มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 39



เปิดจอง‘มงกุฎแสงดาว’
นิยายรักโรแมนติค ผสมผสานการผจญภัย แอ็คชั่น สนุกสนาน และน่าลุ้น!!
จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าหญิงพลัดถิ่นต้องเดินทางกลับบ้านเมืองของตน
ด้วยการนำทางของหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลฯ ที่เป็นดังแสงสว่าง
และแฝงไปด้วยอดีตที่เกี่ยวพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ
มงกุฎแสงดาว มี 2 เล่มจบ ราคาเล่มละ 289 บ.
2 เล่ม ในราคาพิเศษเพียง 548 บ. ค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน 40 บ.
สั่งจองได้ทาง กล่องข้อความ http://web.facebook.com/pirita.boonta
หรือในเพจ ‘พิริตา อเมทริน นักเขียน’
Email: kanplu@windowslive.com
โทร.062665624 หรือทางไลน์ ID: pirita-ametrine
สั่งพิมพ์ประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้จ้า!!


อัพไม่จบนะคะ อัพประมาณ 70% ค่ะ (อัพถึงวันที่ 10 นี้ค่ะ) หากต้องการสั่งจองตอนนี้สามารถโอนเงินได้เลยนะคะ อัพตอนสุดท้ายแล้วสั่งพิมพ์เลยค่า


บทที่ 39


หลังการประชุมร่วมกับเหล่าเสนาฯ และเจ้าชายอุชเชน เรื่องการเสด็จประพาสตามหัวเมืองต่างๆ เสร็จ เจ้าหญิงรัชทายาทชลันตาก็ได้ให้ท่านโสตถีกับปาระมีเข้าเฝ้าต่อที่ตำหนักส่วนพระองค์ในทันที

“ท่านลุงคะ หลานไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยกเรื่องการตรวจดีเอ็นเอขึ้นมาพูดอีกล่ะคะ ทั้งที่เสด็จพี่เองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องของหลานแล้ว” หญิงสาวรีบถามถึงสิ่งที่ข้องใจ

เพราะเธอไม่รู้มาก่อนว่าสองพ่อลูกจะพูดเรื่องนี้ในที่ประชุมวันนี้ และเธอก็เหมือนถูกกันออกมาทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับตัวเอง มันทำให้วาวพลอยสงสัยยิ่งนัก

“ก็เพราะเรื่องดีเอ็นเอที่ลุงพูดในวันนี้ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เจ้าหญิงน่ะสิ” ท่านโสตถีตอบ

“หมายความว่ายังไงคะ หลานงงไปหมดแล้ว” ท่านโสตถีกับ

ปาระมีมองหน้ากันครู่หนึ่งราวกับตัดสินใจ

“คือ... มันเป็นเรื่องของอุชเชนน่ะเจ้าหญิง” ปาระมีเป็นฝ่ายเฉลยในที่สุด

“อะไรนะคะ หมายความว่าเสด็จพี่อุชเชน... ” หญิงสาวอ้าปากค้างไปหลายวินาทีกับสิ่งที่ได้รู้

“เรายังไม่แน่ใจหรอก แต่ที่พูดไปก็เพื่อจะดูท่าทีของเจ้าชายอุชเชนกับพรรคพวกเท่านั้น แต่เจ้าหญิงก็เห็นแล้วนี่ว่าเจ้าชายพยายามหลีกเลี่ยงตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ทางเราสงสัยมาตลอด” ท่านโสตถีบอก และเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสงสัยในตัวเจ้าชายอุชเชน

แต่ก่อนทางเหล่าเสนาฯ ข้าราชการได้รับการยืนยันทั้งพยานและหลักฐาน จากเสนาฯ ระสังกับพรรคพวกอย่างแน่นหนาว่าเจ้าชายอุชเชนเป็นพระโอรสของพระราชาเนวะสัญที่เกิดจากหญิงงามเมือง แต่เนื่องจากรัชทายาทตัวจริงได้หายตัวไป

และคิดว่าอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้มีการแต่งตั้งเจ้าชายอุชเชนขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาท ตอนนั้นไม่มีใครติดใจสงสัยอะไรเลย แต่ด้วยตัวของอุชเชนมีนิสัยบ้าอำนาจ โหดร้าย มัวเมาสุรานารี ไม่ใส่ใจการงานบ้านเมือง และไม่ฟังคำตักเตือนของใคร

ซึ่งนั่นไม่มีนิสัยใดใกล้เคียงกับพระราชาเนวะสัญเลย ทำให้ท่านโสตถีกับเสนาบดีอีกกลุ่มไม่พอใจ พร้อมเกิดความสงสัยขึ้นมา จึงเริ่มให้คนออกสืบเสาะหาที่มาที่ไปของเจ้าชายอุชเชนที่อาจจะมีเงื่อนงำแฝงอยู่

ประจวบเหมาะกับการตามหาเพชรยอดมงกุฎราชามีความคืบหน้า และรู้ว่าเจ้าหญิงชลันตายังมีชีวิตอยู่ แม้เรื่องเจ้าชายอุชเชนจะไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรมากนัก

แต่การค้นพบเจ้าหญิงรัชทายาทและปรับลดตำแหน่งเจ้าชาย

อุชเชนให้เป็นองค์รัชทายาทอันดับสอง ก็ทำให้ความสงสัยนั้นเริ่มมีเค้าลางความจริงมากยิ่งขึ้น จากความเคลื่อนไหวลับๆ ของอุชเชนที่ค่อยๆ เปิดเผยแผนการตามล่าเจ้าหญิงออกมาทีละน้อยนั่นเอง

“การเดินทางประพาสหัวเมืองครั้งนี้จะเป็นการค้นหาความจริงในเรื่องนี้ด้วย เจ้าหญิงเองก็ควรเตรียมตัวให้พร้อม การที่อุชเชนจะไปด้วยมันทำให้ลุงไม่สบายใจ และคงลำบากต่อการค้นหาความจริงอยู่บ้าง แต่เราก็ต้องทำ บ้านเมืองริตถาวดี ไม่ควรถูกปกครองด้วยคนอย่างอุชเชน ต่อให้เป็นรัชทายาทจริงๆ ก็ตาม”

หลังจากท่านโสตถีกับปาระมีกลับไปแล้ว เจ้าหญิงรัชทายาทชลันตา หรือวาวพลอย ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องที่พึ่งคุยกันไปกับญาติสนิทสองพ่อลูก ชีวิตในริตถาวดีมีเรื่องเหลือเชื่ออยู่มากมายเหลือเกิน

ไม่สิ... ต้องบอกว่านับแต่รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของตน ชีวิตของเธอก็เต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อมากมายต่างหาก แต่ความคิดก็หยุดชะงักลงเมื่อเห็นนางอัมพร ตะวันพราวกับโก๋เข้ามาหา

“เราตกลงใจกันว่าจะติดตามเจ้าหญิงไปด้วยนะลูก” นางอัมพรบอกทันทีที่นั่งลงข้างหญิงสาว

“แต่การเดินทางอาจจะลำบากนะคะแม่” วาวพลอยรู้สึกเป็นห่วง เพราะเห็นว่ามารดาลำบากลำบนกับเรื่องของตนมามากแล้ว

“พูดอย่างกะแม่ไม่เคยลำบากอย่างนั้นแหล่ะ มากกว่านี้พวกเราก็เคยเจอมาแล้ว นี่แค่เดินทางไปตามหัวเมืองเอง” นางอัมพรพูดอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ วาวพลอยจึงปฏิเสธไม่ออก

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจแม่เถอะค่ะ ก็ดีเหมือนกันพลอยจะได้หายห่วง พลอยเองก็ไม่อยากทิ้งให้ทุกคนอยู่ที่นี่ แม้เสด็จพี่อุชเชนจะไปด้วยก็ตาม”

“อะไรนะยัยพลอย เสด็จพี่ของเราจะไปด้วยงั้นเหรอ งานคงกร่อยน่าดู” ตะวันพราวทำหน้าเบ้พร้อมกรอกลูกตาไปมาในตอนท้าย

“นั่นสิเจ๊ รังสีอำมะหิตแผ่กว้างออกอย่างนั้น น่ากลัว” โก๋เองก็ทำท่าพรั่นพรึง

“พลอยก็ไม่คิดว่าเสด็จพี่จะไปด้วยหรอกค่ะ เพราะเห็นว่าเขาเองก็เคยเสด็จไปแล้ว แต่เมื่อเขามีความประสงค์อย่างนั้นก็ตามใจเขาเถอะค่ะ เพราะยังไงเขาก็เป็นเจ้าชายและองค์รัชทายาทคนหนึ่งอยู่ดี” วาวพลอยว่า

ทั้งที่ความสงสัยในตัวอุชเชนยังคงอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่สามารถบอกเล่าให้คนในครอบครัวฟังได้ในตอนนี้ จนกว่าเรื่องราวจะกระจ่างในวันหนึ่ง ตะวันพราวกับโก๋ได้ยินดังนั้นจึงเออออไปด้วย

“แม่ว่าเราควรเตรียมตัวกันได้แล้วนะ” ก่อนที่นางอัมพรจะชวนขึ้น

*-*-*-*-*-*

ทางด้านเจ้าชายอุชเชนที่เดินฉับๆ กลับมายังตำหนักของตน ด้วยท่าทางอารมณ์เสีย เขาตวาดข้ารับใช้ไปหลายคนอย่างไร้เหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ข้ารับใช้เหล่านี้ต้องเผชิญยามเขาอารมณ์ไม่ดี

“ให้ตายเถอะ... ไอ้เฒ่าโสตถีนี่มันไม่เคยเชื่อเลยใช่ไหมว่าข้าเป็นเจ้าชายจริงๆ มันถึงได้พูดเรื่องตรวจดีเอ็นเอบ้าบอนั่น แล้วตัวท่านเองคิดยังไงถึงได้ไปสนับสนุนมันอย่างนั้นท่านระสัง” เจ้าชายอุชเชนสบถเมื่อก้าวเข้ามายังห้องรับรองกับเสนาฯ ระสัง

“ข้าพยายามทำดีที่สุดแล้วนะ ถ้าเรายังคัดค้านหัวชนฝาเรื่องตรวจดีเอ็นเอ ไม่วายเรื่องต้องแตกในเร็ววัน เจ้านั่นแหล่ะ ใช้หัวคิดเสียบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็เอาแต่อารมณ์จะพากันล่มจมสักวัน”

พออยู่กันตามลำพังในห้องหับแน่นหนา และอารมณ์คุกรุ่นเกินระงับ เสนาฯ ระสังก็ตำหนิเจ้าชายอุชเชนด้วยความไม่พอใจในทันที และคราวนี้ไม่มีคำราชาศัพท์หรือท่าทีนอบน้อมแต่อย่างใด ทำให้คนถูกตำหนิเงียบเสียงลง

“โชคดีที่ช่วงนี้ทุกคนวุ่นวายกับการเตรียมตัว ไม่อย่างนั้นเราคงหนีไม่พ้นแน่ๆ แต่ข้าว่าเรื่องที่มันสงสัยในตัวเจ้าน่ะคงไม่แปลก แต่ว่าการที่มันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาราวกับว่าตอนนี้มันแน่ใจแล้วนี่สิ มันน่าคิด”

“ท่านอาหมายความว่า มันรู้เรื่องของเราจริงๆ เหรอ” ศัพท์นามที่เรียกเสนาฯ ระสังเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เหมือนทั้งคู่ได้กลับมาสู่ตัวตนที่แท้จริงของตนเอง

“ข้าก็แค่เดา ก็เจ้าทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าชายเลย ข้าเคยบอกเจ้ามากี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่ากระโตกกระตาก เก็บอาการสันดานดิบเอาไว้หน่อย เจ้าก็ไม่เชื่อ

“เอะอะก็เบ่งอำนาจบาตรใหญ่ ทีนี้เห็นผลของการกระทำของเจ้าแล้วหรือยัง คิดดูซิว่าเราทำตามแผนมาได้เป็นสิบปี กลับจะต้องมาพังเพราะนิสัยไพร่ของเจ้า” และก็บ่นขึ้นมาอย่างมีอารมณ์อีกครั้งอย่างเหลืออด อีกฝ่ายหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

“โธ่... ข้ารู้แล้วน่าท่านอา เอาเป็นว่าต่อไปข้าจะพยายามระงับอารมณ์ให้ได้มากที่สุด ว่าแต่เราควรทำยังไงต่อไปดีล่ะ จะยอมให้มันทำลายทุกอย่างที่เราสร้างมากับมืออย่างนั้นเหรอ” เจ้าชายอุชเชนถามอย่างหวาดหวั่น เสนาฯ ระสังทอดถอนใจ

“เรายังพอมีเวลาคิดแก้ปัญหาอยู่ นี่แหล่ะที่ข้าเสนอให้เจ้าไปกับเจ้าหญิงชลันตา”

“หมายความว่ายังไงท่านอา”

“นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะจัดการกับมันได้ อย่าให้มันมีโอกาสกลับมาตรวจพิสูจน์อะไรได้อีก และพอถึงตอนนั้นแม้แต่ไอ้เฒ่าโสตถีเองก็จะไม่มีปัญญาทำอะไรเราได้อีก” แววตาของเสนาฯ ระสังวาววับ ด้วยแผนการบางอย่างก่อร่างอยู่ในความคิด

“ตลอดเวลาที่อีนังชลันตามันกลับมา เราไม่เคยทำอะไรมันได้เลย แต่ไม่น่าเชื่อในที่สุดโอกาสก็มาถึงมือเราอีกครั้ง คราวนี้ข้าจะขอจัดการกับมันด้วยตัวของข้าเอง” เจ้าชายอุชเชนพูดขึ้นอย่างหมายมาด

“ว่าแต่ท่านอาคิดแผนไว้หรือยังว่าจะทำยังไงกับอีนังชลันตา มันถึงจะพ้นไปจากราชบัลลังก์ริตถาวดี” ก่อนหันมาถามผู้เป็นอา

“นั่นล่ะ เป็นงานที่เราจะต้องคิดวางแผนกันต่อไป ครั้งนี้เราพลาดไม่ได้ ถ้าพลาดก็หมายความว่าความจริงที่เจ้าไม่ใช่โอรสของพระราชา

เนวะสัญต้องแตกแน่” เสนาฯ ระสังว่า

ความลับที่สู้อุตส่าห์เก็บไว้มานานปี หากถูกเปิดเผยไม่ใช่แค่สิ่งที่ทุ่มเทพยายามมานานนับสิบปีต้องสูญเปล่าเท่านั้น แต่ชีวิตของพวกตน ครอบครัวและทุกอย่างที่มีอยู่ในมือตอนนี้ก็ต้องมีอันสูญสลายไปด้วยเช่นกัน

“เข้าใจแล้วท่านอา ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นมันก็ต้องแลกกันด้วยชีวิต เพราะหากความจริงถูกเปิดเผยเราก็คงต้องตายเหมือนกัน” อุชเชนเองก็รู้ซึ้งถึงข้อนี้ดีเช่นกัน

ทั้งคู่สบตากันอย่างเข้าใจถึงความคิดของอีกฝ่าย พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเจ้าหญิงรัชทายาทให้พ้นไปจากเส้นทางแห่งอำนาจและความเป็นใหญ่ของตนนั่นเอง

*-*-*-*-*-*

ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นไปบนบ้านของมารดา ยามสายที่แสงแดดกำลังทอแสงไล่ความเหน็บหนาวในหุบเขา หัสตะเห็นผู้เป็นแม่นั่งป้อนอาหารให้กับบิดาอยู่ตรงชานบ้าน และผิงแดดอุ่นไปในตัว

อดีตนายพลติงสายังคงมีสติ รับรู้สิ่งรอบข้างได้เป็นอย่างดี แม้ว่าอาการต่างๆ ทางร่างกายจะไม่ได้ดีขึ้น แต่เขาก็แข็งใจอดทนเอาไว้ เพื่อใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตกับครอบครัวให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

“พ่อ เป็นยังไงบ้างครับแม่วันนี้” หัสตะถามมารดา พลางนั่งลงข้างๆ

“ก็เหมือนเดิมจ้ะ ทานอาหารไม่ค่อยได้เหมือนเดิม แต่แผลนี่สิที่แม่เป็นห่วง” นางมาเรียบอก

ความกังวลยังฉายชัดอยู่ในดวงหน้าเหี่ยวย่นนั้น แม้ตอนนี้ร่างกายของอดีตนายพลจะถูกชำระสะสางจนสะอาดสะอ้านดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้แผลดีขึ้นแต่อย่างใด

“น้าลินดาดูอาการหรือยังครับ”

“ไม่มีความหมายหรอกหัสตะ เพราะเราไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ หรือยาที่รักษาโดยตรง” นางลินดาที่ก้าวเข้ามาพร้อมหรคุณบอก

“ท่านนายพลจะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์จริงๆ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมกว่านี้”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง” หรคุณเอ่ยขึ้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันมามองเขาเป็นจุดเดียวกัน

“ลูกคิดจะทำอะไรหรคุณ อย่าทำเรื่องไม่ดีนะลูก” นางมาเรียบอกอย่างกังวลใจ แต่ชายหนุ่มยิ้ม

“ไม่หรอกครับแม่ ผมแค่จะลองไปหาอุปกรณ์การรักษาดูน่ะครับ แม่อย่าห่วงเลยครับ” หรคุณบอก เพื่อให้มารดาคลายความกังวล

“อย่าไปเลยลูก ไม่มีประโยชน์หรอก” นายพลติงสาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าฟังแทบไม่ได้ศัพท์

แต่หัสตะหันไปมองสบตากับน้องชาย และหรคุณก็เข้าใจความหมายในสายตานั้นโดยไม่ต้องพูดจา เขารีบก้าวจากไปในทันที



**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&
data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6Njo

iNzEyOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d72

4-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A

1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8

%8E%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%

E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.as

px?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_

detail_book/1110








กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ส.ค. 2559, 13:29:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ส.ค. 2559, 13:29:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 989





<< บทที่ 38   บทที่ 40 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account