สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 3 >>> 100%

ตอนที่ 3 (ต่อ)

“แล้วถ้าผมบอกว่าสักวันผมจะสร้างตัวได้ไม่น้อยหน้าใคร แม่จะเชื่อไหมครับ”

“คู้ปเป็นคนดีและขยัน แม่เชื่อว่าวันนั้นจะมาถึงแน่นอน” นางบอกอย่างเชื่อมั่นในตัวบุตรชาย ใช่จะเป็นเพียงแค่คำปลอบโยน

“เมื่อไหร่ล่ะครับ”

“เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างมันก็มีช่วงมีจังหวะของมัน อย่าทะเยอทะยานและรีบเร่งจนสามารถเหยียบหัวคนอื่นให้จมดินเพื่อให้ตัวเองไปถึงจุดหมาย นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ถามอย่างนี้มีอะไรหรือเปล่าลูก”

“เปล่าหรอกครับ แค่รู้สึกว่าคนรวยบางคนก็เห็นคนหาเช้ากินค่ำอย่างเราต้อยต่ำเสียเหลือเกิน” คูเปอร์ตัดพ้อ

“อย่าไปใส่ใจนักเลย คนเราไม่แน่ไม่นอนหรอก จนแล้วรวย รวยแล้วจน มีให้เห็นถมไป”

“ครับ ผมจะจำเอาไว้”



“นั่นแกจะไปไหน”

เสียงตะคอกถามทำให้มินรญาที่พยายามเดินอย่างเบาเท้าแต่ไวต้องสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะหันมามองมารดาพร้อมกับถอนหายใจ

“ไปข้างนอกค่ะ”

“แม่ไม่อนุญาต”

“แม่ขังมิ้นให้อยู่แต่ในบ้านเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ” หญิงสาวบอกมารดาอย่างหงุดหงิด

“จะออกก็ได้ แต่ต้องให้แม่หรือไม่ก็เสี่ยนิติไปด้วย”

มันเป็นเงื่อนไขที่บ้าที่สุด มารดาทำเหมือนเธอเป็นนักโทษ “แม่...” เธอครางอย่างขอความเห็นใจ

“ไม่มีข้อต่อรอง”

“งั้นมิ้นขอโทรศัพท์คืน” หญิงสาวแบมือขอ นางรงรองปรายตามองแล้วยิ้มเหยียดก่อนจะส่ายหน้า “นี่ก็ไม่ได้”

“ตกลงนี่มิ้นเป็นลูกแม่หรือนักโทษกันแน่คะ โน้นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้” หญิงสาวเริ่มออกอาการโวยวายเสียงดังอย่างลืมตัว เมื่อโดนกดดัน

“จนกว่าแกจะหมั้นกับเสี่ยนิติ”

“หมั้น!!!” มินรญาอุทานเสียงหลง ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เธอส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่ อีกหนึ่งอาทิตย์ เตรียมตัวไว้ให้ดีละ...”

“เดี๋ยวสิคะ” มินรญาวิ่งไปดักหน้ามารดา “แม่จะมัดมือชกอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”

“ฉันเป็นแม่แก” นางรงรองย้ำสถานะให้คนเป็นลูกได้สำนึก

“แต่หนูไม่ได้รักเสี่ยนิติ...แม่ก็รู้” หญิงสาวค้านคนเป็นแม่เสียงอ่อนติดจะอ้อนเล็กๆ หวังอาจจะได้รับความเห็นใจ แต่เปล่าเลย

“เพราะรู้ไง ฉันถึงต้องรีบจัดการดึงแกขึ้นมาจากขุมนรกนั่นก่อนไอ้ปลิงดูดเลือดมันจะสูบแกไปจนหมดตัว”

“แม่ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ...”

“กลับเข้าบ้านไป ถ้าฉันไม่อนุญาตแกห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด” นางรงรองสั่งเสียงเฉียบขาด ไม่เท่านั้นยังหันไปกำชับเด็กรับในบ้านให้คอยเป็นหูเป็นตาให้อีกแรง

มินรญาหมุนตัวเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาพลางเม้มปาก ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด

เธอไม่ยอม...ไม่ยอม...ไม่ยอมเด็ดขาด คูเปอร์จะต้องรู้เรื่องนี้ แล้วจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อตอนนี้ติดต่อชายหนุ่มไม่ได้เลย เธอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแบบเด็ดขาด

“คุณมิ้นจะไปไหนคะ” เสียงคนรับใช้ทัก เมื่อเห็นมินรญาลุกขึ้นพลางกระชับกระเป๋า

หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะตอบกลับเสียงเหนื่อยหน่าย “ขึ้นห้อง จะตามไปด้วยไหม”

อีกฝ่ายส่ายหน้าหวือ ก้มศีรษะให้เล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงออกไป มินรญามองตามแผ่นหลังนั้นไปก่อนจะหันกลับมาอีกด้าน เมื่อรู้สึกถึงการจับจ้อง...

“ไม่มีอะไรทำกันหรือไงคะ” เพียงเท่านั้นลุงคนขับรถก็รีบหลบ “จะบ้าตาย” มินรญาบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ขืนบุ่มบ่ามดันทุรังออกจากบ้านไปตอนนี้ยังไงก็ไม่รอดโดนจับได้แน่

แต่ยังไงวันนี้หรืออย่างช้าก็พรุ่งนี้เธอต้องหาทางติดต่อคูเปอร์ให้ได้



กลางดึกที่เงียบสงัดทุกคนในบ้านหลับใหลทว่ามีเพียงหนึ่งที่รอโอกาสนี้มาทั้งวัน มินรญาค่อยๆ ย่องลงบันไดพลางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณตลอดอย่างกลัวว่าใครจะตื่นมาเจอ หญิงสาวมองซ้ายมองขวาก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านด้วยใจที่เต้นโครมคราม เกิดมายังไม่เคยหนีออกจากบ้านยามวิกาลเช่นนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อมันคือวิธีเดียวที่จะทำให้เธอได้เจอคนรัก

มันน่ากลัวกว่าที่คิด มินรญากลื่นน้ำลายลงคอแล้วกลั้นใจวิ่งฝ่าความมืดตรงไปหาตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่หน้าปากซอย ใช้เวลาหลายสิบนาทีร่างบางก็มายืนเหนื่อยหอบเกาะตู้โทรศัพท์

ทั้งเหนื่อยทั้งกลัวแต่สุดท้ายเธอก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะมีรถวิ่งอยู่ทั้งคืนแต่ผู้หญิงตัวคนเดียวมายืนอยู่แบบนี้มันก็ยังอันตรายอยู่ดี คิดได้ดังนั้นมินรญาก็รีบเข้าตู้โทรศัพท์ยกหูแล้วล้วงเศษเหรียญที่เตรียมเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงมาหยอดต่อสายหาคนรัก

“พี่คู้ป” ทันทีที่อีกฝ่ายรับสายมินรญาก็เรียกชื่อคนรักอย่างดีใจ ซึ่งไม่ต่างกับคูเปอร์ที่ถึงกับลุกขึ้นจากที่นอน “มิ้น”

“ค่ะ มิ้นเอง”

“มิ้น เป็นยังไงบ้าง หลังจากวันนั้นพี่ติดต่อมิ้นไม่ได้เลย ไปหาที่บ้านก็โดนไล่...” ชายหนุ่มไม่ได้พูดต่อหรอกว่านอกจากไล่แล้วยังโดนขู่ ลำพังตัวเขาเองไม่กลัวหรอกแต่ที่เป็นห่วงคือคนเป็นแม่ต่างหาก เพราะทุกวันนี้เหมือนครอบครัวของเขายังต้องพึ่งคุณนายรงรองทั้งที่อยู่และที่ทำมาค้าขาย แม้ไม่ได้อยู่ฟรีๆ ก็เถอะ “แต่ช่างมันเถอะมิ้นไม่โดนคุณนายลงโทษอะไรรุนแรงใช่ไหม” เขาถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่หรอกค่ะแค่โดนกักตัวให้อยู่แต่ในบ้านและยึดมือถือกับคอม ไม่ให้ติดต่อกับพี่คู้ปนั่นแหละค่ะ” หญิงสาวบอกอย่างเซ็งๆ

“อ้าว แล้วตอนนี้โทร.มาได้ไง”

“มิ้นแอบหนีออกมา พี่คู้ปมาหามิ้นหน่อยสิคะที่หน้าปากซอยบ้านมิ้น”

“นี่อย่าบอกว่าตอนนี้มิ้นอยู่หน้าปากซอยนะ” คูเปอร์ถามเสียงดังตกใจหนักกว่าเดิม

“ค่ะ” แต่คนตอบกลับตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน

“ยัยเด็กบ้า!”

เสียงตะโกนด่ามาตามสายทำให้มินรญาถึงกับต้องยกหูโทรศัพท์ออกห่างพลางย่นคอ

“รู้ไหมมันอันตราย รอพี่อยู่ตรงนั้นน่ะอย่าไปไหน แต่ถ้าเจอคนไม่น่าไว้ใจรีบไปที่มีคนเยอะๆ นะเข้าใจไหม”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด

“น่าตีจริงๆ เลย”

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยิ้มได้กับคำบ่นที่แฝงไปด้วยความห่วงใย มินรญาเกี่ยวหูโทรศัพท์กลับที่เดิมแล้วเดินออกมายืนรอแฟนหนุ่มด้านนอกด้วยหัวใจอิ่มเอิบ แล้วอย่างนี้จะให้เธอไปหมั้นกับคนอื่นได้อย่างไร...หัวใจเธอได้ขาดรอน



ด้วยความเป็นห่วงใช้เวลาไม่กี่นาทีคูเปอร์ก็มาถึงหน้าปากซอยบ้านคนรัก ชายหนุ่มกระโดดลงจากวินมอเตอร์ไซค์ล้วงเงินจ่ายค่าโดยสารแล้วรีบสอดส่ายสายตาหาคนรัก แล้วเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาวยืนพิงตู้โทรศัพท์รออยู่

“พี่คู้ป” ร่างบางวิ่งถลาเข้าไปกอดร่างสูงของคนรักอย่างดีใจ “คิดถึงจังเลย”

“อย่าบอกนะว่าหนีออกจากบ้านมาเพราะคิดถึงพี่น่ะ” ถามพลางดันร่างบางออกเล็กน้อย

หญิงสาวพยักหน้าพลางอมยิ้ม “แต่มันดึกแล้วพี่ว่ามิ้นรีบกลับบ้านก่อนเถอะ ถ้าเกิดคุณนายจับได้มีหวังโดนกักบริเวณยาวแน่”

“มิ้นไม่กลับ”

“อย่างอแงสิครับ เดี๋ยวพี่จะหาวิธีทำให้คุณนายยอมรับให้ได้” พูดไปอย่างนั้น แม้ตอนนี้จะยังมองไม่เห็นทางเลย เพราะทางเดียวที่คุณนายรงรองจะยอมรับเขาคือต้องรวย แล้วความรวยมันได้มาง่ายๆ ที่ไหนล่ะ ทำงานทั้งชีวิตไม่รู้จะมีเงินได้ครึ่งหนึ่งของเสี่ยนิติ ผู้ชายที่คุณนายรงรองหมายตาจะเอาเป็นลูกเขยหรือเปล่าก็ไม่รู้

“กว่าพี่คู้ปจะหาวิธีได้มิ้นคงถูกใส่พานถวายให้เสี่ยนิติไปแล้วละคะ”

“มันยังพอมีเวลามั้ง”

“อาทิตย์หน้าแม่จะให้มิ้นหมั้นกับเสี่ยนิติ”

“มิ้นล้อพี่เล่นใช่ไหม” ชายหนุ่มถามกลั้วหัวเราะ แต่เป็นหัวเราะที่แสนจะฝืด แม้จะฝืนยิ้มรอคำตอบแต่ตอนนี้หัวใจเขาถูกบีบคั้นเสียเหลือเกิน

“ถ้ามันเป็นเรื่องล้อเล่นก็ดีสิคะ” พูดจบมิรญาก็โผล่เข้ากอดคนรักแน่น “ มิ้นรักพี่ อย่าไล่มิ้นกลับนะคะ มิ้นไม่อยากเป็นของคนอื่น” หญิงสาวบอกเสียงสะอื้น คูเปอร์ที่ตอนนี้ก็ยังมืดแปดด้านได้แต่กอดกระชับร่างบางเอาไว้อย่างแสนรัก เขาเองก็คงทนไม่ได้เหมือนกันที่จะให้คนรักตกไปเป็นของชายอื่น

“เราลองไปขอร้องคุณนายอีกครั้งดูดีไหม เผื่อท่านจะเห็นใจ”

มินรญาส่ายหน้า ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของแฟนหนุ่ม “แม่ไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ตราบใดที่พี่ยังด้อยกว่าเสี่ยนิติ เราหนีไปอยู่ด้วยกันดีไหม ยังไงเราก็เรียนจบกันแล้ว อยู่ด้วยกันช่วยกันทำงานเก็บเงิน สักสองสามปีเราค่อยกลับมา ถึงตอนนั้นคงไม่มีใครขัดขว้างพวกเราหรอกจริงไหมคะ” มินรญาวางแผนเป็นตุเป็นตะ เงยหน้ามองคนรักด้วยดวงตาเป็นประกายที่เต็มไปด้วยความหวัง

แต่คูเปอร์กลับคิดหนัก เขาไม่อยากให้มินรญาลำบาก แต่ก็ไม่อยากเสียเธอไป ทว่าตอนนี้กลับคิดอะไรไม่ออกเลย

“เอาไว้ค่อยคิดดีกว่า วันนี้ดึกแล้วเราจะนอนที่ไหนกันดี บ้านพี่คงไม่ได้ แม่ยังไม่นอนเห็นคงได้ไล่ให้พี่ไปส่งมิ้นกลับบ้าน”

“ที่ไหนก็ได้ขอแค่มีพี่ มิ้นไปหมดแหละคะ”

คูเปอร์ยิ้มพลางยกมือขึ้นโยกศีรษะได้รูปของแฟนสาวที่ช่างเจรจาเอาใจ สุดท้ายชายหนุ่มก็ตัดสินใจเรียกแท๊กซี่ไปโรงแรมคุ้นเคยที่เขาและมินรญามักใช่เป็นที่พลอดรักกัน





เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ย. 2559, 15:12:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ย. 2559, 15:12:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1015





<< ตอนที่ 3 >>> 50%   ตอนที่ 4 >>> 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account