มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 11



“ตายจริง โก๋ น้องชายฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” อารามตกใจระคนเป็นห่วงน้อง ทำให้วาวพลอยถลันไปยังประตู

“อย่าออกไปค่ะคุณวาวพลอย มันไม่ปลอดภัย” แต่ถูกจิญจายะดึงเอาไว้

“ไม่ได้นะคะ น้องฉันล่ะคะ โก๋ไม่ได้ต่อสู้เก่งเหมือนพวกคุณนะคะ” หญิงสาวยังคงวิตกอยู่ไม่หาย

“แต่คุณโก๋ก็อยู่กับพวกหัวหน้า พวกเขาจะดูแลน้องชายคุณเป็นอย่างดี” จิญจายะเองก็พยายามปลอบ แต่เมื่อเห็นวาวพลอยยังคงเต็มไปด้วยความกังวล จึงตัดสินใจในที่สุด

“เอาอย่างนี้ หากคุณเป็นห่วงเดี๋ยวฉันจะออกไปดูเอง แล้วฉันจะรีบกลับมาค่ะ”

เสียงปืนยังดังอยู่เป็นระยะ เรือโอนเอนไปมาราวกับมีใครมาแกว่งไกว รอคอยจิญจายะอยู่ได้เพียงไม่นานวาวพลอยก็หมดความอดทนลงในที่สุด เธอค่อยๆ แง้มประตู แล้วก้าวออกมาจากห้อง

ในความมืดสลัวของยามเช้าตรู่ วาวพลอยเห็นเรือคล้ายเรือประมงขนาดกลางลำหนึ่งเทียบกับเรือที่เธอโดยสารอยู่ กลุ่มคนในเงาตะคุ่มกำลังพากันกรูลงมาจากเรือลำนั้น ทำให้เรือเอนวูบไปด้านหนึ่ง หญิงสาวรีบเข้าไปหลบตรงซอกด้านหลังของเรือ

“ฆ่ามันให้หมด แล้วรื้อค้นเอาของมีค่ามาให้หมด!! ” เสียงสั่งการอันเหี้ยมโหดดังแข่งกับเสียงปืน

แม้จะฟังไม่รู้เรื่องแต่วาวพลอยก็เดาได้ว่าต้องเป็นคำสั่งที่น่ากลัวไม่น้อย และเสียงร้องโอดโอยก็ดังผสานขึ้น พร้อมกับร่างของบางคนที่กำลังลงมาจากเรือลำนั้นร่วงลงไปสู่ทะเลเมื่อถูกยิง

หญิงสาวจึงรู้ว่าพวกของหัสตะกำลังต่อสู้กับกองกำลังของโจรสลัดที่มีกันไม่ต่ำกว่าสิบคนอย่างดุเดือด และพวกเขาก็มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี นั่นทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง แม้ตอนนี้จะมองไม่เห็นพรรคพวกของตนเลยก็ตาม

วาวพลอยหมอบอยู่กับที่ท่ามกลางเสียงปืน เสียงร้องของคนเหล่านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งเสียงปืนซาลง เสียงฝีเท้าคนดังมายังด้านที่หญิงสาวกำลังหมอบอยู่ เธอหวังว่าจะเป็นพวกของหัสตะ

“ให้ตายเถอะ ไอ้พวกนี้มันไม่ใช่นักล่องเรือธรรมดา พวกเราเหลือกันไม่กี่คนเอง เผ่นเถอะ” เสียงคนหนึ่งพูดขึ้น อีกคนก็รีบรับคำอย่างร้อนรน

วาวพลอยมองเห็นหน้าพวกมันชัดเจนเพราะเริ่มสว่างแล้ว เธอยกมือปิดปาก ด้วยกลัวว่าพวกมันจะมองเห็นหญิงสาวจึงขยับตัวถอยหลัง แต่ทว่าแขนกลับปัดไปโดนอะไรบางอย่างจนหล่นเคร้งลงมา ทำให้พวกมันหันมาทางเธอในทันที

“เฮ้ย! จัดการมันเลย” โจรสลัดที่บาดเจ็บสาหัสมีเลือดไหลตามไหล่และแขน ออกคำสั่งกับคนถือปืน วาวพลอยรู้ถึงอันตรายได้ตามสัญชาติญาณ

“อย่านะ!! ” หญิงสาวกรีดร้อง มันจึงชะงัก

“ผู้หญิงนี่ มันมีอาวุธหรือเปล่า”

“ไม่มีลูกพี่ แต่มันไม่ใช่ผู้หญิง เป็นเด็กผู้ชาย” คนเป็นลูกน้องบอกพลางกระชากร่างบอบบางในชุดสีดำตัวโคร่งออกมาจากซอก

“ดีล่ะ พวกมันมีอาวุธเหนือกว่าเรามาก เอาไอ้นี่ไปเป็นตัวประกัน คงทำให้เราหนีไปได้สะดวกขึ้น” คนเป็นลูกพี่สั่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะทันขยับตัว ก็มีเสียงคนวิ่งตรงมา

“หยุดนะ! พวกแกไม่รอดแน่” หรคุณกับตันเตนั่นเอง ตามมาด้วยจิญจายะและโก๋ ปืนของทุกคนเล็งมายังเจ้าโจรสลัดทั้งสอง

“อย่านะโว้ย! พวกมึงเข้ามาไอ้หน้าอ่อนนี่ตายแน่” โจรคนที่จับตัววาวพลอยเอาไว้รีบร้องขึ้นเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น

ปืนสั้นจ่ออยู่ตรงศีรษะของหญิงสาว พร้อมจะลั่นไกทันทีที่อีกฝ่ายเข้ามา หรคุณรีบยกมือเป็นสัญญาณให้ฝ่ายของตนลดอาวุธลง

“อย่าตามมาไม่งั้นไอ้นี่ตาย” มันขู่ขณะค่อยๆ พาตัววาวพลอยถอยออกไปอย่างระมัดระวัง แม้คนทั้งหมดจะสาวเท้าตามมา แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร

เจ้าของร่างบอบบางใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว เธออยากจะขืนตัว ต่อสู้ แต่ปืนที่จ่อขมับอยู่อย่างเตรียมพร้อม ทำให้หญิงสาวไม่อาจขัดขืนได้ แต่เธอก็โล่งใจที่เห็นโก๋ปลอดภัยอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น

แต่... หัสตะล่ะ? ทำไมไม่เห็นเขา หรือว่า... เขาจะเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้ครั้งนี้ วาวพลอยใจหายวาบ ขณะถูกดึงขึ้นไปยังเรืออีกลำที่ติดเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อโจรสลัดพาหญิงสาวขึ้นไปบนเรือเสร็จเรียบร้อย เรือลำนั้นก็เริ่มเคลื่อนตัวออกไป

*-*-*-*-*-*

วาวพลอยมองกลุ่มคนที่ยืนอยู่บนหัวเรือ ซึ่งมองมายังเธออย่างไม่อาจทำอะไรได้ หญิงสาวใจหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือนี่คือจุดจบของทุกสิ่งกันแน่นะ

เจ้าของร่างบอบบางถูกลากตัวเข้ามาด้านใน พบกับพวกโจรสลัดอีกสาม-สี่คน ต่างก็มีอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ

“เราจะทำยังไงต่อไปลูกพี่ ของก็ได้แค่เสบียงนิดหน่อย แถมยังเสียคนไปเกือบครึ่งอย่างนี้” ลูกน้องของมันถามขึ้นเมื่อมาถึงข้างในเรือ

“ก็ไหนเอ็งว่าพวกมันเป็นแค่นักเดินเรือธรรมดาอย่างไงล่ะ” คนที่เป็นหัวหน้า และบาดเจ็บมากกว่าเพื่อนย้อนถามด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์

“ก็ไอ้พวกที่เกาะสุตวามันส่งข่าวมาอย่างนั้นนี่ลูกพี่ ท่าทางไอ้พวกนี้มันก็เหมือนอย่างนั้นด้วย ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นพวกทหาร ว่าแต่พวกมันเป็นทหารของเมืองไหนกัน” คนเป็นลูกน้องแก้ตัวพร้อมตั้งคำถามในตอนท้าย

“ข้าก็ไม่แน่ใจ จะว่าภูศิยาน์ก็ไม่ใช่ หรือว่าเป็นพวกทหารรับจ้าง แต่ก็ไม่น่ามีอาวุธทันสมัยขนาดนี้” หัวหน้าโจรสลัดครุ่นคิด

ก่อนจะหันมาทางวาวพลอยที่ยืนอยู่ติดผนังห้อง ซึ่งก่อนหน้านี้พวกนั้นไม่ได้ให้ความสนใจเธอเลย

“พวกเอ็งเป็นใครไอ้หน้าอ่อน” แล้วจึงถามเป็นภาษาอังกฤษแปร่งๆ หญิงสาวไม่ตอบ มันจึงส่งสัญญาณให้ลูกน้องกระชากร่างของเธอออกมาจากมุมนั้น

“ลูกพี่ข้าถามว่าเอ็งเป็นใคร ทหารเมืองไหน ตอบมา” ไอ้คนเป็นลูกน้องตะคอกใส่อีกครั้ง วาวพลอยยังคงเงียบ

“ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเอ็งเสียเดี๋ยวนี้”

“ฉันไม่บอกพวกแกหรอก” แต่คราวนี้หญิงสาวตอบออกไปเป็นภาษาอังกฤษ

“ไอ้นี่ วอนเสียแล้ว” มันพูดพร้อมกับสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าเล็กอย่างแรง จนวาวพลอยต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“ไม่บอกใช่ไหมๆ ” มันตะคอกพร้อมกับเงื้อมือจะตบอีกครั้ง แต่หัวหน้าโจรสลัดยกมือขึ้นห้าม

“เฮ้ย! พอๆ อย่าพึ่งไปทำอะไรมันมาก ตอนนี้เก็บมันเอาไว้ก่อน เผื่อพวกมันตามมาจะได้ใช้เป็นตัวประกัน” พลางบอกกับลูกน้องอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสลักสำคัญ

“แต่เราดูแล้วพวกมันไม่น่าจะตามมานะลูกพี่ บางทีไอ้เด็กคนนี้อาจจะไม่สำคัญก็ได้”

“ข้าว่าพวกมันกลัวมาติดกับมากกว่า แต่จะอย่างไรก็ช่างเถอะกันไว้ดีกว่าแก้ กลับไปถึงเกาะแล้วค่อยฆ่ามันก็ยังไม่สาย มัดมันให้ดีแล้วจับยัดในห้องท้ายเรือ เราต้องรีบกลับบ้านก่อนที่มรสุมจะมา เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แล้วพวกเอ็งก็มาทำแผลให้ข้าด้วย” หัวหน้าโจรสั่งการ

ลูกน้องคนหนึ่งของมันเลยดึงวาวพลอยให้ลุกขึ้น และพาไปยังห้องเล็กๆ ทางท้ายเรือ ใช้เชือกมัดมือมัดเท้าของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนที่พวกมันจะพากันกลับไป

ร่างบอบบางนั่งคุดคู้อยู่มุมห้องเล็กๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น แม้ตอนนี้จะเป็นยามเช้า แสงตะวันสาดส่องลอดช่องเล็กๆ ด้านบนของผนังเรือลงมาเป็นลำ แต่หัวใจของหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โจรพวกนี้อาจจะฆ่าเธอตายเมื่อไหร่ก็ได้

ถึงแม้ทีมของหัสตะจะไม่ตามมาช่วยเธอก็คงว่าอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็อยากให้โก๋ปลอดภัย ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย การเข่นฆ่า วาวพลอยไม่อยากให้ใครเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเธออีก

เพราะแค่หัสตะคนเดียวก็เพียงพอแล้ว คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาของหญิงสาวก็ไหลรินอาบแก้มด้วยความเสียใจ แม้ว่าเธอกับเขาจะพึ่งเจอกัน แต่ความจริงก็คือไม่ควรมีใครมาเสียชีวิตด้วยเรื่องของเธอ

ในห้วงอารมณ์อันอ่อนไหวนั้น วาวพลอยคิดไปถึงนางอัมพร และบิดา มารดาที่แท้จริง

‘แม่จ๋า ช่วยพลอยด้วย เสด็จพ่อ เสด็จแม่ช่วยลูกด้วยเถิด’ เจ้าของร่างบอบบางพร่ำวอนอยู่ภายในใจ

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เธอนั่งจั่งจมอยู่ในห้องนั้น จนกระทั่งเสียงแกรกกรากดังมาจากหน้าประตู หญิงสาวคิดว่าคงเป็นพวกโจร จึงแสร้งทำเป็นหลับ เสียงประตูดังแผ่วเบากว่าที่ควรจะเป็น

“คุณ ตื่นได้แล้ว” เสียงกระซิบคุ้นหูนั้น ทำให้วาวพลอยรีบลืมตาขึ้นในทันที

“คะ...คุณ นี่คุณยัง... ” และภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวเบิกตาโต

“ชู้ว์ เบาๆ สิ เดี๋ยวพวกมันก็ได้ยินหรอก” หัสตะพูดพลางใช้มีดพกตัดเชือกที่มัดมือมัดเท้าของวาวพลอยออก

“ฉันไม่เห็นคุณที่เรือ ฉันนึกว่าคุณตายแล้วเสียอีก” หญิงสาวรีบพูดขึ้น น้ำตาคลอเอ่อขึ้นมาอีกครั้งด้วยความดีใจ แต่ก็พยายามออมเสียงอย่างเต็มที่

“ผมลอบขึ้นเรือมันก่อนที่พวกมันจะพาตัวคุณขึ้นมา แล้วก็รอโอกาสเหมาะๆ ที่จะเข้ามาช่วยคุณนี่แหล่ะ ตอนนี้เราต้องไปกันแล้ว” ชายหนุ่มฉวยข้อมือบางให้ลุกขึ้น

“ไป...ไปยังไงคะ พวกมันเหลือกันตั้งสี่-ห้าคนนะคะ” วาวพลอยถาม พลางลุกขึ้นยืนเคียงเขา

“เดี๋ยวมันก็ไม่เหลือ ตามผมมา” เขาพูดพร้อมดึงมือหญิงสาว

แล้วจึงค่อยๆ ย่องออกจากห้องนั้น พอมาถึงด้านนอก พบโจรที่ไม่ได้รับบาดเจ็บยืนเฝ้ายามอยู่คนหนึ่ง และมันก็หันมาทางคนทั้งคู่พอดี

“เฮ้ย! มาได้ยังไงวะ” มันชักปืนสั้นออกมาจากซอกเอว แต่หัสตะปราดเข้าไปเตะจนปืนกระเด็นตกน้ำไป

“มีคนบุกรุก มีคนบุกรุก! ” มันตะโกนไปพลาง พร้อมกับรับหมัดของหัสตะไปพลาง

ในเวลาไม่กี่นาทีเสียงฝีเท้าก็กรูกันเข้ามา วาวพลอยหันไปมองก็เห็นพวกโจรสลัดห้า-หกคน แม้จะมีบางคนที่บาดเจ็บ แต่ก็มีอาวุธครบมือ

“พวกมันมากันแล้ว!! ” เธอรีบตะโกนบอกหัสตะ

“ฆ่ามัน!! ” หัวหน้าโจรสลัดตะโกนสั่งดังลั่นด้วยความเดือดดาล

เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับที่หัสตะซัดลูกน้องโจรล้มลงพอดี เขารีบวิ่งมาหาหญิงสาวที่ก้มลงหลบลูกกระสุนพวกโจรที่ยิงกราดไปทั่ว มือหนาจับมือของวาวพลอยเอาไว้มั่น

“กระโดด!! ” ชายหนุ่มสั่งพร้อมกับดึงแขนของหญิงสาวให้กระโดดตามลงไปในน้ำ ก่อนพวกโจรจะเข้ามาถึงตัวได้เพียงเฉียดฉิว

ร่างทั้งสองตกลงกระทบผิวน้ำเสียงดังสนั่น น้ำแตกซ่านกระเซ็น ห่ากระสุนถูกสาดตามหลังมาไม่หยุดหย่อน ขณะร่างของทั้งคู่จมลงไปใต้น้ำ น้ำทะเลสีครามได้โอบกอดคนทั้งสองเอาไว้

ท่ามกลางห่ากระสุนที่ยังตามลงมา หัสตะดึงร่างของหญิงสาวให้จมดิ่งลงไปเรื่อยๆ เพื่อหลบลูกกระสุน แต่เพียงไม่นานวาวพลอยก็

ทุรนทุรายด้วยอาการหายใจไม่ออก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจประกบปากกับปากของหญิงสาวเพื่อช่วยเธอให้หายใจอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น

ผ่านไปไม่กี่วินาทีเสียงอะไรบางอย่างดังตูมขึ้นตรงทิศทางที่เรือลอยลำอยู่ แรงของมันก่อเกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ซัดร่างของทั้งสองที่อยู่ใต้น้ำ ให้ลอยออกห่างจากเรือมากยิ่งขึ้น หัสตะจึงพาหญิงสาวพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ

ทั้งคู่หายใจเฮือกแรกอย่างแรง วาวพลอยรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ยังไงยังงั้น เธอพยุงตัวอยู่บนน้ำโดยมีร่างใหญ่คอยประคอง แต่พอหันไปมองเรือที่อยู่ไกลไปหลายเมตร หญิงสาวถึงกับเบิกตาค้าง เพราะไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

“นี่ อย่าบอกนะคะว่าเสียงเมื่อกี้คือระเบิด” วาวพลอยถามเพื่อความแน่ใจ

“ใช่ ผมเป็นคนวางเอง อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย คุณว่ายน้ำไหวไหม เราอยู่ใกล้ฝั่งแล้ว” เขาบอกและถามอยู่ในที

และเกาะหนึ่งก็ปรากฏอยู่ในสายตา มันอาจดูไม่ไกล แต่หากต้องว่ายเข้าไปก็คงหนักหนาเอาการ โดยเฉพาะในสภาพที่ร่างกายอ่อนแรงเช่นนี้ แต่วาวพลอยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำเสียงรับในลำคอ

ก่อนจะออกตัวว่ายน้ำตรงไปยังเกาะที่อยู่ตรงหน้า โดยชายหนุ่มคอยว่ายตามมาประคองอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งใกล้ถึงฝั่งวาวพลอยก็หมดแรงลงไปเสียดื้อๆ

“ฉะ...ฉันไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวบอกเขาด้วยเสียงขาดเป็นห้วงๆ จมูกเริ่มปริ่มน้ำ



“เกาะผมเอาไว้ อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว อดทนไว้นะ” ชายหนุ่มรั้งตัวเธอมาใกล้ หญิงสาวจึงเกาะไหล่เขาเอาไว้ ขณะที่หัสตะออกแรงว่ายน้ำอีกครั้ง




**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzO
jc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyO
TE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B
8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%
87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2559, 20:42:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2559, 20:42:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 889





<< บทที่ 10   บทที่ 12 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account