: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 42 (66%)
ห้องฮิมาวาริแห่งภัตตาคารโตเกียวซึ่งอยู่ในโรงแรมคีรีธารารีสอร์ทแอนด์สปาสาขากรุงเทพฯ เป็นห้องพิเศษที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องตกแต่งแบบญี่ปุ่นด้วยการยกพื้นสูงเกือบห้าสิบเซนติเมตรปูเสื่อทาทามิ วางโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยตรงกลางโดยเจาะช่องข้างใต้เพื่อให้ลูกค้าหย่อนเท้าลงได้ เบาะนุ่มรองพื้นวางเรียงเป็นระยะรอบโต๊ะทำหน้าที่แทนเก้าอี้ ชุดโคมญี่ปุ่นและกระถางดอกซากุระประดิษฐ์จากผ้าและกระดาษตกแต่งตามมุมห้องทำให้บรรยากาศแทบจะเหมือนการรับประทานอาหารอยู่ในร้านย่านใจกลางกรุงโตเกียว
บัดนี้เบาะฟากหนึ่งถูกจับจองด้วยสามพี่น้องสกุลปรเมศวร์และธนภูมิกำลังเฝ้าคอยการมาถึงของคู่สัญญา...กลุ่มทุนลึกลับที่เสนอขอซื้อหุ้นของปรเมศวร์เทรดดิ้ง บรรยากาศในห้องสงัดงัน เสียงจากภายนอกไม่เล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้ยากแก่การคาดเดาว่าเมื่อไรคู่เจรจาจะมาเสียที
เมื่อนาฬิกาที่ข้อมือสาวัชบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาตรง เสียงเคาะเบาๆก็ดังขึ้น จากนั้นบานประตูถูกเลื่อนไปด้านข้างแผ่วเบาแทบไร้เสียง คนที่มาก่อนแล้วมองไปยังผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นตาเดียว เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ตัวแทนกลุ่มปรเมศวร์เทรดดิ้งก็รีบทำความเคารพผู้มาใหม่ จากนั้นทั้งสี่คนจึงหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจคาดไม่ถึง
“ตามสบายเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย คนกันเองทั้งนั้น” ผู้อาวุโสกว่าโบกมือไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วนั่งลงคนละฟากโต๊ะเผชิญหน้ากับสามพี่น้องและทนาย กวาดตาพินิจลูกหลานสกุลปรเมศวร์ทีละคนจนมาหยุดสายตาที่สาวัช
ชายหนุ่มกำมือแน่น ความอาดูรรื้นขึ้นในใจ สุพจน์คือคนที่ต้องการเข้าควบคุมกิจการของปรเมศวร์เทรดดิ้ง! บิดาของอิงอรุณรู้ราคาประเมินหุ้นของพีอาร์เอ็ม แสดงว่าท่านจับตาดูบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว และการยื่นมือเข้ามาซื้อบริษัทฯในยามที่ทุกอย่างเดินมาสู่จุดต่ำสุด ย่อมต้องไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!
เขานึกถึงบทสนทนา ปัญหา เรื่องราวหนักใจ หรือแม้กระทั่งความลับของบริษัท ทั้งหมดที่เคยพูดคุยกับอิงอรุณ ที่แท้...หญิงสาวมิได้สนใจไยดีอะไรเขามากไปกว่าต้องการข้อมูลเพื่อนำไปส่งต่อให้บิดาเท่านั้น
‘นี่อิงก็กำลังปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาอย่างสุดความสามารถอยู่นะคะ ไม่ได้ทำเล่นๆสักหน่อย”
สายโทรศัพท์ที่เขาได้ยินเธอพูดคุยที่สีชังวันนั้น คู่สนทนาของเธอคือสุพจน์ เทียมสุบรรณ นี่เอง
‘อย่าลืมส่วนแบ่งของอิงด้วยละกัน อย่างน้อยก็ต้องแบ่งให้อิงสักยี่สิบเปอร์เซนต์นะ’
มิตรภาพของเขามีค่าแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบริษัทเท่านั้น เธอช่างมักน้อยเสียจริง!
น่าเสียดาย...ความรู้สึกดีๆที่มอบให้ไป ที่แท้มีค่าเพียงผลประโยชน์ของอิงอรุณและครอบครัว เขาไม่ได้รับความรู้สึกใดที่ทัดเทียมกันกลับมาเลย...
น่าเศร้า...ที่แม้รู้แก่ใจเช่นนั้น แต่เขากลับบอกตัวเองให้เกลียดผู้หญิงคนนั้นไม่ลง!
น่าสมเพช...ที่ใจเขารู้สึกหม่นหมอง เมื่อตระหนักว่าเส้นทางของเขาและอิงอรุณคงฉีกแยกห่างจากกันไกลขึ้นทุกที หากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ บรรพบุรุษของเขาคงยอมรับไม่ได้ถ้าเขามีความรู้สึกดีๆให้กับทายาทของผู้ที่ซื้อบริษัทของต้นตระกูลไป!
สุพจน์เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการ... “ผมทราบข่าวเรื่องคุณแม่ของคุณริสาแล้ว เสียใจด้วยนะครับ”
“ตำรวจแค่เชิญตัวไปสอบปากคำ ยังไม่มีการยืนยันว่าท่านเป็นผู้ต้องหาค่ะ” ริสาอธิบายเสียงเรียบ มือที่กำแน่นอยู่บนตักบอกให้รู้ว่ากำลังใช้ความอดทนอย่างหนัก นั่นยิ่งย้ำให้สาวัชมั่นใจว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับมารดา ริสาแทบทนฟังใครให้ร้ายท่านไม่ได้เลย ไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำจะถูกหรือผิดก็ตาม อย่างไรเสียท่านก็เป็นแม่ของเธอ!
“ผมสนิทกับท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกได้เสมอนะ” สุพจน์เสนอตัว
“ขอบคุณค่ะ แต่เราได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้หลักผู้ใหญ่ไปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ” เมื่อ ‘ทักทาย’ กันตามธรรมเนียมแล้ว ริสาจึงเปิดฉากเจรจาทันที “ดิฉันต้องสารภาพว่าคาดไม่ถึงจริงๆว่าบริษัทที่ทำเทนเดอร์หุ้นพีอาร์เอ็มจะทำหน้าที่แทนคุณสุพจน์แห่งสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันนี่เอง ถ้าทราบก่อนล่วงหน้าว่าคุณสุพจน์สนใจปรเมศวร์เทรดดิ้ง เราคง...”
แทนที่จะฟังจนจบ คนสูงวัยกลับยิ้มแย้มถามดุจไร้เดียงสา “หุ้นที่กลุ่มประเมศวร์ถืออยู่มีรวมกันทั้งหมดราวๆยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ ที่คุณริสาแจ้งกับตัวแทนของผมมาว่าจะขายหุ้น โดยยืนกรานขอตำแหน่งซีอีโอไว้ ผมไม่มีปัญหาตรงจุดนั้น คุณและทีมงานจะยังคงคุมอำนาจบริหารทั้งหมดไว้อย่างเดิม ว่าแต่คุณตั้งใจขายหุ้นทั้งหมดที่มีในมือเลยใช่ไหม”
“ดิฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ” หญิงสาวโพล่งขึ้น เป็นผลให้ทุกคนในห้องมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัด
สุพจน์เลิกคิ้วนิดๆ แต่ดูไม่ประหลาดใจเท่าไรราวกับว่าเขาคาดการณ์สถานการณ์นี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ธนภูมิและสาวัชมองไปยังหญิงสาวแทบจะพร้อมกันพยายามตามให้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่
วัชระยิ้มกว้างไม่เก็บกิริยา สายตาที่มองพี่สาวชื่นชม และสะใจยามเหลือบไปทางคู่เจรจาดุจผู้มีชัยเหนือกว่า
“ดิฉันไม่ต้องการเงินสดจากการขายหุ้นพีอาร์เอ็มค่ะ” ริสาเอ่ยอย่างเชื่อมั่น สบสายตากับสุพจน์โดยไม่เกรงกลัว
“ถ้าไม่ต้องการเงิน แล้วคุณต้องการอะไร” สาวัชต้องยอมรับว่าสุพจน์ช่างวางหน้านิ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ กิริยาของเขามั่นคงและเยือกเย็นดุจภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่หวั่นไหว ไม่ลังเลเลยสักนิด!
ริสาประกาศมาดมั่นชัดถ้อยชัดคำ “ดิฉันไม่ขาย แต่อยากแลกหุ้นพีอาร์เอ็มกับหุ้นเอสดีซีในมูลค่าที่เท่ากันค่ะ”
สุพจน์ชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนหัวเราะก้องพึงใจอย่างที่สุด “ไม่เลว! ผมไม่เคยเจอใครที่เจนจัดในการต่อรองเท่าคุณเลยคุณริษา”
สาวัชผ่อนลมหายใจออก นึกชื่นชมพี่สาวต่างมารดาสุดหัวใจ ริสาอ่านเกมขาดอีกครั้ง! สุพจน์นั้นคร่ำหวอดในเรื่องการเข้าซื้อและกิจการจนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่จัดให้เขาเป็นมือวางระดับตำนาน หมากทุกตัวที่เขาเดินมีแต่ทำให้กำไรของบริษัทแม่อย่างสยามดริ๊งค์ฯเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด การเสนอขอแลกหุ้นเช่นนี้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของสาวัชโดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้ชายหนุ่มคิดว่าคำชมของสุพจน์ ‘ไม่คู่ควร’ กับความสามารถแท้จริงของริสาแม้สักเสี้ยว!
“กราบขอบพระคุณสำหรับคำชมค่ะ แต่ดิฉันคงไม่บังอาจรับ เพราะถ้าดิฉันต่อรองเก่งอย่างที่คุณสุพจน์ว่าจริงๆ เราคงไม่ต้องมาพบกันในสภาพนี้”
“การมาที่นี่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้หรอกคุณริสา” สุพจน์บอกอย่างใจดีละม้ายผู้ใหญ่เอื้อเอ็นดูเด็กเล็กๆ “อย่างน้อยคุณก็ชนะใจตัวเอง การวางที่ยากที่สุดก็คือวางสิ่งที่ผูกมัดเราไว้ด้วยความรับผิดชอบนี่แหละ”
“คุณสุพจน์คิดยังไงกับข้อเสนอของดิฉันคะ” เธอดึงเรื่องกลับมายังประเด็นเดิม
สาวัชเผลอกลั้นใจรอฟังคำตอบ ด้วยรู้ดีว่าการขอปันหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ สุพจน์คงคิดหนักหากต้องเสียสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทตัวเองให้คนนอก มันอาจทำให้การบริหารจัดการในภายภาคหน้ายุ่งยากกว่าที่เคยเป็น
สุพจน์ผงกศีรษะช้าๆดุจกำลังครุ่นคิด นาน...เขาจึงตัดสินใจ “จำนวนหุ้นที่เราจะแลกกัน ให้คำนวณราคาตามที่ซื้อขายกันในกระดานวันที่เซ็นสัญญา คุณขัดข้องไหม”
ริสายกมุมปากขึ้นนิดๆ อ่านยากว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร เพราะสีหน้าและน้ำเสียงเธอเรียบเฉย “ขอให้คำนวณตามราคาตลาดในวันนี้เลย คุณสุพจน์จะสะดวกไหมคะ”
ผู้อาวุโสส่ายศีรษะนิดๆ แต่สายตาเปี่ยมด้วยแววชื่นชม “คุณกลัวผมไปปั่นราคาหุ้นเอสดีซีให้สูงๆ จะได้แลกจำนวนหุ้นออกไปให้คุณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้งั้นเหรอ”
“เรียนตามตรงว่าใช่ค่ะ” ริสาตอบตามตรงโดยไม่อับอายหรือเกรงคนฟังสะเทือนใจ
“งั้นเรามาเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้เลย” สุพจน์เปิดเครื่องแท็บเล็ตเช็กราคาหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วหันไปทางธนภูมิเป็นลำดับถัดไป “ราคาของสยามดริ๊งค์ฯวันนี้อยู่ที่หุ้นละร้อยสิบหกบาท”
“ค่ะ ร้อยสิบหกบาท ดิฉันยอมรับที่ราคานี้”
“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันนะ” สุพจน์สรุปง่ายๆ
เมื่ออีกฝ่ายรับคำแล้ว ผู้อาวุโสจึงสบตาริสานิ่งๆ “คุณริษาต้องการเข้าถือหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วต้องการอำนาจบริหารในสยามดริ๊งค์ฯด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องการค่ะ”
สาวัชอ่านความคิดของพี่สาวออกปรุโปร่ง หญิงสาวเพียงต้องการอำนาจต่อรองสำหรับการนั่งอยู่ในตำแหน่งซีอีโอของปรเมศวร์เทรดดิ้งเท่านั้น เพราะเมื่อสุพจน์จำต้องแบ่งหุ้นให้เธอแลกเปลี่ยนกับหุ้นพีอาร์เอ็ม สัดส่วนการถือครองหุ้นในสยามดริ๊งค์ฯของเขาย่อมลดลง ตราบใดที่เขายังคงปฏิบัติกับครอบครัวปรเมศวร์อย่างพันธมิตร ทุกเสียงโหวตของริสาในการประชุมผู้ถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯจะเป็นของสุพจน์ แต่ถ้าเขาคิดหักหลัง คะแนนโหวตของเธอจะกลายเป็นของฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งสาวัชมั่นใจว่าสุพจน์จะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆเช่นนั้นแน่นอน
“คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เสี่ยธนาโชคดีที่มีลูกเก่งอย่างนี้”
ใช่...เขาก็โชคดีมากที่มีพี่สาวเก่งอย่างนี้ หากต้องรับมือกับเรื่องนี้เอง เขาคงทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ริสากำลังกระทำอยู่
สาวัชเหลือบมองวัชระ เห็นพี่ชายกำมือแน่น ไม่พอใจกับการเจรจานี้ แม้จะหนักใจนิดๆ แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าริสาสามารถกล่อมวัชระให้เห็นด้วยไม่ยาก
ชายหนุ่มเลื่อนสายตาไปยังธนภูมิ สังเกตปฏิกิริยาทนายมือฉกาจของบริษัทบ้าง จึงพบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองริสาด้วยสายตาชื่นชมเต็มเปี่ยม และถ้าตาไม่ฝาดเขาเชื่อว่าเห็นความภาคภูมิภักดีฉายฉาดมาจากดวงตาคู่นั้นเช่นกัน!
หากไม่ติดว่าอยู่ในห้องที่กำลังเจรจาความเมืองเรื่องสำคัญ ชายหนุ่มคงยิ้มด้วยความประหลาดใจ ริสารู้ตัวไหมนะว่ามีใครบางคนเฝ้ามองเธอและมีความรู้สึกพิเศษมอบให้ บางที...เขาน่าจะลองเชียร์ธนภูมิให้พี่สาวพิจารณาบ้าง
สาวัชชะงัก เขากลายเป็นคนประเภทที่อยากช่วยให้คนอื่นมีความรักไปตั้งแต่เมื่อไร สงสัยต้องโทษอิงอรุณอีกแล้ว! ผู้หญิงคนนั้นทำให้โลกเงียบสงบของเขาเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เธอทำให้เขาต้องมาเรียนรู้ความรู้สึกทั้งสุข ทุกข์ ขมขื่น เจ็บปวด และสมหวังในคราเดียว
พลันที่ความคิดนั้นตกกระทบถึงใจ ดอกเตอร์หนุ่มจากอเมริกาก็นึกโกรธระคนชิงชังตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นร่วมมือกับพ่อหาหนทางเข้ามาฮุบกิจการของบริษัท เขายังจะนึกถึงเธอด้วยความรู้สึกดีๆอีกทำไม
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อสั่นเป็นจังหวะดุจสัญญาณบอกว่ามีข้อความเข้า ครั้นเปิดอ่านจึงพบว่าอิงอรุณส่งชื่อภัตตาคารฝรั่งเศสในโรมแรมสุดหรูมาให้ นัดหมายเวลาดิบดี ทั้งยังทิ้งท้ายว่า ‘จะคอย’ ขอให้เขารีบไปหาโดยเร็วที่สุดหลังเสร็จธุระ
สาวัชยกมุมปากนิดๆไม่รู้ว่าสมเพชหรือเวทนาตัวเอง เขานิ่งมองข้อความนั้นเนิ่นนาน สุดท้ายจึงกดลบโดยไม่ลังเล ทว่าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าชายหนุ่มกำมือแน่นระงับความรู้สึก เลิกคิดถึงอิงอรุณเสียที เธอไม่มีค่าพอให้เขาระลึกถึงอีกต่อไปแล้ว!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ไปเรียนหนังสือกลับมา
การบ้านเพียบเลย
ลืมมาลงนิยาย
นักอ่านที่รักโปรดให้อภัยสิริณด้วยนะคะ :D
หวังว่าฉากนี้คงจะพอทำให้ทีมพี่ดร.สะใจกันพอหอมปากหอมคอ
ที่ยายอิงโดนซะบ้าง หลังจากทำร้ายจิตใจพี่ดร.มานาน ฮ่าๆๆ
พรุ่งนี้มาอ่านกันต่อนะคะ กอดดดดดดดดดด
บัดนี้เบาะฟากหนึ่งถูกจับจองด้วยสามพี่น้องสกุลปรเมศวร์และธนภูมิกำลังเฝ้าคอยการมาถึงของคู่สัญญา...กลุ่มทุนลึกลับที่เสนอขอซื้อหุ้นของปรเมศวร์เทรดดิ้ง บรรยากาศในห้องสงัดงัน เสียงจากภายนอกไม่เล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้ยากแก่การคาดเดาว่าเมื่อไรคู่เจรจาจะมาเสียที
เมื่อนาฬิกาที่ข้อมือสาวัชบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาตรง เสียงเคาะเบาๆก็ดังขึ้น จากนั้นบานประตูถูกเลื่อนไปด้านข้างแผ่วเบาแทบไร้เสียง คนที่มาก่อนแล้วมองไปยังผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นตาเดียว เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ตัวแทนกลุ่มปรเมศวร์เทรดดิ้งก็รีบทำความเคารพผู้มาใหม่ จากนั้นทั้งสี่คนจึงหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจคาดไม่ถึง
“ตามสบายเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย คนกันเองทั้งนั้น” ผู้อาวุโสกว่าโบกมือไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วนั่งลงคนละฟากโต๊ะเผชิญหน้ากับสามพี่น้องและทนาย กวาดตาพินิจลูกหลานสกุลปรเมศวร์ทีละคนจนมาหยุดสายตาที่สาวัช
ชายหนุ่มกำมือแน่น ความอาดูรรื้นขึ้นในใจ สุพจน์คือคนที่ต้องการเข้าควบคุมกิจการของปรเมศวร์เทรดดิ้ง! บิดาของอิงอรุณรู้ราคาประเมินหุ้นของพีอาร์เอ็ม แสดงว่าท่านจับตาดูบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว และการยื่นมือเข้ามาซื้อบริษัทฯในยามที่ทุกอย่างเดินมาสู่จุดต่ำสุด ย่อมต้องไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!
เขานึกถึงบทสนทนา ปัญหา เรื่องราวหนักใจ หรือแม้กระทั่งความลับของบริษัท ทั้งหมดที่เคยพูดคุยกับอิงอรุณ ที่แท้...หญิงสาวมิได้สนใจไยดีอะไรเขามากไปกว่าต้องการข้อมูลเพื่อนำไปส่งต่อให้บิดาเท่านั้น
‘นี่อิงก็กำลังปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาอย่างสุดความสามารถอยู่นะคะ ไม่ได้ทำเล่นๆสักหน่อย”
สายโทรศัพท์ที่เขาได้ยินเธอพูดคุยที่สีชังวันนั้น คู่สนทนาของเธอคือสุพจน์ เทียมสุบรรณ นี่เอง
‘อย่าลืมส่วนแบ่งของอิงด้วยละกัน อย่างน้อยก็ต้องแบ่งให้อิงสักยี่สิบเปอร์เซนต์นะ’
มิตรภาพของเขามีค่าแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบริษัทเท่านั้น เธอช่างมักน้อยเสียจริง!
น่าเสียดาย...ความรู้สึกดีๆที่มอบให้ไป ที่แท้มีค่าเพียงผลประโยชน์ของอิงอรุณและครอบครัว เขาไม่ได้รับความรู้สึกใดที่ทัดเทียมกันกลับมาเลย...
น่าเศร้า...ที่แม้รู้แก่ใจเช่นนั้น แต่เขากลับบอกตัวเองให้เกลียดผู้หญิงคนนั้นไม่ลง!
น่าสมเพช...ที่ใจเขารู้สึกหม่นหมอง เมื่อตระหนักว่าเส้นทางของเขาและอิงอรุณคงฉีกแยกห่างจากกันไกลขึ้นทุกที หากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ บรรพบุรุษของเขาคงยอมรับไม่ได้ถ้าเขามีความรู้สึกดีๆให้กับทายาทของผู้ที่ซื้อบริษัทของต้นตระกูลไป!
สุพจน์เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการ... “ผมทราบข่าวเรื่องคุณแม่ของคุณริสาแล้ว เสียใจด้วยนะครับ”
“ตำรวจแค่เชิญตัวไปสอบปากคำ ยังไม่มีการยืนยันว่าท่านเป็นผู้ต้องหาค่ะ” ริสาอธิบายเสียงเรียบ มือที่กำแน่นอยู่บนตักบอกให้รู้ว่ากำลังใช้ความอดทนอย่างหนัก นั่นยิ่งย้ำให้สาวัชมั่นใจว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับมารดา ริสาแทบทนฟังใครให้ร้ายท่านไม่ได้เลย ไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำจะถูกหรือผิดก็ตาม อย่างไรเสียท่านก็เป็นแม่ของเธอ!
“ผมสนิทกับท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกได้เสมอนะ” สุพจน์เสนอตัว
“ขอบคุณค่ะ แต่เราได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้หลักผู้ใหญ่ไปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ” เมื่อ ‘ทักทาย’ กันตามธรรมเนียมแล้ว ริสาจึงเปิดฉากเจรจาทันที “ดิฉันต้องสารภาพว่าคาดไม่ถึงจริงๆว่าบริษัทที่ทำเทนเดอร์หุ้นพีอาร์เอ็มจะทำหน้าที่แทนคุณสุพจน์แห่งสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันนี่เอง ถ้าทราบก่อนล่วงหน้าว่าคุณสุพจน์สนใจปรเมศวร์เทรดดิ้ง เราคง...”
แทนที่จะฟังจนจบ คนสูงวัยกลับยิ้มแย้มถามดุจไร้เดียงสา “หุ้นที่กลุ่มประเมศวร์ถืออยู่มีรวมกันทั้งหมดราวๆยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ ที่คุณริสาแจ้งกับตัวแทนของผมมาว่าจะขายหุ้น โดยยืนกรานขอตำแหน่งซีอีโอไว้ ผมไม่มีปัญหาตรงจุดนั้น คุณและทีมงานจะยังคงคุมอำนาจบริหารทั้งหมดไว้อย่างเดิม ว่าแต่คุณตั้งใจขายหุ้นทั้งหมดที่มีในมือเลยใช่ไหม”
“ดิฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ” หญิงสาวโพล่งขึ้น เป็นผลให้ทุกคนในห้องมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไปอย่างเห็นได้ชัด
สุพจน์เลิกคิ้วนิดๆ แต่ดูไม่ประหลาดใจเท่าไรราวกับว่าเขาคาดการณ์สถานการณ์นี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ธนภูมิและสาวัชมองไปยังหญิงสาวแทบจะพร้อมกันพยายามตามให้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่
วัชระยิ้มกว้างไม่เก็บกิริยา สายตาที่มองพี่สาวชื่นชม และสะใจยามเหลือบไปทางคู่เจรจาดุจผู้มีชัยเหนือกว่า
“ดิฉันไม่ต้องการเงินสดจากการขายหุ้นพีอาร์เอ็มค่ะ” ริสาเอ่ยอย่างเชื่อมั่น สบสายตากับสุพจน์โดยไม่เกรงกลัว
“ถ้าไม่ต้องการเงิน แล้วคุณต้องการอะไร” สาวัชต้องยอมรับว่าสุพจน์ช่างวางหน้านิ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ กิริยาของเขามั่นคงและเยือกเย็นดุจภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่หวั่นไหว ไม่ลังเลเลยสักนิด!
ริสาประกาศมาดมั่นชัดถ้อยชัดคำ “ดิฉันไม่ขาย แต่อยากแลกหุ้นพีอาร์เอ็มกับหุ้นเอสดีซีในมูลค่าที่เท่ากันค่ะ”
สุพจน์ชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนหัวเราะก้องพึงใจอย่างที่สุด “ไม่เลว! ผมไม่เคยเจอใครที่เจนจัดในการต่อรองเท่าคุณเลยคุณริษา”
สาวัชผ่อนลมหายใจออก นึกชื่นชมพี่สาวต่างมารดาสุดหัวใจ ริสาอ่านเกมขาดอีกครั้ง! สุพจน์นั้นคร่ำหวอดในเรื่องการเข้าซื้อและกิจการจนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่จัดให้เขาเป็นมือวางระดับตำนาน หมากทุกตัวที่เขาเดินมีแต่ทำให้กำไรของบริษัทแม่อย่างสยามดริ๊งค์ฯเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด การเสนอขอแลกหุ้นเช่นนี้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของสาวัชโดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้ชายหนุ่มคิดว่าคำชมของสุพจน์ ‘ไม่คู่ควร’ กับความสามารถแท้จริงของริสาแม้สักเสี้ยว!
“กราบขอบพระคุณสำหรับคำชมค่ะ แต่ดิฉันคงไม่บังอาจรับ เพราะถ้าดิฉันต่อรองเก่งอย่างที่คุณสุพจน์ว่าจริงๆ เราคงไม่ต้องมาพบกันในสภาพนี้”
“การมาที่นี่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้หรอกคุณริสา” สุพจน์บอกอย่างใจดีละม้ายผู้ใหญ่เอื้อเอ็นดูเด็กเล็กๆ “อย่างน้อยคุณก็ชนะใจตัวเอง การวางที่ยากที่สุดก็คือวางสิ่งที่ผูกมัดเราไว้ด้วยความรับผิดชอบนี่แหละ”
“คุณสุพจน์คิดยังไงกับข้อเสนอของดิฉันคะ” เธอดึงเรื่องกลับมายังประเด็นเดิม
สาวัชเผลอกลั้นใจรอฟังคำตอบ ด้วยรู้ดีว่าการขอปันหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ สุพจน์คงคิดหนักหากต้องเสียสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทตัวเองให้คนนอก มันอาจทำให้การบริหารจัดการในภายภาคหน้ายุ่งยากกว่าที่เคยเป็น
สุพจน์ผงกศีรษะช้าๆดุจกำลังครุ่นคิด นาน...เขาจึงตัดสินใจ “จำนวนหุ้นที่เราจะแลกกัน ให้คำนวณราคาตามที่ซื้อขายกันในกระดานวันที่เซ็นสัญญา คุณขัดข้องไหม”
ริสายกมุมปากขึ้นนิดๆ อ่านยากว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร เพราะสีหน้าและน้ำเสียงเธอเรียบเฉย “ขอให้คำนวณตามราคาตลาดในวันนี้เลย คุณสุพจน์จะสะดวกไหมคะ”
ผู้อาวุโสส่ายศีรษะนิดๆ แต่สายตาเปี่ยมด้วยแววชื่นชม “คุณกลัวผมไปปั่นราคาหุ้นเอสดีซีให้สูงๆ จะได้แลกจำนวนหุ้นออกไปให้คุณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้งั้นเหรอ”
“เรียนตามตรงว่าใช่ค่ะ” ริสาตอบตามตรงโดยไม่อับอายหรือเกรงคนฟังสะเทือนใจ
“งั้นเรามาเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้เลย” สุพจน์เปิดเครื่องแท็บเล็ตเช็กราคาหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วหันไปทางธนภูมิเป็นลำดับถัดไป “ราคาของสยามดริ๊งค์ฯวันนี้อยู่ที่หุ้นละร้อยสิบหกบาท”
“ค่ะ ร้อยสิบหกบาท ดิฉันยอมรับที่ราคานี้”
“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันนะ” สุพจน์สรุปง่ายๆ
เมื่ออีกฝ่ายรับคำแล้ว ผู้อาวุโสจึงสบตาริสานิ่งๆ “คุณริษาต้องการเข้าถือหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วต้องการอำนาจบริหารในสยามดริ๊งค์ฯด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องการค่ะ”
สาวัชอ่านความคิดของพี่สาวออกปรุโปร่ง หญิงสาวเพียงต้องการอำนาจต่อรองสำหรับการนั่งอยู่ในตำแหน่งซีอีโอของปรเมศวร์เทรดดิ้งเท่านั้น เพราะเมื่อสุพจน์จำต้องแบ่งหุ้นให้เธอแลกเปลี่ยนกับหุ้นพีอาร์เอ็ม สัดส่วนการถือครองหุ้นในสยามดริ๊งค์ฯของเขาย่อมลดลง ตราบใดที่เขายังคงปฏิบัติกับครอบครัวปรเมศวร์อย่างพันธมิตร ทุกเสียงโหวตของริสาในการประชุมผู้ถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯจะเป็นของสุพจน์ แต่ถ้าเขาคิดหักหลัง คะแนนโหวตของเธอจะกลายเป็นของฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งสาวัชมั่นใจว่าสุพจน์จะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆเช่นนั้นแน่นอน
“คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เสี่ยธนาโชคดีที่มีลูกเก่งอย่างนี้”
ใช่...เขาก็โชคดีมากที่มีพี่สาวเก่งอย่างนี้ หากต้องรับมือกับเรื่องนี้เอง เขาคงทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ริสากำลังกระทำอยู่
สาวัชเหลือบมองวัชระ เห็นพี่ชายกำมือแน่น ไม่พอใจกับการเจรจานี้ แม้จะหนักใจนิดๆ แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าริสาสามารถกล่อมวัชระให้เห็นด้วยไม่ยาก
ชายหนุ่มเลื่อนสายตาไปยังธนภูมิ สังเกตปฏิกิริยาทนายมือฉกาจของบริษัทบ้าง จึงพบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองริสาด้วยสายตาชื่นชมเต็มเปี่ยม และถ้าตาไม่ฝาดเขาเชื่อว่าเห็นความภาคภูมิภักดีฉายฉาดมาจากดวงตาคู่นั้นเช่นกัน!
หากไม่ติดว่าอยู่ในห้องที่กำลังเจรจาความเมืองเรื่องสำคัญ ชายหนุ่มคงยิ้มด้วยความประหลาดใจ ริสารู้ตัวไหมนะว่ามีใครบางคนเฝ้ามองเธอและมีความรู้สึกพิเศษมอบให้ บางที...เขาน่าจะลองเชียร์ธนภูมิให้พี่สาวพิจารณาบ้าง
สาวัชชะงัก เขากลายเป็นคนประเภทที่อยากช่วยให้คนอื่นมีความรักไปตั้งแต่เมื่อไร สงสัยต้องโทษอิงอรุณอีกแล้ว! ผู้หญิงคนนั้นทำให้โลกเงียบสงบของเขาเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เธอทำให้เขาต้องมาเรียนรู้ความรู้สึกทั้งสุข ทุกข์ ขมขื่น เจ็บปวด และสมหวังในคราเดียว
พลันที่ความคิดนั้นตกกระทบถึงใจ ดอกเตอร์หนุ่มจากอเมริกาก็นึกโกรธระคนชิงชังตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นร่วมมือกับพ่อหาหนทางเข้ามาฮุบกิจการของบริษัท เขายังจะนึกถึงเธอด้วยความรู้สึกดีๆอีกทำไม
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อสั่นเป็นจังหวะดุจสัญญาณบอกว่ามีข้อความเข้า ครั้นเปิดอ่านจึงพบว่าอิงอรุณส่งชื่อภัตตาคารฝรั่งเศสในโรมแรมสุดหรูมาให้ นัดหมายเวลาดิบดี ทั้งยังทิ้งท้ายว่า ‘จะคอย’ ขอให้เขารีบไปหาโดยเร็วที่สุดหลังเสร็จธุระ
สาวัชยกมุมปากนิดๆไม่รู้ว่าสมเพชหรือเวทนาตัวเอง เขานิ่งมองข้อความนั้นเนิ่นนาน สุดท้ายจึงกดลบโดยไม่ลังเล ทว่าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าชายหนุ่มกำมือแน่นระงับความรู้สึก เลิกคิดถึงอิงอรุณเสียที เธอไม่มีค่าพอให้เขาระลึกถึงอีกต่อไปแล้ว!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ไปเรียนหนังสือกลับมา
การบ้านเพียบเลย
ลืมมาลงนิยาย
นักอ่านที่รักโปรดให้อภัยสิริณด้วยนะคะ :D
หวังว่าฉากนี้คงจะพอทำให้ทีมพี่ดร.สะใจกันพอหอมปากหอมคอ
ที่ยายอิงโดนซะบ้าง หลังจากทำร้ายจิตใจพี่ดร.มานาน ฮ่าๆๆ
พรุ่งนี้มาอ่านกันต่อนะคะ กอดดดดดดดดดด

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2559, 06:48:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2559, 06:49:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 1599
<< ตอนที่ 41 (100%) | ตอนที่ 42 (100%) >> |

Kim 26 ก.ค. 2559, 08:49:54 น.
ถ้าพรุ่งนี้มาลงนิยายอีกเค้าก็ให้อภัยได้ ดีๆพี่ดร.เมินใส่ยัยอิงไปเลย ริสาเก่งมาก ไรเตอร์ก็เก่ง
ถ้าพรุ่งนี้มาลงนิยายอีกเค้าก็ให้อภัยได้ ดีๆพี่ดร.เมินใส่ยัยอิงไปเลย ริสาเก่งมาก ไรเตอร์ก็เก่ง


Liez 26 ก.ค. 2559, 08:50:45 น.
ยังเป็นกำลังใจให้พี่ด๊อก.....
ยังเป็นกำลังใจให้พี่ด๊อก.....

konhin 26 ก.ค. 2559, 11:21:01 น.
ฮ่าๆๆ ริสาเจ๋งจริงๆ ส่วนหนูอิงไม่รอดแล้ว คุณสาวัชแก้บ่วงออกจากตัวเองแล้วอ่ะ คาดว่าคงไม่ไป
ฮ่าๆๆ ริสาเจ๋งจริงๆ ส่วนหนูอิงไม่รอดแล้ว คุณสาวัชแก้บ่วงออกจากตัวเองแล้วอ่ะ คาดว่าคงไม่ไป

sumitt777 26 ก.ค. 2559, 12:59:55 น.
ขอเป็นกำลังใจ ให้ทั้งคู่ คุณหนูอิง คุณสาวัช แอนด์ กำลังใจรัวววว ให้ไรท์เตอร์ (อยากช่วยทำการบ้าน อิอิ)
ขอเป็นกำลังใจ ให้ทั้งคู่ คุณหนูอิง คุณสาวัช แอนด์ กำลังใจรัวววว ให้ไรท์เตอร์ (อยากช่วยทำการบ้าน อิอิ)

นักอ่านเหนียวหนึบ 26 ก.ค. 2559, 15:47:42 น.
มันเป็นความเข้าใจผิชชชชชชช
พี่ดร. ห้ามงอนนานๆ นะ ใจร่มๆ นะ
มันเป็นความเข้าใจผิชชชชชชช
พี่ดร. ห้ามงอนนานๆ นะ ใจร่มๆ นะ

goldensun 26 ก.ค. 2559, 18:32:03 น.
ชื่นชมริสาด้วยคนค่ะ สมกับเป็นผู้นำรุ่นใหม่ วางหมากได้แน่นมาก
และคิดว่า สาวัชน่าจะเข้าใจผิดนะคะ ปูเรื่องว่าอิงออกจะรักคนรอบข้าง จนบางครั้งหลุดในบางมุม ไม่น่าจะหลอกใช้ดร.ได้
ชื่นชมริสาด้วยคนค่ะ สมกับเป็นผู้นำรุ่นใหม่ วางหมากได้แน่นมาก
และคิดว่า สาวัชน่าจะเข้าใจผิดนะคะ ปูเรื่องว่าอิงออกจะรักคนรอบข้าง จนบางครั้งหลุดในบางมุม ไม่น่าจะหลอกใช้ดร.ได้

Zephyr 28 ก.ค. 2559, 13:31:08 น.
พี่ริสา สุดยอดค่ะ
พี่ริสา สุดยอดค่ะ