หัวใจ...error
ฟ้าคราม ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักนั้นคืนกลับมา เขาพยายามที่จะยื้อยุดความรักไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ ทว่า...เมื่อออมทองได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของเขา ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากคนนี้ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเขานั้นเปลี่ยนไป...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน 8

ฟ้าครามมองท่าทางของออมทองที่กำลังเดินมาขึ้นเรือแล้วอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า แค่

ให้หิ้วกล่องข้าวไม่ถึงยี่สิบกล่อง ยังเดินแกว่งๆ ขนาดนี้แล้วงานที่เขาจะให้เธอไปช่วย

นั้น เธอจะทำได้มากน้อยแค่ไหน

“คุณคราม ช่วยรับหน่อยสิคะ” ออมทองเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นถุงหิ้วให้กับเขา

“อย่ามัวแต่ยืนมองเฉยๆ สิ”

“นี่คุณออม คุณถือจากครัวเดินมาที่เรือนี่ไม่กี่สิบเมตร ทำท่าเป็นลูกเป็ดแตก

แถว แล้วอย่างนี้คุณจะช่วยผมได้มั้ยเนี่ย” เขาย้อนถาม

“คุณคราม คุณก็พูดเกินไป ฉันทำได้ทุกอย่าง แล้วที่ฉันเดินเซๆ เพราะมันหนัก

เท่านั้นเอง” เธอเถียงกลับมา เริ่มรู้สึกล้าที่แขนเพราะของค่อนข้างหนัก

“ทางขึ้นอยู่ท้ายเรือนู่น ผมจะไปรับของตรงนั้น” เขาบอกพร้อมกับเดินไปยังท้าย

เรือ โดยที่เธอเดินหิ้วของไปตรงท้ายเรืออย่างว่าง่าย แม้ว่าสีหน้านั้นจะขัดแย้งกับการ

แสดงออกก็ตาม

“เร็วสิ ฉันหนักนะ เอ้า” เธอบอกพร้อมกับยื่นของให้ ซึ่งแน่ล่ะ...เขาต้องเป็นคน

ช่วยเหมือนเดิม

“คุณจัดของให้เรียบร้อยด้วยแล้วกัน เดี๋ยวผมไปพาแขกมาก่อนแล้วเราจะออก

เรือทันทีที่แขกมาครบ” เขาสั่งเสร็จแล้วโดดลงจากเรือเดินไปยังรีสอร์ททันที ทิ้งให้

ออมทอมอยู่บนเรือกับยักษ์ ซึ่งเขาอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะเตรียมความพร้อมได้

ขนาดไหน


ออมทองมองนักท่องเที่ยวที่กำลังลอยตัวอยู่ผิวน้ำเพื่อดูปะการังด้วยสายตา

อิจฉา เธออยากลงไปมีส่วนร่วมดำน้ำด้วยเหลือเกิน แต่ว่า...ฟ้าครามสั่งให้เธอรออยู่บน

เรือนี้ หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางก้มมองเสื้อชูชีพสีส้มสดที่ตัวเองใส่แล้วเบะ

ปากก่อนจะพุ่งความสนใจไปยังชายหนุ่มผิวสีแทนเข้มที่พยุงตัวอยู่ในน้ำโดยมีเพียง

แผ่นอกกำยำกับกางเกงขาสั้นเท่านั้น เขาไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไรเลยสักอย่าง คงเป็น

เพราะประสบการณ์และความชำนาญที่สะสมมาเนิ่นนาน ผมหยักศกที่ค่อนข้างยาวนั้นลู่

ติดหัวทุยสวย ดวงตาคมฉายแววพึงพอใจเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวที่ตื่นตา ตื่นใจกับสิ่ง

สวยงามในท้องทะเล เขาหันกลับมาสบตาเธอก่อนจะว่ายน้ำกลับมาอย่างรวดเร็ว

“คุณเตรียมขนมปังให้กับนักท่องเที่ยวหรือยัง” ฟ้าครามถามเสียงดังเมื่อว่ายน้ำ

เข้ามาอยู่ใกล้ๆ กับเรือ ใบหน้าคมเข้มนั้นมีหยดน้ำเกาะพราว

“นี่ค่ะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงติดสะบัดพร้อมกับรวบถุงขนมปังขึ้นมาให้เห็น เขา

พยักหน้าก่อนจะโหนตัวขึ้นมาบนเรือด้วยกำลังแขนที่แข็งแรง

“โอเค เดี๋ยวผมจะเอาไปให้ลูกทัวร์เอง ส่วนคุณรออยู่บนเรือนี่แหละ ดูไว้ว่าถ้ามี

ใครต้องการความช่วยเหลือให้รีบบอกผมหรือยักษ์ทันที เข้าใจมั้ย” ฟ้าครามย้อนถาม

พลางสบตาเธอด้วยแววตาบังคับให้ตอบ

“เข้าใจอย่างชัดเลยค่ะ” เธอตอบกลับไป

“ดี” เขาพยักหน้า รวบถุงขนมปังเพื่อจะลงทะเลอีกครั้ง

“คุณคราม” เธอเปล่งเสียงออกไป ทำให้ชายหนุ่มชะงักก่อนจะหันกลับมามอง

ด้วยแววตาสงสัย

“มีอะไร”

“คือ...ฉันขอลงน้ำด้วยได้มั้ย ฉันอยากเห็นปะการังแล้วก็ให้อาหารปลาด้วย” เธอ

บอกด้วยน้ำเสียงขอร้อง

“ลงน้ำเนี่ยนะ” เขาย้อนถาม เธอพยักหน้าเร็วๆ “อย่าดีกว่า คุณมีหน้าที่

คอยอำนวยความสะดวกให้แขกอยู่บนเรือ ส่วนในน้ำเป็นหน้าที่ของผม” เขาบอกอีก

ครั้งก่อนจะกระโดดลงน้ำไปโดยไม่ฟังคำทักท้วงของเธอเลยสักนิด

“อีตาบ้า ใจร้ายที่สุด” เธอบ่นไล่หลังอย่างหมั่นไส้ก่อนจะยกมือปิดปากเมื่อคิด

ได้ว่าเธอไม่ได้อยู่บนเรือคนเดียว เธอหันไปมองยักษ์ที่นั่งยิ้มอยู่ตรงพวงมาลัยเรือแล้ว

ยิ้มแหยๆ

“เออ...คือ” เธออึกอัก

“ลมทะเลแรงจริงๆ ผมไม่ได้ยินอะไรเลย” ยักษ์บอกแล้วหัวเราะ ทำให้หญิง

สาวอดที่จะหัวเราะตามไม่ได้

“จริงด้วย ลมทะเลแรงจริงๆ” เธอบอกอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหรี่ตามองไปยังคน

บ้าอำนาจที่กำลังยื่นขนมปังให้กับลูกทัวร์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ปลาทะเลสีสวยหลายสิบตัวว่ายเวียนอยู่รอบๆ ตัวคนที่กำลังให้อาหารด้วยท่า

ทางกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะร้องวี้ดว้ายด้วยความตื่นเต้นเมื่อปลาสีสวยเหล่านั้นว่ายเข้ามา

หามากขึ้น น้ำทะเลใสๆ กับปลาสีสวย ทำให้เธออยากลงไปมีส่วนร่วมด้วยเหลือเกิน

หญิงสาวหรี่ตามองพยายามคิดว่าจะทำอย่างไร เธอถึงจะลงทะเลโดยฟ้าครามไม่

ตำหนิ เธอมองยักษ์ที่กำลังกินข้าวด้วยความเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจใคร ดวงตากลม

โตของเธอเหลือบมองไปยังอีกฝั่งของเรือก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ร่างโปร่งบางเดินไปอีก

ฝั่งทันทีโดยที่ยักษ์ไม่ทันสังเกต เมื่อฟ้าครามไม่ให้เธอลงไปด้วย เธอลงเองก็ได้ ไม่

เห็นจะยากเลย เธอค่อยๆ หย่อนตัวลงน้ำโดยไม่ลืมหยิบขนมปังลงไปด้วย ความเย็น

ของน้ำทะเลทำให้ต้องร้องอุทานเบาๆ

“จุ๊ จุ๊ มานี่เลย อาหารอยู่ตรงนี้แล้ว” เธอบอกแล้วฉีกขนมปังโรยรอบๆ ตัวเอง ไม่

นานนักปลาสีสวยทั้งหลายก็ว่ายตรงมายังเธออย่างไม่กลัวอะไร

“ไม่ต้องแย่งกัน ยังมีอีกเยอะ” เธอบอกพร้อมกับโรยขนมปังให้กลุ่มปลาสี

สวยมากขึ้น ในขณะนี้เธออยากมีกล้องดิจิตอลแบบกันน้ำสักตัวเพื่อถ่ายรูปน้ำทะเล

ใสๆ กับปลาตัวเล็กสีสดไปให้พรพรรณดูเหลือเกิน

เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขที่ได้ยินมาจากทางด้านหน้าทำให้เธออดไม่

ได้ที่จะว่ายน้ำไปแอบมองดูว่าสาวๆ เหล่านั้นหัวเราะอะไรกัน ภาพที่เห็นนั้นทำให้เธอ

เบะปากอย่างหมั่นไส้

“ชิ๊ คิดว่าเป็นซุปตาเหรอไง ถึงได้ไปอยู่กลางวงสาวๆ อย่างนั้น” เธออุบอิบ

ในลำคอ ปากอิ่มนั้นเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจก่อนจะพยายามโหนตัวขึ้นเรือ ทว่า...ความ

ปวดเกร็งที่น่องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วบวกกับความตกใจทำให้เธอปล่อยมือทันที

“โอ้ย” ออมทองเปล่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับร่างบางนั้นจมดิ่งสู่ใต้น้ำ

หญิงสาวพยายามตะกายตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ความเจ็บปวดที่น่อง

นั้นทำให้เธอไม่สามารถใช้ขาออกแรงดั่งใจ

“ช่วยด้วย” เธอตะโกนสุดเสียงก่อนจะจมน้ำอีกครั้ง ไม่นะ...เธอไม่อยาก

ตายที่นี่ ใครก็ได้ช่วยเธอที เธอเหยียดแขนขึ้นสูงสุดเท่าที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนร่าง

กายของเธอจะจมดิ่งลงไปทุกที ทุกที....เธออ้าปากปล่อยลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ

ไม่ไหวแล้ว...เวลานี้เธอกำลังจะขาดใจ ไม่มีใครช่วยเธอได้...เธอออกแรงดิ้นเป็นเฮือก

สุดท้ายพร้อมกับรับรู้ถึงแรงฉุดกระชากที่ข้อมืออย่างแรงก่อนจะรั้งเอวเธอขึ้นสู่ผิวน้ำ

อย่างรวดเร็ว

“คุณคราม” เธอกระพริบตาถี่ๆ เมื่อเห็นใบหน้าคร้ามคมในระยะประชิด วง

แขนแข็งแรงรัดร่างเธอแน่นมากขึ้นจนเธอต้องโอบคอแข็งแกร่งไว้เพื่อพยุงตัวเอง

“จะรัดไปถึงไหน เดี๋ยวก็ตายทั้งคู่พอดี” ฟ้าครามคำรามในลำคอ รู้สึก

โมโหแม่สาวน้อยร่างบางคนนี้อย่างที่สุด ถ้าเขาไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

เธอจะเป็นอย่างไร

“ฉันกลัว...เจ็บขาจัง” เธอพึมพำ หน้าเรียวขาวซีด ปากอิ่มสั่นระริกด้วย

ความหนาวเย็น

“ยักษ์” เขาตะโกนเรียกลูกน้องพร้อมกับจับบันไดเหล็กไว้แน่น “ดึงคุณ

ออมขึ้นไปที”

“ครับ นาย” เสียงตอบกลับมาอย่างเร่งรีบพร้อมกับความรู้สึกของออมทอง

ที่ถูกดึงขึ้นไปข้างบน

ฟ้าครามปีนตามขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนจะคุกเข่าลงข้างกายหญิงสาวที่

นอนหน้าซีด ตัวงอบิดไปมาอยู่บนพื้นเรือ ออมทองปรือตามองไปรอบๆ ด้วยแววตาเจ็บ

ปวดก่อนจะหยุดนิ่งที่ดวงตาดำสนิทที่มองมาด้วยความห่วงใยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่ง

เฉยดังเดิม

“เป็นไงบ้าง” เขาเอ่ยถามพลางพยุงตัวหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าขาว

โพลนปราศจากสีเลือดดูน่าสงสารจนทำให้ความโกรธของเขามลายหายไป

“นาย เดี๋ยวผมดูแลทางนั้นให้” ยักษ์บอกพร้อมกับชี้ไปยังกลุ่มนักท่อง

เที่ยวที่กำลังดำน้ำด้วยความสนุกสนานโดยไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์ที่น่าระทึกใจเกิดขึ้นเมื่อ

สักครู่นี้

“ออม คุณเป็นอะไร เจ็บตรงไหน บอกผมสิ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียง

ร้อนรน เมื่อเห็นเธอนั่งนิ่งงัน ไม่โต้ตอบอะไร เขาเชยคางเธอขึ้นมาสบตากลมโตที่เอ่อ

ล้นไปด้วยน้ำตา “เจ็บตรงไหน” เขาถามอีกครั้งก่อนจะบีบแขนกลมกลึง

“ที่น่องค่ะ ที่น่อง...” เธอพึมพำก่อนจะร้องอุทาน พยายามชักขากลับเมื่อ

เขาบีบน่องที่แข็งเป็นไตนั่น

“อยู่นิ่งๆ” เขาบอกแล้วยกขาเรียวมาพาดบนตักแล้วบีบแรงๆ เพื่อให้กล้าม

เนื้อน่องนั้นคลายตัว

“ฉันเจ็บนะ คุณบีบแรงไปแล้ว” เธอต่อว่าพร้อมกับจับมือใหญ่ไว้แน่น ชาย

หนุ่มสบตาหญิงสาวก่อนจะหลุบตามองมือขาวที่ตัดกับผิวเข้มของตัวเอง

“ต้องบีบแรงๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทนหน่อยแล้วกัน” เขาบอกสั้นๆ

บิดมือตัวเองออกจากมือเล็กแล้วออกแรงบีบต่อไปโดยไม่สนใจอาการเกร็งของกล้าม

เนื้อและเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจเลยสักนิด

“โอ้ยยยยยย ฉันเจ็บได้ยินมั้ย” เธอร้องลั่นจนเขาต้องส่ายหน้าก่อนจะ

หยุดบีบน่องเรียวแล้วจับขาเธอวางกับพื้นอย่างอ่อนโยน

“ดีขึ้นหรือยัง คุณอย่าเกร็งขานะ ปล่อยตัวตามสบาย นอนพักสักครู่เดี๋ยวก็

หาย” เขาบอกเบาๆ พร้อมกับอุ้มเธอไปยังด้านหน้าของเรือ

“ขอบคุณค่ะ” เธอพึมพำเบาๆ พลางแอบมองร่างสูงใหญ่ที่เดินย้อนกลับไป

ท้ายเรือ แผ่นหลังกว้างมีหยดน้ำเกาะไหลไปตามแนวกระดูกสันหลังก่อนจะซึมหายเมื่อ

ถึงขอบกางเกง มือขาวซีดลูบแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

แล้วตบหน้าตัวเองพอให้รู้สึก

‘ยัยออม เธอบ้าหรือเปล่ามานั่งใจเต้นอยู่ได้ เลิกมองเขาเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าคนที่

จมน้ำจะเป็นใคร เขาต้องลงไปช่วยอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเพราะเธอหรอก!!!’


ฟ้าครามทอดสายตามองท้องทะเลข้างหน้าด้วยแววตาอ้างว้าง จากจุดที่

เขายืนอยู่ตรงนี้ทำให้เขารู้สึกว่าแผ่นฟ้ากับผืนน้ำนั้นไม่ห่างกันเลย ดูเหมือนทั้งสองสิ่ง

จะแนบชิดกันด้วยซ้ำ ทว่า...ในความเป็นจริงแล้วมันไม่มีวันที่จะเป็นไปได้ เหมือนกับ

ชีวิตรักของเขาและพิมพ์ลดา ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อคิดถึงดวงตายาวรี พราวระยับ

เพียงแค่สบตาเธอเท่านั้น หัวใจของเขาเหมือนโดนบีบอย่างแรงจนเจ็บ แต่ในความเจ็บ

นั้นมันมีความสุขที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าความเจ็บปวดนั้นจะมากมาย

ขนาดไหน ขอเพียงมีเธออยู่เคียงข้างเท่านั้น เขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่าง

ด้วยความเต็มใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เวลานี้

เขาไม่รู้ว่าพิมพ์ลดาทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร เธอจะยังคอยเขาหรือเปล่า หรือว่าเธอ

อาจจะมีคนอื่นไปแล้ว ฟ้าครามหลับตาลงเพียงแค่คิดว่าเธออยู่กับคนอื่น มันเป็นสิ่งที่

เขารับไม่ได้ และไม่มีวันที่จะรับได้

“พิม คุณอยู่ที่ไหน” เขาป้องปากตะโกนสุดเสียง อย่างน้อยมันก็ช่วยให้

เขาได้คลายคิดถึงเธอได้บ้าง

เสียงของฟ้าครามที่เปล่งออกไปนั้นดังก้องไปทั่ว ทำให้ออมทองที่กำลัง

เดินเล่นยามเย็นนั้นหยุดเดินทันที คิ้วโก่งได้รูปนั้นขมวดเข้าหากันอย่างขัดใจก่อนจะ

ชะเง้อมองหาต้นเสียง

“คนบ้าที่ไหนมาตะโกนโหวกเวกแถวนี้เนี่ย ป่านนี้แขกคงตกอกตกใจหมดแล้วมั้ง

ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แล้วต้องไปจัดการซะหน่อย” เธอบ่นพึมพำพลางก้าวเดินไปข้าง

หน้าอย่างเร็วๆ

“นี่ คุณ คู๊ณ” เธอป้องปากตะโกนโวยวายก่อนที่จะเห็นคนตะโกนด้วยซ้ำ “มาทำเสียง

ดังอย่างนี้เกรงใจแขกคนอื่นบ้างนะคะ คุณทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อ....” เธออ้าปากค้าง เมื่อ

เห็นแผ่นหลังกว้างคุ้นตาและสิ่งที่ทำให้เธอแทบช็อคเมื่อร่างสูงนั้นหันมาสบตาด้วยแวว

ตานิ่งเฉย

“....” ฟ้าครามมองดวงตากลมโตที่เบิกกว้างแล้วแทบจะหลุดหัวเราะออกมา เขา

ต้องกระแอมแล้วหันไปทางอื่นทันทีเพราะขืนมองต่อไปเขาต้องหลุดหัวเราะออกมา

แน่ๆ

“คุณคราม” ออมทองพึมพำ หัวใจเต้นแรงไม่ใช่เพราะความเขินอายแต่เป็นเพราะความ

ตกใจมากกว่า ใครจะคิดว่าเจ้าของรีสอร์ทมายืนโวยวายเสียงดังอยู่ตรงนี้ล่ะ

“ใช่ ผมเอง คุณมีอะไรหรือเปล่า” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพลางเหลือบตามอง

หญิงสาวที่ยืนตัวลีบอยู่ไม่ห่างเขานัก

“ปะ เปล่าค่ะ ฉันนึกว่ามีใครเป็นอะไร แล้วบางทีเขาอาจต้องการความช่วยเหลือ” เธอ

ตอบแล้วเฉไฉมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตามคมกริบที่มองมาอย่างสงสัย

“งั้นเหรอ แต่ปกติที่ตรงนี้เป็นที่ส่วนตัวของบ้านพักผม ถ้าคุณสังเกตสักนิดคุณจะเห็นว่า

บ้านผมอยู่ตรงนั้น” ฟ้าครามเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิพร้อมกับชี้ไปยังตำแหน่งบ้านพักซึ่ง

หญิงสาวหันมองตามก่อนจะยกมือปิดปากกันมายิ้มแหยๆให้กับเขา

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันได้มอง” เธอเอ่ยเบาๆ พลางก้าวถอยหลัง “งั้นฉันขอตัวนะคะ

เชิญคุณครามตามสบายเถอะค่ะ” เธอบอกก่อนจะร้องวี้ดออกมาด้วยความตกใจ เสียง

ของเธอทำให้ฟ้าครามหันมามองร่างบางที่นั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น เขาก้าวยาวๆ ดึงร่างเธอ

ขึ้นมาพลายส่ายหน้ากับความซุ่มซ่ามของคนตรงหน้า

“มีครั้งไหนที่คุณจะไปจากผมดีๆ บ้างเนี่ย” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

“อูยยยย” หญิงสาวร้องครางด้วยความเจ็บ ใบหน้ารูปไข่นั้นแหยเก เธอเม้มปากแน่น

รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่แดกดันของเขา “ปล่อยค่ะ” เธอบอกห้วนๆ พยายามแกะมือ

ใหญ่นั้นออกจากท่อนแขนตัวเอง

“อยู่เฉยๆ” เขาบอกพร้อมกับปรายตามองไปยังเท้าขวาของหญิงสาวที่ยกค้างไว้ “เป็น

อะไรอีกล่ะทีนี้”

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร“เธอบอกด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น แตะพื้นดินด้วยปลายเท้า

ขวาก่อนจะยกขึ้นเหมือนเดิมเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า


“มานี่” เขาบอกสั้นๆ ก่อนจะช้อนตัวเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดพลางก้าวเท้ายาวๆ อย่าง

เร่งรีบไปยังตัวบ้านโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากคนในอ้อมแขนเลยสักนิดเดียว

“คุณคราม ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร ปล่อยสิ ฉันเดินเองได้” ออมทองบอกเสียงดัง

พร้อมกับพยายามฝืนตัวเอง ทว่า...เขากลับไม่สนใจทำเหมือนว่าเธอเป็นเพียงสิ่งของ

ชิ้นเล็กๆ ที่เขาจะหิ้วไปไหนก็ได้


ฟ้าครามเดินผ่านมู่ลี่เปลือกหอยเข้าไปในตัวบ้านแล้ววางหญิงสาวบนโซฟาด้วยความ

อ่อนโยน ออมทองขยับตัวเองออกห่างจากเขาโดยอัตโนมัติทำให้ชายหนุ่มหรี่ตามอง

หญิงสาวอย่างหมั่นไส้

“เอาล่ะ ทีนี้คุณจะออกฤทธิ์มากขนาดไหนก็ได้ ตามสบาย” ฟ้าครามบอกพร้อมกับมอง

หญิงสาวที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับด้วยท่าทางเอือมระอา

“คุณก็พูดเกินไป ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อยแค่อยากจะบอกว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร

มากเท่านั้นเอง” หญิงสาวโต้กลับมา ดวงตากลมโตฉายแววดื้อรั้น เขาชี้ไปยังข้อเท้าที่

เริ่มบวมพร้อมกับพยักหน้า

“นี่คือสภาพของคนไม่เป็นอะไร” เขาหัวเราะในลำคอ “ผมว่า...ขาคุณต้องมีปัญหาอะไร

สักอย่างแน่ๆ”

“ปัญหาอะไร” เธอย้อนถามพลางมองข้อเท้าตัวเองก่อนจะทำหน้าเหยเกเมื่อเห็นรอย

บวม เขียวช้ำ

“ครั้งแรกคุณสะดุดกองเชือกมาชนผม ครั้งที่สองเมื่อมาถึงเกาะ คุณเดินขึ้นฝั่งโดนคลื่น

ซัดเข้านิดหน่อยก็ล้มอีก” เขาพูดขึ้นมาลอยๆ

“...” ออมทองกัดริมฝีปากล่างจนรู้สึกเจ็บเมื่อคิดถึงครั้งแรกที่เธอได้เจอกับเขา

“ครั้งที่สาม คุณแอบลงน้ำทะเลทั้งๆ ที่ผมสั่งห้าม จนเป็นตะคริวที่ ‘ขา’ “เขาเน้น

เสียงอย่างเจาะจง “และครั้งที่สี่”

“พอแล้ว ฉันไม่อยากฟัง” เธอรีบบอกก่อนที่เขาจะพูดจบ รู้สึกเหมือนโดนจับผิดอย่าง

ไรบอกไม่ถูก “มันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น” เธออุบอิบเบาๆ ค้อนเขาอย่างหมั่นไส้


ฟ้าครามส่ายหน้ากับคำแก้ตัวข้างๆ คูๆ ของหญิงสาว ดวงตาคมเข้มสบตาเธอชั่วขณะ

ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวโดยทิ้งเธอให้นั่งอยู่เพียงลำพัง ออมทองกวาดสายตามองไป

รอบห้องก่อนจะหยุดนิ่งที่ภาพวาดตรงผนัง เธอเอียงคอเล็กน้อยสบตาเรียวที่ชวน

หลงใหลในภาพด้วยแววตาชื่นชม ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ เป็นภาพในจินตนาการ

หรือว่าเป็นคนรัก... เธอเบิกตากว้างเมื่อคิดมาถึงตรงนี้...

“จริงสิ อายุปูนนี้แล้ว ต้องผ่านผู้หญิงมาบ้างล่ะและผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญ” เธอ

พึมพำพร้อมกับพยักหน้าอย่างมั่นใจ “เฮ้อ...มารักอะไรกับนายฟ้าครามน๊า ดุก็ดุ

หัวเราะเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้” เธอเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“คุณว่าใคร” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันมายิ้มแหยๆ

“ปะ เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้พูดอะไรซะหน่อย” เธอแก้ตัวระรัวพลางมองอ่างใบใสที่มีผ้าขน

หนูอยู่ในนั้น

“คุณรู้มั้ย...ถ้าคุณโกหก จมูกคุณจะยาวขึ้น” ฟ้าครามตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย

พร้อมกับนั่งข้างๆ มือใหญ่หยิบผ้าขนหนูมาบิดพอหมาดๆ ก่อนจะแอบอมยิ้มเมื่อเห็น

หญิงสาวจับจมูกตัวเอง

“ฉันเปล่านะ” ดวงตากลมโตสบตาเขาอย่างเก้อๆ ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นไรฟัน ออม

ทองมองใบหน้าคร้ามคมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น “คุณยิ้มเป็นด้วย”

“ผมไม่ใช่หุ่นยนต์นี่ที่จะไม่รู้สึกอะไร” เขาตอบกลับมาพร้อมกับจับขาเรียวขึ้นมาไว้บน

ตักตัวเองแล้วใช้ผ้าขนหนูนั้นประคบข้อเท้าที่บวมอย่างเห็นได้ชัดทันที

“อุ๊ย เย็นจัง” เธอร้องออกมาพร้อมกับกระตุกขาออกโดยอัตโนมัติแต่ฟ้าครามกดไว้

แน่นทำให้เธอไม่สามารถดึงขาตัวเองออกมาได้

“ทนหน่อย ประคบน้ำเย็นและน้ำอุ่นสักครู่ หลังจากพันข้อเท้าแล้วผมจะไปส่งที่ห้อง

พัก” เขาบอกโดยไม่ได้มองหน้าเธอเลยสักนิด เพราะดวงตาคมนั้นพุ่งความสนใจไปที่

ข้อเท้าที่เริ่มมีรอยช้ำและบวมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ขอบคุณค่ะ” เธอพึมพำพลางมองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังประคบข้อเท้าเธออย่างเบามือ

ความอ่อนโยนจากมือใหญ่นั้นทำให้เธอเผลอมองเขาอย่างลืมตัว ดวงตากลมโตไล่มอง

ตั้งแต่เส้นผมหยักศกที่ปรกหน้าผาก จมูกที่โด่งเป็นสันตรง และขนตายาวงอนชนิดที่

เธอต้องอาย ว่าไปแล้ว...ฟ้าครามเป็นผู้ชายที่หล่อมากคนหนึ่ง ถ้าเธอไม่รู้จักเขาและ

ได้เจอกันโดยบังเอิญ เธอคงพึงพอใจกับรูปร่างหน้าตาเขาเป็นแน่

“ดีขึ้นมั้ย” ฟ้าครามเอ่ยถามแล้วเงยหน้าทันทีทำให้เขาได้เห็นแววตาหวานละมุน ริม

ฝีปากได้รูปของเธอนั้นนั้นยิ้มนิดๆ โดยที่ตัวเธอนั้นไม่รู้สึกตัว

“...”

“ออมทอง” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น

“คะ” เธอขานรับอย่างตกใจพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมา

เพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะเงยหน้ากะทันหันและประชิดขนาดนี้

“เป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามเธออีกครั้ง จ้องลึกไปในดวงตากลมโตสีน้ำตาลใสที่มองเขา

อย่างตื่นตระหนก

“เออ..ดีขึ้นแล้วค่ะ” เธอตอบอย่างตะกุกตะกัก


“โอเค เดี๋ยวผมพันข้อเท้าให้” เขาบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบม้วนผ้าพันข้อเท้าแต่

ทว่า...เพียงปลายนิ้วเขาปัดไปโดนทำให้ม้วนผ้านั้นกลิ้งไปตามโต๊ะ ก่อนที่มันจะหล่น

ไปบนพื้นเขาเอี้ยวตัวตามแล้วเอื้อมมือตะครุบไว้อย่างรวดเร็ว

“อุ๊ย” ออมทองอุทานเบาๆ พลางดึงขาตัวเองลงจากตักแข็งแกร่งแล้วขยับตัวหนี

“เออ...คุณคราม ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” เธอพึมพำเหลือบมองท่อนแขนกำยำที่คร่อม

ตัวเธอไว้ โดยข้างหนึ่งอยู่ตรงพนักโซฟาและอีกข้างอยู่บนโต๊ะ ทำให้เธออยู่ตรงกลาง

ไม่สามารถขยับตัวหนีไปไหนได้ เธอช้อนสายตามองเขาอย่างกลัวๆ ซึ่งตัวเธอก็ไม่รู้

เหมือนกันว่าเธอ ‘กลัว’ อะไร

“....” ฟ้าครามหลุบตามองดวงหน้าเรียวที่เงยมองเขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใบ

หน้าขาวเนียนแดงระเรื่อไปทั่วทั้งใบหน้า ริมฝีปากอิ่มที่เคยโต้เถียงเขาอย่างไม่ยอมแพ้

นั้นสั่นจนเจ้าตัวต้องกัดริมฝีปากไว้

“คะ...คุณครามคะ คือ...” เธออึกอัก กระพริบตาถี่ๆ สบตาคมเข้มชั่วขณะก่อนจะรีบละ

สายตามองริมฝีปากสีเข้มแทนดวงตาคมที่จ้องมองมาจนเธอรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง

“ออมทอง” ชายหนุ่มเรียกชื่อเธอเบาๆ ทำให้เธอมองเขาอีกครั้งก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อ

รู้สึกถึงใบหน้าคร้ามนั้นยื่นเข้ามาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว มือเล็ก

บางที่วางบนตักนั้นกำแน่น

ฟ้าครามแตะกลีบปากอิ่มนั้นด้วยริมฝีปากตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะชะงัก เขาดึงสติ

ตัวเองกลับมาทันทีพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชายหนุ่มกำหมัดแน่นเพื่อระงับ

ความต้องการทางกายที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง ริมฝีปากได้รูปนั้นเม้มแน่นเขา

หรี่ตามองหญิงสาวที่หลับตาปี๋ เงยหน้าเหมือนรออะไรบางอย่าง...เขาส่ายหน้าพร้อม

กับถอนหายใจแรงๆ เกือบไปแล้ว!!

“เงยหน้ารออะไร” เขาถามดังๆ แต่ดูเหมือนหญิงสาวยังไม่ได้สติเพราะเธอยังนั่งเงย

หน้าอยู่อย่างนั้น

“คุณออมทอง” เขาเรียกเธอเสียงเข้ม ทำให้เธอลืมตาทันทีก่อนจะหันไปมองรอบๆ

ด้วยความงุนงง

“เออ...” เธอเอียงคอเล็กน้อย

“ผมขอเวลาสามนาที แล้วจะพาคุณไปส่งที่บ้านพัก” เขาบอกเร็วๆ ก่อนจะเดินเข้าไป

ข้างในโดยทิ้งเธอให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและยังงวยงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ออมทองมองตามแผ่นหลังกว้างพร้อมแตะริมฝีปากตัวเองด้วยปลายนิ้ว สัมผัสเมื่อสัก

ครู่มันคืออะไร...หรือว่าเธอฝันไป...ใช่ เธอต้องฝันกลางวันแน่ๆ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง

ป่านนี้เธอคงโดนฟ้าครามโยนออกจากตัวบ้านเป็นแน่แท้...

****************************

มิตรร๊าก...แควนคลับ...

หุ หุ หุ มาเพิ่มอีกตอนแว๊ววว ขอให้หนุกหนานกับการอ่านน๊า ขอให้มีความสุขกับ

วันแม่ที่จะมาถึง กลับไปกอดเอวอวบๆ ของแม่ดีก่า ...



แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ส.ค. 2554, 11:55:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ส.ค. 2554, 11:55:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 2436





<< ตอน 7   ตอน 9 >>
XaWarZd 11 ส.ค. 2554, 12:30:07 น.
อะนะ โดนโยนออกไปเลยเหรอ ไม่หรอกม้างงงง


รัชต์ 11 ส.ค. 2554, 12:49:43 น.
เกือบไปแล้วนายคราม เกือบเสียตัวให้ยัยออมแล้ว หุ หุ


anOO 11 ส.ค. 2554, 13:56:24 น.
ยัยออมเงยหน้าค้างเลยเหรอ 5555


ตุ๊งแช่ 11 ส.ค. 2554, 14:26:11 น.
เริ่มเห็นด้วยกับฟ้าคราม ขาเป็นอะไร 55
ถามได้ ก็ขาอ่อนแรงเวลาเห็นนายไง 55


แพม 11 ส.ค. 2554, 16:38:08 น.
กอดแม่เสร็จแล้วอย่าลืมอัพนิยายด้วยน้า นานแล้ว


ปูจ้า 11 ส.ค. 2554, 18:22:16 น.
ฮ่ะๆๆๆ มาแล้วมาเรื่อยๆนะคะอย่าหายไปนานมีคนคิดถึงค่ะ
เกือบไปแล้วนะออมทอง ถ้านานกว่านี้ได้เป็นตะคริวที่คอแน่ๆ
(พี่เปิ้ลอย่าลืมปลาทูปูนะคะ )


ปูสีน้ำเงิน 11 ส.ค. 2554, 19:39:35 น.
ขอให้มีความสุขมากกับคุณแม่เช่นกันค่ะ


whitelotus 11 ส.ค. 2554, 20:39:57 น.
นางเอกเปิ่นดี+มีปัญหาที่ขา อิอิ


Zephyr 11 ส.ค. 2554, 23:46:29 น.
ฮึ้ย หนูออมเรียกร้องความสนใจป่ะเนี่ย ต้องมาเป็นไรต่อหน้าครามตลอดอ่ะ ขาเธอไม่มีกระดูกแน่เลย ^^


ปอยอะนะ 13 ส.ค. 2554, 12:12:38 น.
โถๆยัยออม จะสงสารดีป่าวเนี่ย


Natsuko 13 ส.ค. 2554, 15:54:47 น.
คุณไม้จ๋า..คิดถึงจัง ไม่ไวมาทักทายที่เวบนี้ตั้งนานแน่ะ ...แต่นานขนาดนี้แล้ง ไหงความสัมพันธ์ของคู่นี้ยังไม่ไกลเกินเกาะครามเลยล่ะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account