In a day รอรักหลังวิวาห์
Tags: อาลี โมนา
ตอน: Chapter7: Forgot (ลืม)
Chapter7: Forgot (ลืม)
หลังจากออกมาจากบ้านคุณตาเราก็นั่งรถกลับ ระหว่างทางฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาจนเขาเอ่ยถาม
“คุณอยากแวะที่ไหนก่อนกลับบ้านรึเปล่า”
“ไม่รู้สิคะ น้องไม่รู้จักที่ไหนเลย”
“จริงสินะ เอาอย่างนี้เดี่ยวเราแวะหาที่ละหมาดพร้อมทานข้าวก่อนละกัน”
“ก็ดีคะ”
เขาเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เราแยกกันไปละหมาดก่อนจะมานั่งทานข้าวกันในร้านอาหารไทยที่น่าจะเป็นร้านเดียวในห้างแห่งนี้
“อาทิตย์หน้าผมต้องบินไปทำธุระที่ไทย”
“ขอน้องไปด้วยได้มั้ย”
“แน่นอน ผมไม่ทิ้งให้คุณอยู่ที่นี่หรอก”
“พี่อาลีคะ ถ้าน้องขอมาสอนที่นี่ได้รึเปล่า เพราะน้องไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ แล้วอีกอย่างน้องอยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา”
“แต่ผมไม่อยากให้คุณทำงาน”
“แต่น้องไม่ได้ทำงานหนักอะไรนะ น้องเป็นครู”
“นั่นแหล่ะ เป็นครูก็ต้องเตรียมแผนการสอนเยอะแยะ”
“น้องมีเวลาให้ครอบครัวแน่นอนคะ นะน้องอยากทำ นะ”
ฉันอ้อนเขาโดยการเขย่าแขนเขาเบาพร้อมทำหน้าอ้อนแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ก็ได้ แต่”
เขาเลื่อนมือมากุมมือฉันพร้อมพูดเงื่อนไข
“แต่อะไร”
“แต่ผมจะให้คุณสอนแค่ช่วงนี้เท่านั้นเพราะเมื่อไหร่ที่คุณ มีเบบี้ของเรา คุณต้องหยุดทันที”
“เอ่อ ค่ะ คะ”
ฉันปล่อยให้เขาจับมือฉันไว้แบบนั้น ฉันไม่กล้าสบตาเขาเพราะคำพูดชวนคิดทำให้ฉันเขินจนทำตัวไม่ถูก
“นี่อร่อยนะ”
เขาตักอาหารใส่จานฉัน
“ขอบคุณคะ”
ฉันยิ้มให้เขา และหลังจากนั้นเราก็คุยถึงเรื่องต่างๆมากมายในสิ่งที่ฉันและเขาต่างไม่รู้ ถือเป็นการศึกษาในเรื่องของกันและกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จเขาก็พาฉันเดินซื้อของใช้จำเป็นเพราะฉันก็พาเฉพาะเสื้อผ้าที่จำเป็นเท่านั้น
“อ้าวลี บังเอิญจังเลยนะคะ”
“อัส เอ่อ ครับ”
“เจอกันอีกแล้วนะคะคุณ”
“โมนาครับ เธอเป็นคนไทย”
“อ้อไม่น่าละ อัสจะถามลีอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเธอพูดแต่อังกฤษตอนอยู่ในงานวันนั้น”
ฉันแน่ใจว่าพวกเขากำลังพูดถึงฉันอยู่แต่เพราะฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจ หึ เธอคนนี้สินะที่โทรมาคืนนั้น
“โมนานี่อัสมา เอ่อเป็นเพื่อนร่วมงานของผม”
“คะน้องรู้จักแล้วตอนวันงานไงคะ”
“............................”
“จริงสิคะ ว่าแต่ลีพอจะมีเวลารึเปล่า คืออัสอยากจะปรึกษาเรื่องงานที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้อะ”
“ตอนนี้เลยหรออัส”
“คะ อัสโทรหาลีแล้วเมื่อคืน นี่ภรรยาลีไม่ได้บอกหรอคะ”
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่อยู่ๆเขาก็หันมามองฉันแล้วคุยกันอีกสองสามประโยคก่อนที่เขาจะหันมาพูดกับฉัน
“เดี่ยวคุณเดินเล่นแถวนี้ก่อนนะ ผมขอคุยธุระกับอัสก่อน”
“ขอน้องไปด้วยไม่ได้หรอ”
“ผมแค่จะคุยธุระแถวนี้ ไม่นานหรอก ผมกลัวคุณเบื่อ โอเคนะ”
“แต่น้องขะ”
“ไปกันเถอะลี อัสมีหลายเรื่องที่จะพูดด้วย”
ยัยอัสมาอะไรนั่นดึงแขนเขาไป ทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ ให้ตายสิแล้วฉันจะทำยังไงละ ตามเขาไปดีไหม ไม่ดีหรอกเขาก็บอกแล้วว่ากลัวฉันจะเบื่อเอา ไม่เป็นไรๆเดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้
หลังจากที่ฉันเดินเล่นนานเกือบสองชั่งโมงจนฉันรู้สึกว่านี่เขาลืมฉันรึเปล่า ฉันส่งข้อความไปเขาก็ไม่ตอบ โทรไปก็ปิดเครื่อง บางทีฉันก็น้อยใจนะที่เขาไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกฉันสักเท่าไหร่ แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดี จะกลับบ้านก็กลับไม่ถูกเพราะจำไม่ได้ว่าบ้านเขาอยู่แถวไหน เฮ้อออ จริงสิ! อลันไง ดีนะที่มีเบอร์อลัน ฉันโทรหาอลันเพื่อจะถามที่อยู่ของบ้าน
“อลัน นี่พี่โมนานะ คือพี่จำที่อยู่บ้านไม่ได้อ่า”
“ครับ แล้วพี่อาลีละครับไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอ”
“คือพี่หาเขาไม่เจอ โทรไปก็ปิดเครื่อง”
“แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหน เดี่ยวผมไปรับ”
ฉันรู้สึกเกรงใจที่อลันบอกจะมารับฉันแทน แต่อลันบอกฉันว่ากลัวฉันจะหลงอีกเลยอาสามารับ ฉันกลัวก็จริงแต่ฉันยังมีสติดี ถึงจะยืนหลงอยู่คนเดียวในห้างแห่งนี้ก็ตามเหอะ ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาอยู่ที่ไหน จะรู้ตัวบ้างไหมว่ามีฉันอยู่ที่นี่อีกคน จะตามหาฉันด้วยรึเปล่า พอคิดๆไปแล้วน้ำตาฉันก็เอ่อล้นออกมาซะดื้อๆ
“โมนา”
ฉันยืนเหม่ออยู่สักพัก จนไม่ทันได้สังเกตว่าใครเข้ามาทัก
“โมนาจริงด้วย^^”
“ฟาริท”
“ดีใจจังนึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”
“ดีใจเหมือนกันที่เจอริท”
ฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้า ที่ไม่ทิ้งให้ฉันยืนหลงอยู่คนเดียว เพราะฉันได้เจอกับฟาริทเพื่อนชาวมาเลเซียที่เรียนมาด้วยกัน
“แล้วมาคนเดียวหรอ”
“เปล่าหรอก คือฉันหลงอ่า”
“หรอ แล้วนี่พักที่ไหนละ เดี่ยวผมไปส่ง”
“ไม่เป็นไรๆมีคนมารับแล้ว”
“แน่ใจนะ”
“อื้ม”
“เอาอย่างนี้ดีกว่าเดี๋ยวเรารอเป็นเพื่อน”
“เฮ้ยไม่เป็นไร ริทไปทำธุระเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกเราแค่มาเดิน ไม่ได้มีธุระอะไรด้วย”
“งั้นขอบใจนะ”
“สบายมาก”
Ali part:
ผมเดินไปมาเกือบจะทั่วห้างถามใครก็ไม่มีใครเห็น หลังจากที่ผมบอกให้เธอเดินเล่นแถวนี้เพราะผมจะไปคุยธุระกับอัสมา ความจริงผมไม่น่าให้เธอไปคนเดียวเลย ผมน่าจะให้เธอไปกับผมด้วย ผมลืมไปได้ไงว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ ผมโมโหตัวเองที่คุยธุระจนลืมไปเลยว่าเธอรอผมอยู่ จริงสิ ทำไมผมไม่โทรหาเธอละ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเธอ แต่ผมไปกดปิดเครื่องตอนไหน ทันทีที่เครื่องทำงานทั้งข้อความทั้งแจ้งเตือนเบอร์ที่ไม่ได้รับสายก็ขึ้นมาทั้งหมดเป็นของใครไม่ได้เลยนอกจากเธอ
“ตู้ดด ตู้ดด”
“ทำไมไม่รับสายนะ”
ผมโทรหาเธอไปไม่รู้กี่สาย แต่เธอก็ไม่รับ ตอนนี้ผมกังวลใจไปหมดไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนอยู่กับใครและทำอะไรอยู่ ให้มันได้อย่างนี้สิ
Mona part:
ตอนนี้ฉันถึงบ้านแล้ว อลันมารับฉันหลังจากที่ฉันยืนรอกับฟาริทได้สักพัก ฉันกำลังยืนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เขาโทรมาไม่รู้กี่สาย ฉันไม่อยากคุยกับเขา ฉันรู้สึกน้อยใจและไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำ ฉันเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่เขาไม่ให้ความสำคัญกัน
หลังจากออกมาจากบ้านคุณตาเราก็นั่งรถกลับ ระหว่างทางฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาจนเขาเอ่ยถาม
“คุณอยากแวะที่ไหนก่อนกลับบ้านรึเปล่า”
“ไม่รู้สิคะ น้องไม่รู้จักที่ไหนเลย”
“จริงสินะ เอาอย่างนี้เดี่ยวเราแวะหาที่ละหมาดพร้อมทานข้าวก่อนละกัน”
“ก็ดีคะ”
เขาเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เราแยกกันไปละหมาดก่อนจะมานั่งทานข้าวกันในร้านอาหารไทยที่น่าจะเป็นร้านเดียวในห้างแห่งนี้
“อาทิตย์หน้าผมต้องบินไปทำธุระที่ไทย”
“ขอน้องไปด้วยได้มั้ย”
“แน่นอน ผมไม่ทิ้งให้คุณอยู่ที่นี่หรอก”
“พี่อาลีคะ ถ้าน้องขอมาสอนที่นี่ได้รึเปล่า เพราะน้องไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ แล้วอีกอย่างน้องอยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา”
“แต่ผมไม่อยากให้คุณทำงาน”
“แต่น้องไม่ได้ทำงานหนักอะไรนะ น้องเป็นครู”
“นั่นแหล่ะ เป็นครูก็ต้องเตรียมแผนการสอนเยอะแยะ”
“น้องมีเวลาให้ครอบครัวแน่นอนคะ นะน้องอยากทำ นะ”
ฉันอ้อนเขาโดยการเขย่าแขนเขาเบาพร้อมทำหน้าอ้อนแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ก็ได้ แต่”
เขาเลื่อนมือมากุมมือฉันพร้อมพูดเงื่อนไข
“แต่อะไร”
“แต่ผมจะให้คุณสอนแค่ช่วงนี้เท่านั้นเพราะเมื่อไหร่ที่คุณ มีเบบี้ของเรา คุณต้องหยุดทันที”
“เอ่อ ค่ะ คะ”
ฉันปล่อยให้เขาจับมือฉันไว้แบบนั้น ฉันไม่กล้าสบตาเขาเพราะคำพูดชวนคิดทำให้ฉันเขินจนทำตัวไม่ถูก
“นี่อร่อยนะ”
เขาตักอาหารใส่จานฉัน
“ขอบคุณคะ”
ฉันยิ้มให้เขา และหลังจากนั้นเราก็คุยถึงเรื่องต่างๆมากมายในสิ่งที่ฉันและเขาต่างไม่รู้ ถือเป็นการศึกษาในเรื่องของกันและกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จเขาก็พาฉันเดินซื้อของใช้จำเป็นเพราะฉันก็พาเฉพาะเสื้อผ้าที่จำเป็นเท่านั้น
“อ้าวลี บังเอิญจังเลยนะคะ”
“อัส เอ่อ ครับ”
“เจอกันอีกแล้วนะคะคุณ”
“โมนาครับ เธอเป็นคนไทย”
“อ้อไม่น่าละ อัสจะถามลีอยู่แล้วเชียวว่าทำไมเธอพูดแต่อังกฤษตอนอยู่ในงานวันนั้น”
ฉันแน่ใจว่าพวกเขากำลังพูดถึงฉันอยู่แต่เพราะฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจ หึ เธอคนนี้สินะที่โทรมาคืนนั้น
“โมนานี่อัสมา เอ่อเป็นเพื่อนร่วมงานของผม”
“คะน้องรู้จักแล้วตอนวันงานไงคะ”
“............................”
“จริงสิคะ ว่าแต่ลีพอจะมีเวลารึเปล่า คืออัสอยากจะปรึกษาเรื่องงานที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้อะ”
“ตอนนี้เลยหรออัส”
“คะ อัสโทรหาลีแล้วเมื่อคืน นี่ภรรยาลีไม่ได้บอกหรอคะ”
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่อยู่ๆเขาก็หันมามองฉันแล้วคุยกันอีกสองสามประโยคก่อนที่เขาจะหันมาพูดกับฉัน
“เดี่ยวคุณเดินเล่นแถวนี้ก่อนนะ ผมขอคุยธุระกับอัสก่อน”
“ขอน้องไปด้วยไม่ได้หรอ”
“ผมแค่จะคุยธุระแถวนี้ ไม่นานหรอก ผมกลัวคุณเบื่อ โอเคนะ”
“แต่น้องขะ”
“ไปกันเถอะลี อัสมีหลายเรื่องที่จะพูดด้วย”
ยัยอัสมาอะไรนั่นดึงแขนเขาไป ทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ ให้ตายสิแล้วฉันจะทำยังไงละ ตามเขาไปดีไหม ไม่ดีหรอกเขาก็บอกแล้วว่ากลัวฉันจะเบื่อเอา ไม่เป็นไรๆเดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้
หลังจากที่ฉันเดินเล่นนานเกือบสองชั่งโมงจนฉันรู้สึกว่านี่เขาลืมฉันรึเปล่า ฉันส่งข้อความไปเขาก็ไม่ตอบ โทรไปก็ปิดเครื่อง บางทีฉันก็น้อยใจนะที่เขาไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกฉันสักเท่าไหร่ แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดี จะกลับบ้านก็กลับไม่ถูกเพราะจำไม่ได้ว่าบ้านเขาอยู่แถวไหน เฮ้อออ จริงสิ! อลันไง ดีนะที่มีเบอร์อลัน ฉันโทรหาอลันเพื่อจะถามที่อยู่ของบ้าน
“อลัน นี่พี่โมนานะ คือพี่จำที่อยู่บ้านไม่ได้อ่า”
“ครับ แล้วพี่อาลีละครับไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอ”
“คือพี่หาเขาไม่เจอ โทรไปก็ปิดเครื่อง”
“แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหน เดี่ยวผมไปรับ”
ฉันรู้สึกเกรงใจที่อลันบอกจะมารับฉันแทน แต่อลันบอกฉันว่ากลัวฉันจะหลงอีกเลยอาสามารับ ฉันกลัวก็จริงแต่ฉันยังมีสติดี ถึงจะยืนหลงอยู่คนเดียวในห้างแห่งนี้ก็ตามเหอะ ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาอยู่ที่ไหน จะรู้ตัวบ้างไหมว่ามีฉันอยู่ที่นี่อีกคน จะตามหาฉันด้วยรึเปล่า พอคิดๆไปแล้วน้ำตาฉันก็เอ่อล้นออกมาซะดื้อๆ
“โมนา”
ฉันยืนเหม่ออยู่สักพัก จนไม่ทันได้สังเกตว่าใครเข้ามาทัก
“โมนาจริงด้วย^^”
“ฟาริท”
“ดีใจจังนึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”
“ดีใจเหมือนกันที่เจอริท”
ฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้า ที่ไม่ทิ้งให้ฉันยืนหลงอยู่คนเดียว เพราะฉันได้เจอกับฟาริทเพื่อนชาวมาเลเซียที่เรียนมาด้วยกัน
“แล้วมาคนเดียวหรอ”
“เปล่าหรอก คือฉันหลงอ่า”
“หรอ แล้วนี่พักที่ไหนละ เดี่ยวผมไปส่ง”
“ไม่เป็นไรๆมีคนมารับแล้ว”
“แน่ใจนะ”
“อื้ม”
“เอาอย่างนี้ดีกว่าเดี๋ยวเรารอเป็นเพื่อน”
“เฮ้ยไม่เป็นไร ริทไปทำธุระเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกเราแค่มาเดิน ไม่ได้มีธุระอะไรด้วย”
“งั้นขอบใจนะ”
“สบายมาก”
Ali part:
ผมเดินไปมาเกือบจะทั่วห้างถามใครก็ไม่มีใครเห็น หลังจากที่ผมบอกให้เธอเดินเล่นแถวนี้เพราะผมจะไปคุยธุระกับอัสมา ความจริงผมไม่น่าให้เธอไปคนเดียวเลย ผมน่าจะให้เธอไปกับผมด้วย ผมลืมไปได้ไงว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ ผมโมโหตัวเองที่คุยธุระจนลืมไปเลยว่าเธอรอผมอยู่ จริงสิ ทำไมผมไม่โทรหาเธอละ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเธอ แต่ผมไปกดปิดเครื่องตอนไหน ทันทีที่เครื่องทำงานทั้งข้อความทั้งแจ้งเตือนเบอร์ที่ไม่ได้รับสายก็ขึ้นมาทั้งหมดเป็นของใครไม่ได้เลยนอกจากเธอ
“ตู้ดด ตู้ดด”
“ทำไมไม่รับสายนะ”
ผมโทรหาเธอไปไม่รู้กี่สาย แต่เธอก็ไม่รับ ตอนนี้ผมกังวลใจไปหมดไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนอยู่กับใครและทำอะไรอยู่ ให้มันได้อย่างนี้สิ
Mona part:
ตอนนี้ฉันถึงบ้านแล้ว อลันมารับฉันหลังจากที่ฉันยืนรอกับฟาริทได้สักพัก ฉันกำลังยืนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เขาโทรมาไม่รู้กี่สาย ฉันไม่อยากคุยกับเขา ฉันรู้สึกน้อยใจและไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำ ฉันเสียใจอย่างบอกไม่ถูกที่เขาไม่ให้ความสำคัญกัน
TheW
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ส.ค. 2559, 22:12:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ส.ค. 2559, 22:12:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 1104
<< Chapter 6: Puzzle (สับสน) | Chapter 8: Change to (เปลี่ยนไป) >> |