แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 5 ...เธอ-เป็น-ใคร!

บรรยากาศเกินกว่าจะเรียกว่าโพล้เพล้ ผู้คนเริ่มทยอยกันกลับที่พัก พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ขณะนี้ในเมืองเปิดไฟกันสว่างไสวสวยงามจับตา ทว่ากลับมีคนหนึ่ง ไม่ยินดีกับภาพที่สวยงามนี้เลยสักนิด

“โอย! นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!” ธราโวยวายอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง ใบหน้าบึ้งตึงหงุดหงิด อย่าให้พูดเลยว่าเดินมาเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว

หญิงสาวมองรอบกาย ไม่พบคนที่เธอพอคุ้นหน้าคุ้นตาเลยสักคน

หึ! ก็จะคุ้นได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อที่นี่มันคือ พ.ศ.2551 ตอนนั้นเธอยังเรียน ม.ปลายที่ต่างจังหวัด อยู่เลยกระมัง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเธอจะกลับออกไปได้อย่างไรต่างหาก

ธราหยุดความคิดทั้งหมด เมื่อมีเสียงหนึ่งดังไล่มาใกล้ตัวเธอเรื่อยๆ จากทิศตะวันตก เธอมองไปยังทิศนั้นด้วยสายตานิ่งอึ้ง ท้องฟ้าที่มืดครึ้มคำรามครืนครั่นอย่างน่ากลัว

“โอ๊ย! เอาเลย จะตกก็ตกมาเลย ไอ้ฝนบ้า! โธ่เว้ย!”

สิ้นสุดคำท้าทาย ฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาอย่างไม่เกรงใจคนเบื้องล่าง อย่าได้เรียกว่าฝนพรำเลย อาจจะเรียกว่าฟ้ารั่วเสียมากกว่า

“จะแกล้งกันไปถึงไหนฮะฟ้า!” หญิงสาวตะโกนอย่างเหลืออดไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ พลางสะบัดฝ่ามือเข้าแก้มตัวเอง

เพี๊ยะ!

เผื่อจะตื่นจากฝัน

แต่การกระทำที่ว่านั่น ไม่เกิดผลอะไรนอกจากรอยแดงบนแก้มนวลเท่านั้น ธราฮึดฮัดอยู่ในลำคอ ไม่มีทางเลือกใดให้เธอทั้งสิ้น บรรยากาศยามนี้ มองไปยังทิศไหนก็ไร้ผู้คน อาจจะต้องโทษตัวเองด้วยที่เดินมายังถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว แถมฝนตกอีก หากเธอยังคงเดินอย่างโดดเดี่ยวอยู่แบบนี้ เธออาจจะถูกลากเข้าป่าละเมาะด้านซ้ายมือนั่นก็เป็นได้

“โฮ่งๆ” เสียงสิ่งมีชีวิตบางอย่างดังขึ้นจากทิศทางที่เธอขยาดเมื่อครู่ ร่างบางหยุดเดิน พลางมองไปยังต้นตอของเสียง

“งื้ดๆ อิ๋งๆ” ไม่เพียงเท่านั้น สัตว์ที่ว่านั่นยังคงครางอย่างน่าสงสาร เธอไม่คิดนานนัก ร่างบางเดินเข้าไปในพงไม้ที่มืดครึ้มและมีหญ้าสูงเกือบเท่าหัว

สวบ!

...เฮ้ย! เสียงไรน่ะ

สวบ! สวบ! สวบ!

หญิงสาวหยุดเดินอยู่กลางทาง ก่อนที่เสียงนั้นจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว และในเวลานั้นเองที่สมองของเธอบงการร่างกายให้ออกมาโดยเร็ว

เธอวิ่งออกมาอย่างเร็วรี่ ไม่สนสักนิดว่าทางข้างหน้าจะมีกิ่งไม้ที่ตรงไหนข่วนบ้าง อุปสรรคสำคัญในยามนี้คือเม็ดฝนที่ร่วงหล่นมาไม่เว้นระยะ ส่งผลให้เธอมองทางได้อย่างยากลำบาก จนสะดุดเข้ากับกองหินก้อนใหญ่ แต่ก็ยังไม่ละความพยายามในการวิ่งออกไปที่นอกถนน

ระยะทางไม่มาก แต่กลับรู้สึกว่าไกลเหลือเกิน ถ้าให้เห็นเธอในเวลานี้ คงไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำดีๆ นี่เอง แถมยังเป็นลูกหมาขี้เรื้อนเสียด้วย

อึดใจเดียวที่เห็นแสงไฟสาดวาบเข้าสู่ดวงตา รถยนต์คันหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาในทางที่เธออยู่ หญิงสาวรีบพุ่งออกไปยืนบนถนนโดยเร็ว อาจเพราะความมืดของถนน หรือเพราะความตกใจก็ไม่รู้ที่ทำให้รถคันนั้นหักหลบจนเกือบตกข้างทาง และร่างบางเองก็กลิ้งตกไปยังเนินดินอีกรอบ

“โอ๊ย! จะรีบขับไปไหนกันเนี่ย” ธราชูศีรษะขึ้นจากเนินดินและกอหญ้าสูงพลางสบถด่ารถยนต์คันหรู

เฉกเช่นเดียวกับเจ้าของรถคันนั้นซึ่งลงมาดูต้นตอที่ทำให้เกือบเกิดอุบัติเหตุ ธรารีบก้มหัวลงในระดับที่มั่นใจว่าเขาจะไม่เห็น

...แล้วนี่ฉันจะต้องหลบทำไมเนี่ย

ดวงตากลมโตเพ่งมองร่างสูงในเงามืดอย่างพินิจ เขาสูงราวๆ 180 เซนติเมตร ร่างกายใหญ่กำยำชวนหลงใหล แต่เมื่อมองเขาจากเบื้องล่าง เขากลับดูเหมือนคนเถื่อนในเมืองที่ยังไร้วัฒนธรรม ผสานกับท่าทางฉุนเฉียวนั้นอีก ทำเอาหญิงสาวที่สบถด่าอยู่เมื่อครู่ ไม่กล้าส่งเสียงใดเล็ดลอดมา แม้กระทั่งเสียงลมหายใจ

ชายหนุ่มเดินวนอยู่รอบรถตัวเอง พลางหันมองรอบตัว แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดสะท้อนเสี้ยวใบหน้าเขา ธรามองเขาไม่ละสายตา ดวงหน้าคมเข้มนั้นถือว่ารูปงามทีเดียว แต่เธอกลับรู้สึกคุ้นแปลกๆ

“ตัวบ้าอะไรวะ!” น้ำเสียงทุ้มแข็งกร้าว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกก่อนจะมุดกอหญ้าลงไปอีกรอบ

“โฮ่งๆ อิ๋งๆ” เสียงเดิมที่ธราได้ยิน ดังกลับขึ้นมาอีกครา เพียงแต่คราวนี้เสียงมันใกล้กว่าเดิม ราวอยู่แค่เอื้อม หญิงสาวมั่นใจว่าเป็นเสียงสุนัขอย่างแน่นอน และได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่าให้ชายผู้นั้นทำอะไรที่ทารุณกับสุนัขตัวน้อยเลย ดูจากอาการหุนหันพลันแล่นอย่างหัวเสียนั้น ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว

แต่เปล่าเลย ชายหนุ่มนิรนามผู้นั้น เมื่อได้เห็นลูกสุนัขตัวน้อย เขากลับเดินลงไปในเนินดินเพื่อจะอุ้มมันขึ้นมา กระนั้นใบหน้าของเขายังคงบูดเบี้ยวเมื่อต้องเหยียบลงไปในดิน

“เฮ้ย! รองเท้าฉัน!” เสียงโวยวายดังลั่น เมื่อดินที่เขาเดินลงไปนั้นค่อนข้างเหลว ส่งผลให้รองเท้าที่ดูราคาแพงเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ชายหนุ่มก็ไม่หยุดเดิน จนกระทั่งไปถึงตัวลูกสุนัขที่ครางอย่างวิงวอน ประดุจคำร้องขอให้เขารับมันไปเลี้ยง

“หงิงๆ” ไม่ส่งเสียงเปล่า กลับเลียแผล็บเข้าที่ใบหน้า

“เออน่าๆ รู้แล้วๆ เอาไปด้วยก็ได้หรอก แต่อย่าเลียสิ นี่ฉันยังต้องใช้หน้าตาทำมาหากินอยู่นะ” ชายหนุ่มหัวเราะคิกคัก ธรามองภาพนั้นอย่างงุนงงระคนแปลกใจ บุคคลที่น่ากลัวปานคนเถื่อนเมื่อครู่ แต่ในยามนี้ช่างเหมือนเทพบุตรในฝันของเหล่าเด็กน้อยเสียเหลือเกิน

“เอ้า! ขาเจ็บนี่นาเจ้าตูบ”

นั่นปะไร ตั้งชื่อให้มันเสียเสร็จสรรพ หญิงสาวแอบขำในใจ มองดูชายหนุ่มพลิกท่อนขาเล็กนั่นไปมา ก่อนจะได้ข้อสรุป

“ป่ะๆ ไปหาหมอกัน”

หญิงสาวเบิกตาโพลง พลางมองหาทางออกให้ตนเอง สายตาจับจ้องไปที่รถยนต์คันงามซึ่งจอดอยู่บนถนน สีหน้าครุ่นคิดว่าควรไปดีไหม

...จะบ้าหรือชล ถ้าเธอขึ้นไป เขาอาจจะพาเธอไปฆ่าก็ได้นะ เอ๊ะ! แต่ว่าใจดีกับหมา ก็ไม่น่าจะใจร้ายกับเรานะ

สมองสองด้านของเธอตีกันวุ่นวาย ใจหนึ่งก็บอกให้วิ่งไปขึ้นรถเขา แต่อีกใจหนึ่งก็บอกให้ปรากฏตัวให้เขาเห็นเสียก่อน

...แล้วถ้าหากเขาไม่ให้เราไปด้วยล่ะ...แต่ถ้าหากเขาเห็นเราตอนนี้ เขาจับเราข่มขืนล่ะ

หญิงสาวสะบัดศีรษะไล่ความคิดสัปดนออกไปโดยเร็ว ก่อนจะค่อยๆ คืบคลานไปอ้อมอีกด้านของรถคันงาม เพื่อมิให้ชายหนุ่มนิรนามสังเกตเห็น

...เป็นไงเป็นกัน...เดี๋ยวค่อยหาทางหนีเอาก็ได้

ปัง!

“เสียงอะไร”

เสียงปิดประตูรถฝีมือธราเมื่อครู่ดังสนั่น จนชายหนุ่มหันกลับมามอง ก่อนจะอุ้มลูกสุนัขที่เปื้อนดินโคลนไว้อย่างยากลำบากแล้วเดินมายังรถของตน เขามองลอดเข้ามาในรถจากประตูฝั่งคนขับ แต่ยังไม่ทันสังเกตอะไรมากนัก เจ้าตูบจอมซนในมือเขาก็ดิ้นพรวดพราดจนดินเหลวกระเด็นไปทั่ว

“เฮ้ย! หยุดๆ เจ้าตูบ เสื้อนี่ไม่ใช่ราคาถูกๆ เดี๋ยวก็จับหักขาทิ้งตรงนี้ซะหรอก” เขาว่าพลางเปิดประตูโยนเจ้าตูบไว้ที่ฝั่งข้างคนขับ ก่อนจะก้าวขึ้นมานั่ง สายตามองไปยังสัตว์เลี้ยงที่ส่ายหางมองเขาตาแป๋ว เสียงหัวเราะลอดไรฟันออกมาเบาๆ

“หึ! หากใครรู้ว่าพระเอกชื่อดังอย่างทินกร ต้องมาสะบักสะบอมเพราะหมาตัวเดียวแบบนี้ คงขำตายชัก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยหยอกล้อ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่

“รู้ไหมเจ้าตูบ การเอาแกมาไว้ที่เบาะฉัน ทำให้ฉันต้องเอารถไปล้างทั้งคันแน่ๆ”

ชายหนุ่มส่ายศีรษะอย่างเอือมระอานิดๆ ก่อนจะขับรถออกไปโดยเร็ว ไม่ได้สังเกตบุคคลที่ซ่อนตัวอยู่บริเวณที่วางเท้าของผู้โดยสารด้านหลังเลยสักนิด

หญิงสาวเอามือปิดปากแน่น ผ่อนลมหายใจออกให้แผ่วเบาที่สุด ดวงตาเบิกกว้างหลังจากที่ได้รับข้อมูลใหม่ ชายนิรนามที่เธอกำลังนั่งหลบอยู่ในรถเขา คนที่เล่นกับเจ้าตูบอย่างใจดี เป็นบุคคลเดียวกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอไว้คราวนั้น
ภาพชายหนุ่มกำยำผิวขาวจัด ดวงหน้าผ่องใส ที่ฉายชัดสุดคือดวงตาคมดุคู่นั้นซึ่งจับจ้องมายังเธอ เมื่อครั้งแรกที่ได้พบเห็น

เขาคือทินกร....

ชายหนุ่มที่มีเสน่ห์เกินจะละสายตาจากจอภาพยนตร์ซึ่งทำให้เธอหลงกลกาลเวลาเข้ามาอยู่ ณ ที่นี้ และเขากำลังอยู่กับเธอที่นี่ ตอนนี้

บนรถคันเดียวกัน! คิดแล้วหัวใจก็โลดแล่นขึ้นมาอย่างประหลาด

รถยนต์คันนั้นขับออกจากจุดเดิมได้ไม่นานนัก จู่ๆ หญิงสาวที่ขดตัวอยู่ที่พื้นด้านหลังก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาเฉยๆ อาจเป็นเพราะตากฝนมาเป็นเวลานาน เนื้อกายที่เปียกชุ่มเปรอะเปื้อนดินจนมอมไปหมด สภาพยามนี้ธราไม่ประสงค์ให้ใครเห็นสักนิด แม้กระทั่งดาราดังที่ฮัมเพลงแผ่วเบาอยู่ในรถคันเดียวกัน

เสียงร้องเพลงฮึมฮัม ผสานกับเสียงครางหงิงๆ ของเจ้าตูบ ลงตัวน่าฟังยิ่งนัก เธอคงจะมีอารมณ์ยินดีกว่านี้มาก หากไม่ต้องตกอยู่ในสภาพอึดอัดเช่นนี้ หญิงสาวรู้สึกว่ามีอากาศบางอย่างแล่นมารวมกันอยู่ที่ปลายจมูก เธอรีบเอามือมาปิดจมูกโดยเร็ว แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว

“ฮัดเช้ย!”

เสียงจามของเจ้าหล่อน เสมือนเบรกชั้นเยี่ยม คนขับหยุดรถกะทันหันจนล้อขูดกับถนนเป็นเสียงดัง เจ้าตูบกระเด็นร่วงลงไปอยู่ตรงที่วางเท้า ข้าวของร่วงกระจัดกระจาย แต่ทินกรไม่ได้สนใจสิ่งของเหล่านั้น สิ่งที่สนใจคือเสียงที่จะตามมาหลังจากนี้ต่างหาก

พลั่ก!

“โอ๊ย!”

เสียงกระแทกอย่างรุนแรงทางฝั่งที่นั่งด้านหลังนั่นมากกว่าที่เขาสนใจ หญิงสาวร่างเล็กค่อยๆ ยันกายขึ้นจากพื้น มือน้อยกำหัวตัวเองป้อยๆ สานสบดวงตาคมดุที่จ้องมาอย่างดุดัน สันกรามเขาขบแน่นจนเห็นรอยนูน อะไรก็ไม่เลวร้ายเท่าน้ำเสียงแข็งกร้าวที่เอ่ยถามโดยไม่ละสายตาไปไหน

“เธอ-เป็น-ใคร!”

เวลานั้นหญิงสาวรู้สึกราวกับตัวเองจะแหลกสลายกลายเป็นผงไปในพริบตาเดียว

...โอ้พระเจ้า! เราจะตายไหม





เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2559, 12:22:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2559, 12:22:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 862





<< ตอนที่ 4 ...พระเอกผู้เย่อหยิ่ง    ตอนที่ 6 ...พระเอกอันตราย >>
Zephyr 12 มิ.ย. 2559, 15:55:12 น.
ตายแน่ ชลเอ้ย
หล่อ ดุ ใจดีกะหมา ไม่ใช่จะดีกะเธอนะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account