คำสาปขังรัก
คุณจะทำอย่างไร...ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องคำสาป ไม่สามารถจะมีรักที่ดีได้
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
Tags: คำสาป ความรัก พยากรณ์
ตอน: บทที่ 4 The HangMan
The Hanged Man
บางคำถาม บางความรู้สึก เป็นเรื่องยากที่จะบรรยายหรือหาคำตอบ
เราทำได้แค่เรียนรู้...และรอว่าสักวันอาจจะเข้าใจ
ชนิศาวางหนังสือเรียนภาษาฝรั่งเศสลงบนโต๊ะ มองหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นข้อความเตือนอย่างสนใจ
Pun-pun : เชรี
Pun-pun : ถามหน่อยสิ ตอนเชรีจีบกอรอน่ะ
Pun-pun : โอย...ถามไม่ถูกละ
Pun-pun : คือ...เขาคุยด้วยดีไหม
ชนิศาอมยิ้ม นึกภาพใบหน้าหวานสวยของเพื่อนสาวได้เลยว่าปัณณาคงอยู่ในอาหารเคลิ้มฝัน ดูเหมือนที่เธอคาดการณ์ไว้จะไม่ผิดพลาด การันต์เป็นผู้ชายใจดีที่ไม่รู้จักความชัดเจนจนชวนให้เข้าใจผิด
Che'rie : ก็ปกตินะ ทำไมเหรอ
Pun-pun : คือ...เชรีว่ากอรอเป็นพวกให้ความหวังป่ะ
หญิงสาวมองอย่างนึกขัน ก่อนพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : ไม่รู้ว่าเรียกแบบนั้นไหมนะ
Pun-pun : ไม่ดีเลย
Che'rie : ก็นิสัยผู้ชายปกตินะ
Che'rie : พี่กานต์นี่อยู่ในกลุ่มค่อนดีแล้ว
Che'rie : เหมือนเขารู้ว่าเราเล่น ๆ มั้ง เลยเล่นตอบ
เธอเชื่อว่าการันต์รู้ความรู้สึกของเธอเช่นกัน คนสองคนเพียงสนุกที่จะพูดคุยกัน เพียงแปลกที่หัวข้อการสนทนาเป็นเรื่องของความรู้สึกที่อยู่ในขอบเขตความลึกซึ้งในสายตาผู้อื่นเท่านั้น
Pun-pun : แล้วเขารู้ไหมว่าเชรีชอบจริง ๆ
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ เธอจำได้ว่าไม่เคยบอกปัณณาว่าเธอรู้สึกรักชอบชายหนุ่มอย่างจริงจัง ดูเหมือนความรู้สึกเหมือนกันที่ปัณณาใช้ตอบเธอ จะได้คำอธิบายที่ไม่เหมือนความรู้สึกของเธอเสียแล้ว
Che'rie : ชอบจริง ๆ นี่คือ...อยากได้เป็นคนรักเหรอ
Pun-pun : ก็เชรีบอกว่าอยากเป็นมากกว่าแฟนคลับ
Pun-pun : กอรอนี่แอบน่ากลัวนะ
Che'rie : ผู้ชายก็น่ากลัวทุกคนล่ะ
Pun-pun : ก็จริง...คือกอรอคุยด้วยดีน่ะ
Pun-pun : เรากลัวเป็นแบบ หลอกให้อยากแล้วจากไป
ชนิศาพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากที่ชายหนุ่มคุยกับเธอ หญิงสาวก็เดาได้ไม่ยากว่าเขาจะคุยกับปัณณาอย่างไร
ผู้ชายใจดีที่ยอมคุยเรื่องไร้สาระกับผู้หญิง ถือเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายในสายตาเธอ
Che'rie : ถามตรง ๆ ไปเลยสิ
แม้การันต์จะอ่อนโยนกับผู้หญิงอย่างไม่เลือกคน แต่ข้อดีของชายหนุ่มคือการตอบคำถามเธอตามตรง
ถ้าเขาตอบเธอได้ว่าไม่ได้ชอบปัณณา หากปัณณาถาม เขาก็ควรตอบเช่นกัน
เธอไม่อยากเห็นผู้หญิงที่จมลึกในห้วงรักจนต้องเจ็บเพราะความรัก
Pun-pun : ไม่เอา...เค้าอาย
Pun-pun : เชรีเคยถามเหรอ
Che'rie : อยากรู้ก็ถามสิ
ชนิศาเหยียดริมฝีปาก กึ่งยิ้มกึ่งหยัน
Che'rie : เราเป็นพวกสายตรงมั้ง
Che'rie : ถ้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ไหนต้องการความชัดเจน ก็ชัดเจนกับมันไปเลย
ปลายทางเงียบไปครู่ใหญ่ ชนิศาจึงวางโทรศัพท์ เดินไปกดเปิดเครื่องเล่นดีวีดี เปิดดูซีรี่ย์เรื่องโปรดที่เธอเพิ่งติดตาม เมื่อกลับมาก็มีข้อความอยู่บนหน้าจอ
Pun-pun : ที่เขาบอกว่ามีคนที่แอบชอบอยู่แล้วนี่นานยัง
Che'rie : ก็ตั้งแต่วันที่เราแย่งโทรศัพท์ปันปันมาพิมพ์
Pun-pun : อยากรู้อ่ะ ใคร
ชนิศาถอนใจเบา ๆ
Che'rie : อยากรู้ก็ถาม มันปลอดภัยกับหัวใจมากกว่า
Pun-pun : กลัวคำตอบน่ะ
Che'rie : จริง ๆ ทุกอย่างไม่ยาก ถ้าไม่คาดหวัง
Che'rie : ถ้าเขาบอกรัก ก็วินวิน ปิดจ๊อบได้
Che'rie : แต่ถ้าไม่ เราจะได้รู้และทำใจทัน
ชนิศานิ่งมองหน้าจอที่นิ่งไปนานพลางถอนใจเบา ๆ การันต์บอกเธอชัดเจนว่าไม่ได้ชอบเพื่อนสาวในรูปแบบของความรักอย่างชายหญิง แต่หากชายหนุ่มยังคงใจดีเช่นนี้ต่อไป เธอเห็นลางว่าจะมีคนเจ็บหนัก
ปกติแล้วชนิศาไม่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนที่เธอให้ความสำคัญ ความไว้วางใจและการขอคำปรึกษาอย่างเปิดเผยทำให้เธอต้องพยายามหยิบยื่นทางออกและความห่วงใยในระดับเดียวกันกลับคืน หญิงสาวตัดสินใจกดโทรศัพท์ ไล่หาเบอร์ส่วนตัวของการันต์จากตารางรายชื่อเพื่อนร่วมรุ่น
"ครับ..."
"พี่กานต์คะ เชรีนะคะ" เธอบอกเสียงเรียบ
"อ้าว...ทำไมโทร.เบอร์นี้" ปกติแพทย์ในโรงพยาบาลมีหมายเลขโทรศัพท์ประจำตัวแยกต่างหาก เพื่อใช้ในการทำงานโดยเฉพาะ
"เรื่องส่วนตัวก็ต้องใช้เบอร์ส่วนตัวสิคะ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะ ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากปลายสาย "พี่กานต์ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ"
"ไม่ค่ะ...เชรีมีอะไรหรือเปล่า"
"จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องของเชรีหรอกค่ะ แต่ว่า..." เธอเงียบไปครู่ก่อนตัดสินใจเอ่ย "พี่กานต์รู้ไหมคะว่าเวลาผู้ชายไม่ชัดเจน และทำตัวทั่วถึงน่ะ...มันจะกลายเป็นเจ้าชู้ ขยันหว่านเสน่ห์"
"สงสารผู้หญิงที่ขยันคิดไปไกลเถอะค่ะ ถ้าคิดแค่เพื่อนก็บอกเขาตรง ๆ โลกนี้มีคนเจ็บเพราะรักมากพอแล้ว"
ปลายสายเงียบไปครู่ เธอเชื่อว่าเขายังตั้งตัวไม่ติดว่าเธอจะโทร.มาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้
"เชรีหมายถึงใครเหรอ"
"พี่กานต์น่าจะทราบนะคะ หนูรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนที่อ่านผู้หญิงไม่ออก" ไม่ใช่แค่การันต์ แต่เพื่อนทั้งรุ่นรู้ดีว่าปัณณาและเธอมีท่าทีอย่างไรต่อชายหนุ่ม
สำหรับชนิศา เธออ้อนอย่างออกหน้าออกตาจนทุกคนรู้ว่าไม่จริงจัง
แต่กับปัณณา หญิงสาวเพียงเงียบงัน มองอย่างมีความหวัง
"ไม่คิดหรือว่าพี่เคยบอกไปแล้ว" เขาเอ่ยอย่างใจเย็น "พี่บอกเชรียังไง กับคนอื่นพี่ก็บอกแบบนั้น"
ชนิศากลอกตา การันต์ต้องไม่รู้ตัวแน่ ๆ ว่าแม้เขาเอ่ยคำปฏิเสธและตัดรอน แต่กลับมีท่าทีให้ความหวังที่ชวนให้ผู้หญิงหลายคนคิดไปไกลได้ไม่ยาก
"พี่กานต์คะ...เอาจริง ๆ บางทีพี่กานต์ก็ใจดีและหยอกกลับ ผู้หญิงหลายคนไม่ได้กร้านโลกแบบหนูหรอกนะคะ"
"ใช้คำว่ากร้านโลกเลยเหรอ" ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้
"รู้ไหมคะ...บางเรื่องอย่างความรัก หรือความสัมพันธ์ ผู้หญิงที่คิดไปไกลจะฉลาดน้อยเป็นพิเศษ"
"แปลว่าหนูคิดสั้นเหรอ" ชายหนุ่มทอดเสียงยาว ชนิศานึกภาพรอยยิ้มบนหน้าเขาได้เลยทีเดียว
"ใช่ค่ะ เชรีชอบคิดแค่วินาทีตรงหน้า" เธอตอบชัดเจน
"ดี...มีสติกับปัจจุบันนะคะ"
"เราจะได้เห็นความจริงแบบไม่เพ้อฝันไงคะ"
การันต์หัวเราะอย่างพอใจ "ขอบคุณที่เตือนนะ...บางทีพี่ก็เผลอทำนิสัยไม่ดี"
ชนิศาถอนใจเบา ๆ ก่อนบอก "ขอบคุณที่ยอมรับฟังนะคะ...บางทีเชรีก็เผลอเผือกไม่เข้าเรื่อง"
"เผือกที่ไหนกัน...พี่ยินดีรับฟังเชรีอยู่แล้วค่ะ"
หญิงสาวอมยิ้ม บอกเสียงหวาน "ดีค่ะ...พี่กานต์เป็นปลาไหลที่น่ารักกว่าที่หนูเคยเจอเยอะเลย"
"ถ้าจะตบพี่แรงขนาดนี้ ไม่ต้องลูบหลังด้วยคำว่าน่ารักก็ได้นะคะ" ชายหนุ่มทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ เรียกเสียงหัวเราะสดใสจากคนฟัง
"ตบที่ไหนกันคะ...พวกเฮีย ๆ ปลาไหลที่หนูตบน่ะ ตบจริง ๆ เลยไม่ใช่แค่คำพูด" เธอทำเสียงดุ "พวกชอบล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นน่ะ หนูไม่เลี้ยงไว้หรอก"
ชนิศาลืมไปว่าการที่เธออ้อนและเข้ามาใกล้ชิดการันต์ ก็อาจอยู่ในขอบเขตของการล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นเช่นกัน
ชายหนุ่มเงียบไปครู่ ก่อนถอนใจเบา ๆ "พี่ก็เลยไม่เคยเล่นกับความรู้สึกหนูเลยไง...แต่ไม่ว่ากับใครก็ไม่ควรเล่นทั้งนั้น"
หญิงสาวชะงักไป เมื่อคิดได้จริงยอมรับหน้าตาเฉย
"แต่เชรีชอบเล่นกับความรู้สึกพี่กานต์นะคะ" เธอชอบเวลาเขามองคล้ายจะค้อนใส่เมื่อเธอเอ่ยคำหยอกล้อ ชอบเวลาที่เขายอมเปิดเผยความรู้สึกและพูดคุยกับเธอ
"เป็นปลาไหลไฟฟ้าเหรอคะ" เขาล้อเธอกลับบ้าง นี่ไง...ที่ชนิศาชอบ ผู้ชายที่ไม่ทำให้บทสนทนาน่าเบื่อหรือตื้นเขิน "พี่มีศิราณีไม่ผิดตัวจริง ๆ สินะ"
ชนิศาอ้าปากค้าง เธอรู้สึกเหมือนได้ยินคำปฏิเสธ เหมือนได้ยินเขาย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ชอบเธอ
ช่างเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจ
"กรรม...ทั้งปีทั้งชาติเชรีคงเป็นได้แค่น้องสาวพระเอก เศร้าจัง"
ชายหนุ่มหัวเราะ "ปลาไหลธรรมดาไม่คู่ควรกับปลาไหลมอเร่ย์หรอก"
ชนิศาเม้มปากอย่างขัดใจ ผู้ชายคนนี้ช่างขยันย้ำคำปฏิเสธกับเธอเหลือเกิน ทำไมไม่ไปชัดเจนกับคนอื่นบ้างก็ไม่รู้
"เชรีทราบแล้วค่ะว่าพี่กานต์ไม่รัก ไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้"
"อย่างนั้นฝากหนูย้ำกับอีกคน"
"แค่นี้เชรีก็ repair sternum ตัวเองไม่ไหวแล้วค่ะ" เธอหมายถึงการซ่อมกระดูกหน้าอก ล้อเลียนการอกหักตามประสาว่าที่ศัลยแพทย์ด้านทรวงอก "ถ้าไม่เพราะพี่กานต์บอกหนูชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา หนูคงไม่ยุ่ง"
"อย่างนั้นถ้าเห็นพี่นอกลู่นอกทาง ก็ช่วยเตือนช่วยตบบ้างก็ดีแล้ว"
เสียงหวานหัวเราะอย่างพึงพอใจ เอ่ยคำอย่างมาดร้าย "ยอมให้ตบใช่ป่ะคะ...ด้วยความเต็มใจค่ะ"
ช่วงเวลาสำหรับทำวิจัยกำลังจะจบลง ชนิศากดส่งเอกสารเพื่อขอพิจารณาด้านจริยธรรมการวิจัยให้อาจารย์ที่ปรึกษา เก็บแท็บเล็ทใส่กระเป๋า เงยหน้ามองรอบห้อง เพิ่งสังเกตว่าการันต์ไม่มาเข้าเรียนวันนี้
หญิงสาวเอียงตัวไปด้านข้างที่ภาณุนั่งอยู่ เขาเป็นเพื่อนรักของการันต์
"พี่กานต์โดดอีกแล้วเหรอ"
ชายหนุ่มเงยหน้ามอง หัวเราะเบา ๆ "สนใจด้วยเหรอ"
"อ้าว...ไม่ได้เหรอ"
"ไม่บอกหรอก" เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เชรีทำเป็นเล่นกับเพื่อนเรา"
"ใครเล่น" เธอทำตาโตมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
"เชรีจีบการันต์เล่น ๆ นี่"
คราวนี้หญิงสาวหัวเราะคิกอย่างไม่เกรงใจใคร "เหรอ...แล้วถ้าเราเปลี่ยนมาจริงจังตอนนี้ทันไหม"
เธอคลี่ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่ เดินออกมาจากห้องโดยไม่เรียนวิชาสุดท้ายที่ยังคงอยู่กับการนำเสนองานวิจัย
ชนิศามาหาข้อมูลที่ห้องสมุด เธอเลือกเอกสารมาวางบนโต๊ะจำนวนมาก และจมอยู่นานเป็นชั่วโมง เมื่อเดินออกมาจากอาคารอีกครั้ง ฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มแล้ว
"เชรี..." เสียงเรียกทำให้เธอหันไปมอง การันต์โบกมือให้อย่างคุ้นเคย
"พี่กานต์...วันนี้โดดไปไหนมาคะนี่"
"ไปธุระกับแม่ค่ะ" เขาเดินมาข้าง ๆ เธอ ก่อนเอ่ยคำถาม "แล้วนี่เชรีจะไปไหน"
"กลับบ้านค่ะ"
"กลับยังไง"
"รถเมล์ค่ะ" เธอบอกแล้วเอียงคอมองชายหนุ่ม "พี่กานต์จะเดินไปส่งเชรีไหมคะ"
การันต์นิ่งไปครู่ ก่อนหัวเราะอย่างอ่อนใจ "ก็ได้ค่ะ...เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง"
"ใจดีจัง"
"แน่นอนอยู่แล้ว..." ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ กับอาการยักคิ้วอย่างอวดตัวของชายหนุ่ม เพราะเขาเป็นแบบนี้สิ ผู้หญิงหลายคนจึงอดให้ความสนใจไม่ได้
เธอเดินเงียบ ๆ ได้ไม่นาน แสงจันทร์ก็ดลให้เอ่ยคำ
"พี่กานต์คะ..."
"คะ..."
"พี่กานต์รู้ใช่ไหมคะว่าเชรีเล่น...เคยคิดว่าหนูจริงจังบ้างไหม"
เขานิ่งไปครู่ ก่อนตอบ "พี่ไม่รู้...แต่พี่คิดว่าหนูเล่นช่วงแรก ๆ"
"แล้วช่วงหลังล่ะคะ"
"พี่ไม่รู้...แล้วก็ไม่คิดละ" เขาหัวเราะในคอเบา ๆ ให้ความรู้สึกที่ยากจะเดา
ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงพยาบาล เดินไปนานก็มาถึง แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไป เธอก็หยุดเขาไว้ก่อน
"พี่กานต์คะ..." เขาหยุดยืนมองเธออย่างแปลกใจ หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ชนิศา
"ถึงตอนแรกเชรีจะจีบพี่กานต์เล่น ๆ แต่หลัง ๆ...เชรีจริงจังนะคะ"
เธอคลี่ยิ้มหวาน ขณะที่ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่ใหญ่
"เชรีบอกเองนี่ว่าไม่ควรเล่นกับความรู้สึกคนอื่น"
"นั่นสิคะ..." เธอถอนใจเบา ๆ หากให้พูดความจริงเกรงว่าการันต์จะตกใจ
น้อยคนที่จะรู้ว่าชนิศาเป็นเด็กช่างอ้อนที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เมื่อเธอพอใจในตัวใครแล้ว หญิงสาวไม่เคยเลือกวิธีการที่จะดึงเขาเข้ามาในวงโคจรของเธอ ไม่ว่าจะแลกด้วยความสัมพันธ์แบบไหนก็ตาม
น่าสงสารการันต์...เธอพอใจเขามากจริง ๆ
"ขอโทษนะคะ" เธอทอดเสียงอ่อนเบา
"เรื่องอะไร"
"ที่หนูทำเป็นเล่นตอนแรก"
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ "ไม่เป็นไร...ต้องขอบคุณมากกว่าที่เชรีมาเล่นด้วย พี่จะได้ไม่เหงา"
"พี่กานต์น่ารักจัง..." เธอบอกดื้อ ๆ
"เชรีเป็นเด็กดีนี่คะ...ถ้าพี่มีเพื่อนดี ๆ ก็อยากแนะนำให้นะ" เขาเอ่ยคำตัดรอนความรู้สึกเธอได้หน้าตาเฉยอีกครั้ง
ชนิศาเบะปาก ขึงตามองค้อนชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
"แบบนี้เชรีจะโกรธแล้วนะค่ะ" เธอเอ่ยอย่างจริงจัง ขณะที่ชายหนุ่มยังงุนงง
"เชรีไม่ได้เหงาหรืออยากมีใคร แต่เพราะเป็นพี่กานต์...เชรีอยากเดินข้าง ๆ พี่กานต์ค่ะ"
เธอจ้องหน้า มองลึกไปในดวงตาของเขาราวตั้งใจจะสะกดจิต คลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นว่ารถเมล์สายที่รอกำลังจะแล่นเข้าป้าย
"เพราะเป็นพี่กานต์...ไม่ใช่แค่ใครก็ได้..."
เธอย้ำกับเขาอีกครั้งก่อนหมุนตัวเดินไปขึ้นรถเมล์อย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมองนิ่งอยู่ที่เดิม
การันต์มองตามจนรถเมล์แล่นลับไปจากสายตา ชายหนุ่มจึงหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกขัน แววอบอุ่นบาง ๆ ลอยอยู่ในดวงตา เมื่อเขาเดินกลับมาที่โรงพยาบาล
------
ดีใจจัง คิดถึงทุกท่านมากมายค่ะ
คุณคิมหันตุ์ : พี่กานต์น่ารักขึ้นบ้างไหมคะ
คุณ SaranyaW : ไม่ใช่เตชิตนะคะ ที่ขังเชรีไว้ เป็นตัวละครลับค่ะ
คุณ ปรางขวัญ : เชรีเป็นกระต่ายขี้ตื่นที่พยายามกล้าหาญนะคะ
คุณ sai : ถ้าเหงา มาคุยกับเชรี หรือจะคุยกับไอซ์ก็ได้ค่ะ
คุณ goszy : งานนี้ คงต้องถามพี่กานต์แล้วล่ะค่ะ ว่าอยากเป็นพระเอกหรือตัวร้าย
โปรยตอนต่อไป
The World
Karunt : ต้องไปกับเขาใหม่ จะได้ลืมเขาเก่า
Karunt : หรือบางที...ก็มีเขาใหม่งอกมาแทน
เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะกึ่งหยันในคอจากชายหนุ่มที่พิมพ์ข้อความตอบมา
Che'rie : ไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ
Che'rie : เชรีเป็นลูกนกในกรงของคำสัญญา
บางคำถาม บางความรู้สึก เป็นเรื่องยากที่จะบรรยายหรือหาคำตอบ
เราทำได้แค่เรียนรู้...และรอว่าสักวันอาจจะเข้าใจ
ชนิศาวางหนังสือเรียนภาษาฝรั่งเศสลงบนโต๊ะ มองหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นข้อความเตือนอย่างสนใจ
Pun-pun : เชรี
Pun-pun : ถามหน่อยสิ ตอนเชรีจีบกอรอน่ะ
Pun-pun : โอย...ถามไม่ถูกละ
Pun-pun : คือ...เขาคุยด้วยดีไหม
ชนิศาอมยิ้ม นึกภาพใบหน้าหวานสวยของเพื่อนสาวได้เลยว่าปัณณาคงอยู่ในอาหารเคลิ้มฝัน ดูเหมือนที่เธอคาดการณ์ไว้จะไม่ผิดพลาด การันต์เป็นผู้ชายใจดีที่ไม่รู้จักความชัดเจนจนชวนให้เข้าใจผิด
Che'rie : ก็ปกตินะ ทำไมเหรอ
Pun-pun : คือ...เชรีว่ากอรอเป็นพวกให้ความหวังป่ะ
หญิงสาวมองอย่างนึกขัน ก่อนพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : ไม่รู้ว่าเรียกแบบนั้นไหมนะ
Pun-pun : ไม่ดีเลย
Che'rie : ก็นิสัยผู้ชายปกตินะ
Che'rie : พี่กานต์นี่อยู่ในกลุ่มค่อนดีแล้ว
Che'rie : เหมือนเขารู้ว่าเราเล่น ๆ มั้ง เลยเล่นตอบ
เธอเชื่อว่าการันต์รู้ความรู้สึกของเธอเช่นกัน คนสองคนเพียงสนุกที่จะพูดคุยกัน เพียงแปลกที่หัวข้อการสนทนาเป็นเรื่องของความรู้สึกที่อยู่ในขอบเขตความลึกซึ้งในสายตาผู้อื่นเท่านั้น
Pun-pun : แล้วเขารู้ไหมว่าเชรีชอบจริง ๆ
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ เธอจำได้ว่าไม่เคยบอกปัณณาว่าเธอรู้สึกรักชอบชายหนุ่มอย่างจริงจัง ดูเหมือนความรู้สึกเหมือนกันที่ปัณณาใช้ตอบเธอ จะได้คำอธิบายที่ไม่เหมือนความรู้สึกของเธอเสียแล้ว
Che'rie : ชอบจริง ๆ นี่คือ...อยากได้เป็นคนรักเหรอ
Pun-pun : ก็เชรีบอกว่าอยากเป็นมากกว่าแฟนคลับ
Pun-pun : กอรอนี่แอบน่ากลัวนะ
Che'rie : ผู้ชายก็น่ากลัวทุกคนล่ะ
Pun-pun : ก็จริง...คือกอรอคุยด้วยดีน่ะ
Pun-pun : เรากลัวเป็นแบบ หลอกให้อยากแล้วจากไป
ชนิศาพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากที่ชายหนุ่มคุยกับเธอ หญิงสาวก็เดาได้ไม่ยากว่าเขาจะคุยกับปัณณาอย่างไร
ผู้ชายใจดีที่ยอมคุยเรื่องไร้สาระกับผู้หญิง ถือเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายในสายตาเธอ
Che'rie : ถามตรง ๆ ไปเลยสิ
แม้การันต์จะอ่อนโยนกับผู้หญิงอย่างไม่เลือกคน แต่ข้อดีของชายหนุ่มคือการตอบคำถามเธอตามตรง
ถ้าเขาตอบเธอได้ว่าไม่ได้ชอบปัณณา หากปัณณาถาม เขาก็ควรตอบเช่นกัน
เธอไม่อยากเห็นผู้หญิงที่จมลึกในห้วงรักจนต้องเจ็บเพราะความรัก
Pun-pun : ไม่เอา...เค้าอาย
Pun-pun : เชรีเคยถามเหรอ
Che'rie : อยากรู้ก็ถามสิ
ชนิศาเหยียดริมฝีปาก กึ่งยิ้มกึ่งหยัน
Che'rie : เราเป็นพวกสายตรงมั้ง
Che'rie : ถ้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ไหนต้องการความชัดเจน ก็ชัดเจนกับมันไปเลย
ปลายทางเงียบไปครู่ใหญ่ ชนิศาจึงวางโทรศัพท์ เดินไปกดเปิดเครื่องเล่นดีวีดี เปิดดูซีรี่ย์เรื่องโปรดที่เธอเพิ่งติดตาม เมื่อกลับมาก็มีข้อความอยู่บนหน้าจอ
Pun-pun : ที่เขาบอกว่ามีคนที่แอบชอบอยู่แล้วนี่นานยัง
Che'rie : ก็ตั้งแต่วันที่เราแย่งโทรศัพท์ปันปันมาพิมพ์
Pun-pun : อยากรู้อ่ะ ใคร
ชนิศาถอนใจเบา ๆ
Che'rie : อยากรู้ก็ถาม มันปลอดภัยกับหัวใจมากกว่า
Pun-pun : กลัวคำตอบน่ะ
Che'rie : จริง ๆ ทุกอย่างไม่ยาก ถ้าไม่คาดหวัง
Che'rie : ถ้าเขาบอกรัก ก็วินวิน ปิดจ๊อบได้
Che'rie : แต่ถ้าไม่ เราจะได้รู้และทำใจทัน
ชนิศานิ่งมองหน้าจอที่นิ่งไปนานพลางถอนใจเบา ๆ การันต์บอกเธอชัดเจนว่าไม่ได้ชอบเพื่อนสาวในรูปแบบของความรักอย่างชายหญิง แต่หากชายหนุ่มยังคงใจดีเช่นนี้ต่อไป เธอเห็นลางว่าจะมีคนเจ็บหนัก
ปกติแล้วชนิศาไม่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่น แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนที่เธอให้ความสำคัญ ความไว้วางใจและการขอคำปรึกษาอย่างเปิดเผยทำให้เธอต้องพยายามหยิบยื่นทางออกและความห่วงใยในระดับเดียวกันกลับคืน หญิงสาวตัดสินใจกดโทรศัพท์ ไล่หาเบอร์ส่วนตัวของการันต์จากตารางรายชื่อเพื่อนร่วมรุ่น
"ครับ..."
"พี่กานต์คะ เชรีนะคะ" เธอบอกเสียงเรียบ
"อ้าว...ทำไมโทร.เบอร์นี้" ปกติแพทย์ในโรงพยาบาลมีหมายเลขโทรศัพท์ประจำตัวแยกต่างหาก เพื่อใช้ในการทำงานโดยเฉพาะ
"เรื่องส่วนตัวก็ต้องใช้เบอร์ส่วนตัวสิคะ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะ ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากปลายสาย "พี่กานต์ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ"
"ไม่ค่ะ...เชรีมีอะไรหรือเปล่า"
"จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องของเชรีหรอกค่ะ แต่ว่า..." เธอเงียบไปครู่ก่อนตัดสินใจเอ่ย "พี่กานต์รู้ไหมคะว่าเวลาผู้ชายไม่ชัดเจน และทำตัวทั่วถึงน่ะ...มันจะกลายเป็นเจ้าชู้ ขยันหว่านเสน่ห์"
"สงสารผู้หญิงที่ขยันคิดไปไกลเถอะค่ะ ถ้าคิดแค่เพื่อนก็บอกเขาตรง ๆ โลกนี้มีคนเจ็บเพราะรักมากพอแล้ว"
ปลายสายเงียบไปครู่ เธอเชื่อว่าเขายังตั้งตัวไม่ติดว่าเธอจะโทร.มาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้
"เชรีหมายถึงใครเหรอ"
"พี่กานต์น่าจะทราบนะคะ หนูรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนที่อ่านผู้หญิงไม่ออก" ไม่ใช่แค่การันต์ แต่เพื่อนทั้งรุ่นรู้ดีว่าปัณณาและเธอมีท่าทีอย่างไรต่อชายหนุ่ม
สำหรับชนิศา เธออ้อนอย่างออกหน้าออกตาจนทุกคนรู้ว่าไม่จริงจัง
แต่กับปัณณา หญิงสาวเพียงเงียบงัน มองอย่างมีความหวัง
"ไม่คิดหรือว่าพี่เคยบอกไปแล้ว" เขาเอ่ยอย่างใจเย็น "พี่บอกเชรียังไง กับคนอื่นพี่ก็บอกแบบนั้น"
ชนิศากลอกตา การันต์ต้องไม่รู้ตัวแน่ ๆ ว่าแม้เขาเอ่ยคำปฏิเสธและตัดรอน แต่กลับมีท่าทีให้ความหวังที่ชวนให้ผู้หญิงหลายคนคิดไปไกลได้ไม่ยาก
"พี่กานต์คะ...เอาจริง ๆ บางทีพี่กานต์ก็ใจดีและหยอกกลับ ผู้หญิงหลายคนไม่ได้กร้านโลกแบบหนูหรอกนะคะ"
"ใช้คำว่ากร้านโลกเลยเหรอ" ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้
"รู้ไหมคะ...บางเรื่องอย่างความรัก หรือความสัมพันธ์ ผู้หญิงที่คิดไปไกลจะฉลาดน้อยเป็นพิเศษ"
"แปลว่าหนูคิดสั้นเหรอ" ชายหนุ่มทอดเสียงยาว ชนิศานึกภาพรอยยิ้มบนหน้าเขาได้เลยทีเดียว
"ใช่ค่ะ เชรีชอบคิดแค่วินาทีตรงหน้า" เธอตอบชัดเจน
"ดี...มีสติกับปัจจุบันนะคะ"
"เราจะได้เห็นความจริงแบบไม่เพ้อฝันไงคะ"
การันต์หัวเราะอย่างพอใจ "ขอบคุณที่เตือนนะ...บางทีพี่ก็เผลอทำนิสัยไม่ดี"
ชนิศาถอนใจเบา ๆ ก่อนบอก "ขอบคุณที่ยอมรับฟังนะคะ...บางทีเชรีก็เผลอเผือกไม่เข้าเรื่อง"
"เผือกที่ไหนกัน...พี่ยินดีรับฟังเชรีอยู่แล้วค่ะ"
หญิงสาวอมยิ้ม บอกเสียงหวาน "ดีค่ะ...พี่กานต์เป็นปลาไหลที่น่ารักกว่าที่หนูเคยเจอเยอะเลย"
"ถ้าจะตบพี่แรงขนาดนี้ ไม่ต้องลูบหลังด้วยคำว่าน่ารักก็ได้นะคะ" ชายหนุ่มทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ เรียกเสียงหัวเราะสดใสจากคนฟัง
"ตบที่ไหนกันคะ...พวกเฮีย ๆ ปลาไหลที่หนูตบน่ะ ตบจริง ๆ เลยไม่ใช่แค่คำพูด" เธอทำเสียงดุ "พวกชอบล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นน่ะ หนูไม่เลี้ยงไว้หรอก"
ชนิศาลืมไปว่าการที่เธออ้อนและเข้ามาใกล้ชิดการันต์ ก็อาจอยู่ในขอบเขตของการล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นเช่นกัน
ชายหนุ่มเงียบไปครู่ ก่อนถอนใจเบา ๆ "พี่ก็เลยไม่เคยเล่นกับความรู้สึกหนูเลยไง...แต่ไม่ว่ากับใครก็ไม่ควรเล่นทั้งนั้น"
หญิงสาวชะงักไป เมื่อคิดได้จริงยอมรับหน้าตาเฉย
"แต่เชรีชอบเล่นกับความรู้สึกพี่กานต์นะคะ" เธอชอบเวลาเขามองคล้ายจะค้อนใส่เมื่อเธอเอ่ยคำหยอกล้อ ชอบเวลาที่เขายอมเปิดเผยความรู้สึกและพูดคุยกับเธอ
"เป็นปลาไหลไฟฟ้าเหรอคะ" เขาล้อเธอกลับบ้าง นี่ไง...ที่ชนิศาชอบ ผู้ชายที่ไม่ทำให้บทสนทนาน่าเบื่อหรือตื้นเขิน "พี่มีศิราณีไม่ผิดตัวจริง ๆ สินะ"
ชนิศาอ้าปากค้าง เธอรู้สึกเหมือนได้ยินคำปฏิเสธ เหมือนได้ยินเขาย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ชอบเธอ
ช่างเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจ
"กรรม...ทั้งปีทั้งชาติเชรีคงเป็นได้แค่น้องสาวพระเอก เศร้าจัง"
ชายหนุ่มหัวเราะ "ปลาไหลธรรมดาไม่คู่ควรกับปลาไหลมอเร่ย์หรอก"
ชนิศาเม้มปากอย่างขัดใจ ผู้ชายคนนี้ช่างขยันย้ำคำปฏิเสธกับเธอเหลือเกิน ทำไมไม่ไปชัดเจนกับคนอื่นบ้างก็ไม่รู้
"เชรีทราบแล้วค่ะว่าพี่กานต์ไม่รัก ไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้"
"อย่างนั้นฝากหนูย้ำกับอีกคน"
"แค่นี้เชรีก็ repair sternum ตัวเองไม่ไหวแล้วค่ะ" เธอหมายถึงการซ่อมกระดูกหน้าอก ล้อเลียนการอกหักตามประสาว่าที่ศัลยแพทย์ด้านทรวงอก "ถ้าไม่เพราะพี่กานต์บอกหนูชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา หนูคงไม่ยุ่ง"
"อย่างนั้นถ้าเห็นพี่นอกลู่นอกทาง ก็ช่วยเตือนช่วยตบบ้างก็ดีแล้ว"
เสียงหวานหัวเราะอย่างพึงพอใจ เอ่ยคำอย่างมาดร้าย "ยอมให้ตบใช่ป่ะคะ...ด้วยความเต็มใจค่ะ"
ช่วงเวลาสำหรับทำวิจัยกำลังจะจบลง ชนิศากดส่งเอกสารเพื่อขอพิจารณาด้านจริยธรรมการวิจัยให้อาจารย์ที่ปรึกษา เก็บแท็บเล็ทใส่กระเป๋า เงยหน้ามองรอบห้อง เพิ่งสังเกตว่าการันต์ไม่มาเข้าเรียนวันนี้
หญิงสาวเอียงตัวไปด้านข้างที่ภาณุนั่งอยู่ เขาเป็นเพื่อนรักของการันต์
"พี่กานต์โดดอีกแล้วเหรอ"
ชายหนุ่มเงยหน้ามอง หัวเราะเบา ๆ "สนใจด้วยเหรอ"
"อ้าว...ไม่ได้เหรอ"
"ไม่บอกหรอก" เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เชรีทำเป็นเล่นกับเพื่อนเรา"
"ใครเล่น" เธอทำตาโตมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
"เชรีจีบการันต์เล่น ๆ นี่"
คราวนี้หญิงสาวหัวเราะคิกอย่างไม่เกรงใจใคร "เหรอ...แล้วถ้าเราเปลี่ยนมาจริงจังตอนนี้ทันไหม"
เธอคลี่ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่ เดินออกมาจากห้องโดยไม่เรียนวิชาสุดท้ายที่ยังคงอยู่กับการนำเสนองานวิจัย
ชนิศามาหาข้อมูลที่ห้องสมุด เธอเลือกเอกสารมาวางบนโต๊ะจำนวนมาก และจมอยู่นานเป็นชั่วโมง เมื่อเดินออกมาจากอาคารอีกครั้ง ฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มแล้ว
"เชรี..." เสียงเรียกทำให้เธอหันไปมอง การันต์โบกมือให้อย่างคุ้นเคย
"พี่กานต์...วันนี้โดดไปไหนมาคะนี่"
"ไปธุระกับแม่ค่ะ" เขาเดินมาข้าง ๆ เธอ ก่อนเอ่ยคำถาม "แล้วนี่เชรีจะไปไหน"
"กลับบ้านค่ะ"
"กลับยังไง"
"รถเมล์ค่ะ" เธอบอกแล้วเอียงคอมองชายหนุ่ม "พี่กานต์จะเดินไปส่งเชรีไหมคะ"
การันต์นิ่งไปครู่ ก่อนหัวเราะอย่างอ่อนใจ "ก็ได้ค่ะ...เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง"
"ใจดีจัง"
"แน่นอนอยู่แล้ว..." ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ กับอาการยักคิ้วอย่างอวดตัวของชายหนุ่ม เพราะเขาเป็นแบบนี้สิ ผู้หญิงหลายคนจึงอดให้ความสนใจไม่ได้
เธอเดินเงียบ ๆ ได้ไม่นาน แสงจันทร์ก็ดลให้เอ่ยคำ
"พี่กานต์คะ..."
"คะ..."
"พี่กานต์รู้ใช่ไหมคะว่าเชรีเล่น...เคยคิดว่าหนูจริงจังบ้างไหม"
เขานิ่งไปครู่ ก่อนตอบ "พี่ไม่รู้...แต่พี่คิดว่าหนูเล่นช่วงแรก ๆ"
"แล้วช่วงหลังล่ะคะ"
"พี่ไม่รู้...แล้วก็ไม่คิดละ" เขาหัวเราะในคอเบา ๆ ให้ความรู้สึกที่ยากจะเดา
ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงพยาบาล เดินไปนานก็มาถึง แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไป เธอก็หยุดเขาไว้ก่อน
"พี่กานต์คะ..." เขาหยุดยืนมองเธออย่างแปลกใจ หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาตามสไตล์ชนิศา
"ถึงตอนแรกเชรีจะจีบพี่กานต์เล่น ๆ แต่หลัง ๆ...เชรีจริงจังนะคะ"
เธอคลี่ยิ้มหวาน ขณะที่ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่ใหญ่
"เชรีบอกเองนี่ว่าไม่ควรเล่นกับความรู้สึกคนอื่น"
"นั่นสิคะ..." เธอถอนใจเบา ๆ หากให้พูดความจริงเกรงว่าการันต์จะตกใจ
น้อยคนที่จะรู้ว่าชนิศาเป็นเด็กช่างอ้อนที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เมื่อเธอพอใจในตัวใครแล้ว หญิงสาวไม่เคยเลือกวิธีการที่จะดึงเขาเข้ามาในวงโคจรของเธอ ไม่ว่าจะแลกด้วยความสัมพันธ์แบบไหนก็ตาม
น่าสงสารการันต์...เธอพอใจเขามากจริง ๆ
"ขอโทษนะคะ" เธอทอดเสียงอ่อนเบา
"เรื่องอะไร"
"ที่หนูทำเป็นเล่นตอนแรก"
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ "ไม่เป็นไร...ต้องขอบคุณมากกว่าที่เชรีมาเล่นด้วย พี่จะได้ไม่เหงา"
"พี่กานต์น่ารักจัง..." เธอบอกดื้อ ๆ
"เชรีเป็นเด็กดีนี่คะ...ถ้าพี่มีเพื่อนดี ๆ ก็อยากแนะนำให้นะ" เขาเอ่ยคำตัดรอนความรู้สึกเธอได้หน้าตาเฉยอีกครั้ง
ชนิศาเบะปาก ขึงตามองค้อนชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
"แบบนี้เชรีจะโกรธแล้วนะค่ะ" เธอเอ่ยอย่างจริงจัง ขณะที่ชายหนุ่มยังงุนงง
"เชรีไม่ได้เหงาหรืออยากมีใคร แต่เพราะเป็นพี่กานต์...เชรีอยากเดินข้าง ๆ พี่กานต์ค่ะ"
เธอจ้องหน้า มองลึกไปในดวงตาของเขาราวตั้งใจจะสะกดจิต คลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นว่ารถเมล์สายที่รอกำลังจะแล่นเข้าป้าย
"เพราะเป็นพี่กานต์...ไม่ใช่แค่ใครก็ได้..."
เธอย้ำกับเขาอีกครั้งก่อนหมุนตัวเดินไปขึ้นรถเมล์อย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมองนิ่งอยู่ที่เดิม
การันต์มองตามจนรถเมล์แล่นลับไปจากสายตา ชายหนุ่มจึงหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกขัน แววอบอุ่นบาง ๆ ลอยอยู่ในดวงตา เมื่อเขาเดินกลับมาที่โรงพยาบาล
------
ดีใจจัง คิดถึงทุกท่านมากมายค่ะ
คุณคิมหันตุ์ : พี่กานต์น่ารักขึ้นบ้างไหมคะ
คุณ SaranyaW : ไม่ใช่เตชิตนะคะ ที่ขังเชรีไว้ เป็นตัวละครลับค่ะ
คุณ ปรางขวัญ : เชรีเป็นกระต่ายขี้ตื่นที่พยายามกล้าหาญนะคะ
คุณ sai : ถ้าเหงา มาคุยกับเชรี หรือจะคุยกับไอซ์ก็ได้ค่ะ
คุณ goszy : งานนี้ คงต้องถามพี่กานต์แล้วล่ะค่ะ ว่าอยากเป็นพระเอกหรือตัวร้าย
โปรยตอนต่อไป
The World
Karunt : ต้องไปกับเขาใหม่ จะได้ลืมเขาเก่า
Karunt : หรือบางที...ก็มีเขาใหม่งอกมาแทน
เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะกึ่งหยันในคอจากชายหนุ่มที่พิมพ์ข้อความตอบมา
Che'rie : ไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ
Che'rie : เชรีเป็นลูกนกในกรงของคำสัญญา
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2559, 16:11:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2559, 16:11:20 น.
จำนวนการเข้าชม : 1063
<< บทที่ 3 The moon | บทที่ 5 The world >> |
คิมหันตุ์ 19 ก.ย. 2559, 01:39:05 น.
ชอบเชรีนางตรงดี . ตอนแรกก็ไม่คิดว่าหหวยจะออกทึเฮียกอรอ
ชอบเชรีนางตรงดี . ตอนแรกก็ไม่คิดว่าหหวยจะออกทึเฮียกอรอ
SaranyaW 19 ก.ย. 2559, 11:12:15 น.
ถ้างั้นก็ต้องรอลุ้นต่อไปสินะ อยากรู้จังค่ะว่าสัญญาอะไร กับใคร
แอบสงสารปัณณา
ถ้างั้นก็ต้องรอลุ้นต่อไปสินะ อยากรู้จังค่ะว่าสัญญาอะไร กับใคร
แอบสงสารปัณณา
sai 20 ก.ย. 2559, 08:47:59 น.
อ่านตอนนี้แทงใจฝุดๆ
อ่านตอนนี้แทงใจฝุดๆ