มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 7



ในห้องนอนของเรือมีเตียงสองชั้นติดผนังอยู่สามด้าน และชั้นวางของอยู่บนหัวนอน วาวพลอยนอนขดตัวอยู่บนเตียงชั้นล่างที่ติดผนังด้านหนึ่ง โก๋นอนบนเตียงอีกด้าน

จิญจายะเองก็จองด้านที่ว่าง แม้จะยังไม่ได้เข้ามานอนพร้อมกัน แต่นั่นก็ทำให้หญิงสาวรู้ว่า แม้ห้องนี้จะมีเตียงถึงหกเตียง แต่จะมีเพียงเธอกับโก๋ และจิญจายะเท่านั้นที่พักอยู่

ส่วนพวกผู้ชายที่เหลือต่างก็อาศัยนอนอยู่ชั้นบน ด้วยความเหนื่อยล้าทำให้ เจ้าของร่างบอบบางหลับใหลลงไปในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ขณะกำลังอยู่ในห้วงนิทรานั้น วาวพลอยก็ต้องตกใจตื่นขึ้นเมื่อตัวของเธอกลิ้งตกลงมาจากเตียง และชนเข้ากับโก๋ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นก่อนแล้วเช่นกัน

“โอ๊ย!! ว้าย!! ” ทั้งสองร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ

แต่ก็ไม่อาจลุกขึ้นได้ เพราะความโคลงเคลงราวกับโลกกำลังเหวี่ยงไปมา ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ร่วงกรูลงมาจากชั้นวางและเตียงตามแรงเหวี่ยงกระจายเกลื่อนไปทั่วห้อง

“โก๋เกิดอะไรขึ้น” หญิงสาวตะเบ็งเสียงถาม ขณะคว้าโครงของเตียงเอาไว้ได้

“ไม่รู้เหมือนกันเจ๊ สงสัยเรือจะเจอคลื่นยักษ์” โก๋ตะโกนตอบ

ทั้งสองเริ่มรู้สึกผะอืดผะอม ก่อนจะโอ้กอ้ากออกมาเกือบพร้อมกัน วาวพลอยทั้งหวาดกลัวและตื่นตระหนก แต่ความรู้สึกอยากอาเจียนยังคงตีตื้นขึ้นมาเป็นระลอก ทำให้เธอพยายามประคองตัวเองไปยังประตู

พอเปิดมันออกได้ จังหวะเดียวกันนั้นน้ำก็สาดเข้ามาปะทะกับใบหน้าและตามร่าง เรือเอียงไปมาด้วยแรงคลื่นที่ซัดเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง วาวพลอยนึกไปถึงห่วงยาง เสื้อชูชีพที่แขวนอยู่ตามเรือหลายจุดเพื่อให้สะดวกแก่การใช้

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะแค่พยุงตัวเองก็ยังยากลำบาก หญิงสาวเห็นจิญจายะกอดราวเหล็กข้างเรือเอาไว้มั่น วาวพลอยทรุดตัวลงกับพื้นพลางเกาะบานประตูเอาไว้ ก่อนจะอาเจียนออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

“เป็นยังไงกันบ้าง” เสียงหนึ่งดังแข่งกับเสียงคลื่นและพายุ ขณะเรือกำลังเอียงวูบไปด้านหน้า ส่งผลให้มือของหญิงสาวที่เกาะประตูเอาไว้หลุดในทันที

“กรี๊ด!! ” วาวพลอยกรีดร้องพร้อมกับตัวไถลไปตามพื้นเรือ

แต่ก่อนที่จะร่วงลงไปในน้ำมือแข็งแรงก็เอื้อมมาดึงร่างของเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที เรือยังคงเอียงไปมาไม่หยุดตามแรงคลื่นลม

พอร่างของเธอถูกดึงเข้าไปใกล้ร่างใหญ่ ด้วยความตกใจกลัววาวพลอยจึงรีบตวัดแขนกอดเขาไว้ในทันที เธอหลับตาปี๋ระหว่างที่คลื่นลมยังโหมซัด เนื้อตัวเปียกปอน

เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ กว่าที่ทุกอย่างจะสงบลง วาวพลอยผละออกจากอกกว้าง มองไปรอบข้างทั้งที่ยังไม่หายมึน แม้เรือจะยังโยกไหว แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนเมื่อครู่ สายฝนและน้ำทะเลที่ซัดสาดเข้ามาก็หายไปแล้วเช่นกัน

“คุณ พายุสงบแล้ว” เสียงทุ้มนั้นดังอยู่ริมหู ทำให้หญิงสาวหันมายังต้นเสียง

แล้วก็พบว่าใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้ไม่ถึงคืบ ที่สำคัญตอนนี้เธอนั่งอยู่บนตักเขา โดยที่เจ้าตัวเองก็กอดเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเกาะราวเหล็กกั้นเรือเอาไว้ ร่างของเธอและเขาเปียกปอนพอกัน ที่สำคัญกำลังเบียดชิดกันอยู่อีกด้วย วาวพลอยรู้สึกตกประหม่าขึ้นมาทันที

ดวงตาคู่สีเทาอมฟ้าจ้องสบตาหญิงสาวนิ่งงัน เจ้าของดวงหน้างามเองก็ชะงักค้าง ดวงหน้าเนียนซีดขาวเมื่อครู่กลับเริ่มซับสีระเรื่อขึ้นมา ริมฝีปากบางสั่นนะริก ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหนาวเย็นหรืออย่างอื่น ภาพที่เห็นส่งผลให้ลมหายใจของหัสตะสะดุด

ราวกับดวงตาคู่หวานซึ้งกำลังร่ายมนต์สะกดเขาเอาไว้ หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลกำลังแผ่ออกมาจากเจ้าของร่างบอบบางนั้น และนั่นเป็นเหตุให้หัสตะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อย่างลืมตัว แต่ทว่า...

“น้ำเข้าเรือเยอะเลยครับหัวหน้า” ตันเตโผล่หน้าออกมาจากด้านในเคบินตะโกนบอก

ก่อนจะชะงักค้างกับภาพที่เห็น วาวพลอยรีบปล่อยมือจากลำคอของหัสตะ และขยับตัวลงจากตักกว้างด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ตันเตเองก็หันหลังกลับไป

จิญจายะที่อยู่อีกด้านพึ่งตั้งตัวและสติได้ จึงลุกขึ้นวิ่งตามตันเตเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว หัสตะเองก็รีบลุกขึ้นทำท่าจะตามสองคนนั้นไปบ้าง

“ฉันไปด้วยค่ะ” วาวพลอยร้องตาม ชายหนุ่มพยักหน้า แต่ทว่า

“เจ๊... โอ้ก!! ” โก๋โซเซออกมาจากห้องนอน แล้วจึงโก่งคออาเจียนอยู่ข้างเรือ

“ผมว่าคุณดูแลน้องชายคุณก่อนดีกว่า ดีขึ้นแล้วค่อยตามไป” หัสตะว่าก่อนจะเข้าไปด้านในอีกคน หญิงสาวจึงหันมาสนใจน้องชาย ลูบหลังลูบไหล่ให้จนกระทั่งโก๋หยุดอาเจียน

“โก๋ตายไปหรือยังเนี่ยเจ๊” โก๋นอนหงายเก๋งหมดแรง หลังจากอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง

“เป็นยังไงมั่งโก๋ ไหวไหม” วาวพลอยมองหน้าซีดๆ ของน้องอย่างเป็นห่วง

“พอไหวอยู่เจ๊ แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าเป็นเจ้าหญิงแล้วมันลำบากอย่างนี้โก๋ว่าเจ๊กลับไปเป็นเจ๊พลอยตามเดิมเถอะ” โก๋กระเซ้าทั้งที่ยังนอนหมดสภาพอยู่

“ยังจะมาพูดเล่นอีก ดีขึ้นแล้วหรือยัง เราจะได้ไปช่วยเขาทำความสะอาดเรือกันต่อ เมื่อกี้น้ำซัดเข้ามาในเรือเยอะเลย” หญิงสาวชวนคนเป็นน้อง เมื่อเห็นว่าปากดีขึ้นแล้ว

“เอาสิเจ๊ โก๋ไม่เป็นไรแล้ว” โก๋ลุกขึ้นนั่ง

“ไหวแน่นะโก๋” คนเป็นพี่สาวมองอย่างไม่วางใจ

“โห... เจ๊ โก๋ซะอย่าง แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า ไปกันเถอะ”

พอน้องชายโอ่พลางลุกขึ้นยืนทำท่าทางกระฉับกระเฉง วาวพลอยจึงเบาใจ แล้วทั้งคู่ก็พากันเข้าไปช่วยคนอื่นๆ ในเคบิน

*-*-*-*-*-*

กว่าจะวิดน้ำออกจากเรือ ทำความสะอาด เก็บข้าวของเข้าที่เข้าทางเสร็จ เวลาก็ล่วงไปถึงตอนเช้าตรู่ ดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าพอดี ขณะที่เรือยังคงแล่นตามเส้นทางเดินเรือเพื่อไปสู่จุดหมาย เสื้อผ้าเปียกชุ่มถูกนำขึ้นไปตากบนดาดฟ้าเรือ

ความอุ่นของแดดยามเช้าช่วยขับไล่ความหนาวเย็นลงไปได้ อาหารเช้าถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะเล็กๆ ในห้องครัว โดยมีข้าวต้มกับอาหารกระป๋องสำเร็จรูปสองสามอย่าง

“ใครรู้สึกไม่สบายก็เอายาที่จิญไปกินได้นะ จะได้ไม่เป็นมาก” หัสตะบอกขณะทานอาหารร่วมกันพร้อมหน้า จะขาดก็แต่หรคุณซึ่งยังคงทำหน้าที่อยู่ในห้องควบคุมเรือชั้นบน

“มีแบบแก้เมาเรือไหมครับ ผมจะได้เอาไว้กินตอนเกิดพายุแบบเมื่อคืน” โก๋ว่าอย่างขันๆ

“มีค่ะ ถ้าคุณต้องการก็ไปเอาได้ แต่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยเท่าไหร่หรอกค่ะ” จิญจายะตอบ

“แต่ตราบใดที่เรายังอยู่บนเรือก็คงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสินะคะ” วาวพลอยเปรย

ในใจคิดไปถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนกเมื่อคืน แล้วก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเลย เพราะเธอยังรู้สึกใจหายใจคว่ำไม่หาย

“โอ้... นอกจากจะเห็นแต่น้ำกับฟ้าแล้ว ยังต้องทำใจกับเรื่องตื่นเต้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอีกด้วย ช่างเป็นทริปที่สุดยอด” ต่างจากโก๋ แม้จะอาการหนักกว่าเพื่อน แต่ก็ยังเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสนุกสนาน

“นี่เป็นวิธีแก้เบื่อได้ชะงัดเลยล่ะครับ” ตันเตเปรยด้วยรอยยิ้ม ซึ่งโก๋ก็รีบหันไปสนับสนุนอีกหลายคำ

“อย่ากังวลเลย ถึงยังไงเราก็ต้องพาคุณไปถึงริตถาวดีแน่ๆ ” หัสตะพูดพลางลุกขึ้น หลังทานอาหารเสร็จก่อนทุกคน

“เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของทะเล บางทีพวกคุณอาจจะต้องทำใจให้ชิน จะได้สบายขึ้น” เขาแนะต่อด้วยท่าทางไม่อนาทรร้อนใจ

“อย่างนี้ผมก็ได้อ้วกหมดท่าบ่อยๆ สิครับเนี่ย” โก๋ทำหน้าพรั่นพรึง จิญจายะหัวเราะท่าทางนั้น ขณะที่หัสตะเดินขึ้นไปยังห้องควบคุมเรือต่อ และตามด้วยตันเตอีกคน

“พวกคุณคงชินกับการอยู่กลางทะเลดีสิคะ ถึงไม่ได้ตื่นตกใจเหมือนพวกเรา” วาวพลอยพูดขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะเหตุการณ์ที่ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน กลับไม่ได้ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกรู้สาอย่างที่ควรจะเป็น

“ไม่ใช่แค่กลางทะเลหรอกค่ะ แต่เป็นทุกสมรภูมิมากกว่า เราถูกฝึกมาให้อยู่ได้ในทุกสถานการณ์ที่จำเป็น” จิญจายะแจกแจง

“โอ้โห!... พวกคุณนี่เท่ห์สุดๆ ไปเลยนะครับเนี่ย” โก๋ยกนิ้วโป้งให้พร้อมทำหน้าตาทึ่งแบบสุดๆ

“ทหารรับจ้างริตถาวดีนี่ ฝึกกันดีขนาดนี้เลยเหรอคะ” และวาวพลอยเองก็อดแปลกใจไม่ได้เช่นเคย

“เอ่อ... เปล่าหรอกค่ะ ขอตัวนะคะ ถ้าต้องการยาก็ตามไปเอาที่ห้องนะคะ ฉันคิดว่าเราคงต้องพักเอาแรงกันเสียหน่อย ไม่ได้พักกันตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้าอย่างนี้” จิญจายะเอ่ยเป็นการบอกกลายๆ ว่าไม่อยากพูดเรื่องส่วนตัวอีก แต่ก็ยังมีรอยยิ้มไม่แสดงอารมณ์ตามปกติ

วาวพลอยมองตามหลังหญิงสาวเพียงคนเดียวในทีม จิญจายะเป็นผู้หญิงสวยในแบบห้าวหาญ จริงจัง สมกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง

ช่างน่าแปลกทหารรับจ้างกลุ่มนี้ไม่เหมือนที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้เลย พวกเขามีความสุขุมลุ่มลึก ผสมผสานความแข็งแกร่งในแบบของทหาร แต่บุคลิกไม่เหมือนทหารเสียทีเดียว

“ทานอาหารเสร็จแล้วเหรอครับ” เจ้าของร่างสูงใหญ่อีกคนหนึ่งก้าวเข้ามา หรคุณนั่นเอง เขามีหน้าที่หลักคือควบคุมการเดินเรือ และดูแลทางด้านเครื่องยนต์กลไก

“อ๋อ... ค่ะ คุณหรคุณ” หญิงสาวรับคำ

หรคุณตรงเข้ามาตักอาหารใส่จานของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงตรงกันข้ามกับวาวพลอยและโก๋ หญิงสาวจ้องมองเขาอย่างสังเกต เพราะหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกับหัสตะนั่นเอง หรคุณหันมาสบเข้ากับแววตาของวาวพลอยพอดี คิ้วหนาจึงเลิกขึ้น

“ทำไมเจ้าหญิงมองผมอย่างนั้นล่ะครับ” เขาถามอย่างแปลกใจ

“เรียกฉันว่าวาวพลอยดีกว่าค่ะ ฉันเพียงแต่คิดว่าคุณเหมือนกับหัวหน้าของคุณเท่านั้นเอง” วาวพลอยเปรยถึงสิ่งที่ข้องใจ หรคุณรีบยิ้มรับ

“อ๋อ... ครับ ผมเป็นน้องชายของเขาครับ”

“เหรอคะ มิน่า... ชื่อของพวกคุณก็แปลกพิลึก ไม่เข้ากับหน้าตาด้วย พวกคุณน่าจะชื่อจอห์นนี่ ทอมมี่อะไรประมาณนั้นมากกว่านะคะ” วาวพลอยพูดตามความรู้สึก

ชายหนุ่มหัวเราะกับความคิดเห็นซื่อๆ ของเธอ และนั่นก็ทำให้วาวพลอยรู้สึกว่าหรคุณให้ความรู้สึกเป็นมิตร อีกทั้งหัวเราะและยิ้มง่ายกว่าคนเป็นพี่ชายมาก

“เป็นชื่อทางริตถาวดีน่ะครับ ครึ่งหนึ่งของเราเป็นริตถาวดี ส่วนอีกครึ่งเป็นอเมริกัน ที่เห็นว่าชื่อทางริตถาวดีแปลกนั่นอาจจะเป็นเพราะเจ้า... เอ๊ย! คุณวาวพลอยอยู่กับคนไทยมาตลอดเลยไม่คุ้นกับชื่อพวกนี้ ก็เหมือนกับที่ผมรู้สึกว่าชื่อของพวกคุณฟังดูแปลกดีนั่นแหล่ะครับ” หรคุณพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแปล่งเหมือนชาวต่างชาติ

ซึ่งไม่เหมือนพี่ชายเขากับจิญจายะที่พูดภาษาไทยได้ชัด พอๆ กับภาษาอังกฤษเลยทีเดียว และบางครั้งหญิงสาวก็ได้ยินพวกเขาสื่อสารกันด้วยภาษาที่เธอฟังไม่ออก วาวพลอยเดาว่าคงเป็นภาษาของริตถาวดี

นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าเรื่องที่ตัวเองเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นเหมือนความฝัน เพราะแม้แต่ภาษาของเมืองนี้เธอก็ไม่เคยรู้เลยแม้แต่น้อย



จากนั้นวาวพลอยก็ขอตัวกลับไปยังห้องนอน โดยปล่อยให้โก๋กับหรคุณนั่งคุยกันอยู่ในห้องครัวต่อ เพราะดูท่าทางโก๋จะสนใจเรื่องหน้าที่การงานของหรคุณเป็นพิเศษ ตามประสาคนที่เคยคลุกคลีตีโมงอยู่กับเครื่องยนต์กลไกมาก่อนนั่นแหล่ะ







**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6

NjoiNzEyOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%

B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%

81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%

E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2559, 13:22:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ค. 2559, 13:22:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 859





<< บทที่ 6   บทที่ 8 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account