สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 2 >>> 100%

ตอนที่ 2 (ต่อ)

“หางานทำอย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงคลายกับกำลังประเมินคนที่กำลังเอ่ยถึง ก่อนจะหันมายิ้มเหยียดๆ ให้คนข้างๆ แล้วบอกในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา และเชื่อว่าไม่มีทางเดาผิดแน่นอน “ไม่ผ่านด่านคุณรงรองหรอกมั้ง”

“หมายความว่ายังไงคะ” มินรญาถามเสียงเข้ม

“เมื่อไหร่ผู้ชายคนนั้นจะตั้งตัวได้ล่ะ ปี สองปี สามปี หรือไม่มีเลย”

มินรญานิ่ง เธอไม่มีคำตอบให้กับคนสูงวัยกว่า เพราะไม่เคยคิดถึงความเป็นจริงในข้อนี้เลย ทว่าจะเป็นไรไปหาก เธอกับคูเปอร์จะช่วยกันสร้าง

“เราจะช่วยกัน”

“ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ โดยเฉพาะเมื่อยามไม่มีเงิน ความสุขความสวยหรูที่เคยวาดหวังไหวก็พังทลายได้ในพริบตา” เสี่ยนิติเตือนให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงโลกของความเป็นจริงที่บางครั้งมันก็ต่างกันลิบกับโลกของความฝัน “และอีกอย่างคุณรงรองไม่มีทางปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวไปลำบากกับผู้ชายแบบนั้นหรอกนะ ตัวเลือกที่ฐานะมั่นคง ไม่ว่าจะการงานหรือการเงินก็มีอยู่โทนโท่ว่าไหม”

“ครอบครัวเรามีเงินพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ ไม่ต้องพึ่งคนอื่น” มินรญากระชากเสียงบอกอย่างไม่พอใจ และรู้สึกหงุดหงิดและขัดใจตลอดเวลาที่เสี่ยนิติยังมีทีท่าอารมณ์ดีเหมือนตัวเองเป็นต่อเธอกับคูเปอร์

“มีได้ก็หมดได้ คนฉลาดเขามักจะเอาเงินมาต่อด้วยเงิน และฉันรู้ว่าคุณรงรองเป็นคนฉลาด”

เธอรู้ก็คนเป็นแม่แสดงออกอย่างชัดเจนซะขนาดนั้นว่าต้องการเอาเงินไปต่อเงินของใคร แต่ความรักของเธอวัดค่าตีราคาออกมาเป็นจำนวนเงินไม่ได้ เพราะมันออกมาจากใจ เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ และเรื่องนี้เธอจะต้องคุยกับมารดา ยังไงซะคนที่เธอรักและต้องการใช้ชีวิตด้วยคือ...คูเปอร์คนเดียวเท่านั้น !!!



หลังจากที่ต้องยกเลิกนัดแบบกะทันหันคูเปอร์ก็มาช่วยมารดาขายของจนเลิกแผงขนผักที่เหลือกลับบ้าน ก่อนเช้ามืดพรุ่งนี้จะไปรับผักมาขายต่อ

เมื่อถึงบ้านชายหนุ่มก็ให้มารดาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ส่วนตัวเองก็นำผ้ากันเปื้อนทั้งของตนและมารดาที่ในถุงผ้ากันเปื้อนนั้นบรรจุไปด้วยเงินเหรียญไปวางบนโต๊ะตัวเตี้ยๆ ที่วางอยู่มุมห้อง รวมไปถึงกับข้าวถุงที่แวะซื้อด้วย แล้วเดินไปเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำต่อจากมารดา

“รีบอาบนะ เดี๋ยวแม่เตรียมสำรับข้าวรอ” นางจินตนาที่อยู่ในชุดเสื้อคอกระเช้ากางเกงขาสั้นบอกลูกชายขณะเดินสวนเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเดินเลยไปปะแป้งหน้ากระจกให้สบายตัวยิ่งขึ้น จึงมาจัดการเอาแกงถุงไปแกะรอบุตรชายที่กำลังอาบน้ำ กินข้าวเสร็จจะได้ทำงานต่อ...และงานนั้นก็คือการนับเงินรายได้จากการขายผัก ซึ่งถือว่าเป็นงานสุดท้ายของวัน

คูเปอร์อาบน้ำไม่นานก็แต่งตัวมานั่งกินข้าว และระหว่างกินไปคุยไปดูโทรทัศน์ไป คูเปอร์ก็ลอบมองมารดาที่ปากกินแต่ตาดูละครก่อนข่าวอยู่เป็นระยะๆ จะถามก็ไม่กล้าถาม จนกระทั่งกินข้าวเสร็จ

“ถ้าผมมีแฟนแม่จะว่าอะไรไหมครับ” คูเปอร์ถามมารดาขณะเก็บถ้วยชามเพื่อเอาไปล้าง ในขณะที่นางจินตนาผละไปเอาผ้ากันเปื้อนมาทิ้งตัวลงนั่งกลางห้องแล้วเทเงินเหรียญในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนออก พร้อมกับอมยิ้มขำกับคำถามของบุตรชาย

“ว่าทำไม ลูกรักใครแม่ก็รักตาม”

“แต่แม่เคยห้ามผมเรื่องลูกสาวคุณนายรงรอง”

นางจินตนาชะงักมือที่กำลังหยิบเหรียญมานับมองแผ่นหลังกว้างของบุตรชายที่กำลังขะมักเขม้นล้างจาน “อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นคือหนูมิ้น” นางถามเสียงเครียด

“ผมแค่ยกตัวอย่าง เห็นแม่บอกว่าผมรักใครแม่ก็รักด้วย แต่กลับห้ามเรื่องลูกสาวคุณนายรงรอง แล้วถ้าผมเกิดไปหลงรักคุณมิ้นจริงๆ แม่ก็ไม่เห็นด้วยใช่ไหมล่ะครับ”

“ที่แม่ห้ามเพราะไม่อยากให้เราเสียใจ ลูกก็เห็นว่าคุณนายหวังจะเกี่ยวดองกับเสี่ยนิติ ถ้าเรารวยก็ว่าไปอย่างอาจจะพอสู้ได้ แต่หาเช้ากินค่ำเหมือนตอนนี้บอกได้คำเดียวว่ายาก” พูดแล้วก็อดสะเทือนใจไม่ได้ ถ้าสามีของนางยังมีชีวิตอยู่บุตรชายคงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้แน่นอน

“แล้วถ้าคุณมิ้นไม่เล่นด้วยล่ะครับ”

“ก็ไม่รู้สิ ว่าแต่เราจะอยากจะรู้เรื่องนี้ไปทำไมกัน” นางถามพลางหรี่ตามองบุตรชายอย่างจับผิด และก็เห็นอาการหลบสายตาและเลี่ยงคุยไปเรื่องอื่น

เห็นแล้วนางจินตนาก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่ใช่ว่านางไม่สังเกตเห็นว่าเวลามินรญามาเก็บค่าเช่ากับนางรงรองนั้นบุตรชายของนางนั้นมักจะมองตามฝ่ายหญิงตาปรอยทุกครั้ง นั่นทำให้ที่ผ่านมานางเอ่ยปากเตือนบุตรชายเอาไว้ก่อน ก็ยังดีที่ดูเหมือนคูเปอร์จะเชื่อฟัง เพราะเท่าที่เฝ้าสังเกตก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องที่ตัวกังวลเกิดขึ้น



แม้จากที่ได้เกริ่นพูดเรื่องความรักของตัวเองกับครอบครัว และคำตอบที่ได้รับคือการไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของคูเปอร์กับมินรญาสั่นคลอน ทั้งคู่ยังหวังว่าในอนาคตอันไม่ไกลมากนี้จะทำให้คนในครอบครัวเปลี่ยนความคิด เพียงแต่อาจจะต้องทำอะไรสักอย่าง

แต่อะไรสักอย่างที่ว่าทั้งคู่ก็ยังคิดไม่ออกกอปรกับช่วงนี้ใกล้สอบต่างคนจึงต่างไม่ค่อยมีเวลาได้พบกัน อาศัยคุยผ่านโทรศัพท์หรือไม่ก็โซเชลมีเดียเสียเป็นส่วนใหญ่ และได้มาเจอกันแบบจริงจังอีกครั้งคือหลังวันที่คูเปอร์สอบเสร็จหนึ่งวัน ส่วนมินรญานั้นสอบเสร็จไปก่อนแล้วสองวัน

“ทายซิใครเอ่ย” มือบางที่ปิดตากับน้ำเสียงสดใสกระซิบถามข้างใบหูทำให้คนที่นั่งรอหัวเราะในลำคออย่างขบขัน ก่อนจะรับมุก

“ถ้าทายถูกจะให้อะไร”

คนถูกถามเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกับทำปากยื่นขณะคิด แล้วใบหน้าสวยก็ยุ่งเมื่อนึกไม่ออก “แล้วพี่คู้ปอยากได้อะไรล่ะคะ”

“เลิกเล่นแล้วเหรอ” คูเปอร์ถามเมื่อร่างบางเดินมานั่งข้างๆ เสียอย่างนั้น

“ก็ไม่รู้จะให้อะไรดีนี่คะ”

“งั้นเราไม่รู้จะให้อะไร พี่ให้เองละกัน”

มินรญาขยับตัวเล็กน้อย ขณะที่จ้องแฟนหนุ่มตาไม่กะพริบลุ้นระทึกในสิ่งที่เขาจะมอบให้ แล้วนิ้วเรียวยาวก็ถูกดึงออกมาจากกระเป๋าเสื้อพร้อมกับวัตถุสีเงิน

แหวน...

“ตอนนี้พี่ให้ได้เท่านี้ก่อน เมื่อไหร่ที่พี่มีหน้าที่การงานที่มั่นคงจะซื้อแหวนเพชรมาเปลี่ยนให้นะ”

มินรญาพยักหน้ารับยื่นมือไปให้แฟนหนุ่มสวมแหวนสีเงินที่ตัวแหวนเป็นรูปเถาไม้เลื้อยพันเกี่ยวกันไปมาอย่างเต็มใจ

“มิ้นชอบมากเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มเต็มวงหน้าพลางดึงมือไปกุมเอาที่หน้าอก “สัญญาว่าจะเก็บรักษาอย่างดี ไม่ให้ห่างตัวเลย” หญิงสาวให้คำมั่นพร้อมกับรอยยิ้มสดใส

“ดีใจที่มิ้นชอบ พี่สัญญาว่าจะรีบสร้างเนื้อสร้างตัวไปสู่ขอมิ้นกับคุณนายให้เร็วที่สุด มิ้นห้ามเปลี่ยนใจก็แล้วกัน”

“ไม่มีวัน ก็มิ้นรักของมิ้นอยู่คนเดียวจะให้เปลี่ยนใจไปหาใครล่ะคะ มิ้นสัญญาค่ะว่าจะรอพี่คู้ปคนเดียว” มินรญาให้คำมั่นไม่ใช่แค่ลมปากแต่เธอหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ



“ไปไหนของเขานะ เห็นยัยมิ้นไหม” นางรงรองถามเด็กรับใช้ที่กำลังทำงานอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเดินหาจนทั่วบ้านแล้วยังไม่เจอบุตรสาว

“คุณมิ้นออกไปข้างนอกค่ะ”

“ไปข้างนอก! ไปไหน”

“ไม่ทราบค่ะ คุณมิ้นไม่ได้บอกไว้” นางรงรองถอนหายใจแล้วโบกมือไล่ให้เด็กรับใช้ทำงานต่อ ก่อนตัวเองจะเดินบ่นตรงไปที่โทรศัพท์ ต่อสายหาบุตรสาวอยู่หลายครั้งและปรากฏว่าโทร.อย่างไรก็ไม่ติด นั่นยิ่งทำให้นางรงรองอารมณ์เสียหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“เมื่อวานก็บอกแล้วบอกอีกว่าวันนี้อย่าไปไหน” นางรงรองบ่นขณะกดหาเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนสนิทบุตรสาวจากโทรศัพท์มือถือ ที่นางบันทึกเอาไว้เพราะหลายครั้งหลายคราที่นางต้องโทร.ตามบุตรสาวผ่านดาวิกา

“สวัสดีจ้ะหนูดา นี่ป้าเองนะจ๊ะ ยัยมิ้นอยู่กับหนูหรือเปล่าป้าขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”

“ยัยมิ้นเหรอคะ...” ดาวิกาเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่เห็นนะคะ”

คำตอบที่ได้รับทำให้นางรงรองขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าถ้าบุตรสาวไม่ได้ไปหาดาวิกาเหมือนทุกครั้ง แล้วมินรญาไปไหน...และกับใคร

“แล้วหนูพอทราบไหมว่ายัยมิ้นไปไหน”

“เอ่อ...” แล้วดาวิกาที่อ้ำๆ อึ้งๆ ก็เงียบไปอีกครั้ง เหมือนกับกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง และในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจ “คุณป้าลองไปที่ห้าง...ดูนะคะ คิดว่ายัยมิ้นน่าจะนัดไปเจอใครบางคนที่นั่น” หญิงสาวเอ่ยชื่อห้างดังที่มินรญากับแฟนหนุ่มมักจะนัดไปเจอกันให้นางรงรองทราบ

“ยัยมิ้นนัดเจอใคร”

“ไม่รู้สิคะ มีสายซ้อนดาขออนุญาตวางสายนะคะ สวัสดีค่ะ”

ว่าแล้วดาวิกาก็วางสายไปพร้อมกับทิ้งปริศนาคาใจให้นางรงรองได้ขบคิด

“ใครกัน” นางรงรองถามตัวเอง ก่อนจะเรียกหาคนขับรถให้พาตนไปยังห้างดังที่ที่ดาวิกาได้ทิ้งลายแทงเอาไว้ ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก คล้ายกำลังจะมีเรื่อง

หรือมินรญาจะมีอะไรปิดบังนาง...




เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.ย. 2559, 16:11:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.ย. 2559, 16:11:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1055





<< ตอนที่ 2 >>> 50%   ตอนที่ 3 >>> 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account