ลิขิตนครา มนตราบาบิโลน

ในหน้าประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์เเละโกลาหลแห่งอารยธรรมเมโสโปเตเมีย หรือตะวันออกใกล้โบราณ ณ อาณาจักรบาบิโลเนียผุดนามชนชาติหนึ่งที่ปกครองอาณาจักร พวกเขาเรียกตัวเองว่า ชาวคัชดู ขณะชาวกรีกเรียกพวกเขาว่า ชาวคาลเดียน


อาณาจักรของพวกเขายืนยงเพียง 75 ปี แต่กลับสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ ให้โลกมากมาย


พวกเขาคือผู้สร้างสวนลอยบาบิโลน พวกเขาคือผู้บุกเบิกดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ เเละคณิตศาสตร์ ผลงานของพวกเขาคือต้นเค้าความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมกรีกเเละโรมัน


ทว่าจะเป็นเช่นไร เมื่อนักบวชแห่งมหาเทพมาร์ดุคล่วงรู้ถึงชะตากรรมการล่มสลายเเห่งอาณาจักร


ทางเเก้วิธีเดียวคือ การอ้อนวอนร้องขอต่อทวยเทพประจำนครา



เเละทวยเทพก็มิได้พระทัยร้ายเกินรับฟัง ด้วยเหตุนี้บุรุษและสตรีคู่หนึ่งจึงถูกสรรค์เสกเพื่อสนองต่อคำขอนั้น



หนึ่งบุรุษ...เพชกัลดาราเมช เจ้าชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรบาบิโลเนีย



หนึ่งสตรี...นลินนา เทวาสถิต นักศึกษามานุษยวิทยาสาวผู้ถูกส่งข้ามห้วงกาลเวลา



และนี่คือประวัติศาสตร์บทใหม่ที่ถูกถักทอ เรื่องราวของอาณาจักรโบราณอันได้ชื่อว่า เป็นมหานคราที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณ เเละเกือบได้เป็นเมืองหลวงแห่งจักรวรรดิกรีกของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช


ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกเขียนขึ้นแล้ว!
Tags: โรเเมนติก ดราม่า ย้อนเวลา ประวัติศาสตร์

ตอน: แจ้งความคืบหน้า

เนื่องจากช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว ทำให้เซธ-เวเรทยุ่งมาก ทั้งภาระการเรียนเอง อีกทั้งมหาวิทยาลัยเปลี่ยนสถานที่ทำการเรียนการสอน ทำให้เซธ-เวเรทต้องตื่นเช้า และกลับถึงบ้านดึกขึ้นค่ะคือ ตื่นตี 5 และกว่าจะกลับถึงบ้านก็ 3 ทุ่มแล้ว แถมช่วงนี้ฝนตกบ่อย เลยป่วยออด ๆ แอด ๆ อีก จึงมาแจ้งว่า การอัพนิยายอาจจะล่าช้าลงบ้างนะคะ แต่รับรองว่า ไม่เลิกเขียนแน่นอนค่ะ ยังคงยืนยันจะเขียนต่อไป นักอ่านอย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ



ส่วนที่หายไปก็มีไปหาข้อมูลกับพอร่างพล็อตเพิ่มมาบ้าง ถ้าว่างกลับมาเขียนอีกครั้งอาจจะรีไรท์แก้เนื้อหาบางส่วนเล็กน้อยค่ะ ขอย้ำว่า เล็กน้อยจริง ๆ ส่วนใหญ่ปัญหาของเซธ-เวเรทคือ การจัดสมดุลระหว่างประวัติศาสตร์กับเรื่องแต่งค่ะ เนื่องจากช่วงเวลาการปกครองของชาวคัชดูสั้นจริง ๆ จึงเล่นอะไรยากพอสมควร แม้จะบอกว่า ไม่ได้อิงประวัติศาสตร์ แต่ตัวละครบางตัวในเรื่องมีตัวตนจริงค่ะ อีกทั้งข้อมูลที่เจอเพิ่มเติมภายหลังก็ชวนตกใจไม่น้อย ยิ่งอ่านจึงพบว่า สาเหตุการล่มสลายของบาบิโลนมีหลายปัจจัยจริง ๆ ทั้งคนในเอง ไหนจะคนนอกอีก รู้สึกต้องแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กับนลินนาเลยค่ะ นี่ขนาดคิดพล็อตยังรู้สึกจนปัญญาเลย



สุดท้ายนี้ก็ขอฝากนวนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจนะคะ ตอนนี้ไรท์เตอร์ปลอบใจตัวเองอยู่ว่า กำลังเรียนสาขาเดียวกับนลินนา เพื่อเขียนนิยายให้ดีขึ้น เอาจริงๆ ทีแรกว่า จะใส่ทฤษฎีมานุษยวิทยาลงไปค่ะ แต่พอเขียนด้วยภาษาธรรมดาทำให้กลืนไปเลย แถมลำพังประวัติศาสตร์ก็เยอะอยู่แล้ว ใส่ไปก็คงกลายเป็นสารคดีมากกว่านวนิยาย แต่ก็หวังว่า จะได้เขียนนะคะ เพราะนักมานุษยวิทยาหลายท่านเป็นชาวยิวหรือฮิบรูด้วย ซึ่งตอนนั้นอยู่ในบาบิโลนพอดี ถึงอย่างไรไรท์เตอร์จะพยายามกลับมาเขียนให้เร็วที่สุดนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านนวนิยายเรื่องนี้ค่ะ



เซธเวเรท
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ย. 2559, 14:16:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ย. 2559, 14:16:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 894





<< มัตติกาจารึกแผ่นที่ 13   มัตติกาจารึกแผ่นที่ 14 >>
แว่นใส 12 ก.ย. 2559, 17:28:27 น.
รักษาสุขภาพด้วยนะ รออ่านอยู่นะ


Zephyr 22 ต.ค. 2559, 18:40:01 น.
รออ่านค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account