ม่านนทีปรารถนา
เมื่อโพไซดอนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ก่อเรื่องวิวาทกับอพอลโลจนถูกอัปเปหิลงมาอยู่ในร่างมนุษย์ในดินแดนที่เขาแสนเกลียดชัง พร้อมกับโดนริบพลังไปเสียกว่าครึ่ง ทางเดียวที่จะกลับคืนสู่โอลิมปัสและได้พลังทั้งหมดกลับมา เขาจะต้องร่วมมือกับอพอลโลทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ

เรื่องคงไม่ยากนักถ้ารู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร แต่นี่เขาไม่รู้อะไรสักอย่างต้องคำตอบด้วยตัวเอง เปรียบไปก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ซ้ำอพอลโลยังไม่ตั้งใจคิดจะช่วยเสียอีก งานนี้ราชันแห่งท้องทะเลจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะจู่ๆ ก็มีตัวแปรหน้าใสผู้มีลมหายใจแห่งท้องทะเลติดกาย มาปรากฏในภารกิจครั้งนี้ด้วย

มาร่วมติดตามลุ้นกันได้ใน "ม่านนทีปรารถนา" ค่ะ
Tags: โพไซดอน เทพเจ้ากรีก รักหวาน ฟิน

ตอน: 15 ไม่ใช่เหตุผลที่จะลอง

เมื่อเดินมาถึงฟาร์มม้า คีรีลก็เห็นว่าแมกซิมอสยืนรออยู่แล้ว ผู้จัดการหนุ่มทำหน้าดูถูกเขาเหมือนเคย

“มาก็ดีแล้ว หายหัวไปไหนมาฉันมารอตั้งนาน ถามไอ้พวกนี้มันก็ไม่รู้เรื่อง” แมกซิมอสหันไปมองคนในงานฟาร์มอีกสองสามคนที่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปไหน

“ผมไปพบคุณเอสโตร คุณแมกซิมอสมีอะไรให้ผมทำหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“พรุ่งนี้มีนักท่องเที่ยวซื้อทัวร์ว่ายน้ำกับม้าหกคน เป็นผู้หญิงล้วนและเขาอยากให้มีคนถ่ายภาพกับถ่ายวีดิโอให้ด้วย เพราะฉะนั้นนายต้องจัดการดูแลเตรียมความพร้อมม้าให้เรียบร้อยแต่เช้า”

“ผมคงไม่สะดวกที่” พูดยังไม่ทันจบแมกซิมอสก็ตะโกนใส่หน้าเสียก่อน

“แกไม่มีสิทธิ์มาปฏิเสธหรือเกี่ยงงานในฟาร์ม ฉันสั่งอะไรก็ต้องทำ หรือว่าแกไม่อยากทำงานที่นี่อีกแล้ว” ดีที่ว่าความสูงของคีรีลนั้นมากกว่าแมกซิมอส เพราะถ้าไม่เป็นอย่างนั้นชายหนุ่มคิดว่า อีกฝ่ายคงจะยืนค้ำหัวข่มเขาให้กลัวหงออย่างไม่ต้องสงสัย

“ผมไม่ได้เกี่ยงหรือเลี่ยงงานดูแลม้านะครับคุณแมกซิมอส แต่พรุ่งนี้คุณเอสโตรใช้ให้ผมไปรับนักท่องเที่ยวที่เฮราคลีออน เห็นว่าเขาจะมาพักที่รีสอร์ตค่อนข้างนาน เลยอยากให้ดูแลเป็นพิเศษ”

“นั่นมันเป็นปัญหาของแก ถ้าแกติดธุระที่จะต้องไปทำให้คุณเอสโตร แกก็ควรจะตื่นให้เช้ากว่าเดิมเพื่อจัดการกับงานที่ฉันสั่ง เข้าใจไหมไอ้คนจร” คำบริภาษที่รุนแรง รวมถึงการแสดงออกที่ไม่ให้เกียรติ ทั้งขมขู่ ทั้งดูถูกกำลังจะทำให้เทพผู้เป็นใหญ่เหนือผืนน้ำทั้งมวลกำลังจะหมดความอดทน สองมือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด แต่ก็พยายามข่มอารมณ์โกรธนั้นเอาไว้ แม้อีกฝ่ายจะหันไปบอกกับคนงานในฟาร์มว่า

“พวกแกทั้งหมดไม่ต้องช่วยมัน ให้มันเตรียมทำความสะอาดม้าและเตรียมเรื่องเอาม้าไปออกทริปกับนักท่องเที่ยวเพียงคนเดียว ถ้าฉันรู้ว่าพวกแกช่วย ฉันจะไล่ออกให้หมดทุกคน พวกแกก็รู้ใช่ไหมว่าเศรษฐกิจแบบนี้มีคนพร้อมที่จะมาทำงานแทนพวกแกเยอะมากแค่ไหน

เจอคำขู่เรื่องไล่ออกจากงาน คนงานในฟาร์มที่เมื่อครู่ยืนมองผู้จัดการระเบิดอารมณ์ใส่คีรีล รีบหันกลับไปทำงานของตนเองทันที

ถึงจะมาอยู่บนโลกมนุษย์ได้ไม่กี่เดือน และอยู่ในภาวะที่ทั้งประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจเช่นนี้ เทพโพไซดอนก็เริ่มที่จะเข้าใจมนุษย์แล้วว่าต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันขนาดไหน เขาจึงไม่โกรธเลยที่พวกคนงานเลือกที่จะนิ่งเงียบไม่ตอบโต้หรือเข้าข้างเขา แต่สำหรับคนที่เอาแต่เกลียดชัง ดูถูก ข่มเหง และไม่ให้เกียรติคนอื่นเช่นแมกซิมอสนั้น มีมานานเทียบเท่ากับประวัติศาสตร์ของมนุษย์บนโลกนี้เลยก็ว่าได้ แต่ก็เป็นมนุษย์จำพวกที่เขาไม่เคยเข้าใจเลยสักทีว่าจิตใจอันแสนโสมมของคนพวกนี้ทำด้วยอะไร

“แกไม่มีปัญหาอะไรกับคำสั่งของฉันแล้วใช่ไหม” แมกซิมอสยังส่งเสียงตะคอกตามมาอีก

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงจัดการให้คนแบบแมกซิมอสแหลกเป็นผุยผงไม่หลงเหลือเศษซาก หมอนี่คงโดนจัดการให้เป็นเหมือนฝุ่นผงในอากาศไปแล้ว แต่ ณ เวลานี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะหากลงมือทำไปก็ยิ่งจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาการลงทัณฑ์ของเขาให้ยาวนานขึ้นไปอีก ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น เทพแห่งท้องทะเลจึงพยายามข่มอารมณ์โกรธอย่างยากเย็นสุดแสน ก่อนจะตอบกลับไป

“เข้าใจครับ”

“ดี ถ้าอย่างนั้นก็ไปทำงานของแกได้แล้ว” แมกซิมอสออกคำสั่ง ยกมือขึ้นกอดอกวางท่าเหมือนเคย เขาจึงเดินกลับไปที่คอกม้าเพื่อเตรียมทำความสะอาดขนของม้าก่อนจะอาบน้ำให้ม้าตัวที่จะต้องใช้งานในวันพรุ่งนี้

กว่างานในฟาร์มม้าจะเสร็จก็ทำให้เทพแห่งท้องทะเลเสียเหงื่อไปไม่น้อย เย็นวันนั้นโพไซดอนจึงเลือกที่จะตักอาหารแล้วมาทานเพียงลำพังในบ้านพักคนงาน เพราะอยากจะพักผ่อนโดยที่ไม่อยากเห็นสายตาสอดรู้จากผู้คนในรีสอร์ตที่ต่างก็มองเขาเหมือนทำความผิดอะไรมาสักอย่าง ถึงได้โดนแมกซิมอสเขม่นเอาเช่นนั้น

“พระองค์น่าจะทรงสั่งสอนให้บทเรียนกับมนุษย์จอมโอหังผู้นั้นเสียบ้าง” ไม่ต้องหันไปมองทางต้นเสียงโพไซดอนในร่างคีรีลก็รู้ดีว่านั่นคือเสียงของเมดาส เทพบริวารแสนซื่อสัตย์ของเขา

“ถ้าข้าทำอย่างนั้น องค์มหาเทพก็คงจะส่งลงโทษข้าเพิ่มไปอีก ข้าเบื่อโลกมนุษย์เน่าเหม็นนี่เต็มทีแล้ว ไม่อยากยืดเวลาอยู่ที่นี่ให้นานนัก” เทพผู้เป็นใหญ่แห่งท้องทะเลตอบในขณะที่ยังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง สองแขนสอดเอาไว้ใต้ศีรษะ ผ่อนลมหายใจเข้าออกยาวๆ

“ถ้าพระองค์ตรัสเรื่องนี้กับองค์มหาเทพ กระหม่อมมั่นใจว่าองค์มหาเทพต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่” เมดาสคุกเข่าลงที่ข้างเตียง ในขณะที่เอ่ยคำแนะนำ

“ข้าไม่อยากไปอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้ใด”

“แต่พระองค์คือพระเชษฐาของมหาเทพนะพะย่ะค่ะ” เมดาสเอ่ยเหมือนอยากเตือนความทรงจำให้กับเขา

“ข้าไม่อยากนับญาติกับซูสอีกแล้ว เจ้านั่นคิดจะทำอะไรก็ไม่เคยถามความสมัครใจของข้าเลยสักครั้ง เอาอำนาจเข้าข่ม นี่ถ้าข้าได้ฤทธิ์อำนาจกลับมาเต็มบริบูรณ์เมื่อไหร่ ข้าจะถล่มโอลิมปัสของเจ้านั่นให้ราบพณาสูร เจ้าคอยดูนะเมดาส” ว่าจะไม่โกรธ แต่สุดท้ายเทพโพไซดอนก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจนได้ เมื่อบริวารเอ่ยนามของซูสออกมา

ฝ่ายเมดาสก็รู้ดีว่าเวลานี้ผู้เป็นนายเหนือหัวของตนกำลังอยู่ในอารมณ์ใด เทพบริวารหนุ่มจึงหยุดพูดทันที เพราะรู้ดีว่าขืนยังพูดหรือแนะนำอะไรออกไป เทพโพไซดอนคงได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเป็นแน่ แม้จะเหลือฤทธิ์เพียงครึ่งเดียวแต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไปลองว่าฤทธาเท่านั้นทำอะไรได้บ้าง ในเมื่อเขารู้ดีว่าเวลาที่เทพแห่งท้องทะเลกริ้วนั้นจะเกิดอะไรขึ้น




namon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ส.ค. 2559, 00:43:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ส.ค. 2559, 00:43:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1179





<< 13 ท่องซานโตรินี   16 พบกันอีกครั้ง >>
namon 31 ส.ค. 2559, 00:53:39 น.
เซฟเฟอร์,,,,มาเที่ยวด้วยกันค่า


Zephyr 2 ก.ย. 2559, 08:07:21 น.
ผลจะเป็นยังไงนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account