาอีก

“เอแคร์ คุณเป็นใครกันแน่” เขาถามขึ้นอีกครั้ง “คุณไม่ใช่คนใช่ไหม”

ดวงตาคมที่มองหล่อนดูหวาดหวั่น ทำเอาผู้ถูกมองใจหาย หล่อนไม่ลืมกฎของท่านซีอุสไปว่า

‘ห้ามเปิดเผยความลับบนเทือกเขาโอลิมปัสให้ใครรู้เด็ดขาด’

แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่บอกความจริงกับชายหนุ่ม การหาทางช่วยเหลือรักษิยาและภูมิที่ตอนนี้ทั้งสองอยู่ในสภาวะวิกฤตก็คงทำได้ลำบาก ตอนนี้ท่านซีอุสก็กำลังประชุมงานยุ่งอยู่ ท่านอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าหล่อนผิดกฎ

“ถ้าฉันบอกคุณว่าฉันเป็นใคร คุณอย่ากลัวฉันนะ” ตัดสินใจจะบอกความจริงกับชายหนุ่ม


คิ้วหนาเลิกสูงอย่างไม่เข้าใจ

“รับปากฉันก่อนสิ”

“ผมรับปาก”

คิวปิดสาวสบายใจขึ้นมาบ้าง ใครจะกลัวไม่กล้าเข้าใกล้หล่อนก็ช่าง แต่ขออย่าให้คุณพี่รักกลัวหล่อนก็พอ เซเลน่าสวมสร้อยปีกนกในมือลงคอ อิทธิ์ฤทธิ์ของสร้อยปีกนกทำให้ร่างคิวปิดกลายเป็นมนุษย์ต่อหน้าต่อตารักษิต...เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหญิงสาวถึงไม่ยอมถอดสร้อยออกจากตัวเลย

“ไปคุยกันข้างนอกเถอะ เดี๋ยวมีใครโผล่มาอีก พวกมนุษย์นี่ประตูลับเยอะชะมัด” พูดแล้วเดินนำไปที่ประตู ทว่าชายหนุ่มยังยืนค้างนิ่ง เพราะยังตกตะลึงกับภาพที่เห็นเมื่อสักครู่ไม่หาย


“ไปเร็ว” คิวปิดสาวคว้ามือชายหนุ่มพาลากออกไปจากห้องน้ำ โดยไม่ยี่หระต่อสายตาของบุคคลอื่นที่เดินสวนเข้ามาและมองตามชายหนุ่ม-หญิงสาวที่ลากจูงกันออกจากห้องน้ำสาธารณะตอนกลางวันแสกๆ !

‘คนสมัยนี้ช่างกล้าจริงๆ’

----------------------------------------------------------------------------

เซเลน่าจูงมือรักษิตมาหยุดยังเก้าอี้ยาวริมสระน้ำเนื่องจากบริเวณนี้ปลอดคน แล้วสั่ง “นั่ง”

รักษิตยอมทำตามอย่างว่าง่าย เนื่องจากยังอึ้งไม่หาย หญิงสาวหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นจึงนั่งลงข้างชายหนุ่มแล้วกระซิบ “จริงๆ ฉันชื่อเซเลน่า ฉันเป็นคิวปิดมาจากเทือกเขาโอลิมปัส”

“คิวปิด? คุณไม่ได้โกหกหรือเล่นกลให้ผมดูใช่ไหมเซ...” รักษิตจำชื่อจริงของหญิงสาวไม่ได้

“เรียกฉันเอแคร์เหมือนเดิมก็ได้ค่ะ ตามแต่สะดวก” บอกแล้วถึงเสริมต่อ “ฉันไม่ได้โกหก หรือคุณอยากจะให้ฉันแปลงร่างให้ดูอีกรอบ”

“ไม่ต้อง ! ผมยังไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่งเพราะรู้จักเทพจากเทือกเขาโอลิมปัส ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่ หรือจะมาแผลงศรให้คนรักกัน”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ หน้าที่ทำให้มนุษย์รักกัน มันไม่มีมานานแล้ว ตอนนี้พวกเทพคิวปิดเป็นได้แค่เทพเบ๊”

“เทพเบ๊? อะไรคือเทพเบ๊”

“ค่ะ เทพเบ๊ก็คือเทพที่ใครจะใช้งานเรายังไงก็ได้ มันไม่ต่างจากคนรับใช้อย่างในละครไง แล้วในฐานะที่ฉันเป็นลูกหลานของบรรพบุรุษคิวปิด ฉันก็เลยอยากกอบกู้ศักดิ์ศรีของคิวปิดคืนมาด้วยการลงมาแผลงศรให้มนุษย์ที่เป็นเนื้อคู่กันได้รักกัน และมนุษย์คู่นั้นก็คือคุณกับผู้หญิงชื่อดาลัด”

“ดาลัด ญาติของภูมิน่ะเหรอ”

“ใช่มั้งคะ” เซเลน่าไม่มั่นใจ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าดาลัดเป็นญาติกับภูมิ

“ผมเนี่ยนะเป็นเนื้อคู่กับน้องดา” รักษิตถามอย่างคาดไม่ถึง

“ค่ะ ตามสมุดเนื้อคู่-คู่ถัดไประบุเอาไว้ว่าอย่างงั้น ฉันก็เลยลงมาแผลงศร แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“แต่ว่า...ฉันทำพลาดไปนิดหน่อย ลูกศรของฉันที่ควรจะปักบนหน้าอกข้างซ้ายของคุณ แล้วมันก็บังเอิ๊ญบังเอิญลอยไปปักบนหน้าอกของคุณพี่ภูมิ แล้วก็บังเอิ๊ญบังเอิญอีกว่าคุณเป็นคนแรกที่คุณพี่ภูมิเห็น คุณพี่ภูมิก็เลย...” คิวปิดสาวพูดไม่ออก

“ไอ้ภูมิก็เลยตกหลุมรักผม” รักษิตต่อท้ายให้หลังจากคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ พอหญิงสาวยิ้มแห้งแทนคำตอบ เขาก็ถึงกับถอนหายใจยาว และนั่นก็สร้างความไม่สบายใจให้หญิงสาว

“คุณพี่รักอย่าทำหน้าแบบนี้สิคะ ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันสร้างปัญหาให้พวกคุณ ฉันถึงต้องลงมาช่วยพวกคุณ” เซเลน่าอธิบาย

“แล้วคุณจะทำยังไง”

วงหน้ารูปไข่เศร้าลง “ฉันยอมรับว่าฉันก็ยังไม่รู้เลยค่ะ ตอนนี้ลูกศรที่ปักอยู่บนหน้าอกของคุณพี่ภูมิก็ซึมหายไปในตัวแล้วด้วย แต่คุณพี่รักเชื่อฉันนะ ฉันจะต้องทำให้คุณพี่ภูมิเลิกรักคุณแล้วกลับไปรักคุณยาเหมือนเดิม”

“ถ้าอย่างงั้นผมว่าเราก็บอกความจริงกับยาไปเลยดีไหม ยาจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก”

“ไม่ได้ค่ะ ! ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้อีกเด็ดขาด เพราะมันผิดกฎของท่านซีอุสประมุขของเทือกเขาโอลิมปัส”

“แต่คุณเพิ่งบอกผม ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันผิดกฎ”

“ทำยังไงได้ ก็ในเมื่อคุณเห็นความลับของฉันแล้ว จริงๆ ฉันก็หายตัวหนีไปจากคุณเลยก็ได้ ฉันจะได้ไม่ต้องทำผิดกฎบอกความลับนี้กับคุณ แต่ทำไมไม่รู้อยู่ดีๆ ฉันก็กลัวจะไม่ได้กลับมาพบคุณอีก”

ดวงตากลมโตที่กำลังมองเขาเศร้าหมอง หากมันทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาดจนต้องพูดความในใจออกมา “ผมก็กลัวเหมือนกัน”

หัวใจของเซเลน่ารู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความกลัว ความกังวลไม่สบายใจต่างๆ อันตรธานหายไป ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อบอกความจริงกับเขาแล้ว หล่อนจะมีกำลังใจมากขนาดนี้ ต่อไปนี้นอกจากลักกี้แล้ว หล่อนจะมีเขาอยู่เคียงข้าง
โทรศัพท์ของรักษิตดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมามองหน้าจอแล้วยิ้ม หันมาบอกคิวปิดสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ “ยาโทรมา” ค่อยกดรับสาย

“ยา หายไปไหนมา พี่เป็นห่วงแทบแย่เลยรู้ไหม”

“ฉันก็เป็นห่วงค่ะ” เซเลน่าเสริม พร้อมกับขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม แนบหน้าติดกับใบหน้าของอีกฝ่าย อยากฟังเสียงรักษิยาในโทรศัพท์ด้วย โดยไม่ทันรู้ตัวว่าผิวแก้มนุ่มที่สัมผัสกับแก้มสากของเขา มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

“ยาแวะไปคุยงานกับลูกค้ามาค่ะ เขาโทรมานัดตอนยากำลังจะขับรถไปที่ร้าน พอดีตึกของลูกค้าไม่มีสัญญาณค่ะ” รักษิยาอธิบายอย่างละเอียด เนื่องจากกลับมาที่ร้านแล้วรู้จากรักพงษ์ว่าผู้เป็นพี่ชายกำลังตีโพยตีพายว่าหล่อนหายไป

‘พี่รักนี่จะอะไรนักหนาก็ไม่รู้นะพี่ยา ชอบทำเหมือนเราเป็นเด็กๆ ไปได้ ผมก็บอกแล้วว่าพี่ยาไม่เป็นอะไรหรอกก็ไม่เชื่อ สั่งให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ยา ดูดิ ผมก็เลยอดติดรถกลับหอไปกับเพื่อนเลย’

รักษิยารู้ว่าพี่ชายคงไม่ได้เล่าเรื่องหล่อนกับภูมิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเกิดเจ้าน้องชายจอมอารมณ์ร้อนรู้เรื่องขึ้นมาคงไม่อยู่เฉยแน่

“ยาขอโทษนะคะที่ทำให้ต้องเป็นห่วง” รักษิยาบอกเพียงเท่านั้น ไม่คิดจะเล่าให้พี่ชายฟังเรื่องที่รักพงษ์บ่น

“ยาไม่เป็นอะไร พี่ก็สบายใจแล้ว แล้วนี่ยาเป็นไงบ้าง โอเคไหม” ผู้เป็นพี่ชายถามด้วยความห่วงใย หากปลายสายยังไม่ทันตอบ เซเลน่าก็พูดแทรกขึ้นด้วยความห่วงใย

“คุณยาอย่าเสียใจไปนะคะ เชื่อฉันนะคะว่าคุณพี่ภูมิยังรักคุณยาอยู่”

ปลายเสียงเงียบไปอึดใจ ก่อนตอบเสียงเครือ “ขอบใจมากนะจ๊ะเอแคร์ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะพี่รัก พอดีมีลูกค้าเข้าร้าน”

“จ้ะ” พูดจบก็กดวางสาย

“อ้าว...วางสายทำไม ฉันยังไม่ได้คุยกับคุณยาเลย”

“คุณจะคุยอะไรกับยา”

“ฉันจะให้กำลังใจคุณยา ฉันไม่อยากให้คุณยาเสียใจมากไปกว่านี้ ไม่งั้นเกิดคุณยา...” คิวปิดสาวชะงัก คิดขึ้นมาได้ว่าไม่ควรพูดเรื่องที่ดวงชะตาของรักษิยาอยู่ใกล้เส้นมรณะจากเรื่องความรัก เพราะอาจจะสร้างความไม่สบายใจให้รักษิตให้มากไปกว่านี้

“ยาทำไม” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไป

“เกิดคุณยาเอาแต่ร้องไห้แบบเมื่อคืน เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี” เซเลน่าว่าไปเรื่อย ครั้นเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วยจึงรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะสงสัย “ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าฉันไม่ใช่มนุษย์ และฉันก็ไม่ได้ความจำเสื่อม เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องพาฉันไม่ต้องไปหามนุษย์ชุดขาวอีกแล้วนะ”

“อืม” ชายหนุ่มรับคำ

“งั้นเราไปหาคุณยาที่ร้านกันเถอะ” คิวปิดสาวลุกขึ้น แล้วจู่ๆ โลกก็หมุนติ้ว ภาพตรงหน้าเอียงกะเท่เร่ ยังผลให้ร่างบางล้มตึงลงไปบนพื้นอย่างแรง

“เอแคร์ !” ร้องแล้วปราดเข้าไปประคองร่างหญิงสาวที่นอนกองอยู่บนพื้น “คุณเป็นอะไรไป”

“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆ ทุกอย่างมันเอียงไปหมด หน้าคุณยังเอียงเลย”

“แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง”

คิวปิดสาวกะพริบตาถี่ๆ ขณะมองไปรอบๆ “เหมือนเดิมเป็นปกติแล้ว แต่...แต่ทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยๆ ก็ไม่รู้คุณพี่รัก อย่างกับวิ่งไล่กับเจ้าลักกี้มาเป็นร้อยครั้ง” หล่อนหายใจหอบจนตัวโยก ใบหน้าซีดเซียวราวไข่ต้ม

“ไปหาหมอนะ” ชายหนุ่มทำท่าจะช้อนร่างบางขึ้น

“ไม่เอา ฉันไม่ไป เดี๋ยวพวกนั้นบังคับให้ฉันถอดสร้อยปีกนกออก”

รักษิตคิดแล้วจับร่างบางนั่ง แล้วจับสองบ่าของหญิง “หายใจลึกๆ นะ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ”

เซเลน่าทำตามคำแนะนำของชายหนุ่ม สักพักอาการเหนื่อยหอบค่อยๆ หายไป

“เป็นไง ดีขึ้นไหม” รักษิตถามพร้อมกับใช้สองมือประคองใบหน้าเล็กอย่างห่วงใย

หญิงสาวพยักหน้ารับ ใบหน้าเริ่มมีสี โดยเฉพาะบริเวณริมฝีปากบางที่ขาวซีดเริ่มเป็นสีชมพูน่ารักเหมือนเคย หากรักษิตไม่เคยเห็นในระยะใกล้เช่นนี้มาก่อน เรียวปากบางสีชมพูสดราวกลีบกุหลาบสะกดไม่ให้ละสายตาได้

เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบของชายหนุ่มที่จ้องหล่อนอยู่ในขณะนี้มีประกายวาววับที่ทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งสองจึงจ้องหน้ากันเนิ่นนานราวต่างฝ่ายต่างต้องมนต์สะกด จนกระทั่งเสียงแหบพร่าดังขึ้น

“อะแฮ่ม !”

ทั้งสองรู้สึกตัวจึงผละจากกันอย่างเก้อเขิน แต่พอมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของใครอยู่ในบริเวณนั้น

“เสียงใคร” รักษิตแปลกใจ

ทันใดนั้นสายตาของคิวปิดสาวหันไปเห็นอะไรบางอย่างบนผิวน้ำก็ร้อง “ท่านอีปัส !” แล้วคลานเข่าเข้าไปหยุดริมขอบสระน้ำ รักษิตมองตามหญิงสาวไปจึงเห็นใบหน้าชายชราภายในกรอบสี่เหลี่ยมขนาดเท่าจอโทรทัศน์ปรากฏอยู่บนผิวน้ำ

“เฮ้ย !” รักษิตร้องลั่น

“อย่าเสียงดังสิคุณ เดี๋ยวคนอื่นก็แตกตื่นกันหมดหรอก” เซเลน่าปรามและมองสำรวจไปรอบๆ แล้วค่อยหันมาแนะนำ “คุณพี่รัก นี่ท่านอีปัสเทพคิวปิดชราที่อยู่บนเทือกเขาโอลิมปัสเหมือนฉัน ท่านอีปัสคะ นี่คุณพี่รักษิตค่ะ”

“สวัสดีพ่อหนุ่ม” คิวปิดชราทักทาย

ถึงยังไม่หายตกใจ แต่รักษิตก็ยังยกมือไหว้ทักทายอีกฝ่าย “สวัสดีครับ” ก่อนปล่อยให้สองคิวปิดจากเทือกเขาโอลิมปัสคุยกัน

“ท่านอีปัสโผล่มาตรงนี้ได้ยังไงคะ”

“ข้าแอบใช้วีดีโอคอนเฟอเรสในวิหารของท่านซีอุสมาเตือนเจ้า”

“เตือนข้าเรื่องอะไรคะ”

“ก็เจ้าเพิ่งทำอะไรไว้ล่ะ”

เซเลน่านิ่วหน้าคิด คิวปิดชราเห็นท่าว่าจะนานก็เลยเฉลย “ไม่ต้องคิดแล้ว เสียเวลา เดี๋ยวใครมาเห็นข้าเข้า”

“ดีค่ะ” คิวปิดสาวยิ้มทะเล้น

“ก็เจ้าเพิ่งบอกความลับของเทือกเขาโอลิมปัสกับพ่อหนุ่มรูปงามผู้นี้ไม่ใช่หรือไง” ท่านอีปัสชี้ไปทางรักษิตที่ยืนฟังอย่างตั้งใจ

“ท่านรู้ได้ยังไงคะ” เซเลน่าตกใจ

“ข้าเห็นโคมไฟอายุขัยของเจ้าที่อยู่ในวิหารคิวปิดของเรามันหรี่แสงลงน่ะสิ” ในวิหารของแต่ละทวยเทพจะมีโคมไฟอายุขัยของเทพหรือเทวีแต่ละองค์รวมกันอยู่ในห้องควบคุม “และข้าก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าก่อเรื่องอะไร”

“ข้าไม่เข้าใจ” เซเลน่าบอก

“เฮ้อ...ทำไมคิวปิดรุ่นใหม่เข้าใจยากกันจริงๆ” คิวปิดชราบ่น ก่อนเสริมต่อ “คืออย่างนี้นะ เจ้าคงไม่รู้ใช่ไหมว่าถ้าเจ้าหรือเทพองค์ใดก็ตามที่บอกความลับเทือกเขาโอลิมปัสให้มนุษย์รู้ ต่อให้ท่านซีอุสยังไม่รู้ แต่ เจ้าก็จะถูกอำนาจแห่งเทือกเขาโอลิมปัสลิดรอนพลัง ทำให้พลังในตัวเจ้าลดน้อยลง เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ เจ้าจะไม่แข็งแรงเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว”

มิน่า...เมื่อตะกี้ถึงได้รู้สึกประหลาด คิวปิดสาวคิดในใจก่อนนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่แค่รักษิตคนเดียวเท่านั้นที่เห็นสภาพหล่อนตอนเป็นคิวปิด หากมีอีกสองคนเลย

“แต่ถ้าพวกมนุษย์มาเห็นข้าเองล่ะ”

“นั่นไม่นับ เพราะถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ขอแค่ไม่ให้ความลับไม่ได้ออกมาจากปากของเจ้าเหมือนอย่างที่เจ้าบอกพ่อหนุ่มเมื่อตะกี้นี้”

“แล้วต่อไปข้าจะเป็นอะไรไหมท่านอีปัส” เซเลน่าชักใจไม่ดี

“ตอนนี้เจ้ายังไม่เป็นอะไรมากไปกว่าร่างกายอ่อนแอหรอก แต่ต่อไปนี้เจ้าต้องไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้อีกเด็ดขาด รวมทั้งพ่อหนุ่มด้วยนะ อย่าพูดไปอีกเด็ดขาด เพราะถ้าท่านพูดมันก็เท่ากับว่าความลับถูกเปิดเผยจากเจ้าเซเลน่า และถ้ามีมนุษย์รู้มากๆ พลังของเจ้าจะหมดลงและต้องดับสูญไปเลย”

ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะนอกจากรักษิต หล่อนไม่คิดจะบอกใครอีกแล้ว แล้วด้วยอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เซเลน่ามั่นใจว่ารักษิตจะไม่มีวันแพร่งพรายเรื่องนี้ออกมา

โดยที่เซเลน่าลืมคิดไปว่า...ชายหนุ่มรักน้องสาวของเขามากแค่ไหน


*****************************************
ตอบคุณ วิรัตตต์ยา --- ขอบคุณนะคะทีติดตามอ่านกัน และขอบคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ



สาธิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ส.ค. 2554, 14:23:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ส.ค. 2554, 14:23:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1412





<< ตอน 12   ตอน 14 >>
เบญจามินทร์ 2 ส.ค. 2554, 20:14:35 น.
อืม...ไม่รู้จักปากเรา ไม่เป็นไร ค่อยโอเชหน่อย ไม่งั้นเซเลน่างานเข้าอีกแน่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account