หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน 7

พรพรรณมองเพื่อนสาวที่นั่งเก็บเสื้อผ้าอยู่บนที่นอนด้วยแววตาเศร้าสร้อยเมื่อรู้ว่าออม

ทองได้งานที่ฟ้าครามรีสอร์ท จริงอยู่...ถึงแม้ว่าเธอจะดีใจกับเพื่อนที่ได้งานทำโดยไม่

คาดฝัน แต่ทว่า...เมื่อคิดถึงการที่ต้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียวก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่

ได้

“เฮ้อ” เธอถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

ออมทองหันไปมองพรพรรณที่นั่งหน้าจ๋อยขณะกำลังช่วยเธอเก็บของใช้ที่จำเป็นใส่

กระเป๋า ท่าทางของเพื่อนนั้นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคลานเข้าไปโอบกอดร่างอวบไว้

แน่น ใบหน้าเรียววางเกยอยู่บนหัวไหล่

“พรรณจ๋า ออมไม่ได้ไปไหนไกลเลย” เธอบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา รับรู้ถึงความเหงา

ที่กำลังจะเกิดขึ้น “แล้วจังหวัดตราดก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง”

“ใกล้เหรอ นั่งรถจนเมื่อยก้น” พรพรรณงึมงำ ทำให้ออมทองเผลอหัวเราะคิกออกมา

“ขำอะไรยะ คนกำลังเศร้า” พรพรรณหันมาถามหน้ามุ่ย

“นั่งรถยังธรรมดานะ หลับๆ ตื่นๆ ก็ถึงแล้ว แต่อีตอนนั่งเรือไปที่เกาะสิ ออมต้องโต้

คลื่น โต้แดด โต้ลม โอ๊ย สารพัดบรรยายไม่หมด แต่เมื่อไปถึงเกาะแล้ว ออมลืมความ

เหนื่อยและลำบากหมดเลย เชื่อมั้ย” เธอบอกเพื่อนสาวด้วยแววตาเคลิ้มฝัน

“จริงเหรอ” พรพรรณย้อนถาม เธอพยักหน้าเร็วๆ

“จริงสิจ๊ะ ฟ้าครามรีสอร์ทเป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ห่างจากเกาะกูดไปประมาณครึ่งชั่วโมง

ได้ ทุกอย่างที่เกาะดีหมดเลยไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือครอบครัวของพนักงานที่อาศัย

อยู่บนเกาะนั้น โดยเฉพาะปลาทู น่ารักมาก” เธอบอกพรพรรณด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดวง

ตาพราวระยับเมื่อคิดถึงเพื่อนต่างรุ่นที่ช่างพูด ช่างเจรจา “แต่ยกเว้นเจ้าของรีสอร์ท”

เธออุบอิบเบาๆ เมื่อคิดถึงสายตาคมกริบ นิ่งเฉยจนเธอไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่ากำลังคิด

อะไรอยู่

“อะไรนะ ออมพูดเบาจัง” พรพรรณมองเธอด้วยสายตาคำถาม

“ปะ เปล๊า” เธอส่ายหน้าจนผมยาวสลวยสะบัด “ขอบคุณนะจ๊ะพรรณที่บังคับให้ออมไป

เที่ยว ถ้าไม่ได้ทริปเที่ยวที่รีสอร์ท ป่านนี้ออมอาจจะเดินหางานทำอยู่ก็ได้ และถ้าออม

ยังไม่ได้งาน พ่อกับแม่ที่บ้านต้องลำบากแน่ๆ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงตื้นตัน รู้สึกร้อนที่

ขอบตาขึ้นมาทันที

“ออมอย่าคิดอย่างนั้นนะ ที่ออมได้งานเป็นเพราะความสามารถของออมต่างหาก

พรรณแค่อยากให้เพื่อนไปเที่ยว พักผ่อนสมองเท่านั้นเอง” พรพรรณตอบกลับไป

พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน

“พรรณ” เธอพึมพำ เม้มปากมองเพื่อนสาวด้วยแววตาซาบซึ้งก่อนจะกอดร่างท้วมด้วย

ความรัก นี่แหละ...เพื่อนแท้ของเธอ

“ออม อย่าร้องไห้สิ” พรพรรณเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น

“พรรณนั่นแหละ ร้องก่อนทำไม”

เสียงร้องไห้โฮของคนทั้งคู่ทำให้แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดพื้นตรงหน้าห้องต้อง

หยุดมองประตูด้วยความสงสัย ก่อนจะส่ายหน้า

“ทั้งปี ดูหนังเกาหลีแน่ๆ ร้องไห้ลั่นห้องอย่างนี้” เธอถอนหายใจ ก่อนจะเดินกวาดพื้น

ผ่านไปเหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติ


ฟ้าครามมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งก่อนจะถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย ถ้าเขาไม่

ติดว่ามีธุระและมีความจำเป็นต้องเข้าฝั่ง เขาคงให้ยักษ์มารอรับออมทองแทน ซึ่งเขา

คิดว่า ไหนๆ ต้องมาส่งจดหมายให้กับพิมพ์ลดาแล้ว เขาเป็นฝ่ายมารอรับเองก็ได้ แต่นี่

...ออมทองกลับให้เขาเป็นฝ่ายรอไม่ต่ำกว่าชั่วโมง มันเลยเวลาที่นัดหมายไปมาก เขา

น่าจะทิ้งเธอไว้ให้อยู่บนฝั่งคนเดียวจริงๆ!! ชายหนุ่มเม้มปากจนเป็นเส้นตรงพลางหรี่

ตามองรถตู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ที่เข้ามาจอดในท่ารถด้วยความหวังว่าจะเห็นออม

ทองเป็นหนึ่งในผู้โดยสารรถคันนั้น


นั่นไง...ร่างโปร่งบางเดินหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่พร้อมกับเป้สะพายหลังก้าวเร็วๆ

ตรงมายังท่าเรือ แต่ออมทองไม่ได้เดินมาตรงที่เขายืนอยู่หรอกนะ เธอเดินไปอีกทาง

โดยไม่ได้มองรอบข้างเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตัดสินใจก้าวเท้าเดินตามเธอไปห่างๆ

หญิงสาวหยุดยืนหอบ หายใจแรงพร้อมกับกวาดสายตามองเรือที่เทียบท่าแต่ละลำ

ทว่า...เธอไม่เห็นเรือจากรีสอร์ทฟ้าคราม ทั้งๆ ที่ได้โทรบอกล่วงหน้าแล้ว

“อีตาฟ้าครามอยู่ไหนเนี่ย ฉันเดินตามหาจนเมื่อยขาไปหมดแล้วนะ” เธอเค้นเสียงลอด

ไรฟันก่อนจะทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้บนพื้น “โอ้ย หอบอะไรมากนักหนาเนี่ย หนักชิ

บเป๋ง” เธอบ่นพร้อมกับบีบมือตัวเองไปมาเพื่อคลายความเจ็บ

“คุณมาช้า” เสียงห้าวดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เธอหันกลับมาเพื่อที่จะโต้เถียง แต่

เมื่อได้เห็นหน้าคนพูดแล้ว เธอถึงกับอ้าปากค้าง

“ก็...ฉันมาไม่ทันรถเที่ยวหกโมงเช้านี่” เธออ้อมแอ้มตอบกลับไป

“ที่กรุงเทพฯ นี่ รถมันติดแต่เช้าเลยเหรอไง ถึงได้มาไม่ทัน” ฟ้าครามมองหน้าเรียวด้วย

แววตาเอาเรื่อง “หรือว่า...คุณตื่นสาย”

“ก็เมื่อคืนเป็นตอนจบละครเรื่องโปรดนี่นา ฉันแค่ตื่นสายไปนิดเดียวเอง” เธอแก้ตัว

“ตื่นสายนิดเดียวของคุณนี่ ตื่นกี่โมง” เขาย้อนถาม นึกโมโหแม่สาวน้อยตรงหน้าที่ไม่

รู้จักตรงเวลา

“แค่หกโมง....ครึ่งเอง” เธอพึมพำกลับไปเบาๆ ฟ้าครามถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อม

กับส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับไป โดยไม่วายหันมาพูดกับเธอว่า

“ตามมาเร็ว ถ้าคุณยังช้า ผมจะทิ้งคุณไว้ที่นี่เพราะมันผิดเวลามากแล้ว”

“อ้าว” เธออ้าปากค้าง มองแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาเบิกกว้าง “คุณคราม คุณไม่คิดจะ

ช่วยฉันถือกระเป๋าเลยเหรอ” เธอตะโกนถามออกไป

“คุณถือมาจากกรุงเทพฯ ตั้งไกล จากตรงนี้จนถึงเรือไม่ถึงร้อยเมตร คุณถือได้สบาย

อยู่แล้ว” เขาบอกพร้อมกับแสยะยิ้มโดยไม่สนใจหน้าสวยที่บูดบึ้ง ไม่สบอารมณ์เลย

แม้แต่นิดเดียว

“แค่ตื่นสายหน่อยเดียวเองบ่นอยู่ได้ คนไม่มีน้ำใจ” เธอพึมพำในลำคอ ลากกระเป๋าใบ

ใหญ่ตามเขาไปอย่างฉุนเฉียว



ออมทองกวาดสายตามองห้องพักตัวเองด้วยความพอใจ ถึงแม้ว่าห้องนี้จะไม่มีเครื่อง

อำนวยความสะดวกครบครันเหมือนห้องพักที่กรุงเทพฯ แต่อะไรบางอย่างของที่นี่ทำ

ให้เธอรู้สึกดีและปลอดภัย หญิงสาวทิ้งตัวเองลงบนที่นอนที่ไม่ได้หนามากนัก ดวง

ตากลมโตมองเพดานด้วยความหวัง

“คอยดูนะ ฉันจะทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะๆ และจะทำให้นายฟ้าครามทึ่งกับความ

สามารถของฉันจนคาดไม่ถึงเลย คอยดูสิ” เธอบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่นก่อนจะลุกขึ้น

นั่งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

“คุณออม ณีเองค่ะ” เสียงปราณีดังขึ้นทำให้เธออมยิ้ม รีบเดินไปประตูอย่างรวดเร็ว

“จ๊ะเอ๋ ในที่สุดออมก็เป็นเพื่อนร่วมงานกับคุณณีจนได้” เธอบอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง

จนทำให้คนตรงข้ามอดที่จะหัวเราะไปด้วยไม่ได้

“พอนายบอก ณีก็รีบมาหาคุณออมเลย” ปราณีบอก “ดีใจจังเลย”

“มากอดทีสิ คิดถึงจัง” เธอบอกพร้อมกับโอบกอดปราณีไว้แน่น จนปราณีต้องกระแอม

เพราะแรงรัดจากอ้อมแขนเธอ

“เบาๆ ค่ะ ณีหายใจไม่ออก” ปราณียิ้มเขินๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก ทำให้

ออมทองคลายวงแขนออกพร้อมกับฉุดดึงเพื่อนร่วมงานคนใหม่เข้ามานั่งคุยในห้อง

“เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่ต้องมาเรียกคุณแล้วนะ เรียกชื่อเฉยๆ ก็พอ” ออมทองบอก

ซึ่งปราณีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สองสาวคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานาน

และได้จากกันไปเป็นปี ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วยังไม่ถึงสองอาทิตย์ด้วยซ้ำ


ชายหนุ่มหยุดมองหญิงสาวที่นั่งเขียนอะไรยุกยิกบนกระดาษก่อนจะก้มไปหยิบแฟ้ม

เอกสารใต้โต๊ะขึ้นมาเปิดอ่านทีละแผ่นอย่างละเอียด ผมยาวสลวยที่เขาเคยเห็นนั้น

เวลานี้ถูกมุ่นเป็นมวยโดยมีปากกาเสียบไว้แทนปิ่นปักผมเผยให้เห็นดวงหน้ารูปไข่อย่าง

ชัดเจน ดวงตากลมโตที่มีแพขนตาหนานั้นเหลือบมองฝาผนังอย่างใช้ความคิด ความ

จริงแล้วห้องทำงานที่เธอนั่งอยู่นั้นคือห้องทำงานเขาเอง ซึ่งเขาไม่ค่อยได้อยู่ห้องเท่า

ไหร่เพราะงานส่วนใหญ่ของเขาจะอยู่ด้านนอกมากกว่า

“ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้เนี่ย ไม่รู้จักแบ่งแยกหมวดหมู่เอาซะเล๊ย นึกอยากจะจดก็จด

เอาตัวเลขมาปนกันจนแกะแทบไม่ออก” ออมทองบ่นพึมพำมองงานบนโต๊ะก่อนจะเงย

หน้าหาวแล้วหุบปากแทบไม่ทันเมื่อสบตาเขาที่ยืนมองอยู่แล้ว

“ง่วงเหรอ” เขาเอ่ยถามขณะเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวเอง

“เปล่าค่ะ” หญิงสาวตอบในลำคอเบาๆ เหมือนไม่ใส่ใจ เขามองเธออีกครั้งเห็นความดื้อ

ดึงอยู่ในแววตาคู่สวย

“ผมเห็นคุณหาว แสดงว่างานที่ทำอยู่มันน่าเบื่อใช่มั้ย” เขาเอ่ยถาม

“เปล่านี่คะ ฉันแค่รู้สึกว่าสมองฉันขาดออกซิเจน ดังนั้นต้องเอาออกซิเจนเข้าไปในร่าง

กายเยอะๆ” คำตอบของเธอทำให้เขาต้องส่ายหน้า ไม่มีเลยสักครั้งที่เธอจะนั่งรับฟังอยู่

เฉยๆ โดยไม่โต้เถียง

“ผมจะเชื่อแล้วกัน” เขาบอกด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบสมุดตารางนักท่องเที่ยว

มาดูรายชื่อลูกค้าที่จะเข้าพักในอาทิตย์หน้า

“ชิ๊” เสียงสบถเบาๆ ในลำคอทำให้ชายหนุ่มเหลือบมองหน้าเรียวที่กำลังทำปากยื่น

เหมือนล้อเลียน ทันทีที่สบตากันออมทองเลิกคิ้ว ยักไหล่ก่อนจะฮัมเพลงเบาๆ ในลำ

คอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ฟ้าครามหรี่ตามองอย่างครุ่นคิด

“อาทิตย์หน้า มีทริปของนักท่องเที่ยวประมาณสิบสองคน ผมต้องการให้คุณไปทำงาน

ในทริปนี้ด้วย” เขาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ แต่มีผลให้ร่างบางนั้นผงกหัวขึ้นมาทันที

“หมายความว่าให้ฉันพานักท่องเที่ยวไปตามกำหนดการที่คุณวางไว้เหรอคะ” เธอย้อน

ถาม

“ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณพาเขาไปดำน้ำหรอกนะ ผมแค่ต้องการให้คุณช่วย

อยู่บนเรือไปก่อน” เขาอธิบาย

“อ้อ” ออมทองถอนหายใจอย่างโล่งอก


“เตรียมตัวด้วยแล้วกัน นี่คือรายชื่อลูกค้า คุณช่วยดูแลในเรื่องห้องพักด้วย ส่วนอาหาร

ผมให้ป้าสอางค์จัดการเรียบร้อยแล้ว” เขายื่นกระดาษรายชื่อมาทางเธอทำให้หญิงสาว

ต้องเดินไปรับเอกสารจากมือเขาอย่างเสียไม่ได้

“ค่ะ” เธอรับคำ “อุ๊ย เลิกงานพอดีเลย ฉันขอตัวก่อนนะคะ” เธอบอกอย่างรวดเร็วหลัง

จากที่เหลือบตามองนาฬิกา มือเรียวนั้นรวบเอกสารบนโต๊ะก่อนจะหันมายิ้มให้กับเขา

อย่างเจ้าเล่ห์

“นี่ คุณ” เขาท้วง แต่เธอกลับผลุนผลันออกจากห้องทำงานโดยไม่ฟังเสียงเขาเลยสัก

นิด ทิ้งให้เขาได้แต่มองตามเท่านั้น

ออมทอง...ถ้าไม่เห็นว่าทางรีสอร์ทวุ่นวายที่ไม่มีคนทำบัญชีแล้วล่ะก็...เขาคงไม่รับเธอ

เข้าทำงานง่ายๆ แน่!!


เสียงหัวเราะลงลูกคอของเด็กหญิงปลาทูดังขึ้นอย่างสดใส มือเล็กๆ กำลังขุดทรายด้วย

ไม้พายพลาสติกสีแดงสดอย่างตั้งใจ รวมถึงกระป๋องทรายใบเล็กสีเขียวและแม่พิมพ์

พลาสติกหลากสีรูปสัตว์ต่างๆ ที่เธอเพิ่งซื้อมาให้เด็กหญิงตัวน้อยในราคาที่ไม่ได้แพง

มากนัก แต่ท่าทางที่ทะนุถนอมในการจับต้องสิ่งของเหล่านี้รวมถึงแววตาปลาบปลื้ม

ยินดีของปลาทู ทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน

“น้าออม มาตรงนี้เลย” ปลาทูเอ่ยปากชวนก่อนจะยกมือปิดปากตัวเอง “หนูลืม” เด็ก

หญิงบอกพร้อมกับหัวเราะจนเห็นฟันหลอ

“ทั้งปีเลยนะ ถ้ายังเรียก ‘น้า’ อีก ต่อไปพี่จะไม่ซื้อของเล่นกับขนมอร่อยๆ มาฝาก

ด้วย” เธอบอกด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแต่แววตาพราวระยับ

“หนูไม่ลืมแล้ว จริงๆ หนูสัญญา” ปลาทูส่ายหน้าเร็วๆ พร้อมกับให้คำมั่น

“จริงนะ” เธอแกล้งถามย้ำก่อนจะหัวเราคิกเมื่อปลาทูพยักหน้าอย่างรวดเร็ว มือเล็กนั้น

ขุดพื้นทรายจนเป็นหลุมกว้าง

“นี่ไง เจอแล้ว” ปลาทูเอ่ยเสียงดัง หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาพร้อมกับยื่นให้เธอดู

“อะไรเหรอ” เธอเอียงคอถาม มองหอยตัวเล็กในมือเปื้อยทรายด้วยความสงสัย

“หอยเสียบค่ะ เดี๋ยวหนูจะเอาไปให้แม่” ปลาทูบอก “อร่อยมากเลย”

“จริงเหรอ มันตัวเล็กมากเลยนะ จะมีเนื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้” เธอเอ่ยขึ้นมาลอยๆ เคยเห็น

แม่ค้าขายอยู่ตามริมทางเหมือนกัน แต่เธอไม่เคยคิดที่จะซื้อเลยเพราะไม่รู้ว่าจะเอาไป

ทำอะไรกิน

“มีสิ แม่เพ็ญจะเอาไปแช่ในน้ำปลา กินกะข้าวต้มอร่อยมาก” ปลาทูบอก “แล้วพ่อยักษ์

ก็ชอบให้แม่เพ็ญทำยำเผ็ดๆ ด้วย”

“เหรอ น่ากินนะ ปลาทูทำเป็นมั้ย” เธอแกล้งย้อนถาม

“เป็นสิ ไม่เห็นจะยากเลย หนูเห็นแม่เพ็ญเอาหอยแช่น้ำ ทุบพริกใส่ลงไป หอยมันจะได้

อ้าปากคายทรายออกมา” ปลาทูพูดขณะมือก็ขุดทรายไปเรื่อยๆ “แล้วก็ต้มน้ำปลาเอา

หอยใส่ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว”

“เก่งจริงนะตัวแค่นี้” เธอเอ่ยปากพร้อมกับอมยิ้ม

“พ่อยักษ์ชมว่าอร่อยสุดยอด” ปลาทูเงยหน้าบอกเธอพร้อมกับชูนิ้วโป้งขึ้นมาประกอบ

ท่าทาง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับการแสดงออกตามธรรมชาติของเจ้าตัวเล็ก

ตรงหน้า

“จ้า งั้นเราช่วยกันหาดีกว่า จะได้เยอะๆ แม่เพ็ญจะได้ทำกับข้าวให้เรากินกันเน๊อะ” เธอ

ชักชวนช่วยขุดทรายหาอย่างสนุกสนานแต่ในหัวเธอเวลานี้ เธอคิดถึงยำหอยเสียบรส

จัดจ้านกับข้าวสวยร้อนๆ เพียงแค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว


ออมทองนั่งเหยียดยาวอยู่ตรงชานบ้านหลังจากที่กินข้าวเย็นไปอย่างเต็มที่ ไม่น่าเชื่อ

เลยว่ายำหอยเสียบของเพ็ญจะอร่อยอย่างนี้ เธอเพ่งสายตามองไปท้องทะเลด้านหน้า

ด้วยความผ่อนคลาย ลมทะเลที่พัดเข้ามานั้นให้ความเย็นสบาย เธอหันมองเพ็ญที่เดิน

มานั่งข้างๆ โดยวางจานสับปะรดไว้ตรงหน้า

“ตบท้ายด้วยผลไม้สักนิดนะจ๊ะคุณออม” เพ็ญเอ่ยด้วยน้ำเสียงเชิญชวน

“ออมอิ่มท้องจะแตกตายอยู่แล้ว” เธอบอกพร้อมกับลูบท้องตัวเองก่อนจะหันไปมอง

รอบๆ “แล้วปลาทูไปไหนคะ”

“นู่นแน่ะจ้ะ พ่อลูกเดินอยู่นั่น” เพ็ญบอกแล้วชี้ไปยังสองคนพ่อลูกที่เดินจูงมือไปทาง

รีสอร์ทด้วยท่าทางมีความสุข

“เอ...ตอนนี้เลิกงานแล้วนี่นา ทำไมยักษ์ต้องกลับไปรีสอร์ทอีกล่ะ” เธอเอ่ยถามด้วย

ความสงสัย

“ปกติล่ะจ้ะ พ่อปลาทูจะต้องไปรายงานให้นายทราบว่าวันนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง” เพ็ญ

บอกด้วยท่าทางปกติ แต่เธอกลับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“อะไรกันนี่ ใช้กันไม่รู้เวล่ำเวลาเลยเหรอ แล้วอย่างนี้เจ้านายของยักษ์ได้จ่ายโอทีให้

มั้ย” เธอถาม แต่เพ็ญกับมองหน้าเธอด้วยแววตาสงสัย

“โอที” เพ็ญพึมพำ “คืออะไรจ๊ะ”

“เอ๊า ก็ค่าล่วงเวลาไง ตามกฎหมายถ้านายจ้างใช้งานเราหลังจากที่เลิกงานแล้ว นาย

จ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้กับพนักงานไง” เธอบอกให้เพ็ญเข้าใจ

“โธ่ คุณออม แค่นายให้งานเราทำ ให้บ้านที่อยู่อาศัยบนเกาะนี้ เราก็ดีใจเหลือเกินแล้ว

ไม่จำเป็นที่นายจะต้องมาจ่ายเงินให้เราเลยจ้ะ เพราะทุกอย่างที่เราทำไปนั้น เราทำให้

นายด้วยความเต็มใจจ้ะ” เพ็ญบอกด้วยน้ำเสียงจริงใจ

“เวรกรรม” เธอถอนหายใจก่อนจะหยิบสับปะรดมากินเพื่อตัดบทการสนทนา เธอมั่นใจ

ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เพ็ญก็ไม่มีวันเชื่อเธอเด็ดขาด

“เพ็ญ...อยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว” เธอเอ่ยถามหลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก

“เกือบสามปีแล้วจ้ะ ครอบครัวเรามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่นายเริ่มสร้างรีสอร์ทจ้ะ”

“โห อย่างนี้เพ็ญกับยักษ์ก็เป็นคนเก่าคนแก่ล่ะสิ” เธอเอ่ยเสียงสูง เบิกตากว้าง


“แหม คุณออม” เพ็ญอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าตาเธอ

“เออ แล้วนายของเพ็ญ เขาไม่มีพี่น้องบ้างเหรอ” เธอเอ่ยถาม

“นายเป็นลูกคนเดียวจ้ะ” เพ็ญตอบสั้นๆ เธอพยักหน้ารู้สึกเลยว่าเพ็ญไม่ค่อยอยากตอบ

คำถามเธอเท่าไหร่นัก

“แล้วพ่อกับแม่ของนายเพ็ญเคยมาที่นี่หรือเปล่า”

“เคยจ้ะ ท่านจะมาประมาณเดือนเมษา มาพักผ่อนทุกปีจ้ะ”

“อืม แล้วนายของเพ็ญมีคนรักหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามอย่างไม่ได้ใส่ใจ เพ็ญชะงักไป

ชั่วขณะ

“คุณออมทำงานที่นี่เป็นไงบ้างจ๊ะ ปรับตัวได้หรือยัง” เพ็ญย้อนถามกลับมาโดยไม่ตอบ

คำถามเธอ

“ก็ดีค่ะ ทุกคนที่นี่ให้ความเป็นกันเอง ออมทำงานด้วยแล้วสบายใจค่ะ” เธอตอบกลับ

ไปตามความรู้สึก “แต่จะเหงานิดหน่อยค่ะ”

“ถ้าคุณออมเหงา ก็มาที่นี่ได้ทุกเวลาเลยนะจ๊ะ” เพ็ญบอกอย่างมีน้ำใจ ใบหน้าคล้ำนั้น

ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ออมต้องมาแน่ๆ อยู่แล้ว ขอบคุณนะคะ” เธอตอบกลับไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนโดยที่

เพ็ญลุกขึ้นตาม

“เย็นมากแล้ว ออมกลับก่อนนะ” เธอบอกยิ้มๆ ก่อนจะเดินจากมา

หญิงสาวเดินกลับบ้านพักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดวงตากลมโตพราวระยับ เธอเปล่งเสียง

ร้องเพลงออกมาอย่างไม่อายใคร แม้ว่าจะผิดคีย์ หรือจะร้องเพี้ยนบ้างก็ไม่มีใครว่า

เพราะเวลานี้เธออยู่เพียงลำพัง ว่าแต่ว่า...เมื่อกี้เพ็ญยังไม่ตอบเลยว่านายฟ้าครามมีคน

รักหรือยัง เธอหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองทางบ้านเพ็ญชั่วขณะก่อนจะส่ายหน้าแล้ว

ถอนหายใจเฮือกใหญ่

เธอนี่ท่าจะบ้า...เขาจะมีคนรักหรือไม่มี มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด ทำไมเธอ

ต้องไปอยากรู้ อยากเห็นเรื่องของเขาด้วยเนี่ย ยัยออมทอง!!!

**********************************

มิตรร๊าก...แควนคลับ...

ตอนนี้ผู้แต่งได้ร่วมกิจกรรมเวป เป็น "กล้วย" หุ หุ หุ ช่วยมาลุ้นให้ผู้แต่งสามารถ

เขียนเรื่องสั้นได้ด้วยเถิด สาตุ๊....



แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2554, 11:53:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2554, 11:53:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 2577





<< ตอน 6   ตอน 8 >>
รัชต์ 3 ส.ค. 2554, 12:20:55 น.
ช่างกล้านะยัยออมเพิ่งได้งานทำมีผละงานตรงเวลาเป๊ะต่อหน้านาย..
*-*
กล้วยน่ะพอนึกรูปทรงออกแบบกลางๆไม่ระบุว่ากล้วยอะไร แต่..คุณแมกไม้เป็นกล้วยทั้งเครือเหรอ...เหอะๆๆ นึกสภาพเป็นใบไม่ออก ต่อให้เป็นหวีด้วยเอ้า....


innam 3 ส.ค. 2554, 12:34:17 น.
เห็นด้วยกับคุณรัชต์



Zephyr 3 ส.ค. 2554, 13:55:18 น.
ยายหนูออมมาทำงานหรือว่ามาป่วนรีสอร์ทกันแน่เนี่ย ที่แน่ๆงานของฟ้าครามคงเพิ่มขึ้น ^^


anOO 3 ส.ค. 2554, 15:01:18 น.
ตกลงยัยออมกับฟ้าครามใครเป็นเจ้านายกันแน่
แล้วไปกินยำหอยดองเนี้ย เดี๋ยวได้ท้องเสียอีก ไม่เข็ดจริงๆ


แพม 3 ส.ค. 2554, 16:29:35 น.
ง่า...ยังอัพไม่มากอ่ะ รอต่อไป!


omelet 3 ส.ค. 2554, 18:36:41 น.
เอ๊ะ เอ๊ะ เราอ่านเรื่องนี้ใน DD ตั้งนานนนมาแล้ว
ดีใจจังค่าที่มาอัพต่อ


ปูสีน้ำเงิน 3 ส.ค. 2554, 23:25:40 น.
ยัยออมนี่ดูร้าย ดื้อๆยังไงไม่รู้


XaWarZd 4 ส.ค. 2554, 09:50:52 น.
สู้ ๆนะจ๊า แมกไม้ ถ้ามาอัพนิยายให้อ่านทุกวันเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลย


ปอยอะนะ 4 ส.ค. 2554, 16:14:42 น.
^
^
^
^
อัพนิยายทุกวัน ถ้าแมกไม้ทำได้ สงสัยจะผอมก้อคราวนี้ละ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account