: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 24 (66%)

สาวิตรีประคองถาดไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกมือเคาะประตู แล้วจึงผลักเข้าไปโดยไม่รอฟังคำอนุญาต เธอคาดว่าจะพบดารณีลำพัง ทว่ากลับต้องประหลาดใจเมื่อเห็นธนานั่งอยู่ในห้องเช่นกัน สีหน้าทั้งคู่บึ้งตึงมองออกว่าหัวเสีย นางลังเลเล็กน้อย แต่ความอยากรู้เป็นฝ่ายชนะ สาวิตรีจึงประคองถาดไปวางบนโต๊ะ แล้วยืนสงบเสงี่ยมกุมมืออยู่ห่างๆ

“คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ ขอสาฟังด้วยคนได้ไหม”

“เสือก! ใครเชิญไม่ทราบ” ดารณีตะคอกเธอด้วยสีหน้าถมึงทึง

“สาแค่เป็นห่วงคุณนายใหญ่ อายุมากแล้ว โกรธมากๆมันไม่ดีกับสุขภาพนะคะ” เธอทำเสียงเศร้าดุจนางเอกถูกรังแก

“ออกไป!” นางตวาดปรายตามองเหยือกบรรจุน้ำสีเขียวเข้ม “แล้วเอาของเน่าๆไปให้พ้นจากห้องอั๊วด้วย”

สาวิตรีสะดุ้งยกมือทาบอก ผวาถอยหลังไปครึ่งก้าว ธนารีบลุกมาช้อนหลังประคองเธอไว้ พร้อมกับเตือน “ระวังล้ม”

ชะรอยภาพนั้นคงแสลงตาคนมอง ดารณีคว้าเหยือกยกขึ้นทำท่าจะขว้าง

“หยุดนะ” ธนาหันไปชี้หน้าภรรยา แผดเสียงดุดัน เขาเข้าไปคว้าเหยือกจากมือดารณีวางลงกับที่ แล้วหันมาบอกสาวิตรี “สาไม่ต้องไปสนใจอีหมาบ้านี่ กัดเขาไปทั่ว เก๋าเจ้ง” ตอนท้ายเขากระแทกเสียงผรุสวาทเป็นคำจีนแต้จิ๋วที่มีความหมายไม่น่าฟัง

ดารณีกรีดร้องเสียงดัง หันไปคว้าหมอนขว้างใส่สามี โวยลั่นห้อง “เฮียด่าอั๊วต่อหน้านังเมียน้อยเหรอ อั๊วไม่ยอมนะ ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้”

“สาออกไปก่อนนะ เดี๋ยวเฮียตามไป”

“สาวัชบอกว่าเขาจะโอนหุ้นให้คุณนายใหญ่” นางรำพันเบาๆ หรุบตาลงมองพื้นอย่างเจียมตัว

บุรุษอาวุโสตบหลังมือเธอเบาๆ “เรื่องนี้ให้เฮียจัดการเอง ไม่มีอะไรต้องกังวลนะ”

เธอก้มหน้าซ่อนยิ้ม ครั้นเงยขึ้นอีกครั้งจึงพยักหน้าเศร้าๆ ยอบตัวออกจากห้องมาเกร่อยู่แถวหน้าประตู สาวิตรีมั่นใจว่าธนาไม่ยอมให้ดารณีได้หุ้นของลูกชายเธอไปแน่นอน อย่างไรเสียสามีก็ต้องจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ เธอไม่ต้องกังวลเลย

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เด็กรับใช้ปรี่เข้ามาหาเธอ

“เป็นขี้ข้าก็อย่าแส่เรื่องของเจ้านาย” สาวิตรีบิดริมฝีปากหงุดหงิด ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีก็ปรับสีหน้าได้รวดเร็วเมื่อเห็นธนามีสีหน้าไม่สบอารมณ์ขณะเปิดประตูก้าวพรวดพราดออกมา

สาวใหญ่ยังไม่ทันเข้าไปรับหน้าสามี ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเปรื่องปร่างดังลอดมาจากในห้อง ตามด้วยเสียงดารณีโวยวายเรียกหาคนใช้ เด็กสาวที่ยืนอยู่กับเธอรีบเผ่นไปรับหน้าเจ้านาย

สาวใหญ่ผวาเข้าไปเกาะแขนสามี ฉวยโอกาสนั้นเหลียวเข้าไปในห้องกวาดตามองแวบเดียว ก็เห็นว่าชุดน้ำชาและเหยือกแก้วของเธอบัดนี้แตกกระจายเต็มพื้น กลิ่นเขียวของน้ำสมุนไพรลอยคลุ้งในอากาศ

สาวิตรีประคองธนากลับไปเรือนเล็กด้านหลังด้วยกัน อุ้งมือใหญ่บีบกระชับมือเธอไว้ทำให้นางปัดความผิดหวังเบียดจากใจ ปล่อยให้ความโล่งใจพุ่งปราดเข้ามาเกาะกุมจิตใจแทน

จะโชคชะตาหรือฟ้ากำหนดก็ตาม ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่พาให้เธอมาถึงจุดนี้ เธอโชคดีกว่าผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในห้องนั่น...โชคดีกว่าจริงๆ!






“เหนื่อยไหมคะ” อิงอรุณก้าวเข้าไปใต้ร่มหลังคาของศาลาทรงจตุรมุกซึ่งอยู่ใกล้ซุ้มขายบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ จากนั้นยื่นขวดน้ำเย็นเฉียบให้สาวัช

“ร้อนมากกว่า” ชายหนุ่มรับขวดน้ำมาเปิด แล้วส่งกลับให้หญิงสาว ดึงอีกขวดในมือเธอมาบิดฝาเกลียวดื่มแทน

“วันนี้อิงสนุกมากเลย” อิงอรุณยิ้มผาสุข ทอดสายตาไปทางกลุ่มสมาชิกซึ่งทยอยกันเข้าไปในร้านค้าของพิพิธภัณฑ์เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก

สาวัชขมวดคิ้วแทนการตั้งคำถาม

“เห็นสมาชิกมีความสุข อิงก็มีความสุขไปด้วยค่ะ” อิงอรุณตอบตามตรง “คุณสาวัชเบื่อไหมคะที่ต้องบรรยายให้คนไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ฟัง ไม่สนุกเท่าตอนสอนนักศึกษาใช่ไหมคะ”

“เด็กๆที่ลงเรียนกับผมมักเป็นพวกคลั่งไคล้ศิลปะอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จึงกระตือรือร้นเตรียมตัวมาอย่างดี ต้องอ่านตำราให้มากที่สุด วิเคราะห์ให้ละเอียดที่สุดเพื่อสร้างความประทับใจ เผื่อจะได้คะแนนพิเศษ ส่วนลูกค้าคุณตั้งใจฟังทุกคำที่บรรยายเหมือนรอฟังนิทานก่อนนอน ทำสีหน้าตื่นเต้นเวลาเห็นของพวกนี้ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ตัวเองเริ่มชอบศิลปะไทยโบราณ”

“ดีจัง งั้นอิงก็จัดทริปต่อไปได้แล้วสิ”

สาวัชเลิกคิ้วคล้ายต้องการคำยืนยันว่าตนเองมิได้หูฝาดได้ยินผิดพลาด

“อิงอยากเชิญคุณสาวัชมาเป็นที่ปรึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมของบริษัทน่ะค่ะ หลังจากพิพิธภัณฑ์แล้ว อิงอยากจัดทัวร์พระราชวังบ้าง เมืองไทยมีพระราชวังสวยๆเยอะแยะ คุณสาวัชก็เห็นแล้วว่าการบรรยายให้ลูกค้าอิงฟังไม่น่ากลัวเลย กรุณารับปากเป็นที่ปรึกษาให้คิวปิดฯเถอะนะคะ” หญิงสาวประสานมือระดับอก ลุ้นรอฟังคำตอบ

สาวัชกลอกตาครุ่นคิด นับจากวันที่เข้ารับตำแหน่งในปรเมศวร์เทรดดิ้ง ธนาและริสาแสดงท่าทีต่อเขาชัดเจน เมื่อคนหนึ่งตั้งใจยกให้เขาเป็นผู้สืบทอดธุรกิจ ขณะอีกคนมุ่งมาดหมายโดดเข้าขวางในทุกหนทางที่ทำได้ การตัดสินใจโอนหุ้นคืนดารณีเป็นเพียงช่องทางหนึ่งเพื่อประกาศเจตจำนงไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัท แต่ถ้าต้องการให้ธนารับรู้ข้อความนี้ด้วย เขาควรแสดงความไม่เอาใจใส่ให้มากกว่านี้ แค่เหยาะแหยะ ขาดความสามารถ คงไม่พอ เขาน่าจะให้ทุกคนรู้ด้วยว่าเป็นคนโลเล เหลวไหล จัดลำดับความสำคัญไม่เป็น และไร้แก่นสารเพียงใด

ข้อเสนอของอิงอรุณเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้เขาสามารถลุสู่จุดหมายได้ง่ายขึ้น หากธนาเห็นเขาในโหมดนี้ เตี่ยน่าจะล้มเลิกการตั้งความหวังเกี่ยวกับตัวเขาได้ง่ายขึ้น

“ตกลง” สาวัชตอบรับสั้นๆ

“คุณสาวัชพูดจริงเหรอคะ” คนฟังตาโตทำท่าตกตะลึงคาดไม่ถึง ทั้งยังเกาะแขนเขาเขย่าด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ถ้าคิดว่าผมพูดเล่น งั้น...”

“ไม่คิดค่ะ ไม่คิดเลย อิงมั่นใจว่าได้ยินคุณพูดแบบนี้จริงๆร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ” อิงอรุณละล่ำละลัก ทำเสียงประจบประแจง “งั้นถามต่อจากเมื่อกี้ได้ไหมคะ ว่าทำไมคุณสาวัชถึงชอบประวัติศาสตร์”

สาวัชทอดสายตาไปยังพระที่นั่งศิวโมกขพิมานเบื้องหน้านิ่งๆ

“ถามไม่ได้เหรอคะ” เจ้าหนูจำไมทำเสียงอ่อย “ไหนๆเราก็ต้องร่วมงานกันอีกนานนะคะ บอกหน่อยน่า”

“ถ้าผมไม่อยากตอบ งั้นเราก็ไม่ควรร่วมงานกันใช่ไหม”

“แหม...ขู่นะคะ นึกว่าอิงไม่กลัวเหรอเนี่ย ขู่เอาๆอยู่ได้” อิงอรุณยู่หน้ากระเง้ากระงอด

หลังจากเงียบไปพักใหญ่ให้คนมองใจเต้นตุ้มๆต่อมๆเล่น ชายหนุ่มก็โพล่งขึ้นลอยๆ “ผมประชดพ่อน่ะ”

อิงอรุณเลิกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงกับคำตอบของเขา

สาวัชปลดมือของหญิงสาวออกจากท่อนแขนตัวเอง ขึงตาดุใส่คนตัวเล็กกว่าเป็นเชิงตำหนิ

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเสียงอ่อยยกสองมือเสมอบ่าเป็นเชิงขออภัย เธอสบตาเขา “ประชดจริงๆเหรอคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ทำไม ประชดไม่ได้เหรอ”

“อิงคิดว่าการประชดน่าจะมีระยะเวลาและความพยายามไม่มากพอที่จะทำให้คุณจบดอกเตอร์”

“แต่ผมพูดจริง” เขาย้ำเสียงหนัก “ถ้าคุณอยากได้ยินเรื่องเท่ๆทำนองว่ามีจุดตกต่ำจุดพลิกผันของชีวิต มีคำคม มีคติสอนใจตบท้าย คงต้องไปหาจากที่อื่น” ชายหนุ่มก้มลงมองปฏิกิริยาของคู่สนทนาและก็ต้องแปลกใจ “คุณยิ้มทำไม”

“ดีใจน่ะค่ะ” เธอตอบตรงๆ “ตอนที่คุณขู่ว่าจะแจ้งความถ้าอิงไม่แก้ไขชื่อออกจากแผ่นพับ อิงก็เลยต้องพยายามหาวิทยากรคนอื่นมาแทน ช่วงนั้นอิงไปฟังบรรยายแทบทุกมหาวิทยาลัยเลย ซึ่งพอเอ่ยชื่อคุณ อาจารย์แทบทุกท่านพูดตรงกันหมดว่าไม่แปลกใจที่อิงโดนแบบนี้ เพราะคุณถนัดเรื่องการปฏิเสธสุดๆ ไม่ว่าใครจะขอร้องอะไรคุณก็บอกปัดไปหมด แม้บางครั้งจะเป็นเรื่องง่ายๆที่คุณทำได้สบายๆก็ตาม แต่คุณกลับใจดีกับอิงมาก ขอบคุณจริงๆค่ะ”

ดอกเตอร์หนุ่มเบือนหน้าไปทางอื่นละม้ายไม่อยากรับคำขอบคุณนั้น ครั้นเห็นสมาชิกทยอยออกจากร้านค้าของพิพิธภัณฑ์มาจับกลุ่มหน้าพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน จึงเปลี่ยนเรื่อง “กิจกรรมวันนี้ยังมีอะไรอีกไหม”

“เดี๋ยวขึ้นรถ เราจะบรรยายสรุปกันอีกรอบ พอถึงออฟฟิศคิวปิดฯก็แยกย้ายกัน เป็นอันจบกิจกรรมค่ะ”

คนฟังสีหน้ายุ่งยากนิดๆ “ยังมีอะไรต้องบรรยายอีก”

“สำหรับคุณก็มีอีกนิดหน่อยค่ะ” เธอประสานมือกันระดับอก ช้อนสายตาขึ้นสบสานกับเขาด้วยแววซุกซน ออดเสียงหวาน “ถ้าจะกรุณาช่วยโฆษณาชวนคนมาลงคอร์สต่อๆของดอกเตอร์ด้วยก็จะเป็นพระคุณมากๆเลย...นะค้า”

“ดอกเตอร์เหรอ?” เขาหน้าบึ้ง “ผมไม่รับข้อเสนอนี้”

“อะๆ คุณสาวัชก็ได้ แหม...ก็วันนี้เรียกดอกเตอร์ตามสมาชิกจนติดปากนี่นา แค่นี้ก็ต้องไม่พอใจด้วย”

“มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม”

“สรรพนามเนี่ยเหรอคะ เป็นเรื่องใหญ่”

“ใช่! เพราะผมจัดลำดับความสำคัญของผู้คนจากสรรพนาม หรือคุณไม่ทำแบบนั้น หืม? คุณหนูอิงอรุณตัวยุ่ง”

อิงอรุณชะงักกึก ตวัดค้อนเขา “แหม...เกลียดจัง คุณชอบทำให้อิงไปไม่เป็นแบบง่ายๆแบบนี้เรื่อยเลย”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว นึกแปลกใจที่อิงอรุณเข้าใจกิริยาของเขา ทั้งยังตอบโต้ทันควัน

“ก็ ‘คุณหนูอิงอรุณ’ นี่ไงคะ อิงไม่ชอบเลยเวลาได้ยินคนเรียกอิงอย่างนี้”

“ถ้าไม่ชอบต้องขอโทษด้วย ทำไม? ไม่ชอบที่คนมองว่าเป็นคุณหนูเหรอ”

“มันกวนใจค่ะ” เธอยอมรับตรงๆ “อิงไม่ได้เปราะบาง มือเท้าไม่ติดดิน หรือเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อสักหน่อย”

“มันก็แค่สรรพนามที่เรียกด้วยความเอ็นดู ไม่มีตรงไหนบอกว่าคนเป็นคุณหนูต้องเป็นอย่างที่คุณว่าหรอก”

“จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ก็เหมือนที่คุณไม่ชอบให้คนเรียกว่าดอกเตอร์นั่นแหละค่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า

อิงอรุณยิ้มร่า วกกลับมาเรื่องเดิมดื้อๆ “สรุปว่าคุณสาวัชอย่าลืมช่วยขอคะแนนจากสมาชิกให้มาสมัครคอร์สใหม่ๆของคุณสาวัชให้อิงด้วยนะ”

เขาปรายตามองมา ยักไหล่ “ผมเป็นวิทยากรของคุณนี่ จะใช้อะไรก็สั่งมาเถอะ”

“วิทยากรของบริษัทค่ะ แหม...มายกให้กันง่ายๆอย่างนี้ เดี๋ยวอิงก็ยึดแล้วไม่คืนซะเลยนี่” เธอตีขลุมปนหัวเราะ

สาวัชงันไปชั่วขณะ เขากะพริบตาช้าๆเพื่อเรียกสติ แล้วเสตั้งคำถาม “ผมมีหน้าที่โน้มน้าวให้สมาชิกลงคอร์สต่อไป แล้วที่คุณจะบรรยายล่ะ คืออะไร”

“เป็นบทสรุปของกิจกรรมในวันนี้ เกี่ยวกับคุณค่าที่สมาชิกควรกลับไปพิจารณาความต้องการของตัวเอง และการวางตัวต่อเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ประมาณนี้น่ะค่ะ”

“ขอคำอธิบายที่เฉพาะเจาะจงกว่านี้ได้ไหม” เขาพบว่าฟังประโยคนั้นจนจบแล้ว...ไม่เข้าใจ!

อิงอรุณยิ้มเจ้าเล่ห์ “เดี๋ยวรอไปฟังพร้อมกันบนรถดีกว่าค่ะ”








; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; + ; +


@Kim : โบราณว่าอย่างนั้น
ก็เชื่อหน่อยเถอะค่ะว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอ
ว่าแล้วเราก็มาเกลียดซงจุงกิ เกลียดพี่โดม พี่เคน พี่ติ๊ก กันเถิดค่ะ 5555


@konhin : ความเอาแต่ใจของนางเอก
ก็เป็นสีเทามาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วนะคะ แหะแหะ


@ตามหาฝัน : ช่ายเลยค่ะ
รักมาก ถ้าไม่ถูกรักตอบ ก็กลายเป็นเกลียดเนอะ
บางทีสิริณก็ว่าความรู้สึกที่ตรงข้ามกะเกลียด
น่าจะเป็นเฉยชามากกว่า
เจ็บกว่าการเกลียดกันเยอะเลย :P


@sumitt777 : นางเอกไม่เจ็บก็ฟินได้นะคะ
เรื่องนี้เขียนไปบางทีก็สงสารอิงอรุณ
สะบักสะบอมมาก เพื่อให้ชายหนุ่มเห็นใจ 55555


@Zephyr : อิงอรุณไม่ได้ดวงดีหรอกค่ะ
สิริณอุ้มสมให้ต่างหาก 5555

ส่วนขวดปริศนานั่น
เฉลยตอนนี้จบเห่ทั้งเรื่องเลยนะ แฮ่...


@พอใจ : พี่ ดร. เขามาดดีนะคะ
แกล้งทำเป็นไม่เต็มใจ
แต่ในใจสงสัยกระดี๊กระด๊าสุดฤทธิ์แล้ว
ที่เพื่อนติดธุระด่วน
จนพี่ ดร. ต้องไปเป็นวิทยากรด้วยความเต็มใจ เอ๊ย จำใจ


@กาซะลองพลัดถิ่น : จิตใจมนุษย์ซับซ้อนกว่าพล็อตนิยายอี๊กกกก
คุณกาซะลองไม่ค่อยเมนต์ (แต่รู้นะคะว่าอ่านอยู่ ฮี่ๆ)
แต่พอตอบทีนึง...อื้อหือ...เข้าเป้าเลย
รอดูกันต่อไปค่ะ สองคนนี้ยังไงๆกันอยู่แน่ๆ

@นักอ่านเหนียวหนึบ : ไม่ได้ยอกันไปมานะคะ
สิริณถือศีล ต้องพูดแต่ความจริง
เพราะงั้นที่บอกว่าปลื้มดีใจ ชอบคอมเม้นต์นี่
ความจริงเพียวๆค่ะ รับประกันเลย :D

พี่ ดร. แกเสียคนเพราะเด็กเอาแต่ใจ
จริงๆก็ผิดหลักเนอะ ต้องให้ผู้ใหญ่แก้นิสัยนางสิ
ไหงกลายเป็นนางชักจูงคนดีๆหลุดโลกไปเลยเนี่ย อิอิ



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 มิ.ย. 2559, 12:30:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มิ.ย. 2559, 12:30:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 1232





<< ตอนที่ 24 (33%)   ตอนที่ 24 (100%) >>
Kim 7 มิ.ย. 2559, 13:30:19 น.
แม่พระเอกนี่ร้ายจริงๆ เป็นครอบครัวที่ยุ่งเหยิงหาความสุขไม่ได้ น่าเห็นใจพี่ด๊อก


konhin 7 มิ.ย. 2559, 15:33:50 น.
ใครโดนยาหรือเปล่านะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 7 มิ.ย. 2559, 16:35:21 น.
ก็มุ้งมิ้งกันไป พี่สาวัชคะ (นี่จัดลำดับความสำคัญตามสรรพนามเลยนะ) อะไรจะสุภาพบุรุษช่างคิด ช่างใส่ใจขนาดนี้คะ น้ำก็เปิดให้ แถมยังคิดสรรพนามพิเศษๆให้อี๊ก ชอบเค้าอะดิ๊ เขิลลลลลล รายละเอียดงานก็ใส่ใจ สนใจกันจังเลยน้า อยากได้แบบนี้ จะเอาๆๆๆๆ


Zephyr 7 มิ.ย. 2559, 17:30:43 น.
มุ้งมิ้ง จุ้งจิ้ง หมั่นไส้เฟร้ยยยยย
ยังไม่อยากเห็นนางมีความสุข
5555 โรคจิต นางต้องดีกว่านี้ก่อน
พี่สาวัชดเวย ต้องหายซึนดว่านี้ ค่อยมาจุ้กๆจิ้กๆกะนใหม่
อ้ากกกกก อิจ


พอใจ 7 มิ.ย. 2559, 18:42:13 น.
รุ่นพ่อรุ่นแม่ตาดร.นี่ ยุ่งเหยิงสุดๆ เคียดแค้นกันมาแต่ชาติปางไหนน้อ??? กว่า
บทสรุปจะจบ จะมีใครเป็นบ้ากันมั้ยคะนิ คุณดร. เค้าก็คงเหนื่อยหน่ายเต็มทนที่ต้องอยู่ท่ามกลางการเอาชนะกัน ความเคียดแค้นชิงชัง ส่วนคุณดร. ก็พูดซ๊าาา ผมเป็นวิทยากรของคุณ หนูอิงเอามาโมเมได้เลย คุณดร.ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดีย เพราะหนูอิงรู้ทันใช่ม๊าาา อยากจะเป็นวิทยากรส่วนตัวของหนูอิงแล้วล่ะซี่ เล่นตัวอยู่นั่น ฮิ้วววววว น่ารัก อิอิ


ตามหาฝัน 7 มิ.ย. 2559, 19:26:37 น.
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองนะคุณดร.กับคุณหนู


sumitt777 7 มิ.ย. 2559, 19:53:05 น.
คุณสาวัชคะ เหมือนจะกลับตัวกลับใจ ไวจังเลย ไหนบอกเกลียดไง ปากตรงกับใจมั้ยคะ
(งานนี้ขอแซะ พระเอก นะคร้าาาาา)


Liez 8 มิ.ย. 2559, 00:43:46 น.
อ่านต้นจนถึงตอนนี้ ((รอบที่2))
อดใจไม่ไหวlog in + comment หน่อยดีกว่า


ด๊อกเตอร์น่ารัก><


wane 8 มิ.ย. 2559, 02:42:26 น.
คุณด๊อกน่ารักนะวันนี้ ... ส่วนคุณแม่คุณด๊อกก็ร้ายไม่เปลี่ยน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account