ปาฏิหาริย์รักหัวใจดวงเดิม
เขา...คือคนที่เธอรัก
เธอ...คือคนที่ใช้หัวใจของคนที่เขารัก

ปลายฝันหญิงสาวผู้โชคร้ายที่เกิดมาพร้อมกับโรคหัวใจ เธอต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่อย่างเร่งด่วน
เมื่อโชคเข้าข้าง หัวใจดวงใหม่ที่ได้รับกับนำเธอให้ได้พบกับใครคนหนึ่งที่หัวใจดวงนี้บอกว่าคุ้นเคย
เธอจะทำอย่างไรต่อไปจะเดินไปตามที่หัวใจเรียกร้อง หรือเดินไปทางที่เธอจะเป็นคนลิขิตเอง......
Tags: หัวใจ

ตอน: ตอนที่ 9

“เก็บของเสร็จรึยังคะคุณฝัน รถเขามารอแล้วนะคะ”
“เสร็จแล้วค่ะลงไปเดี๋ยวนี้”
ข้าวของที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนขามา ทำให้ต้องใช้เวลาในการเก็บค่อนข้างนาน ทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งภาพวาดที่ฉันให้เวลาส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ไปกับมัน ซึ่งถูกฉันห่ออย่างดีด้วยกระดาษหนาสีน้ำตาล ของทุกอย่างถูกขนขึ้นรถที่พี่เอื้องว่าจ้างคนที่รู้จักในหมู่บ้าน เพื่อนำส่งที่กรุงเทพฯ ส่วนฉันและพี่เอื้องขึ้นรถอีกคันเพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินเชียงใหม่
ฉันเดินทางมาที่นี่ด้วยหวังรักษาร่างกายที่ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ และแรงบันดาลใจในการวาดรูปส่งร้านพี่เชน แต่ฉันกลับได้ของแถมมากมาย ทั้งการที่ได้พบกับหมอธันวาอีกครั้ง อีกทั้งความสัมพันธ์ที่คืบหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะจำเราไม่ได้ก็ตาม และอีกอย่างคือ การที่ฉันได้รับรู้และมั่นใจว่าหัวใจดวงใหม่ที่ได้รับมาจะต้องมีความผูกพันกับหมอธันวาเป็นแน่ ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าหัวใจดวงใหม่ดวงนี้เป็นของใคร แล้วมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับหมอธันวา...

“นั่งเงียบมาตบอดทางเลยนะคะคุณฝัน”
“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนิ่คะ”
“ไม่ใช่คิดถึงคุณหมอสุดหล่อที่โรงพยาบาลชุมชนหรือคะ”
“รู้ทันจังนะคะพี่เอื้อง”
“แน่นอนสิคะ เราอยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้วคะคุณฝัน”
ฉันไม่พูดอะไรต่อนอกจากมองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบิน ที่กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร
ตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกับการเดินทางจากเชียงใหม่ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ฉันนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งในความฝันและความจริงที่ฉันเคยให้หัวใจดวงนี้นำทางเพื่อไปในที่ต่างๆที่ฉันไม่รู้จักแต่รู้สึกคุ้นเคย รวมทั้งความรู้สึกมากมายที่อธิบายไม่ได้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันได้ใกล้ชิดกับหมอธันวาตลอดสองอาทิตย์ที่เชียงใหม่ แต่ฉันก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตนเองได้ว่าฉันจะเริ่มต้นตามหาที่มาของหัวใจดวงนี้ได้จากที่ไหน...

ผมถูกเรียกตัวกลับกรุงเทพฯด่วน เพราะอาการป่วยของพ่อที่เหมือนจะหนักขึ้นทุกวัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปที่จะเลี่ยงไม่กลับมาพบกับเรื่องราวเดิมๆที่กรุงเทพฯ ผมจึงต้องกลับมาประจำที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯโรงพยาบาลเดิมที่ผมเคยประจำอยู่ที่นี่ก่อนที่จะย้ายไปที่เชียงใหม่ ที่นี่ยังคงเหมือนเดิม ผู้คนเข้ามารับบริการทางการแพทย์มากมายเหมือนเดิม ผมเริ่มมาทำงานไม่ถึงอาทิตย์แต่งงานกลับเข้ามาจนล้นมือ มีเคสผ่าตัดสามสี่เคสต่อกันในแต่ละวันและคนไข้ที่รอดูอาการอีกจำนวนหนึ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ แต่ทุกวันผมก็ไม่ลืมที่จะเข้ามาดูอาการพ่อเพราะผมรู้ดีว่าโรคหัวใจจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีกำลังใจที่ดีจากครอบครัวอันเป็นที่รัก
“เฮ้ยไอ้หมอนั่งใจลอยคิดถึงสาวที่เมืองเหนือหรือวะ”
หมอณภัส เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“ซักพักจนได้เห็นแกกำลังนั่งเหม่อ ใจลอยไปไหนต่อไหนล่ะ”
“แล้วแกเข้ามามีไร”
“มีว่ะ คืออาทิตย์หน้าฉันจะพาคุณยุไปพักผ่อนซักหน่อยน่ะกะว่าจะไปซักอาทิตย์แต่บังเอิญว่าฉันลาได้แค่สามวันเองเลย....”
“แลกเวร”
“แฮ่...รู้ทันจริงวะสมเป็นเพื่อนรัก นะเพื่อนนะ แลกเวรกันนะสองวัน ถ้าไม่ได้ฉันแย่แน่ๆคุณยุ
อุจส่าห์ลาพักร้อนได้ ถ้ากลับมาจะไม่ลืมของฝาก”
“ก็ได้ ก็ได้ ทำบุญทำทานบ้างสร้างกุศลให้ตัวเองเว้ย”
“สาธุ....แต่ยังไงก็ขอบคุณนะเพื่อน เอ่อฉันไปล่ะมีเคสผ่าบ่ายสามไปเตรียมตัวก่อนนะ”
“เออ....รีบไปเหอะ”
ณภัสเดินกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนมีความสุขซะเต็มประดา ก็จะไม่ให้มันมีความสุขได้อย่างไรกันล่ะก็เจ้าหมอนั่นพึ่งแต่งงานไปเมื่อเดือนที่แล้วกับคนรักที่คบกันมาเกือบสิบปีที่เรียนด้วยกันมาตั้งสมัยมัธยมและเรียนหมอมาด้วยกัน ผมรับรู้เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ดีด้วยว่าครั้งหนึ่งเจ้าภัสวานแกมบังคับให้ผมเอาดอกกุหลาบไปให้เธอที่หน้าห้องเรียนเพื่อหวังจะขอเธอเป็นแฟนแต่เพื่อนทุกคนกลับเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นคนจีบเธอซะเองเจ้าภัสเลยออกตัวกลัวเหลือเกินว่าความเข้าใจผิดของเพื่อนๆจะเป็นเรื่องจริงขึ้นมา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นกับการคบหาดูใจกันระหว่างณภัสกับยุดา ความรักของทั้งคู่เดินทางมาและลงเอยด้วยการแต่งงานเหมือนความต้องการของใครหลายๆคู่รวมทั้งตัวผม แต่ความรักของผมไม่เป็นเช่นนั้นมันจบลงก่อนที่จะถึงคำว่าแต่งงานและผมก็มักจะโทษตัวเองเสมอว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะตัวของผมเอง มันคงยากที่ผมจะให้อภัยตัวเอง.......


ฉันนั่งรอพบแพทย์ที่หน้าห้องตรวจมาได้ซักระยะแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะเรียกฉันให้เข้าไปตรวจซึ่งตามปกติที่ฉันมาตรวจซึ่งเป็นการมาตรวจตามคำสั่งแพทย์จะได้เข้าไปพบแพทย์แทบจะทันทีไม่ต้องมานั่งรอนานขนาดนี้ หน้าห้องตรวจก็เขียนชื่อชัดเจน ใช่ว่าฉันจะมารอนัดผิดห้องซะที่ไหน ‘นายแพทย์ณภัส ภัทรนนท์’
“คุณปลายฝันใช่ไหมคะ”
ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก
“คุณรอพบคุณหมอภัสใช่ไหมคะ”
ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบอีกครั้ง
“ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เราไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ คือหมอภัสลาพักร้อนน่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอภัสได้ฝากเคสไว้ให้คุณหมออีกท่านดูแลแทนในช่วงที่หมอภัสไม่อยู่ เดี๋ยวดิฉันจะพาคุณไปพบคุณหมอเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
ฉันเดินตามคุณพยาบาลคนนั้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงหน้าห้องตรวจอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่คนละฟากกับห้องหมอภัสแพทย์ประจำตัวของฉันหลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ คุณพยาบาลเปิดประตูแล้วเดินนำฉันเข้าไปในห้องตรวจ
“นั่งรอคุณหมอซักครู่นะคะ เดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
ฉันนั่งรอที่หน้าห้องหมอภัสเกือบชั่วโมงแล้วต้องมานั่งรอหมอคนใหม่ที่จะมาตรวจฉันอีกอย่างนั้นหรอ คราวนี้จะให้รออีกนานเท่าไหร่กัน ชั่วโมง สองชั่วโมงหรือมากกว่านั้น....
“ขอโทษนะครับที่ให้รอ”
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันคิดอย่างประชดในใจ
“ผมลืมแจ้งพยาบาลให้แจ้งคุณให้ทราบก่อนที่จะมาโรงพยาบาล ต้องขอโทษด้วยนะครับ....อ่าวคุณ...”
“คุณ....”
มันเป็นความบังเอิญที่ฉันได้มาเจอเขาอีกครั้ง ที่นี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าถ้าไม่กลับไปที่เชียงใหม่คงไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีก
“บังเอิญจังเลยนะครับ คุณเป็นคนไข้ของหมอภัส”
“ค่ะ”
“ถ้าผมได้อ่านประวัติการรักษาก่อนหน้านี้ผมคงรู้ว่าเป็นคุณ”
“ค่ะ”
“ค่ะ”
“...”
“ฮ่ะ....ทำไมทุกครั้งที่เราเจอกันคุณต้องทำเหมือนเป็นใบ้เอาซะอย่างนั้น”
“ค่ะ”
“เอาอีกแล้วนะครับคุณฝัน แต่ไม่เป็นไรหรอกครับผมซักจะชินซะแล้วล่ะ”
“ค่ะ”
จะให้ฉันพูดอะไรได้อีกล่ะนอกจากนี้ก็มันอึ้งอยู่น่ะสิ จู่ๆฉันได้มาเจอทั้งที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
“เอาเป็นว่าผมขออ่านแฟ้มประวัติคุณก่อนแล้วกันนะครับ”
“ค่ะ”
เขามองหน้าฉันแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะก้มลงอ่านแฟ้มในมือต่อไป ฉันนั่งมองเขาในขณะที่เขากำลังอ่านแฟ้มอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกมากมายหลั่งไหลเข้ามาใส่ฉัน หนึ่งล่ะความคุ้นเคย ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับการนั่งมองเขาในขณะที่ทำงานเหมือนกับว่าฉันเคยมานั่งดูเขาทำงานแบบนี้มาแล้ว หัวใจของฉันเต้นแรงแต่ไม่รู้สึกเจ็บ ฉันมองไปรอบห้องทำงานของเขาถึงจะไม่ถึงกับรกแต่ก็ไม่เป็นระเบียบ เอ๊ะนั่นมันรูปนั้น....รูปที่เคยเป็นของฉัน สนามเด็กเล่น ชิงช้าสีแดง ฉันไม่รู้ว่าฉันเดินมาที่รูปนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันถูกเก็บไว้อย่างดี ที่ผนังห้องทำงานของเขา อย่างน้อยเขาก็ยังเก็บไว้ถึงแม้ฝีมือการวาดรูปของเด็กสิบขวบจะไม่ค่อยได้เรื่องซักเท่าไหร่
“คุณชอบรูปนี้หรือครับ”
เขาเดินมายืนข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“รูปนี้เป็นความทรงจำครับ คนวาดเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโรงพยาบาลก็ไม่ได้น่าเบื่อซักเท่าไหร่จนทำให้ทุกวันนี้ผมก็ยังมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นี่”
เขาพูดไปยิ้มไปอย่างคนมีความสุข
“เธอคงมีความสำคัญกับคุณมากเลยนะคะ”
ฉันลองหยั่งถามไปอย่างนั้นเผื่อว่าคำตอบของเขาจะทำให้หัวใจได้ชุ่มชื่นขึ้นมาบ้างก็เท่านั้นเอง
“เธอเป็นเพื่อนของผมครับ เธอทำเป็นเข้มแข็งทั้งที่จริงแล้วเธออ่อนแอ เธอป่วยครับแต่ผมไม่รู้ว่าเธอป่วยเป็นโรคอะไรเพราะผมไม่เคยถาม แต่อย่างน้อยเธอก็ทำให้ผมอยากไปโรงเรียนในตอนนั้น”
“ค่ะ”
ฉันดีใจนะคะที่อย่างน้อยคุณก็ยังจดจำเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ ถึงแม้คุณจะจำฉันในตอนนี้ไม่ได้ว่าฉันคือคนเดียวกันกับเด็กผู้หญิงคนนั้น.....








นางสาวปลาดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2554, 21:34:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2554, 21:34:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1731





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
ไม้เอก 9 พ.ย. 2554, 22:27:48 น.
บอกไปโล้ดดดคร้า..นู๋ฝัน :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account