คำสาปขังรัก
คุณจะทำอย่างไร...ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องคำสาป ไม่สามารถจะมีรักที่ดีได้
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
Tags: คำสาป ความรัก พยากรณ์

ตอน: The Fool

The Fool

ความร่าเริงของชีวิตเกิดจากจิตที่อิสระ
มันอาจโง่เขลาที่มนุษย์จะเป็นตัวเอง ภายใต้เกณฑ์ของสังคมที่กำหนดความปกติ
แต่บางคนก็ต้องการเพียงได้ใช้ชีวิตอย่างเบิกบาน ด้วยความกล้าหาญ เปิดเผย และศรัทธาในตนเอง
อาจโง่เขลา อาจแตกต่าง แต่มีความสุขก็พอแล้ว

ชนิศารวบรวมเอกสารที่จดบันทึกใส่กระเป๋า แล้วหันไปมองเพื่อนสาวที่ยังนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่ข้างตัวอย่างรอคอย

"คุยไรกันนี่" หญิงสาวชะโงกไปมองโทรศัพท์เพื่อน เอ่ยถามด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอสนทนา

"เฮ้ย...ก็..." เพื่อนสาวไม่ทันได้ตอบ ชนิศาก็ฉกโทรศัพท์ในมือไปเสียแล้ว

"หืม...คุยกันสนิทสนมไม่เกรงใจเราเลย" หญิงสาวเอ่ยกลั้วหัวเราะกึ่งล้อ

เพื่อน ๆ ต่างรู้กันดีว่าปัณณาและชนิศากำลังมองผู้ชายคนเดียวกัน เพียงแต่ความรู้สึกไม่ได้ลึกซึ้งขนาดจะคิดเป็นเจ้าของ สองสาวจึงมักจะหันหน้าเข้าปรึกษาเรื่องชายหนุ่มอย่างสนิทสนมคล้ายบรรดาแฟนคลับของนักร้องเสียมากกว่าจะเป็นคู่แข่งหัวใจ

"คุยกับเราแบบนี้ ไม่เกรงใจเชรีเหรอ" เธอเอ่ยขณะพิมพ์ข้อความลงไปในโทรศัพท์

ปัณณาอ้าปากค้าง ก่อนหัวเราะคิก ชะโงกมามองหน้าจอโทรศัพท์ในมือเธอ "เล่นอะไรนี่เชรี"

"ดูซิ...พี่กานต์จะตอบยังไง"

เพียงไม่นาน คำตอบก็ปรากฏบนหน้าจอ 'ถามไรเนี่ย'

'กานต์บอกมาเลยนะ จะเลือกเราหรือเชรี' ชนิศาพิมพ์ต่อหน้าตาเฉย คราวนี้ปัณณาอ้าปากค้าง รีบดึงโทรศัพท์คืนมาพิมพ์บอก 'เชรีพิมพ์ ตั้งแต่ที่ไม่เกรงใจอ่ะ'

'ว่าละ...โดนแย่งโทรศัพท์เหรอ' อีกฝ่ายตอบมาอย่างรู้ทัน เพราะความคุ้นเคยทำให้เขาเดานิสัยสองสาวได้ไม่ยาก

"โธ่...ปันปันน่ะ ไม่สนุกเลย"

"ถึงเราไม่บอก เขาก็เดาได้" เธอหัวเราะ "เราไม่เคยเรียกกานต์ว่ากานต์"

"อ้าว แล้วเรียกอะไร"

"กอรอ..." ปัณณาหัวเราะ

"เฮ้อ...ปันปันนี่นะ" ชนิศากลอกตา ถอนใจเบา ๆ "ไม่เล่นแล้ว กลับบ้านดีกว่า ปันปันคุยต่อเถอะ"

หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาสะพายไหล่ เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางที่ก้าวเร็ว ๆ บอกความมั่นใจในตัวเอง ใบหน้าหวานเรียวแต้มด้วยรอยยิ้มบาง ๆ อย่างผู้หญิงที่มีความสุขกับชีวิตทุกจังหวะ

มีคนบอกว่า ผู้หญิงที่จะเป็นที่รัก ต้องรู้จักรักตัวเองเสียก่อน ชนิศาเป็นหนึ่งในคนที่ปฏิบัติตามกฎข้อนี้เสมอมา เธอเชื่อว่าตัวเธอสวยงามและมีดีมากพอจะเป็นที่รัก แต่ทั้งที่เชื่ออย่างนั้น เสี้ยวหนึ่งในหัวใจยังอดจะวิ่งหาความรักในบางเวลาไม่ได้

"เดินคนเดียว...บางทีก็เหงาเหมือนกันนะ" เธออมยิ้มบอกตัวเองเบา ๆ ก่อนจะชะงักไปเมื่อทางข้างหน้าเป็นทางต่างระดับ เท้าที่ก้าวด้วยความเหม่อลอยจึงพาร่างบางให้ทรุดร่วงลงไปกับพื้น

ไม่มีเสียงหวีดร้องอย่างหญิงสาวที่ตกใจ เธอแค่นั่งคุกเข่าอย่างงุนงงอยู่บนพื้น เมื่อตั้งสติได้จึงมองรอบตัวแล้วรีบลุกขึ้นยืน

"เป็นไรไหม เชรี" เสียงทุ้มที่เอ่ยคำถามดังจากข้างตัวทำให้หญิงสาวเลิกคิ้วมอง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง

"พี่กานต์...สวัสดีค่ะ"

ชายหนุ่มหัวเราะกับอาการยิ้มจนหน้าบานของหญิงสาว เธอเอียงคอมองเขา แววตาเป็นประกายหวานบอกความรู้สึกชื่นชอบอย่างไม่ปิดบัง

"สวัสดีค่ะ...ไม่เจ็บเหรอ"

"เจ็บค่ะ แต่อายมากกว่า" เธอตอบกลั้วหัวเราะ "แต่ถ้าเจ็บมากแล้วพี่กานต์จะยอมให้เชรีอ้อน...ตอนนี้เชรีเริ่มจะเจ็บแล้วล่ะค่ะ"

เธอแกล้งงอตัวลงแตะเข่า ช้อนสายตามองชายหนุ่มแล้วกระพริบตาปริบ ๆ "โอย...เชรีเจ็บเข่าจัง เดินไม่ไหวแล้ว พี่กานต์คงต้องอุ้มเชรีแล้วล่ะค่ะ" เธอทำสายตาออดอ้อน เรียกเสียงหัวเราะจากการันต์ที่ยืนมองอย่างรู้ทัน

"เป็นไรมากไหมคะ เดี๋ยวพี่ตามเปลมารับไปทรอม่า" เขาบอกหน้าตาเฉย

ชนิศาทำหน้างอ เบะปาก ยืดตัวตรง มองชายหนุ่มกึ่งค้อน "ฮึ...พี่กานต์นี่ ไม่รู้จักรับมุกมารยาหญิงบ้างเลย นี่เชรีจัดไปตั้งหลายสิบเล่มเกวียน"

"เจอมารยาเชรีบ่อย ๆ พี่ก็ต้องมีภูมิต้านทานบ้างสิ" เขาตอบกลั้วหัวเราะ มองสำรวจหญิงสาวที่ยืนได้ตรงดีเพียงแว่บเดียว "ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม"

"ไม่หรอกค่ะ ถึงเชรีจะเป็นสาวน้อยบอบบาง แต่ก็ไม่ได้แตกหักง่ายขนาดนั้นหรอกนะคะ" เธอบอกเสียงหวาน

"แล้วนี่พี่กานต์จะไปไหนคะ ไม่เห็นตั้งแต่บ่าย เดี๋ยวนี้หัดโดดเรียนแล้วหรือคะ"

"พี่มาเก็บของที่หอน่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลาไปธุระกับคุณแม่หน่อย"

"อ้อ...แปลว่าพรุ่งนี้โดดอีกสินะคะ" เธอมองอย่างรู้ทัน "เดินทางปลอดภัยนะคะ"

ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ภาควิชาจัดให้บรรดาแพทย์ประจำบ้านได้ใช้ทำงานวิจัยเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่หลายคนโหยหามานาน ไม่ว่าใครก็คงไม่ยอมพลาดที่จะใช้เวลาที่พอมีอยู่เพื่อมีความสุขกับชีวิต และจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ให้เต็มที่โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการทำงานในฐานะแพทย์

การันต์พยักหน้ารับ ชนิศาหัวเราะ "แย่จัง...เชรีคงคิดถึงพี่กานต์แย่" เธอเอียงคอ ขยิบตาให้ชายหนุ่มกึ่งล้อกึ่งอ้อน ก่อนจะหมุนตัวเดินจากมาดื้อ ๆ

ร่างบางเดินตรงไปตามทางออกหน้าโรงพยาบาลอย่างคุ้นเคย เธอโบกมือเรียกรถแท็กซี่ บอกจุดหมายปลายทางแล้วจึงก้าวขึ้นไป
วูบหนึ่งของความคิด วนกลับไปที่บนสนทนาบนหน้าจอโทรศัพท์ของปัณณา ชนิศานิ่งคิดเพียงครู่ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดโปรแกรมสนทนา เรียกชื่อการันต์ที่บันทึกไว้ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ

'พี่กานต์จีบปันปันเหรอคะ'

เพียงครู่ คำตอบก็ปรากฏบนหน้าจอ

'เปล่าค่ะ พี่มีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว'

ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งด้วยความมึนงง การันต์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เพียรแกล้งอ่อยเขาอย่างเปิดเผยมาเกือบปี ถึงจะไม่ได้ตั้งใจจริงจัง แต่การปิดประตูใส่หน้าเธอด้วยคำตอบที่ชัดเจนแบบนี้ก็ทำให้คนเสียความมั่นใจได้เหมือนกันนะ

หญิงสาวกดส่งสติ๊กเกอร์รูปแมวทำตาโตอย่างตกใจไปให้ก่อนจะพิมพ์ต่อ

Che'rie : แอบชอบ...ขีดเส้นใต้สองเส้น
Che'rie : พูดอย่างนี้เฉลยมาเลยดีกว่าค่ะ

หน้าจอนิ่งไปเพียงครู่ ก็ปรากฏข้อความตอบ

Karunt : มันก็ไม่เรียกแอบสิคะ

Che'rie : อ้าว...เชรีไม่บอกใครหรอกค่ะ
Che'rie : เฉลยเร็วค่ะ ภาคไหนคะ

ชนิศานั่งไล่ชื่อเพื่อนแพทย์ประจำบ้านในแผนกเดียวกัน ผู้หญิงโสดในภาคศัลยศาสตร์มีมากเกินกว่าที่เธอจะสามารถคาดเดาได้

Karunt : หลอกถามไปก็ไม่มีประโยชน์

คนอ่านหลุดหัวเราะเบา ๆ ก่อนพิมพ์ข้อความตอบ

Che'rie : ใครหลอกคะ
Che'rie : หนูถามตรง ๆ เลยต่างหาก ตรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ

Karunt : นั่นสิ

Che'rie : พี่กานต์ก็ตอบสิคะ
Karunt : มันก็หมดอารมณ์แอบชอบสิ

ชนิศาเงียบไปครู่ใหญ่ ถอนใจเบา ๆ เมื่อนึกถึงบทเรียนเรื่องการสื่อสารที่เพิ่งผ่านไปในวันนี้ อาจารย์สอนถึงการสื่อสารในทางเดียวกัน

Che'rie : adult and adult รูปแบบคำตอบต้อง paralel กันสิคะ
Che'rie : คุณครูเพิ่งสอนเมื่อเช้านะคะ

เธอหมายถึงการพูดคุยแบบผู้ใหญ่ที่ใช้เหตุและผล คำตอบที่ได้ควรมีเหตุผลในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้การสื่อสารได้ประโยชน์และสามารถดำเนินต่อไปได้

Karunt : ไว้พี่จีบแล้วจะบอกนะ

ชนิศาเอียงคอมองโทรศัพท์ในมือด้วยความมึนงง เผลอพึมพำเบา ๆ กับตัวเองโดยไม่สนใจคนขับรถ "อ้าว...มีที่ไหน ชอบแต่ไม่จีบ"

Che'rie : อ้าว...ชอบก็จีบสิคะ
Che'rie : อุบไว้เดี๋ยวก็ มคปด หรอกค่ะ

เธอหมายถึงสุนัขคาบไปรับประทาน เป็นคำย่อที่รู้กันดี

ปลายทางเงียบไปนานจนชนิศาเปลี่ยนหน้าจอไปนั่งคำพยากรณ์ดวงดาวประจำวันในหน้าเว็บแห่งหนึ่งที่มารดาเธอเป็นหนึ่งในผู้เขียน

สุริยคราสกำลังจะเข้ามา บอกถึงความวุ่นวายเมื่อราหูจรมาทับจันทร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวสำคัญ ผู้เรียนรู้ศาสตร์แห่งดวงดาวได้แต่นั่งมองด้วยใจกังวล

แล้วข้อความเตือนบทสนทนาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

Karunt : จีบก็ไม่ติดอยู่ดี มคปด ก็ไม่เป็นไรมั้ง

Che'rie : โหย...ไหงอย่างนั้นล่ะคะ
Che'rie : ตัดรอนหนูแล้วยังมาทำให้สงสัยอีก พี่กานต์ใจร้าย

เธอกดเลือกภาพการ์ตูนแมวแก้มป่องส่งไปให้ อดจะอมยิ้มบาง ๆ ไม่ได้

นานแล้วที่เธอไม่ได้คุยเล่นกับการันต์ ถึงจะบอกว่าชอบชายหนุ่มมาก ถึงจะพูดจาหยอกล้อเมื่ออยู่ใกล้ แต่ชนิศาไม่เคยพูดคุยกับชายหนุ่มอย่างคุ้นเคยได้ยาวนานขนาดนี้

คำตอบของเขา และบทสนทนาที่ต่อเนื่องเป็นหนึ่งในเรื่องมหัศจรรย์ที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แม้เธอจะเป็นฝ่ายต่อบทสนทนาก็ตาม

Karunt : แล้วจะให้พี่ตอบไป ทำร้ายเชรีหรือไงคะ
Karunt : นี่เห็นว่าเป็นเชรีนะ พี่เลยบอก

ชนิศานิ่งงันอย่างมีนงงไปครู่ใหญ่ ไม่ใช่แค่การันต์หรอกที่รู้ว่าเธอหยอกล้อและชื่นชอบเขาอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่เพื่อนเขาบางคนยังบอกได้เลย

เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ อย่างครุ่นคิด เริ่มไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่ นิ้วเรียวไล่แตะหน้าจอ พิมพ์ข้อความตอบ

Che'rie : โอเค...ขอบคุณค่ะ

Karunt : ได้ยินน้ำเสียงประชดลอยมาเลยทีเดียว

ชนิศาเอียงคอมองจอโทรศัพท์อย่างครุ่นคิด เธอรู้สึกว่าการันต์เปิดใจยอมรับเธอในระดับหนึ่ง ถึงไม่ใช่คนรัก แต่ก็เป็นคนที่สามารถจะเปิดเผยตัวตนได้อย่างไม่ต้องกังวล

เมื่อเขาเปิดหน้าต่างรับเธอ ชนิศาก็ไม่เกรงใจที่จะเผยความเกเรในตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
เธอรักความสัมพันธ์ที่สามารถจะเปิดเผยตัวตนได้เสมอ

Che'rie : เถอะ...ไม่ใช่ธุระอะไรของหนูอยู่แล้ว พี่กานต์สบายใจจะจีบสาวคนไหนเมื่อไร ก็เป็นเรื่องของพี่นี่คะ
Che'rie : เชรีจะประชดทำไมกันคะ

ข้อความของหญิงสาว หากใครได้อ่านก็คงเข้าใจว่าเธอกำลังประชดตามประสาผู้หญิง แต่ชนิศารู้ว่าคนที่รู้จักเธอดีพอย่อมรู้ว่าเธอหมายความตามนั้นทุกประการ

การันต์จะรักใคร ชอบใคร ไม่ใช่ธุระของเธอ

และชายหนุ่มก็ส่งข้อความตอบมาอย่างรวดเร็ว พร้อมสติ๊กเกอร์รูปคนยกนิ้วโป้งอย่างชื่นชม

Karunt : น่ารัก จริงใจ สมเป็นเชรีจริง ๆ

Che'rie : แน่น้อนนนนน

Karunt : (เสียงสูง)

ชนิศาอมยิ้ม เธอไม่แน่ใจว่าการันต์เข้าใจจริงไหมว่าเธอไม่ได้ประชดอย่างผู้หญิงทั่วไป แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาจะเข้าใจอะไรก็ไม่ใช่ธุระที่เธอต้องใส่ใจ หญิงสาวสนใจแค่ความรู้สึก ความพอใจของตัวเธอเอง

เธอสนุกที่ได้คุยกับเขา เธอจึงคุยต่อ

Che'rie : หลงเสน่ห์หนูเมื่อไรก็บอกนะคะ

เธอส่งรูปแมวขี้อ้อนทำตาใสไปให้ชายหนุ่ม ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า มองดูเส้นทางที่รถวิ่งผ่านว่าใกล้ถึงจุดหมายจึงเตรียมเงินเพื่อจ่ายค่าเดินทาง

สำหรับแพทย์ประจำบ้านที่ชีวิตเต็มไปด้วยตารางงานแล้ว การได้กลับบ้านถือเป็นความสุขสำคัญที่ไม่มีใครยอมพลาดโอกาส

ชนิศาไขกุญแจเข้าบ้าน วางกระเป๋าไว้บนโซฟาบุนวมติดผนัง แล้วเดินเข้าไปกอดมารดาที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

"ทำอะไรอยู่คะ" เธอเอียงคอจูบแก้มมารดาเบา ๆ เหลือบมองภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ในมือมารดาแล้วหัวเราะออกมา

"จับโปเกมอน" ณัฐกานต์ตอบอย่างจริงจัง "สงสัยบ้านเราจะมีพระเยอะนะ ขนาดแม่จุดธูป โปเกมอนยังไม่กล้าเข้ามาเลย"

"โธ่...แม่ขา โปเกมอนนะคะ ไม่ใช่วิญญาณ" เธอหัวเราะเมื่อมารดาติดเกมส์ราวเด็กวัยรุ่น วันแรกที่เธอโหลดเกมส์มาให้ ณัฐกานต์ถึงขั้นสั่งให้สามีพกโทรศัพท์ออกไปวิ่งรอบสวนเพื่อฟักไข่โปเกมอนในเกมส์

"แล้วเป็นไง วันนี้สนุกไหม" มารดาเก็บโทรศัพท์ มองบุตรสาวที่นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

"ก็ดีค่ะ...สนุกดี"

"เหนื่อยไหม"

"เจอแม่ก็หายเหนื่อยละค่ะ" เธอคลี่ยิ้มหวาน มองหน้ามารดาอย่างออดอ้อน เรียกเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้า

"พูดดี...จะเอาอะไรฮึ"

ร่างบางขยับไปใกล้มารดา เงยหน้ายื่นคางไปเกาะที่ไหล่บาง ไถคางไปมาเหมือนลูกแมว "เกาคางหน่อย..."

ณัฐกานต์หัวเราะคิก ยกมือขึ้นไล้คางลูกสาวเบา ๆ ตามคำขอ

"อ้อนจริง ชาติที่แล้วเกิดเป็นแมวหรือไงไม่รู้"

"ชาตินี้ก็เป็นแมว...เป็นลูกแมวของแม่ไงคะ" เธอทิ้งตัวลงนอนบนตักมารดาเสียดื้อ ๆ "มีเวลาก็ต้องรีบอ้อนแม่ตักตวงไว้ก่อน เดี๋ยวหมดอาทิตย์นี้ก็ต้องกลับไปทำงานเป็นนางทาสอีกแล้ว"

"เรื่องมันยังไม่ถึง อย่าเพิ่งไปคิดสิ" ณัฐกานต์ลูบหัวบุตรสาวเบา ๆ "แม่บอกแล้ว อย่าไปเรียนอะไรหนัก ๆ ก็ไม่เชื่อ"

"แหม...ถ้าไม่เรียนศัลยกรรมก็เสียทีที่อังคารกุมลัคนาสิคะ" เธอคลี่ยิ้ม มองหน้ามารดาคล้ายจะล้อเลียน

เสียงโทรศัพท์สั่นเบา ๆ ทำให้ชนิศาเอื้อมมือไปหยิบมาเปิดดู เมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมาตอบต่อสติ๊กเกอร์รูปแมวของเธอ หญิงสาวก็หลุดหัวเราะเบา ๆ

Karunt : โอ๋ ๆ อ้อนเป็นแมวเชียว
Karunt : แต่แมวมันเจ้าเล่ห์นะ เชรี

เธออมยิ้มอยู่เพียงครู่ก็ส่งสติ๊กเกอร์รูปแมวถือป้ายที่เขียนว่า 'หนูจะเป็นเด็กดี' ไปแทนคำตอบ

"ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่...คุยกับใครฮึ"

"เพื่อนน่ะค่ะ..." เธอตอบเมื่อวางโทรศัพท์บนโต๊ะ แล้วยันตัวขึ้นจากตักมารดา

"มีคนบอกว่าหนูเป็นแมวเจ้าเล่ห์..." เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะ "จริง ๆ แล้วหนูเป็นลูกแมวขี้อ้อนต่างหาก ใช่ไหมคะ"

ณัฐกานต์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ยกมือโยกศรีษะบุตรสาวอย่างเอ็นดู "อย่าไปอ้อนใครจนเผลอใจล่ะ"

"โธ่...ใครจะกล้าคะ" เธอเหยียดยิ้มกึ่งหยัน "หนูไม่อยากทำร้ายหัวใจตัวเองอีกแล้วค่ะ"

มารดาพยักหน้ารับ ทั้งที่ยังไม่วางใจ จะมีใครรู้จักชนิศาดีไปกว่าเธออีก

"ระวัง...ปีนี้เสาร์เสียด้วยนะ" เธอหมายถึงทักษาจรที่คำนวนตามวันเกิดและอายุ ในแต่ละปีจะมีดวงดาวที่ให้คุณโทษต่างกัน และชะตาของชนิศาในปีนี้มีดาวเสาร์เป็นกาลกินี

"โอย...แค่พูดหนูก็กลัวแล้วค่ะ" เธอถอนใจหนัก ๆ "ขนาดเสาร์ยังไม่เสีย ดวงหนูก็เยินจนไม่รู้จะเยินยังไงแล้ว ปีนี้เสาร์เสียอีก...ไม่อยากจะคิดเลย"

ดาวเสาร์แทนความทุกข์โศกและความยากลำบาก มารดาเตือนตั้งแต่ยังไม่ถึงวันเกิดแล้วว่าเธอจะต้องเหนื่อยกว่าที่ผ่านมา สำหรับชีวิตคนเป็นแพทย์แล้ว ชนิศาคิดว่าเธอก็ทำงานหนักมากในแทบทุกเวรอยู่แล้ว หากจะให้หนักกว่านี้ เธอจะยอมร้องไห้ทุกวันเป็นทุกข์แก้เคล็ดดาวเสาร์เลย

-----

ลองมาดูกันนะคะ ว่าเชรีจะเล่นอะไรต่อ
ยิ่งเขียนไอซ์ยิ่งขำกับเชรี นางเป็นผู้หญิงร้ายกาจ นิสัยเสีย เอาแต่ใจตัวเอง และงี่เง่าในบางจังหวะ
ถ้าเทียบกับชาร์มมี่แล้ว เชรีเหมือนภาคสว่างเลยค่ะ ขอไอซ์เขียนเรื่องเชรีคลายความอึนของชาร์มมี่ไปก่อนนะคะ(คือประกาศพักชาร์มมี่ไว้ในไหดองนั่นเอง)

คุณปรางขวัญ : ขอบคุณค่า มาลุ้นกับเชรีด้วยกันนะคะ

คุณ saralun : ว่ากันว่าคนจะเป็นคู่กัน ประกอบด้วยกรรมเก่าชักพามาผูกพัน และกรรมใหม่ที่สร้างทางเดินต่อไปข้างหน้า ยินดีด้วยนะคะ ไอซ์ว่าคุณกับคนรักทำแต่กรรมใหม่ที่ดีร่วมกัน เส้นทางที่ก้าวไปด้วยกันจึงมีความผูกพัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อกัน

คุณ SaranyaW : มาลุ้นกับเชรีด้วยกันนะคะ นางอ้อยมากค่ะ

คุณ Zephyr : มาเป็นกำลังใจให้เชรีด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

ปล. ไม่เคยเขียนนางเอกขี้อ้อนขนาดนี้มาก่อนเลย โอย...ขำนาง คือนางอ้อยมากนะคะ



ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2559, 22:38:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2559, 22:38:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1045





<< Prologue   The wheel of fortune >>
SaranyaW 6 ก.ย. 2559, 08:53:13 น.
เรื่องน่ารักจัง จะตามลุ้นไปเรื่อยๆ ลงบ่อยๆนะคะ
อย่าทิ้งหนูชาร์มนะ ^^


sai 8 ก.ย. 2559, 11:10:29 น.
สารภาพว่าจำชื่อเรื่องไม่ได้ แค่เห็นชื่อผู้แต่งก็กดมาอ่านตลอด อาจจะไม่ค่อยได้เม้นแสดงตัวเพราะแอบขี้เกียจลอคอิน ชอบภาษาของคุณไอซ์อ่ะอ่านแล้วดูตัวละครมีอะไรลึกๆ เหมือนจิตใจมนุษย์ที่ซับซ้อนและสับสนในตัว555


Zephyr 24 ก.ย. 2559, 21:29:48 น.
นางแอบอึนๆนะเนี่ย
คุณแม่น่ารักจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account