In a day รอรักหลังวิวาห์
Tags: อาลี โมนา
ตอน: Chapter 4: Meet for the first time (ดูตัว)
Chapter 4: Meet for the first time (ดูตัว)
“ฉันดีใจจริงๆที่จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกับเอ็ง”
“ฉันก็ดีใจ จะว่าไปบ้านเอ็งนี่ก็มีแต่หนุ่มๆนะ”
“ก็นั่นแหล่ะฉันถึงได้มาขอหลานเอ็งให้หลานฉันเลี้ยงไง ฮะฮาฮ้า”
“ฮะฮาฮ้า”
เสียงคุณปู่และคุณตาเพื่อนของคุณปู่รวมถึงคนอื่นๆทั้งสองครอบครัวต่างหัวเราะกันอย่างสุขใจ
ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังคุยอะไรกันอยู่เพราะฉันสถิตอยู่ในห้องครัวตั้งแต่รู้ว่าครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านแล้ว อาจจะดูไม่ดีที่ฉันไม่ได้ออกไปต้อนรับแต่ฉันคิดว่ามันสมควรแล้วเพราะข้างนอกมีแต่บุรุษหนุ่มและที่สำคัญเพื่อรักษาภาพลักษณ์และขอบเขตของกุลสตรีที่ดีตามแบบฉบับมุสลิมมะหรือสตรีในอิสลาม
“โมนาลูกคุณปู่เรียกให้ออกไปพบจ๊ะ”
“แม่คะ โมนากลัวจังเลยคะ”
ฉันยื่นมือไปจับมือแม่ที่กำลังจะเดินนำหน้าฉันออกไป แม่ส่งยิ้มและบีบมือฉันเบาเพื่อให้กำลังใจ ฉันรู้สึกตื่นเต้นและเขินอายอย่างบอกไม่ถูก นี่ขณะยังไม่ได้เจอว่าที่เจ้าบ่าวเลยนะ โอ๊ยยยใจสั่นไปหมดแล้ว ฉันเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างคุณแม่ ได้แต่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่เย็บเชียบเพราะตื่นเต้น
“โมนา”
“คะ ค่ะคุณพ่อ”
ฉันเงยหน้ามองคุณพ่อ แต่นาทีนั้นเหมือนใจฉันหยุดชะงักไปชั่วขณะ เพราะสายตาเจ้ากรรมเผลอไปมองบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันเบนสายตาไปหาคุณพ่อแทบจะทันทีเพราะความรู้สึกเขินอายที่ก่อตัวขึ้นจนฉันรู้สึกเห่อร้อนไปหมด ใช่ว่าฉันจะจำเขาไม่ได้เขาคนนั้นที่ฉันบังเอิญเจอถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ใครจะไปเชื่อว่าบางทีนั่นอาจไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นเพราะพระเจ้าลิขิตไว้ต่างหาก
“นี่พี่อาลี ว่าที่เจ้าบ่าวของลูก”
ฉันได้แต่พยักหน้ารับรู้เพราะไม่รู้ว่าต้องแสดงออกยังไงแล้ว ณ จุดๆนี้ ที่ต้องมาอยู่หน้าผู้ชายที่กำลังจะมาทำหน้าที่เป็นสามีและผู้นำครอบครัวให้กับฉันในอนาคตข้างหน้า
“เพิ่งเรียนจบหรอ”
ฉันเงยหน้ามองต้นเสียงที่ไม่คุ้นหู แต่อีกหน่อยฉันคงจำได้ขึ้นใจ
“คะ”
“แล้วตอนนี้ทำงานอะไร ทำที่ไหน”
“เอ่อ ฉันได้ใบรายงานตัวเข้าสอนโรงเรียนมัธยมของรัฐที่นี่คะ แต่ยังไม่ได้เริ่มคะเพราะเพิ่งบินกลับ”
“อ้อ เป็นครูหรอ”
“คะ”
“อ้อหรอครับ”
แล้วหลังจากนั้นฉันและเขาก็ไม่คุยกันอีกเลย มีเพียงผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวและตัวเขาที่ตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นรวมไปถึงเรื่องงานแต่งที่จะเกิดขึ้น
Ali part:
ตอนนี้เราตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นและงานแต่งที่จะเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว สรุปได้ว่างานแต่งของผมกับเธอจะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า แรกๆผมก็ไม่ค่อยตื่นเต้นหรอกนะ เพราะอะไรน่าจะรู้ แต่พอได้เห็นว่าที่เจ้าสาวของผมเท่านั้นแหล่ะ ผมมีความรู้สึกถึงอาการของคนใจสั่นยิ่งกว่าตอนมีรักแรกครั้งอยู่มัธยมหรือจะครั้งที่เจออัสมา หรืออาจจะครั้งไหนๆทั้งนั้น ทั้งๆที่ผมเคยเจอเธอแล้วถึงสองครั้ง ใช่ ผมจำเธอได้ แต่ครั้งนี้มันเป็นการเจอกันที่ไม่เหมือนกัน เพราะครั้งนี้ผมเจอเธอบนคำว่า “ว่าที่ภรรยาของผม” ไม่ใช่เพียงผู้หญิงแปลกหน้าที่เจอกันโดยบังเอิญเหมือนก่อนหน้านี้ ให้ตายสินี่ผมกำลังรู้สึกเหมือนคนตกหลุมรักอีกครั้ง
_
_
ขณะเดียวกันทางด้านอัสมา ผู้หญิงที่เพิ่งถูกคนรักบอกเลิกเพียงเพราะต้องทำตามคำสั่งผู้ใหญ่ เกิดความรู้สึกเสียใจและได้แต่นอนร้องไห้มาเกือบอาทิตย์แล้ว
“ทำไม ทำไมลีทำกับอัสแบบนี้ อึก ฮื่อ ทั้งที่ลีก็รักอัสแต่ทำไมถึงทำกันแบบนี้ หึ อัสไม่ยอมหรอกนะ อัสรู้ว่าคุณยังรักอัสอยู่ ได้ ฉันเป็นคนเก่ง ฉันมั่นใจ ฉันไม่เคยแพ้ ฉันต้องทำให้คุณกลับมารักฉันให้ได้ หึ”
2 Month later,,,
KL, Malaysia
Assadin & Mona Wedding Day.
พิธีแต่งงานตามแบบฉบับอิสลามถูกจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวอย่างเรียบหรูที่ประเทศมาเลเซีย ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตันใจที่สุด เพราะผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าบ่าวในวันนี้กำลังกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าโต๊ะอีหม่ามหรือผู้นำศาสนา โดยมีคุณครอบครัวฝ่ายฉันและครอบครัวเขาเป็นพยานรักว่าเขายอมรับฉันเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์แบบ
“ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผม อาลี อัศดินทร์ขอยอมรับโมนา อาหมัดสกุล เป็นภรรยาด้วยใจที่ฮาลาล เพื่อสืบทอดตระกูลและทายาทในฐานะมุสลิมต่อไป ขออัลลอฮ์ทรงโปรด อามีน”
น้ำตาฉันค่อยๆเอ่อไหลเพราะคำพูดของสามีที่ฮาลาลหรือผู้ชายที่ได้รับอนุญาตจากพระองค์ผู้ทรงเมตตาให้สามารถแตะต้องด้วยกาย วาจาใจและปฏิบัติต่อกันเหมือนคนในครอบครัวหรือมากกว่านั้นในฐานะสามีได้โดยสมบูรณ์แบบ
-
-
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีต่างๆ ก็เป็นเวลางานเลี้ยงเนื่องในโอกาสมงคลสมรสของฉันกับพี่อาลี งานเลี้ยงแบ่งเป็นสองฝั่งชายหญิง โดยฉันจะยืนต้อนรับแขกที่เป็นผู้หญิงอยู่ในบ้านพี่อาลีที่เปิดรับผู้ที่มาร่วมงานแต่งงานในวันนี้ โดยพี่อาลีจะยืนต้อนรับแขกที่เป็นผู้ชายอยู่หน้างานที่จัดขึ้นในสวนหย่อมข้างบ้าน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่มีรูปคู่เพราะถ้าอยากถ่ายรูปเราก็ยินดีให้ถ่าย ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและอยู่ในขอบเขตของอิสลาม
“ยินดีด้วยนะคะลี”
“อัสมา ดีใจที่คุณมา”
“แน่นอนคะ อัสต้องมาอยู่แล้ว แฟนตัวเอง โอ๊ะ เพื่อนตัวเองแต่งงานทั้งที แถมลีเชิญมาด้วยตัวเองแบบนี้แล้ว อัสไม่มา ลีคงเสียใจแย่ ใช่มั๊ยคะ”
“ครับ อืมม คุณโอเคใช่มั๊ยอัส งั้นผมว่าเราเข้าข้างในดีกว่านะ”
“นำไปสิคะ”
“โมนาเธอไปบอกให้มุนชิตไปช่วยต้อนรับแขกหน้างานให้ทีสิ”
“คะ ค่ะ”
“นี่เจ้าสาวของลีหรอคะ ยินดีด้วยนะที่ได้แต่งงานกับลี”
ผู้หญิงตรงหน้าฉันที่ยืนอยู่ข้างสามีหมาดๆของฉันยื่นมือมาพอฉันยื่นมือไปจับมือเธอแล้ว เธอกลับยิ้มแสยะปากใส่ฉัน ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่ถูกชะตากับเธอคนนี้เท่าไหร่ ไหนจะสรรพนามที่ใช้เรียกสามีฉันอย่างสนิทสนม และการให้การต้อนรับของสามีฉันที่เหมือนจะต้อนรับเธอคนนี้เป็นพิเศษแล้ว มันทำให้ฉันยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่ ไม่เอาอย่าคิดมาก
“ฉันดีใจจริงๆที่จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกับเอ็ง”
“ฉันก็ดีใจ จะว่าไปบ้านเอ็งนี่ก็มีแต่หนุ่มๆนะ”
“ก็นั่นแหล่ะฉันถึงได้มาขอหลานเอ็งให้หลานฉันเลี้ยงไง ฮะฮาฮ้า”
“ฮะฮาฮ้า”
เสียงคุณปู่และคุณตาเพื่อนของคุณปู่รวมถึงคนอื่นๆทั้งสองครอบครัวต่างหัวเราะกันอย่างสุขใจ
ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังคุยอะไรกันอยู่เพราะฉันสถิตอยู่ในห้องครัวตั้งแต่รู้ว่าครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านแล้ว อาจจะดูไม่ดีที่ฉันไม่ได้ออกไปต้อนรับแต่ฉันคิดว่ามันสมควรแล้วเพราะข้างนอกมีแต่บุรุษหนุ่มและที่สำคัญเพื่อรักษาภาพลักษณ์และขอบเขตของกุลสตรีที่ดีตามแบบฉบับมุสลิมมะหรือสตรีในอิสลาม
“โมนาลูกคุณปู่เรียกให้ออกไปพบจ๊ะ”
“แม่คะ โมนากลัวจังเลยคะ”
ฉันยื่นมือไปจับมือแม่ที่กำลังจะเดินนำหน้าฉันออกไป แม่ส่งยิ้มและบีบมือฉันเบาเพื่อให้กำลังใจ ฉันรู้สึกตื่นเต้นและเขินอายอย่างบอกไม่ถูก นี่ขณะยังไม่ได้เจอว่าที่เจ้าบ่าวเลยนะ โอ๊ยยยใจสั่นไปหมดแล้ว ฉันเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างคุณแม่ ได้แต่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่เย็บเชียบเพราะตื่นเต้น
“โมนา”
“คะ ค่ะคุณพ่อ”
ฉันเงยหน้ามองคุณพ่อ แต่นาทีนั้นเหมือนใจฉันหยุดชะงักไปชั่วขณะ เพราะสายตาเจ้ากรรมเผลอไปมองบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันเบนสายตาไปหาคุณพ่อแทบจะทันทีเพราะความรู้สึกเขินอายที่ก่อตัวขึ้นจนฉันรู้สึกเห่อร้อนไปหมด ใช่ว่าฉันจะจำเขาไม่ได้เขาคนนั้นที่ฉันบังเอิญเจอถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ใครจะไปเชื่อว่าบางทีนั่นอาจไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นเพราะพระเจ้าลิขิตไว้ต่างหาก
“นี่พี่อาลี ว่าที่เจ้าบ่าวของลูก”
ฉันได้แต่พยักหน้ารับรู้เพราะไม่รู้ว่าต้องแสดงออกยังไงแล้ว ณ จุดๆนี้ ที่ต้องมาอยู่หน้าผู้ชายที่กำลังจะมาทำหน้าที่เป็นสามีและผู้นำครอบครัวให้กับฉันในอนาคตข้างหน้า
“เพิ่งเรียนจบหรอ”
ฉันเงยหน้ามองต้นเสียงที่ไม่คุ้นหู แต่อีกหน่อยฉันคงจำได้ขึ้นใจ
“คะ”
“แล้วตอนนี้ทำงานอะไร ทำที่ไหน”
“เอ่อ ฉันได้ใบรายงานตัวเข้าสอนโรงเรียนมัธยมของรัฐที่นี่คะ แต่ยังไม่ได้เริ่มคะเพราะเพิ่งบินกลับ”
“อ้อ เป็นครูหรอ”
“คะ”
“อ้อหรอครับ”
แล้วหลังจากนั้นฉันและเขาก็ไม่คุยกันอีกเลย มีเพียงผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวและตัวเขาที่ตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นรวมไปถึงเรื่องงานแต่งที่จะเกิดขึ้น
Ali part:
ตอนนี้เราตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นและงานแต่งที่จะเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว สรุปได้ว่างานแต่งของผมกับเธอจะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า แรกๆผมก็ไม่ค่อยตื่นเต้นหรอกนะ เพราะอะไรน่าจะรู้ แต่พอได้เห็นว่าที่เจ้าสาวของผมเท่านั้นแหล่ะ ผมมีความรู้สึกถึงอาการของคนใจสั่นยิ่งกว่าตอนมีรักแรกครั้งอยู่มัธยมหรือจะครั้งที่เจออัสมา หรืออาจจะครั้งไหนๆทั้งนั้น ทั้งๆที่ผมเคยเจอเธอแล้วถึงสองครั้ง ใช่ ผมจำเธอได้ แต่ครั้งนี้มันเป็นการเจอกันที่ไม่เหมือนกัน เพราะครั้งนี้ผมเจอเธอบนคำว่า “ว่าที่ภรรยาของผม” ไม่ใช่เพียงผู้หญิงแปลกหน้าที่เจอกันโดยบังเอิญเหมือนก่อนหน้านี้ ให้ตายสินี่ผมกำลังรู้สึกเหมือนคนตกหลุมรักอีกครั้ง
_
_
ขณะเดียวกันทางด้านอัสมา ผู้หญิงที่เพิ่งถูกคนรักบอกเลิกเพียงเพราะต้องทำตามคำสั่งผู้ใหญ่ เกิดความรู้สึกเสียใจและได้แต่นอนร้องไห้มาเกือบอาทิตย์แล้ว
“ทำไม ทำไมลีทำกับอัสแบบนี้ อึก ฮื่อ ทั้งที่ลีก็รักอัสแต่ทำไมถึงทำกันแบบนี้ หึ อัสไม่ยอมหรอกนะ อัสรู้ว่าคุณยังรักอัสอยู่ ได้ ฉันเป็นคนเก่ง ฉันมั่นใจ ฉันไม่เคยแพ้ ฉันต้องทำให้คุณกลับมารักฉันให้ได้ หึ”
2 Month later,,,
KL, Malaysia
Assadin & Mona Wedding Day.
พิธีแต่งงานตามแบบฉบับอิสลามถูกจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวอย่างเรียบหรูที่ประเทศมาเลเซีย ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตันใจที่สุด เพราะผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าบ่าวในวันนี้กำลังกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าโต๊ะอีหม่ามหรือผู้นำศาสนา โดยมีคุณครอบครัวฝ่ายฉันและครอบครัวเขาเป็นพยานรักว่าเขายอมรับฉันเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์แบบ
“ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผม อาลี อัศดินทร์ขอยอมรับโมนา อาหมัดสกุล เป็นภรรยาด้วยใจที่ฮาลาล เพื่อสืบทอดตระกูลและทายาทในฐานะมุสลิมต่อไป ขออัลลอฮ์ทรงโปรด อามีน”
น้ำตาฉันค่อยๆเอ่อไหลเพราะคำพูดของสามีที่ฮาลาลหรือผู้ชายที่ได้รับอนุญาตจากพระองค์ผู้ทรงเมตตาให้สามารถแตะต้องด้วยกาย วาจาใจและปฏิบัติต่อกันเหมือนคนในครอบครัวหรือมากกว่านั้นในฐานะสามีได้โดยสมบูรณ์แบบ
-
-
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีต่างๆ ก็เป็นเวลางานเลี้ยงเนื่องในโอกาสมงคลสมรสของฉันกับพี่อาลี งานเลี้ยงแบ่งเป็นสองฝั่งชายหญิง โดยฉันจะยืนต้อนรับแขกที่เป็นผู้หญิงอยู่ในบ้านพี่อาลีที่เปิดรับผู้ที่มาร่วมงานแต่งงานในวันนี้ โดยพี่อาลีจะยืนต้อนรับแขกที่เป็นผู้ชายอยู่หน้างานที่จัดขึ้นในสวนหย่อมข้างบ้าน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่มีรูปคู่เพราะถ้าอยากถ่ายรูปเราก็ยินดีให้ถ่าย ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและอยู่ในขอบเขตของอิสลาม
“ยินดีด้วยนะคะลี”
“อัสมา ดีใจที่คุณมา”
“แน่นอนคะ อัสต้องมาอยู่แล้ว แฟนตัวเอง โอ๊ะ เพื่อนตัวเองแต่งงานทั้งที แถมลีเชิญมาด้วยตัวเองแบบนี้แล้ว อัสไม่มา ลีคงเสียใจแย่ ใช่มั๊ยคะ”
“ครับ อืมม คุณโอเคใช่มั๊ยอัส งั้นผมว่าเราเข้าข้างในดีกว่านะ”
“นำไปสิคะ”
“โมนาเธอไปบอกให้มุนชิตไปช่วยต้อนรับแขกหน้างานให้ทีสิ”
“คะ ค่ะ”
“นี่เจ้าสาวของลีหรอคะ ยินดีด้วยนะที่ได้แต่งงานกับลี”
ผู้หญิงตรงหน้าฉันที่ยืนอยู่ข้างสามีหมาดๆของฉันยื่นมือมาพอฉันยื่นมือไปจับมือเธอแล้ว เธอกลับยิ้มแสยะปากใส่ฉัน ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่ถูกชะตากับเธอคนนี้เท่าไหร่ ไหนจะสรรพนามที่ใช้เรียกสามีฉันอย่างสนิทสนม และการให้การต้อนรับของสามีฉันที่เหมือนจะต้อนรับเธอคนนี้เป็นพิเศษแล้ว มันทำให้ฉันยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่ ไม่เอาอย่าคิดมาก
TheW
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2559, 23:17:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2559, 23:17:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 994
<< Chapter 3 Command (คำประกาศิต) | Chapter 5: Bridal house (เรือนหอ) >> |