มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 3



แต่พอทั้งคู่กำลังจะก้าวออกจากบ้าน ร่างของนางอัมพรก็โผล่เข้ามา ด้วยอาการครบสามสิบสองประการ ไม่มีอะไรบุบสลายแต่อย่างใด วาวพลอยจึงโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง

“แม่...แม่ไปไหนมาคะ ทำไมพลอยโทร.หาไม่ติดเลย แล้ว... ” แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันพูดจบนางอัมพรก็ดึงมือเธอเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว

“จะรีบไปไหนเล่าป้าพร ท่าทางแปลกๆ ” โดยมีโก๋รีบวิ่งตาม

“ปิดประตูให้สนิทเจ้าโก๋” นางอัมพรสั่งหลานชาย หน้าตาที่เคร่งเครียดท่าทางติดลุกลี้ลุกลนของผู้เป็นมารดา ทำให้วาวพลอยกับโก๋หันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจเป็นล้นพ้น

“เกิดอะไรขึ้นคะแม่ อย่าบอกนะคะว่าพวกทวงหนี้มันกำลังตามแม่มา แล้วแม่ไปไหนมาคะ” หญิงสาวถามเสียงเบาราวกับกระซิบ

แต่นางอัมพรรั้งร่างของเธอเข้าไปในห้องนอน แล้วจึงจับไหล่สองข้างของลูกสาวคนเล็ก ให้หันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ

“ลูกพลอย ฟังแม่ให้ดีนะ จัดการเก็บเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นของหนูให้เร็วที่สุด เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่คล่องตัวที่สุด เราจะออกเดินทางกัน” ก่อนเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง

“แต่... แม่คะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ดวงตาของวาวพลอยเต็มไปด้วยแววตื่นตระหนกระคนงงงัน

“นั่นสิป้า ผมงงไปหมดแล้วนะเนี่ย” โก๋เองก็โพล่งขึ้นอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน นางอัมพรหันมาทางหลานชาย

“เอ็งก็เหมือนกันเจ้าโก๋ ไปเก็บข้าวของที่จำเป็นให้เร็วที่สุด เราไม่มีเวลาแล้ว อย่าถามอะไรอีก” ว่าแล้วก็รีบจัดการลากกระเป๋าใบเล็กออกมาจากตู้

วาวพลอยกับโก๋เห็นดังนั้นจึงรีบทำตาม มือบางสั่นระริกด้วยความตื่นตระหนกระคนรีบเร่ง

“เอาไปเฉพาะของที่จำเป็นที่สุด สร้อยและจี้ของลูกให้ใส่ติดตัวเอาไว้อย่าให้ใครเห็น มันสำคัญมาก อย่าทำหาย จงรักษามันไว้ให้ดีเท่าชีวิต อย่าให้ใครเอาไปได้” นางอัมพรย้ำเรื่องสร้อยอีกครั้ง

ขณะที่ต่างเร่งเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นชุดทะมัดทะแมงพร้อมเดินทาง พอดีกับเสียงบางอย่างดังมาจากหน้าบ้าน เหมือนประตูกำลังถูกทุบ

“แย่แล้วๆ ป้า เจ๊ มีคนกำลังบุกรุกบ้านเรา” โก๋วิ่งเข้ามาพร้อมเป้ใบเล็ก พลางร้องออกมาด้วยเสียงที่พยายามเบาที่สุด

นางอัมพรมีท่าทางหวั่นวิตกหนักกว่าเดิม ก่อนจะตัดสินใจคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นบ่า วาวพลอยรีบทำตามโดยไม่ต้องรอให้แม่สั่ง

“ตามมาทางนี้” นางอัมพรกระซิบบอก

ก่อนจะรีบวิ่งนำหน้ามาทางด้านหลังสุดของบ้านที่เป็นห้องครัว และกั้นด้วยไม้เป็นซี่ๆ ติดกับกำแพงสูงที่ขวางกั้นอยู่ แล้วอ้อมมายังแนวกำแพงสูง ก่อนจะบอกให้โก๋ช่วยยกตัววาวพลอยปีนขึ้นกำแพงเพื่อลงไปยังอีกฟาก ตามมาด้วยนางอัมพร และโก๋เป็นคนสุดท้าย

จนกระทั่งทั้งสามกระโดดลงมาสู่ป่าหญ้าสูง ซึ่งเป็นที่ดินรกร้างอีกฟากของกำแพง นางอัมพรจึงออกวิ่งนำไป โดยมีวาวพลอยกับโก๋วิ่งตามอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาเคร่งเครียดนั้นไม่มีใครพูดอะไรเลย เพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงซอยถัดไป ทั้งสามวิ่งตรงไปยังถนนใหญ่

ที่นั่นมีรถแท็กซี่คันหนึ่งติดเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว นางอัมพรไม่รีรอรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านหน้า วาวพลอยกับโก๋จึงรีบขึ้นรถบ้าง ทั้งสองเพ่งมองคนขับก็พบว่าเป็นลุงจันทร์ หนึ่งในมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอยนั่นเอง

“ลุงเปลี่ยนมาขับแท็กซี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย” โก๋ชะโงกหน้าไปถามอย่างแปลกใจ

“เมื่อเช้านี้เองว่ะ ไอ้โก๋” ลุงจันทร์ตอบขณะพารถแท็กซี่คันนั้นพุ่งทะยานออกไปราวกับพายุบุแคม

นางอัมพรหันไปมองข้างหลังอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ไม่มีใครถามอะไรเพราะรู้ว่านางอัมพรกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก แม้แต่ลุงจันทร์เองก็ต้องการสมาธิในการขับรถเช่นกัน จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางคือสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้

“ขอบคุณมากนะพี่จันทร์ ถ้าไม่มีพี่พวกฉันก็ไม่รู้จะพึ่งใคร” นางอัมพรพูดเมื่อรถแท็กซี่คันที่โดยสารมาจอดแน่นิ่งอยู่หน้าอาคารผู้โดยสารแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกน่าแม่พร พี่ดีใจที่ได้ช่วยแม่พรกับลูกๆ อย่าคิดมาก ไปแล้วก็อย่าลืมพวกพี่ กลับมาเยี่ยมพวกเราบ้างนะ” ลุงจันทร์ว่า

ท่าทางยังอาลัยอาวรณ์ม่ายสาวที่หมายตาไว้อย่างไม่ปิดบัง แต่ตอนนี้นางอัมพรมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญกว่าจึงไม่ใส่ใจท่าทีนั้น

“จ้ะพี่ บุญคุณของพี่ ฉันจะไม่ลืมเลย เด็กๆ ขอบคุณลุงจันทร์เสียสิ” วาวพลอยกับโก๋จึงรีบไหว้ขอบคุณ ก่อนที่ทั้งสามจะพากันลงจากรถ

“แม่คะ เราโทร.หาพี่พราวเถอะค่ะ” วาวพลอยพูด ขณะสาวเท้าตามผู้เป็นมารดาเข้าไปยังตัวอาคารผู้โดยสาร

“แม่บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง เอาไว้แม่จะจัดการเอง ตอนนี้เราต้องไปจากที่นี่ก่อน แล้วก็อย่าพูดอะไรมาก” นางอัมพรดุ สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างไม่ไว้วางใจ ก่อนจะตรงไปยังเค้าเตอร์ขายตั๋วรถทัวร์ที่มุ่งสู่ภาคใต้

ภายในรถปรับอากาศที่กำลังแล่นไปสู่จุดหมาย ท่ามกลางความเย็นเฉียบจากแอร์ ทั้งนางอัมพร วาวพลอย โก๋ ต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย แม้บนรถจะมีคนไม่มาก แต่ทั้งสามต่างก็มองสำรวจตรวจตรา แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจมองมา หรือมีทีท่าว่ากำลังตามล่าพวกตนอยู่ก็ตาม

จนกระทั่งถึงที่หมายในเช้าของวันต่อมา ซึ่งเป็นตัวเมืองของจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้นั่นเอง

“เราต้องหาที่พักเอาแรงก่อน คืนนี้จะต้องเดินทางต่อกันอีก” นางอัมพรเอ่ย และเดินนำไปยังเส้นทางลดเลี้ยว ค่อนข้างปลอดผู้คน จนกระทั่งถึงวัดแห่งหนึ่ง

“เราพักโรงแรมไม่ได้ เราจะมาขออาศัยพักที่นี่แทน เข้าไปกันเถอะ” วาวพลอยกับโก๋ก้าวตามร่างเล็กของนางอัมพรเข้าไปในวัด

หลังจากเข้าพบเจ้าอาวาสในวัดเล็กๆ แห่งนี้เสร็จ ก็ได้ที่พักเป็นศาลาไม้ริมน้ำอยู่ด้านหลังของวัด และข้าวก้นบาตรที่พระเจ้าอาวาสเมตตาให้เด็กวัดนำมาให้

*-*-*-*-*-*

“ทีนี้แม่บอกพวกเราได้หรือยังคะ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” วาวพลอยถามขึ้นทันที หลังจากนั่งพักทานอาหารกันเสร็จ

“นั่นสิป้า ทำไมพวกทวงหนี้มันถึงโหดได้ขนาดนี้ ป้าเป็นหนี้มันมาก ถึงขนาดต้องฆ่าล้างโคตรกันเลยเหรอ” โก๋เองก็ข้องใจเหลือคณากับสิ่งที่กำลังเผชิญ

นางอัมพรมองลูกสาวคนเล็กนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งราวกับกำลังรวบรวมความกล้าที่จะพูดบางสิ่งออกมา เพราะนางตระหนักดีว่า ‘บางสิ่ง’ ที่ว่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของวาวพลอยไปตลอดกาล

“มันไม่เกี่ยวกับหนี้หรอก ไม่มีใครเป็นหนี้หรือทวงหนี้อะไรทั้งนั้น แต่มันเกี่ยวกับลูกต่างหาก วาวพลอย” แล้วจึงเอ่ยออกมาในที่สุด

“อะไรนะคะแม่! เกี่ยวกับพลอยอย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวมองมารดาอย่างไม่แน่ใจในคำตอบนั้น

“ใช่จ้ะ มันเกี่ยวกับหนูและจี้อันนั้น” นางอัมพรรับคำเบาๆ พลางมองไปยังลำคอของวาวพลอย และหญิงสาวก็รีบล้วงจี้เจ้าปัญหานั้นออกมาทันที

“จี้อันนี้ หมายความว่ายังไงคะแม่” เธอเอ่ยถามพลางมองสิ่งที่อยู่ในมือ

มันเป็นจี้ที่ทำมาจากทองคำมีรูปร่างคล้ายดาวห้าแฉก ไม่มีลวดลาย ตรงกลางฝังอัญมณีสีขาวใสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสองเซนติเมตรครึ่ง เจียระไนเป็นเหลี่ยมดูแพรวพราวเปล่งประกายสวยงาม

มันห้อยกับสร้อยคอทองคำขาวเส้นใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักของมันได้เป็นอย่างดี เป็นสร้อยและจี้ที่นางอัมพรเก็บไว้มานาน ก่อนจะมอบให้วาวพลอยเก็บไว้ด้วยตัวเองหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย

“ความจริงจี้อันนี้มันเป็นเพชรยอดมงกุฎราชา เมืองริตถาวดี เป็นของสำคัญสำหรับตำแหน่งรัชทายาทแห่งริตถาวดี” นางอัมพรพูดต่อ

“ริตถาวดี” ทั้งวาวพลอยและโก๋รำพึงขึ้นพร้อมกัน

หญิงสาวนั้นพอได้ยินผ่านหูมาบ้าง เหมือนๆ อีกหลายประเทศ หลายเมืองที่มีขนาดเล็ก แถมยังไม่ได้เปิดตัวแก่ชาวโลกโดยทั่วไปมากนัก เนื่องจากความเป็นไปทางด้านการเมือง เธอจึงไม่ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ๊พลอยอะป้า หรือพวกนั้นเป็นคนของเมืองที่ว่า และจะตามมาเอาคืน ทำไมเราไม่ให้มันไปซะก็สิ้นเรื่อง” โก๋ว่าไปตามความคิดของตัวเอง

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ สิ่งที่มันต้องการมากพอๆ กันกับเพชรยอดมงกุฎก็คือการสังหารรัชทายาทของริตถาวดี ซึ่งก็คือหนูยังไงล่ะลูก”



“อะไรนะคะ!! ” คราวนี้วาวพลอยถึงกับเบิกตาค้าง และนิ่งอึ้งไปหลายวินาที ในใจอื้ออึงไปด้วยคำถามมากมายจนเธอสับสน









**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=
YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3

M6NjoiNzEyOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%

B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%

81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%

E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=

9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 มิ.ย. 2559, 20:45:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 มิ.ย. 2559, 20:45:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 810





<< บทที่ 2   บทที่ 4 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account