เรียงหัวใจฝัน:กิ่งหัวใจ...ใบรัก (เปิดจอง 31 เม.ย. 59- 31 กรกฎาคม 59)
ผู้หญิงห้าวปากร้ายใจแข็งมือหนัก กับ ผู้ชายปากจัดเจ้าชู้จัดมือไวเรื่องวุ่นวายชักเกิดเมื่อคนสองคนที่ถูกแยกด้วยวันเวลากลับมาเจอกันอีกครั้งในคราบของวิศวกรโรงงานกับทนายหนุ่ม และอาจเพราะสายสัมพันธ์ที่ดี(มั้ง)ตั้งแต่เด็กไอ้กุ้งหัวแหลมเลยชักอยากจะลองรักยัยรำพัดดูซักที
Tags: ไอ้กุ้งหัวแหลมกับยายรำพัด,กรี,ลลิตรภัทร,ดราม่า,วัยเด็ก,เรียงหัวใจฝัน,ร้อย:เรียง:เพียง:คำ
ตอน: บทที่ ๑ 180% -จบตอน-
ภาพเด็กหญิงถูกอุ้มขึ้นเรือนไป ทำให้คนยืนมองอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ผู้เฝ้ามองเป็นชายหนุ่มอายุสามสิบห้าปี สูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ใบหน้ารูปไข่คล้ำด้วยแดดปรากฏรอยยิ้มกว้าง เมื่อริมฝีปากบางแย้มออกจนสุด
“ลัลน์” เสียงเรียกหานั้นอ่อนโยนนัก แต่ตายังมองจับไปยังชานเรือนอีกหลัง เมื่อเห็นลลิตรภัทรวิ่งหนีพี่เลี้ยงมาทางบันได “นี่ถ้าลูกไม่หิวแล้วงอแงให้ป๊อกพากลับบ้าน ก็คงหยาดไปเจอเข้าล่ะ”
“เดี๋ยวนี้ซนใหญ่ค่ะ ตาป๊อกเองก็รักน้อง เห็นเถียงๆ กันยังงั้นก็เถอะ ตามใจกันดีเหลือเกิน”
รอยแตะบางเบาแนบลงที่ต้นแขน ทำให้ชายหนุ่มที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ก่อนแล้วหันมายิ้มให้ ดวงหน้าคมคายบ่งบอกถึงอำนาจ ด้วยสง่าราศีที่ติดตัวมาแต่เกิด ดูจะละมุนลงเมื่อมองจับผู้เป็นภรรยา
ตรงนั้นเป็นชานด้านหลังของเรือนปั้นหยา ต้นโมกข์ในกระถางออกดอกสีขาววางตามมุม กลีบดอกบอบบางหล่นร่วงลงกับพื้น กระถางบัวผันสีม่วงดอกเล็กที่วางไว้ทั้งสองข้างของซุ้มประตู ก้านดอกโอนเอนเพราะโดนลมพัด ซุ้มประตูบ้านเปิดกว้างรับลม มองเห็นบันไดห้าขั้นทอดยาวลงสู่พื้น
บนชานพักมีโอ่งใส่น้ำใบเล็กๆ ไว้สำหรับล้างเท้า รอบๆ บริเวณได้ยินแต่เสียงลม เสียงนกร้องสลับกับเสียงพูดคุยแว่วๆ ดังมาจากแคร่ใต้ต้นมะขาม ที่อยู่ห่างออกไปราวสิบกว่าเมตร
“ลูกโตเร็วเกินไปหรือเปล่า พี่รู้สึกเหมือนลัลน์เพิ่งตั้งท้องแกไม่นานมานี่เอง”
มือใหญ่แข็งแรงข้างหนึ่ง โอบแทบบ่าบอบบางของหญิงสาวข้างกาย ที่อายุราวสามสิบปีต้นๆ ดวงหน้าเรียวสวยประกอบด้วยดวงโตคู่หวานสีน้ำตาล ที่ยามหลุบลงมองเห็นแพขนตางอนหนา คิ้วเรียวสวยโค้งจนดูคล้ายวงพระจันทร์รับกับจมูกโด่งเล็ก และริมฝีปากอิ่มเต็มได้รูปสวย ที่เวลาแย้มยิ้มทำให้คนมองละสายตาไม่ได้
สวยหวาน บอบบางดังดอกไม้สูงค่า ที่เมื่อได้มาต้องถนอมด้วยชีวิต
ลัลน์ลลิตยิ้มรับคำกล่าวของสามี ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม
“ครู่นี้ที่คุณหญิงเธอมา... มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าจ้ะ แค่มาเยี่ยมธรรมดา เอ่อ... มาส่งข่าวด้วยว่าคุณแม่สบายดี” ใบหน้าคนฟังหมองลง ทำให้คนพูดกระชับอ้อมกอดที่โอบบ่าแน่นขึ้น ชายหนุ่มพาหญิงสาวในอ้อมแขนให้เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านชั้นใน
ในตัวบ้านแบ่งซอยเป็นห้าห้องรวมโถงกว้างรับแขกด้านหน้า ซึ่งมีชุดเก้าอี้ไม้ซึ่งเป็นงานจำหลักของช่างฝีมือดี ลวดลายอ่อนช้อย แลดูบอบบางจนน่าจะวางโชว์มากกว่าจะนำมาใช้จริง
โถงทางเดินกว้างโล่งเชื่อมกับห้องรับแขก ผ้าม่านบังตาลูกไม้ฝรั่งเศสสีขาวที่ติดไว้ตามหน้าต่างปลิวสะบัดด้วยแรงลม พื้นบ้านเป็นไม้แผ่นใหญ่มันวับน่านอน มีตู้ไม้สักฉลุลายพระอาทิตย์กรุกระจกโชว์เครื่องลายครามตั้งชิดผนังเป็นระยะ ในนั้นวางเครื่องถมเงิน บ้างเป็นชุดเชี่ยนหมาก ไม่ก็ผอบเงินแท้ น้ำยาที่ซึมอยู่ในตัวงานบ่งบอกอายุได้ดี จนนักเล่นของเก่าเห็นเข้าต้องตาลุก
ห้องแรกสุดติดกับโถงรับแขกเป็นห้องพระ ต่อมาเป็นห้องหนังสือ ถัดมาเป็นห้องนอนของบิดามารดาลัลน์ลลิตที่เสียแล้วและตอนนี้ก็กลายเป็นห้องนอนของพวกเขา ส่วนห้องริมสุดเป็นห้องนอนของลลิตรภัทร ซึ่งมักมีพี่เลี้ยงคนใดคนหนึ่งมานอนด้วยเสมอ
หม่อมราชวงศ์รวิภัทรในชุดเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มแขนยาวกับกางเกงผ้าสีดำ เดินนำภรรยาเข้าไปในห้องนอน แล้วเรือนร่างสูงใหญ่ก็ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้หวายที่ตั้งไว้ใกล้กับริมหน้าต่างใกล้หัวนอน
ลัลน์ลลิตเดินเลยไปเปิดประตูตู้ไม้บานเลื่อนชั้นเดียวที่ติดกับโต๊ะเครื่องแป้งทางผนังด้านขวา หยิบเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กออกมาแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ข้างกัน
เตียงไม้สี่เสาตั้งเด่นอยู่กลางห้องนอนกว้าง หัวเตียงชิดติดผนังทางทิศเหนือ ข้างซ้ายเป็นโต๊ะไม้ทรงกลมแกะสลักเป็นลายฉลุมองคล้ายมีผ้าคลุมซึ่งใช้สำหรับวางโคมไฟ มุ้งผ้าในยามนี้ที่ไม่ได้ใช้งาน มัดรวบเข้ากับเสาทั้งสี่มุม ที่นอนสีขาวสะอาดถูกคลุมด้วยผ้าคลุมเตียงสีฟ้าอ่อน ตรงกันข้ามกับเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ เป็นตู้เสื้อผ้าไม้เก่ารูปทรงเทอะทะขนาดใหญ่ กั้นกลางด้วยประตูห้องน้ำกับตู้ชั้นเลื่อน และถัดมาถึงเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกรูปไข่ใสแจ๋วเพราะรับได้การดูแลอย่างดี
ลมเย็นโชยชายผ่านหน้าต่างที่เปิดกว้างเข้ามา จนได้กลิ่นหอมของมะลิ ที่ปลูกไว้ในกระถางตามระเบียงด้านนอก ผ้าม่านปลิวไสว ชายหนุ่มหลับตาเอนคอพิงพนัก ดวงหน้าดูเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย สักพักสัมผัสเย็นๆ กรุ่นกลิ่นหอมก็ทำให้คุณชายหนุ่มยิ้มออกก่อนจะลืมตาขึ้นมอง
“เช็ดหน้าหน่อยนะคะ ดูเหนื่อยๆ”
“แก่แล้วก็อย่างนี้ละ” เขาว่าพลางหัวเราะอย่างพอใจ ในขณะที่ภรรยาผู้นั่งใกล้เช็ดหน้าเช็ดตาให้ จากนั้นหม่อมราชวงศ์หนุ่มก็เอ่ยถึงพ่อค้าที่เข้ามาตีราคาผลไม้ในสวนให้ภรรยาฟัง
มือน้อยบอบบางแตะลงที่ท่อนแขนล่ำสัน เธอมองเขาอย่างห่วงใย มีแววไม่สบายใจปนอยู่ในนั้น ม.ร.ว. รวิภัทรค่อยผ่อนลมหายใจ แล้วโอบหญิงสาวผู้เป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตเข้ามากอดแนบอก กดจูบลงที่กลุ่มผมนุ่มที่รวบเป็นมวยง่ายๆ ไว้ที่กลางศีรษะ
เธอหลับตาลงซบหน้ากับอกกว้างของเขา ไม่ว่าอย่างไรจนถึงตอนนี้ลัลน์ลลิตก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยมีอนาคตรุ่งโรจน์ เป็นคนเด่นดังในวงสังคม เมื่อเป็นถึงลูกชายคนเดียวของ ‘หม่อมเจ้าหญิงวลัยฤดี’ เชื้อสายตรงของราชกุลศิริสกุลวัลย์ผู้มั่งคั่งและร่ำรวย
อดีตในตอนนั้น เขาเป็นหมอศัลย์มือหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เมืองนอก และเป็นคนที่ได้รับเกียรตินิยมเพียงไม่กี่คนจากคนไทยที่ไปเรียนต่อในตอนนั้น
และเขาก็ทิ้งมันมาเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอ
ลัลน์ลลิตรเป็นพยาบาลสาวน้อยซึ่งเพิ่งเรียนจบใหม่ และบรรจุเข้าทำงานในโรงพยาบาลที่คุณชายหมอทำงานอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุให้เธอถูกโจษจันไปในทางเสียหาย ว่าเธอยั่วยวนจน ‘เขา’ ลุ่มหลง ยอมทิ้งเกียรติยศ สละซึ่งศักดิ์ศรี ละทิ้งกระทั่งมารดา พร้อมทั้งญาติวงศ์ตระกูลมาอยู่กับเธอ
แต่รวิภัทรไม่สนใจ เขาบอกผู้เป็นภรรยาเสมอว่า มันไม่ใช่ความจริงเลย เพราะหากจะหาคนผิดในเรื่องนี้ มันก็คงจะไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเขาที่รักเธอมาก จนรู้สึกว่าไม่อยากสูญเสียเธอไป
ระหว่างสองสามีภรรยาในตอนนี้มีแต่ความเงียบงัน ทั้งคู่ไม่พึงจะพูดอะไรออกมา เพราะต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
“ลัลน์” เสียงเรียกหานั้นอ่อนโยนนัก แต่ตายังมองจับไปยังชานเรือนอีกหลัง เมื่อเห็นลลิตรภัทรวิ่งหนีพี่เลี้ยงมาทางบันได “นี่ถ้าลูกไม่หิวแล้วงอแงให้ป๊อกพากลับบ้าน ก็คงหยาดไปเจอเข้าล่ะ”
“เดี๋ยวนี้ซนใหญ่ค่ะ ตาป๊อกเองก็รักน้อง เห็นเถียงๆ กันยังงั้นก็เถอะ ตามใจกันดีเหลือเกิน”
รอยแตะบางเบาแนบลงที่ต้นแขน ทำให้ชายหนุ่มที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ก่อนแล้วหันมายิ้มให้ ดวงหน้าคมคายบ่งบอกถึงอำนาจ ด้วยสง่าราศีที่ติดตัวมาแต่เกิด ดูจะละมุนลงเมื่อมองจับผู้เป็นภรรยา
ตรงนั้นเป็นชานด้านหลังของเรือนปั้นหยา ต้นโมกข์ในกระถางออกดอกสีขาววางตามมุม กลีบดอกบอบบางหล่นร่วงลงกับพื้น กระถางบัวผันสีม่วงดอกเล็กที่วางไว้ทั้งสองข้างของซุ้มประตู ก้านดอกโอนเอนเพราะโดนลมพัด ซุ้มประตูบ้านเปิดกว้างรับลม มองเห็นบันไดห้าขั้นทอดยาวลงสู่พื้น
บนชานพักมีโอ่งใส่น้ำใบเล็กๆ ไว้สำหรับล้างเท้า รอบๆ บริเวณได้ยินแต่เสียงลม เสียงนกร้องสลับกับเสียงพูดคุยแว่วๆ ดังมาจากแคร่ใต้ต้นมะขาม ที่อยู่ห่างออกไปราวสิบกว่าเมตร
“ลูกโตเร็วเกินไปหรือเปล่า พี่รู้สึกเหมือนลัลน์เพิ่งตั้งท้องแกไม่นานมานี่เอง”
มือใหญ่แข็งแรงข้างหนึ่ง โอบแทบบ่าบอบบางของหญิงสาวข้างกาย ที่อายุราวสามสิบปีต้นๆ ดวงหน้าเรียวสวยประกอบด้วยดวงโตคู่หวานสีน้ำตาล ที่ยามหลุบลงมองเห็นแพขนตางอนหนา คิ้วเรียวสวยโค้งจนดูคล้ายวงพระจันทร์รับกับจมูกโด่งเล็ก และริมฝีปากอิ่มเต็มได้รูปสวย ที่เวลาแย้มยิ้มทำให้คนมองละสายตาไม่ได้
สวยหวาน บอบบางดังดอกไม้สูงค่า ที่เมื่อได้มาต้องถนอมด้วยชีวิต
ลัลน์ลลิตยิ้มรับคำกล่าวของสามี ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม
“ครู่นี้ที่คุณหญิงเธอมา... มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าจ้ะ แค่มาเยี่ยมธรรมดา เอ่อ... มาส่งข่าวด้วยว่าคุณแม่สบายดี” ใบหน้าคนฟังหมองลง ทำให้คนพูดกระชับอ้อมกอดที่โอบบ่าแน่นขึ้น ชายหนุ่มพาหญิงสาวในอ้อมแขนให้เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านชั้นใน
ในตัวบ้านแบ่งซอยเป็นห้าห้องรวมโถงกว้างรับแขกด้านหน้า ซึ่งมีชุดเก้าอี้ไม้ซึ่งเป็นงานจำหลักของช่างฝีมือดี ลวดลายอ่อนช้อย แลดูบอบบางจนน่าจะวางโชว์มากกว่าจะนำมาใช้จริง
โถงทางเดินกว้างโล่งเชื่อมกับห้องรับแขก ผ้าม่านบังตาลูกไม้ฝรั่งเศสสีขาวที่ติดไว้ตามหน้าต่างปลิวสะบัดด้วยแรงลม พื้นบ้านเป็นไม้แผ่นใหญ่มันวับน่านอน มีตู้ไม้สักฉลุลายพระอาทิตย์กรุกระจกโชว์เครื่องลายครามตั้งชิดผนังเป็นระยะ ในนั้นวางเครื่องถมเงิน บ้างเป็นชุดเชี่ยนหมาก ไม่ก็ผอบเงินแท้ น้ำยาที่ซึมอยู่ในตัวงานบ่งบอกอายุได้ดี จนนักเล่นของเก่าเห็นเข้าต้องตาลุก
ห้องแรกสุดติดกับโถงรับแขกเป็นห้องพระ ต่อมาเป็นห้องหนังสือ ถัดมาเป็นห้องนอนของบิดามารดาลัลน์ลลิตที่เสียแล้วและตอนนี้ก็กลายเป็นห้องนอนของพวกเขา ส่วนห้องริมสุดเป็นห้องนอนของลลิตรภัทร ซึ่งมักมีพี่เลี้ยงคนใดคนหนึ่งมานอนด้วยเสมอ
หม่อมราชวงศ์รวิภัทรในชุดเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มแขนยาวกับกางเกงผ้าสีดำ เดินนำภรรยาเข้าไปในห้องนอน แล้วเรือนร่างสูงใหญ่ก็ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้หวายที่ตั้งไว้ใกล้กับริมหน้าต่างใกล้หัวนอน
ลัลน์ลลิตเดินเลยไปเปิดประตูตู้ไม้บานเลื่อนชั้นเดียวที่ติดกับโต๊ะเครื่องแป้งทางผนังด้านขวา หยิบเอาผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กออกมาแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ข้างกัน
เตียงไม้สี่เสาตั้งเด่นอยู่กลางห้องนอนกว้าง หัวเตียงชิดติดผนังทางทิศเหนือ ข้างซ้ายเป็นโต๊ะไม้ทรงกลมแกะสลักเป็นลายฉลุมองคล้ายมีผ้าคลุมซึ่งใช้สำหรับวางโคมไฟ มุ้งผ้าในยามนี้ที่ไม่ได้ใช้งาน มัดรวบเข้ากับเสาทั้งสี่มุม ที่นอนสีขาวสะอาดถูกคลุมด้วยผ้าคลุมเตียงสีฟ้าอ่อน ตรงกันข้ามกับเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ เป็นตู้เสื้อผ้าไม้เก่ารูปทรงเทอะทะขนาดใหญ่ กั้นกลางด้วยประตูห้องน้ำกับตู้ชั้นเลื่อน และถัดมาถึงเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกรูปไข่ใสแจ๋วเพราะรับได้การดูแลอย่างดี
ลมเย็นโชยชายผ่านหน้าต่างที่เปิดกว้างเข้ามา จนได้กลิ่นหอมของมะลิ ที่ปลูกไว้ในกระถางตามระเบียงด้านนอก ผ้าม่านปลิวไสว ชายหนุ่มหลับตาเอนคอพิงพนัก ดวงหน้าดูเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย สักพักสัมผัสเย็นๆ กรุ่นกลิ่นหอมก็ทำให้คุณชายหนุ่มยิ้มออกก่อนจะลืมตาขึ้นมอง
“เช็ดหน้าหน่อยนะคะ ดูเหนื่อยๆ”
“แก่แล้วก็อย่างนี้ละ” เขาว่าพลางหัวเราะอย่างพอใจ ในขณะที่ภรรยาผู้นั่งใกล้เช็ดหน้าเช็ดตาให้ จากนั้นหม่อมราชวงศ์หนุ่มก็เอ่ยถึงพ่อค้าที่เข้ามาตีราคาผลไม้ในสวนให้ภรรยาฟัง
มือน้อยบอบบางแตะลงที่ท่อนแขนล่ำสัน เธอมองเขาอย่างห่วงใย มีแววไม่สบายใจปนอยู่ในนั้น ม.ร.ว. รวิภัทรค่อยผ่อนลมหายใจ แล้วโอบหญิงสาวผู้เป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตเข้ามากอดแนบอก กดจูบลงที่กลุ่มผมนุ่มที่รวบเป็นมวยง่ายๆ ไว้ที่กลางศีรษะ
เธอหลับตาลงซบหน้ากับอกกว้างของเขา ไม่ว่าอย่างไรจนถึงตอนนี้ลัลน์ลลิตก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยมีอนาคตรุ่งโรจน์ เป็นคนเด่นดังในวงสังคม เมื่อเป็นถึงลูกชายคนเดียวของ ‘หม่อมเจ้าหญิงวลัยฤดี’ เชื้อสายตรงของราชกุลศิริสกุลวัลย์ผู้มั่งคั่งและร่ำรวย
อดีตในตอนนั้น เขาเป็นหมอศัลย์มือหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบกลับมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เมืองนอก และเป็นคนที่ได้รับเกียรตินิยมเพียงไม่กี่คนจากคนไทยที่ไปเรียนต่อในตอนนั้น
และเขาก็ทิ้งมันมาเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอ
ลัลน์ลลิตรเป็นพยาบาลสาวน้อยซึ่งเพิ่งเรียนจบใหม่ และบรรจุเข้าทำงานในโรงพยาบาลที่คุณชายหมอทำงานอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุให้เธอถูกโจษจันไปในทางเสียหาย ว่าเธอยั่วยวนจน ‘เขา’ ลุ่มหลง ยอมทิ้งเกียรติยศ สละซึ่งศักดิ์ศรี ละทิ้งกระทั่งมารดา พร้อมทั้งญาติวงศ์ตระกูลมาอยู่กับเธอ
แต่รวิภัทรไม่สนใจ เขาบอกผู้เป็นภรรยาเสมอว่า มันไม่ใช่ความจริงเลย เพราะหากจะหาคนผิดในเรื่องนี้ มันก็คงจะไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเขาที่รักเธอมาก จนรู้สึกว่าไม่อยากสูญเสียเธอไป
ระหว่างสองสามีภรรยาในตอนนี้มีแต่ความเงียบงัน ทั้งคู่ไม่พึงจะพูดอะไรออกมา เพราะต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มิ.ย. 2559, 20:46:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มิ.ย. 2559, 20:46:34 น.
จำนวนการเข้าชม : 1233
<< บทที่ ๑ 150% | บทที่ ๒ 1/4 >> |
ดังปัณณ์ 1 มิ.ย. 2559, 20:47:57 น.
เปิดจองแล้วค่า ^O^
เปิดจองชุด เรียงหัวใจฝัน
-รอยเล่ห์ลวงใจ
-กิ่งหัวใจใบรัก
-ใจภักดิ์เพียงเธอ
( ๓๐ เมษายน ๒๕๕๙ – ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙)
กำหนดส่งวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๙
#รอยเล่ห์ลวงใจ ราคา 295 บาท ลดราคาเหลือ 280 บาท
#กิ่งหัวใจใบรัก ราคา 325 บาท ลดราคาเหลือ 310 บาท
#ใจภักดิ์เพียงเธอ ราคา 289 บาท ลดราคาเหลือ 274 บาท
ค่าจัดส่งฟรี
พิเศษโปรโมชั่นสำหรับการสั่งซื้อชุดเรียงหัวใจฝันทั้งชุด จากราคา 909 บาท ลดเหลือ 850 บาท
แถมฟรี!!
นิยายเรื่องสั้น ‘กล่องไดอารี่ในความทรงจำของคำว่ารัก:ทำไมต้องรัก’ 1 เล่ม
(โปรโมชั่นนี้ สำหรับการสั่งซื้อผ่านเพจ: ร้อย:เรียง:เพียง:คำ นะคะ)
ชำระได้ที่
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ น.ส. นภาพร ลีทอง
ธนาคารกรุงเทพ สาขา ถนนรัชดา-สี่แยกสาธุประดิษฐ์
เลขที่บัญชี 195-4-63401-8
ธนาคารกสิกรไทย สาขา ซีคอนสแควร์
เลขที่บัญชี 908-2-00089-2
แจ้งการจองหรือโอนได้ที่
e-mail: ao_sdj@hotmail.com
FB: ร้อย:เรียง:เพียง:คำ
ร้านออนไลน์เราก็มีนะคะ ^^
สอบถามได้ที่ร้าน Booksforfun ตามลิงก์นี้เลยค่ะ http://goo.gl/ZgFOp5
หรือ ร้านนิยายรัก ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ http://goo.gl/rzznzV
หรือ ร้าน BookToGoThailand ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ http://goo.gl/SI2L8N
ฝากเอ็นดูด้วยนะคะ
เปิดจองแล้วค่า ^O^
เปิดจองชุด เรียงหัวใจฝัน
-รอยเล่ห์ลวงใจ
-กิ่งหัวใจใบรัก
-ใจภักดิ์เพียงเธอ
( ๓๐ เมษายน ๒๕๕๙ – ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙)
กำหนดส่งวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๙
#รอยเล่ห์ลวงใจ ราคา 295 บาท ลดราคาเหลือ 280 บาท
#กิ่งหัวใจใบรัก ราคา 325 บาท ลดราคาเหลือ 310 บาท
#ใจภักดิ์เพียงเธอ ราคา 289 บาท ลดราคาเหลือ 274 บาท
ค่าจัดส่งฟรี
พิเศษโปรโมชั่นสำหรับการสั่งซื้อชุดเรียงหัวใจฝันทั้งชุด จากราคา 909 บาท ลดเหลือ 850 บาท
แถมฟรี!!
นิยายเรื่องสั้น ‘กล่องไดอารี่ในความทรงจำของคำว่ารัก:ทำไมต้องรัก’ 1 เล่ม
(โปรโมชั่นนี้ สำหรับการสั่งซื้อผ่านเพจ: ร้อย:เรียง:เพียง:คำ นะคะ)
ชำระได้ที่
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ น.ส. นภาพร ลีทอง
ธนาคารกรุงเทพ สาขา ถนนรัชดา-สี่แยกสาธุประดิษฐ์
เลขที่บัญชี 195-4-63401-8
ธนาคารกสิกรไทย สาขา ซีคอนสแควร์
เลขที่บัญชี 908-2-00089-2
แจ้งการจองหรือโอนได้ที่
e-mail: ao_sdj@hotmail.com
FB: ร้อย:เรียง:เพียง:คำ
ร้านออนไลน์เราก็มีนะคะ ^^
สอบถามได้ที่ร้าน Booksforfun ตามลิงก์นี้เลยค่ะ http://goo.gl/ZgFOp5
หรือ ร้านนิยายรัก ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ http://goo.gl/rzznzV
หรือ ร้าน BookToGoThailand ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ http://goo.gl/SI2L8N
ฝากเอ็นดูด้วยนะคะ
Zephyr 1 มิ.ย. 2559, 22:21:28 น.
โอ้ว มาม่าชนชั้นวรรณะ
เหม่ ยัยเด็กแก่นนั่นจะมียศเป็นหม่อมหลวงเชียวนะ
หึหึ ช่างงงงงงงงงงงงงงงง .....
โอ้ว มาม่าชนชั้นวรรณะ
เหม่ ยัยเด็กแก่นนั่นจะมียศเป็นหม่อมหลวงเชียวนะ
หึหึ ช่างงงงงงงงงงงงงงงง .....