ม่านนทีปรารถนา
เมื่อโพไซดอนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ก่อเรื่องวิวาทกับอพอลโลจนถูกอัปเปหิลงมาอยู่ในร่างมนุษย์ในดินแดนที่เขาแสนเกลียดชัง พร้อมกับโดนริบพลังไปเสียกว่าครึ่ง ทางเดียวที่จะกลับคืนสู่โอลิมปัสและได้พลังทั้งหมดกลับมา เขาจะต้องร่วมมือกับอพอลโลทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ

เรื่องคงไม่ยากนักถ้ารู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร แต่นี่เขาไม่รู้อะไรสักอย่างต้องคำตอบด้วยตัวเอง เปรียบไปก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ซ้ำอพอลโลยังไม่ตั้งใจคิดจะช่วยเสียอีก งานนี้ราชันแห่งท้องทะเลจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะจู่ๆ ก็มีตัวแปรหน้าใสผู้มีลมหายใจแห่งท้องทะเลติดกาย มาปรากฏในภารกิจครั้งนี้ด้วย

มาร่วมติดตามลุ้นกันได้ใน "ม่านนทีปรารถนา" ค่ะ
Tags: โพไซดอน เทพเจ้ากรีก รักหวาน ฟิน

ตอน: 22 รอยร้าวยากประสาน

รสนาเคลียร์งานของตนเองจนเรียบร้อย จึงเดินเข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่มตามคำสั่ง ก่อนจะไปยืนจดๆ จ้องๆ ไม่กล้าปลุกหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่ที่โซฟา แต่เมื่อเห็นว่าใกล้จะได้เวลานัดกับเจ้านาย แถมตัวเองยังไม่ได้กินข้าวมื้อเที่ยง จึงทำใจกล้าส่งเสียงกระแอมไอหมายจะปลุกชวัลนุช

“อะแฮ่ม” ครั้งแรกไม่ตื่น รสนาจึงส่งเสียงกระแอมตามมาอีกสอง “อะแฮ่มๆ”
คราวนี้ได้ผลสาวไฮโซลืมตาขึ้นทันที ก่อนจะรีบเด้งตัวขึ้นนั่งหลังตรงแบบไม่ยอมเสียฟอร์ม แล้วส่งเสียงเขียวใส่เหมือนที่เลขาสาวกลัวไม่มีผิด

“มีอะไรยะ มากระแอมใส่ฉันทำไม ถ้าไม่สบายก็ไปหาหมอซะ น่ารำคาญ”

“เอ่อ”

“เอ่อ อ่าอะไร รีบพูดมา”
“นาจะมาบอกว่า คุณตาณออกไปประชุมแล้วค่ะ แล้วก็ฝากบอกคุณว่าไม่ต้องรอเพราะวันนี้จะไม่กลับเข้าออฟฟิศแล้ว”

“อะไรนะ ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมเพิ่งมาบอก” ชวัลนุชรีบลุกขึ้นยืนทันทีกวาดตามองหาอดีตสามีก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา

“ไปได้เกือบชั่วโมงแล้วค่ะ”

“ไปตั้งเกือบชั่วโมงนี่นะ แล้วทำไมไม่รีบเข้ามาบอกฉัน ออกไปตอนนี้จะทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอนี่มันเป็นเลขาที่แย่จริงๆ” หญิงสาวรีบคว้ากระเป๋าแบรนด์ดังมาคล้องไหล่เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่ไม่วายหันกลับมาว่ารสนาอีกครั้ง “เธอนี่เป็นเลขาที่แย่ที่สุด ไม่รู้ตาณทนจ้างได้ยังไงตั้งนานสองนาน บ้าจริงๆ เดี๋ยวฉันจะบอกให้น้องเตยไล่ออกเสียให้เข็ด” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินเชิดหน้าคอตั้งออกไป

รสนาได้แต่มองตามร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ก้าวฉับๆ อย่างมั่นใจบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว จนเมื่ออีกฝ่ายพ้นจากห้องไปแล้วเธอก็พ่นลมหายใจออกมา เหมือนคนที่เพิ่งผ่านพ้นจากสมรภูมิรบไม่มีผิด


ตาณเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่บ้านจัดสรรสองชั้นแบบโมเดิร์นในหมู่บ้านย่านชานเมืองในช่วงเวลาเกือบสามทุ่ม เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านก็เห็นว่ามารดากับน้องสาวกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับคนงานในบ้าน พอเห็นเขาเดินเข้ามามารดาก็ร้องเรียกทันที

“ตาณแวะมาคุยกับแม่ก่อนสิลูก”

ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธเดินเข้ามานั่งที่โซฟาใกล้ๆ กับมารดา ส่วนคนงานก็รีบหลบไปอย่างคนรู้งาน

“มีอะไรครับแม่”

“วันนี้นุชเข้าไปหาตาณที่ออฟฟิศหรือลูก” ราตรีเอ่ยถามเข้าประเด็นทันที ชายหนุ่มจึงหันไปมองน้องสาว ก็เห็นว่าคนเป็นน้องทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้

“ครับแม่ ทำไมหรือครับ ยายเตยมาเล่าอะไรให้แม่ฟัง”

“เตยไม่ได้เล่านะคะ พี่ตาณอย่ามากล่าวหากันสิ” ตีรณารีบเอ่ยแย้งทันที

“เตยไม่ได้เล่าหรอก แต่นุชโทรมาเล่าให้แม่ฟังเอง ว่าตาณน่ะแกล้งปล่อยให้เขานั่งรอจนหลับแล้วก็หนีออกไปข้างนอก”
ได้ฟังคำมารดาชายหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูเหมือนว่าคนรอบข้างเขาจะไม่ยอมรับรู้กันเลยสักคนว่าเขากับชวัลนุชหย่ากันแล้ว

“ผมไม่ได้หลอกให้นั่งรอครับ ผมบอกแล้วว่ามีงานต้องทำไม่มีเวลามาพูดคุยกับเขา นุชยืนยันเองว่าจะนั่งมองผมทำงานไม่วุ่นวายอะไร อีกอย่างผมไม่ได้หนีไปข้างนอก แต่ผมมีนัดคุยงานกับลูกค้า”

“แต่ตาณก็น่าจะบอกนุชเสียก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้เขารอเก้อแบบนั้น ใจร้ายมากนะลูก” ราตรียังคงตำหนิลูกชายออกมา เธอคิดว่าอย่างไรเสียลูกชายก็น่าจะให้เกียรติอดีตลูกสะใภ้บ้าง ไม่ใช่ว่าทำเหมือนไม่ใส่ใจ ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุแบบนี้

“แม่ครับผมอยากจะบอกอีกครั้งให้เข้าใจกันทุกคนว่า ผมกับนุชหย่ากันแล้ว และผมก็ไม่เคยมีความคิดจะกลับมาคืนดีกับนุชอีก ทำไมแม่กับยายเตยถึงไม่เข้าใจและไม่หยุดพยายามทำให้ผมกลับมาคืนดีกับเขาเสียที” ชายหนุ่มพูดโพล่งออกมาในที่สุด เพราะเอือมระอาเต็มทีกับเรื่องที่เกิด

“ตาณ แม่รู้ว่านุชเขาเคยทำผิดพลาด แต่เรื่องนั้นจะไปโทษนุชคนเดียวก็ไม่ได้ นุชเองก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้น และเขาเจ็บปวดกับเรื่องนั้นไม่แพ้ลูกนะ”

“แม่อย่ายกเรื่องนี้มาอ้างอีกเลยครับ ไม่ใช่ว่าผมจะโทษนุชคนเดียว ผมเองก็มีส่วนผิดและยอมรับผิด ผมพยายามแก้ตัว พยายามทำตัวใหม่ แต่ตรงข้ามนุชกลับไม่เคยพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ผมว่าเรื่องของผมกับนุชมันจบบริบูรณ์ไปแล้ว แม่อย่าทำให้มันมีภาคสองเลยครับ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงออกจากห้องนั่งเล่นไปทันที แม้มารดาจะร้องเรียกเขาก็ไม่หยุดเดิน

“ตาณ กลับมาคุยกับแม่ก่อน ตาณ”

เมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ยอมกลับมาคุยแน่แล้ว คุณราตรีก็นั่งลงข้างๆ บุตรสาว ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“พี่เราใจแข็งเหลือเกิน นี่เขาคงหมดเยื่อใยกับยายนุชแล้วจริงๆ” ราตรีเอ่ยเหมือนจะเริ่มท้อกับความพยายามที่จะเป็นกาวใจให้ลูกชายกับอดีตลูกสะใภ้

“คุณแม่อย่าท้อนะคะ พี่นุชน่ะเหมาะสมกับพี่ตาณที่สุดแล้ว เขารักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่ต่างประเทศ ทั้งที่พี่นุชไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ตาณรวยหรือจนเพราะพี่ตาณทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย พี่นุชยังมองข้ามข้อนั้น ถ้าไม่รักพี่ตาณจริงมีหรือคะลูกสาวนักธุรกิจอย่างพี่นุชจะมาเลือกรักแล้วก็แต่งงานกับพี่ตาณ”

“แม่รู้ ว่านุชเขารักตาณ แต่เตยก็ต้องไม่ลืมว่าเขาเอาแต่ใจมากแค่ไหน ซ้ำเวลาทะเลาะกันก็ชอบยกเรื่องฐานะมาข่มพี่ชายเรา ถึงเขาจะหลุดปากไปเพราะโมโหก็เถอะ แต่บ่อยครั้งเข้ามันก็ทำให้ตาณเขารู้สึกแย่ สำคัญที่สุดก็คือมันมีบางเรื่องที่ทำให้เกิดบาดแผลที่เจ็บปวดที่สุดจนตาณเขาลืมไม่ได้”

“มันเรื่องอะไรกันหรือคะแม่” ตีรณาเอ่ยถาม หากแต่ผู้เป็นมารดาไม่อยากจะถึงจึงเงียบเสีย เพราะตาณเองก็ไม่เคยยอมปริปากบอกใครว่าเขารู้เรื่องนี้ นอกจากมาปรับทุกข์กับเธอ

เรื่องราวบาดแผลที่ฝากรอยลึกเอาไว้ในหัวใจของลูกชาย ซึ่งลูกชายโทษว่าเป็นความผิดของลูกสะใภ้ บวกกับเรื่องบาดหมางที่เก็บสะสมมาทีละเล็กละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นชนวนเหตุให้ครอบครัวต้องมาจบลงที่การหย่าขาดเลิกรากันเช่นทุกวันนี้ แม้จะอยากให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันเท่าใดก็ตาม แต่พยายามเท่าไหร่ก็ดูจะสำเร็จยากเพราะคนเป็นลูกนั้นใจแข็งเหลือเกิน

“เฮ้อ” สุดท้ายหญิงสูงวัยก็ได้แต่ทอดถอนหายใจออกมา



namon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2559, 00:15:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2559, 00:15:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1123





<< 21 รู้นิสัยกันดี   ไกด์กิตติมศักดิ์ >>
namon 19 ก.ย. 2559, 00:24:29 น.
เซฟเฟอร์...เจอครั้งแรกคิ้วกระตุกแล้ว ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ งานนี้สงสัยมีด่าชวัลนุชแน่ค่ะอิอิ


สิรินดา 19 ก.ย. 2559, 08:36:24 น.
มาเยี่ยมๆ มองๆ วันหลังแวบมาอ่าน เนื้อเรื่องน่าสนใจเชียวววว


namon 20 ก.ย. 2559, 22:52:43 น.
พี่ตา...ขอบคุณค่า


Zephyr 20 ก.ย. 2559, 23:02:37 น.
ไม่ชอบนางเลย ยายนุชอะไรนี่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account