ม่านนทีปรารถนา
เมื่อโพไซดอนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ก่อเรื่องวิวาทกับอพอลโลจนถูกอัปเปหิลงมาอยู่ในร่างมนุษย์ในดินแดนที่เขาแสนเกลียดชัง พร้อมกับโดนริบพลังไปเสียกว่าครึ่ง ทางเดียวที่จะกลับคืนสู่โอลิมปัสและได้พลังทั้งหมดกลับมา เขาจะต้องร่วมมือกับอพอลโลทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ

เรื่องคงไม่ยากนักถ้ารู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร แต่นี่เขาไม่รู้อะไรสักอย่างต้องคำตอบด้วยตัวเอง เปรียบไปก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ซ้ำอพอลโลยังไม่ตั้งใจคิดจะช่วยเสียอีก งานนี้ราชันแห่งท้องทะเลจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะจู่ๆ ก็มีตัวแปรหน้าใสผู้มีลมหายใจแห่งท้องทะเลติดกาย มาปรากฏในภารกิจครั้งนี้ด้วย

มาร่วมติดตามลุ้นกันได้ใน "ม่านนทีปรารถนา" ค่ะ
Tags: โพไซดอน เทพเจ้ากรีก รักหวาน ฟิน

ตอน: 21 รู้นิสัยกันดี

“พี่นุชขา เตยมีข่าวดีมาบอกค่ะ” ตีรณาหรือเตยกรอกเสียงไปทางโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ชื่นมื่น

“มีอะไรคะน้องเตย รีบบอกพี่มาเลยค่ะ พี่ไม่อยู่เมืองไทยมาเกือบเดือน กลัวตกข่าวจะแย่อยู่แล้ว ว่าแต่ข่าวดีนั่นคืออะไรคะ หรือจะเป็นข่าวไฮโซหนุ่มกลาง การิน เปิดตัวว่าเป็นสาวคะ” ชวัลนุชอดีตพี่สะใภ้ของตีรณาเอ่ยคาดเดา

“อุ๊ย ไม่ใช่หรอกค่ะพี่นุช รายนั้นเขาเพิ่งจะไปเล่นละครโทรทัศน์เป็นพระเอกด้วยซ้ำค่ะ คงไม่เปิดตัวว่าตัวเองเป็นเก้ง กวาง บ่าง ชะนี ง่ายๆ หรอกค่ะพี่” ตีรณาหมายถึงไฮโซหนุ่มที่กำลังพยายามผันตัวเองมาเป็นนักแสดง หลังจากโด่งดังในโลกโซเชียลในฐานะไฮโซหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ทว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายกลับเป็นสาวชนิดที่สาวแท้ๆ ยังอาย

“อ้าว ไม่ใช่เรื่องนี้ แล้วมันจะมีข่าวดีเรื่องไหนอีกล่ะคะน้องเตย”

“ก็ข่าวที่ว่ายายแอลลาออกไปจาก เดอะ เลมอนแล้วยังไงล่ะคะพี่นุช ข่าวนี้ดีพอไหม”

“จริงหรือคะ” สาวไฮโซทายาทบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าถามด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างสุดแสน

“จริงสิคะ แม่นั่นลาออกไปจะเกือบเดือนแล้ว”

“ลาออกไปเกือบเดือน แล้วน้องเตยเพิ่งมาบอกพี่นี่นะคะ ทำไมปล่อยให้มันดีเลย์นานขนาดนี้ล่ะคะ ไม่อย่างนั้นพี่คงรีบเข้าไปหาตาณนานแล้ว” ชวัลนุชอดที่ตำหนิน้องสาวของอดีตสามีไม่ได้ ฐานที่ทำให้เธอเสียเวลาตั้งเกือบเดือน

“แหมคุณพี่ขา ก็พี่เล่นไปท่องยุโรปซะนานขนาดนั้น โทรศัพท์ก็ไม่ค่อยเปิด ส่งไปทางข้อความก็ไม่รู้จะได้เปิดอ่านบ้างหรือเปล่า”

“โอเคๆ พี่ยอมรับผิดก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันไปแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ”

“ไปจริงแท้แน่นอนค่ะ ก็ตั้งแต่วันนั้นแหละค่ะ” ตีรณาเอ่ยถึงวันนั้นเป็นอันเข้าใจกันดีว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยมีเสียงหัวเราะแบบสะใจของชวัลนุชดังมาทางโทรศัพท์

“ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ อยากจะมายุ่งกับตาณทำไม ถ้าแม่นั่นไม่เข้ามายุ่งกับตาณพี่ก็คงไม่ทำแบบนั้นไปหรอก ว่าแต่ตาณเขามีท่าทีอาลัยอาวรณ์แม่นั่นบ้างไหม”

“ก็ไม่นะคะ เตยเห็นพี่ตาณเฉยๆ สงสัยเป็นเพราะกำลังยุ่งเรื่องหนังสือที่จะเปิดใหม่อีกสองฉบับ เห็นพี่ตาณมีนัดคุยงานกับลูกค้าแทบทุกวัน แต่เตยก็อยากให้พี่นุชเข้ามาหาพี่ตาณนะคะ เผื่ออะไรๆ มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้”

“พี่น่ะอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมแน่นอนอยู่แล้ว แต่พี่ชายของเตยน่ะสิ ไม่รู้จะคิดเหมือนกันไหม”

“พี่นุชต้องพยายามหน่อยนะคะ อย่ายอมให้พี่ตาณไปเป็นของคนอื่น” ตีรณาบอกกับอดีตพี่สะใภ้ เพราะในสายตาของเธอแล้วไม่เห็นใครเหมาะสมกับพี่ชายมากกว่าชวัลนุช ยิ่งเมื่อได้เห็นพนักงานสาวๆ ที่พากันจะเอาเต้าไต่เพราะอยากให้อาชีพการงานรุ่งโดยการคิดจับพี่ชายของเธอ หญิงสาวก็ยิ่งอยากให้พี่ชายกับพี่สะใภ้กลับมาคืนดีกัน เธอรับไม่ได้หากพี่สะใภ้คนใหม่จะเป็นพวกเห็นแก่เงินทองทรัพย์สมบัติของพี่ชายมากกว่าจะรักพี่ชายเธออย่างแท้จริง

“พี่จะพยายามจ้ะน้องเตย เพราะพี่รู้แล้วว่าพี่ขาดตาณไม่ได้ พี่จะไม่ยอมเสียเขาให้กับผู้หญิงหน้าไหนเด็ดขาด”

ได้ฟังคำตอบของพี่สะใภ้ตีรณาก็แสนจะดีใจ รีบบอกตารางงานของพี่ชายในวันรุ่งขึ้นให้ชวัลนุชรู้ทันที อีกฝ่ายจะได้คำนวณเวลาในการมาพบกับพี่ชายของเธอได้ถูกจังหวะ



ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ผิวขาว รูปร่างสูงใหญ่ เจ้าของนิตยสารชื่อดังที่มียอดขายติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เดินมาถึงหน้าห้องทำงานของตน ก็รู้สึกสงสัยที่ไม่พบกับเลขา ปกติรสนาจะนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อรอรายงานเขาเสมอว่าวันนี้เขามีตารางนัดหมายที่ใดบ้าง ทว่าวันนี้กลับไม่เห็นอีกฝ่าย เขาจึงเปิดประตูห้องทำงานหมายจะไปนั่งสะสางงานที่ค้างสักครู่ก่อนจะโทรตามเลขา แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปในห้องก็มีเสียงดังแว่วมาก่อน

“ทำไมฉันจะรอตรงนี้ไม่ได้ ในเมื่อเธอก็รู้ดีว่าฉันกับคุณตาณเป็นอะไรกัน”

เสียงนี้ตาณจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร ชวัลนุช อย่างไม่ต้องสงสัยแม้จะเลิกราหย่าขาดกันมาเกือบปีแล้ว แต่เธอยังคงเข้ามาวุ่นวายป้วนเปี้ยนในชีวิตเขาไม่เคยหยุด ชายหนุ่มส่ายหน้าด้วยความระอาใจเมื่อได้ยินเสียงเลขาพูดกับชวัลนุช

“แต่เดี๋ยวคุณตาณจะว่านาได้นะคะที่ปล่อยให้คุณเข้ามาในห้องตามอำเภอใจแบบนี้”

“ทำไมฉันจะมีสิทธิ์เข้ามานั่งรอ มานอนรอสามีฉันไม่ได้ ถ้าเธอกลัวเขาว่านักก็ลาออกไปสิ ง่ายจะตาย” ถ้อยคำที่บ่งบอกถึงความเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดคนอื่นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ชวัลนุชก็ยังคงเป็นแบบนี้เสมอ เธอไม่เคยคิดจะเปลี่ยนเลย

เมื่อเห็นว่าเลขาใกล้จะร้องไห้เต็มที เขาถึงได้เดินเข้าไปในห้องแล้วเอ่ยกับชวัลนุชด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ จงใจให้เธอรับรู้ได้ว่าเขาไม่เหลือความรู้สึกใดๆ กับเธออีก “เป็นอดีตสามีไม่ใช่หรือ”

“ตาณ ทำไมพูดแบบนี้ต่อหน้ายายเลขาหน้าจืดของคุณ” ชวัลนุชแหวขึ้นมาทันทีพร้อมกับที่ลุกผุดขึ้นจากมุมรับแขกในห้องทำงานของเขา ส่วนคนที่โดนว่าเป็นเลขาหน้าจืดตอนนี้ได้แต่ทำหน้าจ๋อยเพราะกลัวความผิดที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายในห้องทำงานของเจ้านาย

“รสนาคุณออกไปทำงานเถอะ แล้วโทรมาบอกผมด้วยว่าวันนี้ผมมีนัดที่ไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่มยังไม่สนใจอดีตภรรยา เขาหันไปสั่งงานลูกน้องเสร็จก็เดินมานั่งที่โต๊ะทำงานของตน เป็นเวลาเดียวกับที่รสนาเดินออกจากห้องไปและปิดประตูห้องทำงานให้ จากนั้นเขาก็หยิบเอกสารสองสามแผ่นที่บนโต๊ะมาอ่าน

“คุณต้องขอโทษนุชเดี๋ยวนี้นะ ที่ทำให้นุชหน้าแตกแบบเมื่อกี้ มีอย่างที่ไหนพูดมาได้ว่าเป็นอดีตสามี” หญิงสาวเดินมาเท้าแขนที่โต๊ะทำงานด้วยใบหน้าเหมือนจะเอาเรื่องจากเขาให้ได้

“ผมพูดเรื่องจริง” ตาณเงยหน้าขึ้นมองสบตาหญิงสาว นั่นทำให้เธอเม้มริมฝีปากแทบเป็นเส้นตรง แต่นาทีต่อมาหญิงสาวก็หายใจเข้าออกหนักๆ สองสามครั้งเหมือนพยายามจัดการกับอารมณ์โกรธของตน แล้วก็ส่งยิ้มหวานมาให้เขา

“ไม่เอาละเราไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องของคนอื่นดีกว่า นุชมาวันนี้ก็เพราะคิดถึงตาณ ถ้ามัวแต่ทะเลาะกันเพราะเรื่องยายหน้าเต้าหู้นั่น นุชก็เสียเวลาแย่”

“คิดถึงผม แต่คุณก็ไปก่อเรื่องให้พนักงานของผมต้องมาทุกข์ใจ”

“ก็นุชจะเข้ามานั่งรอคุณในนี้แต่แม่นั่นไม่ให้เข้ามานี่คะ”

“มันเป็นเรื่องที่ผมสั่งเขาไว้ว่าถ้าไม่มีตารางนัด ผมจะไม่ให้ใครเข้ามานั่งหรือมายุ่มย่ามในห้องทำงาน เพราะมันรบกวนสมาธิตอนผมทำงาน”

“แต่นุชไม่ได้กวนอะไรนี่คะ แค่นั่งเฉยๆ คุณจะเสียสมาธิสักแค่ไหนกันเชียว” หญิงสาวแก้ตัวมาแบบนั้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณแล้วกัน” ชายหนุ่มเอ่ยเสร็จก็นั่งทำงานไปเงียบๆ ตามมาด้วยการรับโทรศัพท์รายงานตารางการนัดหมายจากเลขา เวลาทำงานแล้วตาณเหมือนกับลืมสิ่งที่อยู่รอบด้าน แม้กระทั่งเวลานี้เขาก็ทำงานจนแทบลืมไปเลยว่าชวัลนุชนั่งอยู่ในห้องด้วย เงยหน้าขึ้นจากเอกสารอีกทีก็เห็นว่าหญิงสาวหลับไปแล้วโดยนั่งตะแคงข้างแล้วพิงพนักโซฟา หลับสนิทไม่เหลือมาดไฮโซสาวเลยสักนิด เหลือบมองดูนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มจึงลุกจากโต๊ะทำงานแล้วเดินออกจากห้องไปสั่งงานเลขา

“ผมจะไปกินมื้อกลางวันที่ร้านค้าในศูนย์อาหารของตึก แล้วจะรอคุณที่ร้านกาแฟด้านล่าง เสร็จแล้วจะออกไปคุยงานเลย ฝากคุณช่วยปลุกคุณชวัลนุชด้วยนะ ถ้าเขายืนยันจะรออยู่ที่เดิมก็บอกเขาไปว่าผมไปทานข้าวแล้วเลยไปพบลูกค้าข้างนอก จะไม่กลับเข้าออฟฟิศแล้ววันนี้”

“แต่ถ้าเอ่อ”

“ไม่ต้องห่วง บอกไปตามนี้แหละ ผมรู้ดีว่าเขาไม่ชอบนั่งรอใครนานๆ หรอก” ชายหนุ่มบอกอย่างมั่นใจเพราะเขารู้นิสัยของชวัลนุชดี จากนั้นก็เดินออกจากที่ทำงานไป



namon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ย. 2559, 08:55:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ย. 2559, 08:55:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1188





<< 20 ถ้ามีเธออยู่เคียงข้าง(ปกมาแล้วนะคะ)   22 รอยร้าวยากประสาน >>
namon 6 ก.ย. 2559, 08:56:16 น.
เซฟเฟอร์...ป๋าสัมปัสได้ อิอิ


Zephyr 8 ก.ย. 2559, 10:24:50 น.
ยัยป้านุชนี่ใคร
ตาณเคยเห็นนิสัยนี้ของ อดีต!!! พี่สะใภ้ไหม
สนับสนุนไม่ลืมหูลืมตา
ไม่ถูกโฉลกนาง แค่เปิดตัวมา คิ้วกระตุกๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account