แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 9 ...ละครที่เป็นจริง

พระนางคู่ขวัญเดินทางมาถึงคลินิกรักษาสัตว์ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเสียเวลาไปกับการเลือกบ้านหมา เสื้อผ้าหมา และอาหารหมามากพอสมควร พระเอกหนุ่มเบิกบานใจเป็นพิเศษที่เห็นอัจฉรามีความสุขไปกับเขาด้วย

ก้าวแรกที่ย่างเข้าไปในคลินิก หมอใหญ่ยิ้มให้เขาอย่างเป็นกันเอง และเขาก็ยิ้มตอบเช่นกัน หากไม่ติดอยู่ที่ว่าได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักแว่วมาไม่ห่างนัก

“นั่นไงแก พี่เพลิงน่ะ ฉันบอกพวกแกแล้วว่าวันนี้เขาจะมาหาลุงหมอ” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของเด็กสาวเมื่อวานนี้ดังขึ้น ทินกรหันไปมองกลุ่มเด็กผู้หญิงที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ภายในคลินิกด้วยสายตาเรียบเฉย

เพื่อนของเจ้าหล่อนมองมาด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากเด็กสาวคนแรกนัก เธอหันไปตีแขนเพื่อนรุนแรง ก่อนบอก “ตายแล้วแก เขาหล่อกว่าในทีวีอีก เข้าไปขอลายเซ็นได้ไหม”

พระเอกหนุ่มไม่ได้สนใจรอฟังคำตอบของเด็กสาว เขาเดินเข้าไปหาหมอใหญ่ที่อยู่ด้านในสุดของตัวอาคาร แต่ก็ยังได้ยินที่เด็กกลุ่มนั้นพูด

“อย่าเลย เขาหยิ่งมาก”

ทินกรไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำติฉินนินทาเหล่านั้น กลับเป็นอัจฉราเสียอีกที่วิตกกังวลและอยากทำหน้าที่นักแสดงที่ดีแทนทินกร หญิงสาวก้าวเข้าไปหาเด็กกลุ่มที่กำลังสนทนากันเรื่องความหยิ่งของชายหนุ่ม

“เอ่อ ขอโทษนะจ๊ะ พวกน้องรู้จักพี่ไหม” ทันทีได้เห็นใบหน้าสวยสง่าของอัจฉราชัดๆ เด็กสาวทั้งหลายก็เบิกตาโพลง ตื่นเต้นตกใจจนไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกออกมาอย่างไร มันไม่แปลกหรอกที่จะเห็นอัจฉรามาพร้อมกับทินกร แต่ที่น่าแปลกใจคือนักแสดงสาวดาวรุ่งเดินเข้าไปทักพวกเธอก่อนต่างหาก

“ระ...ระ...รู้จักค่ะ พี่ฟ้า”

“พี่ไม่รู้ว่าพี่เพลิงเขาไปทำอะไรให้พวกน้องรู้สึกแย่หรือเปล่า แต่พี่ขอโทษแทนเขาด้วยนะจ๊ะ” อัจฉราเอ่ยเสียงอ่อนหวาน หากคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นเพศตรงข้าม คงต้องอ่อนไหวกับน้ำเสียงและท่าทีของนางเอกสาวคนนี้เป็นแน่

“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ พอดีเมื่อคืนพี่เพลิงเขาอาจจะแค่หงุดหงิดไปหน่อย หนูเห็นว่าเขาตัวเปียกๆ อาจจะโดนฝนแล้วอารมณ์ไม่ดีมั้งคะ หนูไม่ถือสาพี่เขาหรอกค่ะ”

คำตอบของเด็กสาวทำเอาทินกรฉุนกึกขึ้นมาเฉยๆ พูดมาได้ว่าไม่ถือสา เป็นเด็กเป็นเล็ก กล้ามาใช้คำนี้กับผู้ใหญ่ แต่เขาเองก็พยายามสะกดอารมณ์ให้ ‘ไม่ถือสา’ เด็กพวกนั้นเช่นกัน

“หมอครับ ผมเอาเงินมาจ่ายครับ” เขาควักแบงค์ห้าร้อยยื่นให้หมอใหญ่ เมื่อเห็นหมอกำลังหาเงินทอน เขาเลยบอก “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องทอน ถือซะว่าผมมีทิปให้”

ทินกรตอบอย่างยินดี แต่สายตาของหมอที่มองมาราวกับเขาพูดอะไรผิดอย่างมหันต์

“ผมรู้ครับว่าคุณเป็นพระเอกดัง และคุณก็รวย แต่ผมก็อยากให้คุณรู้เหมือนกันนะ ผมเป็นหมอ มีหน้าที่ช่วยชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่คนพามาหา แต่ผมไม่ใช่เด็กเสิร์ฟ อย่าดูถูกกันแบบนี้เลย”

“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะครับ ก็หมอช่วยหมาผม และหมอก็ให้ผมมาจ่ายเงินช้าได้ ก็เลยให้เป็นการตอบแทนเท่านั้นเองครับ” ชายหนุ่มอธิบายรัวเร็ว สีหน้าเคร่งเครียดทำเอาหมอใหญ่หลุดขำออกมา สายตามองเขาเป็นเด็กคนหนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรเรียนรู้วิธีการพูดให้ดีกว่านี้นะครับ ผมน่ะไม่ถือหรอก แต่คนอื่นน่ะสิ เขาจะมองคุณไม่ดีนะ”

พระเอกหนุ่มยักไหล่ “ผมไม่สนหรอกครับ ผมพูดดีกับหมอ ก็เพราะหมอช่วยผม แต่กับคนอื่น เขาจะคิดยังไงก็ช่างเขา ขอบคุณอีกรอบนะครับ ไว้เจ้าตูบเป็นอะไร เดี๋ยวผมจะพามาใหม่”

“ครับ แต่ว่าทางที่ดีก็อย่าให้มันเป็นอะไรเลยดีกว่า ฮ่าๆ” ทินกรยิ้มให้หมอใหญ่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินออกมาหาอัจฉราที่ยืนอยู่ตรงประตูคุยกับเด็กสาวเหล่านั้นราวกับเป็นคนสนิทกันไปเสียแล้ว นางเอกสาวหันมาเห็นเขาก็รีบบอกลาเด็กพวกนั้นและเดินออกมาพร้อมกับเขา

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไร ที่ทำให้ชายหนุ่มคิดว่าหญิงสาวข้างกายเขามีท่าทีเปลี่ยนไปจากตอนแรก ดวงหน้าหวานนั้นครุ่นคิดอย่างหนัก และหันมามองหน้าเขาเป็นระยะ แต่ก็ไม่พูดอะไรสักคำ

“ฟ้าเป็นอะไรเปล่าเนี่ย พี่ว่าฟ้าแปลกๆ นะ” เขาหันไปถามอย่างห่วงใย คำตอบที่ได้คือคำถามที่หญิงสาวย้อนกลับมาแทน
“เด็กกลุ่มนั้นน่ะค่ะ เขาบอกว่าเมื่อคืนพี่เพลิงมากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นใครคะ” ทินกรนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าอัจฉรา เขาจึงเอ่ยต่อ “พี่ไม่ได้ว่าฟ้านะ พี่หมายถึงเด็กพวกนั้นน่ะ แล้วเขาบอกด้วยหรือเปล่าล่ะว่าผู้หญิงคนนั้นน่ะมาทะเลาะกับพี่อยู่หน้าคลินิก”

หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ “อย่าเปลี่ยนเรื่องสิคะพี่เพลิง เธอเป็นใครกันแน่คะ”

“ผู้หญิงเสียสติที่ไหนไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็มาชวนทะเลาะ แถมยังเขวี้ยงกระเป๋าสตางค์พี่ทิ้งไปด้วย ตอนนี้พี่ยังหาไม่เจอเลย ดีนะที่มีบัตรเอทีเอ็มหลายใบ ไม่งั้นก็ไม่รู้จะใช้อะไรเหมือนกัน แต่พวกบัตรต่างๆ คงต้องไปทำใหม่ พรุ่งนี้พี่คงไปกองช้านิดหน่อยนะ วันนี้ไม่อยากไปสายเห็นว่าเปิดกองวันแรก ฝากฟ้าบอกคุณปารวัตรด้วยนะ”

อัจฉราไม่ได้ตอบอะไรออกไปอีก เพราะแค่ฟังคำพูดยาวเหยียดจากชายหนุ่มที่พยายามลากเปลี่ยนเรื่อง เธอก็รู้แล้วว่าเขาไม่อยากพูดถึง เพียงแต่สายตายังคงจับจ้องที่แผ่นหลังของทินกร สัญชาติญาณของผู้หญิงกระมังที่บอกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างอยู่นอกเหนือจากที่เขาเล่ามา





หลังจากไปส่งอัจฉราที่คอนโด เขาก็กลับมายังห้องตัวเอง พลางคิดโทษเจ้าลูกลิงตัวแสบที่มาเป็นปมให้อัจฉราขุ่นเคืองใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาก้ำกรายให้เจ้าหล่อนต้องเอ่ยถามเลยด้วยซ้ำ ทุกย่างก้าวที่ใกล้ห้องของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจได้แต่ภาวนาให้ยายเด็กนั่นไปให้พ้นจากเขาเสียที

...หวังว่ากลับไปจะไม่เจอ

แต่คำขอของเขาไม่เป็นผล เมื่อเปิดประตูเข้าไป เสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวในห้องก็เอ่ยทักเขาแทบจะทันทีที่เห็น บวกกับเสียงเห่าทักทายของเจ้าตูบที่นอนอยู่ในตักแม่ตัวดีนั่นอีก

“อ้าว กลับมาแล้วเหรอคะ คุณพระเอกคนดัง” ธรายิ้มร่าจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวย “ฉันไม่รู้ว่าคุณทานข้าวมาหรือยัง แต่ฉันถือวิสาสะใช้ครัวทำอาหารไว้เผื่อแล้วนะคะ และฉันก็ให้อาหารเจ้าตูบเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ เป็นไง...ฉันทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องเลยใช่ไหมล่ะ”

ทินกรหรี่ตามองตัวปัญหา นี่หล่อนไม่ได้สำเหนียกเลยสักนิดว่าไม่ใช่ห้องของตัวเอง อีกอย่างจอมโวยวายเมื่อคืนมันหายไปไหนแล้วล่ะ เหลือไว้เพียงเด็กสาวแสนซน ไร้ซึ่งเรื่องเครียดคนนี้

“นี่คุณบังอาจ...” เขายังพูดไม่ทันจบ ธราก็เอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน

“บังอาจอะไร ฉันทำกับข้าวไว้เผื่อ แถมยังเลี้ยงหมาให้อีก ควรจะขอบคุณฉันมากกว่านะ” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ไม่สนสายตาเคร่งเครียดที่จ้องมองมา

“หายดีแล้วนี่ รีบๆ ออกไปซะสิ” ดวงตาใสฉงน ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอีกระลอก

“หายอะไร ฉันยังปวดหัวตัวร้อนอยู่เลยเนี่ย” พูดไปก็ทำหน้าตลกไปพลาง ก่อนจะลุกเดินมาหาทินกร อะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ชายหนุ่มถอยหลังอัตโนมัติ “เนี่ย ไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ”

หญิงสาวจับมือเขามาอังที่หน้าผาก ทินกรสะบัดมือออกแทบจะทันทีที่ได้สัมผัสหน้าผากหญิงสาว เขาเดินเบี่ยงหลบไปอีกทาง

“ทำบ้าอะไรของคุณ! เป็นผู้หญิงประสาอะไร โดนตัวผู้ชายง่ายๆ อย่างนี้”

“ไม่เห็นแปลก ก็ไม่ได้คิดไรซะหน่อย แค่จะให้รู้ว่าตัวร้อนจริงๆ คุณต่างหากที่แปลก เล่นละครมาตั้งกี่เรื่อง กอดจูบกับผู้หญิงมาแล้วกี่คน แค่นี้มาทำเป็นสะบัดสะบิ้งไปได้” หญิงสาวเอ่ยล้อ เหมือนเห็นเป็นเรื่องตลกหนักหนา

“นั่นมันส่วนของหน้าที่การงาน ถ้าเลี่ยงได้ผมก็ไม่ได้อยากจะทำหรอก”

“ทำไมล่ะ? หรือว่า....” หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ช้าๆ “คุณเป็นเกย์!”

ทินกรผลักธราออกไปห่างๆ ทำหน้าเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าเป็นสิ่งที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าผี

“ประสาท! คุณไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ผมว่าคุณน่ะออกไปจากห้องผมได้ละ ป่านนี้พ่อแม่คงเป็นห่วงแล้ว” ชายหนุ่มเดินอ้อมไปเปิดประตู พยักหน้าไปทางประตูให้หญิงสาวออกไป ภาพเมื่อคืนโผล่ขึ้นมาในสมองของทินกร สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาว ว่าจะหยิบข้าวของอะไรในห้องเขวี้ยงมาเหมือนเมื่อคืนอีกหรือไม่

“ไม่มีใครเป็นห่วงฉันหรอก” ดวงตาธราเศร้าลงเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้รวดเร็ว “ฉันไม่มีที่อยู่ ขอฉันอยู่ด้วยไม่ได้เหรอ”

“จะบ้าหรือไง ผมเป็นผู้ชายนะคุณ อีกอย่างคุณเป็นใครก็ไม่รู้ ถามจริงสติดีหรือเปล่า”

“ฉันชื่อธรา เลิศประจักษ์ ชื่อเล่นชื่อชล อายุ 23 ปี ทำอาชีพนักเขียนอยู่ที่สำนักพิมพ์อันนารักษ์ เรียนจบบริหารมาค่ะ นี่ไง คุณก็รู้จักฉันแล้ว ให้ฉันอยู่ด้วยเถอะนะ นะๆ”

“อายุ 23? ไม่เชื่ออ่ะ หน้าอย่างนี้ ยังเรียนไม่จบแน่นอน ไหนเอาบัตรประชาชนมาดูหน่อย” ชายหนุ่มแบมือ ยักคิ้วทวง เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงยืนนิ่ง

“ฉัน....ไม่มีอ่ะ” ธราตอบเสียงเอื่อย สายตาขอความเห็นใจเต็มที่

“ไม่มี? ได้ไง นี่เป็นต่างด้าวป่ะเนี่ย”

“จะบ้าหรือไงคุณ ดูหน้าฉันด้วย สวยๆ อย่างนี้ ต้องคนไทยอยู่แล้ว” หญิงสาวส่งเสียงแหวใส่ ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ พลางเดินวนรอบตัวเด็กเจ้าปัญหา

“สวย? ตรงไหนที่คุณบอกว่าสวย ผอมแห้งขี้ก้าง ผมก็แห้งฟู นมก็ไม่มี” ทินกรเชยคางหญิงสาวเบี่ยงไปมาอยู่สองสามรอบ ก่อนเอ่ยต่อ “หน้าก็ขี้เหร่ ฟันก็เหยิน จมูกก็บาน ตัวก็ดำ ตรงไหนเหรอที่สวย”

หญิงสาวผลักเขาออกห่าง หน้ามุ่ยอย่างคนอารมณ์เสีย ยิ่งเห็นสายตาของพระเอกดังที่มองมา ก็ยิ่งหงุดหงิด เหตุผลทุกอย่างที่เคยสะสมมา พังทลายลงไปซะหมดเมื่อได้พบคนนิสัยเสียเช่นเขา

“ฉันมาจากอนาคต ตอนที่ฉันย้อนเวลามา ฉันไม่รู้ว่าข้าวของมันหายไปไหนหมด ฉันเหลือแต่ตัว ไม่มีเพื่อนที่นี่ ไม่มีที่อยู่ ไม่มีเงินสักบาทเลย” หญิงสาวพูดย้ำอีกครั้ง ทินกรปล่อยขำดังลั่น ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อถือ

“ผมว่าคุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

“ฉันพูดจริงๆ นะ ขอฉันอยู่ด้วยเถอะนะ คุณจะให้ฉันทำอะไร ฉันยอมหมดเลย และฉันก็จะทำให้คุณกลับมาเป็นดวงตะวันจรัสแสงเหมือนเดิมด้วย”

“ตอนนี้ผมก็จรัสแสงอยู่แล้ว คุณไม่ต้องช่วยหรอก ออกไปได้แล้ว” เขาเปิดประตูเป็นรอบที่สอง สำหรับการเชิญหญิงสาวออกไปจากห้อง แต่เจ้าหล่อนก็ยังคงยืนเฉย

“เดี๋ยวคุณก็ดับ จำที่ฉันบอกเมื่อคืนไม่ได้เหรอ” คำพูดนั้นจุดประกายให้ทินกรอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครา ดวงตานั้นแข็งกร้าวจนธราสังเกตเห็น

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระ ผม-บอก-ให้-คุณ-ออก-ไป” เขาเน้นย้ำทีละคำ ราวกับการสะกดอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงช้าๆ

“ฉันขอร้องละนะคุณทินกร ให้ฉันอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ ฉันไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ” พระเอกหนุ่มหรี่ตามองเธออย่างครุ่นคิด “หรือให้ฉันอยู่ห้องข้างๆ นี่ก็ได้นะ คุณช่วยเช่าให้ฉันหน่อยนะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนคุณให้ครบทุกบาททุกสตางค์เลย”

“ไม่! ผมเป็นถึงดาราดัง จะมาเช่าคอนโดให้คนไร้ค่าอย่างคุณอยู่เพื่ออะไร สิ่งที่คุณจะให้ มันไม่คุ้มกับที่ผมจะเสียชื่อเสียงหรอก”

“คุณอยากได้อะไร บอกฉันมาได้เลย ฉันยอมคุณทุกอย่าง นะคะๆ” ธราหยอดเสียงหวานมากกว่าทุกทีที่คุยกัน ความประสงค์ในใจเธอนั้น หากทินกรไม่ยอมให้เธออยู่ด้วย และไม่เช่าห้องให้เธออยู่ เธอก็จะนอนมันอยู่หน้าห้องนี่ล่ะ ให้รำคาญกันไปข้างหนึ่ง

“ถ้าผมอยากได้....” เขาเว้นไว้ครู่หนึ่ง แววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นเข้าใกล้เธอมากขึ้น “ตัวคุณล่ะ”

...ใช้ไม้นี้ ยังไงแม่นี่ก็ต้องหนีเตลิด

หญิงสาวยิ้มกริ่ม แววตาของผู้ชนะปรากฏฉายชัดในดวงหน้าหวาน “ก็ถ้าคุณไม่ยอมให้ฉันอยู่ ฉันจะตะโกนให้ดังลั่นคอนโดเลยว่าคุณจะปล้ำฉัน! ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าสงสารอย่างฉัน กับดาราดังมีแต่ข่าวฉาวอย่างคุณ คิดว่าทุกคนจะเชื่อใครกันล่ะ ฉันอยู่ในห้องคุณด้วยนะ ถ้าฉันฉีกเสื้อผ้า ทึ้งหัวตัวเองสักนิดล่ะ.....คุณก็แพ้แล้ว!”

เพียงเท่านั้นข้อมืออันแข็งแรงก็กระชากร่างบางดันเข้าชิดผนัง ดวงตาคู่หวานที่เป็นต่ออยู่เมื่อครู่สั่นไหวระริกด้วยความหวาดหวั่น ร่างสูงของคนตรงหน้าขบฟันแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นไม่กี่คำ แต่สะท้านไปถึงขั้วหัวใจ

“ถ้าต้องการอย่างนั้น ผมทำให้คุณจริงๆ เลยก็ได้ ไม่ต้องเหนื่อยเล่นละครหรอก!”



เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 มิ.ย. 2559, 19:46:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 มิ.ย. 2559, 19:46:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 911





<< ตอนที่ 8 ...ตะวันจันทรา    ตอนที่ 10 ...คำสั่ง >>
Zephyr 28 มิ.ย. 2559, 20:07:17 น.
อ้าวว เฮ้ยยยยย
แหย่เสือ เป็นไงละ ชลเอ้ย
ใครจะอยู่ ใครจะไปละเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account