มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 12




เพียงไม่นานหลังจากนั้น หัสตะก็พาหญิงสาวมาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย วาวพลอยรีบเกาะหินขรุขระเอาไว้โดยเร็ว ชายหนุ่มประคองเธอขึ้นจากน้ำอย่างยากลำบาก พอขึ้นไปอยู่บนโขดหินได้ ทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอนเกือบพร้อมกัน ต่างแข่งกันหายใจหอบแรงอยู่อย่างนั้น

“พวกโจรสลัดคงตายหมดแล้วใช่ไหมคะ” วาวพลอยถามขึ้น หลังจากความเหนื่อยล้าบรรเทาลง และหายใจได้เป็นปกติ

เธอหันไปมองเรือโจรสลัดที่เอียงกะเท่เร่อยู่กลางทะเล อีกทั้งไฟก็กำลังลุกไหม้โหมกระพือรุนแรง ไม่มีวี่แววสิ่งมีชีวิตใดๆ ให้เห็นเลย

“ถ้าพวกมันโชคดีไม่ถูกไฟไหม้ ก็คงจะจมลงสู่ใต้ทะเลในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี่แหล่ะ” หัสตะตอบ

พลางละสายตาจากเรือมามองคนข้างตัว ก็เห็นแววตาที่แสดงความรู้สึกบางอย่างของหญิงสาว เขายิ้มบางๆ ก่อนว่า

“ความเมตตาสงสารมันเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่บางครั้งการทำใจยอมรับชะตากรรมของผู้คน ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนเป็นเจ้าหญิงนะคุณ”

“ฉันรู้ว่าคนพวกนั้นเป็นคนชั่ว แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นใครตายไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้” วาวพลอยพูดโดยไม่หันไปมองเรือกลางทะเลอีก

“หากเราไม่ทำ พวกมันก็จะเป็นฝ่ายฆ่าเรา มันเป็นพื้นฐานการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิต” ชายหนุ่มบอก ซึ่งมันก็เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธได้ โดยเฉพาะในตอนนี้ วาวพลอยหันไปสบตาเขา

“ฉันเข้าใจ เพียงแต่มันทำใจไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง ฉันคิดไปถึงวินาทีที่คิดว่าคุณตายตอนที่อยู่บนเรือของเรา และฉันก็รู้สึกผิดมาก ฉันคิดว่าให้ฉันตายดีกว่าที่จะให้พวกคุณมาสละชีวิตเพื่อฉัน ไม่ว่าฉันจะเป็นแค่คนธรรมดาหรือเจ้าหญิงก็ตาม” หญิงสาวพูดจากความรู้สึกที่แท้จริง นั่นส่งผลให้คนฟังยิ้มกว้าง

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ตอนนี้ผมยังมีชีวิตอยู่ และคุณเองก็ยังมีชีวิตอยู่ นั่นต่างหากที่สำคัญ” หัสตะบอก รอยยิ้มสว่างไสวยังไม่จางไปจากใบหน้า จนวาวพลอยต้องยิ้มตอบไป

“ขอบคุณนะคะที่เสี่ยงชีวิตมาช่วยฉัน” พร้อมกับคำขอบคุณ

“มันเป็นหน้าที่ของผม ผมบอกแล้วไงว่า จะพาคุณไปถึงริตถาวดีให้ได้ ผมจะทำด้วยชีวิตของผม” เขาพูดพร้อมสบตาคู่หวานซึ้งนั้น เหมือนต้องการจะยืนยันสิ่งที่พูดไป

วาวพลอยสัมผัสได้ถึงความจริงจัง จริงใจที่ชายหนุ่มสื่อมาให้รับรู้ และมันก็ทำให้เธออุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจ หญิงสาวจึงกล่าวคำขอบคุณอีกครั้งเบาๆ ก่อนจะหันมาสนใจสิ่งรอบข้างอีกครั้ง

“เอ่อ... แล้วเราจะทำยังไงกันต่อไปคะ” หญิงสาวตั้งคำถามพลางมองไปรอบๆ ตัว

ที่มีเพียงโขดหินกินพื้นที่กว้างออกไป แต่ก็พอมองเห็นต้นไม้อยู่บนเนินลิบๆ ด้านบน ซึ่งคงจะเป็นป่า อากาศรอบข้างเริ่มมืดครึ้มลงอย่างฉับพลันทันใด

“ผมว่าเราต้องหาที่หลบพายุกันก่อน” หัสตะว่าพลางกวาดสายตามองไปยังท้องฟ้า ที่มาตอนนี้มีเมฆดำทะมึนบดบังแสงของกลางวันไปทั่ว

“คุณเห็นยอดเนินตรงนั้นไหม เราจะไปหาที่หลบกันตรงนั้น อย่างน้อยคงดีกว่าอยู่ในที่โล่งๆ แบบนี้ คุณไหวหรือเปล่า” เขาลุกขึ้น ส่งมือให้เธอจับพลางถาม

วาวพลอยมองมือใหญ่ที่ส่งมา พร้อมพยักหน้าและจับมือเขาเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึง

จากนั้นทั้งคู่ก็ทั้งเดินทั้งปีนไปตามโขดหินตะปุ่มตะป่ำ หลากหลายขนาดอย่างรีบเร่ง แสงแห่งวันหายไปอย่างรวดเร็วพอกัน พร้อมทั้งลมกรรโชกแรง

ก่อนที่สายฝนจะกระหน่ำเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว พายุฝนที่ปะทะร่าง ทำให้หญิงสาวแทบปลิวไปตามแรงลม แต่ร่างใหญ่รั้งเธอเข้ามาแนบกับตัวเขา พาก้าวไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก

เม็ดฝนสาดซัดปะทะใบหน้าให้ความรู้สึกเจ็บราวกับมีใครปาทรายเม็ดเขื่องเข้าใส่ อีกทั้งความเย็นก็ทำให้ใบหน้าของวาวพลอยชาไปหมด แต่ทว่าบริเวณรอบข้างตอนนี้ยังเป็นเพียงกลุ่มหินโล่งๆ ไม่มีที่พอจะให้หลบพายุฝนได้เลย

ชายหนุ่มยังคงพาร่างบอบบางก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ แม้จะแทบยกขาไม่ขึ้นแต่วาวพลอยก็ไม่เคยล้ม เพราะเจ้าของร่างใหญ่ที่ประคองเธอแนบชิดจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันนั่นเอง

ท่ามกลางพายุฝนที่ยังกระหน่ำ เม็ดฝนปะทะใบหน้าเย็นเฉียบ หัสตะพยายามมองฝ่าม่านฝน และหยาดน้ำที่ไหลลงมาตามใบหน้า เห็นโขดหินใหญ่อยู่ด้านหน้า มันเป็นชะง่อนผาที่ต่อกับเขตป่าด้านหลัง เขาจึงไม่รอช้า ประคองร่างบอบบางตรงไปยังโขดหินใหญ่ทันที

แต่ทว่าพอก้าวเข้าไปใต้ชะง่อนผาที่กว้างราวสามเมตร สายตาของทั้งคู่ก็ปะทะกับอะไรบางอย่างสีดำมันวาว ดวงตาของมันมีสีแดง เสียงขู่ฟ่อดังแทรกเสียงลมพายุด้านนอก

“งะ...งู” วาวพลอยเบิกตาค้างเมื่อเห็นร่างยาวสีดำนั้นอย่างเต็มตา มันใหญ่กว่าแขนของเธอเสียอีก หัสตะหยุดอยู่กับที่

“ไปหลบตรงนั้น อย่ากระดุกกระดิกนะ” เขาดันร่างบอบบางให้หลบไปด้านข้างพลางสั่ง

แม้จะเหนื่อยแค่ไหนวาวพลอยก็ค่อยๆ พาตัวเองมาหลบอยู่ด้านข้างชะง่อนผา ใจหวิวไหว ร่างบางสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บและหวาดกลัว

หัสตะค่อยๆ ก้าวเข้าไปหางูเห่าตัวนั้นอย่างช้าๆ เขาจ้องตามันไม่กระพริบ อสรพิษตัวนั้นแผ่พังพานออก วินาทีที่มันพุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่ม เขาก็หลบไปด้านข้าง

และคว้าหางของมันฟาดเข้ากับพื้นหินอย่างรวดเร็ว หัวงูปะทะกับพื้นอย่างแรงจนเลือดกระฉูด วาวพลอยกรีดร้องเสียงหลงท่ามกลางพายุฝน งูเห่าตัวนั้นแน่นิ่งไปในทันที

หัสตะโยนซากของมันทิ้งไป เขาหันไปหาวาวพลอยที่มาตอนนี้ทรุดตัวลงนั่ง เกาะโขดหินเอาไว้อย่างอ่อนแรง

“คุณ... ” ชายหนุ่มรีบก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เขาช้อนเอาร่างบอบบางนั้นขึ้นมาอุ้ม พาเข้ามาในชะง่อนผาทันที แต่ทว่าหญิงสาวหมดสติไปเสียแล้ว

ภายในชะง่อนผาที่กว้างและยาวเกือบสามเมตร มีลักษณะคล้ายโพรงถ้ำ สามารถบังพายุฝนที่ซัดกระหน่ำได้เป็นอย่างดี หัสตะจึงวางใจได้ แต่ทว่าสิ่งที่หนักใจก็คือร่างบอบบางที่เขาพึ่งจัดให้นอนลงกับพื้นต่างหาก เธอยังไม่มีทีท่าจะฟื้น

ชายหนุ่มเข้าใจดีว่าด้วยสิ่งที่เจอมามันทำให้สภาพร่างกายที่ไม่ได้รับการฝึกฝน หรือเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเหล่านั้นทนไม่ไหวจนต้องสลบไปอย่างนี้ ถ้าเป็นเพื่อนหรือเป็นผู้ชาย เขาคงไม่ลังเลที่จะทำอะไรสักอย่างลงไปเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัว

แต่นี่เธอเป็นหญิงสาว แถมยังมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าหญิงแห่งริตถาวดี แน่นอนว่าชีวิตของหัสตะไม่เคยทำภารกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของผู้หญิงคนหนึ่งตามลำพังอย่างนี้มาก่อน อย่างน้อยต้องมีเพื่อนที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกันหลายคน

ด้วยเหตุนี้เขาจึงรับจิญจายะเข้าร่วมทีมด้วย แต่ตอนนี้ต่อให้สิบจิญจายะก็ช่วยอะไรไม่ได้เสียแล้ว ชายหนุ่มมองร่างบอบบางที่กำลังสั่นสะท้านแม้ในยามไร้สติ

หน้าซีดขาวราวกระดาษและปากก็คล้ำไปหมด เป็นเหตุให้หัสตะต้องพยายามตัดความตะขิดตะขวงใจทั้งหลายแหล่ออกไปในที่สุด

“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง




**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntz
Ojc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyOTE
2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B
8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%
87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ค. 2559, 15:01:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2559, 15:01:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 819





<< บทที่ 11   บทที 13 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account