In a day รอรักหลังวิวาห์
Tags: อาลี โมนา
ตอน: Chapter 3 Command (คำประกาศิต)
Chapter 3 Command (คำประกาศิต)
One KL Condo...
18:20 PM.
แอ็ด...
“กลับมาแล้วหรอโมนา เป็นไงเที่ยวมาสนุกรึเปล่า”
“ก็สนุกดีคะ แต่เหนื่อยมากกว่าปวดขาหมดเลย”
“ก็พี่บอกแล้วว่าจะพาทัวร์ให้ เป็นไงละอยากผจญภัยเอง”
“ค๊าบบพี่ชาย ไปอาบน้ำดีกว่าไม่อยากฟังคนแก่บ่น”
“เดี่ยวเถอะเรา เดี่ยวอาบน้ำเสร็จพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“ไปอาบน้ำก่อนเหอะ นี่ก็ใกล้เวลาละหมาดละ”
“ชิ ไปก็ได้”
ฉันเข้ามาในห้องแล้วยืนสำรวจตัวเองในกระจกสักพัก ดีนะที่หน้าไม่หมองคล้ำไม่อย่างนั้นฉันต้องอายเขาคนนั้นในลิฟต์แน่ พูดถึงเขาแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้เขายังอยู่ที่นี่อีกมั๊ย แล้วเขาพักที่นี่ด้วยรึเปล่า โอ๊ยไม่อยากจะคิดถ้าเขาพักที่เดียวกับฉันละก็ฉันจะได้เจอเขาอีกมั้ยเนี้ย
-
-
“แต่งงาน!!”
“ใช่ ที่สำคัญพี่จัดการเรื่องไฟลต์บินกลับไทยแล้ว”
“เมื่อไหร่คะ”
“พรุ่งนี้เที่ยง”
“ห่ะ!! พรุ่งนี้มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอ น้องเพิ่งอยู่แค่สามวันเองนะ”
“อีกหน่อยก็จะได้อยู่นานละ หรือบางทีอาจจะอยู่ที่นี่ไปเลย”
“หมายความว่าไง แล้วเรื่องแต่งงานทำไมน้องไม่รู้เรื่อง”
“พี่เองคงตอบอะไรมากไม่ได้ เอาเป็นว่าเราไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับพรุ่งนี้ดีกว่า”
แล้วพี่มุนชิตก็เดินมาวางมือบนหัวฉันเบาก่อนจะเดินเข้าห้องไป ฉันยังคงอึ้งและนิ่งงันอยู่ที่เดิม สมองก็คิดอะไรต่างๆนานาถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนที่ตั้งตัวไม่ทันมั๊ย ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในอารมณ์นั้น อารมณ์ของคนที่เพิ่งรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะแต่งงานและออกเรือนไปอยู่กับชายอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอย่างกะทันหัน โอ้พระเจ้า!
Bangkok Suwannaphum Airport
14:15 PM.
ตอนนี้ฉันมาถึงไทยแล้วและกำลังเดินทางกลับบ้านโดยมีมนัสน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังเป็นคนขับรถมารับฉันและพี่มุนชิตที่สนามบิน
ทันทีที่เครื่องยนต์ดับลงฉันรีบก้าวเข้าไปในบ้านโดยมีคุณพ่อและคุณแม่ยืนต้อนรับอยู่หน้าประตูบ้านด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความคิดถึงและรอยยิ้มที่แสดงถึงความดีใจที่ฉันกลับบ้านโดยปลอดภัย ฉันเดินเข้าไปสลามตามธรรมเนียมมุสลิมโดยการยื่นมือไปจับมือของท่านทั้งสองและก้มลงจูบมือก่อนจะสวมกอดอย่างคิดถึง
“เป็นไงบ้างลูกไปอยู่โน้นมาสี่ปีไม่ยอมกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้างเลย”
“โอ่คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไปเยี่ยมโมนาทุกปีไม่ใช่หรอคะ ฟอดด!”
ฉันหอมแก้มคุณแม่ไปฟอดหนึ่งก่อนคุณพ่อจะบอกให้เข้าบ้านพร้อมกับพี่มุนชิตและมนัสที่ช่วยกันถือของของฉันมากมายตามเข้ามาในบ้าน
“มานั่งใกล้ๆพ่อมา โมนา”
ฉันเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆพ่อ พ่อยื่นมือมาจับมือฉันพร้อมเอ่ยประโยคที่ฉันอยากรู้มากที่สุด
“พ่อจะให้เราแต่งงาน พี่มุนชิตบอกเราไปแล้วใช่มั๊ย”
ฉันได้แต่พยักหน้าเบาๆ
“ความจริงพ่อก็ไม่อยากจะบังคับลูกหรอกนะ แต่เรื่องนี้ปู่ของเราขอพ่อมาว่าจะให้ลูกแต่งงานกับหลานของเพื่อนปู่เขา อ่อเจ้าบ่าวของลูกไม่ได้อยู่ไทยนะ เขาอยู่มาเลย์ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัวของเขามีบ้านอยู่ที่ไทย”
“แล้วตอนนี้คุณปู่อยู่ไหนคะ”
“อยู่มาเลย์และคุณปู่จะมาพร้อมว่าที่เจ้าบ่าวของลูกในวันพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้! พ่อคะมันไม่เร็วเกินไปหรอโมนาเพิ่งกลับนะ งานก็ยังไม่ได้เริ่มทำ หนูเองก็ยังไม่มีอะไรพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นภรรยาใครเลย”
“ไม่เอาลูก ใจเย็นก่อนนะแม่ว่า”
“แต่แม่คะ หนูยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และที่สำคัญหนูยังไม่พร้อม”
“อาลี อัศดินทร์ เขาเป็นเพื่อนพี่เอง”
“เพื่อนพี่มุนชิตงั้นหรอ ตะ แต่ยังไงหนูยังไม่...”
“เลิกพูดว่าไม่พร้อมสักที ลูกเรียนจบแล้ว งานก็มีรองรับแล้ว แล้วมีตรงไหนที่ยังไม่พร้อม พ่อว่าเราเอาเวลาตรงนี้ไปเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อวันพรุ่งนี้ดีกว่า เดี่ยวเขามาดูตัวแล้วจะได้ไม่ไปพูดลับหลังว่าเรามีอะไรขาดตกบกพร่อง”
“เอาน่าพี่โมนา ผมว่าพี่ควรจะดีใจนะที่จะได้แต่งงานอ๊ะ”
ฉันมองหน้าทุกคนที่แสดงออกทางใบหน้าเป็นนัยๆว่าฉันโชคดีที่จะได้แต่งงาน อันที่จริงฉันไม่ใช่ไม่อยากแต่งแต่แค่อยากจะขอเวลาเตรียมตัวอีกสักพักอาจจะปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าเพราะนี่เพิ่งกลางปีเองนะ ฉันเองก็ตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้เป็นเจ้าสาวแต่เพราะเหมือนจะเร็วเกินไปฉันเลยรู้สึกไม่พร้อมเท่าไหร่
Ali part:
Bangkok,Thailand
ตอนนี้ผมและครอบครัวกำลังจะไปดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่คุณตาและคุณพ่อของผมบังคับให้แต่งงานด้วย ผมบอกตามตรงผมไม่ค่อยรู้สึกยินดีหรือตื่นเต้นสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่ผมบอกเลิกกับอัสมาเมื่อสี่วันก่อน เธอก็ไม่ติดต่อผมมาอีกเลย ผมรู้สึกเหมือนคนอกหักทั้งๆที่ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกเธอเอง ผมรู้ว่าเธอก็เจ็บไม่ต่างจากผม ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอคนนั้นด้วยซ้ำไป เพราะผมคิดว่าคนที่ผมจะแต่งงานด้วยคงจะเป็นอัสมาผู้หญิงที่ผมชอบและหลงรักในการทำงานร่วมกับเธอ ใช่เธอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนกับบริษัทผม เธอเป็นคนเก่ง เธอร่าเริงและเธอก็ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่อยู่กับเธอ
“ถึงบ้านว่าที่เจ้าสาวของแกแล้ว มัวแต่เหม่อลอยตื่นเต้นละสิท่า”
“หน้าผมมันแสดงออกอย่างนั้นหรอครับพ่อ”
“เจ้าลีนิ ตอนนี้ปฏิเสธไปเถอะ เดี่ยวเห็นหน้าหนูโมนาแล้วจะร้องขอบใจตาแทบไม่ทัน”
“หรอครับคุณตา เอาเป็นว่าผมจะคอยดูละกันว่าจะจริงอย่างที่ตากับพ่อโม้ไว้รึเปล่า”
“ไอ้ลูกคนนี้นี่ปากมันจัดเหมือนใครวะ”
“ลันว่าเหมือนตากับพ่อนั้นแหล่ะครับ”
เสียงอลันน้องชายคนเดียวที่อายุห่างจากผมสี่ปีพูดแทรกขึ้นมา หลังจากนั้นทุกคนรวมถึงผมก็ลงจากรถเพื่อเข้าไปในบ้านที่มีว่าที่เจ้าสาวผมอยู่และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าผมก็จะได้เจอเธอคนที่ทำให้ผม...อกหักจากคนรัก
One KL Condo...
18:20 PM.
แอ็ด...
“กลับมาแล้วหรอโมนา เป็นไงเที่ยวมาสนุกรึเปล่า”
“ก็สนุกดีคะ แต่เหนื่อยมากกว่าปวดขาหมดเลย”
“ก็พี่บอกแล้วว่าจะพาทัวร์ให้ เป็นไงละอยากผจญภัยเอง”
“ค๊าบบพี่ชาย ไปอาบน้ำดีกว่าไม่อยากฟังคนแก่บ่น”
“เดี่ยวเถอะเรา เดี่ยวอาบน้ำเสร็จพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“ไปอาบน้ำก่อนเหอะ นี่ก็ใกล้เวลาละหมาดละ”
“ชิ ไปก็ได้”
ฉันเข้ามาในห้องแล้วยืนสำรวจตัวเองในกระจกสักพัก ดีนะที่หน้าไม่หมองคล้ำไม่อย่างนั้นฉันต้องอายเขาคนนั้นในลิฟต์แน่ พูดถึงเขาแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้เขายังอยู่ที่นี่อีกมั๊ย แล้วเขาพักที่นี่ด้วยรึเปล่า โอ๊ยไม่อยากจะคิดถ้าเขาพักที่เดียวกับฉันละก็ฉันจะได้เจอเขาอีกมั้ยเนี้ย
-
-
“แต่งงาน!!”
“ใช่ ที่สำคัญพี่จัดการเรื่องไฟลต์บินกลับไทยแล้ว”
“เมื่อไหร่คะ”
“พรุ่งนี้เที่ยง”
“ห่ะ!! พรุ่งนี้มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอ น้องเพิ่งอยู่แค่สามวันเองนะ”
“อีกหน่อยก็จะได้อยู่นานละ หรือบางทีอาจจะอยู่ที่นี่ไปเลย”
“หมายความว่าไง แล้วเรื่องแต่งงานทำไมน้องไม่รู้เรื่อง”
“พี่เองคงตอบอะไรมากไม่ได้ เอาเป็นว่าเราไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับพรุ่งนี้ดีกว่า”
แล้วพี่มุนชิตก็เดินมาวางมือบนหัวฉันเบาก่อนจะเดินเข้าห้องไป ฉันยังคงอึ้งและนิ่งงันอยู่ที่เดิม สมองก็คิดอะไรต่างๆนานาถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนที่ตั้งตัวไม่ทันมั๊ย ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในอารมณ์นั้น อารมณ์ของคนที่เพิ่งรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะแต่งงานและออกเรือนไปอยู่กับชายอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอย่างกะทันหัน โอ้พระเจ้า!
Bangkok Suwannaphum Airport
14:15 PM.
ตอนนี้ฉันมาถึงไทยแล้วและกำลังเดินทางกลับบ้านโดยมีมนัสน้องชายที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังเป็นคนขับรถมารับฉันและพี่มุนชิตที่สนามบิน
ทันทีที่เครื่องยนต์ดับลงฉันรีบก้าวเข้าไปในบ้านโดยมีคุณพ่อและคุณแม่ยืนต้อนรับอยู่หน้าประตูบ้านด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความคิดถึงและรอยยิ้มที่แสดงถึงความดีใจที่ฉันกลับบ้านโดยปลอดภัย ฉันเดินเข้าไปสลามตามธรรมเนียมมุสลิมโดยการยื่นมือไปจับมือของท่านทั้งสองและก้มลงจูบมือก่อนจะสวมกอดอย่างคิดถึง
“เป็นไงบ้างลูกไปอยู่โน้นมาสี่ปีไม่ยอมกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้างเลย”
“โอ่คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไปเยี่ยมโมนาทุกปีไม่ใช่หรอคะ ฟอดด!”
ฉันหอมแก้มคุณแม่ไปฟอดหนึ่งก่อนคุณพ่อจะบอกให้เข้าบ้านพร้อมกับพี่มุนชิตและมนัสที่ช่วยกันถือของของฉันมากมายตามเข้ามาในบ้าน
“มานั่งใกล้ๆพ่อมา โมนา”
ฉันเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆพ่อ พ่อยื่นมือมาจับมือฉันพร้อมเอ่ยประโยคที่ฉันอยากรู้มากที่สุด
“พ่อจะให้เราแต่งงาน พี่มุนชิตบอกเราไปแล้วใช่มั๊ย”
ฉันได้แต่พยักหน้าเบาๆ
“ความจริงพ่อก็ไม่อยากจะบังคับลูกหรอกนะ แต่เรื่องนี้ปู่ของเราขอพ่อมาว่าจะให้ลูกแต่งงานกับหลานของเพื่อนปู่เขา อ่อเจ้าบ่าวของลูกไม่ได้อยู่ไทยนะ เขาอยู่มาเลย์ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัวของเขามีบ้านอยู่ที่ไทย”
“แล้วตอนนี้คุณปู่อยู่ไหนคะ”
“อยู่มาเลย์และคุณปู่จะมาพร้อมว่าที่เจ้าบ่าวของลูกในวันพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้! พ่อคะมันไม่เร็วเกินไปหรอโมนาเพิ่งกลับนะ งานก็ยังไม่ได้เริ่มทำ หนูเองก็ยังไม่มีอะไรพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นภรรยาใครเลย”
“ไม่เอาลูก ใจเย็นก่อนนะแม่ว่า”
“แต่แม่คะ หนูยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และที่สำคัญหนูยังไม่พร้อม”
“อาลี อัศดินทร์ เขาเป็นเพื่อนพี่เอง”
“เพื่อนพี่มุนชิตงั้นหรอ ตะ แต่ยังไงหนูยังไม่...”
“เลิกพูดว่าไม่พร้อมสักที ลูกเรียนจบแล้ว งานก็มีรองรับแล้ว แล้วมีตรงไหนที่ยังไม่พร้อม พ่อว่าเราเอาเวลาตรงนี้ไปเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อวันพรุ่งนี้ดีกว่า เดี่ยวเขามาดูตัวแล้วจะได้ไม่ไปพูดลับหลังว่าเรามีอะไรขาดตกบกพร่อง”
“เอาน่าพี่โมนา ผมว่าพี่ควรจะดีใจนะที่จะได้แต่งงานอ๊ะ”
ฉันมองหน้าทุกคนที่แสดงออกทางใบหน้าเป็นนัยๆว่าฉันโชคดีที่จะได้แต่งงาน อันที่จริงฉันไม่ใช่ไม่อยากแต่งแต่แค่อยากจะขอเวลาเตรียมตัวอีกสักพักอาจจะปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าเพราะนี่เพิ่งกลางปีเองนะ ฉันเองก็ตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้เป็นเจ้าสาวแต่เพราะเหมือนจะเร็วเกินไปฉันเลยรู้สึกไม่พร้อมเท่าไหร่
Ali part:
Bangkok,Thailand
ตอนนี้ผมและครอบครัวกำลังจะไปดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่คุณตาและคุณพ่อของผมบังคับให้แต่งงานด้วย ผมบอกตามตรงผมไม่ค่อยรู้สึกยินดีหรือตื่นเต้นสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่ผมบอกเลิกกับอัสมาเมื่อสี่วันก่อน เธอก็ไม่ติดต่อผมมาอีกเลย ผมรู้สึกเหมือนคนอกหักทั้งๆที่ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกเธอเอง ผมรู้ว่าเธอก็เจ็บไม่ต่างจากผม ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอคนนั้นด้วยซ้ำไป เพราะผมคิดว่าคนที่ผมจะแต่งงานด้วยคงจะเป็นอัสมาผู้หญิงที่ผมชอบและหลงรักในการทำงานร่วมกับเธอ ใช่เธอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนกับบริษัทผม เธอเป็นคนเก่ง เธอร่าเริงและเธอก็ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่อยู่กับเธอ
“ถึงบ้านว่าที่เจ้าสาวของแกแล้ว มัวแต่เหม่อลอยตื่นเต้นละสิท่า”
“หน้าผมมันแสดงออกอย่างนั้นหรอครับพ่อ”
“เจ้าลีนิ ตอนนี้ปฏิเสธไปเถอะ เดี่ยวเห็นหน้าหนูโมนาแล้วจะร้องขอบใจตาแทบไม่ทัน”
“หรอครับคุณตา เอาเป็นว่าผมจะคอยดูละกันว่าจะจริงอย่างที่ตากับพ่อโม้ไว้รึเปล่า”
“ไอ้ลูกคนนี้นี่ปากมันจัดเหมือนใครวะ”
“ลันว่าเหมือนตากับพ่อนั้นแหล่ะครับ”
เสียงอลันน้องชายคนเดียวที่อายุห่างจากผมสี่ปีพูดแทรกขึ้นมา หลังจากนั้นทุกคนรวมถึงผมก็ลงจากรถเพื่อเข้าไปในบ้านที่มีว่าที่เจ้าสาวผมอยู่และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าผมก็จะได้เจอเธอคนที่ทำให้ผม...อกหักจากคนรัก
TheW
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2559, 23:11:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2559, 23:11:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 986
<< Chapter 2 Terminate (ยุติ) | Chapter 4: Meet for the first time (ดูตัว) >> |