แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 16 ...ความลับพระเอก

ช่วงเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันดูความสุขมากขึ้น วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ปารวัตรขับรถมาส่งธรา ชีวิตเธอดูมีอะไรทำมากกว่าเดิมเมื่อได้ไปทำงานในกองถ่าย ได้ก่อกวนทินกรเล่นก็สุขใจดี แม้ว่าจะมีเสียงของอ้อยใจคอยเหน็บแนมอยู่เป็นประจำก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอได้เห็นทินกรตลอด เมื่อไหร่ที่แก้ความผิดพลาดของทินกรได้ เธอก็คงได้กลับไปยุคปัจจุบันของเธอเสียที

หญิงสาวเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนมาถึงห้องพัก เธอยืนหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องสักพัก ก่อนเดินเลยไปเคาะห้องข้างๆ

“คุณเพลิง! อยู่หรือเปล่า มาเปิดประตูให้ฉันเข้าไปหน่อยเร็ว ที่รักขา” ธราตะโกนกระเซ้าเย้าแหย่เขาอย่างขบขัน เพราะทุกครั้งที่พูดจาแบบนี้จะต้องโดนดวงตาดุของทินกรมองมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ที่น่าแปลกคือเธอไม่นึกเกรงกลัวสายตาคู่นั้นของเขาอีกแล้ว

“คุณเพลิงขา ออกมาเปิดหน่อยค่า” หญิงสาวตะโกนเป็นรอบที่สองเมื่อยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ดังมาจากในห้อง ถ้าหากว่าเขาอยู่ อย่างน้อยก็จะต้องตะโกนดุด่าออกมาบ้างดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

‘ไปให้พ้นเลยนะยายลิง ไม่ให้เข้าเว้ย’

หรือว่าเขาเป็นอะไรไปเสียแล้ว และเมื่อเห็นว่าประตูนั้นไม่ได้ล็อคไว้ ธราก็ไม่รอช้า รีบเปิดประตูเข้าไปทันที แต่เมื่อเข้าไป กลับพบแต่เจ้าตูบที่นอนขดอยู่ในบ้านหลังเล็กของตัวเอง

...อ้าว ไม่อยู่เหรอเนี่ย

หญิงสาวเพิ่งรู้สึกถึงมารยาทที่ควรจะมี หากเจ้าของห้องไม่อยู่ เธอจะมานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้คงไม่ดีนัก ร่างบางหมุนตัวเดินไปที่ประตู แต่กลับมีเสียงๆ หนึ่งที่ดังขึ้นไม่ห่างจากตรงนั้น

“ล้าลา ใจฉันฝากไว้ที่เธอ โว้วโว” ธราหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ พลางเดินเข้าไปใกล้เสียงนั้นมากขึ้น

“โว้วว อยากบอกให้เธอรู้ว่าฉันรักเธอ เย้เย”

หญิงสาวยืนขำคิกคักอยู่หน้าห้องน้ำ เพิ่งรู้วันนี้เองว่าพระเอกดังจอมเย่อหยิ่งจะเป็นตัวของตัวเองที่สุดก็ตอนที่กำลังถูสบู่
ร้องเพลงตอนอาบน้ำน่ะไม่แปลกหรอก แต่ที่มันหยุดขำไม่ได้เพราะเสียงร้องของเขามันตลกน่ะสิ

“โฮ่งๆ” เจ้าตูบที่นอนขดอยู่เมื่อครู่ ลุกเดินออกมาทันทีเมื่อเห็นธรา หญิงสาวรีบเรียกเจ้าตูบออกมาให้ห่างจากห้องน้ำ

“จุ๊ๆ สิลูก เบาๆ หน่อย เดี๋ยวพ่อพระเอกดังเขาจะตกใจที่มีคนมาแอบฟังจนลื่นไถลตายอยู่ในนั้น” คำพูดนั้นบอกให้เจ้าตูบเงียบแต่เจ้าตัวกลับยังไม่หยุดขำ

...รอให้ออกมาก่อนเถอะ เดี๋ยวจะล้อยันลูกบวชเลย

พลันที่สายตาคู่นั้นเหลือบไปเห็นสมุดเก่าๆ เล่มหนึ่งที่วางอยู่บนเตียงสีน้ำเงินเข้ม หน้าสมุดนั้นเปิดค้างไว้คาดว่าเจ้าของห้องน่าจะหยิบมันมาอ่านก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำ ความอยากรู้ก็ก่อตัวขึ้นในใจ ธราชะเง้อมองไปทางห้องน้ำแวบหนึ่ง เมื่อไม่เห็นทีท่าว่าคนที่ร้องเพลงสนุกสนานอยู่ในนั้นจะออกมา มือเรียวก็ถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาอ่าน ปกสีน้ำเงิน ลายอุลตร้าแมนนั่นก็ยิ่งชวนให้ขบขัน นึกภาพพระเอกจอมหยิ่งดูการ์ตูนแล้วมันตลกเสียจริง

ธราพลิกไปที่หน้าแรกก็พบกับข้อความที่บันทึกช่วงเวลาความสุขไว้ในชีวิต ลายมือเละๆ แบบไก่เขี่ยนั้นทำให้รู้ว่าเขาเขียนตอนที่ยังเด็กนัก

‘วันนี้พ่อกับแม่พาดินไปเที่ยวตั้งหลายที่ สวนสนุกวันนี้ดินชอบมากครับ คราวหน้าสัญญาไว้ว่าจะพาไปสวนสัตว์ อย่าลืมนะ’

ความประหลาดใจพลุ่งพล่านขึ้นมามากกว่าเดิม เขาเขียนจบบรรทัดนั้นว่า ‘จากดิน ลูกของพ่อกับแม่ครับ’

ดิน? ดินงั้นเหรอ? จะบอกว่าเป็นคนอื่นที่มาเขียนสมุดเล่มนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อเห็นว่าในหน้านั้นยังมีรูปครอบครัวติดกาวไว้ แม้มันจะดูเก่าไปบ้าง แต่ก็มองออกชัดว่าเด็กชายวัยไม่เกิน 10 ขวบในรูปนั้น เป็นทินกรแน่ๆ ไม่ใช่คนอื่นเลย หากแตกต่างกันที่เพียงรอยยิ้มสดใสบนใบหน้านั้น ที่ไม่สามารถหาความจริงใจแบบนั้นจากทินกรได้อีกแล้ว

เมื่อความอยากรู้มีมากขึ้นกว่าเดิม เธอก็พลิกไปที่หน้าถัดไปซึ่งยังคงมีรูปครอบครัวแปะไว้ด้านล่าง เด็กชายในนั้นใส่ชุดสีแดงถือตุ๊กตาหุ่นยนต์ตัวใหญ่ ด้านหน้ามีเค้กเสียบเทียนไว้ พ่อกับแม่และเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆ 5 ขวบทำสีหน้ายินดีปรีดานัก เธออ่านเนื้อหาใจความนั้นช้าๆ

‘วันนี้วันเกิดครบรอบแปดขวบของดินเอง มีความสุขมากเลยครับได้หุ่นยนต์เป็นของขวัญด้วย เย้ๆ รักพ่อกับแม่และน้องดาวที่สุดเลย อยู่ด้วยกันไปตลอดเลยนะ’

...ดาว?

หญิงสาวจ้องภาพนั้นนิ่งนาน เด็กผู้หญิงน่ารักในรูปนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาเธออย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่ก็มั่นใจว่าเธอต้องเคยเห็นแน่ๆ ธราหยิบสมุดนั้นเข้ามามองใกล้ๆ พินิจใบหน้าของเด็กน้อยช้าๆ ดวงหน้าหวานนั่นที่โตมาจะต้องเป็นคนสวยมากแน่ๆ ใต้ดวงตาสดใสของเด็กหญิงมีไฝเม็ดใหญ่แต่ก็ไม่สามารถบดบังความน่ารักที่เด็กหญิงมีได้เลย

เธอรีบเปิดอ่านหน้าถัดไปอย่างเร็วรี่ หน้านี้ไม่มีรูปแปะไว้ แต่บนกระดาษมีคราบบางอย่างเปื้อนเป็นดวงๆ หากให้เธอเดา เธอคงคิดว่ามันต้องเป็นคราบน้ำตา แต่มันจะมีเรื่องอะไรเล่า ที่ทำให้เด็กชายในครอบครัวอบอุ่นนี้ต้องเสียน้ำตา

‘หมดแล้วความสุขทุกอย่าง ไม่มีอีกแล้ว พ่อไม่รักดิน แม่ก็ไม่รัก น้องดาวก็ด้วย ทิ้งดินไปกันหมดเลย ต่อไปนี้ดินจะอยู่กับใคร’

ธราไม่รอทำความเข้าใจนานนัก ก็รู้ว่าเกิดการสูญเสียขึ้นในครอบครัวที่ดูมีความสุขนี้ เธอรีบเปิดหน้าถัดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน้าสุดท้าย

‘พ่อครับ แม่ครับ น้องดาว...ดินถูกพวกคนใจร้ายส่งมาอยู่ที่นี่ ที่นี่มีเด็กมากมาย แต่ดินไม่เห็นมีความสุขเลย พวกนั้นชอบแกล้งดิน พ่อกับแม่ไปอยู่ที่ไหนกัน กลับมาหาดินได้ไหม’

‘วันนี้ดินถูกเพื่อนแกล้งอีกแล้ว คิดถึงพ่อกับแม่มากๆ เลย มันเห็นสมุดนี้ มันเลยจะแย่งดินไปอ่าน ดินเลยต่อยมันไป แล้วก็โดนตี ดินคิดถึงพ่อกับแม่จริงๆ มารับดินไปอยู่ด้วยได้ไหม’

‘วันนี้เป็นวันเกิดของดิน ไม่มีพ่อ แม่ น้องดาวมาอวยพรเหมือนทุกปี เหงามากเลย แต่ดินสัญญานะครับว่าดินจะเป็นเด็กดี’

‘มีคนมารับอุปการะดินแล้วครับ เขาใจดีมากๆ เลย ดินไม่ต้องทนอยู่ที่นี่อีกแล้ว’

‘ดินไม่ไหวแล้วครับ ดินถูกคนใจร้ายตีทุกวัน ถูกไล่ออกมานอนข้างถนน ไม่มีเงินสักบาท ดินจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว เอาใจช่วยดินด้วยนะ’

‘ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วนะครับพ่อแม่ น้องดาว ดินทำงานที่ร้านอาหาร เหนื่อยมาก แต่ได้ตัง สักวันดินต้องได้ดี มีชีวิตที่ดีกว่านี้ และจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ใครทั้งนั้น’

‘มีคนมาชักชวนเข้าวงการด้วยแหละครับ ถ้าผมเป็นดาราเมื่อไหร่นะ ไอ้พวกที่เคยทำกับผมไว้ ผมจะไม่ชายตามองเลยคอยดูสิ’

เมื่อถึงหน้าสุดท้ายที่ถูกเขียนไว้อย่างบรรจง ถ้อยคำในนั้นบ่งบอกถึงความเป็นชายเต็มตัว ไม่มีวี่แววของเด็กชายเจ้าน้ำตาผู้อ่อนแอคนเก่าให้ได้เห็นอีกแล้ว ในหน้านั้นมีรูปชายหนุ่มคนหนึ่งแปะไว้ เธอจ้องมองมันนิ่งนาน เขาคือชายหนุ่มที่อยู่ในห้องกับเธอตอนนี้แน่ๆ ไม่ใช่คนอื่นเลย

‘วันนี้ผมได้อยู่สูงกว่าคนอื่นแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องสนใจใคร ก็มีคนมาให้ความสำคัญกับผมมากมาย ไอ้พวกเลวพวกนั้นจะได้รู้ไว้สักทีว่าเด็กที่เคยโดนพวกมันรังแก ตอนนี้ได้ดีขนาดไหน รักพ่อแม่และน้องดาวมากนะ คิดถึงเสมอ จากดิน ทินกร’

หญิงสาวปิดบันทึกหน้านั้นลงพร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาเพื่ออยากจะซึมซับความเศร้า ความเสียใจ ความทรมานที่ทินกรได้รับมาตลอด อยากให้เขารู้ว่าสมุดเล่มนี้ไม่ได้มีเพียงหยาดน้ำตาของเด็กชายผู้อ่อนแอคนนั้นอีกแล้ว แต่มีของผู้หญิงคนนี้รวมอยู่ด้วย

เธอเอาสมุดเล่มนั้นมาแนบอก กอดมันแน่นราวกับจะให้ไออุ่นในตัวเองปลุกปลอบหัวใจของคนที่เขียนสมุดเล่มนี้ เพราะอย่างนี้นี่เองที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ความแย่ ความเลวที่คนอื่นกล่าวหา มันก่อเกิดมาจากความเลวร้ายที่เขาได้รับมาตลอด และคงไม่มีใครเข้าใจเขา ตลอดเวลาเป็นสิบปีที่ชายคนนี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว มันคงทำให้เขาแกร่งกล้าขึ้นจนอาจกลายเป็นหยาบกระด้าง แต่นั่นก็ถือว่าเขาเข้มแข็งมากทีเดียว

“นั่นทำอะไรน่ะ!” เสียงตวาดดังลั่นไปทั่วห้องจากชายหนุ่มชุดนอนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ สายตาคมตวัดมองสมุดบันทึกที่เธอกกกอดเอาไว้อย่างแน่นหนา “เอามานี่เลยนะ!”

ท่อนแขนแกร่งกระชากสมุดเล่มนั้นออกจากมือบางอย่างรุนแรง โดยไม่สนสักนิดว่าเธอจะพยายามดึงรั้งมันไว้ขนาดไหน

หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาให้ออกไปอย่างลวกๆ “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอ่านของคุณนะ แต่...”

“ออกไป!” ทินกรเอ่ยเสียงกร้าว ดวงตาคมดุเบิกกว้างอย่างน่ากลัว “บอกให้ออกไป!”

หญิงสาวจ้องหน้าเขาอย่างรู้สึกผิด เสียงสะอื้นยังดังในลำคอเบาๆ “ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะกลับก่อน”

“ไม่ใช่แค่ให้ออกจากห้อง แต่ให้ออกไปจากชีวิตผม! ออกไป!” เขาพูดพร้อมกับผลักร่างบางไปกระแทกผนังห้องอย่างแรง ก่อนจะดันตัวเข้าไปแนบชิด บีบต้นแขนกลมกลึงอย่างบ้าคลั่งราวกับจะฆ่าคนตรงหน้าเสียให้ได้

“โอ๊ย! คุณเพลิง ฉันเจ็บนะ” หญิงสาวเอ่ยละล่ำละลัก พยายามผลักเขาออกแต่ก็ไม่สำเร็จ และหากเขาตั้งใจสบตาเธอสักนิด น่าจะรู้ว่าคนตรงหน้าหวาดกลัวยิ่งนักแล้ว

“ผมไม่สนนะว่าคุณจะเป็นใคร เข้ามาวุ่นวายในชีวิตผมเพื่ออะไร แต่ผมขอสั่งให้คุณเลิกยุ่งกับผมได้แล้ว และไปสักที ก่อนที่ผมจะฆ่าคุณตายอยู่ตรงนี้! ผมเกลียดคนแบบคุณที่สุด!”

ดวงตาดุคู่นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าทุกวัน เขาเปิดประตูเหวี่ยงร่างนั้นออกไปอย่างไม่ทะนุถนอม ความโกรธขึ้งครอบคลุมไปทั่ว ยิ่งเห็นน้ำตาที่รินไหลลงมาข้างแก้มนั้นยิ่งอยากจะฆ่าเธอให้ตายนัก

“คุณเพลิง ฉันขอโทษ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นน่าสงสาร แต่ชายหนุ่มไม่เห็นใจสักนิด อีกทั้งยังไปกระชากกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กออกมาจากร่างบางอย่างรุนแรงแล้วควานหาอะไรบางอย่างในนั้น

“คุณจะทำอะไรคะ อย่านะ” มือบางพยายามปัดป้องทรัพย์สินส่วนตัวในนั้นเป็นพัลวัน เขาหยิบกุญแจห้องที่ถือเป็นสัญญาเช่าของเขาออกมา ก่อนจะเขวี้ยงกระเป๋านั้นลงไปใส่ร่างที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ที่พื้น

“กุญแจห้องนี่เป็นของผม ผมไม่ให้คุณอยู่แล้ว ไปให้พ้น!” เขาแผดเสียงกร้าว พลันเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่กระเด็นออกมาจากกระเป๋าสะพายใบนั้น เขามองมันตาวาว ก่อนหัวเราะในลำคอ “ผู้ชายของคุณนั่นไง ไปขอเขาอยู่ ไปถวายตัวให้เขาสิ ไม่ต้องมายุ่งกับคนเลวๆ อย่างผม ผมเกลียดคุณ!”

พูดจบเขาก็เดินหุนหันกลับเข้าห้องไป แต่ธรายังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นวิ่งไปจับประตูไว้ฝืนกับแรงผู้ชายอย่างเขา

“คุณจะโกรธจะเกลียดฉัน ฉันไม่ว่าหรอกนะ แต่ฉันอยากให้คุณรู้ไว้อย่างหนึ่ง ฉันไม่ได้อยากจะสะใจหรือสมน้ำหน้าคุณทั้งนั้น เพราะฉันก็เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ฉันเข้าใจคุณนะคะ” หญิงสาวเอ่ยรัวเร็วเพื่อให้ทันก่อนที่เขาจะดึงประตูปิดได้สำเร็จ

ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยอารมณ์โทสะไม่พร้อมฟังอะไรทั้งสิ้น เขากระชากประตูปิดอย่างแรงจนหนีบมือหญิงสาวที่พยายามฝืนดึงไว้

“โอ๊ย!” ธราร้องอย่างเจ็บปวด และทันทีที่เสียงร้องนั้นดังขึ้น ชายหนุ่มก็รีบผลักประตูเปิดออกอีกครั้งเพื่อเห็นใบหน้าเธอเต็มตา ดวงตาดุอ่อนลงมากเมื่อเห็นรอยแดงช้ำที่นิ้วเรียวทั้งห้านั้น

หญิงสาวก้มมองแผลใหม่ที่นิ้วมือซ้าย ปล่อยน้ำตาหยดลงไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยคราบเกรอะกรังนั้นจะเงยขึ้นสานสบกับเขา พร้อมที่จะพูดบางคำแต่ยังติดก้อนสะอื้นในลำคอ

“ผม...” ทินกรมองเธออย่างเห็นใจนัก นี่เขาทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า

“ต่อไปนี้ฉันจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคุณอีกตามที่คุณต้องการ มันไม่ใช่แค่คุณเกลียดฉันหรอกนะ ฉันก็เกลียดคุณเหมือนกัน” หญิงสาวสะบัดฝ่ามืออีกข้างใส่ใบหน้าเขาทันที และวิ่งออกจากตรงนั้นไปก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ด้วยซ้ำ

ทินกรมองตามร่างบางที่วิ่งไปปาดน้ำตาตัวเองไปตามทางเดินด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีบางอย่างก่อตัวขึ้นภายในจิตใจโดยที่เขาก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร ชายหนุ่มแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้เขาทำอะไรลงไปบ้าง แล้วตอนนี้เขาควรจะรู้สึกอะไร รู้สึกผิดที่ทำให้แม่นั่นเจ็บตัว หรือรู้สึกโกรธที่แม่นั่นมาตบหน้าเขา ตอนนี้เขาควรต้องเป็นอย่างไรกันแน่

ประตูปิดลงแล้วโดยที่ไม่มีใครมาดึงรั้งไว้อีก บรรยากาศคุกรุ่นเมื่อกี้ยังอบอวลอยู่ในห้องที่เงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง เขามองไปยังเจ้าตูบที่นั่งรออยู่ในห้อง มันเอียงคอมองเขาก่อนจะครางปลอบอย่างเข้าอกเข้าใจเจ้านาย

“หงิงๆ”

ชายหนุ่มกำกุญแจในมือแน่นจบเจ็บ หวังจะให้มันกรีดลงไปที่เนื้อให้เป็นแผลดังเช่นที่เขาทำหญิงสาวคนเมื่อครู่ ทินกรส่ายหน้าไปมาอย่างคนหาทางออกไม่ได้ เสียงที่เคยพูดมากเจื้อยแจ้วใส่เขา ยังคงดังสะท้อนอยู่ในหูด้วยประโยคที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ

‘ต่อไปนี้ฉันจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคุณอีกตามที่คุณต้องการ มันไม่ใช่แค่คุณเกลียดฉันหรอกนะ ฉันก็เกลียดคุณเหมือนกัน!’

ชายหนุ่มอุ้มเจ้าตูบมากอดไว้แนบอกแน่นราวกับจะให้มันจมฝังลงไปในตัวเขา มันเองก็พยายามปลุกปลอบเจ้านายด้วยการไล่เลียไปทั่วทั้งใบหน้า หากเป็นวันปกติ เขาอาจจะโยนมันออกไป โดยให้เหตุผลว่า

‘เดี๋ยวเกลื้อนขึ้น นี่ฉันยังต้องใช้หน้าตาทำมาหากินนะเจ้าตูบ’

แต่นั่นไม่ใช่สำหรับวันนี้ วันที่เขายังหาทางออกสำหรับความรู้สึกแย่ๆ นี้ไม่ได้ พลันสายตาเหลือบไปเห็นสมุดบันทึกวัยเด็กของเขาที่กระเด็นอยู่ตรงพื้นห้อง ชายหนุ่มเอื้อมไปหยิบมันมาอ่าน โดยที่เจ้าตูบยังคงเดินวนให้กำลังใจ

ตอนนี้เขากำแน่น ทั้งสมุดทั้งกุญแจ ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี หากให้นอนตอนนี้ เขาคงนอนไม่หลับแน่ๆ ด้วยความรู้สึกค้างคาบางอย่างที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจ เสียงของยายเด็กเจ้าปัญหาคนเดิมกลับมาสะท้อนอยู่ในหูอีกครั้ง

‘คุณจะโกรธจะเกลียดฉัน ฉันไม่ว่าหรอกนะ แต่ฉันอยากให้คุณรู้ไว้อย่าง ฉันไม่ได้อยากจะสะใจหรือสมน้ำหน้าคุณทั้งนั้น เพราะฉันก็เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ฉันเข้าใจคุณนะคะ’

ทำไมเขาถึงต้องโกรธขนาดนั้นที่รู้ว่าแม่นั่นมาแอบอ่านสมุดบันทึก นั่นเป็นเพราะเขาเป็นได้แค่ไอ้ขี้แพ้ที่ไม่ยอมรับความจริงหรือเปล่า ทำไมเขาถึงไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งอัจฉราว่าช่วงชีวิตหนึ่งเขาเคยผ่านอะไรมา เขาเคยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า เขาเคยถูกไล่ออกมานอนข้างถนน ทำไมเขาต้องสร้างภาพให้คนอื่นเห็นว่าเขาเลิศเลอแค่ไหน ทำไมถึงไม่ยอมรับความจริง!

ชายหนุ่มเอามือปิดหู ไล่ความรู้สึกผิดนั้นออกไปให้พ้นๆ ใจ แต่เขาก็ทำมันไม่สำเร็จ เมื่อจิตใต้สำนึกของเขามันบอกให้ออกไปตามคนที่เข้าใจเขากลับมา คนที่เคยตกอยู่ในความรู้สึกเดียวกัน

“โธ่เว้ย! เด็กบ้าเอ๊ย!” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะหุนหันออกไปจากห้องแทบจะทันทีที่คิดได้ ออกไปตามหาคนๆ หนึ่งที่เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอไปไหน






เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2559, 11:32:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2559, 11:33:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 875





<< ตอนที่ 15 ...ตัวตนของจันทรา   ตอนที่ 17...ความรู้สึกดีที่ควรห้ามใจ >>
Zephyr 30 ก.ค. 2559, 09:47:33 น.
อารมณ์ เพลิงมากอ่ะ พี่เพลิง เอ้ะ รึ พี่ดิน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account