ปาฏิหาริย์รักหัวใจดวงเดิม
เขา...คือคนที่เธอรัก
เธอ...คือคนที่ใช้หัวใจของคนที่เขารัก

ปลายฝันหญิงสาวผู้โชคร้ายที่เกิดมาพร้อมกับโรคหัวใจ เธอต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่อย่างเร่งด่วน
เมื่อโชคเข้าข้าง หัวใจดวงใหม่ที่ได้รับกับนำเธอให้ได้พบกับใครคนหนึ่งที่หัวใจดวงนี้บอกว่าคุ้นเคย
เธอจะทำอย่างไรต่อไปจะเดินไปตามที่หัวใจเรียกร้อง หรือเดินไปทางที่เธอจะเป็นคนลิขิตเอง......
Tags: หัวใจ

ตอน: ตอนที่ 8

เช้าวันใหม่ที่สดใสอีกวันหนึ่งของฉัน เริ่มต้นขึ้น วันนี้ฉันตื่นแต่เช้ากว่าทุกวัน ต้นดอกกาสะลองดอกเริ่มบางลงแล้ว ด้วยมันหล่นลงมาตามกาลเวลา ฉันเลือกเก็บเอาดอกที่หล่นลงมาที่ยังไม่หล่นถึงพื้น ตอนนี้ก็ได้เต็มกำมือพอดี ฉันบรรจงใส่ดอกกาสะลองที่เก็บมาลงในกรวยใบตองที่เตรียมไว้ การที่ฉันทำแบบนี้ถึงแม้ว่าคนรับเขาจะไม่รู้ว่าคนที่ให้เป็นใคร แต่ฉันก็มีความสุขที่ฉันได้ทำแบบนี้ให้กับเขา ผู้ชายคนที่ฉันอบอุ่นทุกครั้งที่ได้เห็นเขาถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การที่ได้แอบมองอยู่ห่างๆก็ตาม อบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้แม้เป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่ใกล้ชิด แต่ความรู้สึกนั้นเหมือนกับว่าฉันผูกพันกับผู้ชายคนนี้มากกว่าเพื่อเก่าธรรมดาๆ
ที่หน้าโรงพยาบาลเวลาเช้าที่ร้างผู้คน ฉันเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อส่งช่อกาสะลองอย่างที่เคยทำทุกๆวัน
“พี่พยาบาลคะ”
“อ่าวคุณน้องมาอีกแล้วหรอคะ”
“ฝากให้หมอด้วยนะคะ”
ฉันยื่นช่อกาสะลองให้กับพี่พยาบาล แต่มือที่ยื่นมารับเอาช่อกาสะลองนั้นไม่ใช้มือของพี่พยาบาลแต่เป็น...หมอธันวา
“.........”
ไม่มีเสียงใดเกิดขึ้นมือฉันยังคงจับที่ช่อดอกกาสะลองเหมือนเดิมในขณะที่มือของหมอก็ยังคงจบที่ช่อกาสะลองนั้นเช่นกัน
“หมดธุระแล้วฉันของตัวก่อนนะคะ”
ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว มือฉันสั่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วสติก็ดับลง
…………………………………………………………………………….................
..... “ขอบคุณนะคะที่คุณตามหาหัวใจฉันเจอ”
เธอคนนั้นอีกแล้ว หมายความว่าอย่างไร ตามหาหัวใจของฉันจนเจอ หัวใจของเธอฉันจะเจอได้อย่างไรกัน หัวใจของเธอก็ต้องอยู่กับเธอสิ อ่าวแล้วนั่นจะไปไหนแล้วล่ะ เดี๋ยวก่อนสิยังไม่รู้เรื่องเลย สิ่งที่เธอพูด พยายามบอกฉันมันคืออะไรกันแน่ .......
....................................................................................................................................
ฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องพักที่ดูเหมือนจะเป็นห้องตรวจซะมากกว่า เขานั่งที่โต๊ะทำงานของเขา บนโต๊ะมีช่อดอกกาสะลองที่ฉันถือมาหวังแอบให้เขาผ่านทางคุณพยาบาล แต่วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เขากับเป็นคนมารับช่อดอกกาสะลองจากฉันกับมือ แบบที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว
“คุณฟื้นแล้วหรอ”
“.......”
“คุณโอเคนะ”
ฉันได้เพียงพยักน้าตอบเขาไปเท่านั้น ก็ใครจะไปกล้าคุยด้วยล่ะ เล่นจับได้ซะเต็มๆขนาดนี้ เป็นใครที่ไหนก็ต้องมีอายกันบ้างแหละ
“ผมรู้จักคุณมั้ย”
“..........”
“เอ่อ...คือผมหมายความว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
“เอ่อ...คุณ..ช่วยทำแผลให้ฉันตอนอยู่ที่หมู่บ้าน”
“ออ...คุณนั่นเอง แต่ผมก็ไม่มั่นใจอยู่ดี”
“ไม่มั่นใจ”
“ผมคิดว่าเราน่าจะต้องรู้จักกันมากกว่าแค่ที่หมู่บ้าน เพราะว่า....ดอกไม้พวกนี้...มันทำให้ผมรู้สึก..คุ้น”
“เอ่อ...ค่ะ ฉันขอตัวกลับนะคะ”
ฉันลุกขึ้นในทันที ด้วยว่าพึ่งฟื้นจากการเป็นลม จึงทำให้พื้นที่ฉันยืนอยู่มันไม่ค่อยตรงเฉยๆซะอย่างนั้น ยังโชคดีกว่าตอนที่หมู่บ้านที่ครั้งนี้เขาเขามาพยุงฉันไว้ได้ทันก่อนที่จะได้ลงไปวัดพื้นโรงพยาบาล
“คุณไม่น่าลุกเร็วขนาดนี้”
“ขอบคุณมากนะคะ คือ ฉันต้องขอตัวกลับแล้วล่ะค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิคุณปลายฝัน”
เขาเรียนชื่อฉัน ใช่เขากำลังเรียกชื่อฉัน เขาจำฉันได้ ฉันหันกลับไปมองหน้าเขา ฉันไม่รู้ว่าอารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้าของฉันตอนนี้เป็นอย่างไร ฉันรู้แต่เพียงว่าฉันรู้สึกเต็มตื่นอย่างบอกไม่ถูก
“คุณเขียนไว้ในโน้ตที่คุณให้มาพร้อมกับกาสะลองช่อที่แล้ว”
“.........ค่ะ...”
“ตกลงคุณบอกผมได้ไหมครับว่าเรารู้จักกันก่อนหน้านี้หรือเปล่า คือผมเริ่มรู้สึกคุ้น...”
“เอ่อ...ไม่หรอกค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันรีบหันหลังให้เขาก่อนที่ก้อนที่มันจุกแน่นอยู่ที่อก จะกลั้นไว้ไม่อยู่ แล้วมันก็ไหลออกมาเป็นหยาดน้ำใส ไหลอาบสองแก้มของฉัน ความรู้สึกน้อยใจ เสียใจ อะไรอีกมากมายที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เขาจำเราไม่ได้จริงๆ ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจำฉันไม่ได้หรอก ก็มันผ่านมานานแล้วนิ่ ใครยังจำได้บ้าแล้ว
“ผมหวังว่า...เอ่อ...พรุ่งนี้ผมคงเห็นดอกกาสะลองวางไว้ที่โต๊ะทำงานผมเหมือนทุกวันนะครับ”
ฉันหยุดอยู่ที่ประตูมือจับที่ลูกบิด ฉันไม่หันกลับไปมองเขา ไม่มีคำตอบจากปากฉันแต่ความตื้นตันใจกลับมาอีกครั้ง ฉันไม่สามารถตอบเขาได้หรอกว่าพรุ่งนี้ฉันยังจะกล้ากลับมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ได้ไหม....



..................................................................................................




วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าก็จริงแต่ไม่ได้ออกไปเก็บกาสะลองอย่างทุกวัน ด้วยเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทำให้ฉันลังเลว่าฉันจะทำอย่างไรต่อไป ฉันจะกล้าไปเจอหน้าเขาอีกครั้งได้อย่างไร ในขณะที่ตัวฉันเองแข็งขันที่จะไม่ไปไปที่โรงพยาบาลอีก ไม่ไปให้เขาเห็นหน้าด้วยเหตุผลที่ว่า ความอายยังคงวนเวียนอยู่ในหัว แต่หัวใจของฉันกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันกำลังเรียกร้องให้ฉันกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง กลับไปหาเขาอีกครั้ง ฉันจะทำอย่างไร ทำตามความต้องการของตัวฉัน หรือเลือกที่จะกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งตามคำสั่งของหัวใจ
“วันนี้ไม่ออกไปไหนหรอคะคุณฝัน”
“กำลังคิดอยู่ค่ะว่าจะไปดีไหม”
“ก็เห็นไปทุกวัน วันนี้ไม่ไปคุณหมอก็รอแย่สิคะ”
“ไม่หรอกค่ะ เขาไม่รอหรอก”
“ใครจะไปรู้ ตอนนี้คุณหมออาจกำลังชะเง้อคอยาวอยู่หน้าโรงพยาบาลก็ได้”
“......”

ผมไม่รู้ว่าทำไมผมต้องรอด้วย รออะไรน่ะหรอก็รอช่อกาสะลองเหมือนที่เคยน่ะสิ แต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้พระอาทิตย์ก็ลอยเกือบจะตรงศีรษะ แต่ช่อกาสะลองก็ยังไม่มาถึง หรือเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ผมก็ยังสงสัยในตัวผมเองเช่นกันว่าทำไมผมต้องรอด้วย ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้รู้จักกันไปมากกว่าคนที่ผ่านเข้ามาเท่านั้น แต่อะไรบางอย่างก็บอกกับผมว่ามันมากกว่านั้น ผมรู้สึกคุ้นเคยกับการกระทำและใบหน้าของเธอ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกสักที และบางครั้งครั้งมันก็ทำให้ผมคิดถึงคนจากไปไกลแสนไกล อะไรบางอย่างบอกผมว่าคนที่ผมคิดว่าไม่ได้เจอกันอีกแล้วในชีวิต คนที่จากไปในที่อันแสนไกลคนนั้น กำลังจะกลับมาอยู่ใกล้ๆผมอีกครั้ง แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันในเมื่อเธอคนนั้นไม่มีวันที่จะกลับมา
“หมอคะ เที่ยงแล้วนะคะไม่ออกไปทานอะไรหน่อยหรอคะ”
“ออ...เที่ยงแล้วหรอครับผมลืมเวลาไปเลยนะเนี่ย”
“หมอจะออกไปทานข้าวเที่ยงเลยไหมคะ”
“คนไข้หมดแล้วหรอครับ”
“ค่ะเหลือที่นัดตอนบ่ายสามสี่คนค่ะถ้าไม่มีฉุกเฉินมาเพิ่มนะคะ”
“ครับถ้าอย่างนั้นผมฝากพี่ฉายซื้อแซนวิสแล้วก็กาแฟเย็นให้ด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะคุณหมอ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
พี่ฉายหัวหน้าพยาบาลของที่โรงพยาบาลนี้เดินออกไปแล้วปิดประตูลงให้ผมตามเดิม พี่ฉายเป็นพยาบาลที่มาทำงานที่นี่ตั้งแต่จบใหม่ๆจนตอนนี้อายุก็ล่วงเลยเข้าเลขสี่แล้วก็ยังไม่ย้ายไปที่ไหน ด้วยที่นี่เป็นเสมือนบ้านเกิดเมืองนอนของเธอก็ว่าได้ ผมย้ายเข้ามาที่นี่ใหม่ๆก็ได้พี่ฉายนี่แหละดูแลเรื่องที่อยู่ที่กินให้ผมจึงค่อนข้างที่จะสนิทกับพี่ฉายและนับถือกันเป็นพี่น้องนับแต่นั้นมา
ก๊อก...ก็อก...ก็อก
เสียงเคาะประตูเป็นสัญญาณบอกว่ามีคนมา พี่ฉายทำไมกลับมาเร็วจังทั้งที่พึ่งออกไปได้ไม่ถึงสิบนาที หรือกลัวว่าเราจะหิวเลยซื้อมาให้ก่อนแล้วค่อยจะออกไปกินข้างเที่ยง
“เชิญครับ”
“..........”
“ทำไมกลับมาเร็วจังล่ะครับ กลัวผมหิวจนตาลายหรือครับพี่ฉาย”
ผมพูดไปทั้งที่ยังไม่ได้หันหน้ามามองด้วยซ้ำว่าคนที่เข้ามาใหม่ใช่พี่ฉายหรือไม่ ด้วยว่ากำลังเก็บอุปกรณ์การตรวจเข้าที่อยู่ เมื่อผมหันหน้ากลับมาที่โต๊ะ ก็มีช่อกาสะลองซึ่งในนั้นมีดอกกาสะลองอยู่สามสี่ดอกเท่านั้น ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อมองว่าคนเข้ามาใหม่ไม่ใช่พี่ฉายแต่เป็น ใครอีกคน คนที่ส่งช่อกาสะลองให้ผมทุกวันในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ผมนึกว่าวันนี้จะไม่ได้ซะแล้ว”
“....”
“อ่าวเป็นใบ้ไปซะงั้น”
“ฉันไม่ได้เป็นใบ้นะคะ”
“ก็เห็นเงียบ”
“ไปเก็บมันตอนสายมากแล้วได้แค่นี้แหละค่ะ มันเหี่ยวเพราะโดนแดดหมดเลย”
“ขอบคุณมากนะครับ มันทำให้ผมยิ้มได้”
“.....”
“จริงๆนะไม่รู้ทำไม”
“นี่คุณยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงใช่ไหมคะ”
“ครับ ทำไมคุณรู้ล่ะครับ”
“ก็ตอนที่ฝันเข้ามาคุณพูดอะไรซักอย่าง หิวจนตาลาย”
“ออ ครับ นั่นน่ะสินะผมนึกว่าเป็นพี่พยาบาลที่ผมฝากซื้อของน่ะครับ”
“ออ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฝันไม่กวนแล้วล่ะค่ะ”
“แล้วคุณฝันทานอะไรมาหรือยังครับ”
“......”
“ถ้าไม่รังเกียจไปทานด้วยกันนะครับ”
“แล้วคุณไม่ต้องรอของกินที่ฝากพี่พยาบาลซื้อหรือคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับเอาไว้กินตอนบ่ายๆก็ได้”
จากนั้นผมก็ได้มานั่งที่ร้านอาหารขนาดเล็กๆ เล็กมากๆที่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก เป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่ผมคุ้นเคยเพราะมีโอกาสได้เข้ามาทานบ่อยๆ การร่วมรับประทานอาหารมื้อแรกของเราผ่านไปด้วยดี เธอเป็นคนง่ายๆ หลังจากที่ได้พุดคุยกันมากขึ้น ผมได้รู้ว่าเธอเป็นคนกรุงเทพฯเหมือนกันกับผม เธอมาอยู่ที่นี่เพื่อมาพักผ่อน ด้วยสุขภาพที่พึ่งผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจมาเมื่อเดือนก่อน การที่ได้มาพบกับบรรยากาศดีๆก็ทำให้สุขภาพของเธอดีเร็วขึ้น เรามีโอกาสได้พูดคุยกันในหลายๆเรื่อง เรามีชีวิตที่แตกต่างกันในขณะที่เธอมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่โรงพยาบาลแต่ผมมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียน การเรียนหนังสือและการได้อยู่กับเพื่อนๆทำให้ผมมีความสุข ผมรู้สึกว่าความคุ้นเคยได้เพิ่มมากขึ้น ผมเริ่มมั่นใจว่าผมรู้จักกับเธอคนนี้เพียงแต่ตอนนี้ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออกเท่านั้นว่าผมเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน

อาหารมื้อแรกที่ได้ร่วมโต๊ะกัน การพูดคุยที่มีมากขึ้น เขายังคงเหมือนเดิม ทั้งท่าทาง การพูด และรอยยิ้ม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมนอกเหนือไปจากนั้นฉันก็ยังสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยความอบอุ่นและหัวใจที่เหมือนจะไม่พักดีเอาเสียเลย มันเต้นแรงกว่าทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเหมือนอย่างเคย เหมือนหัวใจดวงนี้กำลังบอกกับฉันว่ามันกำลังดีใจและมีความสุขเหลือเกิน


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>...............................<<<<<<<<<<<<<



นางสาวปลาดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2554, 20:29:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2554, 20:30:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1800





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
ชามาณัฎฐ์ 3 ส.ค. 2554, 21:36:04 น.
มาให้กำลังใจจ้า


รอให้เป็นเล่ม 4 ส.ค. 2554, 07:55:34 น.
มาตามอ่านค่ะ


anOO 4 ส.ค. 2554, 18:26:05 น.
คงต้องทำความคุ้นเคยกันอีกพักใหญ่
หัวใจถึงจะไม่เจ็บปวด ^^


ไม้เอก 1 พ.ย. 2554, 21:40:59 น.
เมื่อไหร่จะมาต่ออีกหละค่ะ :)
เปนกำลังใจให้นะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account