แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 11 ...คนที่ใครก็มองว่าเลว

วันนี้ก็เป็นดังเช่นทุกวันที่ทินกรจะต้องขับรถรับอัจฉราไปถ่ายละครพร้อมกัน หากอยู่กันคนละกอง เขาก็จะต้องตื่นเช้าเพื่อไปส่งเธออยู่ดี ยิ่งคราวนี้อยู่กองเดียวกันจึงกลายเป็นเรื่องสะดวกสบาย พระนางที่ไปไหนมาไหนด้วยกันจนคนในกองถ่ายชินตา แต่วันนี้ที่ทำให้บรรยากาศในกองไม่คึกคักดังเคยเพราะมีกัญกรมานั่งรออยู่หน้ากองถ่าย ท่าทีเคร่งขรึมนั้นทำให้ทีมงานต้องเกรงขาม เธอใส่ชุดเดรสสีขาวพลิ้วสะบัดเมื่อต้องลม ดวงหน้าอ่อนเยาว์ผิดอายุถูกแต่งแต้มสีสันจนดูเซ็กซี่ และนั่นก็เป็นใบหน้าของอีกคนหนึ่งที่ทินกรหลงใหลอย่างสุดซึ้ง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเขาแพ้หญิงสาวที่มีรูปร่างสวยสง่าไร้ที่ติ

หญิงสาวกวักมือเรียกพระนางทั้งคู่ที่พักจากการถ่ายละครเข้ามาหา ทินกรเดินเข้าสวมกอดเธออย่างจงรักภักดี ผิดกับอัจฉราที่ได้เพียงแต่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมเท่านั้น

“พอเลยเพลิง เดี๋ยวฟ้าก็หึงเอาหรอก” กัญกรแหย่อย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะทุ้มๆ ของทินกรแว่วมา

“ฟ้าหึงไม่ได้อยู่แล้วนี่ครับ พี่ก็รู้” คนถูกเอ่ยถึงหยิกเข้าที่ลำตัวของคนขี้โม้ เขากุมมือเล็กนั้นไว้ก่อนฟ้องเจ้านาย “นี่เห็นไหม นอกจากจะไม่หึงแล้วยังชอบรังแกผมอีกต่างหาก”

“พอเลยไม่ต้องมาฟ้อง วันนี้พี่จะมาคุยเรื่องงานโชว์ตัวเย็นวันพรุ่งนี้” อ้อมกอดจากทินกรคลายลงพร้อมวี่แววสงสัยในดวงตา

“งานโชว์ตัวอะไรครับ” กัญกรหรี่ตาลงช้าๆ ก่อนจะหันไปทางอัจฉรา เอ่ยด้วยเสียงที่เข้มและค่อนข้างดุ

“ฟ้าบอกเพลิงสิว่างานอะไร”

หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ “งานโชว์ผลิตภัณฑ์เสื้อกันฝนที่พี่เกลบอกไว้อาทิตย์ที่แล้วไงคะพี่เพลิง”

ยังไม่ทันที่พระเอกหนุ่มจะแก้ตัวอะไร เสียงดุของกัญกรก็เอ่ยขึ้น จนเขาต้องปล่อยอ้อมกอดนั้นออก

“ทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะเพลิง พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้จดงานให้ดี ลืมได้ยังไง งี้ก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเลยน่ะสิ” ชายหนุ่มหน้าเจื่อนลงพอสมควร นอกจากอัจฉราแล้ว ก็มีกัญกรนี่แหละที่เขาฟังเป็นพิเศษ และคราวนี้มันก็ผิดที่เขาเองจริงๆ อยากจะโทษเจ้าลูกลิงแสบนักเชียวที่มาก่อกวนปั่นป่วนจนเขาลืมงานแบบนี้

“ขอโทษครับพี่เกล ผมลืมจริงๆ หลายวันนี้ผมมีเรื่องยุ่งๆ หลายอย่าง นี่วันก่อนผมยังเพิ่งไปแจ้งความเรื่องกระเป๋าตังหาย”

“นั่นไม่ใช่ข้ออ้างเลยนะเพลิง เรื่องงานน่ะเราต้องมีสติเข้าใจไหม ไม่ใช่ดีแต่วีนดีแต่เหวี่ยงทีมงาน เราต้องรู้หน้าที่ของเราด้วย หลายวันมานี้เราแปลกๆ นะ อ้อยใจก็มาฟ้องพี่อยู่ ไม่ใช่แค่เรื่องกระเป๋าตังหายซะแล้วมั้ง”

ทินกรไม่ได้ตอบอะไรออกไปอีก เขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นรอยยิ้มเยาะราวกับจะสมน้ำหน้ากันจากสาวใหญ่ร่างท้วมที่ยืนอยู่เบื้องหลังกัญกร ไม่รอให้เจ้าหล่อนได้หัวเราะนาน ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหล่อนอย่างเร็วรี่

“มองอะไรครับทีมงาน” ทินกรเอ่ยถามอ้อยใจด้วยสายตาเหยียดหยาม กดต่ำ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ได้มีท่าทีหวาดหวั่นต่อพระเอกหนุ่มคนนี้เลยแม้แต่น้อย

“เปล่านี่คะ ไม่ได้อยากจะมองซะหน่อย”

“อย่ายุ่งเรื่องของผมให้มันมากนะครับ ผมเตือนด้วยความหวังดี” เขากดเน้นเสียงต่ำให้เบาที่สุดจนได้ยินกันสองคน ชายหนุ่มยิ้มเยาะก่อนเดินจากไป อ้อยใจมองตามอย่างรังเกียจเป็นที่สุด สาเหตุอะไรไม่รู้ที่ทำให้หล่อนไม่ชอบใจในตัวชายผู้นี้ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขาคบกับอัจฉรา อาจจะเพราะอัจฉราเป็นผู้หญิงที่ควรค่าแก่การได้เจอผู้ชายที่ดีราวกับเทพบุตร ไม่ใช่ซาตานในคราบเทวดาแบบนี้ หล่อนมั่นใจว่าสักวันอัจฉราก็จะต้องคิดแบบนี้เช่นกัน

การถ่ายทำครึ่งวันบ่าย เป็นฉากที่ค่อนข้างจริงจัง แต่ทินกรก็ผ่านไปได้ไม่ลำบากนัก ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะมีเรื่องเครียดมากกว่าทุกวันก็ตาม เมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ชายหนุ่มจึงพาแฟนสาวไปดูเจ้าตูบที่ห้องตามสัญญาที่ให้ไว้วันก่อน โดยไม่ลืมจะแวะซื้ออาหารเย็นไปทานด้วยกัน

ชายหนุ่มยืนเลือกอาหารหลายอย่าง เมื่อหญิงสาวเห็นว่ามันเยอะเกินกว่าที่คนสองคนจะทานหมด จึงเอ่ยทักท้วงขึ้นทันที

“พี่เพลิงคะ ซื้อเยอะจัง มันจะไม่หมดเอานะคะ”

ชายหนุ่มกลั้นยิ้มก่อนตอบ “พี่เก็บไว้สำหรับพรุ่งนี้เช้าด้วยน่ะจ้ะ”

“แต่...ปกติพี่เพลิงไม่ทานข้าวเช้านี่คะ” ทินกรสะดุดนิดๆ ก่อนบอกต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เดี๋ยวนี้พี่ปวดท้องบ่อยๆ น่ะ กลัวจะเป็นโรคกระเพาะ ช่วงนี้เลยต้องกินข้าวเช้าซะหน่อย” อัจฉรายิ้มรับคำตอบของเขา เมื่อลับหลังหญิงสาว พระเอกหนุ่มลอบถอนหายใจออกมายาวๆ ปกติอัจฉราไม่ได้ขี้สงสัยถึงเพียงนี้ แล้วจะให้เขาบอกเธอไปได้อย่างไร ว่าซื้ออาหารส่วนนี้ไปให้เจ้าลิงกังที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของเขาข้างๆ ห้องนี่เอง แม้ว่าจะไม่ชอบขี้หน้าอย่างไร แต่ก็สงสาร เห็นว่าเงินทองไม่ค่อยมีหรอกนะ





ร่างบางเดินวนไปมาในห้องพักอยู่หลายครา ป่านนี้แล้วทินกรยังไม่กลับมาอีก ไม่รู้ว่าเจ้าตูบได้กินอะไรบ้างหรือยัง วันนี้ทั้งวันเธอเปิดโทรทัศน์ดู เห็นหน้าทินกรไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ผมสีน้ำตาลเข้ม คิ้วโก่งรับกับดวงตาคมดุคู่นั้นเข้ากันได้ดี เธอคงไม่อาจปฏิเสธว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อล่ำสมวัย 25 ปีจริงๆ ผิดกับตัวเธอเอง ที่ต่อให้อีกกี่ปีผ่านไป ก็ยังคงเป็นยายเพิ้ง ผิวสีน้ำผึ้ง ตัวผอมโกรกอยู่ดังเดิม แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอภูมิใจในตัวเองมาตลอดเช่นกัน

นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ กับการแง้มประตูดูว่าชายหนุ่มห้องข้างๆ มาหรือยัง และทุกครั้งก็จะจบลงด้วยการปิดประตู แล้วก็เปิดใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อเห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีดำขัดกับผิวที่ขาวเนียนละเอียดของเขามาแต่ไกล ท่าเดินที่ดูทะนงนั่นคงเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกจากทินกร

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่นคือข้างกายเขามีหญิงสาวคนหนึ่งที่มองไกลๆ ก็รู้ว่ารูปร่างหน้าตาดีแค่ไหน ชุดกระโปรงสีชมพูคลุมเข่าดูเรียบร้อยแต่ยังมีสไตล์เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ธราแง้มประตูให้แคบลงจนเกือบจะปิดสนิทเมื่อเขาทั้งคู่กำลังจะผ่านหน้าห้องเธอไป

อุปทานหรือไรที่เธอรู้สึกเหมือนสายตาคมดุของชายหนุ่มที่เธอรอคอยตวัดมองมาแวบหนึ่ง เหมือนเห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น

จนกระทั่งเสียงปิดประตูจากข้างห้องดังขึ้นนั่นแหละ เธอจึงเดินกลับมานั่งที่เตียงดังเดิม จากที่คิดไว้ว่าจะขอเข้าไปดูเจ้าตูบ แต่เขามีคนสำคัญของเขามาด้วย อย่าดีกว่า

เธอเป็นคนดีได้ไม่นานจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงคุยคิกคักจากระเบียงของห้องข้างๆ ร่างบางก็ลุกไปนั่งหมอบอยู่ที่ข้างกระจกระเบียงตัวเองทันที

“พี่เพลิงคะ ห้องพี่มองเห็นดาวชัดจังเลย ฟ้าอยู่ห้องตัวเอง ไม่เคยมองเห็นดาวเลยสักที” เสียงเจื้อยแจ้วแต่หวานซึ้งละมุนละไมดังมาจากห้องข้างๆ ทำเอาร่างบางที่นั่งฟังอยู่แอบเบะปากเล็กน้อย

...พี่เพลิงคะ พี่เพลิงขา แหวะ

ประชดประชันในใจเสร็จแล้ว ธราจึงได้มานั่งถามตัวเองว่าจะไปหมั่นไส้แม่หญิงคนงามนี้เพื่ออะไรกัน เจ้าหล่อนไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย

“ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยสิ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยตอบ นี่มากกว่าที่เป็นตัวชนวนความหมั่นไส้ในใจของธรา

...แหวะๆๆ ทีกับคนสวยๆ ล่ะพูดเสียงหวาน ทีกับเรานะแทบจะบีบคอฆ่าเราให้ตาย สองมาตรฐานชัดๆ

ความอิจฉาริษยาลุกเป็นไฟขึ้นมาในใจคนพาล ไม่ทันได้ฟังคำตอบอะไรของแม่สาวร่างเพรียว เจ้าลิงกังก็ลุกเดินออกไป ไม่นานนักร่างบางก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพระเอกดัง ข้อมือเล็กกระหน่ำเสียงเคาะดังสนั่นลงไปเกือบสิบครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องตัวเองเพื่อรอฟังคำรักของหนุ่มสาวอีกครา

...สมน้ำหน้า มีตัวขัดจังหวะ

เสียงจากห้องนั้นเงียบไป แต่เมื่อชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นหญิงสาวคนนั้นยืนอยู่คนเดียว พลางหันมามองในห้องเป็นครั้งคราว เพียงเศษเสี้ยวที่ธราได้เห็น ก็เหมือนมีออร่าบางอย่างฉายออกจากตัวของผู้หญิงคนนี้

เธอสวยมากจริงๆ สวยจนผู้หญิงด้วยกันต้องเหลียวหลังมอง แต่เมื่อมองชัดๆ ก็เห็นว่าเธอคนนี้หน้าเหมือนทินกรเอามากๆ นี่ล่ะนะที่เขาเรียกกันว่าเนื้อคู่ต้องหน้าคล้ายกัน

“ใครมาเคาะหรือคะพี่เพลิง” หญิงสาวเอ่ยถาม เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มเดินออกมาที่ระเบียงอีกครั้ง

“เด็กบ้าแถวนี้มั้ง ออกไปก็ไม่มีใครนะ สงสัยว่างมากเลยมาเคาะแกล้ง” ไม่รู้ว่าธราคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าเสียงของเขาเจือความไม่พอใจอยู่นัยๆ อีกทั้งยังตวัดสายตาคมมาทางเธออีกต่างหาก

หญิงสาวก้มลงต่ำอีกเพราะความกริ่งเกรงว่าอีกฝ่ายจะหันมาเห็นเข้า ก่อนจะลุกออกไปหน้าห้องทินกรและเคาะลงไปดังๆ อีกครั้ง และก็เป็นเช่นเดิมคือรีบกลับมาห้องรอฟังเสียงจากห้องข้างๆ

...สนุกจริงๆ ได้กวนคน

ครั้งนี้เขาออกไปอย่างเชื่องช้า ราวกับจงใจให้หล่อนกลับมาฟังคำตอบของเขาได้ทัน เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นเหมือนตั้งใจให้หญิงสาวร่างบางที่ซุกซ่อนอยู่แถวกระจกกั้นระเบียงห้องข้างๆ ได้ยิน

“เดี๋ยวพี่มานะ พี่ว่าพี่ไปตามหาตัวเด็กบ้าที่ว่านั่นดีกว่า ก่อนที่มันจะเคาะทั้งคืน”

“อ้าว จะไปตามที่ไหนละคะ” เสียงหวานนั้นสูงอย่างประหลาดใจ ก็ในเมื่อไม่รู้ว่าใครมาเคาะ แล้วจะไปตามหาได้จากที่ไหนกัน

“คิดว่ามันคงแอบๆ อยู่แถวนี้แหละครับ ถ้าหามันไม่เจอก็แค่ไปแจ้ง รปภ.ว่ามีคนก่อกวน รอแป๊บนะ เล่นกับเจ้าตูบไปก่อนก็ได้” ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังสุนัขหูตก ที่นอนมองอยู่ในห้อง เขายังคิดว่าวันนี้มันทำตัวแปลกไม่น้อย ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา แวบแรกที่เห็นเขามันทำท่าจะลุกมาหา แต่เมื่อเห็นว่ามีคนอื่นมาด้วย มันกลับนอนนิ่ง ไม่เหมือนหมาอัธยาศัยดีดังเช่นที่มันเป็นก่อนหน้านี้เลยสักนิด

“ได้ค่ะ มาเร็วๆ นะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะพี่เพลิง เผื่อมันเป็นโจรเป็นขโมย หรือไม่ก็เป็นนักข่าว ถ้าเขาเห็นว่าเราอยู่ด้วยกัน คงแย่แน่”

ชายหนุ่มได้แต่พยักหน้ารับพลางขำเบาๆ ไม่มีหรอกโจรขโมยหรือแม้แต่นักข่าว มีแต่สาวจอมวุ่นวาย จอมก่อเรื่องข้างๆ ห้องนี่แหละ อยากจะจับกดน้ำเสียจริง

เมื่อได้ยินดังนั้น ร่างบางที่นั่งกอดเข่าแอบฟังอยู่ใกล้ระเบียง ก็หัวเราะร่า ก่อนจะเดินยักย้ายส่ายสะโพกไปที่เตียงนอนสีชมพูอย่างหน้าชื่นตาบาน รอกวนประสาทพระเอกหนุ่มที่คาดว่าคงเอาระเบิดมาลงที่ห้องเธอในไม่ช้านี้

และก็เป็นดังคาด เมื่อเสียงเปิดประตูพรวดพราดดังขึ้นโดยไม่มีเสียงเคาะ เสียงปิดประตูก็ดังรุนแรงพอกัน ใบหน้าคมเข้มแต่ขาวผ่อง ปรากฏชัดขึ้น หญิงสาวยิ้มหวาน ทว่าดูยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด พร้อมทั้งเอ่ยทักทายด้วยเสียงที่ดังกว่าการคุยปกติ หมายจะให้หญิงงามข้างห้องได้ยิน

“อ้าว มาทำอะไรคะคุณเพลิ....” ยังพูดไม่ทันจบประโยค มือหนาก็เอื้อมมาปิดปากเธอแน่น ดวงตาดุแข็งกร้าวกับแรงที่ไม่ยั้งนั้น ทำเอาเธอลำบากในการหายใจเป็นที่สุด

เขาจับเธอกดลงบนเตียงอย่างรุนแรง พร้อมทั้งเอาผ้าห่ม หมอน ตุ๊กตามาทับไว้แน่นเหมือนเธอเป็นเพียงรูปปั้นชนิดหนึ่ง ก่อนจะลุกไปปิดกระจกระเบียงและปิดผ้าม่านมิดชิด

มือหนาวิ่งไปกดล็อกประตูโดยไม่ฟังเสียงโวยวายวี้ดว้าดจากแม่สาวเจ้าปัญหาบนเตียงเลยแม้แต่น้อย เมื่อสร้างห้องเก็บเสียงได้แล้ว เขาก็ตวัดสายตามองเธอ

หากตีความสายตานั้นเป็นคำพูด เธอคงรู้สึกเหมือนตัวเองโดนด่าแรงมากราวกับทำความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยได้

“ทำแบบนี้เพื่ออะไร” เขาเอ่ยถามเรียบๆ แต่เป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศมาคุได้ดีที่สุด

“ทำ? ทำอะไรคะ” หญิงสาวเอียงคอมองเขาอย่างใสซื่อ นั่นยิ่งทำให้ทินกรหงุดหงิดใจ

“อย่ามาเสแสร้ง ผมรู้นะว่าคุณแอบไปเคาะประตูห้องผมสองครั้งแล้ว และผมก็รู้ด้วยว่าคุณแอบฟังอยู่ตรงนั้น” นิ้วเรียวชี้ไปยังกระจกกั้นระเบียง หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้ามาหาเขา และก็เป็นเช่นเดิมที่เขาจะก้าวถอยหลังออกห่างโดยอัตโนมัติ

ธราลอบขำในใจ นี่ตกลงว่าเขาเป็นโรคกลัวผู้หญิง หรือว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นเกย์กันแน่

“ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าแฟนคุณ คุณฟ้าน่ะ ได้ข่าวว่าสวยนักสวยหนา เลยอยากแอบดูเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”

“เขาสวยกว่าคุณอยู่แล้ว ไม่ต้องมาอยากเห็นหรอก คุณจำคำสั่งผมไม่ได้หรือไง ว่าอย่าให้ใครรู้เรื่องของเรา” เสียงนั้นแข็งกร้าวเมื่อย้ำถึงคำสั่ง

“ตายแล้ว! นี่ตกลงเป็น เรื่อง-ของ-เรา เชียวหรือคะ” หญิงสาวเอ่ยล้อ ยิ่งทำให้คนตัวโตหน้าแดง ไม่แน่ใจว่าเพราะความโกรธหรือขัดเขินกันแน่

“ผมหมายถึงเรื่องที่คุณมาขอให้ผมจ่ายค่าเช่าห้องให้ต่างหาก ถ้าฟ้ารู้ เขาคงไม่สบายใจ เพราะฉะนั้น อย่ามาวุ่นวายให้มันมากนัก สัญญาเช่าเป็นของผม ถ้าผมรำคาญคุณขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมยกเลิกสัญญาแน่”

“ก็เอาสิ ฉันแค่ไม่มีที่อยู่ แต่คุณได้เลิกกับแฟนคุณแน่ๆ ถ้าฉันไปบอกคุณฟ้าตอนนี้ว่า คุณ-อยู่-ห้อง-ฉัน!” หญิงสาวยิ้มยั่ว นิสัยประจำตัวเธอที่คนรู้จักมักคุ้นกันจะรู้ดีคือเธอไม่ชอบการเป็นคนแพ้ ไม่ชอบให้ใครมาขู่ และเธอเองก็รู้ว่าเขาไม่ชอบเช่นกัน แต่มันช่างสนุกเสียจริงที่ได้ปั่นหัวชายหนุ่มนิสัยเสียคนนี้

ทินกรยืนขบกรามแน่น อยากจะจับผู้หญิงกวนประสาทคนนี้โยนลงหน้าต่างไปให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่าโยนออกไปแล้วอัจฉราจะเห็น เขาคงทำแล้ว

พลันสายตาคมเหลือบไปเห็นถุงข้าวที่เขาซื้อมาฝากหญิงสาวเจ้าปัญหา และเขาก็หยิบมาก่อนจะมาหาเธอ จิตใจฝ่ายมืดออกความเห็น มือหนาคว้าถุงนั่นเขวี้ยงลงที่พื้นทันที ข้าวผัดอเมริกันในถุงนั้นแตกกระจายเต็มพื้นห้อง

ดวงตากลมโตของธรามองภาพนั้นอย่างตื่นตระหนก สลับกับขึ้นมาสานสบดวงตาคม เขากำลังยิ้มเยาะ แม้กระทั่งในแววตายังคงฉายชัดในความทะนงตัว กลายเป็นเธอเสียเองที่ต้องมานั่งกำหมัดขบกรามแน่น

“คุณเพลิง ทำไมคุณถึงทำแบบนี้คะ!” เสียงเล็กเอ่ยอย่างกราดเกรี้ยว แต่คนตรงหน้ากลับไม่รู้สึกอะไร เขายักไหล่ด้วยท่าทางน่าเกลียด

“ผมซื้อมาฝากคุณ ถ้าจะกิน ก็หยิบที่พื้นขึ้นมากินเอานะ” ชายหนุ่มยิ้มหยัน ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไป โดยมีเสียงหญิงสาวตะโกนตามหลัง

“คุณคิดว่าคุณเป็นคนรวย มีเงิน จะทิ้งขว้างอะไรก็ได้ แต่คุณช่วยนึกถึงคนจนๆ บ้างได้ไหม ว่าคนที่เขาไม่มีกิน เขาจะรู้สึกยังไง กับการกระทำของคนอย่างคุณ!”

ชายหนุ่มออกไปแล้ว เหลือเพียงหญิงสาวปากเก่งเมื่อครู่ที่นั่งเก็บข้าวที่กระจายอยู่ที่พื้นอย่างไม่พอใจ ทุกวันนี้สิ่งที่เขาให้เธอมันก็มากเกินกว่าที่เธอจะชดใช้เขาได้หมด ทั้งค่าห้อง ทั้งค่ากินที่เขาให้รายวันจนกว่าเธอจะหางานทำที่นี่ได้ และอะไรมันก็ยากลำบากในเมื่อเธอไม่มีแม้กระทั่งบัตรประชาชน แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ไม่ใช่หรือ

ธราผิดหวังในตัวเขาเป็นที่สุด ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนนิสัยแย่ได้ถึงเพียงนี้ คำพูดเมื่อครู่ เธอคิดว่าคงไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดอะไร นอกจากเบะปากให้ด้วยความหมั่นไส้ที่อัดแน่นในใจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหลังจากที่เขาปิดประตูนั้น ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นก็หม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เสียงเตือนสติจากธรายังดังก้องอยู่ในหู ดังพอๆ กับเสียงฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงในยามนี้ ราวกับจะปลุกปลอบหัวใจของคนที่ใครๆ ก็มองว่าเลว อย่างทินกร...





เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 มิ.ย. 2559, 19:04:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 มิ.ย. 2559, 19:04:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 849





<< ตอนที่ 10 ...คำสั่ง   ตอนที่ 12 ...ความลับของคนสองคน >>
Zephyr 1 ก.ค. 2559, 00:07:12 น.
ทำไมพี่เพลิงถึฃเป็นแบบนี้นะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account