Love & Rock
นิยายภาคต่อของลูกหลานเฮียพาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยรุ่นและเริ่มผจญภัยในแบบของพวกเขา ภาคนี้เกี่ยวเนื่องกับมิคาเอล ไพร์ด อิคารัสและเฮเลน แต่ก็จะมีเหตุการณืหลายอย่างเกิดขึ้น และแน่นอนว่ายาวแน่ เพราะตัวละครหลักและรองเยอะเหลือเกินค่ะ
Tags: พาย

ตอน: LRock ตอนที่ 4 (ครึ่งแรก)

เสียงดนตรีดังภายในห้องซ้อมส่วนตัวของคฤหาสน์ธีโอฟาสเต้ เด็กหนุ่มสามคนต่างก็พยายามซ้อมเพลงต่างๆ อย่างอดทนและให้ได้บทเพลงที่ดีที่สุด จนคนหนึ่งเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา

“เฮ้อ อะไรวะ” อิคารัสบ่นก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้

“หยุดทำไม ฝึกต่อสิ” กาเบรียลที่เป็นโค้ชให้เด็กหนุ่มทั้งสามคอยกำกับไม่ให้อู้

“ก็มันไปต่อไม่ได้นี่ครับ ถึงตรงนี้ทีไรลืมโน้ตทุกที” อิคารัสเกาหัวอย่างแรงแบบหงุดหงิดสุดๆ

ไพร์ดหยุดมือกับกลองของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้า “ผมว่านะครับ กาเบรียล ถ้ายังซ้อมด้วยกันในห้องเดียวกันแบบนี้ ไม่มีทางผ่านสักคนแน่ๆ”

“งั้นมิคไปห้องสอง ไพร์ดไปห้องสาม เดี๋ยวให้เด็กมาขนกลองแล้วออกไปตั้งกลองใหม่ เริ่มซ้อมเลยนะ มิคซ้อมทีละอย่างนะ อย่าเล่นหลายอย่างพร้อมกัน เดี๋ยวจะงง ทำไมลูกไม่เลือกไปสักชิ้นว่าจะเล่นดับเบิลเบสหรือว่ากีตาร์เบสนะ” กาเบรียลส่ายหน้ากับลูกชายที่ยังไม่เลือกเครื่องดนตรีอย่างจริงจัง

“ก็ผมชอบนี่ฮะ” มิคาเอลตอบอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนช่วยปิแอร์ขนเครื่องดนตรีของไพร์ดออกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาขนของตัวเองออกไป

พายเดินเข้ามาแล้วขมวดคิ้ว เห็นสามียืนอยู่ในห้องเดียวกับเจ้าหลานชาย ท่าทางเคร่งเครียดด้วยกันทั้งคู่ก็ถอนหายใจยาว แล้วเดินเข้าไปหาสามี

“ใจเย็นๆ น่า เรื่องของดนตรีเป็นเรื่องของอารมณ์ ถ้าอารมณ์ขุ่นมัวแบบนี้จะเล่นได้ยังไงล่ะ อิกกี้ไปอาบน้ำทำใจให้สบายก่อนดีกว่า แล้วฝึกด้วยการใช้สมาธิแทนการเล่นจริง ฉันว่านายน่าจะช่วยได้นะเรื่องนี้” พายบอกอิคารัสอย่างสงสาร ก่อนจะมองสามีที่พยักหน้าช้าๆ อย่างเห็นด้วย

“งั้นผมขอไปสงบสติอารมณ์ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไปนั่งทำสมาธิฝึกเล่นในใจดูครับ” อิคารัสบอกก่อนออกไปจากห้อง เพราะเห็นว่าคงทำต่อไปไม่ได้แล้ว

“ทำไมเข้มงวดกับอิกกี้จัง รู้ไหมว่าจะเป็นการกดดันทั้งตัวเธอแล้วก็เด็กน่ะ” พายเข้ามาควงแขนชวนเขาออกไปจากห้องฝึกเพื่อให้เขาผ่อนคลายลงบ้าง แล้วพากันเดินขึ้นจากห้องใต้ดินที่เขาทำเป็นห้องซ้อมเพลง

“ก็อิกกี้น่ะสิ อ่อนสุดเลย ฉันไม่อยากใช้เส้นนะ อยากให้เด็กๆ ได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการสอบ รู้ไหมว่าฉันก็กดดันไม่น้อยไปกว่าเด็กๆ หรอกนะ เพราะทั้งสามคนอยากเข้าเรียนที่วิทยาลัยเดิมของฉัน” กาเบรียลนึกหนักใจที่ลูกและหลานๆ อยากจะเข้าวิทยาลัยดนตรีที่มีชื่อเสียง

“ฉันว่าตอนนี้นะ นายกำลังกดดันตัวเองมากกว่า อย่าไปคิดมากสิ เราก็ตัวเรา หลานก็ตัวหลาน ลูกก็ตัวลูก อย่าไปสนใจใครมากได้ไหม เลิกนิสัยคิดมากเสียทีสิ” พายจับดวงหน้าเขาแล้วหอมแก้มเบาๆ เป็นกำลังใจ

กาเบรียลไม่หยุดแค่เธอหอมแก้ม เขาโอบเอวเธอมาจูบดูดดื่ม ก่อนพากันนั่งลงที่โซฟาห้องนั่งเล่น หากพอเสียงเปิดประตูดังเข้ามา เขาและเธอก็ผละออกจากกัน แล้วหันไปมองต้นเสียง

“อ้าว ขอโทษค่ะ ท่านพ่อท่านแม่” แจ็คลีนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเตรียมจะออกไป

“เปล่าๆ พ่อแม่ไม่ได้จะทำอะไร แค่นั่งคุยกันให้พ่อใจเย็นเท่านั้นล่ะ แจ็คล่ะไปไหนมา” พายถามลูกสาวที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก

“หนูไปร้านทำผมมาค่ะ ผมที่ดัดไว้ทำท่าจะคลายแล้วค่ะ หนูก็เลยดัดหน่อยจะได้หยิกฟูสวยแบบนี้ไงคะ” แจ็คลีนโชว์ผมดัดลอนสีทองเงางามของตัวเอง แล้วเธอก็รัดผมไว้สองข้างพร้อมประดับยางรัดที่ติดคริสตัลราคาแพง

“สวยจ๊ะ ลูกแม่สวยตลอดล่ะ ก็แม่ตั้งใจให้สวยนี่นา” พายอ้าแขนสองข้างให้ลูกมานั่งตัก ทั้งที่ลูกสาวจะอายุสิบห้าย่างสิบหกแล้วก็ตาม

แจ็คลีนก็ไม่ปฏิเสธ เห็นแม่อ้าแขนออกก็เดินไปนั่งตักแม่ พร้อมหอมแก้มทั้งสองข้าง

“ทำไมลูกพ่อไม่อยากโตนะ ดูสิ ยังอ้อนแม่อยู่เลย” กาเบรียลลูบผมสีเดียวกับเขาของลูกสาวอย่างเอ็นดู

“ท่านพ่อขา สถานฑูตอเมริกาส่งบัตรเชิญไปงานเดินแบบการกุศลประมูลเสื้อผ้า หนูว่าเราไปร่วมงานทำบุญไปในตัวด้วยดีไหมคะ” แจ็คลีนส่งบัตรเชิญที่รับมาจากเฮนริคส่งให้พ่อ แล้วก็ค่อยๆ ลงจากตักแม่และนั่งบนโซฟาแทน

“แต่แม่ของลูกคงไม่ชอบไปงานที่ต้องใช้ชุดผู้หญิงเท่าไรหรอกนะ ถ้าเขาให้แม่ใส่สูทไปได้ พ่อก็จะไป” กาเบรียลคาดเดานิสัยภรรยาได้อย่างถูกต้อง

“ใครเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้างานนี้ล่ะ” พายมองบัตรที่สามีส่งมาให้

“ไม่รู้สิ เธอดูเอาเองก็แล้วกัน” กาเบรียลโอบไหล่ลูกสาวแสนสวยอย่างเอาใจ

“ลูกอยากออกงานนี้จริงๆ เหรอ” พายอ่านแล้วก็วางบัตรลง

“ก็ดีนะคะ ยังไงเขาก็อุตส่าห์ส่งมาให้ท่านแม่นะคะ แสดงว่าเขาเชื่อว่าเรามีกำลังที่จะประมูลในงานได้ เราก็ได้ช่วยเหลือกลุ่มคนที่เขาจะเอาเงินไปช่วยไงคะ” แจ็คลีนไม่เบื่องานสังคม เพราะจะได้รู้จักคนมากขึ้น และเป็นแนวทางในการปูอนาคตของตนเอง อีกทั้งยังได้ช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย มีแต่ได้ทั้งสองทาง

“งั้นก็คงไปได้ ฉันจะบอกการ์เซียเองว่า เราจะไปแล้วขอเข้าไปชุดสูทล่ะ ตกลงไหม มิคต้องไปด้วยนะ เพราะเราไปทั้งครอบครัวนี่” พายบอกลูกสาว แล้วก็มองลูกสาวอย่างสงสัยที่กระตือรือร้นอยากจะไปงานนี้ “ว่าแต่อะไรทำให้ลูกอยากไปงานนี้มากละจ๊ะ”

“ได้ยินจากท่านปู่ว่ามีคนสำคัญ แล้วก็นักธุรกิจชาวอเมริกันหลายคนไปกัน อยากให้แจ็คฝึกจำรายชื่อเอาไว้น่ะค่ะ อีกอย่างเขาหาทุนช่วยเหลือคนในประเทศยากจน แจ็คเห็นว่าเป็นการทำบุญที่ดีนะคะ การ์เซียก็เป็นเพื่อนกับแม่ด้วย เสื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น” แจ็คลีนให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมา

“ตามใจลูกแล้วกัน พ่อไปได้ บอกเฮนริคไว้แล้วกัน” กาเบรียลบอกกับลูกสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันไปมองอิคารัสที่กลับเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง

“ผมพร้อมแล้วครับลุงกาเบรียล” อิคารัสกลับมาพร้อมแรงฮึด

กาเบรียลก็พยักหน้าช้าๆ ก่อนบอกหลานชาย “ไปที่สวนดีกว่า เราทำสมาธิกันก่อน เลิกคิดถึงเรื่องเพลงสักระยะ แล้วค่อยคุยกัน ทำทีละขั้น”

“ผมจะพยายามทำให้ได้ด้วยตัวเองครับ เฮ้อ ไม่น่าเลือกเปียโนเลย คนเล่นเยอะคู่แข่งก็เยอะตาม” อิคารัสบ่นๆ อย่างไม่จริงจังนัก ก่อนโดนป้าตบไหล่อย่างแรง

“เหมือนพ่อไม่มีผิด เลือกทางง่ายๆ สุดท้ายก็ลำบากอยู่ดี จำไว้นะ ไม่มีทางไหนสบายหรอกนะ ทุกคนก็ต้องเจอทางลำบากทั้งนั้นแหละ คิดว่าคนเล่นเยอะจะกลมกลืนหาครูง่าย เป็นไงล่ะ คนเล่นเยอะก็มีข้อเปรียบเทียบเยอะอยู่ดีล่ะ เอาล่ะ พยายามเข้า อย่าคิดว่าอะไรจะง่ายไปเสียหมดล่ะ” พายดุเจ้าหลานชายนิดๆ ก่อนจะมองดูสมุดภาพของตนเองที่กำลังจะส่งโรงพิมพ์

“โธ่ พายฮะ ก็ผมลูกพ่อนี่ฮะ แต่ผมก็มีความพยายามเหมือนพ่อผมด้วยนะฮะ ผมจะพยายามต่อไปฮะ” อิคารัสไม่หมดกำลังใจกับอุปสรรคของตน แล้วพยายามสร้างสรรค์ในแบบที่ต้องการที่สุด

“เพลงเดียวกัน โน้ตเหมือนกัน แต่ฝีมือคนเล่นต่างหากที่เป็นตัวตัดสิน ใส่ใจลงไป ทำความเข้าใจกับบทเพลง เข้าใจอารมณ์เพลง ตีความในแบบที่เราเชื่อมั่น เพลงก็จะไพเราะเอง ตอนนี้ช่างเถอะ ออกไปที่สวนกันดีกว่า” กาเบรียลมองแสงสวยงามในสวนแล้วพยายามทำให้หลานชายผ่อนคลายลง

“แจ็คว่าพรุ่งนี้อิกกี้ต้องทำได้ดีกว่าวันนี้แน่ๆ ค่ะ” แจ็คลีนให้กำลังใจเพื่อนพี่ชายแล้วก็ยิ้มให้อย่างน่ารัก

“นั่นไง รอยยิ้มนางฟ้า กำลังใจมาเต็มๆ แต่ไม่ต้องแอบเชือดพี่ทีหลังล่ะ อันนั้นน่ะกลัวใจเต็มๆ” อิคารัสพูดติดตลกก่อนเดินตามพ่อเพื่อนไป

“อิกกี้บ้า เค้าไม่เคยแกล้งตัวเองสักหน่อย” แจ็คลีนพูดไล่หลังอย่างไม่จริงจังนัก ใส่จริตเล็กน้อยพอน่ารัก

พายมองลูกสาวกับหลานชายแล้วก็ยิ้มเอ็นดู ที่หยิกแกมหยอกตามประสาพี่น้องกันอย่างสนิทสนม แม้จะคนละสายเลือดกันก็ตาม หากความผูกพันที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานนั้นสานให้ผูกพันรักใคร่

“ท่านแม่ขา ภาพถ่ายชุดนี้สวยแปลกตาดีนะคะ ท่านแม่แต่งภาพไหนบ้าง” แจ็คลีนหันมาสนใจภาพสวยๆ ที่ถูกวางลงบนตัวอย่างหนังสือรวมภาพ

“ก็เกือบครึ่งล่ะ อย่าไปสนใจเลยจ๊ะ ภาพสวยก็พอแล้วล่ะ สวยเหมือนลูกสาวแม่ไง” พายชมลูกสาวแล้วก็กอดไหล่ลูกสาวอย่างใกล้ชิดด้วยความรัก

แจ็คลีนหัวเราะชอบใจ แล้วอิงอกแม่พร้อมทั้งมองภาพวิวทิวทัศน์ สลับกับภาพดวงหน้าของมนุษย์ที่กำลังบ่งบอกอารมณ์ของสถานที่ ทำให้คนดูภาพเข้าใจได้ไม่ยาก เมื่อมีการให้อารมณ์ภาพด้วยสีหน้าของมนุษย์

****************************************


มือที่ปวดล้ายกขึ้นนวดคอเป็นระยะ ก่อนจะหยุดพักทุกอย่างแล้วย้ายขึ้นชั้นบน เปิดคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เปิดมาพักใหญ่ตั้งแต่ตั้งใจซ้อมดนตรี

“เฮ้ มิคกี้” คำทักทายแรกที่เขาได้รับจากโปรแกรมแชทที่ใช้นามแฝงว่า...เฮย์!!!โนฟรี

“อืม มีอะไรอิซซี่” เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างช้าๆ เพราะปวดมือเหลือเกิน

“โจฝากถามว่า หนังสือรวมภาพที่ฝากป้าพายเซ็นถึงไหนแล้ว คืนมาด้วยนะ ขี้เกียจไปหาซื้อ” เฮเลนตอบกลับมาแล้วใช้เครื่องหมายแสดงความรู้สึกน่ารักอีกเพียบ

“นี่ไม่ได้อยู่กับแจ็คแล้วเหรอ กลับไปตอนไหนเนี่ย เมื่อวานยังเห็นเดินเล่นอยู่แถวนี้อยู่เลย” มิคาเอลเป็นงงที่เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก

“อยู่ในห้องแจ็คนี่ไง แต่โจฝากมาถามทางแชท เอาอย่างนี้นะ คุยกันเองก็แล้วกัน” เฮเลนลากเพื่อนมาร่วมคุย ก่อนจะออกจากห้องสนทนา เพื่อหาอะไรทำในห้องแจ็คลีน

“ไง โจ” มิคาเอลทักทายเป็นคำแรกแล้วหันไปเปิดเมลเพื่อเช็คข่าวต่างๆ

“มิค หนูขอหนังสือรวมภาพคืนได้หรือยังคะ” โจเซฟีนพิมพ์ตอบกลับมาอย่างตรงไปตรงมา

มิคาเอลเห็นแสงกระพริบๆ เพราะเขาขึ้นว่าไม่ว่างตลอดเวลา จึงเลือกตอบกลับไปอย่างไม่รู้เรื่อง “ไม่ทักสักคำเลยเหรอเนี่ย ว่าแต่หนังสือรวมภาพอะไรล่ะ”

“เอ้อ ขอโทษค่ะ สบายดีไหมคะ” โจเซฟีนพาซื่อตามประสาเด็ก ถามตามที่อีกฝ่ายร้องขอ

มิคาเอลอ่านแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะแสดงเครื่องหมายแสดงความรู้สึกอย่างขำๆ แล้วชวนคุย “เอาจริงนะเนี่ย สบายดี แต่ยังไม่ได้นอนเลย ซ้อมเพลงมาหลายวันละ แล้วหนังสือรวมภาพอะไร”

“ก็หนังสือรวมภาพถ่ายของพายไงคะ ขอหนูคืนได้หรือยัง แบบว่าพายเซ็นเสร็จหรือยังคะ” โจเซฟีนถามด้วยใจเต้น ลุ้นๆ อยู่ว่าได้ลายเซ็นหรือไม่

“เซ็นอะไร แม่พี่ไม่เคยเซ็นหรอก แม่พี่ว่าไม่ได้เป็นดารา ไม่ได้เป็นนักเขียน แล้วก็ไม่ได้เป็นคนดัง เซ็นทำไม” มิคาเอลตอบตามจริง เพราะเฮเลนนำไปให้แล้ว แต่พายปฏิเสธ

“โอ๊ย ทำไม แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ เท่าที่เคยอ่านเรื่องของพายมา พายเป็นคนเก็บตัวพอสมควร ไม่เป็นไรค่ะ ขอหนังสือคืนได้ไหมคะ” โจเซฟีนเข้าใจแม้จะเสียดายนิดๆ แต่เพราะเข้าใจความเป็นส่วนตัวของตากล้องที่ตนเองชื่นชอบ

“ปิแอร์ฮะ ขอหนังสือรวมภาพของโจเซฟีนที่ฝากให้แม่เซ็นหน่อยฮะ” มิคาเอลหันไปหาปิแอร์ที่เข้ามาในห้องพร้อมของว่างพอดี จึงร้องขอให้ช่วย โดยลืมตอบเด็กหญิง แล้วหันไปอ่านเมลเรื่องตารางงานหลังจากสอบเข้าเสร็จ

แสงไฟก็กระพริบจนนิ่ง หากเขาก็ไม่ตอบกลับไป จนกระทั่งปิแอร์นำหนังสือที่ใส่กล่องเอาไว้มาให้ “นี่หรือเปล่าครับคุณมิคาเอล”

มิคาเอลมองในกล่องเห็นก็พยักหน้า ก่อนจะนึกสนุกแกล้งเด็กหญิง หากพอกลับไปอ่านก็ต้องส่ายหน้าช้าๆ เพราะมีข้อความร้อนใจพิมพ์มาเพียบ

“หายหรือเปล่า...อย่าทำหายนะ...ขอร้องล่ะ...ยังไงก็ต้องช่วยหาให้หน่อยนะ...บางเล่มหายากมากเลย...ต้องไปร้านของเก่าถึงจะหาเจอ...บางเล่มเป็นสิบปีแล้วนะ...อย่าทำหายนะ”

เขาหัวเราะ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างสนุกๆ “ไม่เจอนะ สงสัยใครเข้าใจผิดส่งไปที่แคลิฟลอร์เนียหรือเปล่า เดี๋ยวจะให้คนค้นให้เมื่อมีโอกาสไปที่แคลิฟลอร์เนียนะ”

“อะไรนะ...ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ...ฝากอิซซี่ไว้นี่...อิซซี่บอกว่าให้กับพายแล้วนี่...แล้วทำไมไปอยู่ที่แคลิฟลอร์เนียได้ล่ะ...ส่งไปทางไหน...ถ้าทางไปรษณีย์จะหายไหม...สวรรค์...ทำไมนะ...หวังว่าจะไม่หายนะ” โจเซฟีนเป็นร้อนใจรีบพิมพ์กลับมาเป็นชุด

มิคาเอลอ่านข้อความทั้งชุดแล้วส่ายหน้า ชักขำไม่ออก สงสารเด็กน้อยที่กำลังวุ่นวายใจ จึงพิมพ์ตอบกลับไป “อ๋อ ปิแอร์บอกว่าอยู่นะ ขอดูก่อน มีสิบเล่มนี่ เก่งนะหาได้เยอะ ขาดหลายเล่มเลยนี่”

“โหย ทำไมไม่ดูให้ดีก่อน รู้ไหมว่าหนูกลัวจริงๆ” โจเซฟีนค่อยโล่งใจแล้วพิมพ์ตอบกลับมาอย่างสบายใจขึ้น

“รู้แล้วล่ะว่ากลัว ถ้าอยู่ตรงหน้าตอนนี้ เธอคงจะกรี๊ดๆ ใส่แน่ๆ” มิคาเอลแกล้งพูดขณะมองดูเล่มๆ แล้วถามต่อ “ในเล่มก็มีลายเซ็นแม่แล้วนี่ จะเอาอีกทำไม”

“บ้า หนูไม่เคยกรี๊ดสักหน่อย” โจเซฟีนบอกเขาเพราะเท่าที่จำได้เธอก็ไม่เคยกรี๊ดจริงๆ ก่อนจะตอบอีกคำถามของเขา “อยากได้ลายเซ็นสดๆ นี่นา ลายเซ็นในหนังสือก็มีกันทุกคนที่ซื้อนี่ จะเหมือนลายเซ็นส่วนตัวได้ยังไง ทีตัวเองล่ะ เวลาแฟนๆ ขอลายเซ็นไม่เซ็นให้ แฟนๆ ก็เสียใจสิ เจนีนยังได้เลย แต่ของหนูไม่เป็นไร หนูเห็นด้วยกับพายทุกอย่าง”

มิคาเอลส่ายหน้าเล็กน้อย ที่เห็นว่าเด็กหญิงหลังใหลได้ปลื้มกับแม่เขาอย่างมาก แล้วเขาก็สงสัยว่าภาพถ่ายแต่ละภาพที่แม่เขาถ่าย มีความหมายกับโจเซฟีนแค่ไหน

“จะส่งให้หนูได้เมื่อไรคะ ถึงไม่ได้ลายเซ็นก็ไม่เป็นไรค่ะ หนูดูภาพเฉยๆ ก็ได้” โจเซฟีนยอมรับความจริง

“ถามจริงๆ ตัวแค่นี้ทำไมชอบการถ่ายภาพ แสดงว่าต้องมีกล้องล่ะสิ สิบสามขวบนี่เล่นกล้องแล้วเหรอ” มิคาเอลถามเด็กหญิงอย่างตรงไปตรงมา

“เคยได้ยินไหมคะ ภาพถ่ายหนึ่งใบแทนคำได้นับพันคำ แทนมุมมองของตากล้องด้วย” โจเซฟีนมีความสุขกับภาพถ่ายนับร้อยที่ผ่านตาเข้ามา “แล้วหนูก็ดีใจที่ได้อยู่ที่นิวยอร์ค แล้วก็ได้รู้จักกับอิซซี่ เพราะหนูจะได้ไปห้องแสดงภาพเพื่อดูภาพของพายค่ะ”

****************************************

สวัสดีค่ะ ^^
พยายามจะหายหวัด อิอิ
แล้วก็พยายามจะปิดนิยายหัวแก้วหัวแหวน อิอิ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายมาตลอดค่ะ

คุณ ตุ๊งแช่ --- อิกกี้เป็นชื่อเล่นของอิคารัส แล้วอิซซี่เป็นชื่อเล่นของเฮเลน ที่มาจากชื่อไทยว่าอิสราค่ะ ^^
คุณ kaeka --- ^^ น้ำลดแล้วค่ะ เดี๋ยวเด็กๆ ก็โตแล้วค่ะ อิอิ
คุณ tuktuk --- อิอิ อีกไม่นานหรอกค่ะ จะมาปกติแล้วค่ะ ^^
คุณ anOO --- >,< มีคนแอบรู้ทัน อิอิ แต่คนไหนนะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2554, 15:54:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2554, 15:54:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1877





<< LRock ตอนที่ 3 (ครึ่งหลัง)   LRock ตอนที่ 4 (ครึ่งหลัง) >>
ตุ๊งแช่ 4 ส.ค. 2554, 17:11:02 น.
ขอบคุรค่ะ เริ่มจำได้แระ ใครเป็นใคร


anOO 4 ส.ค. 2554, 19:44:19 น.
เอ....มิคกับโจ ยังไงๆกันอยู่หรือป่าวน๊า


หนอนฮับ 4 ส.ค. 2554, 20:18:13 น.
ครอบครัวน่ารักจังอ่ะ...รักใครกลมเกลียวกันอ่ะ


XaWarZd 4 ส.ค. 2554, 23:57:55 น.
ขอผังบ้านหน่อยได้มั้ยเริ่มจะงงล่ะ


tuktuk 5 ส.ค. 2554, 11:08:59 น.
อยากให้คนไทยรักกันและห่วงใยกันเหมือนครอบครัวพายเนอะ


kaeka 5 ส.ค. 2554, 12:53:38 น.
มิคจ๋า... นิสัยแม่ไปมั้ยจ๊ะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account